 |
กฏ Squad Rule เพื่ออนาคตที่ดีกว่าหรือหายนะของเกมฟุตบอล?
|
|
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล http://football.impaqmsn.com/content.aspx?id=59726&ch=262&ch=scoop
พรีเมียร์ลีกฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้วหนึ่งสัปดาห์ ในบรรยากาศที่ยังไม่ถึงกับคึกคักมากเท่าที่ควรเนื่องจากปีนี้เป็นปีบอลโลกทำให้อะไรหลายอย่างยังไม่เข้าที่ รวมถึงกฏใหม่ที่กำลังส่งผลกระทบในเวลานี้อย่างกฏ Squad Rule ด้วย
กฏ Squad Rule คอบอลหลายคนอาจจะรู้ บางคนอาจจะไม่รู้ว่าคือกฏอะไร?
ความจริงแล้วกฏนี้ไม่ได้มีชื่อเฉพาะอย่างเป็นทางการเหมือนกฏบอสแมน หรือกฏ Homegrown ซึ่งในความเป็นจริงแล้วกฏ Squad Rule ที่ว่ามันก็เป็นเรื่องที่มีมาแต่ไหนแต่ไร เพราะมันจะว่าด้วยระเบียบการลงทะเบียนผู้เล่นของสโมสรต่างๆ
ที่มันแตกต่างออกไปในปีนี้จนชวนให้ปวดหัววุ่นวายก็คือรายละเอียดในตัวกฏที่มีการเปลี่ยนแปลงในจุดสำคัญๆ 2 จุด
อย่างแรกก็คือปีนี้เป็นปีแรกที่จะมีการจำกัดการลงทะเบียนผู้เล่นเอาไว้ที่ 25 คนเท่านั้น เพื่อไม่ให้แต่ละทีมมีนักเตะในสังกัดมากล้นจนเกินไป
อย่างที่สองคือมีการนำกฏ Homegrown มาประยุกต์ใช้ด้วย โดยจะให้มีผู้เล่นที่ต้องเข้าข่าย Homegrown อย่างน้อย 8 คนจาก 25 คน
เท่ากับว่าปีนี้แต่ละทีมจะถูกจำกัดจำนวนนักเตะต่างชาติเอาไว้มากที่สุดแค่ 17 คนเท่านั้น
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายสโมสร โดยเฉพาะทีมยักษ์ใหญ่ที่นิยมชมชอบนักเตะต่างชาติต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทีมกันขนานใหญ่
ที่เห็นได้ชัดคือ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ต้องโร่ซื้อ แบร๊ด โจนส์ นายทวารจากมิดเดิลสโบรห์ เข้ามาเพื่อเติมโควต้า Homegrown ให้ใกล้เคียงกับตัวเลข 8 คนมากที่สุด เพราะนอกเหนือจากนี้ก็มีแค่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด, เจมี่ คาร์ราเกอร์, เกล็น จอห์นสัน และ โจ โคล เท่านั้นที่เข้าข่าย
ส่วนคนที่ ร้อนตัว อย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ออกมาโจมตีกฏนี้อย่างสาดเสียเทเสีย ความจริงก็ไม่ถึงกับเดือดร้อนมากนักเพราะเด็กๆในทีมที่ปั้นมาส่วนใหญ่ก็จะเข้าข่าย Homegrown อยู่แล้วโดยธรรมชาติ
Homegrown ที่ถูกมองว่าเป็นตัววุ่นวายนี้เดิมเป็นแนวคิดของ ยูฟ่า ที่เล็งเห็นว่าอนาคตรากฐานของฟุตบอลหลายๆชาติอาจจะมีปัญหาเพราะสโมสรดังเอาแต่ซื้อนักเตะชั้นนำจากต่างแดนเข้ามา บ่อยครั้งที่ได้เห็นทีมใหญ่ใช้นักเตะต่างชาติค่อนทีม หรือบางทีครบทีม 11 คนก็มี
งานนี้ก็เลยต้องมีการกำหนดให้มี Homegrown หรือนักเตะท้องถิ่นในการลงทะเบียนเล่นรายการของยูฟ่า ก็คือ ยูฟ่า คัพ (ยูโรป้า ลีก) และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเริ่มจาก 4 คนจาก 25 คนก่อนจะขยับเพิ่มเป็น 6 และ 8 ตามลำดับ
ในกฏของยูฟ่า Homegrown แบ่งเป็น 2 ประเภทก็คือ อย่างแรกคือประเภทเด็กปั้นของสโมสรโดยตรง โดยไม่จำกัดเชื้อชาติขอแค่ให้ได้ฝึกกับสโมสรเกิน 3 ปีก่อนจะอายุครบ 21 ปี ขณะที่อีกอย่างคือนักเตะที่เคยเป็นเด็กปั้นของสโมสรในสมาคมชาติเดียวกัน
สำหรับกฏของพรีเมียร์ลีก มีข้อเดียวก็คือข้อแรก (เพราะมันเป็นรายการภายในจึงไม่ต้องมีข้อสอง) ซึ่งวัตถุประสงค์ที่ทางด้าน ริชาร์ด สคูดามอร์ ซีอีโอพรีเมียร์ลีก แจ้งไว้ก็คือเพื่ออนาคตที่ ดีกว่า ของวงการฟุตบอล
มันอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวบ้างอะไรบ้าง แต่ที่สุดแล้วผลที่ออกมามันน่าจะดีสำหรับทุกฝ่าย
ขณะที่ทางด้าน เวนเกอร์ กลับมองว่ากฏนี้จะเป็นการทำลายความยิ่งใหญ่ของพรีเมียร์ลีก เพราะจะทำให้นักเตะต่างชาติไม่กล้าย้ายเข้ามา และเมื่อไม่มีตัวดีๆเข้ามา เด็กๆอังกฤษ ก็จะไม่มี ครู ที่จะคอยสอนวิชาให้ สุดท้ายคุณภาพของลีกก็จะลดน้อยถอยลงไป
เวนเกอร์ ยกตัวอย่างว่าทำไมลีกสเปน ที่มีการซื้อตัวสตาร์เข้ามามากมายถึงยังคว้าแชมป์โลกได้ ก็เพราะแต่ละสโมสรมีทั้งนักเตะชั้นนำระดับโลก และมีการผลักดันดาวรุ่งของตัวเองขึ้นมาประกบกันไป ทำให้เด็กๆได้ซึมซับวิชาของสุดยอดนักเตะระดับโลก
ก็เป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ซึ่งไม่มีใครจะให้คำตอบในเวลานี้ได้ว่าอย่างไหนมันดีกว่ากัน
ที่แน่ๆตอนนี้หลายทีมก็ทยอยโละตัวต่างชาติที่ไม่จำเป็นออกไปบ้างแล้วเพื่อจัดสรรทีมให้ลงตัวที่สุดสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลนี้
อีก 10 วันจะถึงเส้นตายในการลงทะเบียน ทีมไหนที่ยังไม่พร้อมก็ต้องรีบเร่งที่สุด
หลังจากนั้นถึงจะได้เวลาเดินเครื่องเต็มตัวเพื่อมุ่งหน้าสู่เป้าหมายของแต่ละทีมที่แตกต่างกัน
จากคุณ |
:
The Best of Me
|
เขียนเมื่อ |
:
22 ส.ค. 53 13:41:08
|
|
|
|  |