ความคิดเห็นที่ 1 เจตนารมย์ประจำโต๊ะ "โต๊ะน้ำชา เป็นที่เสวนาของคนที่รักในสิ่งเดียวกัน นั่นคือ "ปืน" และเป็นการเสวนาที่สร้างสรรค์ หรือถ้าจะติ ก็ติเพื่อก่อ  เราจะไม่วิวาทกับใคร ถ้าใครไม่มาก่อวิวาทกับเรา จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:18:40

ความคิดเห็นที่ 2 โปรแกรมฤดูกาล 2009/10 เดือนมีนาคม 31  Wed    UCL Quarter-Final 1L : Arsenal v Barcelona   19.45  (UK Time) *** เดือนเมษายน 03  Sat    EPL : Arsenal v Wolverhampton   15.00  (UK Time) 06  Tue    UCL Quarter-Final 2L : Barcelona v Arsenal   19.45  (UK Time) *** 14  Wed    EPL : Tottenham Hotspur v Arsenal   20.00  (UK Time) *** 18  Sun    EPL : Wigan Athletic v Arsenal   13.30  (UK Time) 24  Sat    EPL : Arsenal v Manchester City   17.30  (UK Time) *** เดือนพฤษภาคม 01  Sat    EPL : Blackburn Rovers v Arsenal   15.00  (UK Time) 09  Sun    EPL : Arsenal v Fulham   16.00  (UK Time) *ช่วงซัมเมอร์ เวลาในไทยเร็วกว่า UK 6 ชั่วโมง ------------------------------------------------------------------------------- ตามข่าวว่าเป็นเสื้อเหย้าฤดูกาลหน้า จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:19:23

ความคิดเห็นที่ 3 โปรแกรมของเชลซี, แมนฯ ยูฯ และลิเวอร์พูล เชลซี เดือนเมษายน 03  Sat   EPL : Manchester United v Chelsea   12.45  (UK Time) *** 10  Sat   FA Cup : Aston Villa v Chelsea   17.00  (UK Time) *** 13  Tue   EPL : Chelsea v Bolton Wanderers   20.00  (UK Time) 17  Sat   EPL : Tottenham Hotspur v Chelsea   17.30  (UK Time) *** 25  Sun   EPL : Chelsea v Stoke City   16.15  (UK Time) เดือนพฤษภาคม 01  Sat   EPL : Liverpool v Chelsea   15.00  (UK Time) *** 09  Sun   PL : Chelsea v Wigan Athletic   16.00  (UK Time) ------------------------------------------------------------------------------------------- แมนฯ ยูฯ เดือนมีนาคม 30  Tue    UCL Quarter-Final 1L : Bayern Munich v Manchester United   19.45  (UK Time) *** เดือนเมษายน 03  Sat   EPL : Manchester United v Chelsea   12.45  (UK Time) *** 07  Wed    UCL Quarter-Final 2L : Manchester United v Bayern Munich   19.45  (UK Time) *** 12  Mon   EPL : Blackburn Rovers v Manchester United   20.00  (UK Time)   17  Sat   EPL : Manchester City v Manchester United   12.45  (UK Time) *** 25  Sun   EPL : Manchester United v Tottenham Hotspur   14.00  (UK Time) *** เดือนพฤษภาคม 01  Sat   EPL : Sunderland v Manchester United   15.00  (UK Time) 09  Sun   EPL : Manchester United v Stoke City   16.00  (UK Time) ------------------------------------------------------------------------------------------- ลิเวอร์พูล เดือนเมษายน 01  Thu   EUROPA Quarter-Final 1L : Benfica v Liverpool   -  (UK Time)   03  Sat   EPL : Birmingham v Liverpool   15.00  (UK Time) 08  Thu   EUROPA Quarter-Final 2L : Liverpool v Benfica   -  (UK Time) 11  Sun   EPL : Liverpool v Fulham   15.00  (UK Time) 19  Mon   EPL : Liverpool v West Ham United   20.00  (UK Time) 24  Sat   EPL : Burnley v Liverpool   15.00  (UK Time) เดือนพฤษภาคม 01  Sat   EPL : Liverpool v Chelsea   15.00  (UK Time) *** 09  Sun   EPL : Hull City v Liverpool   15.00  (UK Time) *ข้อมูลจากเว็บของแต่ละสโมสร จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:19:54

ความคิดเห็นที่ 4 สถิติการยิงประตู 1.  เซสก์ ฟาเบรกาส  18  (EPL 15, UCL 3) ---*** 2.  อังเดร อาร์ชาวิน  11  (EPL 9, UCL 2) 3.  นิคลาส เบนท์เนอร์  9  (EPL 4, UCL 4, Carling 1) 4.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  8  (EPL 7, UCL 1) 5.  โธมัส แฟร์มาเล่น  8  (EPL 7, UCL 1)   6.  เอดูอาร์โด้  7  (EPL 4, UCL 2, FA Cup 1) 7.  อาบู ดิยาบี้  7  (EPL 6, UCL 1) 8.  เดนิลสัน  6  (EPL 4, UCL 1, FA Cup 1) 9. ซามีร์ นาสรี่  5  (EPL 4, UCL 3) 10.  วิลเลี่ยม กัลลาส  4  (EPL 3, UCL 1) 11. อารอน แรมซีย์  4  (EPL 3, FA Cup 1) 12. โทมัส โรซิคกี้  3  (EPL) 13. ฟราน เมริด้า  2  (EPL 1, Carling 1) 14. ธีโอ วัลคอตต์  2  (EPL) 15. เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  2  (UCL) 16. ซานเชซ วัตต์  1  (Carling) 17. คาร์ลอส เวล่า  1  (Carling) 18. อเล็กซ์ ซง  1  (EPL) 19. โซล แคมป์เบลล์  1  (UCL 1) * นับรวมเพลย์ออฟ UCL ด้วย (กัลลาส 1, เอดูอาร์โด้ 1, เอบูเอ้ 1, อาร์ชาวิน 1) **ประตู 3-0 ในเกมกับวีแกน เว็บพรีเมียร์ลีกให้เครดิตดูดู้เป็นคนทำประตู (ไม่มีเครดิตคน assist) http://www.premierleague.com/page/MatchReports/0,,12306~47541,00.html ------------------------------------------------------------------------------------------------ สถิติการ assist 1.  เซสก์ ฟาเบรกาส  18 (EPL 15, UCL 2, FA Cup 1)  ---*** 2.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  8  (EPL 7, UCL 1) 3.  เอดูอาร์โด้  7 (EPL 6, UCL 1) 4.  อังเดร อาร์ชาวิน  7  (EPL 2, UCL 5) 5.  อาบู ดิยาบี้  6 (EPL 4, UCL 2) 6.  อารอน แรมซี่ย์  5 (EPL 3, UCL 1, Carling 1) 7.  โทมัส โรซิคกี้  5  (EPL 4, UCL 1) 8.  นิคลาส เบนท์เนอร์  5 (EPL) 9.  บาการี่ ซานญ่า  3 (EPL) 10. เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  3 (EPL) 11. ซามีร์ นาสรี่  3  (EPL) 12. อเล็กซ์ ซง  2 (EPL 1, UCL 1) 13. โธมัส แฟร์มาเล่น  2 (EPL 1, UCL 1) 14. คาร์ลอส เวล่า  2  (FA Cup) 15. เดนิลสัน  2 (EPL) 16. กาแอล กลิชี่  2 (EPL 1, UCL 1) 17. มานูเอล อัลมูเนีย  1  (EPL) 18. เคร็ก อีสต์มอนด์  1  (Carling) 19. วิลเลี่ยม กัลลาส  1  (UCL) 20. คีแรน กิ๊บส์  1  (UCL) 21. ธีโอ วัลคอตต์  1  (EPL) * นับรวมเพลย์ออฟ UCL ด้วย (เซสก์ 1, กลิชี่ 1, ดิยาบี้ 1, แรมซี่ย์ 1) **เกมกับเวสต์แฮม ให้เครดิตซานญ่าเป็นคน assist ให้ฟาน เพอร์ซี่ ***เกมคาร์ลิ่งคัพรอบ 4 ให้เครดิตแรมซี่ย์กับอีสต์มอนด์เป็นคน assisit ****เกมกับสเปอร์ส ให้เครดิตฟาน เพอร์ซี่กับซานญ่าเป็นคน assist (ซานญ่า 2) *****2 ประตู own goal ของวูลฟ์ ให้เครดิตเซสก์กับดูดู้เป็นคน assist ------------------------------------------------------------------------------------------------ สถิติใบเหลือง 1.  อเล็กซ์ ซง  11 (EPL 9, FA Cup 1, Carling 1) ---> โดนแบนไปแล้ว 1 นัด 2.  เซสก์ ฟาเบรกาส  7 (EPL 5, UCL 2) 3.  กาแอล กลิชี่  7 (EPL 4, UCL 3) 4.  โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  4 (EPL 2, UCL 2) 5.  เอ็มมานูเอล เอบูเอ้  4 (EPL 3, UCL 1) 6. โธมัส แฟร์มาเล่น  4 (EPL 3, UCL 1) 7.  อาร์กม็องด์ ตราโอเร่  3 (EPL 2, Carling 1) 8.  บาการี่ ซานญ่า  3 (EPL) 9.  นิคลาส เบนท์เนอร์  3  (EPL 2, UCL 1) 10. วิลเลี่ยม กัลลาส  2 (EPL) 11. อารอน แรมซี่ย์  2  (Carling) 12. เดนิลสัน  2 (UCL) 13. อังเดร อาร์ชาวิน  2 (EPL) 14. อาบู ดิยาบี้  2 (EPL 1, UCL 1) 15. มานูเอล อัลมูเนีย  1 (EPL) 16. ฟิลิปป์ เซนเดรอส  1  (Carling) 17. คาร์ลอส เวล่า  1 (UCL) 18. วีโต้ มานโนเน่  1 (EPL) 19. คีแรน กิ๊บส์  1 (EPL) 20. เคร็ก อีสต์มอนด์  1 (Carling) 21. มิกาแอล ซิลแวสตร์  1 (Carling) 22. แจ๊ค วิลเชียร์  1 (Carling) 23. ฟราน เมริด้า  1  (UCL) 24. ซามีร์ นาสรี่  1  (EPL) 25. โทมัส โรซิซกี้  1  (EPL) 26. โซล แคมป์เบลล์  2  (EPL) * นับรวมเพลย์ออฟ UCL ด้วย (กลิชี่ 1, เอบูเอ้ 1, เดนิลสัน 1) ------------------------------------------------------------------------------------------------ สถิติใบแดง 1. โธมัส แฟร์มาเล่น  1 (EPL) จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:20:18

ความคิดเห็นที่ 5 รวมกระทู้คุณนักมายากลแห่งรัสเซีย [Emirates Cup 09] == เก็บภาพบรรยากาศเกม At.Madrid - PSG / Arsenal - Rangers จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8156914/S8156914.html [Arsenal Members Day 09].....เก็บภาพนักเตะอาร์เซน่อลฝึกซ้อมเมื่อเช้านี้มาฝากครับ.... http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8165114/S8165114.html == เก็บภาพบรรยากาศเกมเปิดฤดูกาล Everton - Arsenal จากสนามกูดิสัน ปาร์คมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8208558/S8208558.html [Arsenalisation Project] == เก็บภาพบรรยากาศก่อนเกม Arsenal - Portsmouth จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/08/S8231091/S8231091.html == เก็บภาพบรรยากาศเกมคาร์ลิ่งคัพ Arsenal - W.B.A. จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/09/S8352423/S8352423.html == เก็บภาพบรรยากาศเกมคาร์ลิ่งคัพ Arsenal - Liverpool จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/10/S8484790/S8484790.html == เก็บภาพบรรยากาศเกมลอนดอนดาร์บี้แมตช์ Arsenal - Spurs จากเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมมาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/11/S8496116/S8496116.html == รีวิวภาพบรรยากาศเกม Liverpool - Arsenal จากสนามแอนฟิลด์เมื่อซีซั่นก่อนครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/12/S8653109/S8653109.html == เก็บภาพบรรยากาศเกม Burnley - Arsenal จากสนามเทิร์ฟ มัวร์ มาฝากครับ == http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2009/12/S8670021/S8670021.html == เก็บภาพบรรยากาศเกม Bolton - Arsenal จากรีบอค สเตเดี้ยม มาฝากครับ == http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S8789666/S8789666.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:20:33

ความคิดเห็นที่ 6 ข่าวประจำวันที่ 30/03/2010 *-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*- *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* เวนเกอร์รับเจ๊าลูกโลกส่งผลบู๊บาร์ซ่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล รับการโดน เบอร์มิงแฮม ตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อจิตใจของลูกทีมอย่างมาก ก่อนเจอ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ในวันพุธนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล สโมสรชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายอมรับว่าการเปิดรังเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ บาร์เซโลน่า แชมป์ลา ลีกา ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก วันพุธที่ 31 มี.ค.นี้ จะเป็นงานหนัก หลังนักเตะมีสภาพจิตใจย่ำแย่จากการออกไปเสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 1-1เมื่อวันเสาร์ที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา   อาร์เซน่อล เกือบเก็บ 3 คะแนนเต็มได้จากถิ่นเซนต์ แอนดรูว์ส หลังจากได้ประตูขึ้นก่อนจาก ซามีร์ นาสรี่ ในนาทีที่ 81 แต่กลับมาโดน เควิน ฟิลลิปส์ ยิงตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ โดยกุนซือเลือดน้ำหอม ยอมรับว่าการทำแต้มหล่นไป 2 คะแนน ส่งผลต่อโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกของทีมมาก และยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเตะ   "มันยากที่จะเรียกกำลังใจของนักเตะในเกมกับ บาร์เซโลน่า หรือไม่? ใช่แล้ว มันยากเสมอที่จะเรียกสภาพจิตใจนักเตะคืนมา เมื่อคุณเจอเรื่องแบบนั้นในช่วงท้ายเกม เรากำลังอยู่ในช่วงลุ้นแชมป์ ซึ่งมันยากมาก และไม่มีที่ว่างสำหรับข้อผิดพลาด ดังนั้น ผลการแข่งขันที่ เบอร์มิงแฮม เป็นความผิดหวังครั้งใหญ่"   "มันให้ความรู้สึกเหมือนเราแพ้เกมนั้นเลย แต่เกมกับ บาร์เซโลน่า อยู่ในการแข่งขันที่ต่างออกไป เรามีเวลา 2-3 วันเพื่อฟื้นฟูสภาพ และเตรียมพร้อมสำหรับเกม ผมไม่รู้ว่าผลการแข่งขันดังกล่าวจะส่งผลกระทบระยะยาวขนาดไหน แต่ผมคิดว่าเป็นความเสียหายใหญ่หลวงต่อโอกาสคว้าแชมป์ของเรา เพราะเราอยู่ในสถานะที่ต้องชนะทุกเกมที่เหลือ"   กุนซือ "ปืนใหญ่" ยังเปิดเผยสาเหตุที่ตัดสินใจดร็อป นาสรี่ และ อังเดร อาร์ชาวิน เป็นเพียงตัวสำรองในเกมที่เซนต์ แอนดรูว์ส ว่า "เราพักพวกเขาไว้เพราะ อาร์ชาวิน มีปัญหาบริเวณโคนขาหนีบ และ นาสรี่ มีปัญหาที่หัวเข่า จากเกมก่อนหน้านี้"   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100329_097.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:23:56

ความคิดเห็นที่ 7 อาร์ชาวินเผยเวนเกอร์สุดเดือดโดนตีเจ๊าทดเจ็บ อังเดร อาร์ชาวิน เพลย์เมคเกอร์สัญชาติรัสเซียของอาร์เซนอล เผยว่าอาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมของเขาโกรธจัดที่โดนเบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อาร์เซนอลกำลังจะคว้า 3 คะแนนเต็มโดยพวกเขานำเบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ 1-0 แต่กลับมาโดนเควิน ฟิลลิปส์ยิงประตูตีเสมอในช่วงนาทีที่ 92 พลาดการคว้า 3 คะแนนไล่ตามแมนฯ ยูไนเต็ดและเชลซีไปอย่างน่าเสียดาย "เขาโกรธมากๆ และเขาก็ผิดหวังสุดๆ เหมือนกับพวกเราทุกคน" "ทุกๆคนในทีมต่างหัวเสีย พวกเรากำลังจะเก็บชัยชนะแล้วแท้ๆ" "มันเป็นเรื่องน่าขายหน้าที่พวกเราจัดการไม่ได้ ผมคิดว่าพวกเรามั่นใจเอามากๆ ในช่วง 90 นาทีของเกม" "หลังจากพวกเราขึ้นนำ เรามีโอกาสฝังพวกเขาแต่ก็ทำไม่ได้ และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 92 เบอร์มิ่งแฮมทำประตูตีเสมอได้ เรื่องจบแค่นั้นแหละ ผมไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับเกมนี้อีกแล้ว" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=258865 แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 08:31:06 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:28:38

ความคิดเห็นที่ 8 เวนเกอร์ชี้กัปตันเชสนิ่งขึ้นเยอะยามสังหารประตู อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่อาร์เซน่อล เผย เชส ฟาเบรกาส ห้องเครื่องคนเก่ง นิ่งขึ้นเยอะเลยในเรื่องการพังประตูคู่แข่ง แถมยังมีเกมการเล่นที่ทรงพลังกว่าเดิมด้วย อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ชี้ว่า ฤดูกาลนี้ เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความเยือกเย็นยามสังหารประตู ฤดูกาลนี้ ฟาเบรกาส ยิงประตูได้จากทุกรายการรวมกันถึง 18 ลูกเข้าให้แล้ว และถ้าในเกมที่เหลืออยู่เจ้าตัวกดเพิ่มได้อีก 3 ลูก ก็จะมีสถิติเท่ากับจำนวนประตูจาก 3 ฤดูกาลที่ผ่านมารวมกันเลยทีเดียว โดยนอกจากการยิงประตูที่เฉียบคมกว่าเดิมแล้ว เวนเกอร์ ยังมองว่า "กัปตันเชส" มีพลังงานในการเล่นที่สูงขึ้นด้วย     "ผมเชื่อว่าเขาเล่นได้อย่างผ่อนคลายมากกว่าเดิม แต่ก่อนการจบสกอร์ของเขามันมีความตึงเครียด ซึ่งคุณก็รู้สึกได้เลยก่อนที่เขาจะจัดการกับโอกาสของตัวเอง และตอนนี้เขารีแล็กซ์มากขึ้น นอกจากนี้เขายังมีพลังงานทางร่างกายที่สูงขึ้นกว่าเดิมด้วย ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้เลยยามที่เขาวิ่งไล่กวดคู่แข่ง" "เขามีพลังในการวิ่งมากขึ้น ส่วนประกอบสองสิ่งนี้แหละสามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้เลย และผมก็เชื่อว่า การปรับเปลี่ยนแผนการเล่นก็มีผลเช่นกัน คือตอนนี้เขามีอิสระในการเล่นมากขึ้น" ยอดกุนซือวัย 60 ปี ร่ายยาว   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100330_049.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:32:05

ความคิดเห็นที่ 9 เวนเกอร์ไม่อยากเชื่อโซลคืนสู่เกมระดับสุดยอด อาร์แซน เวนเกอร์ ยอดกุนซืออาร์เซน่อล รับสุดเหลือเชื่อที่ โซล แคมป์เบลล์ ปราการหลังจอมเก๋า พลิกผันตัวเองจากการเป็นนักเตะระดับ ลีก ทู กลับมาเล่นเกมระดับสุดยอดอีกครั้ง ในแมตช์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาร์เซโลน่า วันพุธนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซน่อล ออกมายอมรับว่า เป็นเรื่องมหัศจรรย์ไม่น้อยที่ โซล แคมป์เบลล์ เซนเตอร์แบ็กประสบการณ์สูง กำลังจะกลับมาได้เล่นเกมระดับสุดยอดอีกครั้ง ในแมตช์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก ที่ "ไอ้ปืนใหญ่" มีคิวเปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม รับมือ บาร์เซโลน่า วันพุธนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อช่วงต้นฤดูกาล "บิ๊กโซล" ยังเล่นให้กับ น็อตต์ส เคาน์ตี้ สโมสรในระดับ ลีก ทู อยู่เลย   "มันเหลือเชื่อมากๆ เมื่อ 6 เดือนก่อนเขายังเล่นให้กับ น็อตต์ส เคาน์ตี้ อยู่เลย และเขาก็สามารถพลิกผันตัวเอง และตอนนี้กำลังจะได้ฟาดแข้งกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมหัศจรรย์ทีเดียว" กุนซือชาวฝรั่งเศสวัย 60 ปี กล่าว ทั้งนี้ แคมป์เบลล์ วัย 35 ปี เคยช่วย อาร์เซน่อล ทะลุเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ในถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว เมื่อปี 2006 และก็เป็นคนโหม่งพังประตูให้ทีมขึ้นนำ บาร์เซโลน่า ซึ่งเป็นคู่ชิงในปีนั้นไปก่อนด้วย แต่สุดท้าย "เดอะ กันเนอร์ส" ก็พลิกกลับมาเป็นปราชัยอย่างสุดเจ็บปวด http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100330_060.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:33:15

ความคิดเห็นที่ 10 "แฟร์มาเลน" ฝันพาปืนซิวชปล.       โธมัส แฟร์มาเลน กองหลังตัวเก่งของอาร์เซนอล แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับมีความฝันคว้าแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ร่วมกับ "ปืนโต" และเชื่อว่าทีมมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำได้สำเร็จ             แฟร์มาเลน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับอาร์เซนอล นับแต่ย้ายจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม มาร่วมทีมเมื่อช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา             กองหลังทีมชาติเบลเยี่ยมจำเป็นต้องพยายามเค้นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของตนเองเพื่อช่วย "ปืนโต" เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับมือ บาร์เซโลนา ยักษ์แห่งศึกลาลีกา สเปน ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกในวันพุธที่ 31 มีนาคมนี้             แม้หลายคนมองว่า "เจ้าบุญทุ่ม" มีภาษีดีกว่าลูกทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ แต่ แฟร์มาเลน เชื่อว่า อาร์เซนอล สามารถจะเอาชนะตัวเต็งของรายการได้เพื่อคว้าแชมป์ถ้วยใบใหญ่ที่สุดของยุโรป             "เมื่อผมมาที่อาร์เซนอล เจ้านายพูดถึงเป้าหมายของสโมสร นั้นคือการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและยูฟา แชมเปียนส์ลีก นั้นเป็นเรื่องใหม่สำหรับผม เพราะที่อาแจ็กซ์ เราต้องการเล่นในยูฟา แชมเปียนส์ลีก แต่พูดกันแต่เพียงการคว้าแชมป์ลีกเท่านั้น การพูดถึงการคว้าแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกเป็นเรื่องที่ไม่อยู่กับความเป็นจริง จึงแปลกมากสำหรับผมที่ได้ยินอะไรแบบนี้ แต่การมาเล่นที่นี่ก็ทำให้ผมสามารถวาดฝันถึงการคว้าแชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีกได้" แฟร์มาเลน กล่าว http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000043778 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:34:45

ความคิดเห็นที่ 11 อองรีทำซึ้งสดุดีเวนเกอร์ประวัติศาสตร์ต้องจารึก เธียร์รี อองรี สำนึกในพระคุณ อาร์แซน เวนเกอร์ เป็นผู้ทรงอิทธิพลทำให้เขาได้ดิบได้ดีจนถึงทุกวันนี้ และเป็นกุนซือที่ดีที่สุดแห่งประวัติศาสตร์ลูกหนัง เวนเกอร์เคยทำงานร่วมกับ อองรี ตั้งแต่สมัยยังคุมทีมโมนาโกก่อนแยกทางออกจากกันเมื่อปี 1994 จากนั้นอีกห้าปีต่อมากุนซือขงเบ้งตัดสินใจซื้อลูกศิษย์เพื่อนร่วมชาติ 10 ล้านปอนด์จาก ยูเวนตุส มาเล่นที่กรุงลอนดอน ซื่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้อองรีขึ้นไปอยู่แถวหน้าของโลกและกลายเป็นหนึ่งในตำนานทีมปืนใหญ่ครองดาวซัลโวสูงสุดยิงไป 226 ประตูใน 369 เกม "จุดเริ่มต้นของผมมาจาก อาร์แซน นี่แหละ เขาเป็นคนเปิดโอกาสให้ผมลงเล่นตั้งแต่อายุ 17 ปี ก่อนที่เวลาต่อมาเราทั้งคู่จะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งที่กรุงลอนดอน" "เขาแสดงความศรัทธาอย่างสูงสุดในตัวผม ผมมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกับเขา เขาให้อะไรต่อมิอะไรต่อผมไว้เยอะ ไม่มีเขาแล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น" "ตอนนี้ อาร์เซนอล และบาร์เซโลน่า มาเจอกันและต่างฝ่ายต่างเล่นฟุตบอลสวยงาม เขาเปลี่ยนสไตล์การเล่นของ อาร์เซนอล จนคว้าหลายแชมป์ สำหรับผมแล้วเขาคือโค้ชที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=259019 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:42:59

ความคิดเห็นที่ 12 อองรีย้ำจะเป็นแฟนบอลปืนตลอดไป   เธียร์รี่ อองรี กองหน้าบาร์เซโลน่า ยอมรับว่าตนจะเป็นแฟนบอลอาร์เซน่อล ตลอดไป แม้หวังว่าจะพาแชมป์เก่าเขี่ย "ปืนใหญ่" ตกรอบก่อนรองชนะเลิศ ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ก็ตาม บาร์ซ่า จะเดินทางมาเยือนเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในคืนวันพุธนี้ เพื่อลงเล่นรอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก และหัวหอกชาวฝรั่งเศส วัย 32 ปี ก็เชื่อว่าการได้กลับมาเผชิญหน้ากับทีมที่เขาค้าแข้งด้วยถึง 8 ปีนั้น จะต้องเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันอย่างแน่นอน "นับตั้งแต่ผมย้ายมาบาร์เซโลน่า (มิ.ย. 2007) ผมกลับมาที่อาร์เซน่อลหนเดียวเท่านั้น ตอนที่พวกเขาเจอแบล็คเบิร์น เมื่อ 3 หรือ 4 เดือนก่อนนี่แหละ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนที่นั่นจะตอบรับผมยังไง" อองรี กล่าว "ผมจะเป็นแฟนบอลของพวกเขาเสมอ เมื่ออาร์เซน่อลลงเล่นและผมสามารถดูเกมได้ คุณมั่นใจได้เลยว่าคุณจะเจอผมนั่งลุ้นอยู่หน้าจอโทรทัศน์" "ผมมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับแฟนบอลอาร์เซน่อล มันเหมือนกับเป็นถ้วยรางวัล แต่เป็นรางวัลแห่งความรักนะ" "ผมคงจะรู้สึกตื้นตันแน่ๆ แต่ผมก็จะต้องนิ่งเข้าไว้ มันคงจะเป็นเกมที่แปลกๆ สำหรับผม เพราะผมไม่อยากจะเจอพวกเขา แต่ถ้าผมได้ลงสนามผมก็จะทุ่มเทเต็มที่อย่างที่ผมทำมาเสมอ" อองรี ยืนยัน http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=55043&ch=253 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:43:21

ความคิดเห็นที่ 13 อองรีพร้อมช่วยบาร์ซ่าบุกรังปืนพุธนี้ เธียร์รี่ อองรี กองหน้า บาร์เซโลน่า จะพร้อมลงเล่นในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเยือน อาร์เซน่อล วันพุธนี้ หลังจากที่ไม่ได้เจอกับ "ไอ้ปืนใหญ่" เลย นับตั้งแต่ย้ายออกมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เธียร์รี่ อองรี หัวหอก "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ได้รับการยืนยันว่าจะสามารถลงสนามให้กับต้นสังกัดในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก กับ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันพุธนี้ได้อย่างแน่นอน จากการรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา อองรี ไม่ได้เจอกับ อาร์เซน่อล อดีตต้นสังกัดที่เขาค้าแข้งมานานถึง 8 ปีเลย นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม บาร์ซ่า เมื่อปี 2007 ด้วยค่าตัว 24 ล้านยูโร (ประมาณ 1,080 ล้านบาท) แต่คาดว่ากองหน้าวัย 32 ปีไม่น่าจะได้เป็นตัวจริงในเกมวันพุธนี้ หลังจากที่ลงเล่นในลา ลีกา แค่ 14 นัดในฤดูกาลนี้ เนื่องจากประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน และยิงเพียง 3 ประตูจากทุกรายการ บาร์ซ่า ตัดสินใจพัก อองรี ในเกมล่าสุดที่เฉือนชนะ เรอัล มายอร์ก้า 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อเก็บไว้เจอกับ อาร์เซน่อล เช่นเดียวกับ เคราร์ด ปีเก้, ชาบี เอร์นานเดซ และ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งยิง 11 ประตูจาก 6 เกมหลังสุด ขณะที่ เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายฝรั่งเศส ก็จะมีชื่ออยู่ในทีมชุดเยือน "ไอ้ปืนใหญ่" เช่นกัน แม้ว่ายังไม่ได้ไฟเขียวจากแพทย์ให้ลงสนามก็ตาม http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100329_170.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:44:03

ความคิดเห็นที่ 14 เป๊ปยันไม่ปรับสไตล์บาร์ซ่าลุยเข้าใส่ปืน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือมือทองยืนกราน บาร์เซโลน่า จะไม่เปลี่ยนสไตล์การเล่นอย่างแน่นอน พร้อมเปิดเกมบุกแลกกับ อาร์เซนอล ให้รู้ดำรู้แดงไปเลยแม้ต้องมาเยือนถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมก็ตาม "นับตั้งแต่ผมเข้ามาทำงานสไตล์การเล่นเกมบุกของเราถือเป็นเครื่องหมายการค้า" กวาร์ดิโอล่าเปิดใจ "บางครั้งเราก็เล่นได้อย่างห้าวหาญและไม่เกรงกลัวใคร นี่คือภาพลักษณ์ของเรา ไม่ว่าแพ้หรือชนะผมอยากให้เราโชว์ให้คนได้รับรู้ว่าเราเป็นใครและเชื่อมั่นในสไตล์ของเรา" "ผมต้องการให้เราเดินหน้าบุกไปข้างหน้าโดยไม่ต้องสนใจสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" "เอกลักษณ์ของทีมที่เน้นเกมรุกทำให้เราได้รับการนับถือมาจนถึงทุกวันนี้ และคุ้มค่าตั๋วสำหรับแฟนบอลที่มาดูเกมในสนามรวมถึงคนที่จ่ายเงินเพื่อชมเกมถ่ายทอดสดผ่านจอโทรทัศน์" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=259025 แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 08:47:18 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:46:00

ความคิดเห็นที่ 15 ปืนยิ้ม “อิเนียสตา” เจ็บวืดซดแข้ง       “ปืนโต” อาร์เซนอล เบาใจ เมื่อ อันเดรียส อิเนียสตา กองกลางห้องเครื่อง “แชมป์เก่า” บาร์เซโลนา มีอาการบาดเจ็บวืดซดแข้งในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก ที่รัง เอมิเรตส์ สเตเดียม วันพุธที่ 31 มีนาคมนี้              อิเนียสตา เจ็บกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวในเกม ลา ลีกา สเปน นัด บาร์เซโลนา บุกเฉือน รีล มายอร์กา 1-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้จะวืดเกม แชมเปียนส์ ลีก ที่จะต้องบุกรัง อาร์เซนอล              อย่างไรก็ตาม อิเนียสตา จะฟิตทันในเกมนัดสองเปิด คัมป์ นู ชี้ชะตากับ อาร์เซนอล ในวันอังคารที่ 6 เมษายนนี้ เนื่องจากจะพักแค่ 10 วัน กองกลางทีมชาติสเปน เป็นคนยิงประตูสำคัญในเกมรอบรองชนะเลิศกับ เชลซี เมื่อปีที่แล้ว              แต่ทว่า อาร์เซนอล ก็มีปัญหาเช่นเดียวกัน เมื่อ เชส ฟาเบรกาส กองกลางกัปตันทีม มีอาการเจ็บหัวเข่าจากเกม พรีเมียร์ชิป ที่บุกเสมอ เบอร์มิงแฮม ซิตี 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา อาจจะวืดลงนำทัพปะทะต้นสังกัดเก่า บาร์เซโลนา http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9530000043415 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:49:05

ความคิดเห็นที่ 16 อิเนียสต้าเจ็บอดบู๊อาร์เซน่อล อันเดรส อิเนียสต้า มิดฟิลด์ตัวรุกบาร์เซโลน่า จะหมดสิทธิลงสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ กับอาร์เซน่อล ในวันพุธนี้อย่างแน่นอนแล้วหลังจากได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา บาร์ซ่า เผยว่า อิเนียสต้า ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมที่บุกไปเฉือนชนะเรอัล มายอร์ก้า 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เขาต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 49 ก่อนจะถูกแทนที่โดย ลีโอเนล เมสซี่ กองกลางทีมชาติสเปนวัย 25 ปี ได้ลงสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้กับบาร์ซ่าตลอดทั้ง 8 นัดในฤดูกาลนี้ และเป็นกำลังสำคัญในเกมลีกด้วยเช่นกันเมื่อพลาดการลงเล่นให้ทีมแชมป์เก่าไปแค่ 2 นัดหลังผ่านไป 29 เกม แม้ว่า บาร์ซ่า จะยังไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าต้องพักนานเท่าใด แต่คาดว่า อิเนียสต้า มีโอกาสที่จะพลาดลงเล่นกับอาร์เซน่อล ในนัดที่ 2 ที่คัมป์ นู ในวันที่ 6 เม.ย. นี้ด้วย http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=55017&ch=253 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:50:05

ความคิดเห็นที่ 17 เซสก์ย้ำจุดยืนไม่มีแผนอำลาปืน เซสก์ ฟาเบรกาส กัปตันทีม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ยืนยันจุดยืนชัดเจนว่าไม่มีความคิดที่จะอำลาทีมแต่อย่างใด กัปตันกันเนอร์ส ตกเป็นข่าวว่าอาจจะย้ายทีมหลังจบฤดูกาลนี้โดยมีทีมยักษ์ใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า ทีมเก่าที่เคยอยู่ในช่วงเป็นนักเตะฝึกหัด แต่ทางด้าน เซสก์ ก็ยืนยันว่าไม่มีความคิดจะย้ายทีม "ผมไม่อยากจะพูดเรื่องอนาคตของผม" "ผมไม่เข้าใจข่าวลือทั้งหมด" "ผมบอกเสมอว่าผมมีความสุขที่อาร์เซนอล ผมบอกได้เป็นพันๆครั้งว่าผมไม่อยากจะกลับไปสเปน แต่ไม่มีใครเชื่อผมเลย" http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=55006&ch=253 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:51:27

ความคิดเห็นที่ 18 ติดใจ!คอยล์หวังเวนเกอร์ปล่อยวิลเชียร์ให้ยืมต่อฤดูกาลหน้า โอเว่น คอยล์ ผู้จัดการทีมโบลตันฯ ติดใจฝีเท้าของแจ็ค วิลเชียร์ ดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจากอาร์เซนอล โดยเตรียมเจรจาจะขอยืมต่อไปอีกหนึ่งฤดูกาล วิลเชียร์วัย 18 ปีย้ายมาร่วมทีมโบลตันด้วยสัญญายืมตัวในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ลงสนาม 7 นัดและยิง 1 ประตูในเกมส์โบลตันฯ เอาชนะเวสต์แฮม 2-1 "นั่นจะเป็นเรื่องที่เราต้องพูดคุยในช่วงซัมเมอร์ แต่ผมคิดว่าเขาสุดยอดมากๆ และแสดงให้เห็นถึงความสามารถด้วยอายุเพียงแค่นี้" "มันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับอาร์เซนอล รวมทั้งโบลตันฯ และทีมชาติอังกฤษด้วยในอนาคต" "หากอาร์แซน เวนเกอร์ตัดสินใจปล่อยเขาให้ผมยืมตัวอีกหนึ่งปี ผมจะดีใจมากที่รับตัวเขาไว้" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=258863 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:53:18

ความคิดเห็นที่ 19 เวนเกอร์เจอโคตรเพชร "นิว วิเอร่า" อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือนักปั้นมือทองแห่งอาร์เซนอลการันตี ซามูเอล กาลินโด้ วันเดอร์คิดเจ้าขอฉายา "นิว ปาทริค วิเอร่า" จะกลายเป็นเพชรเม็ดงามประดับวงการอย่างแน่นอน หลังได้เห็นมากับตาตัวเองจนตัดสินใจเซ็นล่วงหน้า กาลินโดเดินทางมาทดสอบฝีเท้าถึงกรุงลอนดอนตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้วก่อนที่ เวนเกอร์ ตัดสินใจยื่นข้อเสนอให้ เรอัล อเมริกา ยอมโอเคปล่อยตัวเมื่อเดือนมกราคม แม้ไม่เปิดเผยค่าตัวแค่คาดว่าน่าจะอยู่ประมาณ 500,000-1 ล้านปอนด์ "กาลินโด้เป็นนักเตะที่มีเทคนิคดี เขามีไหวพริบ สูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ถนัดเท้าซ้าย จ่ายบอลได้ดี วิสัยทัศน์เยี่ยม คุณภาพของเขาล้นเหลือ" เวนเกอร์ยกย่องสรรเสริญ "มันเป็นเรื่องจริงที่เขาเคยไปซ้อมที่ เอฟเวอร์ตัน แต่มีคนเสนอให้เขามาทดสอบฝีเท้าให้ผมดู ผมตอบรับและเมื่อผมเห็น ผมจึงเซ็นเขามาร่วมทีม" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=259056 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:56:09

ความคิดเห็นที่ 20 แมวมองปืนรับหมายตาเซโก้ บ็อบบี้ เบนเน็ต แมวมองประจำทีมอาร์เซนอลยอมรับสโมสรอยากได้ เอดิน เซโก้ ดาวยิงระดับพระกาฬจากโวล์ฟสบวร์กจริงถึงขั้นส่งแมวมองไปซุ่มดูฟอร์มหลายครั้ง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ภาคสนามแห่ง "เดอะกันเนอร์ส" ยอมรับโอกาสได้กองหน้าบอสเนียมาล่าตาข่ายในกรุงลอนดอนค่อนข้างริบหรี่ เนื่องจากต้นสังกัดโก่งราคาแพงเกินไป "เอดิน เป็นนักเตะที่เจ๋งโคตรๆ เราทุกคนที่อาร์เซนอลชอบเขามาก" เบนเน็ตเปิดใจผ่านเว็บไซต์ 'ยัง กันส์' "อย่างไรก็ตามปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องเงิน เราคงไม่ระดมทุนเพื่อซื้อเขาหรอกนะ แม้เขาเป็นนักเตะมหัศจรรย์คนนึง แต่ค่าตัวเขาแพงเกินไปสำหรับอาร์เซนอล" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=259059 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:57:29

ความคิดเห็นที่ 21 ยันคเล็บเมินเรือ,วิลล่า กลับบาร์ซ่าสถานเดียว อูลี่ เฟอร์เบอร์ เอเยนต์คู่ใจของ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ ปิดประตูตายไม่ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แอสตัน วิลล่า ยันมิดฟิลด์ตีนตะขอจะกลับไป บาร์เซโลน่า หลังจบฤดูกาลนี้เท่านั้น แม้ คเล็บ ไม่ประสบความสำเร็จในการค้าแข้งรังคัมป์ นู จนปล่อยให้ "ม้าขาว" ยืมตัว แต่เพราะความขัดแย้งกับกุนซือ คริสเตียน กรอสส์ จึงไม่เซ็นสัญญาถาวร อันหมายถึงต้องหวนคืนสู่ดินแดนกระทิงดุซัมเมอร์นี้ "นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนเป็นต้นไป เขาจะกลับไปเล่นให้ บาร์เซโลนา อย่างแน่นอน" เฟอร์เบอร์กล่าวให้สัมภาษณ์ผ่าน 'ซอคเกอร์เน็ต' "การย้ายกลับไปเล่นที่ประเทศอังกฤษเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น เราจะไม่คุยเรื่องราวไร้สาระแบบนี้" "สุดท้ายแล้วเขาจะกลับไป บาร์เซโลนา ส่วนเรื่องที่เขาจะอยู่ สตุ๊ตการ์ท ต่อหรือไม่นั้น ไม่เลย เขายังมีสัญญากับ บาร์ซ่า และรอคอยกลับไปที่นั่น" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=259061 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:58:26

ความคิดเห็นที่ 22 แกรนท์ลั่นปอมปีย์ขอสู้ถึงที่สุด อัฟราม แกรนท์ นายใหญ่ "ปอมปีย์" พอร์ทสมัธ ประกาศตัวขอพาลูกทีมสู้ด้วยศักดิ์ศรีและความเป็นมืออาชีพจนหยดสุดท้าย แม้เพิ่งพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส อีกนัด แถมยังต้องเสียนักเตะเพราะบาดเจ็บไปอีก 3 คน เมื่อสุดสัปดาห์ ก็ตาม อัฟราม แกรนท์ ผู้จัดการทีมของ พอร์ทสมัธ ทีมบ๊วยแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกโรงยืนกรานแสดงความตั้งใจว่า เขาและลูกทีมจะขอสู้ดิ้นรนต่อไปจนถึงที่สุด แม้สถานการณ์ต่างๆ จะเลวร้ายลงเรื่อยๆ ล่าสุดออกไปพ่าย ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ตาม ทีมดังแดนใต้ เหมือนรอเวลาหล่นไปเล่น เดอะ แชมเปี้ยนชิพ นับตั้งแต่โดนตัด 9 คะแนน โทษฐานที่ประสบปัญหาทางการเงินจนถูกเข้าควบคุมกิจการ แถมนัดล่าสุด แกรนท์ ต้องมาเสียนักเตะเพราะบาดเจ็บไปอีก 3 คน หนักที่สุด คือ เฮอร์มันน์ ฮไรดาร์สัน กองหลังที่โดนเปลหามออกจากสนาม เพราะสงสัยว่าเอ็นร้อยหวายฉีก ไม่เพียงเท่านั้น เดวิด เจมส์ ประตูจอมเก๋า ยังต้องจำใจออกจากสนาม เพราะเจ็บน่อง รวมทั้ง แดนนี่ เว็บเบอร์ กองหน้าที่เจ็บเข่า แกรนท์ กล่าวว่า "ผมจำสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักเตะแบบนี้ไม่ได้มานานมากแล้ว และ สงสัยว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม ผมไม่อยากเจอทางออกง่ายๆ เมื่อไรที่มีสถานการณ์ลำบาก ผมจะสู้ เราจะไม่ยอมแพ้ เราจะเล่นด้วยศักดิ์ศรี และ เป็นมืออาชีพต่อจนไปจนถึงที่สุด" "ถ้าคุณลืมปัญหาทั้งหมดในฤดูกาลนี้ ฟอร์มที่เราเล่นในบางเกมมันน่าทึ่งมาก สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ของฝ่ายแพทย์ พวกเขาต้องทำทุกอย่างที่ทำได้ เพราะตอนนี้ผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเรามีนักเตะครบ 11 คน เพื่อลงเตะเกม แบล็คเบิร์น ในสัปดาห์นี้หรือเปล่า" อดีตกุนซือ เชลซี ทิ้งท้าย ทั้งนี้ "ปอมปีย์" ยังมีโอกาสกอบกู้ฤดูกาลนี้ด้วยการเอาชนะ สเปอร์ส ใน เอฟเอ คัพ รอบรอบชนะเลิศ ที่ เวมบลีย์ สุดสัปดาห์หน้า แต่ก็ต้องหวังว่าจะทำผลงานได้ดีกว่านัดล่าสุดที่เพิ่งพ่ายลูกทีมของ แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตกุนซือของพวกเขาด้วย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100329_107.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 08:59:33

ความคิดเห็นที่ 23 แลมพ์สชี้เกมถล่มวิลล่าเป็นฟอร์มสุดยอดเชลซี แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลาง เชลซี ชี้เกมถล่ม แอสตัน วิลล่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในฟอร์มที่ดีที่สุดของต้นสังกัด ชี้ "สิงห์บลูส์" ทำได้อย่างมหัศจรรย์ และด้วยคุณภาพของนักเตะทีมก็มีสิทธิ์ที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่า เขาคิดว่าเกมที่เปิดบ้านถล่ม "สิงห์ผยอง" แอสตัน วิลล่า 7-1 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือเป็นหนึ่งในฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของต้นสังกัดเลยทีเดียว แลมพาร์ด ทำผลงานได้อย่างสุดยอดจากการซัดถึง 4 ประตูในเกมที่ เชลซี ไล่ต้อน วิลล่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ล่าสุดยอดรวมประตูที่เขายิงให้กับ "สิงห์บลูส์" ถึง 151 ประตูแล้ว และกองกลางทีมชาติอังกฤษก็ออกมาเผยว่าดีใจอย่างยิ่งกับฟอร์มการเล่นของตัวเอง ก่อนที่จะนำต้นสังกัดจะบุกเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้ "การเคลื่อนที่และการผ่านบอลทำได้อย่างมหัศจรรย์ มันเป็นฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมและนั่นก็คือช่วงเวลาที่เราอยู่ในฟอร์มสุดยอด มันเป็นเรื่องง่ายที่จะขีดฆ่าชื่อเราออกไปและพูดแต่สิ่งแย่ๆ เกี่ยวกับทีมและนักเตะ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือเล่นฟุตบอล เรารู้ว่าเกมใหญ่กำลังรออยู่ โดยเฉพาะสัปดาห์หน้า"   "เรารู้ถึงคุณภาพนักเตะที่เรามี เราแสดงให้เห็นมาตลอดทั้งฤดูกาล เราเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล และ อาร์เซน่อล ด้วยการเล่นที่หลากหลายรูปแบบ เราต้องลืมเรื่องเส้นทางการลุ้นแชมป์ และมุ่งสมาธิอยู่กับเป้าหมายในตอนนี้ การลุ้นแชมป์ยังเปิดกว้างกับแนวทางที่เราเล่นในช่วง 2 เกมล่าสุด และเราก็ต้องการฉวยความได้เปรียบ" แลมพาร์ด กล่าว   http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100329_124.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:00:52

ความคิดเห็นที่ 24 เซอร์โต้วิด้าเปล่าจงใจอัดเอลมานเดอร์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด โต้แหลก เนมานย่า วิดิช กองหลังลูกรัก ไม่ได้จงใจอัด โยฮัน เอลมานเดอร์ หัวหอก โบลตัน ตามที่ โอเว่น คอยล์ นายใหญ่ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" กล่าวหาแต่อย่าง ตรงกันข้าม เจ้าตัว ก็โดนเล่นงานจนอ่วมอรทัยเช่นกัน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงโต้ โอเว่น คอยล์ กุนซือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งกล่าวหา เนมานย่า วิดช ปราการหลัง "ปีศาจแดง" ว่า จงใจเล่นงาน โยฮัน เอลมานเดอร์ กองหน้า "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" จนศรีษะแตกระหว่างเกม พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ที่ผ่านมาแล้ว คอยล์ เชื่อว่า วิดิช จงใจเข้าสกัด เอลมานเดอร์ อย่างน่าเกลียดระหว่างเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกทุบ โบลตัน 4-0 ถึง รีบอค สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ ที่ผ่านมา จนทำให้ หัวหอกทีมชาติสวีเดน ต้องเย็บถึง 5 เข็ม อย่างไรก็ตาม สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) กลับไม่ลงโทษ ดาวเตะเซิร์บ ย้อนหลัง เฟอร์กูสัน กล่าวว่า "คุณไม่อาจจะเที่ยวตำหนิใครต่อใครได้ในเมื่อคนของตัวเองก็ไม่ได้ดีเด่อะไร ตอน เนมานย่า วิดิช เดินออกจากสนามในช่วงพักครึ่ง หัวเขาบวมปูดเท่าไข่ไก่ แก้มเขาก็บวม แถมตายังเขียวอีกต่างหาก"   พร้อมกันนั้น เซอร์ อเล็กซ์ ยังกล่าวชม "วิด้า" ด้วยว่า ทำผลงานได้เข้าขั้นระดับโลกในเกมกับ โบลตัน อีกด้วย โดยระบุว่า "มันเป็นฟอร์มการเล่นของปราการหลังตัวกลางที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ผมคงจะงงมาก ถ้า เอฟเอ ตั้งข้อหาเขา เพราะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า สายตาของเขาอยู่ที่บอล ไม่มีการจงใจแน่นอนไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น ผมไม่คิดว่า เขารู้ว่า มีคู่ต่อสู้อยู่ตรงนั้น หรือ มีใครอยู่ตรงนั้น" http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100330_066.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:03:58

ความคิดเห็นที่ 25 พลาตินี่หนุนแผนแฟนซื้อหุ้นสโมสร มิเชล พลาตินี่ บอสใหญ่ ยูฟ่า ยกมือหนุนนโยบายให้เหล่าแฟนลูกหนัง เข้ามีส่วนร่วมถือหุ้นของสโมสรรัก เพราะท้ายที่สุดแล้ว บรรดาสาวกลูกหนัง ก็คือเอกลักษณ์อันโดดเด่น ที่ไม่มีวันถูกกลืนหายไปจากอิทธิพลของนายทุนต่างชาติ             มิเชล พลาตินี่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) กล่าวสนับสนุนแผนการอนุญาตให้บรรดาแฟนบอล สามารถเข้าซื้อหุ้นของสโมสรรักของตัวเองได้ เพื่อให้มีสิทธิ์มีเสียงในทิศทางของสโมสรมากกว่าปัจจุบัน จากรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา แนวทางการสนับสนุนของ ยูฟ่า ในครั้งนี้ อาจเป็นส่วนช่วยผลักดันแนวนโยบายของพรรคแรงงานอังกฤษ ที่ให้แฟนลูกหนังมีสิทธิ์มีเสียงต่อทิศทางการดำเนินงานของสโมสร โดยบรรดาแฟนๆ อาจเข้าซื้อหุ้นของทีมได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อลดความเป็นกังวลต่อตัวเลขหนี้พุ่งสูงของบรรดาสโมสรในเวที พรีเมียร์ลีก และจากการดำเนินงานของเจ้าของทีมต่างแเดน "นโปเลียนลูกหนัง" กล่าวผ่านการแถลงข่าวที่กรุง บรัสเซลส์ ประเทศ เบลเยี่ยม ว่า "ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามันเป็นแนวความคิดที่ยอดเยี่ยม... ที่เหล่าแฟนบอลเข้ามาลงทุนในสโมสร เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็เป็นคนปกป้องเอกลักษณ์ทั้งหลายของทีม พวกเขาอยู่ที่นั่นเสมอ พวกเขาดูเกมอยู่ตลอดเวลา" นอกจากนั้น ตำนานพ่อค้าแข้งเลือดน้ำหอม ยังกล่าวว่า การตัดสินใจว่า ใครจะสามารถเข้ามาซื้อสโมสร และการดำเนินการจะเป็นอย่างไร ควรถูกกำหนดจากรัฐบาลของประเทศ พร้อมเผยว่า เขาชื่นชอบกับระบบการบริหารงานของสโมสรในสเปน อย่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ที่แฟนบอลเป็นเจ้าของทีม "มีหลายสโมสรที่ ประธานสโมสรไม่ได้เป็นคนเชื้อชาตินั้น โค้ชก็ไม่ได้เป็นคนเชื้อชาตินั้น รวมถึงนักเตะก็ไม่ได้เป็นคนในชาตินั้น สิ่งเดียวที่เป็นเอกลักษณ์ได้ ก็คือ เหล่าแฟนบอลนั่นเอง" พลาตินี่ กล่าวทิ้งท้าย http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100330_022.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:04:17

ความคิดเห็นที่ 26 โพสต์ข่าวเสร็จแล้วค่ะ ^^ ตารางคะแนน จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:04:54

ความคิดเห็นที่ 27 ความหวังของอาร์เซนอล กลางสัปดาห์นี้จะมีเกมที่ทุกคนเฝ้ารอในศึกแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เริ่มจากวันอังคาร 30 มี.ค. บาเยิร์น มิวนิก พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และศึกสายเลือด โอลิมปิก ลีญง กับบอร์กโดซ์ ส่วนวันพุธที่ 31 มี.ค. อาร์เซนอลดวลกับ บาร์เซโลนา และอินเตอร์ มิลาน กับซีเอสเคเอ มอสโก คู่เอกต้องยกให้เสือใต้กับผีแดง และปืนใหญ่กับบาร์ซา ผลงานนัดล่าสุดในลีก บาเยิร์นพลาดท่าแพ้ สตุตการ์ตคาบ้านตัวเองตกบัลลังก์จ่าฝูงไปแล้ว ขณะที่แมนฯยูบุกไปถล่มโบลตัน 4-0 โดยไม่มีเวย์น รูนีย์ ขณะที่อาร์เซนอลทำแต้มหล่นถูกเบอร์มิงแฮม ตีเสมอ 1-1 ช่วงทดเจ็บ และบาร์ซาบุกไปเชือดมายอร์กา 1-0 เทียบความคงเส้นคงวาแมนฯยูเหนือกว่าบาเยิร์น และน่าจะได้รูนีย์กลับมา แมนฯยูไม่ใช่ทีมที่บุกตะลุยท่าเดียวเหมือนในอดีต เล่นรัดกุมได้ทั้งรุกและรับ แน่นอนว่า ไปเยือนเสือใต้ต้องรับแล้วโต้ โอกาสมีอเวย์โกลติดมือกลับมามีสูงมาก ส่วนคู่ถอยหลังหกล้มระหว่าง อาร์เซนอลกับบาร์ซา ต้องรอดูว่า แบ็กซ้ายปืนใหญ่จะเอาเมสซีอยู่หรือไม่ ดูแล้วทีมเยือนก็น่าจะได้อเวย์โกลเช่นกัน ไม่ได้ปรามาสทีมอื่น แต่เทียบฟอร์มปัจจุบัน แมนฯยูและบาร์ซาน่าจะเป็นคู่ชิงอีกครั้ง เหมือนปีที่แล้ว ย้อนกลับไปที่เกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งทีมหัวแถวลงสนามพร้อมหน้า เชลซีเล่นบทโหดถลุงทีมเกรดบีบวกอย่างแอสตัน วิลลา ถึง 7-1 รวม 2 นัดหลังสุดซัดไป 12 ลูก หลังจากถล่มพอร์ตสมัธ 5-0 มาก่อนหน้านี้ ด้วยฟอร์มอันย่ำแย่ในระยะหลัง วิลลาคงยากที่จะลุ้นอันดับ 4 แข่งกับสเปอร์ส, แมนฯซิตี้และลิเวอร์พูล ไม่รู้ว่า เชลซีจะเก่งเมื่อสายหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็ทำให้นักเตะและกองเชียร์มีความมั่นใจมากขึ้นก่อนที่จะทำศึกอภิมหาบิ๊กแมตช์แห่งฤดูกาลกับแมนฯยูในวันเสาร์นี้ สำหรับอาร์เซนอลมักเจอเหตุการณ์บีบหัวใจ แฟนๆต้องบ่นว่า "เสียดาย" อยู่เรื่อย กำลังจะเก็บ 3 แต้มจากเซนต์ แอนดรูว์ แท้ๆ กลับถูกเบอร์มิงแฮมตีเสมอเหลือเชื่อในนาที 91 ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีโอกาสบวกสกอร์เพิ่มหลายครั้ง โปรแกรมที่เหลืออยู่ดูง่ายกว่าทีมอื่น แต่กลับสะดุดก่อนคู่แข่ง การจับปลาสองมือ ลุ้นทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปียนส์ลีกส่งผลต่อสมาธิของนักเตะปืนใหญ่อยู่เหมือนกัน ขาดนิด ขาดหน่อย โดยเฉพาะเรื่องประสบการณ์ ซึ่งผมเห็นด้วยกับอังเดร อาร์ชาวิน ว่าอาร์เซนอลต้องหานักเตะเก๋าๆมาเพิ่มอีกหลายคน อาร์แซน เวงเกอร์ ต้องเร่งฟื้นฟูสภาพจิตใจของลูกทีมก่อนที่จะเตะกับบาร์ซา ถ้าเสียท่าอีก บางทีอาจจะถอดใจไปเลยก็เป็นได้ สิ่งที่อาร์เซนอลต้องทำในรอบสัปดาห์นี้ก็คือ สู้ตายถวายหัวกับยอดทีมอย่างบาร์เซโลนา หลังจากนั้นภาวนาให้แมนฯยูกับเชลซีเสมอกัน เพื่อไม่ให้ทีมใดทีมหนึ่งทำแต้มทิ้งไปไกลกว่านี้. โต้ บ้านแหลม http://www.thairath.co.th/column/sport/worldsoccer/73554 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:10:50

ความคิดเห็นที่ 28 สองเกมที่ห้ามพลาด กลางสัปดาห์นี้มีเกมแชมเปี้ยนส์ ลีกมาให้ติดตามกันอีกแล้ว ซึ่งมีเกมมันๆมาให้ได้ลุ้นกันอย่างน้อยก็สองคู่ เกมระหว่าง บาเยิร์น-แมนฯยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล-บาร์เซโลน่า คือสองเกมที่ต้องติดตามชนิดห้ามพลาด สำหรับแฟนบอลตัวยงทั้งหลาย เพราะแค่ประกบคู่กันออกมา ก็น่าจะรับประกันความมันได้แล้ว และสองเกมนี้มีความเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือ เคยเป็นคู่ชิงฯของรายการนี้มาแล้ว เริ่มกันที่คู่วันอังคาร เสือใต้ กับ ปีศาจแดง ที่เคยชิงเจ้ายุโรปกันมาแล้วในปี 1999 ผลออกมาเช่นไรคงไม่ต้องย้อนกลับไปท้าวความกันอีก เอาเป็นว่ามาดูความเป็นไปได้ในการเจอกันหนนี้จะดีกว่า ทางฝั่งบาเยิร์นต้องบอกว่าปีนี้พวกเขามาได้ไกลกว่าปีก่อนๆ ทั้งๆที่ทีมก็ยังเล่นไม่ค่อยจะดีนัก แต่พวกเขาก็มีดีอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือฟอร์มระดับเทพของ อาร์เยน ร็อบเบน ที่ถือว่าเป็นตัวแปรสำคัญเลยที่ช่วยให้เสือใต้ผ่านฟิออเรนติน่ามาได้ในรอบที่แล้ว ใครได้ดูเสือใต้เล่นทั้งสองเกมกับฟิออเรนติน่า คงเห็นพ้องต้องกันว่าพวกเขาเล่นไม่ดีเอาเลย ซึ่งถ้าไม่ได้ฟอร์มของร็อบเบนช่วยเอาไว้ โดยเฉพาะกับเกมไปเยือน พวกเขาไม่น่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ที่ผ่านมาผมไม่ค่อยจะชอบฟอร์มฉายเดี่ยวของปีกดัตช์รายนี้เท่าไหร่ เพราะดูเป็นการเล่นที่เห็นแก่ตัวมากๆ แต่กับสภาพของบาเยิร์นในตอนนี้ จำเป็นที่ต้องให้เขาเล่นฉายเดี่ยวแบบนั้น มิเช่นนั้นคงจะสู้กับทีมอื่นไม่ได้แน่ โดยเฉพาะแมนฯยูฯ ส่วนทีเด็ดอีกอย่างคือการที่พวกเขามีกุนซืออย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ฟาน กัลจัดเป็นกุนซือที่มีฝีมือคนหนึ่งในการทำทีมลงเล่นฟุตบอลยุโรป ซึ่งในรอบแบ่งกลุ่มเขาก็โชว์ทีเด็ดมาแล้วครั้งหนึ่งในเกมกับยูเวนตุส ซึ่งชาวเสือใต้คงหวังให้เขาพาทีมล้มแมนฯยูให้ได้อีกในรอบนี้ แต่ใครเห็นฟอร์มของปีศาจแดงตอนนี้ คงลงความเห็นว่าเสือใต้อาจจะจอดแค่รอบนี้ได้ เพราะทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังลงล็อคเหลือเกิน ท่านเซอร์ได้ฟอร์มอันร้อนแรงของเวย์น รูนี่ย์ มาทดแทนการจากไปของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ฮีโร่คนเก่าได้แบบทันเวลา โดยเฉพาะกับปริมาณประตูที่ตอนนี้รูนี่ย์ก็กำลังใกล้จะลบสถิติที่จอมสับได้ทำเอาไว้เต็มที และที่สำคัญอีกอย่างคือ แนวรับซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการประสบความสำเร็จของปีศาจแดงมาทุกสมัย ก็กลับมาแน่นปึ๊กเหมือนเก่า หลังจากที่ได้เฟอร์ดินานด์กับวิดิชกลับมาจับคู่กันอีกครั้ง ดูแล้วลำพังแค่ฟอร์มสุดฮ็อตของรอบเบนคนเดียว คงจะทำอะไรแมนฯยูฯลำบาก และก็ไม่รู้ว่าฟอร์มของคนอื่นๆอย่าง ฟร้องก์ ริเบรี่ หรือมิโรสลาฟ โคลเซ่จะมาช่วยเสือใต้ได้ทันเวลาหรือเปล่า? ขณะที่อีกคู่ซึ่งจะเป็นการกลับมาล้างตากันอีกครั้งของคู่ชิงฯเมื่อปี 2006 ทุกคนคงฟันธงไปว่าบาร์เซโลน่าต้องผ่านทีมเด็กของอาร์เซน เวนเกอร์ไปได้แน่ ผมก็ว่าแบบนั้น เพราะดูแล้วไม่มีหนทางที่อาร์เซน่อลจะต้านทานความครบเครื่องของแชมป์เก่าได้เลย คู่นี้การต่อสู้จึงน่าจะดูสนุกเพียงแค่เกมแรกที่เอมิเรต สเตเดี้ยม ในวันพุธนี้เท่านั้น เพราะการไปเยือนถิ่นคัมป์ นูในนัดที่สอง ผมว่าเด็กของเวนเกอร์คงประสบชะตากรรมเดียวกันกับที่สตุ๊ตการ์ทเจอมาในรอบที่แล้ว อย่างไรก็ตามผมเอาใจเชียร์อาร์เซน่อลครับในวันพุธนี้ เพราะอยากดูว่า เวนเกอร์ รวมไปถึงเชส ฟาเบรกาส จะมีทีเด็ดอะไรมาสู้กับเมสซี่และเพื่อนๆบ้าง? No.10 http://www.siamsport.co.th/Column/100329_024.html จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:12:23

ความคิดเห็นที่ 29 งัดกลยุทธหยุดเมสซี่ มีไม่ค่อยบ่อยครั้งนักที่ อาร์เซนอล จะถูกมองว่าตกอยู่ในสภาพที่เป็นรองสุดกู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโคจรมาเจอกับโคตรทีมระดับโลกอย่าง บาร์เซโลน่าและความร้อนแรงของ ลิโอเนล เมสซี่ เรียกได้ว่านี่คือเกมประกบคู่ที่น่าดูที่สุดในรอบนี้เลยก็ว่าได้ เพราะต่างฝ่ายต่างเป็นทีมที่เน้นการเล่นฟุตบอลสวยงามทั้งคู่นั่นเอง เพียงแต่อาจจะไม่ถูกเวลาหรือเจอกันเร็วเกินไปนิดนึงเนื่องจากยังไม่ถึงจุดพีคพร้อมกันทั้งสองทีม ยิ่งพิจารณาจากขุมกำลังของ อาร์แซน เวนเกอร์ ถือว่ายังต้องสั่งสมประสบการณ์อีกเยอะบนเวทียุโรปที่เต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด เมื่อดูสภาพทีมในปัจจุบันแล้ว เวนเกอร์ ต้องพบปัญหาตรงคู่เซนเตอร์ยังไม่สมบูรณ์แบบเนื่องจากกำลังหลักอย่าง วิลเลี่ยม กัลลาส ไม่พร้อมลงสนามทำให้ภาระหนักตกมาอยู่กับ โซล แคมป์เบลล์ จับคู่ โธมัส เฟอร์มาเล่น ต้องเจอเกมรุกระดับพระกาฬเรียกพี่อย่างบาร์ซ่า ที่สำคัญก็คือกุนซือเมืองน้ำหอมจะหากลยุทธอะไรมาหยุดความร้อนแรงของ เมสซี่ ให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาหลายเกมที่เวลายอดนักเตะอัจฉริยะฟ้าขาวต้องเผชิญหน้าตัวแทนจากพรีเมียร์ลีกมักจะเล่นไม่ค่อยออก ไม่ต้องมองอื่นไกลลองไปดูเกมรอบรองชนะเลิศเมื่อปีก่อนที่พบกับ เชลซี ตลอดทั้งเหย้า-เยือนจะเห็นว่า เมสซี่ แทบหายไปจากเกมไม่โดดเด่นเอาเสียเลย ดูจากแท็กติกส์ที่ กุส ฮิดดิงค์ กุมบังเหียนอยู่ในตอนนั้นได้วางแผนก็ คือแผงหลังแบ็กโฟร์ถอยลงมารับลึกออกันอยู่หน้าปากประตูหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าอุดนั่นแหละ คาแรกเตอร์ของ เมสซี่ ถือเป็นนักเตะที่ถนัดเท้าซ้ายมีอิสระเกมรุกไปได้ทุกพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะเน้นการเจาะทางกราบขวาเป็นหลัก กุนซือหมีขาววางแท็กติกส์ก็คือมอบหมายให้ มิกาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์ตัวตัดเกมคอยเป็นกันชนให้แผงหลังอีกชั้นนึงตามประกบ เมสซี่ ทุกฝีก้าวไปไหนไปด้วย แม้ผ่านด่าน เอสเซียง มาแล้วก็ต้องเจอกับแบ็กซ้ายอย่าง แอชลีย์ โคล ซึ่งมีความเร็วอยู่แล้วจึงไม่เป็นปัญหาในการรับมือ ดังนั้น เวนเกอร์ ดูเป็นแนวทางก็ไม่เสียหายอะไร แผงหลังอาจถอยลงมาต่ำกว่าเดิมและมีกองกลางตัวรับลงมาช่วยหยุด เมสซี่ เมื่อมองทรัพยากรบุคคล อเล็กซานเดอร์ ซง น่าจะไล่ตามประกบ เมสซี่ ขณะที่แบ็กซ้ายไม่ใช่ใครที่ไหน กาแอล คลิชี่ คอยดูแลพื้นที่สุดท้าย อย่างไรก็ตามปัญหาก็คือแท็กติกส์ดังกล่าวอาจจะฝืนธรรมชาติไปสักนิดสำหรับ อาร์เซนอล เป็นทีมที่เน้นเกมบุกตะลุยไปข้างหน้าไม่ใช่ถอยร่นลงมาตั้งรับ ลูกกลมกลม http://www.guideball.com/board/column/viewtopic.php?t=54762 แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 09:15:19 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:14:52

ความคิดเห็นที่ 30 การกลับมาเผชิญหน้าของ 2 คู่ชิง   กลางสัปดาห์นี้มีฟุตบอลที่น่าสนใจมากถึง 2 คู่ในรายการที่ถือเป็นที่สุดของยุโรป (และอาจกล่าวได้ว่าที่สุดของโลก) อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่จะเป็นการมากลับมาเผชิญหน้ากันของอดีต 2 คู่ชิงชนะเลิศ คู่แรกในวันอังคารนี้เป็นการพบกันระหว่างอดีตคู่ชิงในปี 1999 ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ บาเยิร์น มิวนิค ส่วนคู่ที่สองในคืนวันพุธเป็นการพบกันระหว่างอดีตคู่ชิงในปี 2006 ระหว่าง อาร์เซนอล และ บาร์เซโลน่า สองคู่นี้ทำให้เกิดเสียงฮือฮากันตั้งแต่ผลการจับสลากออกมาแล้วเนื่องจากถือว่าเป็นคู่บิ๊กแมตช์ของทีมที่มีศักยภาพใกล้เคียงกันทั้งสิ้น จึงทำให้เป็นเกมที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง แต่ที่ทำให้มีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกคือการที่ทั้ง 2 คู่ 4 ทีมเคยห้ำหั่นกันมาในนัดชิงชนะเลิศมาก่อนแล้ว และที่สำคัญก็คือมันเป็นนัดชิงที่มีความ "ดราม่า" พอสมควร ย้อนหลังกลับไปในปี 1999 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เข้าชิงกับ บาเยิร์น ด้วยความหวังจะสร้างประวัติศาสตร์คว้า "เทรเบิลแชมป์" ให้ได้ หลังจากที่คว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้มาทั้ง พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ครั้งนั้นเกิดเหตุการณ์ดราม่าขึ้นเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่โดนทำประตูนำไปก่อนจนใกล้จะหมดเวลาอยู่แล้ว แต่กลับมาพลิกแซงชนะ บาเยิร์น ได้ 2-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บชนิดที่ชาว บาวาเรีย ทั้งแคว้นรู้สึกเหมือนโดนปล้นชัยชนะไปเพราะมันยากเกินที่จะทำใจได้ นัดชิงนี้เป็นนัดชิงที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนัดชิงที่ถูกจดจำและเป็นที่พูดถึงมากที่สุด ไม่ใช่เฉพาะของแฟนบอลทั้งสองทีมแต่เป็นแฟนบอลทั้งโลก ขณะที่นัดชิงในปี 2006 ระหว่าง อาร์เซนอล กับ บาร์เซโลน่า ไม่ได้รับการถูกจดจำมากเท่า แต่ก็มีเรื่องดราม่าในสนามเมื่อ เยนส์ เลห์มันน์ ไปโดนไล่ออกตั้งแต่ต้นเกมเมื่อไปทำฟาวล์ ซามูแอล เอโต้ นอกเขตโทษทำให้เสียเปรียบทันที แต่ก็ดันมาทำประตูขึ้นนำและสามารถรักษาสกอร์นำเอาไว้ได้จนถึงช่วง 15 นาทีสุดท้าย แต่ที่สุดแล้วบาร์ซ่า ในยุคเทวดาโรนัลดินโญ่ ก็มาพลิกเอาชนะได้จาก 2 ประตูใน 4 นาทีจาก ซามูแอล เอโต้ ในนาทีที่ 76 และ ฌูเลียโน่ เบลเล็ตติ ในนาทีที่ 80 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร นั่นเป็นความดราม่าที่เกิดขึ้นในอดีต ครั้งนี้วันเวลาเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย และมันก็เป็นเรื่องที่คาดเดาได้ยากว่าจะมีเหตุการณ์ดราม่าอย่างในอดีตเกิดขึ้นหรือไม่ แต่อย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นเกมที่มีความน่าสนใจในระดับที่ไม่ควรพลาด คู่แรกระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ บาเยิร์น จะเริ่มต้นที่ อลิอันซ์ อารีน่า ซึ่งบรรยากาศก่อนเกมตอนนี้ยังไม่เข้มข้นนัก แต่ก็เริ่มมีการส่งสัญญาณถึงกันระหว่างทั้งสองทีม ล่าสุดทางด้าน เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกมากล่าวชื่นชมทั้ง ฟร้องก์ ริเบรี่ และ อาร์เยน ร็อบเบน ซึ่งเป็นสองนักเตะที่ถ้าจำกันได้คือสองนักเตะที่ เฟอร์กี้ ต้องการจะได้ตัวมาร่วมทีมเนื่องจากเป็นปีกเทคนิคสูงซึ่งเป็นสไตล์ที่เฟอร์กี้ ชื่นชอบ แต่ก็พลาดไปทั้งสองราย แต่ที่น่าสนใจก็คือ เฟอร์กี้ ออกมา "เหน็บ" ริเบรี่ แบบอ้อมๆว่า "ผมไม่แน่ใจว่าเขาเก่งในระดับเดียวกับ เมสซี่ หรือ รูนี่ย์ หรือยัง" ตรงนี้คือการใช้เกมจิตวิทยาเล่นงานกันพอหอมปากหอมคอ สำหรับอีกคู่นั้นระหว่าง อาร์เซนอล และ บาร์เซโลน่า ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ เซสก์ ฟาเบรกาส ที่เป็นอดีตเด็กฝึกหัดของบาร์ซ่า และมีข่าวมาโดยตลอดว่าจะกลับไปยังคัมป์ นู ในวันนึงข้างหน้า ทำให้โดนนักข่าวจับจ้องและเล่นประเด็นนี้กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ เซสก์ ก็ออกมายืนกรานว่าเขาไม่คิดจะย้ายไปไหน และถ้าคิดให้ดีๆช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปัจจุบันนั้น เซสก์ อาจจะมีความเป็น "อาร์เซนอล" มากกว่าบาร์ซา ที่เป็นต้นกำเนิดด้วยซ้ำไป เหมือนเกิดในสเปนแต่มาโตที่อังกฤษ อะไรประมาณนั้น เพียงแต่แง่นี้ไม่ค่อยมีคนมองมากเท่าไหร่ อีกจุดที่น่าสนใจในคู่นี้คือทุกฝ่ายรอจะได้เห็นเกมฟุตบอลที่สนุก ตื่นเต้น และเต็มไปด้วยเทคนิคของทั้งสองทีม เพียงแต่นาทีนีก็ต้องยอมรับว่า บาร์ซ่า มีขุมกำลังที่เหนือกว่า ลำพังแค่หาวิธีหยุด ลิโอเนล เมสซี่ ก็เหนื่อยแล้ว ยังมีคนอื่นๆอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หรือ อันเดรียส อิเนียสต้า (ล่าสุดเจ็บ) ซึ่งก็ต้องดูว่าอาร์แซน เวนเกอร์ จะหาทางรับมือแบบไหน และที่ต้องลุ้นหนักก็คือพระเอกของเกมอย่าง เซสก์ จะหายกลับมาลงเล่นไหวหรือเปล่าในนัดนี้ ถ้าไม่ไหวก็จะต้องรอไปดราม่าอีกทีในเกมที่ คัมป์ นู ที่ถึงตรงนั้นจะเป็นภาพในความทรงจำภาพนึงเลยทีเดียว สำหรับสองคู่นี้เรายังคาดเดาผลกันลำบาก แต่ที่คาดเดากันได้ก็คือใครผ่านด่านตรงนี้ไปได้ โอกาสจะไปถึงนัดชิง หรือไปถึงแชมป์ก็เป็นไปได้สูง ย้ำอีกทีว่าไม่อยากให้พลาด เกมใหญ่ระดับนี้อดนอนนิดหน่อยถือว่าคุ้ม http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=55023&ch=262&ch=scoop จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:22:27

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าใครเข้ามาเจอกระทู้มีปัญหา ช่วยแจ้งที่ลิ้งค์นี้นะคะ http://www.pantip.com/cafe/event/contact/ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:25:07

ความคิดเห็นที่ 32 สวัสดีครับ............ ช่วงนี้นอกจากติด FB แล้ว งานเยอะอีกตะหาก บ่ายนี้ต้องบินไปอุบล ฯ ลุยงานอาทิตย์นึงเต็ม ๆ กลับมาบ้านคืนเดียว วันที่ 7 บินไปดูไบอีก..............กว่าจะกลับก็โน่นแหล่ะครับ 18 เมษายน................น่าจะพร้อม ๆกับที่เราได้แชมป์พรีเมียร์ลีักกะรอชิงยูโรเปี้ยนคัพแล้ว.............. จากคุณ : ฝันให้ไกลไปให้ถึง ไม่เคยทดท้อ (190อีสีขาว) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:41:50

ความคิดเห็นที่ 33 Song and Diaby are the key ALL eyes will undoubtedly be trained on Cesc Fabregas and Lionel Messi when Arsenal take on Barcelona in the Champions League. Yet two other players could have a bigger say in the contest between the beautiful game's two most beautiful exponents - certainly from the Gunners' point of view. Alex Song and Abou Diaby may never win any awards for artistic merit. Especially playing at the Emirates where their endeavour is frequently overshadowed by the more eye-catching and marketable skills of their technically superior team-mates, such as Fabregas, Andrey Arshavin, Samir Nasri et al. But the midfield duo's roles should never be underestimated, even in a showcase squad like the Gunners'. And both will have a vital role to play if Arsene Wenger's team are to pull off a famous victory over the holders. The quarter-final is a dream tie for football connoisseurs everywhere. Two of the best footballing teams in Europe, maybe the world, going head to head. Like Arsenal, Barca have carved a reputation for playing the game in its purest form. Pep Guardiola's men are renowned for undoing opponents with crisp passing and intricate one-twos around the box. That is where the presence of Song and Diaby may prove crucial for the Gunners. The pair, stationed deep in the heart of Wenger's engine room, must accept a thankless task. Not only will they have to fetch and carry water for their own team, but they will also have to try to pop a hole in Guardiola's game-plan. They need to close down the supply lines to Messi, interrupting Spanish plans for a spot of keepball and forcing the reigning European champions out wide where they pose less of a threat. It is not going to be easy and I still fancy Barca to edge their way into the last four. Arsenal could have been drawn against lesser opponents among the last eight. Make no mistake, though, Wenger will be relishing this encounter. Not only will the Arsenal boss be looking to avenge his team's defeat by Barcelona in the 2006 final in Paris by taking a step closer to the one major trophy that has eluded him in his glorious 13-year reign in North London. But Wenger will want to show the world it his team who play the best football in Europe - and not Guardiola's much-lauded La Liga superstars. I suspect that is the most satisfaction that would come packaged with a victory. It will be one of the few football matches when style will rate almost as highly as substance. Obviously the result will be the most important outcome but both managers will also be out to prove their teams are worthy of their footballing reputations. So many star players with astronomical abilities will be on view. Yet Arsenal's best chance of winning may rely on the performances of two players significantly more adept at stifling attacking opportunities, instead of creating them. TERRY VENABLES - Columnist http://www.thesun.co.uk/ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:45:43

ความคิดเห็นที่ 34 #32 เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ ^^ คิดว่าน่าจะมีข่าวอาการบาดเจ็บของเซสก์ตอนค่ำๆ มั้งคะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 09:51:04

ความคิดเห็นที่ 35 ก่อนจะไปจัดกระเป๋า............. ทำความดีสักเล็กน้อย Song and Diaby are the key ALL eyes will undoubtedly be trained on Cesc Fabregas and Lionel Messi when Arsenal take on Barcelona in the Champions League. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปที่สองนักเตะอย่างเซสค์ ฟาเบรกัสกับเลโอเนล เมสซี่ เพื่อนซี้วัยเดียวกันที่โคจรมาเจอกันในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกเกมอาร์เซนอลพบบาร์เซโลน่า Yet two other players could have a bigger say in the contest between the beautiful game's two most beautiful exponents - certainly from the Gunners' point of view. กระนั้นนักเตะรายอื่น ๆก็ยังสามารถนำไปเทียบเคียงกันได้กับคำร่ำลือที่ว่าสองคู่ต่อกรที่มีเกมสวยงามที่สุดมาเจอกัน แน่ล่ะ ส่วนใหญ่แล้วมาจากมุมมองของฝ่ายกันเนอร์ส Alex Song and Abou Diaby may never win any awards for artistic merit. นักเตะอย่างอเล็กซ์ ซงและอาบู ดิอาบี้อาจไม่เคยได้รับคำชมเชยหรือรางวัลใด ๆในเชิงความงดงาม Especially playing at the Emirates where their endeavour is frequently overshadowed by the more eye-catching and marketable skills of their technically superior team-mates, such as Fabregas, Andrey Arshavin, Samir Nasri et al. โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลงเตะในเอมิเรตส์ที่ซึ่งทุกสายตาจับจ้องไปที่การใช้ทักษะระดับอ๋องของฟาเบรกัส อังเดร อาร์ชาวินหรือซาเมียร์ นาสรี่เป็นอาทิ But the midfield duo's roles should never be underestimated, even in a showcase squad like the Gunners'. แต่บทบาทของสองคนคู่มิดฟีลด์นี้ไม่ควรมองข้าม แม้กระทั่งกับแหล่งรวมขุนพลชั้นดีอย่างกันเนอร์ส And both will have a vital role to play if Arsene Wenger's team are to pull off a famous victory over the holders. และทั้งคู่จะได้รับบทบาทสำคัญหากทีมของอาร์แซน เวงเกอร์จะฝ่ากระแสวิจารณ์(อันนี้ใส่ไข่เองเล็กน้อย)เอาชนะแชมป์เก่าได้ The quarter-final is a dream tie for football connoisseurs everywhere. Two of the best footballing teams in Europe, maybe the world, going head to head. เกมรอบก่อนรองชนะเลิศเป็นแมตช์ในฝันของแฟนบอลทุกคน สองทีมที่มีเกมฟุตบอลดีที่สุดในยุโรป หรืออาจในโลกเฮงซวยใบนี้ เจอกันตัวต่อตัว Like Arsenal, Barca have carved a reputation for playing the game in its purest form. เช่นกันกับอาร์เซนอล บาร์ซ่านั้นก็มีชื่อเสียงโด่งดังในการเล่นเกมสุด ๆของพวกเขา Pep Guardiola's men are renowned for undoing opponents with crisp passing and intricate one-twos around the box. ลูกทีมของเป๊ป กัวร์ดิโอล่าปั่นป่วนคู่ต่อสู้ด้วยการผ่านบอลคมกริบและการเคลื่อนที่ไปทั่วกรอบเขตโทษ That is where the presence of Song and Diaby may prove crucial for the Gunners. นั่นเป็นสิ่งที่ทั้งซงและดิอาบี้อาจต้องพิสูจน์คุณค่าสำหรับกันเนอร์ส The pair, stationed deep in the heart of Wenger's engine room, must accept a thankless task. ทั้งคู่, ยืนหยัดลึกในหัวใจห้องเครื่องในทีมของเวงเกอร์ จะต้องยอมรับภารกิจที่ไร้การยกย่อง(เขาใช้คำว่าแธงค์้เลส มันแปลว่าไม่ได้รับการขอบคุณ ผมก็แผลงแปลซะ เพราะมันความหมายเดียวกัน) Not only will they have to fetch and carry water for their own team, but they will also have to try to pop a hole in Guardiola's game-plan. ไม่เพียงแต่พวกเขาต้องแบกและนำเอาน้ำส่งจุนเจือทีม แต่ทั้งคู่ยังจะต้องเปิดแผลจุดอ่อนในแผนของกัวร์ดิโอล่า They need to close down the supply lines to Messi, interrupting Spanish plans for a spot of keepball and forcing the reigning European champions out wide where they pose less of a threat. It is not going to be easy and I still fancy Barca to edge their way into the last four. พวกเขาต้องปิดเส้นทางลำเลียงไปสู่เมสซี่ ทำลายแผนการครองบอลของทีมจากสเปน ตลอดจนบีบให้แชมป์เก่าจากสเปนออกไปเล่นทางกว้าง ซึ่งจะลดดีกรีความอันตรายของพวกเขาลงและมันก็คงไม่ง่าย ผมเองก็ยังคิดว่าบาร์ซ่าน่าจะผ่านไปถึงรอบรองชนะเลิศได้ Arsenal could have been drawn against lesser opponents among the last eight. Make no mistake, though, Wenger will be relishing this encounter. Not only will the Arsenal boss be looking to avenge his team's defeat by Barcelona in the 2006 final in Paris by taking a step closer to the one major trophy that has eluded him in his glorious 13-year reign in North London. But Wenger will want to show the world it his team who play the best football in Europe - and not Guardiola's much-lauded La Liga superstars. I suspect that is the most satisfaction that would come packaged with a victory. It will be one of the few football matches when style will rate almost as highly as substance. Obviously the result will be the most important outcome but both managers will also be out to prove their teams are worthy of their footballing reputations. So many star players with astronomical abilities will be on view. Yet Arsenal's best chance of winning may rely on the performances of two players significantly more adept at stifling attacking opportunities, instead of creating them. ///////// ไม่ไหวแล้วครับ ยังไม่้ได้จัดกระเป๋าเลยอ่ะ เด๋วถ้ามีเวลาจะมาต่อนะครับ จากคุณ : 190อีสีขาว เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 10:03:58

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ว่ากิลชี่จะพลาดแค่ไหน จะไม่ด่านะวันนี้ สู้ๆหล่ะกัน ซ้งคงสกรีนให้อย่าเติมเย่อะหล่ะ ส่วนเบนเนอร์ลูกรัก ยิงได้แจ้งเกิดเลยนะลูกพยายามเข้า จากคุณ : Arsenal มินิ คุ้กกี้ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 10:18:56

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณสำหรับข่าวครับ จากคุณ : tsunamier เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 10:21:38

ความคิดเห็นที่ 38 ถึงจะยอมรับว่าสภาพทีมตอนนี้เราเป็นรอง แต่สื่อยกยอปอปั้นบาร์เซโลน่าเกินไปรึเปล่าครับ ผมว่ามาตรฐานบอลอังกฤษกับสเปนไม่น่าจะต่างกันมากกมายขนาดนั้น ปีนี้ในลีกเองบาร์ซ่าก็ทำแต้มหลุดมือไปหลายเกมเหมือนกันจากกองหลังที่ค่อนข้างเป็นปัญหา ผมไม่เชื่อว่าผู้เล่นเกมรุกอย่าง นาสรี่ อาร์ชาวิน ฟาเบรกาส โรซิคกี้ จะไม่สามารถสร้างปัญหาให้กับบาร์ซ่าได้บ้าง ลียงพลิกล็อกชนะมาดริดมาได้แล้ว ผมเชื่อว่าเราก็มีโอกาสจะทำแบบนั้นเหมือนกัน จากคุณ : เอ็ม เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 10:50:21

ความคิดเห็นที่ 39 #24 ท่านเซอร์ฯ ครับ ปกติผมเคารพท่านนะครับ แต่ถ้าจังหวะนั้นของ วีดิช เรียกว่า ไม่ตั้งใจ ผมขอ ศอกหน้าท่าน แบบนั้นบ้าง (ด้วยความไม่ตั้งใจ) ได้ปะ? จากคุณ : Anduril เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 11:07:43

ความคิดเห็นที่ 40 สำหรับผมแล้วนี่คือเกมที่ช่วงชิงจังหวะเอามากๆ เพราะทุกๆการจ่ายบอลมันคืออันตรายทั้งสิ้น ไม่ว่าใครจะเป็นคนจ่าย เพราะระบบของทั้งสองทีมนั้นคือการหาที่ว่างเข้าทำ ไม่ว่าจะบอลโด่งข้ามหัวกองหลัง ทำชิ่งหน้ากรอบเขตโทษ  หรือโซโล่เดี่ยว ล้วนแล้วแต่พลาดไม่ได้สำหรับกองหลัง เกมนี้เป็นเกมที่พลาดไม่ได้จริงๆครับ จากคุณ : เจ ที ณ ท่าลาด เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 11:51:06

ความคิดเห็นที่ 41 CESC FABREGAS will be fit to line up against Barcelona tomorrow, according to his dad. Arsenal boss Arsene Wenger feared the midfielder would miss the Champions League tie after the Spaniard suffered bruising to his right leg and knee at Birmingham on Saturday. But his dad Francesc is confident he will face his former club in the quarter-final clash. He said: "The blow hurts a lot less now and it seems to be just a knock, nothing more serious. "I think Cesc will play. Although he may not be at his best he will do everything he can to be part of it." (thwsun today) จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 13:33:17

ความคิดเห็นที่ 42 #35 ผมล่ะกลัวคีย์จะเป็นไอ้เดอ่ะดิ มาจัดทีมแก้เซ็ง        Arshavin          Bendtner         Nasri                    Diaby               Cesc                               Song     Clichy      Campbell       Vermalen   Eboue                              Mannone จากคุณ : jma เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 13:47:23

ความคิดเห็นที่ 43 THIERRY HENRY will never forget his return to Arsenal. Tomorrow night will be one of the most memorable evenings of his career. He will get an amazing reception from the Gunners fans when he returns with Barcelona and he'll deserve it. He is a legend. Yet going to the Emirates to face his old club will present him with the most difficult match he has ever encountered. I'm sure he'll play at some stage, starting or off the bench, and all sorts of emotions will be whizzing around inside his head. It will be difficult to cope. After seven wonderful years at Highbury, I returned as a West Ham player on Boxing Day 1998. I was West Ham captain for the day and to be honest, I played really, really badly. We lost 1-0. It was a fantastic experience but an extremely tough one. It was incredibly confusing and it did not feel right wearing another team's shirt. It was downright weird walking into the away dressing room and then having the home fans singing 'You'll always be a Gooner' even though I was trying to score a goal against the team. Thierry will find himself in the same situation. The fantastic reception I received from the Arsenal fans before kick-off made me love the club and its fans even more than before. So, Thierry must deal with all of this tomorrow. For me, he is in the top three Arsenal players ever with Dennis Bergkamp and Tony Adams. Admittedly, in his last couple of seasons at Arsenal, he started to become a bit disillusioned but I don't think you could question his loyalty or desire. I worry about Arsenal keeper Manuel Almunia but hopefully the younger players will rise to the challenge and we'll see good performances from Nicklas Bendtner and Theo Walcott. Arsenal could win tomorrow but over the two legs, I have to go for Barcelona. Maybe Thierry could play a part and score the winner but we already know if he does, there won't be much of a goal celebration. (thesun today) จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 13:48:17

ความคิดเห็นที่ 44 On this day in...1895. Woolwich Arsenal met Newton Heath (later Man Utd) in English Division 2 for the first time at Manor Ground in Plumstead, Arsenal won 3-2. จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 14:37:21

ความคิดเห็นที่ 45 เชสได้ลง อย่างน้อยก็เชื่อว่าได้ดูเกมสนุกๆล่ะ สู้ให้สมศักดิ์ศรีละกัน... แล้วก็เข้ารอบต่อไป จากคุณ : Psychorchid เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 15:28:33

ความคิดเห็นที่ 46 Dennis Bergkamp defends Arsene Wenger's beautiful vision After his remarkable 11 years with Arsenal, he still adores English football and says he would choose an English club if he ever decided to be be a manager. He said: “Arsene Wenger’s idea is not only to play good football. It’s to play good football to win. In my day, we knew that with our style we could hurt teams and win trophies too. But we did it our way, with the positional game, passing, movement. “I’ve been watching Arsenal this season and the football is fantastic. They can cut through defences no problem, so I can’t agree with people who say 'this is not the way to win’. "Just think what Wenger has achieved over all these years. I don’t think you can doubt the man. You just have to give him your confidence.” And Wenger’s critics ? “They’re just non-believers !” The only problem, he says, is goalscoring. Arsenal have missed the injured Robin van Persie and departed Emmanuel Adebayor, and need to be more effective in the final third. “Arsenal always have more possession of the ball than the opponent. You don’t see often a bad pass in the midfield. But in the final third, often it’s a bad decision. That’s so strange. "They just need to be able to finish it off. You have to shoot, to want to score goals no matter how. Just score that goal ! You can’t be afraid to miss.” Arsenal’s football aspires to being art, and Bergkamp sees that as the essential difference between him and others. “Coaches like Mourinho and Ancelottti would probably say: 'I don’t really care how we play, look at my trophies', you know ? OK, they win trophies, that’s for sure, but you can’t really say in my opinion that a team like Chelsea plays a certain style of football.” At Ajax, Bergkamp played under Cruyff and Van Gaal. How does Wenger compare ? "I feel with Wenger that people in the end will say 'Ah! the teams he had played fantastic football!’ And that is what he wants, and it’s what Cruyff wants, and what Van Gaal wants too.” (telegraph-sport today) จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 15:31:56

ความคิดเห็นที่ 47 สวัสดีค่ะ เข้ามาอ่านข่าว ^^ จากคุณ : miss incredible เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 15:47:21

ความคิดเห็นที่ 48 ผมมองว่าบาร์ซ่าชั่วโมงนี้น่ากลัวกว่าแมนยู และเชลซีซะอีก แต่แค่เจอ 2 ทีมนั้น ทีมเราก็เละเป็นโจ๊กละ แต่ไงหวังว่าจะสู้ได้สมศักดิ์ศรี เหมือนนัดชิง UCL ที่เราเกือบชนะ (ปีนั้นเราเป็นทีมที่เกมส์รับดีสุดใน UCL และบาร์ซ่าเป็นทีมที่เกมส์รุกดีสุดใน UCL) แต่ตอนนี้เกมส์รับเราห่วยลงไปเยอะ แต่บาร์ซ่ากับคมกว่าเดิมอีกมั้งเนี่ย - -" จากคุณ : ganblade เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 16:08:56

ความคิดเห็นที่ 49 Fabregas set for Messi reunion as Arsenal face Barca Rodolfo Borrell remembers the exact date when Cesc Fabregas made his debut at the Barcelona academy. It was 11 November 1997 and the future Arsenal captain was 10 years old. Borrell, who spent 13 years at Barcelona and now coaches Liverpool under-18s.,the occasion is etched in his memory because discovering Fabregas was the reward for hours and hours spent scouring local youth clubs for youngsters worthy of the famous blue and red shirt. Fabregas had been playing for Mataro, a team based 35km north of Barcelona, but it was not until Borrell's third visit to the club that he unearthed his diamond. "I went to see them play again and suddenly I saw this one player who was simply wonderful," recalls Borrell. "They told me he was called Cesc Fabregas and he was one year younger than the rest. He was good at running with the ball, had a fantastic pass over short, medium and long distances. He was very mature for his age and had all the attributes we were looking for at Barcelona at that time. "At half-time I asked the coach why I had not seen this kid before. He admitted that when he saw me coming, he had decided not to play him because he knew that if I saw him I would take him." A deal was reached and he's joining the Barcelona academy at La Masia.The young Fabregas continued to live at home and go to school, but spent the rest of his time at La Masia, training, eating and studying at the famous institution which produced seven of the Barcelona side who won the treble of La Liga, Spanish Cup and Champions League last season. Fabregas sensed his opportunities would be limited at Barca and decided to take up the offer of a professional contract at Arsenal in September of that year. Having become the London side's youngest ever first-team player at 16 years, 177 days, Fabregas has since developed into one of the world's most complete midfielders. Borrell, who has remained a friend and confidante to Fabregas, tells a story that encapsulates the connection between the Arsenal star and his one-time hero. In 2001, when Fabregas was going through the pain of his parents' divorce, Borrell persuaded Pep Guardiola to sign his famous number four shirt for the young protege. On it, he wrote 'One day, you will be the number four of Barcelona'. "I called him into my room and explained that I was aware of what was happening in his family," recalls Borrell. "He started to cry, so I showed him the famous shirt. You can imagine the reaction. His idol has written a message for him on his shirt. It was a fantastic moment." On the other hand, Fabregas has the chance to finish what he has started at Arsenal, as the leader of Wenger's potentially irresistible young side, now chasing a first trophy since 2005. "He is in a great club, with a great coach and fantastic team-mates who play fantastic football in a nice city where the people adore him," says Borrell. "But I think everybody wants to go home one day and at the kind of level Barca are playing at the moment he must be tempted. Everybody in Barcelona is expecting him to arrive soon but this doesn't mean he will go." Borrell predicts an open game at the Emirates, with both sides scoring at least twice, but expects Barca's superior quality to shine through at the Nou Camp. And if Barca do win comfortably, could the pull towards his boyhood club become overwhelming for Fabregas ? "He's a professional and he will only be thinking to do the best for his team, to make his team win," says Borrell. "I don't think the result will affect his decision. He loves the club who pushed him so quickly to the top level and he's always giving his maximum for the team." (bbc news today)                                   FABREGAS & MESSI THIS SEASON                                      22 ---------- Age ----------- 22                                      27 - League appearances - 25                                      15 --------- Goals ---------- 25                                      13 --------- Assists ---------- 9 จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 16:22:33

ความคิดเห็นที่ 50 เกมกับเบอร์มิงแฮม ทำให้ผมพบสัจธรรมชีวิตในการดูบอล ดูแบบไม่คาดหวัง ก็จะไม่เจ็บจากการหวังครับ ดูเอามันส์แล้วครับฤดูกาลนี้ จากคุณ : Younger Pat เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 16:51:40

ความคิดเห็นที่ 51 Lionel Messi not so cool จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 17:08:34

ความคิดเห็นที่ 52 ... แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 17:09:35 จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 17:09:04

ความคิดเห็นที่ 53 Better than THIERRY HENRY จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 17:13:53

ความคิดเห็นที่ 54 อยากเอาถาดตีหัวเบ้นท์เนอร์ซักที.... เมิงจะเอาฮาอย่างเดียว..ชิมิ ยิงมั่งเดะคับพี่น้องค้าบบบบบบ........... จากคุณ : พี่อู๊ด (anaconda_l) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 17:15:52

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาอ่านข่าวครับ จากคุณ : dadmom เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 19:37:32

ความคิดเห็นที่ 56 ARSENE WENGER is determined to bury the demons that still haunt him after the Gunners' Champions League final heartache against Barcelona in 2006. Keeper Jens Lehmann was sent off just 18 minutes into what should have been a feast of exciting football in Paris by Norwegian ref Terje Hauge. The red card completely ruined the game although Sol Campbell went on to head Arsenal into a 1-0 lead. But the 11 against 10 finally told as the Catalan outfit grabbed victory with strikes from Samuel Eto'o and Juliano Belletti. And Wenger admitted: "Yes, it will always be a regret because the game didn't deliver what it promised to be, so this time I am sure it will be different. "But you have to accept it. It is very frustrating for a manager not to win the title but on the night I believe we turned up with a decent performance and that is all you can do. "We played with 10 men and with 13 minutes to go it was 1-0. We had a good chance to score a second and a third even and these games are decided by that." (thesun today) จากคุณ : coif เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 19:51:11

ความคิดเห็นที่ 57 ผมไม่คิดว่าบาร์ซ่าจะแพ้ไม่เป็นนะครับ อย่างน้อยก็ที่เอมิเรตสเตเดี้ยม อินเตอร์ที่ว่าเจ๋ง เรายังไปถล่มเละคาซานซิโร่มาแล้ว มิลานที่ว่าแ่น่ๆเรายังบุกไปหักปากกาเซียนมาแล้ว มาดริดที่ว่าโคตรทีมเราก็ยังบุกไปสอยคาบ้านมาแล้วเช่นกัน เพราะฉะนั้น จุด จุด จุด สถานีต่อไป คัมป์นูครับพี่น้องครับ จากคุณ : romanticnotez เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 19:54:50

ความคิดเห็นที่ 58 ใช่ๆ พูดเหมือนบาซ่าไร้เทียมทานอย่างนั้นแหละ ทีีมนี้เด่นที่เกมส์รับอ่ะครับ ตอนเจอลิเวอพูลยังไปไม่ค่อยเป็นเลย แต่ถึงยังไงเฮียอองรีอย่ายิงทีมป๋มเน้อ จากคุณ : maxistant เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:13:30

ความคิดเห็นที่ 59 #18 ติดใจ!คอยล์หวังเวนเกอร์ปล่อยวิลเชียร์ให้ยืมต่อฤดูกาลหน้า ถ้าตอนนี้ยังไม่มีที่ว่างให้กับแจ๊ค ผมว่าให้โบลตันฯ ยืมต่ออีกฤดูกาลน่าจะเป็นผลดีกับตัวนักเตะเอง โอเว่น คอยล์ก็ให้โอกาสลงตัวจริงสม่ำเสมอ แถมลูกฟรีคิกบร๊ะเจ้าแจ๊คก็เก็บเรียบ ! #9 เวนเกอร์ไม่อยากเชื่อโซลคืนสู่เกมระดับสุดยอด ผมคิดว่าการตัดสินใจดึงบิ๊กโซลกลับมาเป็นเรื่องดีมาก ๆ ช่วงที่แคมป์เบลล์ขอเข้ามาร่วมฝึกซ้อมเพื่อเรียกความฟิตและสโมสรก็ให้โอกาส ในเมื่อนักเตะที่เคยประสบความสำเร็จกับสโมสรต้องตกที่นั่งลำบาก และสโมสรไม่ทอดทิ้งเขา มันจึงเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ จากคุณ : ไซโค เสก เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:22:22

ความคิดเห็นที่ 60 #35 ขอบคุณที่ช่วยแปลค่ะ ขอนอกเรื่องนิดนึงค่ะ... มีใครเคยเมากาแฟบ้างไหมคะ จะมีวิธีที่จะทำให้หายหรือดีขึ้นไหม ตอนบ่ายชิมกาแฟสดอย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่ปวดหัว+เวียนหัว+ผะอืดผะอม เคยดื่มกาแฟสำเร็จรูปแล้วปวดหัว ไม่นึกเลยว่ากับกาแฟสดจะอาการหนักขนาดนี้ พรุ่งนี้ขอตั้งกระทู้สายสักหน่อยนะคะ เผื่อน็อคยาว แก้ไขเมื่อ 30 มี.ค. 53 20:37:26 จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:28:50

ความคิดเห็นที่ 61 ขอดูบอลสวยๆ ก็พอใจแล้ว ผลจะเป็นยังไง สกอร์เท่าไหร่ ไม่ว่าเลยครับ จากคุณ : รันตี เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:52:17

ความคิดเห็นที่ 62 ยังพอมีเวลา ขอโพสต์รูปซ้อมนิดนึง จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:54:11

ความคิดเห็นที่ 63 2 Tomas จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:54:48

ความคิดเห็นที่ 64 กัลลาสกลับมาซ้อมแล้ว จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:56:28

ความคิดเห็นที่ 65 แฟร์มาเล่นอีกรูป จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:57:05

ความคิดเห็นที่ 66 พิ้งค์กี้ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:57:31

ความคิดเห็นที่ 67 อาร์ชาวิน จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:57:53

ความคิดเห็นที่ 68 นาสรี่ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:58:08

ความคิดเห็นที่ 69 เวนเกอร์อีกสักรูป จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:58:48

ความคิดเห็นที่ 70 พูดถึงแมตย์เจอบาร์ซ่า ผมว่านัดนี้น่าจะวัดกันที่ ความเหนียวของกองหลัง กับความคมของกองหน้าแต่ละทีม แมตย์อื่นๆอาจจะวัดกันที่แดนกลาง ว่าใครครองเกมได้มากกว่า แต่นัดนี้ผมว่าเวลาทีมไหนได้บอล อีกทีมก็คงวิ่งไม่เจอบอล ฉะนั้นผมว่าถ้าเราเล่นแบบรับเหนียวๆ แล้วพอมีโอกาสยิงต้องยิงให้ได้ ถ้าทำได้ก็อาจชนะ แต่ต้องอย่าลืมว่าโอกาสของอาร์เซนอลก็คงจะน้อยกว่าโอกาสของบาร์ซ่า งานนี้ต้องหวังให้องค์ลงเบนเนอร์แล้วละครับ ขอเถอะ พ่อคุ้นนน จากคุณ : ปืนโตมหาชัย เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:59:06

ความคิดเห็นที่ 71 รูปสุดท้ายก่อนไปนอน ราตรีสวัสดิ์ค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 20:59:18

ความคิดเห็นที่ 72 #57 ใช่ครับอะไรก็เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล มันเป็นการชิงจังหวะกัน ใครทำเข้าเป้ามากกว่ากันก็วัดไปเลย นัดที่แพ้แมนยูกะเชลซี เราทำไม่เข้าเป้าเอง ไม่งั้นสกอร์คงไม่เป็นแบบนี้หรอกครับ เราหลังก็หลังบาร์ซ่าก็ไม่ได้ต่างกันมาก (คือหลวมพอกันน่ะ 555) วัดกันไปเลย สุด Teen ครับ สู้ตายปืนใหญ่ จากคุณ : PongGunners (PongGunners) เขียนเมื่อ : 30 มี.ค. 53 21:00:54

ความคิดเห็นที่ 73 ขอเวลาเก็บรวบรวมข่าวสัก 30 นาทีค่ะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 11:46:53

ความคิดเห็นที่ 74 @-@-@ โต๊ะน้ำชา อาร์เซนอล... UCL Quarter-Final 1L : Arsenal v Barcelona @-@-@ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 12:30:54

ความคิดเห็นที่ 75 อาร์ชาวิน จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:14:58

ความคิดเห็นที่ 76 อาร์ชาวินอีกรูป จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:16:03

ความคิดเห็นที่ 77 คู่นี้สูงต่างกันเยอะ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:17:08

ความคิดเห็นที่ 78 เอบูเอ้บ้าง จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:18:05

ความคิดเห็นที่ 79 บิ๊กโซล จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:18:43

ความคิดเห็นที่ 80 กัลลาส จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:19:42

ความคิดเห็นที่ 81 เฮียแวสตร์+ซานญ่า จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:20:29

ความคิดเห็นที่ 82 ซานญ่า+วัลคอตต์ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:22:49

ความคิดเห็นที่ 83 ดิยาบี้+เดนิลสัน มีซานญ่าเป็นตัวประกอบค่ะ ^^ จากคุณ : YesterdayOnceMore เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 53 14:24:01