Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ตัวสำรอง (ภาค 2)  

**********

สวัสดีค่ะ พ่อแม่ พี่น้อง ชาวพันทิปที่รักทั้งหลาย

    ช้อยเองค่ะ เป็นน้องสาวพี่ซิ้มในนิยายเรื่อง "ตัวสำรอง" ที่คุณๆ อาจเคยอ่านมาบ้าง ถ้ายังไม่เคย และอยากรู้ความเป็นไป ก็เชิญอ่านได้ที่กระทู้ข้างบนโน่น แล้วมาอ่านนี่ต่อ จะได้ต่อเนื่องกัน แต่หากจะไม่อ่าน จะอ่านเรื่องนี้อย่างเดียวก็พอรู้เรื่องนะคะ เพราะภาคแรกกับภาคนี้มันคนละเรื่องกันเลย คนละแบบน่ะ ภาคนี้แสดงเป็นผู้หญิง มันพิลึกๆ เขินๆ ค่ะ แต่ก็หยวนค่ะ อิอิ

    ช้อยเป็นห่วงค่ะ เพราะท่ามกลางความสับสนที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด แล้วจะไม่สบายใจกัน แต่ยังสิ่งเดียวที่จะทำให้เราสบายใจอยู่ได้ มันอยู่ที่เราคิดค่ะ เราจะคิดว่ามันเศร้าก็ได้ หรือจะเห็นเป็นเรื่องตลกก็ได้ อยู่ที่เรามอง โดยยึดมั่นความถูกต้องเป็นหลัก ยังไงก็ไม่มีอะไรทำอันตรายได้ นั่นคือสัจจะธรรม พระอาจารย์สอนช้อยมาค่ะ

    แต่บางที บางท่านอาจยังปรับใจและการมองไปในด้านที่ทำให้สุขใจไม่ได้ ก็เชิญลองอ่านนิยาย ตัวสำรอง (ภาค2) นี้ดู แล้วปล่อยใจตัวเองให้ลองพิจารณาตาม ซึมซับเอาความสนุกสนาน (ถ้ามี) เพื่อจะได้ทำใจลืมความเครียดที่มีอยู่ตอนนี้ ไม่แน่ว่า ความสนุก ความตื่นเต้น และอะไรที่มันเว่อร์ๆ ที่จะพิสูจน์ให้ตัวคุณเห็นเองว่า คุณมองโลกแง่ไหน แล้วอีกแง่หนึ่งเป็นอย่างไร ถ้าคุณอ่านแล้วสนุก แปลว่าคุณบรรลุแล้ว เพราะมันอาจไม่สนุก แต่คุณอ่านให้สนุกได้ ต้องนับว่ายอด อิอิ

    เหตุการณ์ต่างๆ ของประเทศตอนนี้ สอนช้อยหลายอย่าง ได้เห็นสัจจธรรมของคำว่า คน นั้นเป็นอย่างไร นั่นแหละคือการพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ได้เรียนรู้ด้วยราคาที่อาจจะแพง แต่ต้องพิจารณากันให้ลึกซึ้งหน่อย ลองถามครูบาพระอาจารย์ที่ไหนก็ได้ว่า คนนั้นคืออย่างไร ให้ท่านอธิบายให้ฟัง แล้วคุณจะเห็นเองว่า ต้นเหตุทั้งปวงนั้นคืออะไร มองเหมือนเรากำลังดูละครโรงใหญ่ พิจารณาตัวละครแต่ละตัวให้ดี อย่าเอารมณ์ไปปนมากนัก ช้อยเชื่อว่า ใครๆ ก็จะบอกได้ว่า ตัวละครตัวไหน เป็นอย่างไร


    เชิญอ่านนิยายโม้ๆ ได้เลยค่ะ.....



    บทนำ


    “กอล์ฟเป็นกีฬาที่ฝืนในความรู้สึก ผู้เล่นจำเป็นจะต้องมีความเข้าใจเป็นปฐมบท ถึงจะมีโอกาสเล่นได้ดี” นั่นเป็นคำพูดของน้องจีนที่บอกฉันในวันแรกที่ฉันตัดสินใจจะเล่นกอล์ฟ น้องจีนยังบอกต่อว่า “ส่วนจะเก่งหรือไม่อยู่ที่การฝึกฝน ทั้งร่างกายและจิตใจ”

    ฉันไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะทุกคนในบ้านและเพื่อนๆ ต่างเล่นกอล์ฟกันหมด ไม่ว่าจะเป็นพี่เถื่อนซึ่งเป็นสามีของพี่ซิ้ม ซึ่งเป็นพี่สาวของฉัน ที่ยังเล่นกอล์ฟอยู่ แม้ดูเหมือนฝีมือจะดีขึ้น แต่ยังไงก็ไม่มีทางที่จะตามพี่ซิ้มทัน เพราะพี่ซิ้มเล่นกอล์ฟเป็นหลัก ทำงานเป็นเรื่องอดิเรก และยังรู้จักประยุกต์เอาวิชาความรู้ที่ได้รับจากพระอาจารย์มาฝึกฝนจิตใจได้ดี จะมีก็ช่วงระยะนี้เองที่พี่ซิ้มซ้อมและเล่นกอล์ฟน้อยลง เพราะพี่ซิ้มกำลังมีครรภ์อ่อนๆ

    พี่ซ้งซึ่งเป็นเพื่อนรักคนหนึ่งของพี่ซิ้มและพี่เถื่อน ที่แสนจะรังเกียจกีฬากอล์ฟก็ยังต้องหันมาเล่นกอล์ฟเพราะพี่ซิ้มสั่ง เพราะพี่ซิ้มเป็นคนเอาพี่ซ้งเข้าทำงานในบริษัทหนึ่งในเครือของเรา เลยกลายเป็นลูกน้องของพี่ซิ้มไปโดยปริยาย ซึ่งไม่ว่าพี่ซิ้มจะสั่งอะไร นอกจากพี่ซ้งจะต้องทำตามโดยหน้าที่ และยังพร้อมจะทำให้ด้วยใจ เพราะต่างคบหากันมานาน
    พอพี่ซ้งเล่นกอล์ฟ จี้ซึ่งเป็นน้องสาวของพี่เถื่อนและเป็นแฟนของพี่ซ้ง จึงจำต้องเล่นกอล์ฟด้วย เพราะไม่รู้จะหันไปทำอะไรคนเดียว ในขณะที่เพื่อนๆ ของจี้ที่เป็นแอร์ของสายการบินเดียวกัน ต่างก็เล่นกอล์ฟกันเป็นทิวแถว จี้เลยเล่นด้วย และดูเหมือนพัฒนาไปเร็วกว่าพี่ซ้ง เพราะพี่ซ้งมีแต่แรง เวลาตีกอล์ฟจะเอาไกลเข้าว่าอย่างเดียว โดยไม่สนใจว่า ลูกกอล์ฟจะไปไหน
    ฉันก็เลยต้องเลือกเล่นกอล์ฟด้วย ทั้งที่ไม่ค่อยชอบ เพราะทำให้ผิวเสีย ทำให้กลายเป็นนักกอล์ฟที่เรื่องมาก มีเงื่อนไขมากมายเช่น ต้องเล่นเฉพาะเช้าตรู่ หรือเย็นเท่านั้น และคงไม่ต่างจากผู้หญิงเล่นกอล์ฟทั่วไปที่ต้องแต่งกายและเครื่องป้องกันสารพัด ที่ดูไม่ออกหรอกว่าใครเป็นใคร เพราะไม่มีผิวเนื้อส่วนไหนของร่างกายที่เผยให้เห็น เหมือนมัมมี่ไม่มีผิด
    และเมื่อฉันเริ่มเล่นกอล์ฟก็เริ่มติดใจ เพราะกอล์ฟเป็นกีฬาที่เร้าความอยาก หรือกิเลสที่มีอยู่ในใจของเราให้ลุกโชนขึ้นมา เรียกว่า ความอยากเอาชนะ
     แต่สำหรับคนที่ไม่เข้าใจ จะไม่รู้ว่า จะเอาชนะสนามกอล์ฟได้อย่างไร เพราะสนามกอล์ฟมันอยู่ของมันเฉยๆ ใครจะทำคะแนนเท่าไรไม่ใช่ธุระ นักกอล์ฟจึงต้องรู้ว่า การจะเอาชนะสิ่งใดได้ ต้องชนะใจตัวเองเสียก่อน เมื่อนั้น กอล์ฟจะไม่มีความหมายอะไรสำหรับผู้เล่นนั้นๆ อีกต่อไป

    พี่ซิ้มช่วยจัดการติดตั้งตาข่ายขนาดใหญ่ สำหรับไว้ซ้อมกอล์ฟที่บ้านให้ด้วย
    ฉันก็เลยต้องซ้อม เพราะไหนๆ พี่ซิ้มก็ลงทุนให้มากมายขนาดนี้แล้ว พี่เถื่อนก็เลยต้องหาเวลาซ้อมด้วยๆ ความเกรงใจภรรยา ฉันเลยถือโอกาสให้พี่เถื่อนช่วยสอนมวยไทยให้ฉันด้วย พี่เถื่อนทำหน้าเหมือนกินยาถ่าย ไม่อยากเชื่อว่าฉันอยากซ้อมมวย ก็แค่เหตุผลง่ายๆ ว่า เอาไว้ป้องกันตัว พี่เถื่อนเลยต้องให้พี่ซิ้มจัดการเรื่องนวม กระสอบทราย และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายด้วย และสอนให้ฉันรู้จักวิธีการตั้งการ์ด การออกหมัดหนึ่งสอง การเตะ ใช้ศอก และเข่า เรียกว่าครบเครื่องมวยไทย สรุปก็คือ ซ้อมกอล์ฟไปด้วย ซ้อมมวยไปด้วย และวิ่งออกกำลังกายไปรอบๆ บริเวณบ้าน รอบหนึ่งเป็นหนึ่งกิโลเมตรเศษ
    ฉันไม่อยากเชื่อตัวเองว่า หลังจากที่ได้ออกกำลังกายแบบหนักๆ ที่เคยคิดว่าร่างกายจะรับไม่ได้ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิง แต่จริงๆ แล้ว การออกกำลังกายทุกวัน เริ่มจากวันละน้อยและเพิ่มมากขึ้นทำให้รู้สึกว่า ตัวเองจะกลายเป็นยอดหญิงมหัศจรรย์ สามารถวิ่งรอบบริเวณบ้านได้เป็นสิบรอบ และตั้งใจว่า ว่างๆ จะท้าน้องจีนวิ่งแข่งสักครั้ง

     น้องจีนซึ่งเป็นลูกสาวแท้ๆ ของพี่แอนกับพี่เถื่อน แต่เป็นลูกเลี้ยงของพี่แดนซึ่งเป็นสามีแท้ๆ ของพี่แอน ซึ่งความลับนี้ยังไม่เปิดเผย น้องจีนยังไม่ทราบว่า ใครเป็นพ่อที่แท้จริง และพี่แดนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อที่แท้จริงของน้องจีนเช่นกัน ในขณะที่คนอื่นๆ ที่แวดล้อมต่างรู้กันหมด จึงอยู่ที่เวลาที่จะเผยความจริงออกมาเอง หรือจะเป็นความลับตลอดไป เป็นเรื่องที่สุดจะคาดเดาได้
    ฝีมือกอล์ฟของน้องจีนนั้นพัฒนาไปอีกระดับหนึ่ง เริ่มด้วยการเป็นนักกอล์ฟทีมโรงเรียน ไล่ล่าชัยชนะมานับไม่ถ้วน เป็นดาวที่กำลังจรัสฟ้า ที่ฉันดูก็รู้ว่า น้องจีนจะต้องเป็นนักกอล์ฟหญิงที่มีชื่อของประเทศแน่นอน และอาจก้าวไปไกลถึงระดับโลก อยู่ที่ว่า น้องจีนจะเลือกเดินเส้นทางใดระหว่าง การเล่นกอล์ฟเป็นอาชีพ หรือประกอบสัมมาชีพอื่นที่เธอมีสิทธิเลือกได้ เพราะน้องจีนเรียนหนังสือเก่ง และชอบการออกแบบ อยากเป็นสถาปนิก

    น้องปี ซึ่งเป็นน้องสาวคนใหม่ของพี่เถื่อนเล่นกอล์ฟได้ดี และพัฒนามากขึ้นทุกวัน เพราะน้องปีมีทักษะด้านกีฬาอยู่มาก และกลายเป็นเพื่อนรักของน้องจีน น้องปีก็เรียนหนังสือเก่ง แต่อยากเป็นครู ซึ่งฉันก็ว่าดี เพราะเห็นว่า น้องปีน่าจะเป็นครูที่ดีได้

    เด็กสาวสองคนมีทั้งส่วนที่คล้ายคลึงกันและแตกต่างกัน จะเป็นอย่างไร ต่างคนต้องพิจารณากันเอาเอง ตัดสินกันเอาเอง

    คุณพ่อของพี่เถื่อนก็เล่นกอล์ฟด้วย แต่ดูเหมือนท่านจะพอใจกับการได้ออกกำลังกายที่ได้เดินท่องไปในสนามกอล์ฟ ที่มีธรรมชาติสดชื่นในยามเช้า โดยไม่ค่อยสนใจกับฝีมือสักเท่าไร และเล่นเป็นเพื่อนกับน้องปีอยู่เสมอๆ

    เมื่อฉันบอกอ๊อด เจ้าของรีสอร์ทเล็กๆ ที่ลำปาง ที่ฉันกำลังดูใจอยู่ ว่าฉันเริ่มเล่นกอล์ฟ อ๊อดหัวเราะเป็นวรรคเป็นเวร และบอกว่า กอล์ฟเป็นกีฬาที่ปัญญาอ่อนที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา เขาไม่เคยสนใจ ไม่ยอมรับรู้อะไรเกี่ยวกับกอล์ฟทั้งสิ้น ถึงขนาดยังไม่รู้เลยว่า สนามกอล์ฟมีทั้งสิ้น 18 หลุม แต่ก็ยังรู้ว่า ไทเกอร์ วูดส์ เป็นใคร และให้ความเห็นเกี่ยวกับไทเกอร์ว่า ไทเกอร์มีความเป็นไทยมากกว่าอะไรทั้งสิ้น เพราะชื่อมีคำว่า ไท นำหน้า ไม่รู้ว่าอ๊อดคิดอะไรอ่อนๆ แบบนั้นออกมาได้ยังไง ฉันล่ะอ่อนใจแทน
    ในความรู้สึกของฉันต่ออ๊อดนั้น ฉันยังไม่รู้สึกถึงกับรัก แค่เห็นว่า เขาน่าสนใจมากกว่าผู้ชายคนอื่นที่ฉันเคยคบหา เขาดูเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก น่าจะเป็นคนที่ซื่อสัตย์ ขยันหมั่นเพียร เป็นคนสนุกสนาน เป็นมิตร เข้ากับใครๆ ได้ง่าย และอื่นๆ ในด้านที่ค่อนข้างดี แต่นั่นเป็นเพียงระยะเวลาช่วงสั้นๆ ที่เราได้รู้จักกัน ได้คุยกันทางโทรศัพท์อยู่เนืองๆ แต่ธาตุแท้นั้นเป็นเรื่องของกาลเวลาที่จะพิสูจน์ให้เห็น



(โปรดติดตามต่อไปนะคะ)

จากคุณ : thongprakai
เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 53 23:44:28




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com