 |
ความคิดเห็นที่ 8 |
ค็อปร่ำไห้! หงส์อย่างเน่าแพ้น้องใหม่คาบ้านร่วง 18
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลถึงช่วงกลียุคอย่างแท้จริงหลังโชว์ฟอร์มย่ำแย่ถูกแบล็คพูลบุกมาสอนบอลถึงแอนฟิลด์ก่อนชนะ 2-1 ทำให้ลูกทีมรอย ฮอดจ์สันกุนซือเก้าอี้ร้อนรั้งอันดับ 18 เหนือบ๊วยแค่แต้มเดียวเท่านั้น
พรีเมียร์ลีก
วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม 2553
ลิเวอร์พูล 1-2 แบล็คพูล
ประตู : 0-1 อดัม(จุดโทษ) น.29,วาร์นีย์ น.45+1,1-2 คีย์เกียกอส น.53
"หงส์แดง"ลิเวอร์พูลตั้งใจจะเบิกร่องชัยชนะนัดที่สองในฤดูกาลนี้หลังได้แบล็คพูลน้องใหม่มาเยือนเนื่องจากเจอทั้งเชลซีและอาร์เซนอลอวยชัยสองนัด 10 ลูก
สตีเฟ่น เจอร์ราร์ดคัมแบ็คกลับมาเป็นตัวจริงโดยเฟร์นานโด ตอร์เรสและโจ โคลต่างก็มีชื่อเป็นตัวหลักเช่นเคย
ครึ่งแรก
2 นาทีแบล็คพูลเกือบนำ เขี่นบอลมา 2 นาทีลิเวอร์พูลหนาวๆร้อนๆหลังสเคอร์เทลทำเสียฟรีคิกในระยะอันตรายก่อนที่เรน่าจะล้มตัวปัดลูกยิงอดัมเต็มๆสองมือ เกือบเน่าตั้งแต่ไก่โห่
โคลชาร์ตจ่อๆจั่วลม แต่อีกนาทีถัดมา"หงส์แดง"เอาคืนเกือบแสนสันจากจังหวะที่ตอร์เรสเปิดบอลจากฝั่งขวาให้โจ โคลล้มตัวสไลด์ยิงระยะ 5 หลาแต่เจอตัวประกบเข้านัวเนียเลยโดนไม่เต็มหลุดออกหลังไปเอง
หงส์เซ็งตอร์เรสเจ็บ ลางร้ายสำหรับเจ้าถิ่นเมื่อเฟร์นานโด ตอร์เรสเจ็บเล่นต่อไม่ไหวตั้งแต่นาทีที่ 9 เป็นดาวิด เอ็นก็อกลงมารับหน้าที่แทน
เจ้าถิ่นยังตั้งเกมไม่ได้และต้องเดือดร้อนแนวรับต้องช่วยกันเคลียร์ทิ้งเสียเตะมุมท่ามกลางความเครียดของเดอะค็อปด้านหลังประตู
น้องใหม่น่าขึ้นนำ นาที 15 แบล็คพูลเกือบขึ้นนำหลังแบ็คซ้ายลิเวอร์พูลโดนเจาะอีกแล้วเป็นอาร์ดลีย์วิ่งทะลุหลุดมาเปิดโค้งมาเสาสองแล้วดีเจ แคมป์เบลล์เข้าฮอร์ตยิงบอลโด่งข้ามคานออกไปเอง
อีกนาทีเศษๆวาร์นีย์วอลเลย์ยิงไกลบอลพุ่งวาบน่ากลัวแต่เรน่ายืนคุมเส้นดีรับเข้าอกแต่ก็เสียวเดอะค็อปใช้ได้เลย
หัวขิงยิงไกล อีก 2 นาทีต่อมาโพลเซ่นเก็บตกบอลตรงระยะ 30 หลาแล้วแปะให้เจอร์ราร์ดแต่งหนึ่งทีก่อนยิงไกลบอลพุ่งแหกคานออกไปได้ลุ้นกันเลยทีเดียว
หงส์ทำสวย ช่วงนาที 20 "หงส์แดง"เคาะบอลกันได้สวยจากจังหวะที่เจอร์ราร์ดให้เคาท์แล้ววิ่งทำทางก่อนหอกไตรกีฬาจะแตะเบาๆทำชิ่ง 1-2 แล้วบอลออกไปที GJ เปิดเข้าในจะให้เอ็นก็อกชาร์ตระยะเผาขนแต่ถูกเคลียร์ตัดหน้าก่อนนิดเดียว
หงส์สวนกลับแต่เงอะงะ อีก 4 นาทีต่อมาเมเรเลสตัดบอลตรงกลางสนามได้แล้วฝากให้เอ็นก็อกที่้พาบอลไปเองตรงระยะ 25 หลาแต่เพื่อนไม่ยอมวิ่งทำทางให้โดยเคาท์กับเมเรเลสไปยืนออกันตรงด้านขวาของกรอบโทษทำให้ก็อกไม่รู้จะจ่ายยังไงเลยป้ายให้เคาท์ยิงไกลเข้ามือกิลคส์ จังหวะแบบนี้ต้องมีคนวิ่งสลับตามช่องเพื่อดึงตัวหรืออย่างน้อยเปิดพื้นที่ให้ก็อกหาเหลี่ยม
แบล็คพูลเคลียร์บนเส้น ตอนนี้ลิเวอร์พูลเริ่มจับจังหวะได้แล้วนาที 25 ได้เตะมุมคีย์เกียกอสโขกบอลตกพื้นกำลังจะข้ามเส้นแล้วโคลหล่อวิ่งมาจะหวดซ้ำจ่อๆแต่คีแนนโหม่งเคลียร์บนเส้นหวุดหวิด
หงส์ช็อกตามหลัง 1-0 หายนะมาเยือนแอนฟิลด์จนได้หลังจังหวะสวนกลับ GJ ซึ่งเกมรับอ่อนอยู่แล้วโดนจี้เข้าหาในเขตโทษแล้วโดนล็อกทีเดียวถึงกับหลังหักก่อนไปใช้เข่าดักทำฟาว์ลโจ๋งครึ่มเสียจุดโทษทันทีก่อนที่อดัมจะรับหน้าที่สังหารวิ่งมากดเต็มข้อเรน่าพุ่งถูกทางแต่ลอดแขนแฉลบเข้าไปตาข่ายสะเทือน
ก็อกยิงไกล นาที 33 เอ็นก็อกโชว์ขวามขยันวิ่งฉกแย่งบอลแล้วลากจี้มาถึงหน้าเขตโทษแต่ไม่ยอมจ่ายให้เพื่อนเลือกยิงไกลเองบอลแรงจริงแต่เข้ามือกิลคส์
GJ ยิงเหน่งๆข้ามคาน อีก 3 นาทีต่อมา GJ มีโอกาสแก้ตัวหลังเคาท์ยึกยักตรงเส้นแล้วแล้วแงะบอลให้แบ็คขวาจอมรั่วลากตัดในเขตโทษกำลังจะง้างยิงด้วยซ้ายแล้วล็อกจนตัวบล็อก 2 คนสไลด์ลมก่อนยิงขวาบอลข้ามคานออกไปเยอะ
หงส์บุกแหลก "หงส์แดง"วิ่งพล่านเป็นหนูติดจั่นแต่การต่อบอลยังต่ำกว่ามาตรฐานและนาที 39 เมเรเลสเปิดครอสจากปีกขวาเข้าหัวเคาท์แต่ดันไปตรงตัวกิลคส์ที่รับเข้าซองบนเส้นพอดี
อีกนาทีเศษๆเจ้าถิ่นมีโอกาสอีกครั้งหลังเอ็นก็อกได้บอลตรงหน้าเขตโทษแล้วถ่ายออกให้โคลหล่อกระขากตัดเข้าขวาก่อนยิงเลียดเล่นมุมแต่กิลคส์ก็ยังพุ่งล้มรับติดมืออีก
เจ้าถิ่นเกือบเน่า ก่อนหมดครึ่งแรก 2 นาทีลิเวอร์พูลเกือบเน่าอีกหลังแนวรับคุมคนกันไม่ดีจนแคมป์เบลล์วิ่งทำทางหนีสเคอร์เทลที่ออกตัวช้ากว่าก่อนยิงยัดแสกหน้าเรน่าที่เสาแรกแต่จอมหนึบทีมชาติสเปนประสานปัดรอดตัว
หงส์สิ้นท่าโดนทดเจ็บ 2-0 งานเลี้ยงของลิเวอร์พูลจบลงแล้วหลังช่วงทดเจ็บมาโดนลูก 2 อย่างง่ายดายจากจังหวะที่เฟลทเชอร์ได้บอลตรงหน้าเขตโทษแต่แนวรับลิเวอร์พูล 4-5 คนไม่มีใครเข้าเลยดันไปยืนเฉยบนเส้น 18 หลาเชื้อเชิญให้ตัวจ่ายมีเวลามองมีเวลาเลือกก่อนที่จะชิพระยะต่ำให้วาร์ีนีย์วิ่งสวนแทรกตัวเข้ากดทะลุหนีมีเรน่าเบียดเสาแรกเข้าไปท่ามกลางความช็อกของเดอะค็อป หมดครึ่งแรกแบล็คพูลนำ 2-0 พร้อมเสียงโห่ของเดอะค็อปทั้งสนาม จากภาพช้าที่ไม่ล้ำเพราะ GJ ดันไปวิ่งตามเลยกลายเป็นหลุดเดี่ยวเสียของไปเลย
ครึ่งหลัง
เริ่มปุ๊บหงส์เกือบโดนปั๊บ เล่นมายังไม่ถึงนาทีคีย์เกียกอสเข้าบอลพรวดทำให้แบล็คพูลต่อบอลทำชิ่งมันในอารมณ์ก่อนจ่ายทะลุหลุดเข้าเขตโทษยังดีที่แรงไปนิดจนเรน่าวิ่งออกมาล้มตัวรับติดมือก่อนลุกมาโวยทันที
เอ็นก็อกโขกเน่า นาที 47 เคาท์เปิดบอลจากริมกรอบเขตโทษทางซ้ายแล้วก็อกโผนโขกบอลโดนบางไปเลยออกข้างเสาท่ามกลางความเสียดายของเดอะค็อป
"กอส"ปลุกผีโขกไข่แตก 2-1 อีก 6 นาทีต่อมาแอนฟิลด์ที่เงียบเป็นเป่าสากได้เฮกันดังๆหลังเจอร์ราร์ดปั่นฟรีคิกเร็วโค้งเข้าหัวคีย์เกียกอสที่โถมมาจากสุพรรณโขกเต็มๆตุงตาข่ายไม่เหลือ ไล่มาแล้ว 2-1
แนวรับหงส์ยังแย่ แม้ได้ประตูตีไข่แตกและนักเตะกำลังคะนองแต่แนวรับดูเหมือน่าเป็นห่วงเพราะสเคอร์เทลสไลด์พรวดจั่วลมปล่อยให้แข้งทีมเยือนหลุดเดี่ยวจี้เข้าหาคาร์ราเกอร์ยังดีที่ GJ วิ่งมาช่วยทัน
จากนั้นเมเรเลสได้โอกาสยิงไกลสองหนครั้งแรกติดบล็อกครั้งที่สองบดออกข้างเสา
โคลหล่อช็อกหลุดเดี่ยวยิงไม่เข้า นาที 59 เดอะค็อปช็อปทั้งสนามหลังคาร์ราเกอร์เติมเกมรุกแทงทะลุช่องให้โจ โคลแตะหลุดเข้าเขตโทษแต่ตอนยิงด้วยอีซ้ายหักซัดบอลผ่านเสาไกลออกไป เดอะค็อปอุตสาห์ร้องเฮล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว
หงส์พลาดเกือบโดนลูกสาม บุกเพลินๆนาที 68 ลิเวอร์พูลเกือบเน่าเองหลังจังหวะสวนกลับเป็นวาร์นีย์เลี้ยงจี้เข้าหาคีย์เกียกอสก่อนพาหนีไปถึงเส้นหลังแล้วตบย้อนจะให้เพื่อนยิงโล่งหลังเรน่าหลุดตำแหน่งแล้วแต่ GJ มาแหย่สกัดช่วยชีวิตเอาไว้ได้ก่อน
เกมแลกโคตรมัน ตอนนี้เกมแลกกันมันไม่มีใครยอมใครท่ามกลางเสียงร้องทั่วสนามแอนฟิลด์แต่ลิเวอร์พูลเสียเปรียบเพราะแนวรับตอนนี้โล่งโจ้งมากพร้อมเสียประตูตลอดในขณะที่ทีมเยือนรับแน่นปั๊กแล้วค่อยสวนช่วยกันขึ้นมา
หงส์วันเวย์ ช่วง 15 นาทีสุดท้ายเหมือนลิเวอร์พูลบุกเข้าฝ่ายเดียวแต่นั่นเป็นเพราะแบล็คพูลไม่เอาแล้วจะอุดเอา 3 แต้มกลับบ้านเหมือนวันที่ซันเดอร์แลนด์ลงมาอุดไม่คิดบุกจนดูเหมือน"หงส์แดง"เหนือกว่า
เคาท์โขกได้ลุ้น ท้ายๆเกมบอลกลายเป็นแบล็คพูลที่เริ่มกลับมาอีกครั้งหลังดึงช้ากล้าเริ่มลุยเข้าใส่เหมือนช่วงแรกๆแต่นาที 88 ลิเวอร์พูลกลับมีลุ้นตีเสมอจากจังหวะที่เจอร์ราร์ดวางบอลยาวลูกพุ่งๆไปเสาสองให้เคาท์วิ่งมาโขกแต่มุมแคบเลยเข้ามือกิลคส์ที่ยืนคุมเสารับเข้ามืออีก
หงส์เกือบตีเสมอทดเจ็บ ช่วงทดเจ็บ 3 นาทีลิเวอร์พูลพยายามบุกเจาะแบบภูมิปัญญาชาวบ้านคือโยนจากริมเส้นด้วยปลายตีนของ GJ ที่โยนขวาได้ไม่โยนไปแต่งเข้าซ้ายแต่ก็ไม่มีอะไรแต่มาเสียวสุดๆตอนวินาทีสุดท้ายหลังมักซี่เปิดย้อยจากริมกรอบโทษฝั่งขวาเป็นคีย์เกียกอสโถมมาโขกเต็มกบาลแต่ตรงตัวกิลค์ที่ปัดรอดตายเหลือเชื่อ หมดเวลาแบล็คพูลบุกมาชนะลิเวอร์พูลถึงแอนฟิลด์สุดช็อกขยับหนีจากโซนท้ายตารางสบายแฮส่วนอดีตแชมป์ 18 สมัยรั้งอันดับ 18 หรือที่ 2 จากท้ายมี 6 แต้มจาก 7 นัดอยู่เหนือ"บ๊วย"เวสต์แฮมเพียงแค่แต่มเดียวเท่านั้นโดยโปรแกรมนัดต่อไปคือดาร์บี้แมทช์กับเอฟเวอร์ตันที่ปลดล็อกชนะนัดแรกมาแล้วเมื่อวันเสาร์นั่นเอง
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า 6,เกล็น จอห์นสัน 5,โซติริออส คีย์เกียกอส 6,มาร์ติน สเคอร์เทล 5.5,เจมี่ คาร์ราเกอร์ 5.5,คริสเตียน โพลเซ่น 5(โยวาโนวิช น.60,5.5),สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด 6,ราอูล เมเลเรส 6,เดิร์ก เคาท์ 6,โจ โคล 6.5(มักซี่ น.89),เฟร์นานโด ตอร์เรส -(เอ็นก็อก น.9,5.5)
แบล็คพูล : แมทธิว กิลคส์ 7.5,นีล เอิร์ดลีย์ 6(ฟิลิปส์ น.46,6.5),เอียน อีแวทท์ 6,เคร็ก แคธคาร์ท 6(คีแนน น.21,6.5),สตีเฟ่น เครนีย์ 7,เดวิด วอห์น 7,ชาร์ลี อดัม 8,ดู้ดลีย์ แคมป์เบลล์ 8,เอเลียต กราดิน 6.5(เซาเธิร์น น.63,6.5),ลุค วาร์นีย์ 8,แกรี่ เทย์เลอร์ เฟลทเชอร์ 7.5
http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=328535
แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 53 16:20:56
จากคุณ |
:
เท่ง หงส์แดง
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ต.ค. 53 09:50:23
|
|
|
|
 |