ตาม2เด็กไทย ไต่หน้าผาโลก
พัชรินทร์ พลายพูลทรัพย์
วันที่ 9-12 ก.ย. ที่ผ่านมา สกอตแลนด์ แดน "เบรฟฮาร์ต" มีโอกาสต้อนรับคณะนักกีฬาเยาวชนหัวใจแกร่งจากทั่วทุกมุมโลก ใน "การแข่งขันกีฬาปีนหน้าผาเยาวชนชิงแชมป์โลก 2010" หรือ "IFSC World Youth Cham- pionships 2010" ณ เมืองปราสาทงาม เอดินเบอระ หรือเอดิน บะระ หรือที่คนไทยเรียกให้เข้าปากว่า เอดินเบิร์ก
สองเยาวชนทีมชาติไทยวัย 14 ปี จากสมาคมกีฬาปีนหน้าผาแห่งประเทศไทย ที่ร่วมแข่งขันครั้งนี้ คือ ด.ญ.ปานแก้ว พลายพูลทรัพย์ หรือ น้องผักกาด นักเรียนเกรด 8 โรงเรียนนานาชาติแอสคอท ซึ่งมี นายมนัส พันธุ์เทศ เป็นผู้ฝึกสอนตั้งแต่วัย 8 ขวบ โดยมี นายธรรม์สฤษฎ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา โค้ชทีมชาติช่วยติวเข้ม และ นายไพรัช แก้วกัน นักกีฬาทีมชาติ ดูแลการเก็บตัวฝึกซ้อมที่สวิตเซอร์แลนด์ก่อนแข่ง
อีกหนึ่งเยาวชนไทย ด.ญ.วัชรีวรรณ โทมาส หรือ น้องพลอย นักเรียนเกรด 8 โรงเรียนนานาชาติบางกอกเพรพ ซึ่งมี คุณพ่อไกรศักดิ์ บุญทิพย์ เป็นผู้ฝึกสอนมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยบินไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่อิตาลี
ไทยเป็นหนึ่งเดียวในชาติอาเซียนที่เข้าร่วมศึกครั้งนี้ ท่ามกลาง 39 ชาติจากทั่วโลก มีนักกีฬาเยาวชน 430 คน เข้าร่วมชิงชัยจากแทบทุกทวีป ไม่ว่าจะเป็นชาติเจ้าภาพ สกอตแลนด์ ร่วมด้วยอังกฤษ สหรัฐ รัสเซีย แคนาดา เยอรมนี อิตาลี ฝรั่งเศส บราซิล ออสเตรเลีย ฯลฯ
จากผู้เข้าแข่งขันใน รุ่น Female youth B รวม 62 คน เด็กไทยทำผลงานในระดับโลกได้น่าพอใจ ติดอันดับอยู่ในกลุ่มกลางๆ เอาชนะเด็กในทีมจากชาติยุโรปหลายประเทศ
หลังจบการแข่งขันนักกีฬาไทยวัยโจ๋แจ้งผลจากสนามแข่งถึงเพื่อนๆ ที่เมืองไทยผ่านเฟซบุ๊กทันที และยังคงใช้เวลาปีนป่ายหน้าผาระดับโลกที่พวกเขาได้มาสัมผัสเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และรูตที่ไม่เคยเจอกลับเมืองไทยไปให้ได้มากที่สุด ทั้งสองบอกว่า "มาแล้วต้องมาให้คุ้ม"
น้องผักกาด และ น้องพลอย กล่าวว่า กีฬาปีนหน้าผาสนุกตรงที่เราได้ ไปถึงจุดสูงสุด มาครั้งนี้ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้รู้ความสามารถของตัวเอง และรู้ว่าตัวเองอยู่ในระดับไหนของโลก ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ กีฬาชนิดนี้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ได้ใช้ร่างกายเกือบทุกส่วน ทั้งกำลังแขน กำลังขา การฟิตซ้อมและวอร์ม อัพก่อนแข่งเป็นสิ่งสำคัญ
"ได้ไอเดียใหม่ๆ ในการปีนเยอะมาก ได้ความคิดที่หลากหลายมากขึ้น ได้เห็นวอลล์ระดับโลกซึ่งแตกต่างจากวอลล์ของเมืองไทยมาก การเซ็ตรูตของรูตเซ็ตเตอร์ที่แตกต่างจากบ้านเรา และเห็นความพัฒนาในกีฬาปีนหน้าผาของเขา"
ทั้งสองบอกว่า ผลการแข่งขันสำคัญในระดับหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือเราได้มาพิสูจน์ความสามารถของเราเอง และคงเหมือนกับเพื่อนๆ ประเทศอื่นๆ ที่อยากให้กีฬาปีนหน้าผาอยู่ในโอลิมปิก
"ทำวอลล์ระดับโลกให้เราสักอันเถอะ เด็กไทยจะไปได้ไกลกว่านี้ ความสามารถเราสู้ได้ อยู่ที่วอลล์และการสนับสนุนของผู้ใหญ่" นักกีฬาทั้งสองส่งเสียงอ้อนวอน
เพราะหากไม่นับรวมหน้าผาจำลองของภาคเอกชนที่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเข้าใช้แล้ว ประเทศไทยมีหน้าผาจำลองเพียงอันเดียวคือที่สนามการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ซึ่งเก่าและใช้งานมานาน
อ่าวต้นไทร และไร่เลย์ ใน จ.กระบี่ คือหน้าผาจริงที่สวยงามและโด่งดังไปทั่วโลก นักปีนหน้าผาจากทุกมุมโลกต่างใฝ่ฝันว่าต้องมาปีนให้ได้สักครั้งในชีวิต เช่นเดียวกับนักดำน้ำที่ปักหมุดจุดหมายไว้ใต้ท้องทะเลสิมิลัน
หน้าผาจำลองที่ได้มาตรฐานจึงไม่น่าจะเกินกำลัง กีฬาปีนหน้าผาเป็นกีฬาที่เด็กไทยยังไล่เขาทัน
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEEyTVRBMU13PT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHhNQzB3Tmc9PQ==
จากคุณ |
:
หมาป่าดำ
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ต.ค. 53 01:21:25
|
|
|
|