 |
: [ Man Utd - Bayern Munich :: ไร้สาระ? ] :
|
|
คำเตือน: "กระทู้นี้ถูกเขียนด้วยอารมณ์ไม่จริงจังกับชีวิต หากคิดจะซีเรียสหรือหาสาระแก่แท้ของชีวิต กรุณาเปิดหนังสือธรรมะหรือดาวน์โหลดวีดีโอพระพยอม"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Intro
"เฮ้ย ไม่ดูแมนฯยูเตะหรือวะ?"
ผมลืมเสียสนิทว่า วันพุธ (7 เมษายน) นี้เป็นนัดชี้ชะตากรรมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับถ้วยหูยาน UEFA Champions League ที่จะเปิดบ้านรับ บาเยิร์น มิวนิค...
[zzz...Clock Alarm...rrrr]
"!" "เชี่ยเอ้ย ไม่ดงไม่ดูแม่มแล้ว แมนฯยูเนี่ย" ร่างอวตารของผมที่ทับซ้อนกับอีกร่างที่งัวเงียตื่นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก พูดกล่อมให้ผมเลิกสนใจเสียงนาฬิกาปลุกและเอาหัวซุกหมอนนอนหลับต่อไป เสียแต่ว่า มันช้ากว่ามือขวาผมที่หยิบรีโมททีวีกดเปิดทีวีไปเรียบร้อยแล้ว
แสงจากซัมซุง 21 นิ้วสว่างจ้าเข้าตาผม แต่ผมก็ยังหรี่ๆ ตาดูภาพในทีวีอย่างเสียมิได้ และก็แอบ "พักสายตา" อยู่เรื่อยๆ เสียดายที่แค่ 2-3 นาที ตาผมก็เปิดอย่างเต็มที่พร้อมกับเสียง ..
"เย้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!" ที่แทรกขึ้นมาแทบจะในทันทีที่ลูกบอลจากปลายสตั๊ดของ ดารอน กิ๊บสัน พุ่งวาบเข้าก้นตาข่าย
และนั่น.. คือจุดเริ่มต้นของความ "ไร้สาระ" ในค่ำคืนนั้น...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"ไร้สาระ"
หากจะนับย้อนถึงความไร้สาระก่อนที่จะมาถึงเมื่อคืนนี้ คงย้อนไปเมื่อวันอังคารที่แล้ว พลันที่ อิวิกา โอลิช กองหน้าทีมชาติอดีตอันดับ 4 ฟุตบอลโลกเมื่อ 12 ปีที่แล้ว โผล่มาจากมุมล่างขวาของหน้าจอ ฉกบอลจากเท้าของ พาทริซ เอฟร่า แล้วลากไปดวลกับ ฟานเดอซาร์ ก่อนจะสังหารเข้าไปไม่เหลือ ร่างอวตารของผมมันก็พูดกรอกหูผมทันทีว่า...
"แม่ม...ไร้สาระจริงๆ"
ราว 12 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เพียงแค่ประเทศบ้านเกิดของ โอลิช ที่ในขณะนั้นน่าจะมีอายุเพียงแค่ 18 ปี จะคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลกอย่างสุดเซอไพรซ์ แต่เพียงไม่นานหลังจากนั้น แมนฯยูไนเต็ด ก็ยิงประตู 2 ประตูรวดจากฝีเท้าของน้าหมีอมโอเล่ ช่วยให้ยูไนเต็ดคว้าถ้วยหูยานเหนือ บาเยิร์น มิวนิค ไปอย่างตื่นตะลึงและแอบหน้าด้านเล็กๆ
พนันด้วยบ้านทั้งหลังบวกด้วยคอลเลคชั่นหนังเอวีทั้งหมดที่มี เชื่อว่า โอลิช คงไม่คิดว่าอีก 12 ปีให้หลัง เขาจะเล่นให้ บาเยิร์น มิวนิค และยิงประตูสำคัญในช่วงทดเวลา (และปกติ) เชือด แมนฯยูไนเต็ด ในถ้วยใบเดียวกันเป็นแน่แท้
แต่ความ "ไร้สาระ" จากประตูช่วงทดเวลาในถ้ำพี่เสือเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ความไร้สาระ เพราะเมื่อคืนนี้ เหตุการณ์ทำนองเดียวกันนั้นได้เกิดขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้ง!
อย่างแรก สำหรับแฟนพี่เสือทั้งของแท้ของเทียม ชะนี เก้ง กว้าง บ่าง ค่าง กระรอก กระแต ฯลฯ คงอดไม่ได้ที่จะคิดว่า "แม่ม ไร้สาระจริงๆ" ที่พี่เสือเสียประตูภายใน 10 นาทีแรกของเกมให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ถึง 3 ประตูใน 2 นัดติดๆ กัน!! ยังไม่นับที่ว่า 2 ใน 3 ประตูนั้นเกิดภายใน 3 นาทีแรกของเกมด้วยซ้ำ
ประการต่อมา พลันที่ ราฟาเอล ดาซิลวา ยกขาขึ้นทำฟาล์วแบ็คซ้ายของพี่เสือ นาย Badmasterbation หลังที่ตัวเองถูกทำฟาล์วก่อนแต่กรรมการแคะขี้ตาอยู่นั้น มันก็ช่าง "ไร้สาระ" เสียจริงๆ ไม่ว่าจะที่กรรมการหรือไลน์แมนไม่ให้ราฟาเอลได้ฟาล์ว หรือการที่เจ้าหนูแบ็คหัวหยิกเกิดทำอะไรไม่ยั้งคิดทำให้โดนใบเหลือโดยไม่จำเป็น
เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากที่ร่างอวตารของ นานี่ แผลงฤทธิ์อย่างหนัก ทั้งกระชากลากเลื้อยส่ายสะโพกขโยกสะเอว นำมาซึ่งผลการแข่งขันอันออกจะ "ไร้สาระ" สำหรับแฟนพี่เสือและกองแช่งทั้งหลายที่ 3-0
แต่นั่นก็ยังจิ๊บๆ เมื่อเทียบกับประตู 1-3 ที่พี่เสือได้ในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา...
เด็กน้อยวัย 18 ปีที่คงวิ่งฉลองกับตำแหน่งอันดับ 4 ของทีมชาติตราหมากรุกเมื่อ 12 ปีที่แล้ว อิวิกา โอลิช ยิงประตู "ไร้สาระ" (อีกแล้ว) ให้ เดอะ เร้ดส์ ต้องเหวอกันไปหลายวินาทีก่อนที่จะคิดออกว่ามันเข้าไปได้ยังไง (วะ)
โอลิช วิ่งเบียดเข้าไปในกรอบเขตโทษกับนายไมเคิ่ล ลูกเจี๊ยบ ก่อนที่ลูกเจี๊ยบจะลงไปกลิ้งหลุนๆ สมชื่อลูกเจี๊ยบ หลังถูก โอลิช เป่าลมใส่ซอกคอ?? อย่างไรก็ตาม ลูกวิ่งเร็วไปถึงริมเส้นหลังด้านซ้าย โอลิช ตวัดยิงมุม (โคตร) แคบกลับเข้ามา และเข้าประตูไปอย่างหน้าด้านที่สุด?? มุมยิงนั้นแคบมากจนพอจะอนุมานได้ว่าถ้าเอาชายไทยพิการขาขาดหนึ่งข้างไปยืนเคารพธงชาติตรงนั้นก็ยังปิดมุมได้มิด??
กรณีนี้ ไม่รู้ว่าใครไร้สาระมากกว่ากัน ระหว่าง นายลูกเจี๊ยบ, ฟานเดอซาร์ หรือ โอเลี้ยง เอ้ย! โอลิช
จะอย่างไรมันก็เป็นประตูอันใสสะอาดและพิลึกพิลั่นสำหรับครึ่งแรก สิ่งที่ยูไนเต็ดได้ คือ ร่างอวตารของนานี่, ข้อเท้าเจ๊งๆ ของเจ้าหมู และ ใบเหลืองของน้องหยิก
ครึ่งหลัง
ความไร้สาระยังคงเกาะกินเกมที่แมนเชนเตอร์ต่อไป สำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ด ความโล่งอกเพียงเสี้ยววินาทีที่ผู้ตัดสินทำเหมือนจะเพิกเฉยต่อ ราฟาเอล ที่วิ่งกวดมากับ ริเบรี่ แถมด้วยปัดเศษหญ้าออกจากเสื้อของพี่บาก(?) จางหายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพี่บากโวยวายและนำมาซึ่งใบเหลืองที่ 2 ของน้องหยิก 19 (อายุ) ที่ต้องเดินจ๋อยออกนอกสนามไป
ถึงกับคอมพ์ฯเจ๊งกันเลยทีเดียว (Chip not found)
แล้วก็เหมือนคนฉายหนังจะหยิบผิดเรื่อง เพราะหนังบู๊สนุกตื่นเต้น (สำหรับ เดอะ เร้ดส์) ในครึ่งแรก กลายเป็นหนังทารุณโหดร้าย เลือดสาด ระเบิดภูเขาเผากระท่อม เมื่อพี่เสือบุกอยู่ข้างเดียวอย่างสนุกสนาน
ทางฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด ก็ทำอะไรไม่ได้มาก แต่ก็ขยับเปลี่ยนซุปเปอร์สตาร์ลงมาแทนซุปเปอร์สตาร์อีกคนที่บาดเจ็บ ..
John O'Shea (The Great) - replace - Wayne Injured Rooney
และ.. "โอ้ววว???" กองหน้าทีมตรูหายไปไหนวะ!!" ร่างอวตารของผมส่งเสียงในหัวอีกครั้ง อดคิดไม่ได้ว่านี่ถ้าต้องเล่นวินนิ่งในสภาพนี้ล่ะก็ วางจอยดีกว่า!!
แต่ก็นั่นล่ะครับ พรีเซนเตอร์หมากฝรั่งแก้เครียดอย่าง เซอร์ อเล็กซ์ ก็ไม่มีทางเลือกอะไรมากนอกจากนั่งเคี้ยวหมากฝรั่งพร้อมลุ้นอยู่ในใจลึกๆ ต่อไป เข้าใจได้ดีว่า หากถอดแผงกองกลางออกไป ที่ว่าง (pause) ย่อมเกิด
และแม้ร่างอวตารของนานี่จะควบเป็นม้ามากแค่ไหน วาสนาของเขาก็ไม่อาจช่วยให้เกมที่เขาเล่นได้ดีมากๆ เกมหนึ่งจบลงแบบ happy songkran เมื่อประตูที่ "ไร้สาระ" เวอร์ชั่น "ปลิดชีพ" บังเกิดขึ้นในช่วงก่อนหมดเวลา 15 นาที
พี่บากโยน (เตะ) ลูกเตะมุมมา ก่อนที่ ร็อบเบน ที่เกมนี้เล่นเหมือนพระเอกหนัง The Invincible วอลเล่ย์ตูมเดียว (เสียวไปทั้งบาง) เข้าประตูไปยิ่งกว่าซาตานจับยัดด้วยตัวเองก็ไม่ปาน ...
ร่างอวตารของผมขอบคุณแจ็คกี้แว้บนึงที่เอ่ยถึงเกม บาเยิร์น-ฟิออฯ ทำให้ได้นึกย้อนไปในเกมนั้นที่ก็นั่งดูเป็นสักขีพยานแห่งความไร้สาระของร็อบเบนมาแล้ว เพราะพี่แกยิงไกลตูมเดียวเข้าประตูไปหน้าตาเฉยในเกมนั้น ทั้งๆ ที่ฟิออฯก็เล่นดี โอ... น่าสงสาร (ตัวเอง)
และก็นั่นล่ะครับ มหากาพย์แห่งความ "ไร้สาระ" สำหรับแฟนแมนฯยูไนเต็ด ก็จบลงไปแบบชอกช้ำด้วยประการล่ะฉะนี้แล มันยิ่งทวีคูณ เมื่อคิดว่า ย้อนไปเพียงแค่ 1-2 ปีก่อนหน้านี้ อย่าว่าแต่นำ 3-0 เลย ให้ยูไนเต็ดนำแค่ 1 ประตูนั่นก็ยากมากๆ แล้วสำหรับคู่แข่งที่จะตามคืนมาได้ ความไร้เทียมทานในอดีตดูจะลอกร่อนไปเหมือนสีทาบ้านราคาปานกลางก็มิปาน.. 
สรุป เช็คยอดบัญชี "ไร้สาระ" (เฉพาะสำหรับแฟนยูไนเต็ด)
1. โอลิช ยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บ ให้พี่เสือชนะยูไนเต็ด 2-1 จากความเลินเล่อของแผงหลังผีแดง
2. หมูเจ็บซ้ำช้ำชอก (อันนี้จริงๆ แล้วก็พอจะเข้าใจ)
3. ใบเหลืองแบบอินโนเซ้นท์ของ ราฟาเอล ณ หยิก
4. ประตูมุมโคตรแคบของ โอลิช (อีกแล้ว)
5. ลูกวอลเล่ย์ผี 9 ป่าช้าจับยัดของ ร็อบเบน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"สาระ"
สิ่งที่ แมนฯยูไนเต็ด พอจะได้อะไรบ้างในเกมนี้ก็ยังมีอยู่เหมือนกัน ประการแรก เราได้เห็นว่า นานี่ สร้างความแตกต่างในเกมได้มากกว่าที่เคยเป็นมามากทีเดียว แม้แต่ (โดยเฉพาะ) กับเกมใหญ่ๆ อย่างนี้ และดูเหมือนว่าร่างอวตารนี้ของนานี่ (น่า) จะคงอยู่ตลอดไป คงไม่กลับไปใช้ Windows 95 อีกแล้ว
พอจะได้เห็นอีกว่า ถ้าเราไม่คิดจะขยับอะไรบ้างในแดนหน้า รูนี่ย์ ก็ต้องรับบทพระเจ้าต่อไป ต้องยอมรับว่ากำลังสำรองในแดนหน้าของยูไนเต็ดในชุดปัจจุบัน ยังอ่อนแรงยิ่งนัก หากเทียบกับเพลานี้ในช่วง 2-3 ฤดูกาลหลังสุด (รุด, ซาฮา, โรนัลโด้, เตฟ) -รูน- (เบิร์บ, โอววเว่น)
และสุดท้าย หากยูไนเต็ดเล่นได้อย่างเกมกับพี่เสือนี้ในโปรแกรมที่เหลือของซีซั่น โอกาสที่จะแย่งแชมป์กับพี่สิงห์ ก็ยังไม่ไกลเกินไปแน่นอน!
เว้นเสียแต่ว่า... โลกนี้มันจะ "ไร้สาระ" อีก!!
แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 14:32:18
จากคุณ |
:
art_sarawut
|
เขียนเมื่อ |
:
8 เม.ย. 53 14:16:43
|
|
|
|  |