TIA Column : เสียดายนะ แต่...ไม่เสียใจ
|
|
อัดกันไปเรียบร้อยแล้ว นัดแรกของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2010-2011 ที่ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของปืนใหญ่ จากลอนดอน นัดนี้ตอร์เรสยังคงสำรองตามคาด ส่วนโจ โคล และโยวาโนวิชได้ประเดิมสนามนัดแรกในลีกทั้งคู่ และดูเหมือนระบบ 4-4-2 จะกลับมาเยือนแอนฟิลด์อีกครั้ง ที่สำคัญ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ก็มีชื่อเป็นตัวจริงกับเขาด้วย แม้จะมีข่าวทุกวี่ทุกวันว่าจะย้าย โดยนัดนี้ ยืนคู่พี่เจิดที่ได้กลับมายืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางอีกครั้ง
นั่นแหละ...เล่นกับอาร์เซน่อล ทีมที่มีระบบการต่อบอลขั้นเทพ แม้จะเล่นในแอนฟิลด์ แต่เรากลับถูกพับสนามบุกอยู่ข้างเดียว ดีที่ทั้งแผงกองกลางและแผงกองหลังก็ยังไม่พลาด ไม่ปล่อยให้อาร์เซน่อลได้ต่อบอลทำชิ่งเข้าเขตโทษ โอกาสที่เกิดขึ้นจึงมีเพียงแค่การยิงไกลนอกกรอบเท่านั้น
แต่เกมรุกของเราเองนี่สิ มันเหมือนหายไปกับสายลม เหอะๆ โอกาสจะแจ้งนั้นแทบจะไม่มี เพราะทั้งเจอร์ราร์ดและมาสเคราโน่ยืนต่ำทั้งคู่ และดูเหมือนพยายามจะใช้การวางบอลยาวเสียมากกว่า ซึ่งก็ยังไม่ได้ผล เพราะถึงแม้จะไปถึงเอนก๊อก แต่น้องก๊อกก็เก็บบอลไม่ค่อยจะได้อยู่ดี มันเลยกลายเป็นอาร์เซน่อลได้บอลกลับมาทำเกมรุกเราต่อ จนช่วงท้ายครึ่งแรก เราถึงมีโอกาสบ้าง แทบจะเป็นครั้งแรกเลยล่ะมั้งที่จีเจได้ลากขึ้นมา ฝากที่เดิร์ก เค้าท์ และได้จบด้วยการยืนประตู แต่อัมมูเนียปัดได้ และแล้วมันก็มาถึงจังหวะใบแดงของโจ โคล
ขอบอกว่า ...เซ็งโคตร แค่ 11 ต่อ 11 ก็แทบไม่ได้บุก นี่ต้องเล่น 10 ต่อ 11 ในใจคิดเลยว่า ครึ่งหลัง 10 คนของเรา วิ่งกันซี่โครงบานแน่ นึกแล้วมันเหนื่อยแทนเลย
แต่ช้าแต่...
เรากลับขึ้นนำเร็วได้จากลูกยิงอันเฉียบขาดของน้องก๊อก 555+ (ยิงเหมือนตอร์เรสเลย หุหุ) แถมคนแอดซิสยังเป็นมาสเคราโน่ซะด้วย หลังจากนั้นยังได้บุกต่ออีกเกือบ 10 นาที ทำเอาคิดเลยว่า นักเตะหงส์ไปโด๊ปยาอะไรกันมารึเปล่า ถึงได้คึกคัก วิ่งกันลืมตายขนาดนี้ แต่พูดก็พูดเถอะ มันชื่นอกชื่นใจนะที่เห็นแบบนั้น แถม The kop ในสนามก็เชียร์ไม่หยุด เฮขึ้นมาทุกจังหวะที่เราได้ทำเกมส์ บ่งบอกได้เลยว่า This is Anfield จริงๆ
แค่นาทีที่ 60 เราก็รู้สึกเหมือนอยากให้มันหมดๆเวลาไปซักที เพราะเราเริ่มกลับมาถูกขึงเกมส์บุกใส่อีกแล้ว และนาทีที่ 65 Boss ของเราก็เปลี่ยนมักซี่ลงมาแทนโยวาโนวิชที่ได้รับเสียงปรกมือกึกก้องจาก The kop ถือว่าสอบผ่านเลยสำหรับโยวาโนวิช ความคล่องตัวของเขาช่างดูแตกต่างจากรูปร่างของเขาเสียจริง เคยได้ยินคุณ Wadoiji แฟนสิงห์บลูและทีมชาติเซอร์เบียเรียกโยวาโนวิชว่า "ลาเน่" ก็เพิ่งจะรู้ว่า นี่เป็นชื่อเล่นของหงส์สัญชาติเซิร์บของเรา (น่ารักดีเน๊อะ อิอิ)
และแล้ว ลุงรอยก็เปลี่ยนตัวตอร์เรสแทนเอ็นก๊อกที่ได้รับเสียงปรบมือจากแฟนๆเช่นกัน เทพลูคัสลงมาแทนมาสเคราโน่ เพราะมอนสเตอร์มาสซ์ทุ่มสุดเหยียดจนขาแทบจะไม่มีแรงแล้ว แอบหวังนะ ให้มีบอลโยนยาวให้ตอร์เรสควบไปดวล ก็ได้ควบอยู่หรอก แต่หลังปืนเค้ายังเอาอยู่ ตอร์เรสเลยไม่ได้ส่อง เสียดายง่ะ
จน 5 นาทีสุดท้ายนี่เป็นอะไรที่ลุ้นจนแทบบ้า และรู้สึกมากๆว่าทำไมนาฬิกามันช่างเดินช้าไม่ทันใจเอาเสียเลย อีก 3 นาที ...2 นาที เรากำลังโดนกระหน่ำอย่างแรง ...นาทีเดียว อดทนไว้(แม้จะรู้ว่าทดเวลานานแน่ๆก็ตาม) และแล้ว...ตูม จบกัน แทบจะหมดแรงอยู่หน้าคอม ความเสียดายมันไหลบ่าลงมาตามร่างกาย เห็นหน้าเรน่าแล้วแทบจะร้องไห้ เขาเซฟมาทั้งเกมส์ ช่วยเรามานับครั้งไม่ถ้วน สวรรค์ช่างโหดร้ายกับเขาเหลือเกิน เขาจะรู้สึกแย่แค่ไหน แม้พวกเราที่รักลิเวอร์พูลทุกคนบนโลกนี้จะไม่มีใครกล่าวโทษเขา เขาก็คงจะรู้สึกเสียใจอยู่ดี
เสียดายที่พี่เจิดยิงฟรีคิกลูกนั้นไม่เข้า เขายิงดีแล้ว แต่ยังดีไม่พอ และเราทำ 2 แต้มหล่นหายไปในนาทีสุดท้ายของเกมส์อีกครั้ง
T T
มันเสียดายนะ เพราะพวกนักเตะทุ่มเทกันมาก แม้พวกเขาจะเล่นกันไม่ดีนักในช่วงแรกๆ แถมยังเหลือ 10 คนอีกต่างหาก หวังจะชนะทีมที่ดีอย่างอาร์เซน่อล มันก็ออกจะเว่อร์ไปหน่อย แต่พวกเขาก็ทำประตูขึ้นนำได้ มันทำให้เรามีความหวัง แค่ยันให้อยู่เท่านั้น และมันอีกแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น มันเลยรู้สึกเสียดาย ...เสียดายที่พยายามขนาดนี้แล้ว ยังพลาดจนได้
บางครั้ง ถ้าทีมเล่นเรื่อยๆ เอื่อยๆ และเสมอหรือแพ้ เรายังไม่รู้สึกเสียดายเท่าไหร่ เพราะมันสมควรแล้วกับสิ่งที่แสดงออกมา แต่นี่ พวกเขาทุ่มเทกันมาก แม้จะไม่ได้เล่นดีอะไรนักหนา แต่พวกเขาก็ตั้งใจ และพวกเรา The kop ทุกคนสามารถรับรู้ได้ มันไม่น่าเสียดายหรอกหรือ
ลิเวอร์พูลไม่สามารถต่อบอล ชิ่งบอลอย่างเช่นที่อาร์เซน่อลทำได้ เราต้องใช้บอลโยนยาวมากกว่าปกติ และเท่าที่สังเกต พวกเขาพยายามโยนไปทาง คลีชี่ แบ็คซ้ายอาร์เซน่อลนะ อาจเพราะคลีซี่เป็นแบ็คที่ชอบเติมเกมส์ และเราก็ได้ประตูจากด้านนั้นเสียด้วย แม้จะไม่ได้มาจากลูกโยนยาวก็ตาม ส่วนอาร์เซน่อล นั่นเขาอาวุธครบมือ ปีกทั้งสองข้าง และตรงกลาง
การบุกเราตรงกลางอาจจะยากหน่อย เพราะมีทั้งเจอร์ราร์ดและมาสเคราโน่ เราว่ามันยากมากที่จะผ่านทั้งสองคน อาร์เซน่อลถึงไม่สามารถต่อบอล ทำชิ่งเข้าเขตโทษเราได้เลย มีแค่ครั้งเดียวที่โรซิกกี้หลุดไปได้ยิง แต่เรน่าก็โชว์ซูเปอร์เซฟอย่างสุดยอดเช่นกัน ส่วนทางปีก อาจได้โยนบ่อย โดยเฉพาะทางด้านจีเจ และเวงเกอร์ต้องเห็นแน่ๆว่าทางจีเจมันหลวม เขาถึงได้ลงวัลคอตลงมา จีเจมักจะเติมเกมส์แล้วลงไม่ทัน หรือไม่ก็โดนกระชากหนีเอาดื้อๆ เพราะชอบยืนขาตาย หลายครั้งที่ต้องวิ่งตามมาตัดฟาว์ล หรือไม่ก็มาสเคราโน่ลงมาซ้อนช่วยไว้ได้ เราว่าจีเจมีปัญหาจริงๆนะ ถ้าเจอกับทีมระดับล่างๆ เขาจะเล่นอย่างเทพทีเดียว แต่ถ้าเจอพวกตัวจี๊ดๆเมื่อไหร่ จีเจก็วิ่งตามน้ำบานเหมือนกัน และถ้าจีเจยังไม่ปรับปรุงล่ะก็ มาร์ติน เคลลี่รอเสียบแทนแน่ๆ
ขอพูดถึงโจ โคลนิดนึง เขาโชคร้ายจริงๆที่ต้องมาโดนใบแดงตั้งแต่นัดแรกแบบนี้ ไม่ว่าจะสมควรหรือไม่ เราก็มั่นใจเต็มที่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจแน่นอน หวังว่าเขาจะลืมฝันร้ายนี้เร็วๆ เพราะอย่างไรเสีย ไม่มี The kop คนไหนโทษเขาแน่ๆ และเพื่อนร่วมทีมก็เช่นกัน ในเมื่อมันพลาดไปแล้ว ก็ต้องปล่อยให้พลาดไป และค่อยโอกาสกลับมาแก้ตัวใหม่
ก็อย่างที่บอกล่ะค่ะว่ามันแสนจะเสียดาย แต่ก็ไม่เสียใจนะ เพราะนักเตะลิเวอร์พูลเล่นสมกับที่ได้สวมเสื้อแดงเพลิงของเราลงสนามไปสู้เพื่อพวกเราจริงๆ เสียปรบมือในแอนฟิลด์ตอนจบเกมส์เป็นพยานได้เป็นอย่างดีว่า The kop พอใจ และชื่นใจกับทีมเหลือเกิน
สุดท้ายนี้ อยากบอกกัปตันค่ะ อิอิ ว่าอย่าบู๊ให้มันมากนัก ถนอมตัวไว้บ้าง นักแรกก็ฟาดใบเหลืองซะแล้ว คือ กัปตันสุดที่รักคึกยังกะโด๊ปยาจริงๆ
แก้ไขเมื่อ 17 ส.ค. 53 00:22:29
จากคุณ |
:
howk_ky
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ส.ค. 53 10:31:05
|
|
|
|