|
ความคิดเห็นที่ 11 |
เกมนัดนี้มีหลายอย่าง หลายมุมมองครับ ตอนนั้นผมอยู่มัธยมต้นก็เชียร์อิตาลี และคิดว่าอิตาลีชุดนั้นดีกว่าชุดที่ได้แชมป์โลกในอีก 4 ปีต่อมาเสียอีก วันนั้นผิดหวังมาก ๆ และยอมรับว่าด่าเกาหลีไว้เยอะ แต่เวลาผ่านไปกลับมาดูไฮไลท์ ได้อ่านข้อเขียนต่าง ๆ ก้พบว่าอิตาลีในวันนั้นต้องยอมรับว่าสู้เกาหลีใต้ไม่ได้เลย ด้วยสาเหตุหลาย ๆ อย่าง
1. วันนั้นอิตาลีขาด 2 คู่ CB ตัวจริงคือ Cannavaro และ Nesta และผมจำไม่ได้ว่าทำไมวันนั้น Materazzi ไม่ได้ลง ทำให้ CB ในวันนั้นเป็น Maldini Iuliano และ Panucci ส่วน WB สองข้างคือ Coco และ Zambrotta โดย Panucci ซึ่งปกติเป็น RB ทำพลาดเสียประตูตีเสมอในเวลาที่ไม่น่าเสีย คือ 2 นาทีก่อนหมดเวลา 90 นาที
2. แท๊กติกของ Hiddinks ที่ใช้ตลอดทัวร์นาเม้นท์นั้น คือการวิ่งสู้ฟัด (ทำให้นักเตะที่ได้รับการยกย่องให้เป็น King ของเกาหลีอย่าง Lee Dong Gook ยังไม่ติดทีมชุดนี้ด้วยสาเหตุที่เป็นอัจฉริยะจอมขี้เกียจ) ซึ่งส่งผลให้นักเตะโนเนมที่เล่นตามแท๊กติกอย่าง Park Ji Sung หรือ Lee Chun Soo ได้แจ้งเกิด ซึ่งบอลอย่างอิตาลีเมื่อเจอนักเตะที่วิ่งสู้ฟัดทั้งทีม บวกกับได้พลังความฮีกเหิมจากกองเชียร์นับล้าน ก็ไปไม่เป็นในวันนั้น
3. จะว่าไปวันนั้นอิตาลีมีโอกาส "ฝัง" เจ้าภาพได้หลายครั้ง แต่ด้วยความที่ไม่นิ่งพอ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความกดดันจากกองเชียร์เจ้าภาพ ที่เยอะมาก ๆ ทำให้โอกาสหลุดลอยไปอย่างน่าเสียดาย ยิ่งถ้าดูไฮไลท์ในคลิปเจ้าของกระทู้ ก็อยากจะไปเขกกบาลเจ้า Bobo Vieri ในวันนั้นเสียจริง ๆ
4. กรรมการ ไม่ว่าใครก็ด่ากรรมการที่ผมไม่มีทางลืมชื่อได้อย่าง ไบรอน โมเรโน แต่ถามจริง ๆ เหอะ ถ้าคุณคมพอที่จะเปลี่ยนโอกาส 3-4 ครั้งให้เป็นประตู 2-0 อย่างที่ Diego Milito ทำได้วันก่อน กรรมการที่ไหนจะโกงคุณได้ครับ
5. อย่าลืมครับว่าอิตาลีผ่านรอบแบ่งกลุ่มมาอย่างฉิวเฉียด จากการเล่น 3 นัดมีแค่ 4 แต้ม เฉือนอันดับ 3 และ 4 ที่มี 3 แต้ม จากประตูตีเสมอของ Del Piero ในนาทีที่ 85 ของเกมนัดสุดท้ายทีพบ Mexico แค่นี้ก็บ่งบอกถึงความไม่พร้อมของอิตาลีชุดนั้นได้แล้วครับ
จะว่าไปแล้วหากไม่มีคืนวันนั้น อิตาลีก็อาจจะไม่ปรับปรุง พัฒนาตนเองจนเป็นแชมป์โลกในอีก 4 ปีต่อมาได้หรอกครับ เพราะต้องยอมรับว่าชุดที่ได้แชมป์โลก เล่นได้สมดุลเอามาก ๆ ต่างจากชุดบุกเกาหลี ที่ไปเน้นความสามารถเฉพาะตัวของ Fantasista อย่าง Totti และกองหน้าที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของโลก อย่าง Vieri มากเกินไป เพราะธรรมชาติของอิตาลีจะเน้นกองหลังที่แข็งแกร่ง แดนกลางที่ดุดัน เมื่อได้บอลก็จะจ่ายไปที่ผู้เล่นเบอร์ 10 (หมายถึงหน้าต่ำ) อย่าง Baggio, Del Piero หรือ Totti ให้เข้าไปยิงเอง หรือจ่ายให้กองหน้าตัวเป้าเป็นคนยิง
เมื่อเทียบทั้ง 2 ชุดนี้ จะพบว่าชุดแชมป์โลก ไปเน้นที่แดนกลางที่มี Andrea Pirlo คุมเกมส์มากกว่า ซึ่ง Midfield อย่าง Pirlo นี่แหละครับ ที่ผมมองว่าเป็นตัวจักรสำคัญที่สร้างความแตกต่างจากอิตาลีชุดก่อนหน้านี้ เพราะการสร้างสรรเกมส์จากแดนกลาง เป็นสิ่งที่อิตาลีขาดมานาน โดยผมมองว่ากองกลางอย่าง Albertini ในชุด 94 และ 98 เป็น DM ที่เปิดบอลดี มากกว่าที่จะเป็น Deep Lying Playmaker อย่าง Pirlo (เล่น FM มากไปหน่อยเลยติดศัพท์เรียกตำแหน่งมาพูดอยู่บ่อย ๆ ครับ) ส่วนในปี 2002 ยิ่งแล้วใหญ่ DM คู่กลางเป็นขาโหดทั้งนั้น ทั้ง C.Zanetti Tommasi Di Biagio และ Gattuso นี่มันหวังเพิ่ง Totti ทำเกมอย่างเดียวเลยนี่หว่า!!!
ส่วนสาเหตุที่คนจะมองว่าเกาหลีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินค้านสายตาของกรรมการ อันนี้ผมกลับมองว่าอันที่จริงแล้ว เกาหลีคงไม่ได้มองหรอกว่าจะเข้ารอบลึก ๆ เพราะจากรอบแบ่งกลุ่มที่มี USA, Portugal และ Poland ซึ่งค่อนข้างแข็งเมื่อมองก่อนที่ทัวร์นาเม้นท์จะเริ่ม เขาน่าจะมองไปทีละนัดมากกว่า แต่เมื่อนัดแรกดันไปชนะ USA ได้ ความมั่นใจมันก็เลยสูงขึ้นเป็นธรรมดา และยิ่งไปชนะ Portugal ที่มี Figo อยู่ด้วยจากประตูแจ้งเกิดของ Park Ji Sung ทำให้ทีมชุดนี้อยู่ในช่วง กูไม่กลับ คือยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ บวกกับเล่นในบ้านแล้วแทนที่จะกดดันตัวเอง กลับคิดที่จะนำกำลังใจจากคนในชาติมาเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาฝีเท้าไปเรื่อย ๆ ในแต่ละนัด ทำให้ทีมชุดนี้สามารถเอาชนะ Italy ทีมที่ผมรักได้อย่างน่าชื่นชม
ส่วนเรื่องพลุที่จุดหลังเกมส์อย่างกับรู้อยู่แล้วว่าจะชนะนี่ผมก็มองโลกในแง่ดีว่าเขาอาจจะเผื่อเอาไว้เฉย ๆ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น
แต่เมื่อถึงรอบต่อมาที่เจ้าภาพยื้อทีมอย่าง Spain ไปชนะในช่วงการดวลจุดโทษนั้น ผมมองว่านัดนี้ต่างหากที่กรรมการพลาดแบบน่าเอาไปก้มกราบคน Spain ทั้งประเทศ เพราะถ้าใครจำจังหวะที่ Joaquin ตักลูกที่เส้นหลังเข้าไปให้ Morientes โหม่งเข้าไป มองยังไงมันก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เป็นประตู (จังหวะนั้นกรรมการมองว่าลูกออกไปนอกเส้นหลังก่อน ทั้งที่ยังไม่ออก) อันนี้ต้องยอมรับว่ากรรมการพลาดจริง ๆ
ส่วนรอบรองนั้นผมมองว่าการที่ Germany ชนะเจ้าภาพเพราะเหตุผลง่าย ๆ คือเจ้าภาพสู้บอลเขี้ยวอย่างเยอรมันไม่ได้ ซึ่งสิ่งที่ Italy และ Spain ต่างไปจากรองแชมป์ในปีนั้น คือทีมสปิริต
ส่วนเรื่องที่เจ้าของกระทู้พูดถึงคนเกาหลีนั้น ผมเองไม่อยากให้ไปเหมารวมคนทั้งประเทศอย่างนั้นครับ ผมอยากให้เราเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง นึกถึงปี 1998 ที่เราเป็นเจ้าภาพ Asian Games ดูบ้างครับ ผมว่าบรรยากาศน้อง ๆ เกาหลีในปี 2002 เลยล่ะครับ การที่คนไทยทั้งชาติส่งกำลังใจให้นักกีฬา (ในที่นี้ผมขอพูดถึงแต่ฟุตบอล) ก็เป็นแรงในเชิงบวกที่ทำให้นักเตะไทยในวันนั้น เอาชนะเกาหลีได้เหมือนกันครับ แต่ทั้งนี้ทีมก็ต้องมีความพร้อมด้วยนะครับ จะหวังมาพึ่งกองเชียร์จากการเป็นเจ้าภาพอย่างเดียวไม่ได้
อย่าลืมว่าฟุตบอลวัดกันที่ความคม ถ้าวันนั้นคุณคมกว่า สามารถเปลี่ยนโอกาส 1-2 ครั้งให้เป็นประตูได้ แล้วเกมรับคุณไม่พลาด ทีมที่เหนือกว่าในแง่ชื่อชั้น หรือมีกองเชียร์เต็มสนาม หรือเป็นเจ้าภาพ ก็ไม่สามารถเอาชนะคุณได้
เมื่อเราพลาดก็ควรจะคิดในแง่ที่ว่า เราพลาดเพราะอะไร ดีกว่าการไปคิดในแง่ที่ว่า คนที่ชนะเราเขาโกงครับ ชีวิตจะมีความสุขขึ้นเยอะ
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 53 01:28:01
แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 53 01:00:31
จากคุณ |
:
Neoracle
|
เขียนเมื่อ |
:
26 พ.ค. 53 00:53:05
|
|
|
|
|