 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
(นัดที่ 32 ฤดูกาล 2009-10)
วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553
เบิร์นลีย์ 1 - แมนฯ ซิตี้ 6
อีกเกมที่เทิร์ฟ มัวร์ เบิร์นลีย์ทีมในโซนตกชั้นปรับทัพจากนัดแพ้แบล็คเบิร์น 1-0 สามตำแหน่งโดยหวนกลับมาใช้งานร็อบบี้ เบล็ค , คริส อีเกิ้ลส์ และแดนนี่ ฟ็อกซ์เป็นตัวจริง ส่วนแมนฯ ซิตี้ที่ขยี้วีแกนได้ 3-0 เมื่อวันจันทร์ปราศจากปาโบล ซาบาเลต้าที่ถูกแบนสองนัดจากการสะสมใบเหลืองสิบใบ อีกทั้งสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ก็เดี้ยงรวมแล้วโรเตชั่นขุนพลสี่รายให้แกเร็ธ แบร์รี่ , เคร็ก เบลลามี่ , เนดุม โอนัวฮา และซิลวินโญ่ลงบู๊ตั้งแต่ออกสตาร์ต เบิร์นลีย์ได้เริ่มเขี่ยบอลก่อน แต่แค่นาทีที่ 3 ก็เกือบวายปราณเมื่ออดัมส์ จอห์นสันทำชิ่งกับคาร์ลอส เตเวซจนหลุดเข้าไปเข่นในกรอบเขตโทษด้านขวา กระทบผู้เล่นเจ้าบ้านหลุดออกเส้นหลังไป อย่างไรก็ดี จากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ลอยไปอีกฟาก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ที่ไม่มีใครประกบก็ได้ดึงบอลลงพื้นก่อนจะซัดตูมจาก 12 หลาตุงตาข่ายพาเรือใบนำไปก่อน 1-0 จนได้ในนาทีที่ 4 เท่านั้นไม่พอ เล่นกันต่อมาได้แค่นาทีเดียว เดอะ คลาเร็ตส์ก็โดนสอยตาข่ายเพิ่มอย่างเร็วจี๋ คราวนี้เป็นจังหวะผ่านบอลกันพลาดง่ายๆในแดนตัวเอง เลยถูกเตเวซฉกไปไหลเข้าเขตโทษด้านซ้ายโดยมีเบลลามี่ปราดเข้าส่องจาก 12 หลาไม่พลาด ทำให้ทีมมหาเศรษฐีหนีเป็น 2-0 จากนั้นในนาทีที่ 7 กองเชียร์เจ้าถิ่นก็ต้องเซ็งตามมาติดๆอีกเมื่อเตเวซลงไปล้วงบอลแล้วลากขึ้นมาปั้นเกมอีกครั้งให้อเดบายอร์ตะบันจาก 16 หลาทั้งๆที่เบาหวิวแต่นายทวารไบรอัน เยนเซ่นกลับล้มตัวรับบอลหลุดออกมา เตเวซเลยได้ทีเข้าเก็บตกระยะเผาขนพาแมนฯ ซิตี้ทะยานนำ 3-0 ล่วงมาถึงนาทีที่ 20 ทีมตราเรือใบก็เพิ่มสกอร์ได้อีกจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของจอห์นสันที่ปาทริค วิเอร่าวิ่งเข้าโขกจาก 10 หลาเสียบเพดานตาข่ายโดยที่ฟ็อกซ์พยายามตามคุมเต็มที่แล้ว แต่เอาไม่อยู่จึงเป็นประตูนำ 4-0 ของอาคันตุกะและเป็นลูกแรกของอดีตกองกลางอาร์เซน่อลกับแมนฯ ซิตี้ที่ทำเอาสาวกเบิร์นลีย์บางส่วนทะยอยออกจากสนามทันที กระนั้นเจ้าบ้านก็เริ่มทำเกมรุกกันได้ดีขึ้นเป็นลำดับ และในนาทีที่ 28 ก็มีลุ้นเมื่อไมเคิ่ล ดัฟฟ์ได้กระหน่ำเต็มเกือกจากหน้าเขตโทษด้านซ้าย ทว่าเชย์ กิฟเว่นเซฟได้ไม่มีกระฉอก ผ่านมาถึงนาทีที่ 37 ทีมรองบ่อนก็มาได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษด้านซ้ายจากลูกที่แบร์รี่ไปทำฟาวล์เดวิด นิวเจนท์ เจ้าตัวจึงลุกขึ้นมาซัลโวเองแต่กิฟเว่นปัดพ้นคานได้ และจากลูกเตะมุมด้านซ้าย นิวเจนท์ก็ได้โขกฝังเหน่งๆระยะสี่หลาหน้าปากประตูติดขากิฟเว่นกระดอนออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ ถัดมาในนาทีที่ 41 ทีมเยือนก็ได้เสียวอีกเมื่ออเดบายอร์พาบอลลุยขึ้นทางขวาแล้วจ่ายเข้าเสาแรกให้วิเอร่าวิ่งเข้าฮอสแปดหลา ถูกเยนเซ่นใช้ขาสกัดได้อย่างหวุดหวิด นาทีต่อมา เรือใบสีฟ้าโต้ยาวจนเกือบมีเฮเมื่อแบร์รี่วิ่งไปเก็บบอลในเขตโทษด้านซ้ายได้จึงป้ายคืนให้เบลลามี่ซัลโวลูกเรียดจาก 18 หลาเฉี่ยวเสาสองออกไปนิดเดียว กระทั่งนาทีที่ 44 ทีมจอมชอปปิ้งก็น่าจะสอยตาข่ายได้อีกคำรบโดยมีเบลามี่ผ่านบอลจากกราบซ้ายเข้ามาหน้าประตูแล้วเตเวซโชว์ความจัดจ้านกลับตัวยิงจาก 12 หลาฝ่าสองตัวประกบ แต่บอลพุ่งชนเสาทั้งๆที่เยนเซ่นไม่ทันได้กระดิกแล้ว อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาเบิร์นลีย์ก็ไม่รอดจนได้จากลูกแทงยาวแถวกลางสนามของเตเวซที่เปิดทางสะดวกให้อเดบายอร์หลุดเดี่ยวเข้าไปส่องจาก 16 หลาไม่พลาด จบครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้จึงฆาตกรรมเจ้าถิ่นแบบไม่ปราณี 5-0 ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยนแจ็ค คอร์กกับเวด เอลเลียตต์ลงไปแทนเควิน แม็คโดนัลด์กับเบล็คพร้อมทั้งเดินหน้าเต็มกำลังท่ามกลางสายฝนที่เริ่มเทลงมาหนาเม็ดขึ้น กระทั่งนาทีที่ 51ก็ได้เสียว จากลูกโยนยาวทางกราบขวาที่นิวเจนท์ตามไปเก็บกระชากเข้าเขตโทษล็อคหลบโคโล่ ตูเร่ได้ ก่อนจะซัดจาก 12 หลาถากเสาไกลออกไป ล่วงมาถึงนาทีที่ 56 ก็เป็นทีของแมนฯ ซิตี้บ้างจากการเสริมเกมของโอนัวฮาที่ทะลุเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วปาดคืนให้เบลลามี่เช็คบิลจาก 18 หลาแฉลบผู้เล่นเลออน คอร์ตออกหลัง และจากลูกเตะมุมด้านซ้าย แว็งซ็องต์ กอมปานีก็ได้โขกฝังจากแปดหลาตุงตาข่ายสบายแฮชนิดที่ไม่มีใครคุม จึงเป็นอันว่าเรือใบทะยานนำเป็น 6-0 ในนาทีที่ 58 ขยับมาถึงนาทีที่ 67 แมนฯ ซิตี้ก็ส่งไนเจล เดอ ย็องก์ลงไปแทนซิลวินโญ่ แต่แล้วนาทีที่ 71 แฟนเดอะ คลาเร็ตส์ก็ได้เฮกันซะทีเมื่อสตีเว่น เฟล็ทเชอร์สปีดไปรับบอลแทงเข้าเขตโทษด้านซ้ายได้ก่อนตูเร่ และตะบันผ่านกิฟเว่นที่พยายามออกมาปิดมุมเสียบเสาแรกเป็นลูกตีไข่แตกให้เจ้าบ้านตามหลัง 1-6 เข้าสู่นาทีที่ 79 แมนฯ ซิตี้ส่งโรเก้ ซานตา ครู๊ซลงไปแทนอเดบายอร์ จากนั้นอีกสองนาทีเบิร์นลีย์ก็ใช้งานมาร์ติน พาเตอร์สันแทนเฟล็ทเชอร์ ทีมเรือใบเปลี่ยนตัวเพิ่มในนาทีที่ 83 โดยมีอเล็กซ์ ไนม์ลีย์ได้เสียบแทนเตเวซ และจากนั้นต่างก็เพลาเกมลงไปด้วยกันทั้งคู่ หมดเวลาทีมเรือใบจึงชนะไปอย่างท่วมท้น 6-1 ขึ้นครองอันดับสี่แทนสเปอร์สจนได้โดยมีคะแนนนำทีมตราไก่หนึ่งแต้มหลังลงบู๊ 32 นัดเท่ากัน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เบิร์นลี่ย์ : ไบรอัน เยนเซ่น, ไทโรน เมียร์ส, ไมเคิ่ล ดัฟฟ์, ลีออน คอร์ท, ดาเนี่ยล ฟ็อกซ์, คริส อีเกิ้ลส์, เกรแฮม อเล็กซานเดอร์, เควิน แม็คโดนัลด์ (แจ็ค คอร์ค น.46), ร็อบบี้ เบล๊ค (เวด เอลเลียตต์ น.46), เดวิด นิวเจนท์, สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ (มาร์ติน แพตเทอร์สัน น.80) สำรองไม่ได้ใช้ : นิคกี้ วีฟเวอร์, คล้าร์ก คาร์ไลส์, อ็องเดร บิเกย์, สตีเว่น ธอมป์สัน แมนฯ ซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น, เนดุม โอนูโอฮา, โคโล่ ตูเร่, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, ซิลวินโญ่ (ไนเจล เดอ ย็อง น.67), ปาทริค วิเอร่า, แกเร็ธ แบร์รี่, อดัม จอห์นสัน, คาร์ลอส เตเวซ (อเล็กซ์ นิเมลี่ น.83), เคร็ก เบลลามี่, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (โรเก้ ซานตา ครูซ น.79) สำรองไม่ได้ใช้ : กุนนาร์ นีลเซ่น, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, เดดริค โบยาต้า, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ผู้ตัดสิน : อลัน ไวลี่ย์
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100404_021.html
จากคุณ |
:
still solo one
|
เขียนเมื่อ |
:
4 เม.ย. 53 09:23:02
|
|
|
|
 |