Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ข้อคิดที่ได้จากการดูอเมริกันฟุตบอล กับมะเร็งของผม ติดต่อทีมงาน

สวัสดีครับทุกท่าน ผมขออนุึญาตนำข้อความที่ผมพิมพ์ในกระทู้ผลการทาย PAF ของพวกเรา มาตั้งเป็นกระทู้ใหม่ ให้ทุกท่านได้อ่าน เผื่อว่าจะเป็นข้อคิดให้กับใครก็ตามที่กำลังท้อแท้ใจกับอะไรบางอย่างอยู่ในตอนนี้

หลังจากที่ผมได้รับข่าวร้าย ว่าผมเป็นมะเร็งในปอดระยะ 3B (1-->2-->3A-->3B-->4)ตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม ตอนนี้ก็ 5 เดือนแล้วที่ผมทำการรักษามา แต่ผลปรากฎว่ามะเร็งในปอดที่ผมเป็นอยู่นั้น มันไม่หายครับ แม้จะให้ยาเคมีบำบัดหรือที่เรียกว่าคีโมไปครบ 6 ครั้งแล้ว ก็ยังมีก้อนมะเร็งที่มองเห็นได้หลงเหลืออยู่ ก่อนหน้านี้ผมเข้าใจผิด คิดไปเองว่าคุณหมอบอกว่ามันเหลืออยู่น้อยมากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว และก็เตรียมจะกลับไปทำงานในวันจันทร์ที่ 25 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่จากการตรวจเมื่อวันที่ 21 ต.ค. คุณหมออ่านฟิล์มเอ็กซเรย์แล้วบอกผมว่า มันยังเหลืออยู่ ขนาดประมาณ 12 mm และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ยาคีโมหนล่าสุด ไม่ค่อยได้ผล ก้อนมะเร็งแทบจะไม่ยุบลงเลย เหมือนกับถึงจุดอิ่มตัวของมันแล้ว คุณหมอแนะนำว่าจริงๆก็สามารถทำงานเบาๆ ออกกำลังกายเบาๆได้ แต่ถ้าจะให้ดีก็ควรหยุดพักเรื่องงานไปก่อนอีกสัก 1 เดือน หลังจากนั้นก็ค่อยมาเช็คดูกันอีกทีว่าก้อนมะเร็งมันมีการเปลี่ยนแปลงไปทางใด ถ้ามีแนวโน้มว่ามันไม่โตขึ้นหรือยุบลงไปอีก ก็โอเคกลับไปทำงานได้ แต่ถ้าเกิดว่ามันโตขึ้นมา ก็ต้องนับหนึ่งใหม่ เปลี่ยนยาคีโมเป็นสูตรอื่น

เมื่อผมทราบ ก็รู้สึกช็อคและท้อแท้ใจมาก บอกตรงๆเลยว่าความรู้สึกมันแย่ยิ่งกว่าตอนที่หมอบอกครั้งแรกเมื่อห้าเดือนก่อนว่าเป็นมะเร็งเสียอีก มันเหมือนกับว่า ผมตั้งความหวังกับการรักษาไว้มากเกินไป คิดว่ายังไงก็ต้องหาย เพราะผมดูแลตัวเองดี กำลังใจดี แถมการทำคีโมครั้งที่ 1 ถึง 5 ก็ได้ผลดีมาตลอด ทีนี้พอมันไม่หาย ก็เลยรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรง แม้ว่ามันจะเหลือก้อนเล็กกว่าเหรียญห้าบาทแล้ว แต่มันก็ยังไม่ได้ดังหวัง ยังเรียกได้ไม่เต็มปากว่ารอดชีิวิตแน่ เปรียบได้เหมือนกับการที่เดินๆอยู่แล้วพลัดตกลงมาที่ก้นเหว ก็รู้สึกแย่ แต่กำลังใจยังดี คิดว่าต้องมีคนมาช่วยแน่ พอมีคนโยนเชือกลงมาให้ ก็พยายามปีนขึ้นไป ด้วยความมั่นใจว่าร่างกายแข็งแรงปีนไหวแน่นอน พอใกล้จะถึงปากเหว แม้จะล้าเต็มทนก็ยังกัดฟันปีนต่อ ปรากฎว่าอยู่ๆเชือกดันขาด ไถลตกลงมาอีก แม้จะไม่ได้ลงไปถึงก้น แต่ก็ตกลงมาไกลพอดู ต้องเหนื่อยปีนขึ้นไปอีกรอบ และคราวนี้ก็ไม่รู้แล้วว่าเชือกมันจะดีเหมือนเดิมมั้ย

ผมไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่า คนที่มีกำลังใจดีมาตลอดอย่างผม จะมีวันแบบนี้ได้ วันที่กำลังใจมันถดถอยจนไม่อยากจะทำอะไร ไม่อยากกิน ไม่อยากนอน ไม่อยากคุยกับใคร อยากแต่จะเร่งวันเร่งคืน ไปให้ถึงเดือนหน้าไวๆ ให้มันรู้กันไปเลยว่าตกลงมะเร็งมันจะเอายังไงกับชีวิตผม จะให้ผมต้องทรมานกับการพยายามกำจัดมันอีกสักกี่ที ก็ให้มันรู้กันไปเลย

แต่ตอนนี้ผมก็รู้สึกโอเคขึ้นแล้วล่ะครับ ใช้เวลาทำใจอยู่สองสามวัน วันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็กลับมาร่วมดูอเมริกันฟุตบอล NFL สดๆกับเพื่อนๆสมาชิกได้เหมือนเคย

และก็เป็นซานดิเอโก ชาร์จเจอร์ ทีมรักของผมนั่นเอง ที่ทำให้ผมเข้าใจชีวิตมากขึ้น
ผมเห็นการเสียเทิร์นโอเวอร์งี่เง่าๆในครึ่งแรกถึง 4 หน แต่กระนั้นทีมก็ยังตามนิวอิงแลนด์ แพทริออทส์ อยู่แค่ 2 สกอร์ เพราะทีมรับยังสามารถต้านทานเกมบุกของทอม เบรดี้และพรรคพวกได้เป็นอย่างดี ครึ่งหลัง ฟิลิป ริเวอร์ส ควอเตอร์แบ็คผู้เป็นความหวังของทีม ก็จูนกับเพื่อนได้ติด ทำเกมบุกทำผลงานได้ดีขึ้น เริ่มทวงแต้มคืนได้ ในขณะที่ทีมรับก็ยังพยายามหยุดเบรดี้และพรรคพวกได้ค่อนข้างดี จนแต้มไล่มาเกือบจะตีเสมอได้ในช่วงท้ายควอเตอร์สี่ แต่สุดท้ายแล้วชาร์จเจอร์ก็ยังต้องแพ้ไปเพราะการเตะฟิลด์โกลพลาดในนาทีสุดท้าย

อันนี้นี่แหล่ะ ทำให้ผมคิดได้ว่า แม้ว่าเราจะมั่นใจว่าเราทำอะไรได้ดี มีประสิทธิภาพ ทุกอย่างพร้อม คิดไว้ว่าเราจะต้องประสบความสำเร็จในสิ่งนั้นแน่ๆ ก็ควรจะเผื่อใจไว้บ้าง กับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่อาจจะคาดเดาได้ รวมทั้งปัจจัยภายนอกอื่นๆที่ควบคุมไม่ได้ด้วย ไม่ว่าจะดูแววดีแค่ไหน ก็ให้ทำใจเผื่อไว้ เพื่อรองรับความผิดหวังบ้าง ถ้าเกิดว่าต้องผิดหวังขึ้นมาจริงๆ จะได้ปลงและกลับมาใช้ชีวิตแบบที่ควรจะเป็นได้อย่างรวดเร็ว

ไม่รู้ว่าจะเคยอ่านการ์ตูนเรื่องกัปตันซึบาสะกันหรือเปล่า เป็นการ์ตูนฟุตบอลที่ผมชอบมากเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาล
ในการ์ตูนเรื่องนี้ มีคำพูดที่ใช้เป็นคติสอนใจที่ดีมากก็คือ "ทำแล้วเสียใจ ดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ" ผมก็เลยเอาคตินี้มาประยุกต์ใช้กับชีวิตของผมเรื่อยมา
อย่างน้อยๆ ผมก็รู้สึกว่า โอเคนะ ในเมื่อผมก็พยายามสู้กับมะเร็งอย่างเต็มที่แล้ว สู้แล้วผิดหวัง ก็ยังดีกว่าผิดหวังที่ไม่ได้พยายามสู้ ใช่ไหมครับ

ผมคิดว่าแฟนๆของชาร์จเจอร์คงจะผิดหวังกับสถิติ ชนะ2แพ้5 เช่นเดียวกับผม แต่ว่าอย่างน้อยๆ ผมก็รู้สึกว่า ทั้งห้าครั้งที่แพ้นั้น เป็นการแพ้แบบหวุดหวิดฉิวเฉียด ไม่ได้แพ้แบบราบคาบ เกมโดยรวมก็สูสี ทีมบุกมีประสิทธิภาพดีพอที่จะมีลุ้นกลับมาชนะทุกครั้ง แม้ใครจะมองว่าบางเกมก็ดันไปแพ้ให้กับทีมที่ดูเหมือนจะเป็นรองก็ตาม อย่างน้อย ไม่ว่าเกมไหนๆ ทีมนี้ก็ได้พยายามสู้จนถึงที่สุด สู้จนกว่าจะหมดเวลา แม้จะต้องผิดหวังมาทั้งห้าครั้งก็ตาม แต่อย่างไรผมก็ยังเชื่อว่า มันต้องมีสักครั้งนึงแหล่ะน่า ที่ชาร์จเจอร์ทีมรักของผม จะคัมแบ็คกลับมาเป็นฝ่ายชนะจนได้

เช่นเดียวกับผม ที่เมื่อไม่กี่วันก่อน ดูเหมือนจะโดนมะเร็งกัดกินกำลังใจไปมากพอสมควร แต่จากนี้ไป ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ ผมก็จะพยายามสู้เพื่อเอาชนะมะเร็งต่อไป ไม่ยอมแพ้มันเด็ดขาด
ผมจะสู้เพื่อคัมแบ็คให้ได้ จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้ายของควอเตอร์สี่ในเกมแห่งชีิวิตนี้

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะครับ

 
 

จากคุณ : Hed Question
เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 04:28:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com