 |
ความคิดเห็นที่ 6 |
ลมแทบจับ
ลมแทบจับจริงๆ ล่ะครับหลังเสียงนกหวีดยาวที่ กูดิสัน พาร์ค จบไปพร้อมสกอร์ 3-3 ทรรศนะของหลายๆ ท่านอาจจะมองว่า เออ เสมอในบ้านท็อฟฟี่ก็ไม่เสียหายมาก แถมยังต้นฤดูกาล
แต่ผมมองอีกอย่าง จริงๆ ก็พูดมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว และก็คงจะพูดอีก
ว่า ปีก่อน เราเสียแต้มให้เบิร์นลี่, เบอร์มิงแฮม, ซันเดอร์แลนด์ ฯลฯ และส่งผลไปจนเราวืดแชมป์ ทีมจะเป็นแชมป์คาแรคเตอร์ต้องแข็งแกร่งกว่านี้ โอเค เราเชียร์ แต่จะให้หลับหูหลับตาเชียร์โดยไม่วิเคราะห์วิจารณ์กันเลยก็คงไม่ได้ อันนั้นคงเป็นการเทิดทูนแบบไร้สติมากกว่า
นำ 3-1 ถึงนาที 90 ผมพูดได้คำเดียวว่า รูปการณ์แบบนี้ อย่าว่าแต่ท็อฟฟี่เลย ต่อให้คู่ต่อสู้เป็นบาเซโลน่าหรือเรอัล เราก็ต้องชนะสถานเดียว นั่นคือ "ความเด็ดขาด" ซึ่งก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับทีมที่อยากจะเป็นแชมป์
อ้อ กรณี เซียนหลังเกม จะเกิดก็ต่อเมื่อ วิจารณ์แล้วฟันธง ควบด้วยสอน ซึ่งมันต่างจากการวิจารณ์หรือตีแผ่สิ่งที่เห็นเฉยๆ
เช่นว่า เราพูดกันได้ครับว่า เออ ทำไมเราถึงแพ้นะ เกิดอะไรขึ้น แต่เราจะมาบอกว่า โถ ถ้าส่งคนนั้นลง, ถ้าทำอย่างนั้นอย่างนี้ เราคงไม่แพ้ไม่เสมอแล้ว อันนี้ไม่ได้ ของพรรณนี้ ใครๆ ก็พูดได้
ก็คือ ต้องแยกแยะระหว่าง วิเคราะห์วิจารณ์ กับ เซียนหลังเกมส์
ต่อ จริงๆ แล้วผมก็อัดอั้นตันใจนะ กับการเสมอของ แมนฯยูไนเต็ด
สิ่งที่เห็นคือ หลังเรายุบ ผมยังแปลกใจว่า ผู้บรรยายทั้ง 2 ท่านในวันนั้นไม่แสดงความเห็นถึงบ้างเลย ทั้งที่ภาพมันก็เห็นๆ อยู่นะ เอฟเวอร์ตัน บอมบ์ใส่ยูไนเต็ดตลอด และที่น่าหดหู่คือมันดันได้ผลเรื่อยๆ วีดิช-อีวานส์ แทบเอาชนะลูกกลางอากาศของท็อฟฟี่แบบเด็ดขาดไม่ได้เลย เรียกว่าเจียนอยู่เจียนไปหลายรอบ
ดีแต่ว่า จังหวะสอง หรือจังหวะบอลตกเรายังช่วยกันเคลียได้ตลอด คือ เอฟเวอร์ตัน ได้บอมบ์ตลอด แต่พวกเขาก็เอาชนะลูกโหม่งแบบจะจะไม่ค่อยได้เหมือนกัน (จนมาโดนเคฮิลนั่นแหละ) นอกนั้นก็จะ 50-50 คือ เซ็นเตอร์เราเคลียลูกโด่งของเอฟเวอร์ตันไม่ค่อยได้ ทำให้การบอมบ์ของท็อฟฟี่มันมีประสิทธิภาพ คือ ถึงเอาชนะตรงๆ ไม่ได้ ก็ยังได้ลุ้นจังหวะสองตลอด
แมนฯยูไนเต็ด เสียประตูแรกจากความผิดพลาดของเอฟร่า
แต่ 2 ประตูในช่วงทดเจ็บ เราเสียประตูจากการครอสจากริมเส้น .. โถ มันน่าเจ็บใจว่าทีมระดับเราอ่อนหัดขนาดนั้นเลยหรือ? พลาดลูกแรกพอเข้าใจ แต่ยอมให้เสียบดาบช่องเดิมภายใน 1 นาทีเนี่ยนะ?
อันนี้ ไม่เรียกว่าพลาดก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว
ถ้าผมเป็น เซอร์ อเล็กส์ ก็คงต้องอบรมลูกทีมกันขนานใหญ่ หวังลุ้นแชมป์ แต่มาทิ้งแต้มหลุดมือจากความผิดพลาดของตัวเองไปแล้ว 4 แต้มทั้งที่เพิ่งออกสตาร์ทไปหมาดๆ
การเสมอหรือแพ้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่เราต้องดูด้วยว่า มันเกิดจากอะไร เกิดจากคู่ต่อสู้มาดีสุดๆ หรือปล่าว คือ "แพ้เพราะเขาเก่ง ก็ยังดีกว่า เสมอเพราะเราพลาด"
อีกเรื่องที่พลาด คือ ทัศนคติในการเล่นหลังจากขึ้นนำ เราเล่นเหมือนกลัวๆ นำแล้วก็แทบไม่เอาอะไรเลย ปักหลักในแดนหลัง รอสวนกลับ ซึ่ง โอเค ไม่เสียหาย ถ้าแนวรับเราแน่น ไม่โอนเอน แต่ถ้าเป็นแบบที่เห็นในเกมนั้นคือหลังเรามียุบให้เห็น ก็ยังนึกว่าเราน่าจะครองบอลบ้าง ถ้าได้ครองบอล ถึงจะช้า อาจจะไม่ได้ประตู แต่ก็ยังเป็นคนควบคุมเกมเอง แต่วันนั้นเราปล่อยให้เอฟเวอร์ตันได้ปั้นได้แต่งได้บดได้บี้ตลอด
แมนฯยูไนเต็ด ปล่อยให้เอฟเวอร์ตันได้เล่นและทดลองเกมของตัวเองมากจนเกินไป
สิ่งที่ต้องเก็บไปคิดในนัดต่อๆ ไปคือ แผงหลังเราต้องจัดการกับลูกกลางอากาศให้ได้ดีกว่านี้ เพราะมีหลายทีมเหลือเกินที่ชอบเล่นมุกนี้ นึกภาพว่าถ้าเราโดน โบลตัน, แบล็คเบิร์น บอมบ์ใส่แล้วแกว่งอย่างนี้คงลำบากแน่
แต่ที่สำคัญที่สุด ก็คือ ต้องกลับมาเด็ดขาดให้ได้ ถ้าอยากจะอยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์ไปยันนัดสุดท้าย
ในความผิดพลาดล้มเหลวก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง เช่น..
เบอร์บาตอฟ อะไรเกิดขึ้นกับเขา? หลังจากโชว์ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ มา 2 ปี ตอนนี้เขากลับพัฒนาฟอร์มจนถ้าพูดกันตรงๆ แล้ว แมตช์กับท็อฟฟี่ถึงเราไม่มีรูนี่ย์ทีมก็ยังชนะได้ (ถ้าแผงหลังไม่แป๊กกันเองซะก่อน) เบิร์บเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการกดไป 3 ลูกแล้วนะครับ
นานี่ ถึงไม่มีจังหวะกระชากลากเลื้อยมากนักในเกมกับท็อฟฟี่ แต่ก็ครอสบอลสวยๆ ให้เห็น รวมถึงได้ประตูก็จากการครอสของเขานี่แหละ ก็ได้แต่หวังว่าเขาจะรักษาฟอร์มเอาไว้ได้
สู้ๆ กันต่อไป แมนฯยูไนเต็ด 
| จากคุณ |
:
art_sarawut   
|
| เขียนเมื่อ |
:
13 ก.ย. 53 11:17:25
|
|
|
|
|
