 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
หกปีก่อน หลังจากที่เหนื่อยหน่ายและท้อแท้เหลือเกินกับสภาพของทีมลิเวอร์พูล ทั้งผลงานที่ย่ำแย่ ข่าวที่ว่ากำลังจะสียไมเคิล โอเวนไปจากทีม.. ก็เป็นเวลาที่ทีมกำลังมองหา ผจก.คนใหม่มาแทนเชราด์ อุลลิเยร์..
ราฟาเอล เบนิเตซ... อืม ฉันคุ้นๆว่าเคยได้ยินชื่อมาก่อน ไม่นานนี้เอง.. และเพิ่งมานึกได้ทีหลังว่า ได้ยินเพราะเป็นคนพาบาเลนเซียคว้าแชมป์ลาลีก้ามาได้นี่เอง ....นอกเหนือไปจากนี้ ฉันก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้อีกเลย และจู่ๆเขาก็มาที่แอนฟิลด์
....อายุยังน้อย ท่าทางเป็นคนเงียบๆ และเป็นครั้งที่สองที่ทีมไม่ใช้ผจก.ที่เป็นคนอังกฤษ ราฟาเข้ามาคุมทีมไม่นาน โอเวนก็ไปจากทีม ฉันรู้สึกเหมือนโดนทอดทิ้ง.. บางครั้งก็รู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ลิเวอร์พูลที่ฉันเคยรู้จักอีกต่อไป นายใหม่เข้ามา พร้อมกับนักเตะใหม่.. ไม่นับซิสเซ่ ที่เฮียโปนซื้อไว้ นอกเหนือไปจากนี้ก็คือนักเตะสเปนสองคน เป็นไอ้เตี้ยหน้าตามั่นใจในตัวเองหนึ่งคน กับไอ้หน้าอ่อนที่เราไม่เคยรู้จักอีกหนึ่งคน
ทุกวันนี้...นักเตะทั้งสองคนไม่ได้อยู่กับทีมแล้ว แต่ไม่มีแฟนลิเวอร์พูลคนไหนที่จะลืมทั้งสองคน ..ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าจดจำที่สุด และถ้าไม่มีราฟา...เราคงไม่ได้พบกัน
ปีแรกที่มาคุม ฉันรู้สึกว่าสโมสรช่างไม่เหลืออะไรไว้ให้กับคนคนนี้เลย.. ราฟาเป็นคนที่ก้าวมารับเผือกร้อนโดยแท้ และก็ไม่เหลืออะไรในความคาดหวังเช่นเดียวกันในปีแรก
แต่ราฟาก็นำทีมคว้าถ้วยยุโรปมาได้แบบงงๆ... ฉันจำได้ว่าคืนวันนั้น กำลังจะขึ้นปีสอง.. ฉันมองเห็นเจอร์ราร์ดชูเจ้าบิ๊กเอียร์เวลาประมาณตีห้า มันเหมือนกับความฝันไป.. และนึกดีใจเหลือเกินที่ไม่ปิดทีวีหลังจากครบครึ่งแรกที่โดนเอ.ซี.มิลานนำไป 3-0
หลังจากนั้น ราฟา เบนิเตซ ก็แบกความหวังต่างๆของแฟนลิเวอร์พูลอีกนับล้านความหวัง แชมป์ลีกที่รอคอยมาเป็นสิบปี แชมป์เอฟเอ คัพ แชมป์ยุโรปสมัยที่หก เป็นการแบกความกดดันที่หนักหนาสาหัสจริงๆ เทียบกับบอร์ดบริหารของลิเวอร์พูลที่งี่เง่ายิ่งกว่าหอยทาก..
ถึงแม้ในปีถัดมาจะไม่ได้แชมป์ลีก แต่ลิเวอร์พูลก็คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาให้แฟนๆได้ชื่นใจ เป็นนัดชิงที่น่าประทับใจอีกนัด กับความไม่ยอมแพ้ของผู้ชายคนนี้...
ปีถัดมา...เป็นปีที่ลิเวอร์พูลค่อนข้างเงียบเหงา.. แต่เราก็ไปถึงเอเธนส์ได้ แม้ความมหัศจรรย์ที่อีสตันบุลไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง..
ปี 2008-2009 เป็นปีที่ฉันคิดว่า ดูลิเวอร์พูลสนุกที่สุดตั้งแต่เชียร์มา เราได้ลุ้นแชมป์ลีก ได้ชนะคู่แข่งอย่างยูไรเต็ดได้เสียที และเข้ารอบลึกในชปล. ถึงแม้สุดท้ายเราจะไม่ได้อะไรเลย แต่เป็นฤดูกาลที่สดชื่นมากสำหรับฉัน ที่ได้ดูลิเวอร์พูลเล่นอย่างมีสีสันและชีวิตชีวามากจริงๆ(โดยเฉพาะนัดที่เราทำเชลซีไว้แสบมากกกก)
ปีต่อมาเหมือนกับฝันร้าย เมื่อเราเสียอลองโซ่ไป ฉันรู้สึกว่างเปล่า... มันยิ่งกว่าครั้งที่เสียโอเวนไปมากมาย และฉันไม่ได้คาดคิดถึงผลที่ร้ายแรงจนถึงขนาดเราตกรอบคัดเลือก UCL และจบซีซั่นด้วนอันดับที่เจ็ด..
ราฟา เบนิเตซ ดูจะต้องรับผลที่เกิดขึ้นจากทีมเกือบทั้งหมด ...ฉันเองไม่เข้าใจราฟาในการทำงานหลายๆจุด แต่ที่สุดแล้ว กลับไม่เคยเกลียดราฟาเลย.. และฉันก็เชื่อว่า ที่ราฟาอยู่กับเราได้นานขนาดนี้ เพราะมีแฟนบอลคอยสนับสนุนมาตลอด อย่างน้อยก็อาจจะเพราะแกกล้า "งัดข้อ" กับบอร์ดบริหารและเจ้าของสโมสรที่น่ารังเกียจของเราได้ เพราะเชื่อเหลือเกินว่า แฟนหงส์บางคนอาจจะเกลียดราฟา แต่ไม่เท่าไอ้เจ้าของสโมสรสองตัวนั่นแน่นอน..
ราฟาอาจจะซื้อตัวได้ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก แต่เท่าที่เทียบดูกับอูลลิเยร์ในความเห็นของฉัน มีแค่ สตีฟ ฟินแน่น คนเดียวที่เฮียโปนซื้อตัวมาได้ดีเหนือกว่าราฟา.. ในขณะที่ราฟาได้พาอลอนโซ่, เรน่า, มาสเชราโน่ จนกระทั่งคนที่ฉันฝันถึงมาตลอดอย่างเฟอร์นันโด ตอร์เรส เข้ามาในทีม
ราฟาเป็นคนยิ้มยาก... ยิ่งเวลาอยู่ในสนาม ฉันชอบดูสีหน้าท่าทางของแก ซึ่งไม่รู้จะเก๊กไปไหน ภาพที่แกนั่งขัดสมาธิข้างสนามในตอนยิงลูกโทษกับเชลซี ยังคงเป็นภาพที่น่ารักที่สุดในความทรงจำ และทำให้ยิ้มได้เสมอ..
ขอบคุณค่ะ ราฟา.. ขอบคุณในสิ่งที่ทำให้สโมสรมาตลอด ขอบคุณที่อยู่เป็นเพื่อนกันมานานโดยไม่ทิ้งกันไป คุณบอกว่าคุณจะไม่ลืมช่วงเวลาที่ได้อยู่กับลิเวอร์พูล และโปรดจำไว้ด้วยว่าเราก็จะไม่ลืมคุณเช่นกัน
โชคดีค่ะ เอล บอส...
แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 53 17:26:32
แก้ไขเมื่อ 04 มิ.ย. 53 17:24:27
จากคุณ |
:
Abandoned Star
|
เขียนเมื่อ |
:
4 มิ.ย. 53 17:21:14
|
|
|
|
 |