ความคิดเห็นที่ 1 โอกาสเจอยากกว่า... แต่ถ้าเจอ ก็... รอดยากกว่าเหมือนกัน... เพราะแพงกว่าเยอะ จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 02:22:39

ความคิดเห็นที่ 2 ทุกทีมมีโอกาสเจอเหมือนกันครับ จากคุณ : Achaki Oddy เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 02:46:11

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนนี้ยังแต่นานๆไปก็ไม่แน่ จากคุณ : Why So Serious?! เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 03:03:41

ความคิดเห็นที่ 4 ลองเซอร์รีไทร์ แล้วคนใหม่ บารมีบวกฝีมือไม่ถึง จูนเครื่องไม่ติด พาผี ไม่ติด สี่อันดับแรก งานก็เข้าแล้ว แก้ไม่ดีแก้ไปแก้มาซักสองสามปีไ่ม่ดีขึ้น เกลอเซอร์ถึงจะมีสิทธิเป็นอย่างหH&G จากคุณ : jojoja เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 06:19:40

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นแฟนแมนยูบอกว่า ถ้าเซอร์รีไทร์ แล้วผู้จัดการใหม่ พลาดล่ะก็ จะหนักกว่าลิเวอร์พูลเพราะยอดหนี้สูงกว่าครับ เห็นแฟนแมนยูเดินประท้วงเงียบกันอยู่นี่ ผลงานทีมไม่ได้ตก แต่สโมสรดันขาดทุนเพราะต้องไปจ่ายหนี้ซะงั้น จากคุณ : Niceguy_C3 เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 06:30:49

ความคิดเห็นที่ 6 โดยส่วนตัว  ผมไม่ชอบแนวทาง บอร์ดบริหารในการบริหารงานทางด้านการเงินเท่าไหร่ แม้ตากิลล์บอก สถานะทางการเงินเราแข็งแกร่ง แต่ถามว่าจะล้มฟุบไหม? ผมกล้าบอกเลยว่าคงลำบากมากถึงมากที่สุด เพราะอย่าลืมอย่างนึง ลิเวอร์พูลที่นำมาเทียบกับยูไนต็ดนั้น  ทิ้งขาดทุกอย่างไล่ตั้งแต่ในแง่การบริหารงานระดับบน จนไปถึงผลงานในสนาม และผมเชื่อว่ามี เจ้าของใหม่พร้อมเทคต่อเยอะแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยใจอยากมาทำหรือหากำไร ไม่ใช่มารอเซ้งแบบลิเวอร์พูล เรื่องความสำเร็จต่อจากยุคป๋าผมเองไม่ห่วงมาก จากที่ผมอ่านบทสัมภาษณ์ป๋ามา ถ้าป๋าจากไปสิ่งนึงที่เชื่อได้คือ ณ เวลา นั้น ยูไนเต็ด มีแบรนด์การเล่นที่เป็นDna ไปแล้ว แบบที่โยฮัน ครัฟฟ์สร้างให้บาร์ซ่า   นี่คือสิ่งที่ป๋าห่วงมากกว่า ที่คนมองว่าแกหิวกระหายความสำเร็จ เพราะแกเองก็สร้างยูไนเต็ดมากับมือ จนมีมูลค่ามากมาย ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งถ้าเล่นฟุตบอลได้แบบนี้ มันไม่มีเหตุที่ต้องไปห่วงเรื่องแชมป์เลย ขอแค่อย่ากดดัน คนใหม่มากจนเกินงาม ผมว่าเรายังเดินต่อไปได้อีกไกล จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 07:07:38

ความคิดเห็นที่ 7 ยากครับ เพราะพื้นฐานต่างกัน ารายได้หลักของสโมสรมาจากตั๋วนะครับ แมนยูความจุสนามมากกว่าริเวอร์เยอะครับ จากคุณ : Alenj เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 07:33:17

ความคิดเห็นที่ 8 ผู้จัดการทีมไม่น่าห่วงนะครับ เพราะคนต่อไปน่าจะเป็นมูนินโย่หรือระดับเดียวกัน บอกตรงๆ ฮอดสันคุมได้แค่ทีมเล็กๆ จากคุณ : Alenj เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 07:36:34

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้ก็มีปัญหาอยู่ครับ แต่ที่ไม่กระโตกกระตากก็คือ บอลมันยังไปได้ ของยังขายได้ และที่สำคัญ ป๋า ยังอยู่ ทุกคน ให้ความเคารพป๋า ไม่มีใครในบอร์ด หรือเจ้าของลงมาแตะต้องเลย ปล่อยให้ป๋าจัดการไป สิ่งที่กังวล ว่า ใครจะมาแทนป๋านั้น ผมเชื่อว่า ป๋าเองก็คงพอรู้ว่าใครสมควรรับไม้ต่อ จะบอกก็ต่อเมื่อถึงเวลา และหลังจากนั้น ถ้า ให้ผมเดา ป๋าก็จะเลื่อนไปอยู่ในตำแหน่ง กิติมศักดิ์ ของสโมสร กล่าวคือ ยังไม่ไปไหนไกล ยังอยู่ให้เห็นหน้า .. ยังให้คนย่ำเกรงบารมีอยู่ ส่วนทีมจะล้มหรือไม่ ..ผมว่า เคส ของ ลีดส์ ฯ  ปอร์ทสมัธ หรือ ลิเวอร์พลู น่าจะพอให้ พวกบริหารแมนฯยู นำเอามาศึกษาเป็นบทเรียนได้ จากคุณ : พริบพรรณดาว เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 08:27:34

ความคิดเห็นที่ 10 อ่านคห.6 น้ำตาจะไหลโดยเฉพาะ2บรรทัดสุดท้าย T_T ซึ้งจริงๆ จากคุณ : Chara_One เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 08:28:01

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นด้วยกับน้ากระบี่ฯ คือ ลิเวอร์พูลนั้นยังมาเทียบกับยูไนเต็ดไม่ได้ในเรื่องแบรนด์และมูลค่าสโมสร ป๋าและทีมงานเก่าๆ สร้างทีมให้กลายเป็นแบรนด์ดังที่มีมูลค่าสูงมากตั้งแต่ทีมเริ่มเข้าสู่ตลาดหุ้นแล้ว และด้วยแนวทางการทำทีมที่ชัดเจน ตั้งแต่เชียร์ทีมนี้มาสามสิบกว่าปี มันก็ยังไม่เปลี่ยนการเอ็นเตอร์เทนผู้ชม และด้วยการตลาดที่ดี ก็ทำให้แฟนๆ พากันเข้าอุดหนุนเต็มสนาม รวมไปถึงของที่ระลึกทั้งหลาย ถึงจะมีแฟนบางส่วนประท้วง แต่สนามก็ยังเต็ม เสื้อและของที่ระลึกก็ยังขายได้อยู่ดี เพราะไม่ว่าผลประกอบการจะเป็นยังไง ผมก็ยังไม่เคยเห็นแมนฯ ยูฯ ขายผู้เล่นเพราะได้ราคาดีซักที อย่างไอ้โด้นั้น ถ้ามันไม่อยากไป คิดหรือว่าป๋าจะขาย แล้วที่ดูขี้ตืดตอนนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดมาก เพราะเราไปเลือกซื้อเด็กมาปั้น ไม่ได้เลือกซื้อเกรดบีที่ปั้นไม่ขึ้นแล้วซักหน่อยก็ต้องให้เวลาให้โอกาสกันไป ตอนนี้ถ้าเกลเซอร์จะขาย รับรองแย่งกันซื้อแน่นอนครับ ดีลเกินพันล้านปอนด์แน่ๆ แต่เขาจะขายเหรอ ลองดูอาร์เซน่อลกับเวนเกอร์นะครับ ตอนสร้างเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมน่ะ ทีมเป็นหนี้เท่าไหร่ แล้วเวนเกอร์ตัดใจปั้นแล้วขายไปกี่คน จนทีมน่าจะปลดหนี้สร้างสนามไปหมดแล้วมั้ง โดยยอมมือเปล่าไปซักช่วง แลกกับอนาคตที่ทีมจะมีฐานการเงินที่มั่นคงมากกว่านี้ ซึ่งผมมองว่า ปืนโตนี่แหละจะน่ากลัวจริงๆ ในอนาคตเมื่อพวกเขาพร้อมจะใช้เงินแล้ว แมนฯ ยูฯ ก็เหมือนกัน ถ้าเกลเซอร์ยอมโดนด่าไปอีกหน่อย หาเงินจ่ายดอกจ่ายหนี้ไปเรื่อยๆ ถึงตอนนั้นที่ทีมหมดหนี้แล้วนี่ไม่อยากจะคิดเลยว่า พวกเขาจะทำเงินได้เท่าไหร่ เพราะผมเชื่อว่า พวกเขาคงไม่โง่ขนาดสั่งขายโอลด์แทรฟฟอร์ดเพื่อเอาเงินมาจ่ายหนี้แน่ๆ เพราะฉะนั้น อย่าไปห่วงแมนฯ ยูฯ เลยครับ  เอาเวลาไปเชียร์เบเบ้ให้องค์ลงกันเร็วๆ ดีกว่า จากคุณ : เดอะ ปูด เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 08:33:56

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าห่วงว่าจะไปเป็นแบบหงส์เลย ทีมเราในปัจจุบันเหนือกว่าหงส์ในทุกๆด้าน การในสนามและนอกสนาม เพราะงั้น เชียร์ผลงานในสนามดีกว่าครับ แชมป์มา เงินมา พาใจสุข จากคุณ : Pamylee เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:02:33

ความคิดเห็นที่ 13 เห็นสภาพหงส์แล้ว ไม่อยากให้ทีมรักเป็นแบบนั้นเลย บอกตรงๆเพราะทุกอย่างมันเป็นอนิจจัง อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้จะตกต่ำแต่ใจก็จะไม่เปลี่ยนจากเธอแน่นอน MAN U แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 09:12:53 จากคุณ : ปีศาจ ไม่มีเกิบ เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:11:33

ความคิดเห็นที่ 14 ตอนนี้ฮิค ส่งสารไปกระตุ้นเกลเซอร์แล้วนะฮะ จากคุณ : Robbie_God เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 09:34:59

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าถ้าเซอร์รีไทน์นั่นแหละ...งานเข้าแน่ๆ จากคุณ : นาย 17 อดีตเด็กหลังห้อง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:03:59

ความคิดเห็นที่ 16 พูดถึงเรื่องล้มบนฝูกเนี่ย จริงๆมันมีตัวอย่างให้เห็นมาเยอะมากมายในหลายๆลีค อย่าง ดอร์ทมุนด์ที่ยุค อโมโรโซ่ โรซิซกี้  เดเด้ ที่ทุ่มทุนสร้างทีมอย่างอลังการ สุดท้าย ก็ล้มพับไป สลบสไหลจนป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย ทั้งๆที่แฟนบอลก็ล้นสนาม ในกัลโช่ พอมาถึงยุครุ่งเรืองของกรุงโรม นำโดยลาซิโอก็ทุ่มทุนสร้างอย่างอลังกาล ตามมาด้วย คู่อริร่วมเมืองที่เอาอย่างบ้างสุดท้าย บ่อท่าทั้งคู่แม้ว่าโรม่ายังมีผลงานในระยะหลังดีก็ตาม แต่ในแง่การพัฒนาต่อหรือกำลังใจในสนามต้องพับไปเพราะปัญหาการเงิน ปาร์ม่าก็เป็นอีกทีม แม้จะมีเรื่องผู้บริหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็เถอะ ในสเปนเองตอนนี้บาร์ซ่าก็เป็นหนี้เป็นสิน จนทำให้บอร์ดต้องรัดเข็มขัดเหมือนกัน ตอนนี้ถ้าดูดีๆ ขนาดทีมของบาร์ซ่าเล็กลงมาจนไม่พอหมุนเวียน ในอังกฤษ ลีดส์ เองก็ก้าวกระโดด ติดใจในกลิ่นชัยชนะ ทุ่มทุนกว้านซื้อเปะปะ ทีมที่กล่าวมาข้างบนทั้งหมดนี้ บางทีมยังตั้งไข่ไม่ได้เลย แต่จะโตเกินตัว ลิเวอร์พูลเองที่ล้มจนทุกวันนี้ส่วนนึงจะไปโทษ ดูโอ้ก็ไม่ถูก ดูการใช้เงินราฟาที่ผ่านๆ เละเทะเหมือนกัน แต่ชอบมากัดป๋าตลอด โดนส่วนตัวผมว่า ทีมที่ถ้าล้มแล้วคลืนเลย น่าจะเป็นเชลซีมากกว่า ผมเชื่ออย่างนึงว่าเสี่ยหมีไม่อยู่ค้ำฟ้าแน่นอน แล้วบางที UCLสัก2สมัยคงเป็นคำตอบให้เสี่ยหมีวางมือ  แต่ผมว่าถ้าเชลซีได้แบบนั้นจริงก็น่าจะต่อิรากฐานไปได้ แต่สิ่งนึงที่เชื่อได้แน่ๆ เลยว่า เชลซีต้องรัดเข็มขัดจนเอวกิ่วแน่นอน เพราะกว่าทำให้งบดุล งบกำไรขาดทุนออกมาเป็นตัวเลขที่เหมาะสมในทางบริหาร คงนานโข แมนซิตี้เองก็เถอะ ถึงชีคจะรวย แต่ผมมองว่าเขาเข้ามาเล่นเพื่อโปรโมทตัวเองมากกว่า ที่จะหวังทำให้ซิตี้หยั่งยืน  ผมเห็นค่าเหนื่อยแล้วก็เหนื่อยแทน ตอนนี้ทีมฟุตบอลในอังกฤษเป็นเหมือน รถแข่งที่เศรษฐีซื้อมาแข่งขันกัน กับพวกนักเก็งกำไรเข้ามากอบโกย สังเกตไหมล่ะครับว่า ทำไมคนนู้น คนนี้เป็นข่าวจะซื้อแต่พอเอาเข้าจริงไม่ซื้อ เพราะว่ามันลงทุนเยอะ และลงทุนไม่สิ้นสุด จากคุณ : กระบี่เก้าสําเนียง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 10:13:15

ความคิดเห็นที่ 17 ผมว่า ที่แมนยูต่างจาก ลิเวอร์พูล และทำให้ แมนยูไม่ล้มง่าย ๆ ถ้าผลงานเกิดไม่ดี คือ แมนยูมีการลงทุนที่ต่างประเทศเยอะ เช่น เปิดผับ บาร์ ร้านขายสินค้า แมนยู โดยเฉพาะ ไหนจะโรงเรียนฝึกสอนฟุตบอล อีก   ซึ่งหาเงินให้แมนยูได้มากโขอยู่ ซึ่งตรงนี้แหละครับที่ผมคิดว่าต่างกันกับทีมที่ ล้มละลายหลายทีม ลิเวอร์พูลเองถึงจะมีแฟนบอลเยอะ แต่ว่ากลับไม่ยอมลงทุน เปิดตลาดที่ต่างประเทศมากสักเท่าไหร่ พอผลงานไม่ดี เลยกลายเป็นว่าเงินทาง อื่นก็ไม่ค่อยจะมีเข้า ก็กลายมาล้มละลายอย่างที่เห็น ต่างกับ แมนยู เชลซี อาเซน่อล ที่ตีตลาดต่างประเทศ ทำให้เงินทองไหลมาเทมา ถึงจะไม่ต้องผลงานดีแต่ก็กำไร อย่างอาเซน่อล จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 11:10:40

ความคิดเห็นที่ 18 พูดถึงคนที่จะมารับช่วงต่อจากป๋า  จากที่ผมเห็นข่าวเฮียมูตั้งแต่แกไปจากเชลซี ข่าวที่ออกมาตอนอยู่อินเตอร์หรือมาดริดตอนนี้ แม้แต่ข่าวล่าสุดที่เฮียมูออกมาพูดว่าป๋าคือเพื่อนที่ดีที่สุด ผมก็รู้สึกว่าสักวันเขาต้องกลับมาอังกฤษ และทีมที่จะมาคุมก็ยูไนเต็ดนี่แหละ (มั่นใจเกิน 60% ) จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 11:57:26

ความคิดเห็นที่ 19 แจ๋วไปเลย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 12:04:12

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่น่าจะเป็นนะ แต่อย่างไรก็ตามผมว่าอย่ามามีชะตากรรมแบบพวกผมเลยครับ ไม่สนุกเลย จากคุณ : ข้าวเหนียว ทองม้วน ผักกาด เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 12:14:37

ความคิดเห็นที่ 21 ผมว่าโอกาสเป็นแบบลิเวอร์พูล มีเหมือนกันนะครับ ไม่ถึงกับวางใจได้เลยว่าไม่มีทาง จริงที่ว่าแบรนด์ยูไนเต็ดแข็งกว่าเยอะมาก  ทำอะไรก็ขายได้ มูลค่าสโมสรก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่พอมาดูหนี้กลับพุ่งขึ้นเหมือนกัน  ผมว่าปัญหามันอยู่ที่ปลิงอ่ะครับ  โอเคว่า ณ.ตอนนี้ที่ยูไนเต็ดมีหนี้เพิ่มขึ้นเพราะเอาไปลงทุนเพิ่ม   แต่ถ้าวันนึงทีมเกิดฟอร์มตกยาวๆ เกิดปัญหาแน่นอน ไหนจะเรื่องไม่ซื้อสตาร์อีก  ต่อให้หน้าใหม่ฝีเท้าเท่าสตาร์ ยังไงสตาร์ก็ดึงดูดผู้ชมมากกว่า แล้วนอกจากนักเตะเก่าๆของเรา   พวกอายุ20กว่าๆไม่ถึง30 มีพวกที่"ใครๆก็ชอบ"ยังน้อย ส่วนใหญ่จะรักในหมู่แฟนยูไนเต็ดเอง ไม่เหมือนยุคแชมป์ถี่ๆ ที่ยูไนเต็ดอยู่ได้เพราะแฟนเชื่อป๋า  นักเตะหลายๆคนที่ดูยังไงก็ไม่มีแวว แต่ป๋าก็เข็นขึ้นมาได้   แล้วถ้าป๋าวางมือให้คนอื่น แล้วเค้าทำตามบ้างเพราะซื้อใครไม่ได้(ยี่ห้อผี ซื้อใครได้แพงเสมอ) แฟนจะยอมเชื่อใจให้เค้าเข็นนักเตะโนเนมเหรอ? ไม่ต้องมองที่ไหนไกล  สมมุติคนที่ซื้อ เบเบ้ ไม่ใช่ป๋า แต่เป็นรอยหรือราฟา  คงโดนพาดหัวข่าวหนักกว่าลมแทบจับ แต่เรื่องฟอร์มคงพึ่งได้ว่าอาการฟอร์มตกรูดยาวๆจนกระทั่งไม่ได้ไปแม้แต่บอลถ้วยคงเกิดขึ้นยาก  นักเตะชุดใหม่เราก็ดูมีแวว ก็เหลือประเด็นเดียวคือปลิง  สูบให้มันน้อยหน่อย หัดส่งเงินต้นบ้าง แต่ใครจะไปสั่งเค้าได้ล่ะ? ถ้าหนี้ลดลงมากกว่านี้ วงเงินชำระหนี้ดูดีกว่านี้ หรือมีแหล่งเงินออกมารับปากว่ายินดีให้กู้เต็มที่แบบทีมสเปนเค้าผมถึงจะวางใจอ่ะ จากคุณ : แมวเหมียวร่าเริง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 13:18:48

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่น่าจะมีโอกาสเหมือน Liverpool หรอกครับ ของ Liverpool เจ้าของสโมสร "กู้เค้ามา" หาดอกมาใช้หนี้ไม่ได้ก็ต้องขายทิ้ง ส่วนแมนยู ไม่ได้กู้เค้ามา แมนยูเป็นสมบัติเค้าอยู่แล้ว ถึงสโมสรจะกำไรมหาศาล แต่ถ้าเค้าจะอ้างขาดทุน ไม่มีงบ ไม่มีอะไรหลายแหล่ มันก็ไปบังคับให้เค้าขายไม่ได้ "มั้ง" ก็ต้องลองคิดสภาพ H&G ทำอะไรได้ตามใจฉันอ่ะ ประท้วงก็ประท้วงไป ฉันเฉย ไม่ซื้อตั๋วปีรึ กิจการฉันมากมาย ไม่ยี่ระ แล้วจะทำไง ฟ้องร้อง ? ฟ้องยังไงเค้าเป็นเจ้าของเต็มตัว ไม่ได้กู้ใครมา เหมือนอย่างที่ #12 ว่าแหละครับ แมนยู เหนือกว่า Liverpool ทุกอย่าง รวมทั้งหนี้ด้วย ปัญหามันก็ต่างกันไป แฟนบอลแมนยูต้องทนดูเอาสนุกอย่างเดียว คิดมากแทนเค้าปวดหัวตาย จากคุณ : Nosten เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 13:37:01

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่าเรื่องแบรนด์แข็งแรงกว่า "เยอะมาก" มันเอาตรงไหนมาวัดอ่ะ จะบอกแฟนบอลเยอะกว่า......วัดจากอะไร อ่ะ ไม่รู้ Liverpool นับผมเข้าไปด้วยรึเปล่า จะบอกว่าทำอะไรมาก็ขายได้ มันก็เหมือนกันแหละครับ จะ Liverpool เชลซี อาร์เซนอล ก็ขายได้หมด แค่อย่าไปขายทีมตรงข้ามละกัน ผมว่าแข็งแรงกว่าหรือไม่กว่า สำหรับทีมชั้นนำ (หรือ ตอนนี้เป็น "ทีมชั้นตาม" อยู่ T T ) มันไม่ต่างกันหรอก อยู่ที่คนพูดแหละว่าชอบทีมไหน ถ้าความแข็งแรงของแบรด์จะเอามูลค่าสโมสรมาวัด ก็อีกเรื่อง จากคุณ : Nosten เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 13:45:56

ความคิดเห็นที่ 24 ผมยังเคยคิดเลย ว่า นี่เป้นสาเหตุที่ป๋ายังไม่ยอมวางมือ - -* จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 14:20:00

ความคิดเห็นที่ 25 ถ้าเกิดเรื่องแบบหงส์จริงๆ ผมเลยอยากถามต่อว่า แล้วจะมีคนซื้อแมนฯยูไนเต็ดไหมครับ?? กลุ่ม Red Knight เป็นไงบ้าง ผมว่าตอนยื่นซื้อ 1500 ล้านปอนด์ เกลเซอร์ก็คุ้มแล้วนะ ซื้อแมนฯยูไนเต็ด 600 กว่าล้าน เป็นหนี้อีก ถึงพันล้านยังไม่รู้ตอนนี้ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 16:23:08

ความคิดเห็นที่ 26 ในปี 2005 ตระกูลเกลเซอร์ซื้อสโมสรแมนยูในราคาประมาณ 800 ล้านปอนด์ ปัจจุบันมีหนี้อยู่ 520 ล้านปอนด์ ซึ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละ 45 ล้านปอนด์ ตอนนี้มีคนมาขอซื้อในราคา 1000 ล้านปอนด์แล้ว แต่ตระกูลเกลเซอร์ไม่ขาย ได้ข่าวว่าจะขายก็ต่อเมื่อได้ราคา 2000 ล้านปอนด์ ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ตระกูลเกลเซอร์คิดว่าการลงทุนในสโมสรแมนยูได้กำไรแน่ๆ อยู่ที่ว่าอยากได้กำไรมากแค่ไหนเท่านั้น สถานการณ์ของแมนยูแตกต่างจากลิเวอร์พูลเยอะ รายได้ของแมนยูมากกว่าเยอะ แต่ถ้าเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กุสันวางมือเมื่อไหร่ ปัญหาเกิดทันที ถ้าแมนยูฉลาดกล้าทุ่มเงินจ้างกุนซือเก่งๆอย่างมูรินโย่ก็แล้วไป ถ้าถ้างกเงินไม่ยอมจ้างใครแพงๆ จ้างคนฝีมือไม่ถึงมาคุมทีมแล้วผลงานไม่ดี ตอนนั้นอาจคล้ายกับลิเวอร์พูลตอนนี้ก็ได้ แต่ก็ไม่เหมือนหรอก เพราะเจ้าของแมนยูฉลาดกว่าเจ้าของลิเวอร์พูล (คงเพราะมีเชื้อสายยิวด้วย) คงยอมลงทุนจ้างมูรินโย่แหละ จากคุณ : นายชัย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 16:33:58

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าผลงานตกมาอยู่ซักกลางตาราง ก็มีิสิทธิ์เป็นไปได้ครับ จากคุณ : RadiS เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 16:59:26

ความคิดเห็นที่ 28 อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้า นักเตะตัวหลักนัดกันเจ็บยาว+ฟอร์มตกระนาว+นักเตะตัวใหม่ซื้อมาแพงแต่เล่นไม่เข้ากับทีม+เยาวชนชั้นไม่ถึงแทรกสอดขึ้นทีมใหญ่ไม่ได้+ความผิดพลาดของผู้จัดการทีม+ความผิดพลาดของฝ่ายบริหาร+ดวงซวยจะชนะดันเสมอ จะเสมอดันแพ้ จากคุณ : Symposium เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:37:15