Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TIA Column : ไม่ได้อยากทำให้ใครตกชั้นนะ แต่มันจำเป็น  

สกอร์ที่ลิเวอร์พูลชนะ 4-0 ในนัดเยือนทีมหนีตกชั้นอย่างเบิร์นลีย์ ดูโหดร้ายไม่ใช่เล่น ลิเวอร์พูลเล่นดีงั้นเหรอ ...ก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่โชคดีที่ได้ประตูปลดล๊อกมากกว่า ทำให้อะไรดูง่ายขึ้นเยอะ แต่บอกตามตรง ชอบสกอร์นี้จริงๆ ให้ตาย...

เลข 4 มันเป็นเลขที่มีความหมายสำหรับแฟนหงส์อย่างเรายังไงก็ไม่รู้ เป็นเลขแห่งความภาคภูมิใจ ถึงชนะ 8-0 หรือ 6-0 จะดูดีกว่าในแง่ตัวเลข แต่ด้วยคู่ต่อสู้ที่ผ่านมา เลข 4 เป็นเลขที่ให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ทำไมงั้นเหรอ...

...ชนะ เรอัล มาดริด 4-0
...ชนะ แมนยู 4-1

ไม่เป็นปลื้มได้ยังไง และไม่ใช่แค่ที่ชนะเท่านั้น แต่ตัวเลข 4 ในเกมที่ทำให้เราต้องตกรอบ ต้องหมดลุ้นแชมป์มันก็ให้ความรู้สึกภาคภูมิใจไม่แพ้กัน

...เสมอ เชลซี 4-4 ตกรอบ UCL
...เสมออาเซน่อล 4-4 แทบจะหมดลุ้นแชมป์ที่แข่งกับแมนยู

เจ็บปวดมั้ย ...เจ็บ
ผิดหวังมั้ย...ก็แน่นอน

แต่...มันโคตรภูมิใจเลยว่ะ เชื่อจริงๆว่าพวกเรา The kop จะจดจำเกมเหล่านั้นไปอีกนานแสนนาน


นี่แหละที่ทำให้เรารู้สึกผูกพันกับสกอร์เลข 4

ยิ้มทุกครั้งจริงๆที่ลิเวอร์พูลยิงประตูได้ 4 ลูก และกับเกมนี้ก็เช่นกัน แม้คู่แข่งจะเป็นทีมรองบ่อนอย่างเบิร์นลีย์ แต่ด้วยฟอร์มของทีมที่กระท่อนกระแท่นมาตลอดฤดูกาล คู่แข่งกำลังอยู่ในภาวะหลังพิงฝา "แพ้ไม่ได้" เพราะกำลังจะตกชั้น แถมทีมๆนี้ยังเคยล้มยักษ์มาไม่น้อย แล้วลิเวอร์พูลที่กำลังจะกลายเป็น "ยักษ์ล้มที่ลุกไม่ขึ้น" จะเอาชนะได้ง่ายๆเชียวหรือ

ครึ่งแรกถึงออกมาในลักษณะที่เราทุกคนอึดอัดใจ เพราะเบิร์นลีย์ดาหน้าบุกใส่เราอย่างไม่มีทางเลือก และเราเองก็มีโอกาสจะแจ้งเพียงแค่ลูกกลับตัวยิงของเจอร์ราร์ดที่นายทวารคู่แข่งรับได้สบายๆ ยอมรับว่าไม่ได้ดูค่ะ เลยไม่รู้จะพูดถึงฟอร์มของเด็กน้อยอย่างอยาล่าหรือการประสานงานระหว่าง เจอร์ราร์ด - อาควิลานี่ - มักซี่ ได้ยังไง พอรู้แต่ว่า ทั้งสามคนนี้ "เซ้นบอล" ทันกัน และกล้าได้กล้าเสีย ดังนั้น บอลจากแดนกลางของเราจึงสามารถขึ้นไปถึงข้างหน้าได้มากกว่าเวลาที่ลูคัสลงเล่นนั่นแหละ

ครึ่งหลัง จากการประสานงานของกัปตันและอาควิลานี่ ก็นำมาซึ่งประตูแรก ปลดล๊อกให้ทีมจนได้ การได้อาควิลานี่มาช่วยทำเกมแดนกลาง ทำให้เจอร์ราร์ดมีพื้นที่มากขึ้น หาจังหวะ หาโอกาสได้มากขึ้น ถ้าลองนึกย้อนไปตอนที่ราฟาใช้ลูคัสยืนคู่มาสเคราโน่ จะรู้สึกได้เลยว่า ลูคัสจ่ายบอลช้า แถมยังไม่จ่ายไปข้างหน้า ซึ่งก็เพราะคิดช้า ทำช้า เกินไปนั่นแหละ ทำให้คู่ต่อสู้ลงไปแพ็คเกม จับตายกองหน้า จับตายกัปตันจนไม่มีพื้นที่จะเล่นได้อีก แต่อาควิลานี่ไม่เป็นแบบนั้น เขาค่อนข้างจะเร็วและเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตลอดเวลา แม้จะจ่ายเสียไปบ้าง แต่ก็เป็นธรรมดาของการเสี่ยงเล่น เพราะถ้าจ่ายหลุดไปก็หวังผลได้เลยทีเดียว

ก็ไม่รู้จะสวดภาวนายังไงให้ราฟากล้าๆเสี่ยงบุกแลกหน่อยในเกมที่เหลือ และในฤดูกาลหน้าถ้ายังอยู่ด้วยกันต่อไป

ลูกที่สองของกัปตันนี่ พอได้เห็นชัดๆ ทำให้คิดถึงลูกฟรีคิกโค้งสะท้านโลกของโรแบโต้ คาร์ลอส จริงๆ แม้ว่าลูกยิงของพี่เจิดจะไม่ใช่ฟรีคิก และยิงด้วยเท้าขวาไซส์โป้ง แต่มันก็โค้งได้ใจมากๆ เห็นแล้วกรี๊ดแทบบ้านแตก เพราะมันสมบูรณ์แบบจริงๆ ...ดีใจจนพูดไม่ออกกับประตูนี้ของเจอร์ราร์ด เขาไม่ได้ยิงประตูแบบนี้ให้เราได้ชื่นชมกันมานานเหลือเกิน จนเพื่อนๆบางคนอาจจะกลัวว่าจะไม่ได้เห็นอีก แม้เราจะเป็นแม่ยกกัปตัน แต่เราก็ยอมรับนะว่า ฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดฟอร์มตกลงไปมาก ไม่ต้องเทียบกับฤดูกาลที่แล้วก็ได้ เทียบกับฤดูกาลที่ฟอร์มปกติธรรมดา ฤดูกาลนี้ต้องใช้คำว่า "ต่ำกว่ามาตรฐาน" เลยทีเดียว แต่ก็เชื่อว่า พวกเราทุกคนที่รักลิเวอร์พูลต่างกันเอาใจช่วยให้กัปตันของเรากลับมาเป็นคนเดิม เล่นได้แบบเดิม ยิงประตูแบบที่เคยยิงได้ จ่าย killer pass อย่างที่เคยทำได้ และทำทุกอย่างให้ทีมอย่างที่เคยทำ ไม่ใช่เพราะเราหวังจะพึ่งแต่เขา แต่เพราะเขาคือคนที่เราทุกคนรักและชื่นชม เราทุกคนปรารถนาจะเห็นเขาโชว์ฟอร์มได้ดี และไม่ใช่เพื่อทีมเท่านั้น แต่เพื่อตัวเขาเองกับโอกาสในการเป็นตัวจริงของทีมชาติอังกฤษด้วย ดังนั้นการได้เห็นลูกยิงแบบที่กัปตันเคยทำได้เสมอๆ มันก็อดชื่นใจไม่ได้

สำหรับลูกที่ 3 มันเป็นการจ่าย killer pass ที่เฉียบขาดมากจริงๆของอาควิลานี่  และมักซี่ก็ยิงได้คมมากๆ หลายคนอาจจะคิดในใจว่า ถ้าเป็นลูคัส เราคงไม่มีบุญตาได้เห็นหรอก ...แต่ช้าแต่... ลูคัสกลับจ่ายบอลหลุดเดียวให้บาเบลบ้างในลูกที่ 4 ฮ่าฮ่าฮ่า

อยากจะบอกว่า ลูคัสน่ะ มีดีในตัวนะ แต่เขาไม่ใจกล้ามากเท่าอาควิลานี่เท่านั้นเอง การที่ลูคัสมักจ่ายบอลออกข้างตัวหรือส่งกลับหลัง ก็เพราะเขาไม่มั่นใจที่จะจ่ายไปข้างหน้า แต่เมื่อถึงวินาทีที่เขามั่นใจ เขาก็ทำได้ เพียงแต่มันเกิดขึ้นน้อยครั้งอย่างเหลือเกินเท่านั้นเอง ถ้าเขาจะยังเป็นนักเตะที่สวมชุดแดงเพลิงของเราต่อไป เราทุกคนคงทำได้แค่เพียงเอาใจช่วยให้เขา "กล้า" มากขึ้น

กับชัยชนะในนัดนี้ ก็อย่างที่บอกไว้ที่ชื่อคอลัมน์นั่นแหละค่ะ เราไม่ได้อยากจะทำให้ทีมไหนตกชั้นจริงๆ แต่ว่าเราก็ไม่มีทางเลือก บ้างครั้ง ฟุตบอลมันก็โหดร้ายแบบนี้แหละ เบิร์นลีย์ได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว และกองเชียร์ของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมมากๆ ที่ยังคงร้องเพลงเชียร์นักเตะแม้เราจะนำไปถึง 3-0 แล้วก็ตาม

การได้เห็นภาพกองเชียร์ของทีมฟุตบอลทีมหนึ่งยืนขึ้นร้องเพลงให้ทีมที่กำลังจะพ่ายแพ้ถึงขั้นตกชั้นของตัวเอง มันทำให้เราเกิดความรู้สึกสะท้อนถึงทีมรักของเราเหมือนกัน

...ถ้าทีมเราตกอยู่ในสภาพแบบนั้นบ้าง เราจะยังยืนหยัดได้แบบนั้นมั้ย

มองข้ามสภาพเป็นจริงของทีม มองข้ามประวัติศาสตร์ของทีม มองข้ามความยิ่งใหญ่ที่เราแสนจะภาคภูมิใจของทีม ...ลิเวอร์พูลก็เป็นเพียงทีมฟุตบอล 1 ใน 20 ทีมที่มีสิทธิ์จะต่อสู้เพื่อให้ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งมีสิทธิ์จะเป็นทีมชนะได้แชมป์ หรือไม่ได้แชมป์ก็ได้ และมีสิทธิ์ที่จะพ่ายแพ้ถึงขั้นไม่มีสิทธิ์จะแข่งขันในรายการนี้เช่นกัน

หลายคนอาจจะบอกว่า "เว่อร์...ลิเวอร์พูลไม่มีทางตกชั้นหรอก" แต่อะไรในโลกนี้ก็เป็นไปได้ทั้นนั้น ขนาดฤดูกาลนี้ เรากำลังจะหลุดโควต้าแชมป์เปี้ยนลีกส์ จะปฏิเสธมั้ยล่ะว่า พวกเราไม่ผิดหวัง เสียใจ

พวกเราต่างก็ผิดหวังกันทุกคน แต่เราก็ยังได้สู้ต่อในลีกสูงสุดของประเทศ

แม้ความหวังของ The kop อย่างเราจะสูงกว่าความหวังของกองเชียร์เบิร์นลีู้ย์ แต่ไม่ว่าความหวังนั้นจะยิ่งใหญ่หรือน้อยนิดขนาดไหน มันก็ยังมีคุณค่าต่อผู้คนที่รักในทีมของเขาที่ไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิ์จะไปดูถูกมิใช่หรือ

ถือโอกาสนี้อวยพรให้เบิร์นลีย์โชคดี ได้กลับสู่พรีเมียร์ลีกส์เร็วๆ ส่วนพวกเรา ลิเวอร์พูล ก็ต้องพยายามต่อไปกับสิ่งที่พวกเราหวัง

แต่ที่สำคัญที่สุด ...อย่าสิ้นหวังเป็นอันขาด

แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 20:31:35

แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 20:29:02

แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 53 20:24:57

 
 

จากคุณ : howk_ky
เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 53 20:20:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com