Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TIA Column : 70 นาทีอันนาชื่นชมของพลพรรคหงส์แดง ติดต่อทีมงาน

แหมมมม นึกว่าจะไม่ได้มีโอกาสพร่ำพรรณนาอย่างมีความสุขกับเขาบ้างเสียแล้ว แต่ก็ดีใจเป็นที่สุดที่ได้รู้สึกแบบนี้เสียที ใครจะค่อนขอด จะหมั่นไส้ จะแขวะ จะขำ จะอะไรก็ตาม เชิญตามสบายค่ะ ไม่สน เพราะ ณ เวลานี้ มันแสนจะมีความสุข อิอิ

นึกว่านัดนี้จะกลายเป็นนัดชะตาขาดของรอย ฮอดจ์สัน เสียแล้ว เพราะเอาจริงๆนะ เชื่อหมดใจเลยว่า ถ้ารูปเกมส์ยังไร้ชาติตระกูล และผลการแข่งขันไม่เป็นที่พึงปรารถนาแล้วล่ะก็ คงต้องเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าออกจากแอนฟิลด์เป็นแน่แท้ แต่ผู้เฒ่าวัย 62 ปี ยังโชคดี ที่นักเตะในทีมเริ่มคลิ๊กกันลงตัว และแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทกันทุกคน เขาจึงยังสามารถรักษาเก้าอี้ผู้จัดการทีมไว้ได้ ซึ่งเราขอเดานะ...เชื่อจริงๆว่า เพื่อนๆแฟนหงส์หลายคนก็ยังรู้สึกอยากเปลี่ยน ผจก. อยู่ดี แม้เราจะชนะนัดนี้และนัดหน้า หรือเล่นดีมีชาติตระกูลขึ้นมา แต่อยากจะบอกว่า ด้วยวัฒนธรรมแบบลิเวอร์พูล เราคิดว่า คงยากแล้วล่ะ

ไม่ว่าส่วนตัวเราจะรู้สึกยังไงกับผู้จัดการทีมของเรา ณ เวลานี้ เราก็พร้อมจะสนับสนุนทีมต่อไป เพราะคงมีหลายคนที่คิดยอมช้ำใจอีกหน่อย ยอมให้ทีมแพ้เพื่อไล่ผู้จัดการทีมออก แต่...เราเป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนั้นไม่ได้ มันรู้สึกแบบนั้นไม่ได้จริงๆ ต่อให้อยู่ในภาวะที่แย่ยิ่งกว่านี้ ก็ไม่เคยมีความคิดจะยอมให้ทีมแพ้ได้เลยซักนาทีเดียว ...ก็ต่างคนต่างใจ แต่เพราะเรายังหวังอยู่ว่าทีมจะดีขึ้น ไม่ว่าใครจะเป็นผู้จัดการทีมก็ตาม

กลับมาพูดถึงฟอร์มของทีมกันบ้างดีกว่า ตั้งแต่นัดที่ 2 จนถึงนัดที่ 8 ลิเวอร์พูลจะเล่นดีต่อเมื่อถูกยิงประตูแล้ว นัดแรกกับอาร์เซน่อล เรารู้สึกได้ว่าทีมเล่นดีแล้ว ที่สำคัญคือทุ่มเทอย่างน่าชมเชย แต่หลังจากนั้น เหมือนเครื่องดับ สตาร์ทไม่ติด เล่นกันเนือยๆ เอื่อยๆ ทุกนัด จนถึงนัดนี้ นัดที่ 9 กับทีมอย่างแบล็คเบิร์น โรเวอร์ เกิดสตาร์ทเครื่องตั้งแต่ต้นเกมส์ขึ้นมา โอ้...พระเจ้า ช่างดีเสียนี่กระไร นึกว่าจะไม่ได้เห็นความทุ่มเทแบบนี้เสียแล้ว แต่ก็ได้เห็นจนได้ แม้ตอร์เรสจะยืนโดดเดี่ยวในแดนหน้า แต่แผงกองกลางทั้ง 5 คนต่างก็สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเติมขึ้นไปช่วยอยู่เนืองๆ (แอบใช้สำนวนโบราณได้อีก สงสัยอ่านนิยายโบราณมากไปหน่อย 55+) ที่ดูเหมือนโดดเดี่ยว ก็เลยไม่เปลี่ยวใจเท่าไหร่ ซ้ำทุกคนยังดูฮึกเหิมยังกับทหารจะไปรบยังไงยังงั้นเลยทีเดียว แม้กระทั่งตอร์เรส ที่เคยแสดงภาษากายออกมาแบบไม่สวยนักในนัดก่อนๆ ก็ดูจะเล่นอย่างมีความสุขมากขึ้น และถ้าเขาผ่อนคลายกับเรื่องในใจได้แล้วล่ะก็ ความมั่นใจเขาจะกลับมา และมันใช้เวลาไม่นานเลยสำหรับเขาที่จะกลับมาพังประตูอีกครั้ง

ในส่วนของฟอร์มการเล่นก็ชวนให้ชื่นอกชื่นใจ ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาในฤดูกาลนี้ มันก็ดีขึ้นอย่างที่เราทุกคนควรพอใจแล้ว แต่อย่าเพิ่งไปคิดถึงว่าจะดีเทียบเท่ากับฤดูกาลก่อนที่ต้องยอมรับว่า 70 นาทีที่แสนวิเศษนั้นยังเทียบไม่ได้กับฤดูกาล 2008-2009 แม้แต่น้อย เพราะเราต้องยอมรับว่า ขุมกำลังที่เปลี่ยนไป มันทำให้ความสมดุลในทีมขาดหาย และเรายังอุดรอยรั่ว หรือแก้ไขในส่วนที่บกพร่องได้ไม่เต็มที่นัก แต่อย่างน้อย นัดนี้ ลูคัสคุมเกมส์แดนกลางกับไมเรยเรสและเจอร์ราร์ดได้ดี อาจเป็นนัดที่เขาเล่นได้ดีมากนัดหนึ่ง และหากย้อนคิดถึงทั้งหมดที่ผ่านมาของลูคัสกับลิเวอร์พูลแล้วล่ะก็ บอกได้เลยว่า เขาพัฒนาขึ้นจริงๆ และริมเส้นของเราก็มีบทบาท โดยเฉพาะมักซี่ เขาค่อนข้างขยันไล่บอลไม่แพ้เดิร์ก เค้าท์เลยทีเดียว ส่วนโคล อาจเงียบๆไปหน่อย แต่อย่างน้อย เขาก็เป็นคนเปิดบอลให้ตอร์เรสพังประตูชัย

แดนกลางคุมเกมส์ได้ กราบซ้ายขวาเติมได้ ครอสได้ ที่เหลือก็แค่จังหวะเข้าทำกับประตูเท่านั้น แต่กว่าจะได้ แหมมม มันยากเย็นเสียจริง จนกลัวว่านักเตะลิเวอร์พูลจะท้อเสียแล้ว เพราะจากการโหมบุกในครึ่งแรก ถ้ามีโชดหน่อย เราน่าจะได้ประตูแล้ว ทั้งจากลูกโหม่งของคีเกียร์กรอส และลูกยิงของเจอร์ราร์ด น่าเสียดายที่มันยังไม่ผ่านมือโรบินสัน

แต่เราก็ได้ประตูในที่สุด จากลูกเตะมุมซะด้วย อดคิดไม่ได้ว่าตั้งแต่ฮูเปียไป เราเคยได้ประตูจากลูกเตะมุมอีกมั้ย ...ดีใจจริงๆค่ะ ที่ทำได้ คีร์เกียร์กรอสวิ่งหาที่ว่างได้ดี ไม่มีใครประกบเขาเลยตอนขึ้นโหม่ง ทำให้เราได้ประตูขึ้นนำเร็วตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ถึงอย่างนั้น กลับดีใจได้ไม่นาน แบล็คเบิร์นบุกขึ้นมาทางซ้ายและกำลังจะได้ประตู แต่คอนเชสกี้ตามไปตวัดออกมาทัน แต่แทนที่จะรอด บอลกลับกระดอนไปชนคาราเกอร์เด้งกลับเข้าประตูไปอีก ...พระเจ้า ไม่เรียกว่าซวยจะเรียกว่าอะไรได้อีก ทำไมคาราเกอร์ต้องไปยืนตรงนั้นด้วย มันเป็นความผิดใครกันที่ทำให้เราต้องเสียประตูนี้...

นาทีนั้น ยอมรับเลยว่ากลัวจริงๆ กลัวว่า นักเตะลิเวอร์พูลจะหมดอาลัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันเป็นการเสียประตูที่ทุเรศสิ้นดี (ขอโทษที่หยาบไปหน่อย แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ) กว่าจะได้ประตูแรกมา ยากเย็นแสนเข็ญ แต่กลับเสียประตูง่ายๆ แถมงี่เง่าสิ้นดี เป็นใครก็อดเซ็งไม่ได้ทั้งนั้นแหละ

ดีที่ครั้งนี้นักเตะลิเวอร์พูลไม่มัวแต่นึกเสียดายในสิ่งที่พลาดไป กลับมาโหมกระหน่ำเอาคืนจากแบล็คเบิร์นจนได้ประตูจากตอร์เรส มันเริ่มจากลูกเตะมุมอีกครั้ง ลูกเตะมุมของเจอร์ราร์ดถูกสกัดออกมา และเขาตามไปเก็บตก จ่ายบอลให้โจ โคล แล้วโคลก็จัดการเปิดด้วยเท้าซ้ายข้ามไปถึงตอร์เรสที่อยู่ที่เสาไกล จัดการวอลเลย์เข้าประตูไป

กรี๊ดแทบบ้านแตกแน่ะค่ะ ดีใจที่ได้ประตูคืน ดีใจที่ตอร์เรสยิงได้ ที่สำคัญได้เห็นรอยยิ้มของเขาอีกครั้ง

ยอมรับว่าการที่ลิเวอร์พูลได้ประตูทั้งสองจากลูกโด่ง อาจมีส่วนมาจากหลังแบล็คเบิร์นที่ไม่แข่งแกร่งในจุดนี้เท่าที่ควรในนัดนี้ เพราะเนลเซ่นไม่ได้ลง ก็ไม่รู้ว่าถ้าเนลเซ่นลงเล่นได้ เราจะได้ประตูแบบนี้มั้ย แต่ถึงอย่างไร เราก็ชนะแล้ว แถมทำเกมส์ดีเสียด้วย การจ่ายบอล วิ่งหาช่องว่าง ครอสบอล ดีขึ้นกว่านัดก่อนๆผิดหูผิดตา ความทุ่มเทก็มากขึ้น ไล่เพรสซิ่งไม่หยุดอย่างที่เคยเป็นมา แถมเล่นเกมส์เร็วขึ้นอีกต่างหาก ไม่มีอะไรจะน่ายินดีไปกว่านี้แล้ว

70 นาทีที่น่ายินดี... ถึงจะแค่ 70 นาที ก็ยังดีกว่าแค่ 10 หรือ 20 นาที อย่างที่เคยผ่านมา และเราจะต้องขยับมันขึ้นไปเป็น 80 และ 90 นาทีให้ได้ รวมถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บด้วย

กับนัดนี้ ถ้าจะหาข้อติ ก็อาจจะเป็น 20 นาทีสุดท้ายที่ดูนักเตะลิเวอร์พูลออกลูกลนลานไปหน่อย เหมือนกลัวเสียประตู แล้วก็เสียสมาธิ คุมเกมส์ไม่อยู่ จ่ายบอลไม่ได้เรื่อง ซึ่งหวังว่าพวกเขาจะแก้ไขมันให้ได้ นัดหน้าต้องไปเยือนก็จริง แต่ลิเวอร์พูลต้องชนะเท่านั้น หากอยากจะกลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นไปแชมเปี้ยนลีกส์ในปีหน้า ต้องชนะให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าในบ้านหรือนอกบ้าน

"หัวใจ" กลับมาแล้วในนัดนี้ รักษามันไว้ให้อยู่กับทีมต่อไป ทีมเราไม่ได้เป็นรองใครเพราะฝีเท้านักเตะ แต่เราเป็นรองที่แผนการเล่นและหัวใจ แต่ ณ วันนี้ ถ้าสามารถแก้ปัญหาแผนการเล่นได้แล้ว ทุกคนเล่นด้วยกันได้ เข้าใจในหน้าที่ของตัวเอง ก็มาถึง "หัวใจ" ที่ต้องปลุกมันขึ้นมาให้กระหายในชัยชนะของทีม ชัยชนะของเราทุกคนที่รักลิเวอร์พูล

อยากบอกนักเตะลิเวอร์พูลที่สุดว่า อย่าฮึกเหิมและมีสมาธิกับเกมส์แค่ 70 นาที คุณต้องมุ่งมั่นและไม่หวาดหวั่นไปตลอดให้ครบ 90 นาที หากนาทีไหนที่คุณเกิดวิตก กังวล และเสียสมาธิ นึกถึงค่ำคืนที่อิสตันบูลสิ และท่องไว้ว่า

"เราไม่กลัวและเราจะต้องทำได้ เพราะพวกเราคือ ลิเวอร์พูล"

แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 19:01:12

แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 53 18:58:20

 
 

จากคุณ : howk_ky
เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 53 18:48:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com