ความคิดเห็นที่ 1 ผมจะนำพาถ้วยแชมป์มาสู่ทีมของเราให้ได้! (แล้วคุณจะรัก"มันชินี่") "ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ทำให้ทุกคนในทีมเชื่อมั่นในตัวเองเสมอว่าเขาสามารถชนะได้ทุกการแข่งขัน เราต้องการขวัญกำลังใจและความมุ่งมั่นในชัยชนะภายในทีม เพราะในที่สุด มันจะแสดงผลลัพธ์ออกมาให้เราเสมอ"มันชินี้กล่าว "ขวัญกำลังใจ และความมุ่งมั่นไม่ได้สร้างขึ้นเพียงข้ามคืน หรือเพียงแค่ระยะเวลา 6 เดือนหรือ 8 เดือนเท่านั้น ถึงจะสามารถทำให้มันอยู่ในตัวเราได้,แต่ถ้าคุณมีความเตรียมพร้อมที่จะลงแข่งอย่างจิงจังในทุกๆเกมแล้ว, คุณก็จะมีโอกาสได้รับชัยชนะในทุกๆเกม" "ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว คุณไม่สามารถที่จะได้รับชัยชนะ โดยที่ไม่มีความพยายามอย่างหนักเลย" อดีตนายใหญ่ อินเตอร์ มิลานกล่าว พร้อมกันนี้ มันชินี่ยังได้แสดงความคาดหวังในทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้ ถึงฤดูกาลหน้าซึ่งไม่ใช่การได้ไปยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีค แต่ยังรวมไปถึงการได้ครองรางวัลแชมป์ถ้วย พรีเมียร์ ลีค อีกด้วย "ผมต้องการประสบความสำเร็จ กัีบถ้วยแชมป์มากมายในอนาคตของสโมสรนี้"เขากล่าว"ฤดูกาลนี้เราทำผลงานได้โอเึคแล้ว แต่ในฤดูกาลหน้าผมต้องการที่จะให้เราตั้งเป้าหมายไปถึงการถ้วยแชมป์ พรีเมียร์ลีคส์" "ผมคิดว่าแฟนบอลที่นี่น่าทึ้งมาก พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนที่ดีตั้งแต่ผมมาอยู่กับทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้เป็นครั้งแรก" "มันทำให้ผมมีความทะเยอทะยานในการนำพวกเขาไปสู่ความสำเร็จในเวทีวงการลูกหนัง-เมื่อเราได้ถ้วยแชมป์ใบแรกมา นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของทุกๆคน" โรเบอร์โต้ มันชินี้จะไม่ใช้เวลาไปกับครอบครัว หรือนั่งดูฟุตบอลโลกกับลูกชายของเขา และจะไม่สนใจถึงนัดชิงหรือแม้แต่อิตาลีจะได้เข้าชิงก็ตาม "ผมจะยังกลับมาทำงานที่คาร์ลิงตัน(เมืองหนึ่งในแมนเชสเตอร์)ในขณะที่ฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศกำลังแข่งกันอยู่" เขายิ้ม.. ที่มา..mcfc.in.th จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:22:33

ความคิดเห็นที่ 2 มันโช่ทาบยูเว่ชุบชีวิตใหม่ดีเอโก้ แม้ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่ากับ ยูเวนตุส แต่ในมุมมอง โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือไฟแรงทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้เห็นอะไรดีๆอยู่ในตัว ดีเอโก้ ยินดีรับเซ้งต่อในราคา 19 ล้านปอนด์ "ตุ๊ตโต้แมร์คาโต้เว็บ" หนังสือพิมพ์ชื่อดังแห่งกรุงตูรินรายงานว่า "มันโช่" จับตาดูความเคลื่อนไหวในทีมยูเว่อย่างใกล้ชิด หลังเพิ่งเปิดตัว ลุยจิ เดล เนรี่ ในฐานะกุนซือคนใหม่ส่งผลต่ออนาคตของนักเตะหลายคนอยู่บนความไม่แน่ไม่นอนรวมถึงเพลย์เมคเกอร์บราซิเลี่ยนด้วย มันชินี่ ถือเป็นแฟนตัวยง ดีเอโก้ ตั้งแต่สมัยค้าแข้งอยู่กับ แวร์เดอร์ เบรเมน และเคยพยายามทาบทามมาร่วมงานกันด้วยกันที่ อินเตอร์ มิลาน แต่แคล้วคลาดกันจนได้ต่างฝ่ายต่างแยกกันไปคนละทาง แต่ซัมเมอร์นี้บอสมะกะโรนีมั่นใจจะได้ลงเรือลำเดียวกัน http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=280539 จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:24:31

ความคิดเห็นที่ 3 แจม!ผี,เรือร่วมวงสิงห์ล่าตัวกาก้า สองทีมดังแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ขอร่วมแจกเชลซี ในการพยายามไล่ล่าคว้าตัวริคาร์โด้ กาก้าเพลเมกเกอร์ของเรอัล มาดริดที่ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะไม่สู้ดีสักเท่าไร AS รายงานว่า ‘ปีศาจแดง’ และ ‘เรือใบ’ ต่างก็เฝ้าจับตาดูสถานการณ์ของกาก้า ที่ทำผลงานในฤดูกาลแรกกับ ‘ราชันชุดขาว’ ได้ไม่น่าประทับใจเท่าไร อีกทั้งยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดเวลาอีกด้วย แต่ทีมที่ดูจะมีภาษีกว่าใครเพื่อนก็คงจะเป็นเชลซี ที่มีคาร์โล อันเชล็อตติอดีตกุนซือเอซี มิลานที่เคยร่วมงานกับกาก้า และมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด แต่ก็มีรายงานว่า ถ้าหากโจเซ่ มูริญโญ่เข้ามารับงานในถิ่นซานติเอโก้ เบอร์นาบิวจริง ๆ กาก้าก็จะเป็นหนึ่งในนักเตะที่เขาอยากจะร่วมงานด้วย _________________ http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=280550 จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:25:30

ความคิดเห็นที่ 4 ยูเว่ส่อโละสี่แข้งดังพ้นทีมหลังบอลโลก ยูเวนตุสขอเลื่อนการเจรจาสัญญาใหม่กับทางสี่สตาร์ดังอย่างจานลุยจิ บุฟฟ่อน, ฟิลิเป้ เมโล่, ดิเอโก้ และอเมารีไปเป็นจบฟุตบอลโลก ทำให้อนาคตสี่คนนี้ยังอยู่ในความไม่แน่นอน เริ่มจากบุฟฟ่อนนั้นมีแววว่าจะได้ย้ายทำเงินให้กับทางสโมสร และก็ได้นัดหาทางออกกันหลังจบฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้คราวนี้ แม้เจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่เคยคิดจะย้ายและอยากอยู่ให้หมดสัญญาในปี 2013 แต่ผู้จัดการทั่วไปอย่างจูเซปเป้ มาร็อตต้า ก็ยืนยันว่าจะคุยกันอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะให้อยู่หรือไป ขณะเดียวกัน นักเตะคนอื่นๆอย่างฟิลิเป้ เมโล่ ห้องเครื่องทีมชาติบราซิล, อเมารี ศูนย์หน้าบราซิเลี่ยนที่ได้พาสปอร์ตอิตาลี และดิเอโก้ เพลย์เมคเกอร์แซมบ้า ก็ต้องเลื่อนการเจรจาออกไปจนจบฟุตบอลโลกเช่นกัน แต่คาดว่าจะโดนเชือดสูง เพราะไม่เข้ากับระบบ 4-4-2 ที่ทางโค้ชคนใหม่อย่างลุยจิ เดล เนรี่ โปรดปราน ว่ากันว่าการขายนักเตะคราวนี้น่าจะเป็นการช่วยเสริมทุนในการสร้างทีมใหม่รอความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในฤดูกาลหน้าอีกด้วย http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=280274 จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:27:12

ความคิดเห็นที่ 5 โรบินโญ่ ลั่น ไม่กลับไปแมนฯซิตี้ โรบินโญ่ ประกาศกร้าว ไม่อยากกลับมาค้าแข้งในถิ่น ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ แล้ว หลังทำผลงานดีกับ ซานโตส ในบ้านเกิด โรบินโญ่ กองหน้าทีมชาติบราซิล ซึ่งกลายเป็นส่วนเกินของแมนเชสเตอร์ ซิตี และถูกปล่อยให้ ซานโตส ทีมดังในบราซิล ยืมตัวกลับไปใช้งานเป็นเวลา 6 เดือน และจะกลับมาร่วมทีมเรือใบสีฟ้า อีกครั้ง หลังจบฟุตบอลโลก แต่ล่าสุด มีรายงานว่า โรบินโญ ออกอาการงอแง ไม่อยากกลับมาค้าแข้งในถิ่นซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ อีก เพราะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ โรแบร์โต มันชินี และต้องการที่จะอยู่ค้าแข้งกับ ซานโตส ต่อไป เพื่อจะได้เล่น โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส คัพ ปี 2011 ต่อไป อย่างไรก็ตาม โรบินโญ ก็ตกเป็นข่าวลือว่า กำลังถูก เอซี มิลาน ทีมดังของอิตาลี ให้ความสนใจที่จะรับเซ้งตัวไปค้าแข้งในถิ่น ซานซิโร ฤดูกาลหน้าด้วย http://sport.teenee.com/sport/60392.html หากมี ดิเอโก้ สักคน อาจเปลี่ยนความคิดใหม่ก็ได้ จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:29:12

ความคิดเห็นที่ 6 แบร์รี ยังเจ็บ ส่อชวดเล่นบอลโลก 2010 แกเร็ธ แบร์รี มิดฟิลด์ ทีมเรือใบสีฟ้า ส่อชวดเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เพราะยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน อาจโดน ฟาบิโอ คาเปลโล หั่นทิ้ง ก่อนส่งชื่อให้ฟีฟ่า ความเคลื่อนไหวการเตรียมทีมชาติอังกฤษ สู้ศึกเวิลด์ คัพ 2010 รอบสุดท้าย ก่อนจะมีการตัดตัวเหลือ 23 คน ส่งรายชื่อให้ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยเฉพาะ ปัญหาอาการบาดเจ็บของ แกเร็ธ แบร์รี มิดฟิลด์ตัวสำคัญจากแมนเชสเตอร์ ซิตี รายงานระบุว่า อาการบาดเจ็บข้อเท้าของ อดีตมิดฟิลด์ แอสตัน วิลลา ซึ่งเกิดขึ้นจากเกมที่ แมนซิตี พ่ายต่อสเปอร์ส เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่ยังมีอาการไม่ดีขึ้น ยังอยู่ระหว่างพักรักษาตัว และหวังเร่งฟิตให้ทันเวลาลงทะเบียน 23 คนสุดท้าย ภายในวันที่ 1 มิถุนายน "ผมทำงานร่วมกับคณะแพทย์ที่แคร์ริงตัน พวกเขาพอใจในอาการที่ดีขึ้น แต่เร็วเกินไปที่ผมจะบอกว่า ผมหายดีแล้ว หรือ ฟิตทันสำหรับฟุตบอลโลก ผมต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง ต้องรอดูอีกสักระยะ" แบร์รี กล่าว ทั้งนี้ อาการของแบร์รี สุ่มเสี่ยงต่อการโดนหั่นทิ้งของ ฟาบิโอ คาเปลโล กุนซือทีมชาติอังกฤษ เป็นอย่างมาก เพราะว่า กุนซือจอมเฮี๊ยบรายนี้ ต้องการนักเตะที่สมบูรณ์เท่านั้น ในการเดินทางไปยังแอฟริกาใต้ http://sport.teenee.com/sport/60387.html จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:30:13

ความคิดเห็นที่ 7 งูกับเสือใครร้ายกว่า? ฟุตบอลนัดสุดท้ายของฤดูกาลน่าสนใจมากครับ "งูใหญ่" กับ "เสือใต้" ใครดุกว่ากัน? ผู้ชนะมีถ้วยบิ๊กเอียร์เป็นโบนัส มันล้ำค่าเหลือเกินครับทีมใดเป็นเจ้ายุโรปปีนี้ ผมเองยังรู้สึกตื่นเต้นไปด้วยเลย ไม่ว่าใครเป็น "ทริปเปิ้ลแชมป์" มันจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ความจริงคำว่าทริปเปิ้ลแชมป์ เราก็เพิ่งคุ้นหูมาเมื่อปีที่แล้วนี่เอง บาร์เซโลน่า เพิ่งกระชาก 3 ถ้วยมาครองได้ปีนี้ "เอาอีกแล้ว" จะเกิดกับทีมจากอิตาลีหรือเยอรมัน ไม่มีใคร(ในประเทศ)ปฎิเสธความเก่งของ อินเตอร์ มิลาน และบาเยิร์น มิวนิค แต่ทั้งคู่ต้องปฎิเสธกันเองไม่ให้เป็นแชมป์รายการสุดท้าย สู้ถวายหัวแน่นัดเดียวแล้วนี่   ก่อนเกมสื่อประโคมข่าวเยอะมาก แต่ละทีมมีจุดหมายมากมายทั้งนักเตะและตัวผู้จัดการทีม ไม่ว่าหยิบประเด็นไหนขึ้นมาก็มีคนสนใจ แม้กระทั่งบทสัมภาษณ์สาดกันไป-มาสนุกดี ผมชอบสีสันทางฝั่งโชเซ่ มูรินโญ่ ก่อนเข้ามาคุมเชลซี ไม่เคยนึกมาก่อนว่าจะมีคนเก่ง-อหังการ์ได้ขนาดนี้ ผมไม่เคยเกลียดคนบุคลิกนี้ แม้จะไม่ชอบที่สุด แต่ยังดีกว่าพวก "หน้าไหว้-หลังหลอก" คนแบบนี้ไปให้ไกล พูดด้วย 2-3 คำก็พอแล้วขี้เกียจปั้นหน้า มูรินโญ่อยู่ในอิตาลีแทบไม่ได้(แล้ว) สื่อในอิตาลี ไม่ชอบ"ขวานผ่าซาก"แบบเขา ประเดี๋ยวก็ต้องไป บังเอิญเป็นคนเก่งตลาดยังเปิดกว้าง รองรับคนมีฝีมือแบบนี้ไปทำงาน อยากให้ตลาดเมืองไทยเปิดกว้างแบบนี้จัง ดังนั้นไม่น่าแปลกใจถ้าวันเสาร์นี้ เดอะ สเปเชียลวัน จะคุมทีมเป็นนัดสุดท้าย หากอินเตอร์คว้าแชมป์ก็ก้าวลงจากเก้าอี้แล้วหันไปคุมทีม เรอัล มาดริด ในสเปนแทน ได้วาระเหมาะสมไม่เหลือความท้าทายอะไรอีก ชีวิตในสเปนดูจะมีความแปลกใหม่ มีความสงบและคงได้ใช้ฝีมือในการทำทีมอย่างเต็มที่อีกหน ค่อนข้างมั่นใจว่าวันนึงมูรินโญ่ไป เรอัล มาดริด แน่ ว่าแต่เสาร์นี้เขาจะนำอินเตอร์ไปถึงฝั่งฝันหรือไม่อีก 90 นาทีเท่านั้นเอง หรือจะเป็น 120 นาทีก็ได้ แต่สุดท้ายขอให้อินเตอร์ชนะ แฟนงูใหญ่ก็จะสิ้นสุดเวลาแห่งการรอคอยเสียทีหลังจากชะเง้อมา 4-5 ปีเต็ม แต่งูจะร้ายกว่าเสือน่ะหรือ? เป็นเรื่องยาก บาเยิร์นก็มี "ขงเบ้งดัตช์" ฟาน กัล คุมทีมอยู่ นี่เป็นสุดยอดของบอลเทคนิค แผนการณ์แยบยลละเอียดทุกรูขุทขน งานนี้ได้ปะทะกึ๋นกันเต็มๆ ระหว่างกุนซือ 2 คน ส่วนนักเตะในสนามให้จับตาดู อาร์เยน ร็อบเบน กับเวสลี่ย์ สไนเดอร์ สองนักเตะดัตช์ในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ซึงจะมีบทบาทมากในเกมนัดชิงฯ แบบนี้ เรียกว่าใครเล่นได้เด่นกว่ากันทีมของตัวเองมีสิทธิ์เป็นแชมป์สูง พอดีเลยเนอะติดเคอร์ฟิส์อยู่บ้านดูบอลดึกพอดี ต.โต้ง http://www.siamsport.co.th/Column/100521_133.html จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:37:37

ความคิดเห็นที่ 8 อินเตอร์ - บาเยิร์น เกมประวัติศาสตร์ เป็นไปตามคาดกับการคว้าแชมป์ที่ 2 ได้ทั้ง อินเตอร์ และ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อสัปดาห์ก่อนทำให้เกมชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ซานติอาโก้ เบร์นาบิว วันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม นี้จึงสุดพิเศษจริงๆ นอกจากผู้ชนะจะกวาด 3 แชมป์ได้ในฤดูกาลเดียวเหมือน บาร์เซโลน่า ที่ทำไว้ในฤดูกาลก่อนแล้วยังจะส่งให้ โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ หลุยส์ ฟาน กัล กลายเป็นกุนซือคนที่ 3 ที่ทำได้แชมป์กับ 2 สโมสร โชเซ่ มูรินโญ่ เคยพา ปอร์โต้ เถลิงบัลลังก์แชมป์รายการนี้มาแล้วแบบพลิกความคาดหมายในปี 2004 ขณะที่ หลุยส์ ฟาน กัล สร้างชื่อขึ้นมาตอนนำ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม โค่น เอซี มิลาน 1-0 ได้ในรอบชิงชนะเลิศปี 1995 ทั้งนี้ในอดีตที่ผ่านมามีแค่ แอร์นส์ ฮัปเปิ้ล กับ อ็อตมาร์ ฮิทช์เฟลด์ ที่เคยพา 2 สโมสรคว้าแชมป์รายการนี้ซึ่งในอดีตก็คือ ยูโรเปี้ยนส์ คัพ มาครองได้ สำหรับ มูรินโญ่ ในวัย 47 ปีจะกลายเป็นเทรนเนอร์อายุน้อยที่สุดในประวัติที่พา 2 สโมสรหมายเลข 1 ของยุโรปได้หากทีมงูใหญ่ของเขาเก็บชัยชนะได้ เพราะกว่าที่ แอร์นส์ ฮัปเปิ้ล จะทำสำเร็จกับ เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม และ ฮัมบูร์ก ก็ปาเข้าไป 57 ปีแล้ว ขณะที่ อ็อตมาร์ ฮิทช์เฟลด์ ทำได้ในวัย 52 ปี กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ บาเยิร์น มิวนิค ตามลำดับ อย่างไรก็ดี ฟาน กัล ในวัย 58 ปีจะเป็นเจ้าของสถิติประสบความสำเร็จสูงสุดกับ 2 สโมสรในช่วงเวลาที่ห่างกันมากที่สุด ซึ่งหากย้อนกลับไปสมัยพาทีมดังแดนกังหันได้แชมป์ปี 1995 ก็ปาเข้าไป 15 ปีแล้ว ขณะที่ ฮัปเปิ้ล ทิ้งช่วงจากที่พา เฟเยนูร์ด ร็อตเตอร์ดัม พลิกกลับมาชนะ กลาสโกว์ เซลติก 2-1 ในปี 1970 แล้วมาได้แชมป์อีกครั้งกับ ฮัมบูร์ก ที่เฉือนชนะ ยูเวนตุส 1-0 ในปี 1983 เป็นเวลา 13 ปี ทั้งนี้ มูรินโญ่ ซึ่งมั่นใจเหลือเกินว่าชื่อของเขาต้องถูกจารึกเข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับ 2 ยอดกุนซือดังกล่าวแน่ไม่ช้าก็เร็ว และแม้จะได้รับการจดบันทึกเลยเมื่อจบเกมนี้ก็จะไม่ใช่คนที่พา 2 ทีมคว้าแชมป์ถ้วยใหญ่ยุโรปได้เร็วที่สุด เพราะ อ็อตมาร์ ฮิทชเฟลด์ ใช้เวลาที่ห่างกันแค่ 4 ปีพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าแชมป์ในปี 1997 ด้วยการชนะ ยูเวนตุส 3-1 ต่อด้วยการนำ บาเยิร์น มิวนิค ดวลจุดโทษชนะ บาเลนเซีย 5-4 หลังเสมอกันในเวลาปรกติ 1-1 ในปี 2001 ในแง่ของประสบการณ์ หลุยส์ ฟาน กัล ที่อาวุโสกว่ามีมากกว่า โชเซ่ มูรินโญ่ แน่แถมเทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสยังเคยเป็นมือขวาของกุนซือชาวดัตช์มาก่อนด้วยในสมัยที่ยังคุม บาร์เซโลน่า อีกทั้งยังได้รับคำยกย่องจาก อ็อตมาร์ ฮิทช์ฟิลด์ อีกด้วยว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2009-10 นี้ นอกจากจะรับมือกับสตาร์ดังในทีมเสือใต้ได้เป็นอย่างดีแล้ว ที่ ฟาน กัล ได้เครดิตไปเต็มๆ คือความสำเร็จในนโยบายหมุนเวียนนักเตะลงสนามอันเป็นกุญแจสำคัญให้ทีมมีลุ้นถึง 3 แชมป์ ทว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงฝีไม้ลายมือเหมือนกัน โดยเฉพาะการพาทีมเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศก็ได้รับคำชมมากเหมือนกัน ซึ่งแน่นอนมันมาจากมันสมองของเขานั่นเอง อย่างไรก็ดีแม้ มูรินโญ่ จะเคยเป็นผู้ช่วยของ ฟาน กัล แต่กลับมีปรัชญาลูกหนังที่ต่างกัน โดยกุนซือชาวดัตช์ชื่นชอบการเล่นเกมรุกเป็นชีวิตจิตใจอันเห็นได้จากสไตล์การเล่นของ บาเยิร์น มิวนิค ชุดนี้ ขณะที่กุนซือจอมโอหังชาวโปรตุกีสเน้นความแน่นอนและให้ลูกทีมทุกคนมีส่วนกับเกมรับ ทว่าก็ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงว่าไม่ได้เน้นอุดประตูเหมือนที่มีหลายคนส่งเสียงวิจารณ์อยู่ในเวลานี้ และการที่ บาร์เซโลน่า กวาดไปได้ทั้ง 3 แชมป์ในฤดูกาลก่อนก็หมายความว่า "ทริปเปิ้ล แชมป์" จะเกิดขึ้น 2 ฤดูกาลติดไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะในวันเสาร์ที่ 22 พฤษภาคม นี้ และถ้าเป็น อินเตอร์ ที่ชนะก็จะส่งให้ ซามูแอล เอโต้ กลายเป็นนักเตะประวัติศาสตร์ไปทันที ทั้งนี้ก็เนื่องจาก เอโต้ เป็นกำลังสำคัญที่นำทีมเจ้าบุญทุ่มกวาดได้ทั้ง ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลก่อน ขณะที่พา อินเตอร์ คว้าไปแล้วทั้ง กัลโช่ เซเรีย อา และ โคปปา อิตาเลีย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมายังไม่เคยมีนักเตะคนไหนที่ได้ ทริปเปิ้ล แชมป์ 2 ฤดูกาลติดและต่างสโมสรด้วย จึงเห็นได้ว่าจะมีสถิติใหม่เกิดขึ้นมากมายเมื่อจบเกมนี้ทำให้การดวลกันของ อินเตอร์ กับ บาเยิร์น มิวนิค ถูกยกขึ้นมาอยู่ในระดับ 5 ดาวทันที ในส่วนของความพร้อมล่าสุดนั้น อินเตอร์ จะขาด ติอาโก้ ม็อตต้า ที่โดนแบนเพราะถูกไล่ออกในรอบรองชนะเลิศ นัด 2 กับ บาร์เซโลน่า ซึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องตัดสินใจว่าจะใช้ เดยัน สแตนโกวิช ลงยืนแทน หรือดัน ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ขึ้นมายืนเป็นกลางรับคู่กับ เอสเตบัน กัมบิอาสโซ่ แล้วใช้ คริสเตียน คิวู ยืนเป็นแบ็คซ้าย ด้าน บาเยิร์น มิวนิค แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในการยื่นอุทธรณ์โทษแบนของ ฟร้องก์ ริเบรี่ แต่ หลุยส์ ฟาน กัล ก็จัดทีมชุดที่แข็งแกร่งและลงตัวลงสนามได้ โดย ฮามิต อัลตินท็อป จะลงทำเกมกราบขวาแทน หากไม่มีตัวหลักรายใดเจ็บก่อนเดินลงสนามซะก่อน 11 คนแรกของทั้ง 2 ทีมน่าเป็นดังนี้ อินเตอร์  (4-2-3-1)  :  ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ, วอลเตอร์ ซามูเอล, คริสเตียน คิวู - ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, เอสเตบัม กัมบิอาสโซ่ - โกรัน ปานเดฟ, เวสลี่ย์ สไนเดอร์, ซามูแอล เอโต้ - ดิเอโก้ มิลิโต้ บาเยิร์น มิวนิค  (4-2-2-2)  :  ฮันส์ ยอร์ก บุทท์ - ฟิลิปป์ ลามห์, ดาเนี่ยล ฟาน บุยเต็น, มาร์ติน เดมิเคลิส, โฮลเกอร์ บาดชตูเบอร์ - มาร์ค ฟาน บอมเมล, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, ฮามิต อัลตินท็อป - โธมัส มุลเลอร์, อิวิก้า โอลิช เทียบดูจากขุมกำลังและฟอร์มการเล่นช่วงหลังก็ต้องบอกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกัน แต่ในมุมของผู้สันทัดกรณีโดยเฉพาะบริษัทรับพนันถูกกฏหมายในยุโรปยกให้ อินเตอร์ มีภาษีกว่าเล็กน้อยตรงที่เกมรับเหนียวแน่นกว่า ขณะที่การเข้าทำมีพิษสงพอกัน ทั้งนี้ความวูบวาบอาจจะอยูกับ บาเยิร์น มิวนิค เพราะมีตัวพลิกทีเด็ดอย่าง อาร์เยน ร็อบเบน แต่หากโดนปิดหรืดถูกตัดออกไปจากเกมได้ละก็มีปัญหาแน่ ขณะที่ทีมงูใหญ่อาศัยการวางบอลของ เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เป็นหลัก ซึ่งก็ต้องตามดูเช่นกันว่าทีมของ ฟาน กัล จะมีไม้เด็ดอะไรในการรับมือหรือเปล่า สรุปว่าเป็นคู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อเปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติและยากต่อการชี้ชัดว่าสุดท้ายฝ่ายใดจะชนะ รู้เพียงแต่ว่าจะเป็นเกมที่ดูแล้วตื่นเต้นตลอด และไม่ว่าฝ่ายใดชนะก็จะเป็นแชมป์ที่สมศักดิ์ศรี ใครจะเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาได้ระหว่าง โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ หลุยส์ ฟาน กัล รวมไปถึง ซามูแอล เอโต้ เสาร์นี้มีคำตอบแล้วครับ... "คุณฉุย" http://www.siamsport.co.th/Column/100520_098.html จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 17:42:04

ความคิดเห็นที่ 9 อย่าลืมแชมป์เปี้ยนส์ ลีก นัดส่งท้ายของฤดูกาลคืนนี้นะครับ จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 18:22:39

ความคิดเห็นที่ 10 จอห์นสันซ้อมกับทีมชาติอังกฤษ จากคุณ : pelipe เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 18:53:52

ความคิดเห็นที่ 11 ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ ประจำฤดูกาล 2009/2010 วันนี้(22 พ.ค.) ระหว่างทีม "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ดับเบิลแชมป์จากเยอรมัน พบกับ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ดับเบิลแชมป์จากอิตาลี เกมนี้ใครชนะ จะคว้าทริปเปิลแชมป์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรทันที... โดยเกมนี้จะลงเล่นกันที่สนามซานติอาโก เบอร์นาเบว กรุงมาดริด ประเทศสเปน สนามเหย้าของทีม "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด คิกออฟในเวลา 01.45 น. ช่อง 3 และช่อง 7 ถ่ายทอดสด เริ่มกันที่ความพร้อมของ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค เกมนี้กุนซือ หลุยส์ ฟาน กัล จะต้องอดใช้งาน ฟรองค์ ริเบรี ปีกหน้าบาก คีย์แมนคนสำคัญของทีม ที่ติดโทษแบน หลังโดนใบแดงในเกมรอบรองชนะเลิศ เลกแรก กับ โอลิมปีก ลีญง ซึ่งมีการคาดหมายว่า โค้ชชาวดัตช์ น่าจะให้ ฮามิต อัลตินท็อป ลงสนามแทน ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหา สำหรับ บาเยิร์น ที่จะได้ใช้แข้งตัวหลักกันอย่างครบครัน โดยคีย์แมนของทีมแชมป์บุนเดสลีกา และแชมป์เดเอฟเบ โพคาล จากเยอรมัน ในนัดนี้คือ อาร์เยน ร็อบเบน และ อิวิกา โอลิช สองดาวเตะตัวรุกที่กำลังเล่นได้อย่างท็อปฟอร์มในช่วงหลัง จนสามารถพาทีมเข้ามาลุ้นแชมป์ถ้วยใบใหญ่ของยุโรปเป็นสมัยที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรได้สำเร็จ รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงตามคาดของ บาเยิร์น มิวนิค ฮันท์ ยอร์ก-บุทท์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, ดาเนียล ฟาน บุยเต็น, มาร์ติน เดมิเคลิส, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, อาร์เยน ร็อบเบน, บาสเตียน ชไวสไตน์เกอร์, มาร์ค ฟาน บอมเมล, ฮามิต อัลตินท็อป, โธมัส มุลเลอร์, อิวิกา โอลิช ด้าน "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ทีมแชมป์กัลโช ซีรีเอ และ โคปปา อิตาเลีย จากอิตาลี นัดนี้ขาด ติอาโก ม็อตตา กองกลางชาวบราซิล ที่โดนแบน หลังถูกใบแดงในเกมที่แล้วกับ บาร์เซโลนา ทำให้ต้องเดาใจ โจเซ มูรินโญ ว่า จะเลือกส่งใครลงสนามแทน โดยมีตัวเลือกอย่าง เดยัน สแตนโกวิช, ซุลเลย์ มุนตารี หรืออาจดัน คริสเตียน คิวู ขึ้นมาเล่นเป็นมิดฟิลด์แทน ส่วนนักเตะรายอื่นๆ อาทิ ดาวิเด ซานตัน แบ็กดาวรุ่ง บาดเจ็บ จะชวดลงช่วยทีมในเกมนี้ ขณะที่รายของ อิบัน คอร์โดบา ยังคงต้องเช็กความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ข่าวดีคือ เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่เจ็บในเกมลีกนัดสุดท้ายกับ เซียนา จะสามารถลงสนามได้อย่างไร้ปัญหา ส่วนตัวอันตรายของทีม "งูใหญ่" ในการลุ้นคว้าถ้วย "บิ๊กเอียร์" สมัยที่ 3 ในประวัติศาสตร์สโมสร นอกเหนือจากมันสมองของกุนซือ โจเซ มูรินโญ แล้วก็คือ ดีเอโก มิลิโต หัวหอกตัวทีมชาติอาร์เจนตินา ที่ฟอร์มโดดเด่นในช่วงหลัง รวมถึงการยิงประตู เซียนา คว้าแชมป์สคูเด็ตโตมาได้ เช่นเดียวกับลูกฟรีคิกและลูกยิงไกลของ สไนจ์เดอร์ ที่ทาง บาเยิร์น จะประมาทไม่ได้เช่นเดียวกัน รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงตามคาดของ อินเตอร์ มิลาน ชูลิโอ เซซาร์, ไมคอน, วอลเตอร์ ซามูเอล, ลูซิโอ, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, เดยัน สแตนโกวิช, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, เอสเตบัน คัมบิอัสโซ,ซามูแอล เอโต, ดีเอโก มิลิโต, โกรัน ปานเดฟ http://www.thairath.co.th/content/sport/84561 จากคุณ : still solo one เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 19:52:52

ความคิดเห็นที่ 12 -ดิเอโก้   กาก้า  โรนัญดิญโญ่   บุปฟ่อน  พวกเคยดูถูกแมนซิตี้ไม่ต้องเอามาเลยครับ ถึงมาก็ไม่เต็มใจเล่นปล่อยให้นั่งสำรองต่อไป  โรบิญโญ่ก็ขายทิ้งไม่อยากได้แล้วหลังๆเล่นก็งั้นๆปากก็ไม่ค่อยดี   -หาแบบ อดัม  จอร์นสัน ดีกว่าทุ่มเทมาได้ไม่กี่เดือนได้ใจไปเต็มๆ จากคุณ : Astra เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 20:55:43

ความคิดเห็นที่ 13 นักเตะแบบจอร์นสัน  มันโช่คงมองหาอยู่หาอยู่แล้ว  นักเตะแบบนี้มีแมวมองทีมใหญ่ๆมองอยู่แล้ว อีกอย่างจอร์นสัน ก็เด็กไป  ประสบการณ์ก็ยังน้อย   จะเห็นว่าเล่นไม่ค่อยเต็ม90 นาที ปีต่อไปต้องการนักเตะที่มีประสบการณ์ระดับสูงและนักเตะที่เป็นดาวรุงแบบจอนสัน ดูบุคลิคของมันโช่  ถ้าเจอนักเตะที่เหมาะสมกับทีมแล้ว คงไม่ไปสนใจเรื่องเก่าที่นักเตะคนนั้นเคยพูดหรอก  มันโช่ดูจะเป็นสุภาพบุรุษซะมากกว่า ยกเว้นตอนมีเรื่องกับ มอยส์   ""ถ้าอยากยิ่งใหญ่ต้องก้าวผ่านสิ่งที่ขัดขวางความยิ่งใหญ่กันไปครับ"" จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 21:45:27

ความคิดเห็นที่ 14 เพิ่งบอกกระทู้ก่อนว่า  แมนซินี่ไม่สนดิเอโก้หรือไงนะ  เราขาดตัวสร้างสรรค์เกมส์แบบนี้อยู่พอดี  วันนี้ก็มีข่าวจะติดต่อซื้อเลย  ใช้ได้ๆ ตัวรุกขอ ดิเอโก้ กับ คาสซาโน่ นะ แบ็คซ้ายขอใหม่อีกตัวนึง กองหน้า สำรอง ให้เอาไคซิโด้กลับมานั่งสำรองซะหน่อย แก้ไขเมื่อ 22 พ.ค. 53 22:51:44 จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 22:42:43

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมาอ่านข่าวครับ จากคุณ : yellow fins เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 22:50:37

ความคิดเห็นที่ 16 น้องใหม่มาอีกแล้ว  แบล็คพูล  ฤดูกาลหน้าทีมน้องๆ ทีมเล็กๆ ตบให้อยู่นะครับ ฮิฮิ จากคุณ : อินจอง เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 53 23:04:45

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าเป็นสมาชิกตามรอยมานานสักหน่อย จะรู้ว่าเราพูดถึงดิเอโก้มานานแล้ว และลุ้นมาตั้งแต่ตอนอยู่เบรเมน ตั้งแต่ยุคสเวนเลยทีเดียว พอมายุคฮิวจ์สนี่ก็จำได้ว่ามีข่าวอีก ก่อนที่จะย้ายไปยูเว่ ตอนนั้นคิดกันว่าเพราะมีโรบินโญ่อยู่ ดิเอโก้อาจจะตามมา แต่เพราะตามข่าวดิเอโก้ตามตลอดเลยรู้ว่า นักเตะคนนี้เหมือนนักเตะบราซิลรายอื่นๆคือชอบปาตี้ ก่อนที่จะย้ายออกจากเยอรมัน ก็เกือบโดยยึดใบขับขี่ ล่าสุดที่โดนจับก็เพราะกินเหล้าจนเกือบสว่างแล้วขับรถตอนเมา โดนตำรวจเรียกหยุดและกักตัวไว้ โรบินโญ่ ตอนนี้อาจไม่กลับมาก็ได้เพราะถ้านักเตะไม่ต้องการกลับมาจริงๆ สโมสรก็คงจำต้องขายไป แล้วก็ ไม่แน่ว่า มันชินี่อาจเข็นนักเตะบราซิลถ้ามีประวัติปาตี้หยำเปครับ ดูไม่จืดแน่ๆ ถ้าได้โรนัลดินโญ่มาอีกตัว นึกภาพไม่ออกเลย ดูกันต่อไปครับ ตอนนี้ก็เชื่อใจมันชินี่ว่าคงรู้ว่านักเตะแต่ะคนเป็นยังไง อยากจะได้ตัวมาหรือไม่ ตอนนี้ก็เฃื่อใจน้ามันฃินี่ครับ หวังว่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง จากคุณ : CityFC เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 02:50:11

ความคิดเห็นที่ 18 อินเตอร์ได้แชมป์ ชปล.   กุนซือยุคนี้ต้องมูริญโญ จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 07:49:10

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องดิเอโก้ ถ้าดีลได้มาคงเป็นการเสี่ยงซื้อในราคาถูกมากกว่า เรื่องฝีมือ กับตำแหน่งในทีม ตรงกับที่เราต้องการแน่นอน ติดที่มีประวัติเกรียนบ้าง แต่ก็แค่นอกสนาม ไม่เหมือน บินโญ่ ที่เกรียนกับทีม ถ้าไม่แพงคงเอามาวัดใจครับไม่น่าเป็นเป้าหมายหลักของน้ามันฯ เรื่องการดีลนักเตะ ผมว่าทีมงานเราเก่งนะ ไอ้ดีลที่กินแห้วแต่ละทีที่ดูเหมือนน่าอาย แต่ในความจริงแล้วเคดิตสโมสรเราสูงขึ้นทุกครั้งทีดีลกับสตาร์ดัง อย่างในราย โรนันดินโญ่ เอโต้ หรือ โล้นโด้ พอดีลไป ปฎิเสธ แถมออกมาพูดในทำนองว่า ทีมเราเล็กไม่มีประวัติศาตร์ รายไหนรายนั้น ซิตี้จะไม่หันกลับไปมองอีกเลย ถึงแม้ตอนหลังอยากจะมารับเงินที่นี่ก็ตาม ซึ่งเป็นเรื่องดีทำให้ นักเตะรู้ว่าถ้าซิตี้ดีลมาต้องรีบตัดสินใจ ซิตี้จะไม่มีการง้อ จากประวัติการดีลของซิตี้ ข่าวกาก้า บุฟฟ่อน อองรี ผมจึงคิดว่าเป็นข่าวที่นั่งเทียนมากกว่า ไม่มีทางซื้อมาครับ พวกนี้ดูถูกซิตี้ กับข่าวของบินโญ่เมื่อสองสามวันก่อนที่บอกมิลานสนใจ ผมว่าราคาในข่าว 15 ล้าน สูงเกินไป 5 ล้านก็พอ รีบๆปล่อยไปเถอะ ดีกว่าไม่ได้ ฮุฮุ จากคุณ : แมวเหมียว (cat30) เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 09:22:03

ความคิดเห็นที่ 20 ^^ ^^ ^^ ผมเห็นด้วยครับ ถ้านักเตะที่ไม่มีใจ เพื่อมาสร้างความสำเร็จกับสโมสร ก็จะไม่ประสบความสำเร็จกับทีมได้ครับ ทีมเรามีดีพอตัว ที่จะดึงดูดนักเตะมาร่วมงาน ไม่เ้หมือนเมื่อก่อน ที่เป็นทีมธรรมดา ไม่มีความหวังอะไร ส่วนตัว ไม่อยากได้นักเตะที่ต้องการเงินเพียงอย่างเดียว อยากได้นักเตะที่ประกาศออกมาว่า อยากมาเริ่มต้นในการสร้างทีมที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต เพราะผมก็จะรอดู จนถึงวันนั้น จากคุณ : CondoPro เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 11:44:30

ความคิดเห็นที่ 21 เข้ามาอ่านข่าว ขอบคุณสำหรับข่าววันนี้ จากคุณ : ดงตาล เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 20:00:34

ความคิดเห็นที่ 22 กระทู้ใหม่ http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S9286979/S9286979.html จากคุณ : yut เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 53 21:14:58

ความคิดเห็นที่ 23 คุณ Unami หลังแมทช์แมนซิตี้แพ้สเปอร์ จากคุณ : M11 3FF เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 53 06:42:23