ความคิดเห็นที่ 1 การจัดทัพของสตีฟ บรู๊ซ กุนซือซันเดอร์แลนด์ในวันนี้ ถึงแม้ไม่ใช่ชุดใหญ่ที่ดีที่สุด ด้วยนักเตะชื่อชั้นที่เราคุ้นหูคุ้นตา แต่บรู๊ซซี่นั้นก็สามารถเข็นทีมๆนี้ให้เล่นได้แข็งแกร่งในบ้านมากๆ ด้วยสถิติ (ที่ผมได้ยินมาว่า) เพิ่งพ่ายแพ้คาบ้านแค่สองนัดเท่านั้นในซีซั่นนี้ เกมนี้ เราจึงได้เห็นนักเตะดีกรีรองๆลงมาบ้างลงสนามกันมาด้วย ผู้รักษาประตูได้แก่ เคร็ก กอร์ดอน แผงหลังสี่ตัวประกอบไปด้วยฟิล บาร์ดสลี่ย์, ไมเคิล เทอร์เนอร์, จอห์น เมนซ่าห์ และ คีแรน ริชาร์ดส์สัน โดยไม่มีเงาร่างของ อลัน ฮัตตัน, แอนทอน เฟอร์ดินานด์ หรือแม็คคาร์ทนี่ย์ แต่อย่างใด ส่วนแผงมิดฟิลด์วันนี้ บรู๊ซซี่ส่ง สตีด มาลบร็องก์, ลอริค คาน่า, เดวิด เมย์เลอร์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไม่มีชื่อของ เบาเดอไวน์ เซนเด้น, หรือ แอนดี้ รีด ในสนาม ส่วนคู่กองหน้านั้น วันนี้มี เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ และ ดาร์เรน เบนท์ โดยที่มีเคนวิน โจนส์ เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น สำหรับทัพนักเตะของท่านเซอร์อเล็กซ์ ที่วันนี้มีเพียงภารกิจเดียวที่ต้องทำให้ได้ นั่นก็คือเก็บสามแต้มเป็นไฟต์บังคับ ไม่งั้นก็โบกมือลาถ้วยแชมป์ไปเลยตั้งแต่วันนี้ เกมนี้ท่านเซอร์ปรับทัพเล็กๆในแดนกลาง โดยไม่มีอันโตนิโอ วาเลนเซีย ซึ่งคาดว่าจะบาดเจ็บจากนัดที่แล้วนั่นเอง เกมนี้ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ยังคงได้เฝ้าเสาต่อไป แผงหลังสี่ตัวประกอบไปด้วย จอห์น โอเชีย, เนมานย่า วิดิช, จอนนี่ เอแวนส์ และ ปาทริซ เอวร่า วันนี้ท่านเซอร์มาด้วยแท็คติค 4-4-2 ทั้งๆที่เป็นทีมเยือน แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะบุก บุก บุก เท่านั้น มิดฟิลดคู่กลางนั้น มีพอล สโคลส์ และดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ริมเส้นมีนานี่ลากทางขวา และไรอัน กิ๊กส์ ทางซ้าย คู่กองหน้าวันนี้ เวย์น รูนี่ย์ คัมแบ๊คกลับมาได้ และได้ยืนคู่กับดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟต่อไป และมีชื่อโอเว่น ฮาร์กรีฟส์ในรายชื่อผู้เล่นสำรองเป็นนัดที่สองติดต่อกัน จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:16:10

ความคิดเห็นที่ 2 เกมที่เกิดขึ้นนั้น ผมต้องบอกว่ากรรมการในวันนี้ ซึ่งได้แก่สตีฟ เบ็นเน็ตต์ นั้นทำหน้าที่วันนี้แบบค่อนข้างปล่อยเกมมากเกินไป แล้วหลายต่อหลายครั้งมันก็สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายๆ ซึ่งจังหวะการเข้าสกัดรุนแรงในเกมนี้มันก็เกิดขึ้นบ่อยๆกับทั้งสองทีมนั่นแหละ แต่การที่เบ็นเน็ตต์ปล่อยเกมไหลมากเกินไปตั้งแต่ช่วงแรก มันก็คือการสร้างบรรทัดฐานในเกมนั้นให้เกิดขึ้นไปแล้ว ว่าการเข้าแบบนี้คือฟาล์วนะ แบบนี้คือแฟร์นะ ทำให้นักเตะทั้งสองทีมเริ่มจะเข้าแท็คเกิ้ลกันแรงขึ้นๆตามนาทีที่ผานไป เห็นการเข้าสกัดกันแต่ละครั้งผมนี่แบบ...เอ่อ... ไม่กลัวแข้งขาหักกันบ้างรึไงเนี่ย ฝั่งยูไนเต็ดนั้นก็เข้าใจว่าเป็นเพราะแรงกดดันที่จะแพ้ไม่ได้ หากยังต้องการลุ้นแชมป์ต่อไปในอีกหนึ่งนัดที่เหลือ ส่วนทางฝั่งเจ้าบ้านนั่นก็พกศักดิ์ศรีการเป็นเจ้าบ้านลงมาเต็มพิกัด สถิติที่ดีเยี่ยมก็บ่งบอกอยู่แล้วว่า ในบ้านนี้ แมวดำไม่เคยเกรงกลัวใคร ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่ค่อนข้างเร็ว และรุนแรงกันพอสมควร แต่ดีที่ทั้งสองฝ่ายยังเก็บอารมณ์ให้มันพล่านอยู่เฉพาะแต่ในเกม ไม่ได้เลยเถิดให้ออกมาปะทุข้างนอกแต่อย่างใด มาว่ากันถึงรูปเกมกันบ้าง เกมนี้ซันเดอร์แลนด์เจ้าบ้านเน้นการเพรสซิ่งเร็วทั่วทั้งสนาม จะว่าไป ยูไนเต็ดเองก็เหมือนจะมาเล่นพรสซิ่งเช่นกัน แต่เมื่อเข้ามาสู่เกมการแข่งขันจริงแล้วกลายเป็นซันเดอร์แลนด์สามารถวิ่งสู้ฟัดได้ดี ทั่วถึง และเร็วกว่านักเตะแชมป์เก่าอยู่ระดับหนึ่ง อาจเป็นเพราะตัวนักเตะของยูไนเต็ดที่ลงมานั้น  ทั้งสโคลส์ และกิ๊กส์ ทำให้ตรงกลางก็เพรสซิ่งได้ไม่ดีนักอยู่แล้วจากอายุอานาม รวมถึงสไตล์การเล่น ไหนจะนานี่ และเบอร์บาตอฟเองก็ไม่ใช่พวกที่นิยมเพรสซิ่งด้วยซ้ำไป แถมตรงกลางวันนี้ทีมเยือนก็มีเพียงสองตัวที่ยืนค้ำพื้นที่กลางสนาม ทำให้วิ่งไล่บดไล่บี้ได้ไม่ดีนัก ไม่เหมือนยามที่จัดทัพเล่นด้วยระบบตัวกลางสามคน ทั้งหมดนี้ทำให้เกมเพรสซิ่งของเจ้าบ้านทำได้ดีกว่า ทำได้ทั่วถึงกว่า และหนักหน่วงรุนแรงกว่า ทำให้เมื่อเล่นไปเล่นไป ก็เลยกลายเป็นยูไนเต็ดต้องพยายามครองบอลหนีการเพรสซิ่ง และถ่ายบอลเร็วออกบอลเร็วตลอดเวลา จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:19:29

ความคิดเห็นที่ 3 เกมของซันเดอร์แลนด์ถึงแม้จะครองบอลได้น้อยกว่า แต่การประสานงานและเคลื่อนเกมขึ้นหน้าทั้งด้วยวิธีการทำชิ่งให้บอล หรือสาดบอลยาวขึ้นหน้านั้น ทำได้ค่อนข้างดีและลงตัว มาลบร็องก์ และเฮนเดอร์สัน ที่วันนี้ถูกวางเป็นตัวริมเส้นนั้น สามารถครองบอลลากลัดเลาะกดดันฟูลแบ๊คสองข้างของยูไนเต็ดได้ดีมากๆ โดยเฉพาะฝั่งขวาที่มีจอห์น โอเชียรับบทหนัก เพราะนานี่ช่วยเล่นเกมรับได้ไม่เด่นนักนั่นเอง แต่เพียงไม่นานนัก บรู๊ซซี่ก็ต้องคิดหนักก่อนเวลา เมื่อเพียงแค่นาทีที่ 17 จอห์น เมนซ่าห์ ก็มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้น และต้องเปลี่ยนตัวออกโดยบรู๊ซได้ส่ง แม็ทธิว คิลกัลล่อนลงมาแทน นั่นอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของการวางแท็คติคเกมรับของบรู๊ซก็เป็นได้ แต่เมื่อผมไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ซันเดอร์แลนด์ ผมจึงบอกความแตกต่างระหว่างจอห์น เมนซ่าห์ และ แม็ทธิว คิลกัลล่อนในแผงหลังซันเดอร์แลนด์ไม่ได้ ทีนี้ เมื่อแผงหลังต้องเปลี่ยนกะทันหัน การปรับตัวของแผงหลังชุดใหม่ให้รับกับสถานการณ์ในขณะนั้นจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ และยูไนเต็ดก็ฉกฉวยโอกาสที่ว่านั้นเอาไว้ได้ เมื่อพยายามบุกขึ้นหน้ามากขึ้นกว่าเดิม จนในที่สุด หลังจากพยายามมาหลายครั้ง เมื่อการประสานงานที่ลงตัวจากตรงกลางทั้งรูนี่ย์, เบอร์บาตอฟ และเฟล็ทเชอร์ บอลถูกเปิดเข้ามาหลุดทะลุมาถึงเสาสองทางกรอบเขตโทษทางฝั่งขวา นานี่สอดเติมขึ้นมาเพียงคนเดียวโดยไม่มีกองหลังเข้ามาคุม และนานี่ก็จัดการยิงด้วยอีขวาติดไซด์ก้อยให้ลูกพุ่งหนีมือเคร็ก กอร์ดอน ก่อนจะเลี้ยวมุดเข้าหน้าต่างเสาแรกอย่างสุดสวย ช่วยให้แชมป์เก่าปลดล็อคได้ประตูที่ต้องการตั้งแต่นาทีที่ 28 เท่านั้น จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:20:06

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากนั้น เกมของซันเดอร์แลนด์ก็แผ่วลงไป กลายเป็นการครองบอลของของทีมเยือนที่พยายามหาช่องบดเอาประตูที่สองต่อไป แต่เกมสวนกลับของซันเดอร์แลนด์ก็เปี่ยมไปด้วยพิษสงไม่แพ้กัน มาลบร็องก์ และเฮนเดอร์สันคือคีย์แมนในการเก็บและพาบอลขึ้นปั่นป่วนแนวรับแชมป์เก่า แต่โชคร้ายที่วันนี้ทั้งดาร์เรน เบนท์ และ เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ ต่างก็ไม่ได้อยู่ในวันที่ดีของพวกเขา ทั้งคู่ไม่สามารถแหวกฝ่าแนวรับภูผาหินของแชมป์เก่าเข้าไปหาโอกาสงามๆจะจะได้ จังหวะยิงของซันเดอร์แลนด์ส่วนมากจึงเป็นการยิงไกลจากนอกกรอบบ้าง หรือจังหวะที่มาได้ลุ้นจากลูกตั้งเตะ ลุกเตะมุมบ้างเท่านั้น ซึ่งหากผ่านตัวประกบผ่านตัวบล๊อกไปได้ มันก็ไม่ผ่านมือน้าซาร์เช่นกัน แล้วฟ้าก็ผ่าลงมาที่หน้าผากของบรู๊ซซี่อีกกระทอก เมื่อเดวิด เมย์เลอร์มีอาการบาดเจ็บปลายครึ่งแรก และต้องถูกแทนที่ด้วย ลี แค็ตเทอร์โมล ซึ่งก็ถือเป็นขาโหดคนหนึ่งของวงการเช่นกัน ครึ่งหลังเกมยังคงเหมือนเดิม ยูไนเต็ดพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะส่องประตูเพิ่มให้ได้ แต่ติดที่โชคไม่เข้าข้าง หากเบนท์ และแคมป์เบลล์ไม่ได้อยู่ในวันที่ฟอร์มดีของทั้งคู่แล้ว เบอร์บาตอฟก็คงต้องอยู่ในวันที่โชคร้ายนั่นแหละ ทั้งๆที่พยายามอย่างมากแล้วในทุกๆจังหวะ แต่เจ้าตัวกลับตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายได้ไม่เด็ดขาดพอในทุกๆจังหวะ ทั้งการลากพาบอลแหวกฝ่ามาตั้งไกล แต่กลับมาถูกแซะ ถูกเบียดในจังหวะสุดท้ายที่ควรจะต้องออกบอลหรือตัดสินใจยิงไปก่อนแล้ว ทั้งจังหวะที่เข้าชาร์จเหน่งๆแต่กลับไม่แม่นยำหรือลงตัวเข้าล็อค ทั้งจังหวะขึ้นโหม่งจ่อๆที่เทคได้สูงกว่าแต่กลับถูกกองหลังที่อยู่ต่ำกว่าชิงโหม่งสกัดไปได้ การพลาดแต่ละลูกของเบอร์บาตอฟยิ่งตอกย้ำให้คนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขายิ่งเจ็บปวดใจมากขึ้น แต่เมื่อได้เห็นสีหน้า เห็นแววตา เห็นความผิดหวังในพยายามของเขาแล้วก็ให้น่าเห็นใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาในปีนี้ แถมในครึ่งหลังนี้เราก็ยิ่งเห็นว่าเกมมันหนักขึ้นกว่าครึ่งแรกเสียอีก ผมเองก็ลุ้นๆว่าอย่าให้เกมมันรุนแรงจนเกินขอบเขตไปเล้ยยยย.... จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:20:43

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วงยี่สิบนาทีสุดท้าย เบอร์บาตอฟก็ถูกถอดออก แทนที่ด้วยคาร์ริค ซึ่งมันน่าจะเป็นการเปลี่ยนตัวเพื่อเน้นการคุมสถานการณ์ตรงกลางสนามมากขึ้น เพราะช่วงปลายๆนี้ ซันเดอร์แลนด์เหมือนจะทำเกมได้กระเตื้องขึ้นมาบ้าง กลายเป็นเกมที่ยืนแลกหมัดกันยกต่อยกไปแล้ว ทีมหนึ่งก็พลาด ทำหมูหกหน้าประตูคู่ต่อสู้เรื่อยๆ ส่วนอีกทีมก็ยังไม่สามารถเข้าไปหาโอกาสจะจะได้เสียที แตโอกาสน่ะมันมีมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลังจากเห็นคู่ต่อสู้เปลี่ยนเอาคาร์ริคลงมานั้น บรู๊ซเองก็จัดการเปลี่ยนเกมด้วยการส่งเคนวิน โจนส์ลงมาแทนเฮนเดอร์สันเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าทำ และหันมาเน้นบอลไดเร็กต์มากขึ้นนั่นเอง ซึ่งโจนส์ก็ทำหน้าที่ได้ดีกว่าสองกองหน้าที่ลงมาตั้งแต่แรก เพียงแต่ก็ฝ่าแนวรับทีมเยือนไม่ได้เช่นกัน โดยทีมเยือนนั้นรอจนถึงช่วงท้ายเกมจึงได้เปลี่ยนอีกครั้ง ด้วยการส่งริโอลงมาแทน เฟล็ทเชอร์ เพื่อมายืนห้อยเป็นตัวสุดท้ายหน้าแผงหลัง และเปลี่ยนเอาฮาร์กรีฟส์ลงมาเดินเล่นในนาทีสุดท้ายแทนที่นานี่ เรียกเสียงปรบมือได้กราวทีเดียว สุดท้ายก็จบเกมไปด้วยชัยชนะของทีมเยือนตามเป้า จบเกมนี้ลงไป ผมก็รู้สึกแปลกๆ แทนที่จะดีใจก็ไม่ได้ดีใจเต็มที่ เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่า ปีนี้ ถ้วยแชมป์มันคงมีโอกาสน้อยมากๆที่จะยังได้อยู่ในโรงละครแห่งความฝันต่อไปอีกปีหนึ่ง แต่ก็เอาเถอะครับ ก็ยังดีที่ได้ลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายนะ เอาเป็นว่าเกมนี้ ผมจะขอพูดถึงเรื่องสำคัญมากๆที่เกิดขึ้นในเกมนี้ดีกว่า นั่นก็คือเรื่องของเบอร์บาตอฟนั่นเอง จากเกมที่ย่ำแย่สุดๆของเจ้าตัวเกมนี้ ผมเชื่อว่าป๋าตั้งใจเปลี่ยนเขาออกเพราะคงไม่อยากให้เจ้าตัวเสียกำลังใจไปมากกว่านี้ เรื่องแท็คติคคงเป็นเรื่องรองมากกว่า เพราะฟอร์มของคาร์ริคที่ลงมาแทนเองนั้นนาทีนี้ก็ตกหล่นหายไปนานแล้วเหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมนี้ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมจะบอกว่าเบอร์บาตอฟห่วย แต่ผมอยากจะบอกว่า ในความเห็นผม เบอร์บาตอฟอาจจะเป็นพวกอาร์ตติสต์ หรือจะเป็นพวกที่ใช้การคิดมากกว่าความพยายามก็แล้วแต่ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ดูแล้วเบอร์บาตอฟนั้นท่าทางจะแบกรับความกดดันได้ไม่ดีพอ ทำให้ขาดความมั่นใจ การก้าวเท้าเข้ามาในโรงละครพร้อมค่าตัวสามสิบกว่าล้านปอนด์ที่แบกอยู่กลางหลังนั้น มันส่งผลเสียที่เกินกว่าใครๆจะคาดคิดมากนัก จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:20:59

ความคิดเห็นที่ 6 หากเป็นโรนัลโด้ ที่แบกถุงเงินราคาแปดสิบล้านปอนด์ไว้กลางหลังนั้น เราจะเห็นว่า โรนัลโด้โยนไอ้ถุงดังกล่าวทิ้งตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากโรงละครไปแล้ว เมื่อเหยียบเบอร์นาบิว โรนัลโด้จึงเล่นเหมือนไม่มีแรงกดดันอะไร และยังทำผลงานได้ดีเหมือนเดิม ซึ่งนี่ก็คงเป็นอัตลักษณ์ของเจ้าโด้เอง ที่เบอร์บาตอฟไม่สามารถนำมาเลียนแบบได้เลย เพราะดูเหมือนเบอร์บาตอฟเองจะยังแบกถุงเงินราคามหาศาลลงสนามทุกนัดอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับการที่ท่านเซอร์ไม่ได้เลือกองค์ประกอบทีมและแท็คติคที่จะเอื้อต่อสไตล์การเล่นของเบอร์บาตอฟได้เหมือนที่เลเวอร์คูเซ่นและไวท์ ฮาร์ท เลน มีให้ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงผลงานที่ดร็อปลงไป และสุดท้ายก็คือ ความมั่นใจของเจ้าตัวที่ค่อยๆหดหายไปทีละเล็กละน้อย จนสุดท้ายในนัดนี้ เราจะเห็นว่า แม้เจ้าตัวจะพยายามมากแค่ไหน แต่เมื่อไร้ซึ่งความมั่นใจ คุณก็ไม่สามารถเล่นได้ด้วยความสบายใจ และเมื่อนั้นสัญชาตญาณในการเล่นคุณก็จะหายไป กลายเป็นการเล่นด้วยความกดดัน และฝืนธรรมชาติของตัวเอง การที่ปีที่แล้วเตเวซไม่สามารถเปล่งรัศมีออกมาได้เหมือนปีแรก ก็เป็นเพราะสาเหตุนี้เช่นกัน เมื่ออยู่ๆก็มีตัวละครที่ผู้กำกับชื่นชอบมากกว่า มาลงเล่นเป็นตัวเลือกก่อนหน้าเขา แรกๆเตเวซก็คงใช้แรงกระตุ้นตรงนี้แปรเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นและความท้าทายที่ต้องการเอาชนะใจเจ้านายให้ได้นั่นแหละ แต่สุดท้าย เมื่อเจ้านายยังคงรักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง ยังคงเห็นเบอร์บาตอฟเป็นตัวเลือกแรก และเลือกที่จะปรับแท็คติคมาเป็นหน้าตัวเดียว ขนาบด้วยตัวริมเส้นอย่างโด้ และนานี่ หรือกิ๊กส์ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นตัวเลือกอันดับสามไปอีก ซึ่งสุดท้ายความท้าทายและความมุ่งมั่นที่มี มันก็ค่อยๆระเหยกลายเป็นความกดดันที่จะต้องโชว์ฟอร์มให้ได้ ทั้งๆที่โอกาสมีน้อยมากๆ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เตเวซแปรสภาพจากตัวทีเด็ด และคู่หูเตี้ยล่ำมหากาฬในปีแรก กลายมาเป็นบุรุษที่ถูกลืมในช่วงปลายปีที่สองในที่สุด แต่เมื่อได้มันชินี่กลับมาชุบชีวิตด้วยการลงเล่นอย่างมีอิสระและต่อเนื่อง เตเวซก็สามารถกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีได้อย่างรวดเร็ว (เรื่องบุคลิคส่วนตัวขอไม่พาดพิง) จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:21:19

ความคิดเห็นที่ 7 ที่กล่าวมานั้น เราจะเห็นว่า หากจะให้เบอร์บาตอฟกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้งนั้น อย่าลืมว่าเจ้าตัวออกจะมีสไตล์การเล่นที่ชัดเจน มีเอกลักษณ์และสไตล์ทรงบอลที่ชัดแจ้ง อายุอานามก็ไม่ใช่น้อยๆที่จะมาปรับสไตล์กันในตอนนี้ การจะคัมแบ๊คกลับมาให้ได้ เรา(ป๋า)คงต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง ระหว่างการปรับแท็คติคของทีมให้เอื้อต่อสไตล์การเล่นของเบอร์บาตอฟ ซึ่งควรต้องใช้หน้าคู่ ที่มีตัวสอดประสานเล่นกับเบอร์บาตอฟอย่างรู้ใจ และลงเล่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เบอร์บาตอฟสามารถขับพลังในตัวออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเหมือนตอนคู่กับเดโฟ หรือคีน หรือไม่งั้นป๋าก็ต้องปรับองค์ประกอบทีมในแท็คติค 4-5-1 ที่ป๋าคงต้องเลือกตัวริมเส้นที่เหมาะกับแท็คติคนี้จริงๆ (นั่นคือไม่ใช่วาเลนเซีย หรือ กิ๊กส์ แต่เป็นพวกร็อบเบน หรือ มาลูด้า) รวมทั้งกลางรุกที่สามารถเชื่อมเกมกับหน้าเป้าได้อย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน เช่นพวกสไนเดอร์ หรือกาก้า (ไอ้ที่ยกตัวอย่างมาก็เพื่อจะได้เห็นภาพได้ชัดๆ) แต่อย่าลืมว่า การจะปรับทีมขนาดนั้น เพื่อให้เบอร์บาตอฟสามารถเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่กล่าวมานั้น มันไม่ใช่เป็นไปไม่ได้ แต่มันเป็นงานใหญ่ ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นปัจจุบันหลายต่อหลายคน และเป็นการทำเพื่อนักเตะที่อายุเหยียบสามสิบเพียงคนเดียว ซึ่งเราก็ทราบดีว่านั่นไม่ใช่นโยบายของท่านเซอร์แน่นอน สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในช่วงซัมเมอร์นี้ น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งมากครับ ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางใด จะเก็บเบอร์บาตอฟไว้ก็ต้องมีการปรับองค์ประกอบบางอย่าง แต่ถ้าจะไม่เก็บไว้ ก็คงต้องดูต่อไป ว่าจะมีใครมาแทนที่เบอร์บาตอฟ เพราะลำพังรูนี่ย์ไม่สามารถยืนระยะเล่นทุกเกมได้ตลอดซีซั่นแน่ๆ แค่เกมนี้ก็เห็นแล้วว่า รูนี่ย์ยังไม่ฟิตพอ ยังเลี่ยงปะทะอยู่ แล้วจะพึ่งโอเว่นเองก็สามวันดีสี่วันไข้ ชิชาริโต้ยังไม่เห็นฟอร์มจริง มาเคด้า, เว็ลเบ็ค และ ดิยุฟเองก็ต้องรอพิสูจน์ในเกมระยะยาวก่อน ซึ่งทั้งหมดนี้ ไม่ว่าจะเป็นไปในทางใด ก็ต้องติดตามกันต่อไปครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:21:34

ความคิดเห็นที่ 8 ส่วนเรื่องการลุ้นแชมป์ ณ วันนี้ คงทำได้เพียงแค่รอปาฏิหารย์ที่อาจจะเกิดขึ้น ถึงแม้ค่อนข้างจะลมๆแล้งๆ แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรให้ลุ้นซะเลย จริงไหมครับ และหากไม่ลืมกันล่ะก็... จำได้ไหม ว่าแต่ละคนออกตัวกันว่าอย่างไรบ้าง หลังจากเห็นเงาโรนัลโด้ และเตเวซ ค่อยๆ เลือนหายไปจากโรงละคร แล้วได้เห็นร่างของโอแบร์กตอง กับ วาเลนเซียเลื้อยเข้ามายืนแทนที่ ไม่ว่าใครต่อใคร ต่างพากันพูดว่า มีแต่ผู้เฒ่าวัยเลี้ยงหลาน กับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ปีนี้คงไม่ได้แชมป์แหงๆ ปีนี้คงต้องตั้งหลักกันใหม่แน่ๆ ขอแค่ลุ้นไปเรื่อยๆก็พอ แล้วดูสิครับ วันนี้ ท่านเซอร์ของเรา เข็นลูกทีมชุดนี้ ฝ่าลมมรสุมลูกแล้วลูกเล่า ยืนหยัดลุ้นมาได้จนถึงนัดสุดท้ายเช่นนี้ ก็คงไม่ต้องมีอะไรให้พูดกันอีกแล้ว ป๋ายังเป็นป๋า ป๋ายังรู้ดีที่สุดว่าทีมชุดนี้ ควรทำอย่างไร ควรจัดการอย่างไร และป๋าเองก็น่าจะรู้ดีที่สุดเช่นกัน ว่าซัมเมอร์นี้ จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทีมอย่างไร แล้วมาลุ้นกันนะครับ สงบใจ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:21:47

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีอาๆทั้งหลายครับ/ค่ะ เอาฤกษ์เอาชัย เผื่อปาฏิหารย์ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:24:39

ความคิดเห็นที่ 10 ให้กิฟท์ และเอ่ยคำ "ขอขอบคุณมากๆครับ"  เพื่อเป็นกำลังใจให้น้าครับ ผมได้ดูเกมนี้ครับ แต่รายละเอียดของเกมก็เก็บไม่หมด อ่านบทความของหน้าแล้ว รู้สึกเติมเต็มดีครับ จากคุณ : อัศวินถั่วงอก เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:35:19

ความคิดเห็นที่ 11 ที่ 1 ป่าวะ .. กดไป สองกิปปป  เท่ชะมัด ให้ทั้งลูกสาวลูกชาย จากคุณ : พริบพรรณดาว เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:35:50

ความคิดเห็นที่ 12 อิอิอิ ขอบคุณคร๊าบบบบ/ค่าาาาา........ คุณอาๆ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:37:47

ความคิดเห็นที่ 13 น่ารักกันจัง ^^ จากคุณ : gifie เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:39:18

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นฟอร์มทีมสำรองที่ได้แชมป์ของลีคสำรองไปแล้ว เด็กพวกนี้อนาคตดีแน่ๆ แค่อดทนรอโอกาสที่ป๋าจะหยิบยืนให้ แล้วจัดการทำให้ดีตอบแทนป๋าซะ ในปีนี้สำหรับผีชุดนี้ ได้รองแชมป์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จสำหรับผมล่ะ ปาฏิหารย์แม้มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่อย่างน้อยผมก็ยังเชื่อและศรัทธาในคำว่าปาฏิหารย์อยู่ดี จากคุณ : kannesta เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 11:44:10

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับ คุณสงบใจ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ  Berbatov  ว่าแบกรับความกดดันไว้มากเหลือเกิน ดูจากสีหน้าแต่ละครั้งที่พลาดโอกาสทำประตู ทั้งๆที่ควรจะทำได้ แต่สำหรับผมพลาดไม่เป็นไร แต่อยากให้เวลาโดนแซะแล้วลุกขึ้นเร็วกว่านี้ได้ไหมเนี้ย   โดนแซะทีนอน เสียดายนานมากกว่าจะลุกขึ้นมาแต่ละครั้ง พูดถึงเกม เห็นด้วยเหมือนกัน  กับเรื่องที่กรรมการปล่อยเกมมากเกินไป หลายๆลูกกลัวจะเจ็บกันเหลือเกิน  ที่สำคัญกลัวจะมีเรื่องกันมากๆ ยิ่งช่วงนี้ ท่านเทพ เฟลท ยิ่งห้าวๆ อยู่    เดี๋ยวจะไปเหนี่ยวใครเค้าเข้า ส่วนรูปเกม  วันนี้กลางเรายังทำเกมได้ดี  อาจมีเป๋ไปบ้างจากการบุกของ แมวดำ  ที่คิดว่าน่าจะเกินจากความกดดันของเรากันเอง  ที่ทำประตูอีกลูกไม่ได้ ทำให้เริ่มกดดันตัวเอง  ต่อบอลกันไม่ค่อยได้จะได้ ดีนะที่ ป๋า  เปลี่ยน Carrick เข้ามาช่วยแดนกลางให้ต่อบอลกันง่ายขึ้น คอยสกรีนให้กองหลังเล่นได้ง่ายขึ้นด้วย สำหรับผลที่ออกมาคงเป็นเหมือนแฟนผีแดงทุกคน ที่ทีมชนะ  แต่อาจจะดีใจไม่เยอะเท่าไหร่  เนื่องจากเจอ Killer Pass ของ Gerrard  ทำร้ายจิตใจกันไปตั้งแต่หัวค่ำก่อนแล้ว ดูจากฟอร์ม หงส์   ผมว่าไปลุ้น วีแกนในนัดสุดท้ายยังจะดูมีลุ้นมากกว่า เพราะหงส์เล่นไม่มี  Passion เอาเสียเลย นัดหน้าคงต้องลุ้นกันต่อไป  ผมก็หลังให้ Wigan  ยันเสมอ  แล้วเราอัด Stoke  ได้คาบ้าน   ป้องกันแชมป์ไว้ได้   รอลุ้นกันต่อไป วันอาทิตย์นี้ จากคุณ : SRV เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 12:01:01

ความคิดเห็นที่ 16 ปาดดด มาโหวตครับ จากคุณ : anurak_jun เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 12:20:47

ความคิดเห็นที่ 17 นัดนี้ลุ้นแบบหายใจติดๆ ขัดๆ เพราะนำอยู่ลูกเดียว ถ้าโดนก็จบกัน แต่เราก็ยังเขี้ยวลากดินอยู่ เหลืออีก 1 เกม สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร ถึงจะต้องฝากความหวังไว้กับวีแกนก็เถอะ แต่เราก็ต้องเอา 3 แต้มมาให้ได้ก่อน นัดสุดท้ายขอแค่โชว์ฟอร์มกันดีๆ ก็ถือว่าเป็นการปิดฤดูกาลที่สวยงามแล้ว ถ้าผลอีกคู่เป็นใจ ถือเป็นโชคก้อนใหญ่ละกัน จากคุณ : ห้องสี่เหลี่ยมไร้มุม เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 12:28:50

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณคุณสงบใจสำหรับบทความดีๆ เช่นเคย สัปดาห์หน้า มาลุ้นกันจนถึงนกหวีดของกรรมการจะเป่าจบการแข่งขันกันครับ ... ทีมเรา never say die อยู่แล้ว จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 12:41:07

ความคิดเห็นที่ 19 หวัดดีลุงหงบ พอเอ่ยถึง อบต.  หวังว่าฤดูกาลหน้าคงให้เห็นหน้าเห็นตาลงสนามเยอะขึ้นนะครับ ปล.ลุงหงบไม่ปลูกฝั่งลูกให้รักแมนยูแต่เด็กๆละครับ  ซื้อเสื้อแมนยูให้ใส่เลย จากคุณ : geno_nr เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 12:42:54

ความคิดเห็นที่ 20 น้องน่ารักมากครับ จากคุณ : natureza เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 12:50:07

ความคิดเห็นที่ 21 จริงอย่างที่ป๋าหงบว่ามาครับ ว่าตอนเริ่มฤดูกาล ไม่คิดว่าจะมาไกลได้ขนาดนี้ ยิ่งครึ่งฤดูกาลแรกกองหลังเจ็บกันระนาว มีลุ้นแชมป์จนนัดสุดท้าย แถมได้ถ้วยคาร์ลิ่งมานอนกอดถ้วยนึงแล้ว ผมก็พอใจแล้วนะครับ (จริงๆอยากให้เป็นนัดสุดท้ายของฤดูกาลเราเจอเชลซีแล้วตัดสินแชมป์ไปเลยนะครับ ไม่อยากหวังพึ่งทีมอื่นเลย แต่ทำไงได้เราพลาดตอนเจอกับเค้าเอง ไม่อยากพูดถึงลูกล้ำหน้าด้วย -_-') เสียดายที่ป๋าดันมาผ่าตัดทีมตอนกำลังลุ้นแชมป์ลีค 4 ปีติด กับโอกาสได้แชมป์ลีคแซงคู่แข่งตลอดกาลแบบลิเวอร์พูล ปล.น้องๆน่ารักอ่ะครับ จากคุณ : นายคิ้วเข้ม เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 13:26:35

ความคิดเห็นที่ 22 ก็ยังได้ลุ้นครับ จากคุณ : Bierhoff เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 13:27:33

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีค่ะ ลุงหงบ เรามาลุ้นนัดสุดท้ายด้วยกันนะคะ ปล. น้องน่ารักมากค่ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 13:46:57

ความคิดเห็นที่ 24 ปล.ลุงหงบไม่ปลูกฝั่งลูกให้รักแมนยูแต่เด็กๆละครับ  ซื้อเสื้อแมนยูให้ใส่เลย   จากคุณ : geno_nr   33333333333333333333333333333333333333333333333 คนโตน่ะ เรียบร้อยโรงเรียนหงบไปแล้วครับ ส่วนคนเล็ก ยังรอเวลาก่อนครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 13:54:40

ความคิดเห็นที่ 25 เข้ามาเอากิ๊ฟท์ให้หลานทั้งสองคนครับ จากคุณ : พฤษภเสารี เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 13:56:41

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าไม่มี สโคล ก็ไม่แน่เหมือนกัน เราอาจจะไม่ชนะ ผมยกให้เขาเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ นะ ดูจะ กระตือรือร้น กว่า เบอร์บาตอฟ มากมาย ไม่แน่ ว่า แมตช์หน้าจะเป็นแมตช์ สุดท้ายของเขากับ แมนยู หรือเปล่า .. เบอร์บาตอฟ แลก ฮุนเตลาร์ จากคุณ : lupercaliaz เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:06:38

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าไม่มี สโคล ก็ไม่แน่เหมือนกัน เราอาจจะไม่ชนะ ผมยกให้เขาเป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ นะ ดูจะ กระตือรือร้น กว่า เบอร์บาตอฟ มากมาย ไม่แน่ ว่า แมตช์หน้าจะเป็นแมตช์ สุดท้ายของเขากับ แมนยู หรือเปล่า .. เบอร์บาตอฟ แลก ฮุนเตลาร์ จะพอเป็นไปได้มั๊ยน๊าาา .. จากคุณ : lupercaliaz เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:07:00

ความคิดเห็นที่ 28 แวะมาลงชื่ออ่านค่า เดี๋ยวกลับไปอ่านที่บ้าน ขอบคุณสำหรับบทวิพากษ์ค่ะ จากคุณ : ดาวเคียงดอย เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:15:02

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณพ่อหมอครับ อุตส่าห์แวะมาให้กิ๊ฟท์หลานๆ ฮิฮิ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:22:43

ความคิดเห็นที่ 30 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 53 14:25:21 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:23:57

ความคิดเห็นที่ 31 ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 53 14:25:33 จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:25:02

ความคิดเห็นที่ 32 ยังไงต้องขอลุ้นไว้ ถึงมันจะยากเย็น แต่เผื่อจะมีดราม่า นัดที่ 38 จากคุณ : bbiggy เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:43:43

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีครับ เข้ามาอ่านเช่นเคย ไม่รู้ปีหน้าป๋าจะผ่าทีมยังไงบ้าง แต่ก็มีเด็กเข้ามาสองรายแล้ว (หน้ากับหลัง) จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 14:56:33

ความคิดเห็นที่ 34 เชือ่ใจป๋าครับ จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 15:20:03

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากค่ะ น้องๆน่ารักมากเลยค่ะ จากคุณ : prettybua เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 15:23:20

ความคิดเห็นที่ 36 อยากเห็นป๋าให้โอกาสเด็กๆจังครับ เด็กแต่ละคนดูมีแววมากๆเลย ไม่ต้องซื้อเยอะก็ได้ครับ  ดันหน่อยๆ   อิอิ     >,< จากคุณ : หมูอ้วนพุงดำ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 15:37:59

ความคิดเห็นที่ 37 ได้ลุ้นถึงนัดสุดท้ายก็เยี่ยมมากแล้วครับ สำหรับปีนี้ เราทำแต้มง่ายๆหล่นมากไป จากคุณ : scozember เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 15:38:31

ความคิดเห็นที่ 38 หลานน่ารักครับ ฮ่าๆ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 16:19:05

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ จากคุณ : ทางสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 16:26:04

ความคิดเห็นที่ 40 สวัสดีค่ะคุณสงบใจ พูดถึงเรื่องการลุ้นแชมป์ ก็คิดซะว่าได้ลุ้นจนนัดสุดท้าย .. ถึงจะค่อนข้างไร้ความหวัง ก็ยังดีกว่าไม่ได้ลุ้นอะไรเลย หลานสองคนน่ารักมากกกกกกกกกกกกกก.. เห็นแล้วอยากฟัด.. จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 17:35:30

ความคิดเห็นที่ 41 เสียดาย/....นัดวิลล่าในบ้าน/เชลซีในบ้าน/นัดบาเยริน์ในบ้าน นัดเอฟเวอร์ตัน/นัดแบ็ลเบิรน์ ขอกองหน้าด่วนแบบรุด ขอกลางรุกเจ๋งแบบเจอร์ราด จากคุณ : Dr.pareto เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 18:14:27

ความคิดเห็นที่ 42 สัวัสดีครับป๋าหงบ ขอลงชื่อไว้ก่อน เดี๋ยวกลับมาอ่านครับ จากคุณ : p 4 ponga เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 19:06:06

ความคิดเห็นที่ 43 น้องภีม&พราว น่ารักมากๆเลย เดี๋ยวกลับมาอ่านค่ะ จากคุณ : No Sleep Tonight เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 19:16:11

ความคิดเห็นที่ 44 อีกสาเหตุหลักของความล้มเหลว ผมขอย้ำว่าล้มเหลวนะครับ เพราะบอลลีกคัพนั้น ทีมอย่างน่อล และเชลสกี้ ไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำ น่าจะเป็นจากคาแรกเตอร์ของนักเตะในทีมชุดนี้ด้วย เมื่อปราศจาก โด้ ที่แอ็กอาร์ต แต่มุ่งมั่น และเตเวซ ที่เล่นแบบถวายตัวแล้ว ตัวรุกอื่นๆ ไม่นับรูน ไม่มีใครที่มีคาแรกเตอร์ของผู้ชนะทีเดียวเชียว อ้อ ยกเว้นนานี่ให้อีกคน คาริค เบอร์บา  ปาร์ค  วาเลนเซีย เป็นประเภทพูดน้อยทั้งนั้นครับ ส่วนนานี่ ผมว่าปีหน้า ถ้าปั้นดีๆ ให้เล่นทางขวายาวๆ เราอาจจะได้นิวโรนัลโด้ครับ กรณีเบอร์บา ถ้าจะตัดไฟแต่ต้นลม ต้องปล่อยตอนนี้เลยครับ สังเกตนัดหลังๆ เพื่อนๆเอือมระอาเขาพอสมควรแล้ว ดูสีหน้ารูนเมื่อวานได้ชัด เวลาเจ็บ สองสามนัดหลังนี่ ไม่มีใครเตะออกให้แล้วครับ หรือ กระทั่งการนั่งดึงถุงเท้ายามถูกกระแทก แล้วปล่อยให้เพื่อนไล่บอล หรือแม้กระทั่งการพลาดลูกหมูหก แล้วไม่ก้มหน้าก้มตาเล่นต่อ ทำหน้าเสียดายอยู่นั่นแหละ... ถ้านักเตะพลาด แต่เพื่อนร่วมทีมยังไว้ใจ อันนั้นโค้ชขุนต่อได้ครับ แต่เบอร์บา ด้วยสไตล์การเล่นแล้ว คนศิลปินแบบนี้ ถ้าพลาดเพื่อนจะซ้ำครับ เหมือนโด้ใหม่ๆน่ะแหละ ที่โดนรุดซ้ำจนต้องเกิดการหย่าศึกส่งไปเล่นที่สเปนหนึ่งคน แต่เบอร์บาตอนนี้เหยียบสามสิบแล้ว ถ้าจะให้อยู่ต่อ เพื่อสร้างสปิริต ควรลดบทบาทให้เป็นตัวสำรองถาวรแล้วครับ ให้รับบทแบบเชอริงแฮมก็พอ ไว้เล่นนัดที่ไม่กดดันนัก และลงมาจ่ายบอลเปลี่ยนเกมตอนท้าย... ผมขอสรุปว่า จุดพลิกผันซีซั่นนี้ อยู่ที่สองนัด ที่เบอร์บาลงแทนรูน (แพ้เชลซี เสมอแบลคเบิน) แล้วไม่สามารถรับความคาดหวังในการทำประตูได้เลย... ขณะที่คนที่มีทีเด็ดในการทำประตู กลับต้องเจ็บยาวตั้งแต่นัดชิงบอลมิกกี้เม้าส์ บางทีการประหยัดเกินไปในช่วงต้นฤดู มันน่าจะส่งผลให้เห็นชัดเจนตอนแบบนี้แหละครับ ถ้ารูนไม่เจ็บ เราอาจคว้าแชมป์ไปแล้ว แต่การที่ตัวสำรองไม่ดีพอ เสี่ยงฝาก hope ไว้กับนักเตะคนเดียว ก็ส่งผลแบบนี้เช่นกัน เผอิญรูนไม่ใช่โด้ ที่เป็นมนุษย์เหล็ก ไม่เจ็บตอนเข้าด้ายเข้าเข็มสักปีในสามปีล่าสุด ปล. ถ้าหอยจะพลาดแชมป์ปีนี้ น่าสงสารเขามากนะครับ กับทีมที่มีนักเตะยิงยี่สิบกว่าลูกสองคน (Drogba Lampard) ยิงสิบลูกอีกสองคน (Anelka Malouda) ขณะที่เรา มียิงถึงหลักยี่สิบลูกอยู่คนเดียว... ปล. ผมหวังว่าเราจะเห็นนักเตะที่มีทีเด็ดเดินเข้าทีมในเร็ววันนี้ครับ ปั้นนานี่ต่อให้ดี อันนี้จะน่ากลัวมากขึ้นในปีหน้า จากคุณ : vdi เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 20:05:46

ความคิดเห็นที่ 45 ผมว่า ปีนี้ ป๋า ใจไม่ถึงจริงๆ อ่ะ ไม่งั้น เบอร์บา ฟอร์มตก แก ไม่ดรอปเอาเด็กๆ ลงเลยสักนัด ไหนๆ ก้อไหนๆ ให้เด็กๆ สดๆ ลงไปกระตุ้น เกมส์ดีกว่า จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 21:14:39

ความคิดเห็นที่ 46 ตอนเชลซียิงลิเวอพูล 2-0 รู้สึกหดหู่ จิงๆครับ แทบจะไม่อยากดูแมทเจอซันเดอร์แลนด์แล้ว แต่พอมาคิดอีกที ก้อจริงครับ ที่ปีนี้ถือว่าเราทำดีมากแล้ว เทียบกับฟอร์มนักเตะ อย่างเบอร์บาตอฟที่ยังน่าผิดหวัง แอนเดอร์สันที่หายไปเลยทั้งที่ปีนี้คาดหวังกับเขามากทีเดียว คาริกที่ฟอร์มรูดเอาๆ นักเตะดาวรุ่งหลายๆคนที่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้สักที และอาการบาดเจ็บของนักเตะหลายๆคน เรามีช่วงที่แย่จริงๆ ถึงปีนี้จะไม่ได้แชมลีก แต่พอนึกถึงบางเกมส์ที่ทำให้เราดีใจจนตัวลอยเช่นแมทชนะแมนซิ ก้อรู้สึกคุ้มค่าแล้ว ทำให้จำความรู้สึกได้ว่าทำไมเราถึงเชียร์ทีมนี้ และจะเชียร์ต่อไป แต่สำหรับแมทสุดท้าย บอกตรงๆ ยังไม่หมดหวัง จะลุ้นต่อไป เหมือนนักเตะแมนยูที่สู้จนวินาทีสุดท้ายของเกมส์เสมอ สู้ เว้ย จากคุณ : นัวร์ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 21:50:24

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าฤดูหน้าต้องวัดดวงกับฟอร์มของเบอบาตอฟ ผมอยากให้เสี่ยงกับกองหน้าตัวใหม่หรือเด็กๆไปเลยดีกว่าครับ - - จากคุณ : kirofsky เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 53 22:32:43

ความคิดเห็นที่ 48 ชอบความเห็นสุดท้ายของคุณสงบใจมากเลย ป๋าก็ยังเป็นป๋า ใช่แล้วครับตั้งแต่สถาปนา พรีเมียร์ลีคเป็นต้นมา แมนยูมักจะเป็นทีมสุดท้ายที่ได้ลุ้นแชมป์เสมอ ไม่ว่าจะได้แชมป์เองหรือพลาดการเป็นรองแชมป์ อาจมีบางปีที่หลุดเป็นที่ 3 บ้างแต่นั้นก็เพราะแต้มมันขาดไปแล้วมากกว่า ถ้าแมนยุได้แชมป์จริง กระทู้นี้น่าจะได้ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำอีกรอบ เพราะมาสคอร์ตหนุ่มหล่อกับสาวสวย น่ารักจริงๆ 5555+++ จากคุณ : Title-PANTIP เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 01:04:06

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณค่ะ ได้เข้ามาอ่านบ่อยๆแต่ไม่เคยตอบ เพราะเพิ่งมีลอกอินกะเค้าเมื่อไม่กี่วันนี่เอง สงสารพี่เบิบของหนูจิงๆเลยอยากให้ย้ายไปอิตาลี่ซะอย่าอยู่ให้คนด่าเลยหนูช้ำใจแทน ปล.ลูกพี่สโคล เจ๋งสุดๆๆๆ จากคุณ : SOUTHERN GIRL เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 03:57:48

ความคิดเห็นที่ 50 สรุปแล้ว เฮียเบิร์บคือแพะ ที่ทำให้แมนยูพลาดแชมป์ในฤดูกาลนี้ใช่มั๊ยครับ พอแพ้ก็นั่งหาแพะ พอพลาดแชมป์ก็นั่งหาแพะ พอล้มเหลวก็นั่งหาแพะ ใจนึงก็อยากให้เบิร์บย้ายทีมไปซะให้รู้แล้วรู้รอด ดีกว่าเล่นอยู่แล้วฟอร์มไม่ดี เล่นไม่ถูกในแฟนบอล โดนด่าหลังจากทีมแพ้ทุกที แม้ขนาดยิงได้แต่คำชมก็เบาซะจนแทบจะไม่ได้ยิน กำลังใจก็ไม่มีมาจากแฟนบอลทีมตัวเอง แต่ใจนึงก็อยากให้เบิร์บพิสูจน์ตัวเอง เหมือนที่นานี่เริ่มทำให้เห็นแล้วในฤดูกาลนี้ คนนะครับไม่ใช่หุ่นยนต์ ที่จะได้ตั้งโปรแกรมมาให้ยิงระเบิดทุกนัด เล่นถูกใจแฟนๆทุกนัด ขอป๋าเลยล่ะกัน ปล่อยเบิร์บไปซะ ไปอยู่กับทีมอื่นๆโชว์ฟอร์มเทพไปเลย เหมือนที่หลายๆคนที่ย้ายจากผีไปทำได้ แม้ไม่ใช่ทีมที่ผมเชียร์ แต่ก็จะตามให้กำลังใจเฮียแกตลอดไป จากคุณ : kannesta เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 09:28:15

ความคิดเห็นที่ 51 kannesta ครับ ผมไม่ใช่แฟนบอลประเภทก้มหน้าก้มตาเชียร์ครับ ไม่ใช่ประเภทซื้อผ้าพันคอ ต้องตะโกนเชียร์ในผับกับเพื่อนกลุ่มใหญ่ๆ ผมกลับเป็นประเภทชอบดูคนเดียวเงียบๆ ผมดูทีมนี้มาตั้งแต่กังฟูคิก ของคันโตน่า จนปัจจุบันพยายามคิดมีส่วนร่วมในการบริหาร จัดสรร ทรัพยากรของทีมครับ บางทีผมอาจเล่นเกมมากไป แต่มันก็ช่วยให้เราติดตามบอลลีกได้สนุกขึ้น และคิดแบบเป็นระบบมากขึ้น ไม่ได้เชียร์เป็นนัดๆ แต่เชียร์เป็นปีๆในการอัพเกรดทีมตัวเอง ถ้าคุณเป็นนายคนในองค์กร มีคนเงินเดือนสูง ซื้อตัวเขามาแพง ดีกรีเยี่ยม แต่ทำงานไม่เต็มที่ แถมผลลัพธ์ไม่มีประสิทธิภาพ คุณจะต้องบริหารทีมยังไง ให้ผลลัพธ์โดยรวมขององค์กรออกมาดี ทางแรกคือ กระตุ้นเขาให้ปรับปรุงพัฒนา แต่หกเดือนมานี่ มีสัญญาณที่ดีหรือไม่ นอกจากนัดเยือนโบลตันนัดเดียวถ้าจำไม่ผิด และนัดนั้นเขาก็ไม่ใช่คนยิงประตูเบิกร่องคลายความกดดันของทีม และนัดสำคัญในการเยือนบิ๊กโฟร์ หรือนัด ชปล.รอบน็อกเอาต์ เคยไหมจะได้ลงตัวจริง ตอนนี้ในทีม ต้องการนักเตะแบบรูน และโด้ ที่เป็นคนยิงประตูแรกของเกมส์ ปลดล็อคความกดดันยามต้องการประตูครับ และเบอร์บาไม่ใช่ประเภทนั้น ผมไม่ได้ไล่เขา ถ้าบริษัทไม่มีปัญหาเรื่องเงิน อยากอยู่ต่อก็เชิญครับ ยินดีด้วย เพราะหมอนี่เทคนิคเยี่ยม แต่ต้องลดบทบาทมาเป็นตัวเสริม เพราะเป็นตัวหลักมาสองปีแล้ว พิสูจน์ตัวเองไม่ได้ในเรื่องผลลัพธ์ และการซื้อใจเพื่อนร่วมทีม คุณต้องแยกเรื่อง efficiency ออกจาก ability ครับ นักเตะเยอะแยะที่ ability ดี แต่ไม่มีประสิทธิภาพ เช่น เบอร์บา เดนิลสัน (ปีกเบติส) คริสเตียโน่ตอนสองปีแรก นักเตะบางคนอาจมี ทักษะน้อย แต่มี efficiency สูง เช่น ดาเรน เบนท์  แอนดี้โคล หรือ กระทั่งเบคแฮมก็ตาม และที่พูดมาทั้งหมด ตอนนี้เฟอกี้เหยียบเจ็ดสิบแล้ว ผมแค่อยากให้แกลงจากบัลลังค์อย่างงสง่างามด้วยแชมป์สมัยที่สิบเก้าครับ ซึ่งมันน่าจะเป็นปีนี้ ปีที่เชลซีพลาดบ่อยๆ แต่เราไม่มีตัวสำรองที่ดีพอ ก็แค่นั้นครับ Anyway ถ้าจะเกิดปาฏิหารย์ขึ้นนัดหน้า ผมก็ไม่ลังเลใจยอมรับครับ แต่ผมยอมรับว่า we don't deserve it though จากคุณ : vdi เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 10:56:11

ความคิดเห็นที่ 52 อยากบอกว่าน้อง ภีม หล่อ ค่ะ ขอได้มั้ย :P จากคุณ : poojo_ke เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 11:39:04

ความคิดเห็นที่ 53 แอบรู้สึกว่าพี่เบิร์บน่าสงสาร คนไม่มีดวงมันเป็นแบบนี้เองเนาะ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 53 19:54:38 จากคุณ : ดาวเคียงดอย เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 19:53:56

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณมากครับผม จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 53 22:07:24

ความคิดเห็นที่ 55 จ๊าบค่ะ จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 01:05:11

ความคิดเห็นที่ 56 สำหรับผม เบิร์บคงเป็นแพะจริงๆนั่นแหละครับ (ขออภัยแฟนๆเบิร์บ) แต่การเป็นแพะของเบิร์บนั้น ผมบอกตรงๆ ต้องโทษป๋าเราเป็นอย่างมากเลย การที่ไปซื้อเบิร์บมานั้น นักเตะเองก็มีคาแรกเตอร์ที่ชัดเจนขนาดนั้น เคยเล่นในลีกอังกฤษร่วมกับสเปอร์สมาเป็นปีๆ ผลงานเป็นอย่างไรก็รู้ ทักษะ ความสามารถเป็นอย่างไร จุดอ่อน จุดแข็งเป็นอย่างไร ป๋าต้องรู้ครับ และป๋าก็ควรต้องรู้ด้วย ว่าควรจะใช้งานเบิร์บอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพ เบิร์บไม่ใช่แอนดี้ โคล ที่วัยยังอยู่ในวิสัยจะพัฒนาสไตล์ได้ ตอนเข้ามา เบิร์บไม่ใช่เวรอน ที่เราไม่รู้เลยว่าจะปรับตัวกับลีกอังกฤษได้ไหม ตอนเข้ามา เบิร์บไม่ใช่มิลเลอร์, เคลแบร์สัน หรือเฌมบ้า ที่หวังเอามาเจียระไนให้งาม ดังนั้น ป๋าคงตอบเราได้ดีที่สุด ว่าป๋าคาดหวังอะไรในจุดนี้ ที่ดึงเบิร์บเข้ามา ผมต้องขอโทษทุกๆท่านด้วย ทั้งที่เชื่อใจป๋า แต่ต้องบอกว่าเรื่องนี้ป๋าพลาด พลาดที่ตั้งใจจะซิวเบิร์บแบบเอาเป็นเอาตาย จนไม่คิดเผื่อเหลือเผื่อขาด ได้เบิร์บมา แต่เสียเตเวซ / โด้ถูกขายออกไป แต่ได้โอเว่น อบต. วาเลนเซีย ที่ดูยังไงๆก็ยังไม่ใช่ผู้เล่นที่จะฝากความหวังระยะยาวของปีนี้ไว้ได้สักคน ผมว่าป๋าพลาดที่ไม่ได้ผู้เล่นตัวเต็งที่วางแผนจะสอยเอามาได้เลยสักคน ไม่ว่าเบนเซม่า, ริเบรี่, หรือใครก็ตามที่อยู่ในลิสต์ที่เราต้องการตัว แต่เรากลับไปมองว่า ค่าตัวของโด้ทำให้นักเตะที่ต้องการถูกโก่งค่าตัวเกินไป สุดท้ายจึงพับแผนทั้งหมด แล้วคว้าตัวเกรดรองลงมาเข้ามาแทนที่ นี่คือสิ่งที่ผมมองว่าเป็นความผิดพลาดหลักของปีนี้ ที่เหลือคือผลพวงตามมา ไม่มีตัวใหม่ๆที่ไว้วางใจได้เข้ามาทำงานเป็นตัวแทนโด้ กับเตเวซ แถมยังปรับแท็คติคมาเล่น 4-5-1/4-3-3 โดยไม่มีองค์ประกอบเอื้อหน้าเป้า โชคดีที่รูนี่ย์กลับมาเข้าฟอร์ม ทำอะไรด้วยตัวคนเดียวได้ทุกอย่างเป๊ะๆ แต่กับเบิร์บล่ะ เขาไม่ใช่นักเตะสไตล์นั้นนิ จะให้ลงต่ำๆแล้วตะลุยขึ้นไปเองรึ จะให้เบียดสู้กองหลังสองสามคนด้วยตัวคนเดียวรึ มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผมมองว่าเป็นความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นกับเบิร์บครับ การที่ไม่มีตัวหลักใหม่ๆมาแทนโด้กับเต ทำให้ต้องใช้เพียงสิ่งที่มีอยู่นั้น ปรับแก้นั่นนิด นี่หน่อย กลายมาเป็นแท็คติคที่เราเห็นในปีนี้นั่นแหละ แต่คนที่โชคร้ายก็คือเบิร์บ เพราะเป็นความหวังสูงสุดรองจากรูนที่มีอยู่ แม้องค์ประกอบและแท็คติคจะไม่เอื้อให้เขา แต่ก็ต้องถูกส่งลงมาเล่น แม้จะรู้ว่าเล่นยังไงก็ผิดธรรมชาติตัวเอง แต่ก็ต้องเล่นเพื่อทีม เพื่อแฟนๆ แม้สุดท้ายจะต้องพลาด ต้องเจ็บ แต่ก็ต้องอดทน ต้องทำใจยอมรับ เพราะนี่คือวิถีแห่งมืออาชีพที่แท้จริง ที่เราต้องเข้าใจเบิร์บด้วยครับ และนี่คือ สิ่งที่ป๋าเรายังบอกเสมอว่า ให้เข้าใจเบิร์บ และไว้ใจเบิร์บ นอกจากอีโก้แล้ว เหมือนว่าป๋าจะรู้ ว่าสิ่งที่ทำอยู่ มันทำร้ายเบิร์บทางอ้อม เพราะมันกลายเป็นส่งให้เบิร์บกลายเป็นแพะในสายตาแฟนๆไงครับ สุดท้าย ผมเชื่อว่า ปีนี้ป๋าต้องทำอะไรสักอย่างในจุดนี้ครับ แน่นอน แน่นอน ไม่ว่าจะเลือกเก็บเบิร์บไว้ แล้วเสริมองค์ประกอบอื่นให้เอื้อในจุดนี้ หรือตัดใจ ปล่อยเบิร์บให้ไปดีที่อื่น แล้วเลือกประกอบชุดคิทขึ้นมาใหม่อีก ไว้มาลุ้นกันนะครับ จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 08:33:43

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือปล่าวนะครับ ว่าตั้งแต่ ปีเตอร์ เคนยอน ลาออกไปคุมเชลซี การซื้อตัวของแมนยูก้อแย่ลงเรื่อย คือคนที่อยากได้มักจะไม่ได้ นักเตะที่ต้องการจิงๆมักจะโดนแย่งตลอด ทำให้ต้องไปหาซื้อตัวที่ไม่มีใครแย่ง ผลก็คือได้นักเตะเกรด B-C มาปั้นต่อ แต่ราคา A+ ในบรรดาทีมระดับท๊อปของลีกใหญ่ในยุโรปตอนนี้ที่มีสถานะการเงินพอๆกัน (เชลซี รีลมาดริด บาซ่า บาเยิน อินเตอร์) การซื้อตัวแมนยูเป็นรองที่สุดแล้ว แถมนักเตะในทีมจะโดนทีมอื่นอย่างรีลมาดริดจ่อจะสอยไปอีก จากคุณ : นัวร์ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 08:59:19

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ นัวร์ ครับ เรื่องเคนยอนนี่เป็นความจริงสมัยช่วงสองสามปีแรกๆที่ออกไปครับ เคนยอนเคยเป็นซีอีโอของเรา การซื้อขายนักเตะก็เป็นหน้าที่หนึ่งของแก ประมาณว่า ป๋าตกลงว่าจะซื้อใคร ก็เป็นจ๊อบของแก ที่ต้องไปดีล รายสุดท้ายที่แกเดินเรื่องพลาดก็คือ โรนัลดินโญ่ครับ ตอนนั้นยังอยู่ฝรั่งเศส เราใกล้ได้ตัวมากจนกระทั่ง เหยินเล็กให้สัมภาษณ์ว่า อยากจะมาอยู่กับเรา แต่สุดท้าย เมื่ออีกทีม(น่าจะเป็นบาร์ซ่า) เกทับด้วยเงินมากกว่าอีกนิดหน่อย แต่เรากลับชะล่าใจ ปล่อยให้เงินส่วนต่างก้อนนั้นกลายเป็นประเด็นขึ้นมา สุดท้าย เปแอสเช (รึเปล่า) จึงตกลงขายให้บาร์ซ่า เราเลยแห้วไป หลังจากนั้น เคนยอนก็ถูกโรมัน อบราโมวิช ซื้อตัวไปอยู่ด้วย ถึงแม้จะมีสัญญาห้ามเปิดเผยความลับของเรา หลังจากออกไปก็ตาม แต่เคนยอนก็น่าจะจำได้ว่า เราให้ความสนใจนักเตะคนไหนบ้าง แล้วกลายเป็นเชลซี ที่คว้านักเตะที่เราสนใจไปได้ตลอดเลยในช่วงนั้น ไม่ว่า ร็อบเบน, เอสเซียง, หรือบัลลัค เพราะเราทุ่มสู้เขาไม่ได้นั่นแหละ -------------------------------------------------------------------- ทีนี้ เรื่องการซื้อขายที่ทำไมเราช้า เมื่อก่อนเป็นเพราะเรื่องการเป็นมหาชน การจะระดมทุนสโมสรมาซื้อใคร ก็ต้องผ่านมติของกรรมการ ซึ่งเป็นบริษัทมหาชน มันค่อนข้างเสียเวลา ยุ่งยาก ซับซ้อนกว่าปกติ การระดมทุน เจรจา ดีล แต่ละเรื่องแต่ละราย จึงช้ากว่าเขาไปหมด ถึงแม้เงินจะมีมากมาย แต่ถ้าขยับได้ช้ากว่า ก็เท่ากับเป็นรองแล้วครับ ต่อมา ก็เป็นเกลเซอร์ ที่ทำให้เราดันติดหนี้ก้อนโตมโหฬารขนาดนี้ ถึงแม้จะมีกำไรมหาศาล แต่ดอกเบี้ย และเงินต้นที่ต้องจ่าย ก็ทำให้เขียมได้ ผมเชื่อว่า ถ้าไม่มีไอ้หนี้ก้อนหนี้ เรื่องถูกโก่งค่าตัวน่ะ เราสู้ได้สบายๆ แต่พอมีหนี้แล้ว มาถูกโก่งค่าตัวอีก ก็เลยกลายเป็นแพงกว่าที่คิด ไม่ซื้อดีกว่า ถ้าปีหน้า แมนฯซิตี้ สามารถเบียดขึ้นมาได้ตั๋ว ชปล. ผมว่าเราจะลำบากกว่านี้ ยิ่งถ้าเชลซีสามารถเล่นได้ดีๆ ชอปปิ้งปีนี้ได้ดีๆ เรากระอักแน่ๆครับ เรามาลุ้นท่านพระยาหมื่นจ่ายตลาดสิ้นปีกันก่อนดีกว่า จากคุณ : สงบใจ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 09:50:20

ความคิดเห็นที่ 59 เรื่องเบิร์บ รอปิดฤดูกาลแล้วค่อยดูกันดีกว่าครับว่า ตกลงป๋าจะเอายังไง แต่ส่วนตัวก็คิดว่าเขาไม่เหมาะกับทีมในยุคนี้ครับ โดยเฉพาะเรื่องหัวจิตหัวใจ ไม่ต้องเอาไปเทียบชั้นกับก็องโต้หรอกครับ เอาแค่ไบรอัน แม็คแคลร์ก็พอ ในจังหวะที่ต้องการประตู เขาแทบไม่เคยทำให้ทีมมีความหวังได้เลย ถึงจะขาดความมั่นใจ ฟอร์มตก แต่บางโอกาส อย่างน้อยมันต้องเข้ากรอบครับสำหรับศูนย์หน้าระดับนี้ จากคุณ : gigzy เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 13:29:32

ความคิดเห็นที่ 60 เส้นทางลุ้นเชมป์ของเรา นอกจากต้องลุยเต็มที่เพื่อ 3 แต้มแล้วยังต้องขอจับมือกับวีแกนแท็คทีมช่วยอีก แต่ไม่ว่ายังไงเมื่อต้นฤดูกาลที่ไม่มีทั้งโด้และเตเวซ มาลุ้นจนหยดสุดท้ายขนาดนี้ ก็ดีใจแล้ว จากคุณ : I am mayfairy เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 15:53:07

ความคิดเห็นที่ 61 บางที ไอ้เจ้าชิชาริโต้ ที่เขาว่ากันว่าเคลื่อนที่ดี พลิกตัวเร็วในกรอบโทษ อาจเป็นหมากเสริม เอามาเล่นกับ กองหน้าแบบเบิบก็ได้ครับ คือ มาเคลื่อนที่ทำทางให้เบิบจ่าย และได้เล่นเกมถนัด แต่ปีนี้ ที่เจ็บใจ ก็เหมือนที่ คุณ สงบ บอกครับ ผมโทษเฟอกี้เต็มๆเหมือนกันที่ชะล่าใจเกินไป การชวดนักเตะเกรดเอ (แบบเตเบซ เบนเซ่ หน้าบาก) แล้วไปเลือก กองหน้าที่ก่อนซื้อ (เซ็นฟรี) ก็รู้ว่าเจ็บแน่ๆ แล้ว กับปีกโนเนม อย่างโอเบตง ที่ท้ายสุด แทบไม่ได้เล่น มันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ซื้อตัวล้มเหลวครับ ผมคาใจว่า ด้วยงบปีที่ผ่านมา นักเตะแบบ ฟาเบียโน่ ฮุนเตล่าร์ อยู่ในวิสัยที่ซื้อได้ แต่กลับเสี่ยงไว้ใจเบอร์บา และกองหน้าที่เจ็บบ่อย แบบโอเว่น อนึ่ง อย่าลืมว่าปีนี้ ประตูเดียวที่ทำได้ ณ สนามของแบลคเบิน น่าจะทำให้เราคว้าแชมป์ได้เลยทีเดียว แต่เราไม่มีคนที่จะมายิงประตูนั้นนั่นเอง คือ ปีนี้ถ้าจะพลาด มันพลาดนิดเดียวจริงๆ จากคุณ : vdi เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 53 23:27:47