ความคิดเห็นที่ 1   1979 ได้มีข่าวลือเราได้ทำการลอก"สิ่งที่ดีที่สุดของนักกีฬา" ขึ้นมาในการสร้าง 108 Tailwind เป็นความลับที่สุดในตอนแรก การสร้าง 108 ใน Exeter มลรัฐ นิวแฮมเชียร์ สหรัฐอเมริกา ที่ที่ได้เริ่มการสร้าง Tailwind คุณต้องการระบบรักษาความปลอดภัยในการเข้าออก เพราะว่ามีผู้คนจำนวนไม่มากที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา เร็วๆนี้ได้มีข่าวลือเราได้ทำการลอก"สิ่งที่ดีที่สุดของนักกีฬา" ขึ้นมาในการสร้าง 108 และด้วยสิ่งเหล้านั้นทั้งหมดก็เพื่อ Tailwaind รองเท้าที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติ เมื่อกลับมามองในวันนี้ มันเป็นเพียงเรื่องเล็กๆที่อธิบาย ไม่ได้ - สีเทาและ Swoosh(เครื่องหมายการค้าของไนกี้) คุณไม่ได้เห็นแม้แต่ระบบรองรับ (air sole) มันถูกซ่อน อยู่ลึุกที่สุดในตัว mid sole (รองเท้าส่วนกลาง) ถุงอากาศเหล่านี้เล็กกว่า 1 เซ็นติเมตร บาง และหนักแค่ ไม่กี่กรัม แต่ผู้ึทดสอบไม่กี่คนได้เริ่มวิ่งด้วย Tailwind ผลที่ได้รับช่างน่าแปลกใจ ผู้ทดสอบได้พูดถึงรองเท้าว่า รู้สึกถึง "ความมีชีวิตชีวา" และเมื่อรองเท้าถูกนำไปทดสอบ เราพบว่า Tailwind ได้ลดพลังงานในการวิ่งของผู้ทดสอบได้ถึง 3% ผลที่ได้ดูเล็กน้อย แต่ลองจินตนาการถึงการวิ่งมาราธอน ผลต่างเหล่านั้นทำให้ผู้วิ่งสามารถวิ่งได้ถึุง 9 ไมล์:ชั่วโมง โดยเป็นการวิ่งตามลม จากคุณ : พี่ก็อยากได้นะน้อง~! (12oach) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:43:07

ความคิดเห็นที่ 2   เราพูดถึงนักวิ่งโดยเฉลี่ย นักวิ่งมาราธอนกับการทดสอบ 3 ชั่วโมงในแล็บ พวกเขาเคลื่อนไหวไม่น้่อยกว่า 6500 ก้าวหรือมากกว่านั้น เราทดสอบกับนักวิ่งที่สวมใส่ Tailwind และรองเท้าปกติ ที่บริเวณ mid sole ทำด้วยโฟม และได้มีกระบวนการ เกี่ยวกับการใช้ อ็อกซิเจน เพื่อมุ่งเน้นผลที่เกิดจากรองเท้าเท่านั้่น นักกีฬาประหยัดพลังงานไปได้ เนื่องจาก ระบบรองรับ มีความสามารถที่จะทำให้เกิดพลังงานย้อนกลับไปที่เท้า มันไม่ใช่การดูดซึมแรงที่เกิด แต่มันเหมือนสปริง เมื่อเราสร้างแรงกดเหมือนเมื่อรองเท้ากระทบเพื้น ทั้งฝ่าเท้าได้สัมผัส มันกดขดงอและคืนรูปและให้พลัง งานในก้าวต่อไป The Aura of Air ปล่อยตัวเองลงบนทางเท้า อยู่บนทางวิ่งเพียงลำพัง หลังจากชั่วโมงที่กระหน่ำวิ่ง ถ้าคุณรู้สึกพึงพอใจและเจ็บ คุณคือนักวิ่ง และคุณน่าจะได้ยินเรื่องรองเท้าที่เป็นการปฏิวัติ ที่รุนแรงที่สุดที่เราได้สร้างขึ้นมา รองเท้าที่มีระบบรองรับเป็นอากาศ ถูกใส่ไว้ใน mid sole เหมือนที่คุณเห็นอยู่นี้ รองเท้าจะแสดงให้คุณเห็นว่ามี มีระบบรองรับที่เหนือกว่า ระบบอื่นๆในการทดสอบ แต่ ผลทดสอบในห้องแล็บและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ได้ทำรองเท้านี้ นักวิ่งต่างหากที่ได้ทำสิ่งนี้ มีบางสิ่งบางอย่างได้เกิดขึ้น ที่นี่ คุณรู้สึกได้ ร่างกายของคุณรู้สึกถึงจังหวะของเส้นทาง Nike Tailwind เราต้องการให้คุณได้สัมผัสมัน จากคุณ : พี่ก็อยากได้นะน้อง~! (12oach) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:44:59

ความคิดเห็นที่ 3   1980 ผู้คนได้ทราบถึงสิ่งที่บรรจุอยู่ โลกนี้ล้าสมัยไปแล้ว ~! Mariah ในปี 1980 ระบบรองรับด้วยอากาศ ได้ถูกเปิดตัวสู่ ภายนอก ที่งานซ้อมมอสโควมาราธอน รองเท้านั้นคือ Mariah รองเท้าถูกทำให้ดูเรียบง่าย ด้วยสีดำและขาว และดูแลรักษายาก แต่ผู้คนได้ทราบถึงสิ่งที่บรรจุอยู่  โลกนี้ล้าสมัยไปแล้ว นักกีฬาที่มีสัญญา กับสปอนเซอร์อื่น ได้ฉีกตราสินค้าออก และสวมใส่  Mariah ในการแข่งขันนั้น หลังจากปีนั้น ก็ได้มีนักกีฬาสตรีคนแรกที่เข้าเส้นชัยภายใน สองชั่วโมงสามสิบนาทีโดยเธอได้สวมใส่ Mariah ไม่ใช่ทุกคนที่จะเปลี่ยนความคิด ต้องใช้เวลาอีกสองสามปีที่จะเกิดขึ้น โดยนักวิ่งมาราธอน Alberto Salazar และเค๊าได้ตระหนักหลังจากเปรียบเทียบผลทดสอบ เขาวิ่ง 8 ไมล์ ซ้ำไปซ้ำมา (4ไมล์ด้วย Mariah อีก 4 ไมล์ด้วยรองเท้าอื่น) ด้วย Mariah  ระดับของการใช้อ็อกซิเจนมี ประสิทธิภาพมากขึ้นเกือบ 2% มันไม่น่าแปลกใจกับสิ่งที่ Alberto สวมใส่ Mariah ในการวิ่งมาราธอนครั้งต่อไป โดยเขาชนะการวิ่งครั้งที่ 3 ที่ นิวยอร์ค ในปี 1982 แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 53 11:47:34 จากคุณ : พี่ก็อยากได้นะน้อง~! (12oach) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:46:13

ความคิดเห็นที่ 4   1982 คำถามได้เกิดขึ้น ทำอย่างไรถึงจะใส่สิ่งที่ไม่คงที่ ลงไปในบางสิ่งบางอย่าง และทั้งหมดเพื่อให้เสถียรและคงที่ Air Force การใส่ระบบรองรับด้วยอากาศลงไปในรองเท้าบาสเก็ตบอล ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อได้ลองพยายามที่จะให้ระบบรองรับนั้นใช้งานได้ใน กีฬาบาสเก็ตบอล นักออกแบบ Bruce Kilgore  ได้กล่าวไว้ คำถามได้เกิดขึ้น ทำอย่างไรถึงจะใส่สิ่งที่ไม่คงที่ ลงไปในบางสิ่งบางอย่าง และทั้งหมดเพื่อให้เสถียรและคงที่ แน่นอนว่าหน้าที่ของเขาในเวลานี้คือทำให้มันสำเร็จ ภายในสามปี เราได้เตรียมการและทำให้มันใช้การได้ ด้วยเทคโนโลยีระบบรองรับด้วยอากาศ ทั้งหมดเพื่อให้รองเท้านี้พ้นจากการเยาะเย้ย รอยยิ้มที่ได้รับยังไม่ดีพอ นั่นเพราะเราเห็นว่ารองเท้ายังฉีกและระเบิด เมื่อ air sole และ mid sole ได้ฉีกขาด จากคุณ : พี่ก็อยากได้นะน้อง~! (12oach) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:48:43

ความคิดเห็นที่ 5   เราต้องไปที่อิตาลี่เพื่อค้นหาส่วนประกอบของยางชนิด พิเศษเพื่อสร้างพื้นรองเท้าใหม่ และเสริมความแข็งแรง ด้วยการหล่อสามชั้น Bruce Kilgore ผู้ออกแบบ ได้พื้นรองเท้าที่บางกว่า 1 เซ็นติเมตร และคุณรู้ไหม? ไม่มีเสียงหัวเราะรอยยิ้มเยาะ และทุกคนมีความสุขกับสิ่งที่เกิด รองเท้าถูกทำให้กระชับด้วยที่รัดข้อเท้า เพื่อความมั่นคง โดยมีแรงบันดาลใจจาก รองเท้าปีนเขา จากคุณ : พี่ก็อยากได้นะน้อง~! (12oach) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:49:57

ความคิดเห็นที่ 6   1987 สองสัปดาห์หลังจากนั้น ไม่ไม่ใครไม่รู้จัก nike John Mcenroe (นักเทนนิสระดับตำนาน) ได้สวมใส่ Air Trainers และชนะในทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ของเขา (ในปี 1987 John Mcenroe ไม่ชนะเลิศในรายการใดๆ หากเขาสวมใส่ Air Trainers ก็น่าจะสวมใส่ ในช่วง ปี 1981-1984 ที่เขาครองอันดับ1ของโลกและชนะเลิศ อย่างน้อย 1 รายการ ผู้เขียน :อ้างอิง http://en.wikipedia.org/wiki/John_McEnroe) Air Trainers ย้อนกลับไปในช่วงกลางของยุด 80  ยิมได้กลายเป็น ศูนย์สุขภาพคุณสามารถทำทุกสิ่งได้ที่นี้ ทั้งเล่นบาส ยกน้ำหนัก และแม้แต่แอโรบิค แต่ปัญหาเดียวก็คือ ไม่มีรองเท้าใดที่สามารถสวมใส่กับกีฬาทุกประเภทได้ ดังนั้นคุณต้องนำรองเท้าสามคู่ไปในกระเป๋าของคุณ หรือไม่อย่างนั้นก็ต้องใส่รองเท้าบาสเก็ตบอลสำหรับวิ่ง หรือไม่อย่างนั้นก็เป็นความคิดที่ดีของ ของ Tinker Hatfield ผู้ออกแบบ Air Trainer (ต่อมา เขาได้กลายเป็นผู้ออกแบบ Air Jordan) เขาได้ตัดสินใจที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการทำรองเท้า น้ำหนักเบา เหมือนกับรองเท้าวิ่ง แต่สามารถใช้กับ กีฬาได้ทุกประเภท มีการปกป้องข้อเท้าสำหรับกีฬาประเภทบาสเก็ตบอล และเทนนิส โดย Tinker Hatfield ได้กำจัดวัสดุบางอย่าง และเพิ่มส่วนประกอบที่สำคัญเข้าไป นั่นคือระบบ รองรับด้วยอากาศ เพื่อให้แน่ใจว่า คุณรู้สึกได้ถึง ความเบาบนนิ้วหัวแม่เท้าของคุณ จากคุณ : พี่ก็อยากได้นะน้อง~! (12oach) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:51:43

ความคิดเห็นที่ 7   อ้างอิงจาก http://sneakernews.com/2010/02/25/history-of-nike-air/ ps.1 หากเพื่อนๆทั่นใดว่างๆ อยากเอามาแปลแก้เซ็งเพื่อองค์ความรู้      แก่เพื่อนๆในห้องก็ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้่ด้วยนะครับ      ขออภัยปิดท้ายหากภาษาอังกฤษผมแปลได้อ่อนด้อย      ใจความไม่สละสลวยนะครับ ps.2  หากเนื้อความใดผมแปลผิดกรุณาแจ้งมาด้วยครับ       ผมได้ทำการแก้ไข จากคุณ : พี่ก็อยากได้นะน้อง~! (12oach) เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:55:51

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณสำหรับสาระดีๆที่มาเพิ่มเติมให้ครับ ผมว่าแบบนี้ก็เยี่ยมแล้วครับ อ่านเข้าใจได้เป็นอย่างดี *คนที่เคยแปลบทความภาษาอังกฤษน่าจะทราบดี ผมว่าบางทีเราอ่านรู้เรื่องแต่พอจะแปลแล้วมันยากกว่าครับ บางทีแปลออกมาแล้วอ่านก็งงๆ จากคุณ : ethan hunt เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 15:18:22

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณสำหรับสาระดีดีครับ อย่าลืมคลิก "เก็บเข้าคลังกระทู้" กันด้วยนะครับ จากคุณ : G-Unit เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 22:35:13

ความคิดเห็นที่ 10 ได้ความรู้อีกเเล้ว ขอบคุณครับผม จากคุณ : Icysmooth เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 06:37:08

ความคิดเห็นที่ 11 อยากให้ Give จังเลยครับ จากคุณ : มือสังหารบ้านมีดบิน เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 08:03:52

ความคิดเห็นที่ 12 "กระทู้ดีมีสาระครับ" จากคุณ : หนุ่ม No.7 เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 13:58:11

ความคิดเห็นที่ 13   สุดยอดครับ อีเจ้ยอ่านแล้วเอาไปลงในเวบด้วยนะ จากคุณ : จิ๊กโก๋อกหัก เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:35:53