PANTIP.COM : S9334111 @@@ Holland : อัศวินสีส้ม Orange eleven -NETHERLAND 6-1 HUNGARY ร็อบเบนเจ็บ @@@{แตกประเด็นจาก S9327505} [ฟุตบอลต่างประเทศ]

ความคิดเห็นที่ 1

ร็อบเบนเบิ้ลเซ่นเจ็บ! ดัทช์โหดยำ 6-1

ฮอลแลนด์นังอุ่นเครื่องดุจัดไล่ต้อนทีมรองบ่อนอย่างฮังการี่ที่ทะลึ่งยิงแหย่รังแตนก่อนเจอเอาคืนแซงรวดเดียว 6 ลูกโดยอาร์เยน ร็อบเบนที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังเหมาคนเดียว 2 ประตูแต่ต้องสังเวยเจ็บเสียวอีกคน

ฟุตบอลอุ่นเครื่อง

วันเสาร์ที่ 5 มิถุนายน 2553

ฮอลแลนด์ 6 : 1 ฮังการี

ประตู : 0-1 บาลาซส์ ซุดซ์ซัค น.6, 1-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ น.22, 2-1 เวสลี่ย์ ชไนจ์เดอร์ น.56, 3-1 อาร์เยน ร็อบเบน น.64, 4-1 มาร์ค ฟาน บอมเมล น.71, 5-1 เอลเยโร่ เอเลีย น.75, 6-1 อาร์เยน ร็อบเบน น.78

ครึ่งแรก

เริ่มเกมมาได้เพียง 6 นาทีทีมกังหันช็อกตาตั้งหลังถูกฮันการีขึ้้นนำไปก่อนจากจังหวะที่บาลาซส์ ซุดซ์ซัคได้บอลหลุดขึ้นไปทางหน้าเขตโทษฝั่งขวาแล้วตัดเข้ากลางนิดนึงก่อนปั่นด้วยซ้ายบอลหนีมือมาร์เท็น สเตเกเลนเบิร์กเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามฮังการีนำ 1-0

นาทีที่ 12 ฮังการีได้เสียวอีกครั้งเมื่อได้ลูกฟรีคิกแล้วเปิดเข้าไปบอลตกที่ซานดอร์ ทอร์เกลล์ซัดทันทีแต่บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นฮอลแลนด์ตั้งตัวได้และมีโอกาสอยู่หลายครั้งจนมาได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 21 จากจังหวะที่ผู้เล่นฮังการี่สกัดฟาน เดอร์ วีลแล้วบอลไหลมาเข้าทางเดิร์ค เคาท์จ่ายต่อให้เพอร์ซี่ซัดเข้าไปไม่เหลือฮอลแลนด์ตีเสมอ 1-1

ท้ายเกมฮอลแลนด์ได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่เดิร์ค เคาท์หลุดถึงไปสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ากลางมาแต่น่าเสียดายฟาน เพอร์ซี่มาช้าไปก้าวเดียวบอลเลยหลุดไปทำให้ครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 1-1

ครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลังฮอลแลนด์ส่งอาร์เยน ร็อบเบนลงมาแทนเดิร์ค เคาท์แล้วก็แผลงฤทธิ์ทันทีเมื่อเลี้ยงบอลขึ้นไปทางขวาก่อนจ่ายให้ฟาน เพอร์ซี่ไหลต่อให้เวสลี่ย์ ชไนจ์เดอร์ซัดโล่งๆระยะเพียงไม่กี่หลาแต่ดันไปติดเซฟมาร์ตัน ฟูล็อปอย่างไม่น่าเชื่อ

ถัดมาในนาทีที่ 56 ฮอลแลนด์มาได้ประตูแซงนำจนได้จากจังหวะที่ฟาน เพอร์ซี่ถูกตามประกบอยู่ 2 คนแล้วจ่ายบอลให้ฟาน บร็องฮอรสท์ที่เติมขึ้นมาเปิดบอลให้ชไนจ์เดอร์ซัดเข้าไปฮอลแลนด์ขึ้นนำ 2-1

นาทีที่ 64 ทีมกังหันมาได้ประตูนำห่างออกไปเป็นสองลูก จากจังหวะที่ฟาน บร็องฮอรสท์ได้บอลหลุดขึ้นไปทางฝั่งซ้ายแล้วจ่ายเลียดเข้ากลางมาเป็นอาร์เยน ร็อบเบนวิ่งมาเข้าฮอสท์บอลเข้าประตูไปฮอลแลนด์นำ 3-1

เข้าสู่นาทีที่ 71 สกอร์ยังคงไหลไม่หยุดเมื่อฮอลแลนด์มาได้ลูกที่สี่จากลูกยิงไกลของมาร์ค ฟาน บอมเมลทีมกังหันนำ 4-1

หลังจากนั้น 3 นาทีลูกที่ 5 ก็ตามมาเมื่อเอลเยโร่ เอเลียที่ลงมาได้เพียงนาทีโชว์ฟอร์มเทพลากขึ้นมาจากแดนตัวเองหลบไม่ต่ำกว่า 3 คนก่อนซัดรอดขาผู้เล่นฮังการี่เข้าไปไม่เหลือฮอลแลนด์นำห่างสุดๆ 5-1

ก่อนที่จะมาได้ประตูปิดท้ายครึ่งโหลพอดีในนาทีที่ 79 จากจังหวะที่อาร์เยน ร็อบเบนปั่นด้วยซ้ายจากบริเวณเส้นเขตโทษบอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามฮอลแลนด์นำฮังการี 6-1 แต่ก่อนจบเกมต้องมาเรื่องโชคร้ายเมื่อร็อบเบนได้รับบาดเจ็บจนไม่แน่ว่าเขาจะสามารถไปฟุตบอลโลกได้รึเปล่า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ฮอลแลนด์ : มาร์เท็น สเตเกเลนเบิร์ก 7, จิโอวานนี่ ฟาน บร็องฮอร์ส 7.5, จอห์นนี่ ไฮติงก้า 7 (ออยเยอร์ น.60,7), ยอริส มาไธจ์เซ่น 7, เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล 7.5, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต 6 (อเฟลลาย น.80), มาร์ค ฟาน บอมเมล 7.5 (เดอ ซูว์ น.79), ไนเจล เดอ ยอง 7, เวสลี่ย์ ชไนจ์เดอร์ 7 (เอเลีย น.73,8), เดิร์ค เคาท์ 8 (ร็อบเบน น.46,9**), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 7 (ฮุนเตลาร์ น.68,6)

ฮังการี่ : มาร์ตัน ฟูล็อป 6, ลาสโล บ็อดนาร์ 4.5 (ลาค์ซโก้ น.75), โบลดิสซาร์ โบดอร์, โซลทาน ชีเลซี่ 4, โรลันด์ จูฮาสซ์ 4, วิลมอส วานซ์ซัก 3, กาบอร์ ฮอร์วาธ 3 (วาด็อคซ์ น.79), ซาโบลส์ ฮุสติ 4 (ลาซอค น.67,4), บาลาซส์ ซุดซ์ซัค 6.5, ซานดอร์ ทอร์เกลล์ 4.5 (เอเล็ค น.57,4), โทมัส พริสกิน 3

http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=285644

จากคุณ : เท่ง หงส์แดง

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 08:00:49

ความคิดเห็นที่ 15

'อัศวินสีส้ม' ฮอลแลนด์ ม้ามืดที่มองข้ามไม่ได้

หากเอ่ยถึงพลพรรค "ฟลายอิ้ง ดัตช์แมน" ทีมชาติฮอลแลนด์ แล้ว หลายคนต้องนึกถึงลีลาการเล่นอนสวยงาม เทคนิคแพรวพราว เต็มไปด้วยความสนุกเร้าใจ แต่โชคร้ายที่แม้จะเล่นสวย แต่พวกเขากลับไม่เคยประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เลย จนได้รับขนานนามให้เป็น "ราชันไร้มงกุฎ" แห่งศึกฟุตบอลโลก

ฮอลแลนด์มีโอกาสเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกถึง 2 สมัยซ้อน ในปี 1974 และ 1978 โดยในเวิลด์คัพ 1974 ขุนพลทีมอัศวินสีส้ม ซึ่งมี "ท่านนายพล" ไรนุส มิเชลส์ เป็นกุนซือคุมบังเหียน มีวาสนาเป็นแค่รองแชมป์ หลังถูกเจ้าภาพ เยอรมนีตะวันตก แซงชนะ 2-1

ขณะที่บอลโลกปี 1978 ฮอลแลนด์ได้เข้าชิงอีกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน แต่ก็ชวดแชมป์อีกตามเคย เมื่อพ่ายแพ้ให้กับ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นทีมเจ้าภาพ เช่นกัน 1-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

สไตล์การเล่นที่เป็นเครื่องหมายการค้าของทีมชาติ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ก็คือ "โททัล ฟุตบอล" ซึ่งเป็นระบบการเล่นที่นักเตะในทีมสามารถหมุนเวียนทด แทนกันได้ทุกตำแหน่ง และเน้นการต่อบอลอย่างแม่นยำ

ตำนานนักเตะดังของฮอลแลนด์ในยุคนั้นที่รู้จักกันดี ก็คือ "นักเตะเทวดา" โยฮัน ครัฟฟ์, โยฮัน นีสเกนส์, รุด ครอลล์ และ ร็อบ เรนเซนบริงค์ เป็นต้น

แต่หลังจากหมดยุคทองของ 3 ทหารเสือชาวดัตช์ อย่าง รุด กุลลิท, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด และ มาร์โก แวน บาสเทน ที่นำทัพ "กังหันลมอันตราย" ผงาดคว้าแชมป์ยูโร ปี 1988 ได้อย่างสุดเกรียงไกรไร้เทียมทาน ฮอลแลนด์ก็ไม่เคยย่างกรายใกล้เคียงกับความสำเร็จระดับสูงสุดอีกเลย

แม้จะถูกจับให้เป็นทีมเต็งแชมป์แทบทุกครั้งในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย แต่พอถึงเวลาแข่งจริงแล้ว ทัพนักเตะ "อัศวินสีส้ม" ฮอลแลนด์ ก็มักจะตกม้าตาย ไปไม่ถึงดวงดาว จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีม หรือไม่ก็ รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นประจำ

ในรอบคัดเลือกของศึกฟุตบอลโลกครั้งนี้ ฮอลแลนด์ กลายเป็นทีมแรกของยุโรปที่คว้าตั๋วสู่แอฟริกาใต้ หลังเก็บ ชัยชนะ 8 นัดรวด ในรอบคัดเลือกโซนยุโรป กลุ่ม 9 ภายใต้ การคุมทัพของ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ เทรนเนอร์ชาวดัตช์

นอกจากนั้น ฮอลแลนด์ยังโชว์ฟอร์มร้อนแรงในเกมอุ่นเครื่องเตรียมความพร้อมก่อนลุยบอลโลกที่แอฟริกาใต้ โดยเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดก็เพิ่งเปิดบ้านถล่ม "ดาวดำ" กานา ยอดทีมจากกาฬทวีป ยับเยิน 4-1 สดๆร้อนๆเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทีมอัศวินสีส้มชุดนี้ เต็มไปด้วยนักเตะชั้นยอดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, อาร์เยน ร็อบเบน, โจวานนี ฟาน บรองค์ฮอร์สท์, เวสลีย์ ชไน-เดอร์, ไนเจล เด ยอง, จอห์น ไฮติงกา, เดิร์ก เคาท์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, ไรอัน บาเบล และคลาส-แยน ฮุนเตลาร์

จุดเด่นของฮอลแลนด์ชุดสู้ศึกเวิลด์คัพ 2010 แน่นอนว่าต้องอยู่ที่เกมรุก เนื่องจากอัดแน่นไปด้วยดาวดังระดับแข้งเทพมากมาย ทั้ง ร็อบเบน, ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, ชไนเดอร์, เดิร์ก เคาท์ และฟาน เพอร์ซี

อย่างไรก็ตาม มีปัญหาที่กุนซือเบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ ยังคิดไม่ตก นั่นคือ จะส่งใครเป็นมิดฟิลด์จอมทัพของทีมดี ระหว่าง ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท กองกลางของเรอัล มาดริด กับ เวสลีย์ ชไนเดอร์ เพลย์เมกเกอร์จากอินเตอร์ มิลาน หรือจะส่งลงสนามพร้อมกันทีเดียวทั้ง 2 คน

ว่าไปแล้วทั้ง ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และ เวสลีย์ ชไนเดอร์ ต่างมีลีลาการเล่นที่คล้ายคลึงกันมาก แถมยังทำเกมรุกได้ดีพอๆกัน นอกจากนั้นยังปิดสกอร์ได้คมเหมือนๆกันอีกต่างหากด้วย

เชื่อว่า หากทั้งคู่ได้ลงสนามพร้อมกัน ก็ยิ่งน่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุกให้ทีมอัศวินสีส้มได้อย่างมากเลยทีเดียว

ส่วนแนวรับของฮอลแลนด์ชุดนี้ มีโจวานนี ฟาน บรองค์ฮอร์สท์ เป็นนายใหญ่ในแผงหลัง ร่วมด้วย ยอริส มาไธจ์เซน, เกรกอรี ฟาน เดอร์ วีล และจอห์น ไฮติงกา โดยมีมาร์เทน สเตเคเลนเบิร์ก เป็นนายด่านเฝ้าประตู

ขณะที่ตัวจริงในแดนกลาง คาดว่าจะเป็นมาร์ก ฟาน บอมเมล, ไนเจล เด ยอง, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และอาร์เยน ร็อบเบน โดยมีอิบราฮิม อเฟลลาย เป็นตัวสอดแทรก สำหรับคู่หัวหอกน่าจะเป็นเดิร์ก เคาท์ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี

ในฟุตบอลโลก 2010 ครั้งนี้ ฮอลแลนด์อยู่กลุ่มอี ร่วมสายเดียวกับ "โคนม" เดนมาร์ก, "ซามูไร" ญี่ปุ่น และ "หมอผี" แคเมอรูน ซึ่งเป็นสายที่หนักเอาการเลยทีเดียว

โดยพลพรรคฟลายอิ้ง ดัตช์แมน จะประเดิมสนามนัดแรกกับ "โคนม" เดนมาร์ก ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ต่อด้วยพบกับญี่ปุ่น วันที่ 19 มิ.ย. และดวลกับแคเมอรูนเป็น
นัดปิดท้าย วันที่ 24 มิ.ย.

อย่างไรก็ตาม มองแล้วเชื่อว่า ฮอลแลนด์น่าจะผ่านสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยการเป็นที่ 1 ของกลุ่มอี ซึ่งคาดว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด พวกเขาก็น่าจะไปเจอกับปารากวัย หรือไม่ก็สโลวะเกีย ซึ่งต้องแย่งกันเป็นที่ 2 ในกลุ่มเอฟ

มองตามเส้นทางแล้ว ฮอลแลนด์น่าจะทะลุเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นอย่างน้อย แต่กระนั้นก็อย่าประมาท "อัศวินสีส้ม" เด็ดขาด ดีไม่ดีอาจมีลุ้นถึงแชมป์ เพราะพวกเขาคือทีมม้ามืดที่มองข้ามไม่ได้!!

http://www.thairath.co.th/column/sport/hotsport/87526

จากคุณ : เท่ง หงส์แดง

เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 53 10:30:55