ความคิดเห็นที่ 1 อังกฤษ เป็นต้นแบบ ของฟุตบอลที่มี กติกาและรูปแบบที่เตะในปัจจุบันครับ แต่ถ้าหมายถึงเอาลูกกลมๆมาเตะกันให้เข้าประตูคล้ายๆฟุตบอล มีหลายประเทศครับที่มีมาก่อนอังกฤษเป็นพันๆปี ทั้งจีน และเม็กซิโก ซึ่งก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ชาติไหนกันแน่ มีก่อน จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 12:22:21

ความคิดเห็นที่ 2 เคยได้ยินแต่ อังกฤษ กับ จีน ไม่เคยได้ยินอาร์เจนตินา เลยนะ จากคุณ : pisanur เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 12:27:55

ความคิดเห็นที่ 3 อังกฤษท้อง จีนทำคลอดให้ กำเนิดเป็น ฟุตบอล จากคุณ : doublelove เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 12:29:28

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนเด็กๆ เคยเรียนครูบอกว่า ประเทศต้นกำเนิดฟุตบอล คือ สหรัฐฯ โดยเรียกว่า Soccer จากคุณ : Vantage เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 12:52:09

ความคิดเห็นที่ 5 ฟุตบอล ในเกม อเมริกันฟุตบอล คำว่า ฟุต ไม่ใช่เท้า แต่เป็นความยาว หนึ่งฟุต หมายถึงกีฬาที่ใช้บอลยาวหนึ่งฟุตเล่น.. จากคุณ : proofman เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 12:57:00

ความคิดเห็นที่ 6 จีนครับ ตอนช่วงบอลโลก มีสารคดีเรื่องหนึ่งทางช่อง history channel ชื่อว่า history of football มั้งถ้าจำชื่อไม่ผิด ผมดูได้ตอนแรกๆ เหมือนเค้าจะกล่าวเกริน่ว่า หลายคนอาจคิดว่า อังกฤษเป็นให้กำเนิด ฟุตบอลขึ้น แต่จริงแล้ว จีนเป็นผู้ให้กำเนิดฟุตบอล เพียงแต่อังกฤษเป็นผู้ให้กำเนิดฟุตบอลสมัยใหม่นั่นเอง ใครที่ได้ดูมาตอบด้วยละกันนะครับ ถ้าจะให้ดี ขอลิ้งดูตอนที่ผมบอกด้วยครับ จำได้ว่าเปิดดู มันเป็นวันสุดท้ายที่ฉายแล้ว หลังจากนั้นก็หมดเลย โคตรเสียดายเลย TT เป็นสารคดีที่น่าดูมากๆ สำหรับคนที่คลั่งไคล้ฟุตบอลครับผม มีคนที่มีชื่อเสียงมาให้สัมภาษณ์มากมายเกี่ยวกับฟุบอล แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 13:58:35 จากคุณ : ผู้ชายกับสายฝน เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 13:56:13

ความคิดเห็นที่ 7 อังกฤษสิ จีนเป็นแค่กีฬาที่เตะลูกกลมๆ สมมติถ้าเราเอาลูกบาสมาเตะกันเนี่ยจะเรียกฟุตบอลมั้ย ฟุตบอลไม่ได้หมายถึงแค่มีลูกกลมๆมาเตะ แต่รวมถึบกติกาทั้งหมดและรูปแบบการเล่นด้วย จากคุณ : ผีฟรีคิก เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 14:16:59

ความคิดเห็นที่ 8 อังกฤษแน่นอนค่ะ จีนน่ะเตะอะไรไม่รู้ไม่ใช่ลูกบอลอย่างที่เห็น แต่จีนชอบอ้างค่ะเห็นหลายเรื่องแล้ว จากคุณ : nancya9 เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 15:26:47

ความคิดเห็นที่ 9 อ่านทุก คห. แล้วแสดงว่าไม่รู้จริง "ฟุตบอล" หรือที่เรียกว่า Soccer นั่นที่จริงแล้ว สมัยก่อน เป็นกีฬาที่สุดยอดนิยมของอเมริกาใต้ แต่สมัยนั้นเค้าไม่ได้ใช้ลูกฟูตบอลเตะ แถมเตะเท้าเปล่า เมื่อผู้ล่าอาณานิคมไปเห็นจึงนำเอารองเท้าและถุงเท้าไปให้ใส่ จึงเกิดการเรียกว่า Socker คือผู้ใส่ถุงเท้า ไปๆมาๆ จึงกลายเป็น Soccer นอกจากนั้น รากศัพท์ของคำว่า Football จริงๆแล้ว ไม่ใช่การเล่นบอลด้วย เท้า เพราะมิฉะนั้น ทางอเมริกา จะใช้คำว่า Football กับ NFL ได้อย่างไรเมื่อใช้มือมากกว่าเท้า เสียอีก . . . . . . . . . . . . ผมมั่วเอานะ 555+ จากคุณ : คำเตือน!! ห้ามกินเกินวันละ2ขวด เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:24:38

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเอาแค่ลูกกลมๆเนี่ย จีนแน่นอนครับ เพราะจีนเอากระเพาะหมูมาทำเป็นลูกฟุตบอลเตะกันเมื่อสองพันปีมาแล้ว แต่เครดิตปัจจุบันยกให้อังกฤษ เป็นต้นกำเหนิดฟุตบอลสมัยใหม่ครับ ***** tex ***** จากคุณ : [[[tes]]] เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 16:33:22

ความคิดเห็นที่ 11 อังกฤษ จากคุณ : barbiedd เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:09:34

ความคิดเห็นที่ 12 ตาม คห บนๆ อังกฤษสร้างกฏสร้างกติกาให้มันมาตรฐานใกล้เคียงฟุตบอลที่สุด ส่วนจีนจะมีประวัติกี่พันปีก็ไม่ได้สร้างกฏกติกาอย่างที่เล่นกันในปัจจุบัน เหมือนมวยน่ะ ชาตินึงคิดท่วงท่า แต่อีกชาตินึงประยุกต์มาเป็นศิลปะการต่อสู้เฉพาะขึ้นมา จากคุณ : CoollyCat เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 17:55:36

ความคิดเห็นที่ 13 ผมเห็นวิถีชีวิต การเข้าไปเชียร์ ฟุตบอล ของแฟนๆแต่ละทีม สมัยก่อนนู้นแล้ว คิดว่าอังกฤษแน่นอนอ่ะ  ที่เป็นกีฬา ฟุตบอล แล้วดูเล่นแบบเป็นระบบ กติกา จากคุณ : Angelus เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 18:40:03

ความคิดเห็นที่ 14 หลากหลายพื้นที่ในโลกใบนี้ล้วนมีการละเล่น ที่คล้ายคลึงกับฟุตบอลทั้งสิ้น ในสมัยกรีกโบราณ มีการละเล่นหนึ่ง เรียกกันว่า อีพิสกีรอส .....                                                                                                                     > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:10:54

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนในโรม ก็มีการเล่นกับลูกบอล เช่นกัน และชาวโรมันก็นิยมเรียกเกมนี้กันว่า...ฮาสปาสตัม                                                                                                                     > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:14:44

ความคิดเห็นที่ 16 ข้ามฝากมาอีกทวีปนึง ในเมืองจีน สมัยราชวงศ์ฮั่น  ชาวจีนในช่วงนั้นก็ชอบเล่นเตะลูกบอลลูกเล็กๆ เรียกกันว่า....ซุทจู                                                                                                                     > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:21:52

ความคิดเห็นที่ 17 ต่อมาเกมเดียวกันนี้ ก็มาได้รับความนิยมใน ญี่ปุ่น แต่มีชื่อเรียกว่า....เคมาริ                                                                                                                     > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:25:05

ความคิดเห็นที่ 18 กลับมายังฝั่งยุโรปอีกที ในแคว้น นอร์มังดี , บริตตานี และ ปิคาร์ดี้ ของฝรั่งเศส มีเกมของมหาชนที่ใช้คนเล่นกว่า 200 คนไล่ล่าพาลูกฟุตบอลข้ามทุ่งนาเป็นระยะทางไกล มีชื่อเรียกกันว่า ลา โซเร                                                                                                                     > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:35:18

ความคิดเห็นที่ 19 และในฟลอเรนซ์ ของอิตาลี ในศตวรรษที่ 16 ก็มีเกมที่มีการเแบ่งข้างแย่งลูกฟุตบอล และพยายามพาไปให้ข้ามเสาประตูที่ปลายสุด ชาวเมืองฟลอเรนซ์เรียกเกมชนิดนี้ว่า...จิออโค เดล กัลโช่                                                                                                                     > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:41:39

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วนในสหราชอาณาจักรนั้น รู้จักเกมการละเล่นกับลูกหนังนี้ ในช่วงปีค.ศ. 1170 มีบันทึกที่เขียนขึ้นโดย วิลเลี่ยม ฟริซต์สตีเฟ่น ว่่า... " ภายหลังอาหารเย็นเสร็จสิ้น เด็กๆในเมืองก็จะพากันวิ่งไล่ลูกฟุตบอลไปตามท้องทุ่ง "                                                                                                                     > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 19:52:55

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนฟุตบอลในยุคฟื้นฟู มีกติกาการเล่นที่ร่างขึ้นแบบเป็นเรื่องเป็นราวนั้น เริ่มต้นขึ้นในอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อการเล่นฟุตบอลได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในโรงเรียนชายอย่าง.. อีตั้น , ฮาร์โลว์ , ชรู๊สบริวรี่ , วินเชสเตอร์ , ชาร์เตอร์เฮาส์ และ เวสต์มินสเตอร์ การเล่นรุนแรงขึ้น มีการเล่นนอกเกมจนผู้ร่วมเล่นต่าง แข้งขาหัก กรามหัก จมูกพัง กันเป็นแถบๆ จึงมีการกำหนดกติกาขึ้นอย่างเป็นเรื่องเป็นราวโดยมหาวิทยาลัยเคมบริด์จ  ในปี ค.ศ. 1848 กติกาแรกของฟุตบอลจึงถูกเรียกกันว่า " กฏของเคมบริด์จ "                                                                                                                 > Shine on you crazy diamond < แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 20:10:19 จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:08:22

ความคิดเห็นที่ 22 และ ในปีค.ศ. 1872 ก็มีการแข่งขันแม๊ตซ์ในระดับนานาชาติ ภายใต้กติกาอย่างเป็นทางการครั้งแรก เป็นเกมระหว่าง อังกฤษ และ สก๊อตแลนด์                                                                                                                    > Shine on you crazy diamond < แก้ไขเมื่อ 23 ก.ย. 53 20:19:26 จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 20:18:46

ความคิดเห็นที่ 23 กระทู้ดี มีสาระ โหวตครับ จากคุณ : Home_Nature เขียนเมื่อ : 23 ก.ย. 53 22:55:14

ความคิดเห็นที่ 24 ที่ผมเคยรู้มารุ้สึกเป็นกรีซนะ สักอันเนี่ยเเหละ จากคุณ : Faked เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 01:40:25

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้านับต้นกำเนิดการยัดลูกกลมๆ เข้าเป้าหมาย คือ จีน ครับ (อาจจะมีชาติอื่นๆ บ้าง แต่ที่รู้ชัวร์คือจีนเนี่ยแหละ) (แต่เล่นยาก เพราะ เป้าหมายที่ต้องส่งลูกไป บางทีก็ลอยอยู่บนอากาศ ไม่ก็เป็นรูขนาดไม่ใหญ่มาก)  ส่วนประเทศอื่นๆ ก็มีการเล่นคล้ายๆ กัน รวมถึงอังกฤษด้วย แต่ ฟุตบอล ที่เป็นฟุตบอลอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ต้นกำเนิดคืออังกฤษครับ (จริงๆ ชาติอื่นก็เล่นมาพร้อมๆกับอังกฤษเนี่ยแหละ แต่คนที่ทำให้เป็นรูปร่าง ใส่กฏใส่อะไร ไป คืออังกฤษ)  ส่วนใหญ่จะเป็นคนขาวนะ ที่มาขโมยไอเดียของคนเอเชียไปใช้ แล้วประยุกต์ให้ดีขึ้น แล้วบอกว่าตนเป็นต้นกำเนิด (ดี หรือ ไม่ดีเนี่ย -*-) ก็พูดยาก... จากคุณ : Stress เขียนเมื่อ : 24 ก.ย. 53 23:14:55

ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 8   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   อังกฤษแน่นอนค่ะ จีนน่ะเตะอะไรไม่รู้ไม่ใช่ลูกบอลอย่างที่เห็น แต่จีนชอบอ้างค่ะเห็นหลายเรื่องแล้ว จากคุณ : nancya9 แล้วรู้ได้ยังไงว่าเค้าอ้าง ??  ตอบซะแน่ใจเหมือนเกิดยุคนั้นเอง จากคุณ : Zhang ANQI เขียนเมื่อ : 26 ก.ย. 53 23:06:55