 |
ความคิดเห็นที่ 16 |
แบล็คพูลสยบบลูเบิร์ดส์3-2ขึ้นพรีเมียร์ฯ
เบร็ตต์ ออร์เมร็อด สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัยนำ "เดอะ ซีไซเดอร์ส" แบล็คพูล ทะยานขึ้นสู่ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 39 ปี พร้อมรับทรัพย์ก้อนโตร่วม 90 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 4,256 ล้านบาท จากการเปลี่ยนสถานะเป็นทีมระดับพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า หลังแซงชนะ "บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ แบบสุดมันส์ 3-2 นัดชิงฯ เพลย์-ออฟเลื่อนชั้น เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ
ฟุตบอลแชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ (เพลย์-ออฟ เลื่อนชั้น นัดชิงชนะเลิศ) ฤดูกาล 2009-10 วันเสาร์ที่ 22 พ.ค. 53 แบล็คพูล 3-2 คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
สนาม : นิว เวมบลี่ย์, ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เกมเพลย์-ออฟ นัดชิงชนะเลิศ ที่เวมบลี่ย์ เล่นกันในสภาพอากาศที่ร้อนจัดถึง 106.7 องศาฟาเรนไฮด์ (หรือประมาณ 41.5 องศาเซลเซียส) เลยทีเดียว โดยผู้ชนะเกมนี้นอกจากได้เลื่อนขึ้นพรีเมียร์ ลีก ตามหลังนิวคาสเซิ่ล และ เวสต์ บรอมวิช แล้ว ยังคาดว่าจะรับทรัพย์อื้อซ่า 90 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 4,256 ล้านบาท) เลยทีเดียว หากได้สถานภาพเป็นทีมในระดับพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า
"เดอะ ซีไซเดอร์ส" แบล็คพูล ชนะมาถึง 8 จาก 10 เกมหลังสุด โดยเกมเพลย์-ออฟ รอบรองฯ คว่ำ ฟอเรสต์ มาได้ด้วยสกอร์รวมสองนัด 6-4 โดยเกมนี้จัดผู้เล่นชุดเดิมลงสนามทั้งหมดให้ ดีเจ แคมป์เบลล์ ล่าตาข่ายกับ เบร็ตต์ ออร์เมร็อด
ด้าน "บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ เหนื่อยสายตัวแทบขาดเบียดเอาชนะ เลสเตอร์ มาได้ในเพลย์-ออฟ รอบรองชนะเลิศ ด้วยการดวลจุดโทษชนะ 4-3 หลังจากเสมอกันเมื่อรวมผลสองนัด 3-3 เกมนี้ได้ ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม กองกลางจอมถล่มประตูหายบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ ฟิตทันช่วยทีม ส่วนแนวรับให้ ดาร์ซี่ เบล็ค เล่นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ มาร์ค ฮัดสัน กัปตันทีม คู่หน้าเป็น เจย์ โบธรอยด์ และ ไมเคิ่ล โชปรา
ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 4 นาที คาร์ดิฟฟ์ เริ่มต้นได้ดีเกือบขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม ผ่านจากทางซ้ายมาที่เสาแรกให้กับ ไมเคิล โชปรา ดีดบอลจ่อๆไปชนสามเหลี่ยมออกมาอย่างน่าเสียดาย
อย่างไรก็ตาม บลูเบิร์ดส์ มาได้ประตูออกนำไปก่อนจนได้ในนาทีที่ 9 จากจังหวะที่ ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม พาบอลหลบผู้เล่น แบล็คพูล จากบริเวณกลางสนามก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้กับ ไมเคิล โชปรา ที่ถอนตัวเองจากแดนหน้ามารับบอลแล้วตะบันด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไปให้ คาร์ดิฟฟ์ นำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว
ทว่าดีใจได้แค่ 4 นาที แบล็คพูล ไล่ตามตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ จากจังหวะที่ สตีเฟ่น แม็คเฟล กองกลางคาร์ดิฟฟ์ ไปทำแฮนด์บอลหน้าเขตโทษตัวเองเยื้องมาทางซ้าย ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นฟรีคิกของ เดอะ ซีไซเดอร์ส ก่อนที่ ชาร์ลี อดัม ปีกชาวสกอตแลนด์ จะรับหน้าที่ปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งก่อนมุดเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกเข้าไปสุดคลาสสิค ชนิดที่ เดวิด มาร์แชลล์ นายทวารคาร์ดิฟฟ์ พุ่งไปอย่างไรก็ไม่ถึง
สถานการณ์ของคาร์ดิฟฟ์ ไม่น่าไว้วางใจซะแล้ว เมื่อ เจย์ โบธรอยด์ กองหน้ามีอาการบาดเจ็บต้องให้ เคลวิน เอตูฮู ลงมาเล่นแทนในนาทีที่ 15
แบล็คพูล ได้ใจซะแล้วบุกเข้าใส่เป็นการใหญ่มีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 21 เมื่อ เดวิด วอห์น ลากตัดจากขวาเข้ามากลางก่อนตะบันด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น
ทั้งสองทีมยังหาโอกาสเปิดเกมรุกใส่กันตลอด ก่อนที่จะเป็น คาร์ดิฟฟ์ ออกนำอีกครั้งเมื่อ ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม จ่ายบอลไปที่ว่างทางกรอบเขตโทษด้านขวาของแบล็คพูล ซึ่งตรงนั้นมี โจ เล็ดลี่ย์ วิ่งสอดเข้ามากดด้วยซ้ายบอลเสียบเสาสองเข้าไปงดงามให้ บลูเบิร์ดส์ นำ 2-1 ในนาทีที่ 37
กระนั้นก็ดี 3 นาทีต่อมา เดอะ ซีไซเดอร์ส ตีเสมอเป็นคำรบสอง เมื่อ เดวิด วอห์น เปิดมุมจากทางขวามาให้กับ แกรี่ เทย์เลอร์-เฟล็ทเชอร์ วอลเลย์ไปชนเสาบอลกระดอนออกมาเข้าทาง เอียน อีวัตต์ โหม่งบอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่ว่า มาร์ค เคนเนดี้ เคลียร์ออกมาจากเส้นได้อย่างหวุดหวิด ทว่ามาเข้าหัวของ แกรี่ เทย์เลอร์-เฟล็ทเชอร์ โถมมาโหม่งจ่อๆเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 2-2
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แบล็คพูล มาได้ประตูแซงนำบ้าง จากจังหวะที่ ดีเจ แคมป์เบลล์ พาบอลเข้าไปในเขตโทษดึงแนวรับของคาร์ดิฟฟ์สามรายเข้ามาก่อนบอลทะลักออกข้างมาให้กับ เบร็ตต์ ออร์เมร็อด ที่ยืนโล่งๆ ปรี่เข้าไปจิ้มหัวเกือกบอลลอดหว่างขา เดวิด มาร์แชลล์ นายทวารคาร์ดิฟฟ์เข้าไปให้ เดอะ ซีไซเดอร์ส นำ 3-2
ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก คาร์ดิฟฟ์ น่าได้ประตูตีเสมอ เมื่อ ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม เปิดฟรีคิกให้กับ ดาร์ซี่ เบล็ค สไลด์เข้าไป แต่ไม่ได้ประตู เพราะผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว หมดครึ่งแรก แบล็คพูล นำก่อน 3-2
กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลัง 9 นาที แบล็คพูล จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา แกรี่ เทย์เลอร์-เฟล็ทเชอร์ กองกลางตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บแล้วให้ เบน เบอร์เกสส์ ลงมาเล่นแทน
เกมของ คาร์ดิฟฟ์ ทำได้ดีกว่าแล้วน่าได้ประตูตีเสมอ เมื่อ คริส เบิร์ก กระดกให้กับ ไมเคิล โชปรา กระหน่ำด้วยขวาบอลพุ่งชนคานออกมาอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 57
นาทีต่อมา บลูเบิร์ดส์ ปรับเกมส่ง รอสส์ แม็คคอร์แม็ค ลงมาเล่นเกมรุกแทน คริส เบิร์ก เกมยังสนุกมากๆ แบล็คพูล ต่อบอลกันมาสวยก่อนที่จังหวะสุดท้าย ชาร์ลี อดัม จะวิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายหลุดกรอบไป
หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน คาร์ดิฟฟ์ น่าได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่ วิตติ้งแฮม เปิดมุมจากทางขวาให้กับ โจ เล็ดลี่ย์ โหม่งเช็ดบางๆบอลออกเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย โดยนาทีเดียวกันนั้นเอง แบล็คพูล เปลี่ยนเอา สตีเฟ่น ด็อบบี้ ลงมาเล่นแทน เบร็ตต์ ออร์เมร็อด ในแดนหน้าด้วย
คาร์ดิฟฟ์ ยังเดินเครื่องบุก รอสส์ แม็คคอร์แม็ค ผู้เล่นตัวสำรองลากเข้าไปซัดบอลออกข้างไป ในนาทีที่ 66
บลูเบิร์ดส์ บุกแหลกหวังตีเสมอให้ได้ มีลุ้นในนาทีที่ 76 เมื่อกองหลังแบล็คพูล โหม่งสกัดไม่ดีเข้าทาง รอสส์ แม็คคอร์แม็ค กดด้วยขวาเข้าข้างตาข่าย
ท้ายเกมนาทีที่ 80 คาร์ดิฟฟ์ ได้ลุ้นอีก ดาร์ซี่ เบล็ค วิ่งเข้ามาสับเรียด แต่ว่า แม็ทธิว กิลค์ส นายทวารเดอะ ซีไซเดอร์ส รับไว้ได้ไม่มีกระฉอก ครบ 90 นาที แบล็คพูล ชนะไปสุดมัน 3-2 ทะยานขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี พร้อมรับทรัพย์ก้อนโตร่วม 90 ล้านปอนด์ จากการเปลี่ยนสถานะเป็นทีมระดับพรีเมียร์ลีก ในซีซั่นหน้า
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แบล็คพูล : แม็ทธิว กิลค์ส - ซีมัส โคลแมน, อเล็กซ์ บั๊ปติสต์, เอียน อีวัตต์, สตีเฟ่น เครนี่ย์ - ชาร์ลี อดัม, คีธ เซาเธิร์น, แกรี่ เทย์เลอร์-เฟล็ทเชอร์ (เบน เบอร์เกสส์ น.53), เดวิด วอห์น - เบร็ตต์ ออร์เมร็อด (สตีเฟ่น ด็อบบี้ น.60), ดีเจ แคมป์เบลล์
สำรองไม่ได้ใช้ : พอล ราชุบก้า (ผู้รักษาประตู) - ร็อบ เอ็ดเวิร์ดส์, เจสัน ยูเอลล์, แบร์รี่ แบนแนน, บิลลี่ คล้าร์ก
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ : เดวิด มาร์แชลล์ - เควิน แม็คนาฟตัน (แอนโธนี่ เจอร์ราร์ด น.74), มาร์ค ฮัดสัน (กัปตันทีม), ดาร์ซี่ เบล็ค, มาร์ค เคนเนดี้ - คริส เบิร์ก (รอสส์ แม็คคอร์แม็ค น.58), สตีเฟ่น แม็คเฟล, โจ เล็ดลี่ย์, ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม - ไมเคิล โชปรา, เจย์ โบธรอยด์ (เคลวิน เอตูฮู น.15)
สำรองไม่ได้ใช้ : ปีเตอร์ เอ็นเคิลแมน (ผู้รักษาประตู) - โทนี่ คาพัลดี้, พอล ควินน์, อารอน วิลดิก
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/100522_175.html
จากคุณ |
:
Middle Age
|
เขียนเมื่อ |
:
23 พ.ค. 53 00:01:49
|
|
|
|
 |