Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TIA Column : ชนะจากเกม pressing, Class ที่แท้จริงของลูคัสและวันทรงชัยของตอร์เรส ติดต่อทีมงาน

รอยยิ้มยังอยู่บนใบหน้า ความสุขยังล้นหัวใจอยู่เลยค่ะ กับนัดเมื่อคืนที่ลิเวอร์พูลสามารถสอยจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกส์ไปได้ 2 - 0 ก่อนอื่นต้องบอกว่า เราโชคดีที่เชลซีขาดเอสเซียงกับแลมพาร์ด และดร๊อกบาก็เป็นแค่ตัวสำรอง เพราะหากเป็นชุดเต็มสูบ ก็ไม่แน่ว่าแผงกลางเราจะสู้ได้มั้ย แต่กระนั้น เชลซีก็ยังคงเป็นทีมที่อันตรายเสมอ และเราประมาณไม่ได้เลย

ยอมรับว่าตกใจเล็กๆกับชื่อ มาร์ติน เคลลี่ ไม่คิดว่าฮอดจ์สันจะกล้า แต่เราดีใจนะ ไม่กลัวเลย ออกจะมั่นใจในตัวนักเตะดาวรุ่งคนนี้ของเราด้วยซ้ำ และที่ต้องตกใจเป็นเรื่องที่สองคือ เราเหมือนจะกลับมาเล่น 4-4-2 อีกครั้ง หรืออาจจะดูเหมือนเป็น 4-4-1-1 มากกว่าก็ได้ เพราะเดิร์ก เค้าท์ ยืนไม่สูงเท่าตอร์เรส และเป็นเสมือนคนเชื่อมเกมส์แดนกลางกับหน้ามากกว่า ซึ่งใจจริงอยากให้เค้าท์เล่นตรงนี้นานแล้ว และให้เจอร์ราร์ดลงไปยืนคุมเกมส์กลางสนาม เพราะเดิร์ก เค้าท์เป็นนักเตะที่ขยัน และครองบอลดี จ่ายบอลฉลาด อาจไม่ได้มีเทคนิคแพรวพราว แต่เขาดีพอจะเล่นตรงนั้นได้

เปิดเกมส์มา สิ่งที่รอคอยมาตั้งแต่จบฤดูกาล 2008-2009 ก็กลับมาให้เห็นแบบชัดๆอีกครั้ง ใช่แล้วค่ะ "การเพรสซิ่ง" ลิเวอร์พูลเล่นเพรสซิ่งหนักตั้งแต่นาทีแรกจนนาทีสุดท้าย ซึ่งมันเป็นแทกติกที่เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จของทีมเสมอมา

เคยอ่านคำสัมภาษณ์นักเตะเก่าๆสมัยปู่แชงค์ เขามักพูดกันว่า "เราเล่นบอลกันง่ายๆ จ่ายตามช่อง แล้ววิ่งไปยังที่ว่าง อย่างที่เรียกกันว่า Pass and Move และเมื่อเราเสียการครองบอล เราจะวิ่งบีบคู่ต่อสู้กันทั้งทีม ตั้งแต่แดนหน้าถึงหน้าปากประตูตัวเอง"

มันเป็นเบสิคที่ไม่เคยตาย และลิเวอร์พูลก็เอาชนะเชลซีด้วยเกมเพรสซิ่ง ทุกคนวิ่งบีบพื้นที่อย่างเป็นระบบ ทำให้เชลซีเล่นบอลได้ยาก เมื่อพลาดแล้วเราเก็บได้ ก็พยายามที่จะจ่ายบอลง่ายๆโดยเร็ว ให้ใครก็ได้ที่อยู่ในจุดที่ได้เปรียบที่จะทำเกมส์รุก ที่สำคัญ นักเตะลิเวอร์พูลทุกคนเคลื่อนที่ตลอดเวลา เพื่อหาที่ว่าง และไม่ได้เอาแต่ตั้งรับ รอให้เชลซีบุกอย่างเดียว โดยเฉพาะครึ่งแรก เชลซีแทบไม่ได้โอกาสส่องประตูแบบจะแจ้งเลยด้วยซ้ำ

จังหวะประตูแรกของตอร์เรส ทำเอาแทบบ้าตายอยู่หน้าคอมเลยทีเดียว เพราะไม่คิดว่าจะได้เร็วขนาดนี้ แถมพอได้แล้ว ยังแอบกลัวว่าลิเวอร์พูลจะลงไปตั้งรับลึก แต่ก็เปล่า เรายังคงเล่นในแนวทางเดิม จนได้ประตูที่สองจากการแย่งบอลกลางสนาม และตอร์เรสก็ยิงดีเหลือเกิน เป็นการคัมแบ็คที่สุดยอดจริงๆ

ครึ่งหลังเราอาจลงไปตั้งรับลึกไปหน่อย แต่ก็รอดตายมาได้ทุกครั้ง บอกตามตรง ตอนเรน่าโชว์ซูเปอร์เชฟลูกยิงจ่อๆหน้าประตูลูกนั้น เรามั่นใจ 100% เลยว่าชนะแน่ๆ ยิ่งจังหวะที่เซฟแล้วลูกกระดอนชนคานนั่นอีก ...หัวใจจะวายให้ได้ นาทีนั้นมันเหมือนเป็นสัญญาณจากฟากฟ้าแล้วอ่ะ ว่าเราชนะชัวร์ แต่กว่าที่เวลาจะผ่านพ้นไปจนได้ยินเสียงนกหวีดนี่ก็ช่างนานเหลือเกินในความรู้สึกเรา

พอกรรมการเป่านกหวีดเท่านั้นแหละ มันดีใจสุดๆ จนต้องลุกขึ้นมากระโดด อยากกรี๊ดดังๆก็ทำไม่ได้ (เด๋วโดนด่า 555+) น้ำตาซึม รู้สึกเบ่งบานสุดๆ มันยิ่งกว่าดีใจ เหมือนได้น้ำฝนเย็นฉ่ำรดหัวใจที่แห้งผากให้มีความหวัง (ฟังดูเว่อร์ม๊ะ อิอิ)

นัดนี้ ขอบอกว่าเป็นนัดที่พ่อหนุ่มน้อยลูคัสได้แสดง Class ที่แท้จริงออกมาให้ The kop ได้ปลื้มปิติกันเป็นการใหญ่ อันที่จริงลูคัสเล่นดีมาตั้งแต่นัดชนะแบล็คเบิร์นแล้ว แม้แต่นัดชนะโบลตันที่เจอร์ราร์ดฟอร์มไม่เอาอ่าว ตอร์เรสก็เล่นไม่ดีนัก รวมถึงอีกหลายๆคน แต่ลูคัสก็ยังเล่นดี ซึ่งถ้ามักซี่ไม่ได้เป็นคนทำประตูในนัดนั้น ลูคัสก็สมควรได้ MOM แต่ทุกคนก็ยังมีคำถามอยู่ดีกับฟอร์มของเขา อาจเพราะทั้งสองเกมส์เป็นเกมส์ที่ลูคัสยังไม่ต้องต่อกรกับนักเตะระดับท๊อป ใครๆเลยยังไม่เชื่อนักว่าที่แท้แล้ว "ลูคัสเป็นเทพกลับชาติมาเกิด 555"

พอนัดนี้เจอเชลซี ต้องสู้กับมาลูด้า และต่อกรกับดร๊อกบาในครึ่งหลังด้วย โหยยยย ไม่อยากจะอวดค่ะ พี่น้อง ลูคัสของเราโชว์ Class ระดับโลกเล่นเอามาลูด้าไปไม่เป็น ดร๊อกบาหัวทิ่ม สุดยอดดดดด

ทุกจังหวะการเข้าสกัด การดักบอล จ่ายบอล ลูคัสกำลังจะทำให้ The kop เลิกเสียดายทั้งอลอนโซ่และมาสเคราโน่ จริงๆ ให้ตาย...ไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้เห็นวันนี้ของลูคัส แต่ทั้งหมดทั้งมวล เขาควรได้รับการยกย่องแล้ว ไม่ใช่เพราะเขาเล่นดี เราถึงรักและชื่นชม แต่เพราะเขาเคยเล่นไม่ดี แต่สู้จนเล่นดีขึ้นอย่างวันนี้ต่างหาก ที่ทำให้เราพร้อมให้การสนับสนุนเขา

เขาอาจไม่เข้าบอลหนักอย่างมาสเคราโน่ แต่การตามติด กัดไม่ปล่อย หาจังหวะล้วงบอลจากเท้าคู่ต่อสู้ (แถมทำสำเร็จในหลายๆจังหวะซะด้วย) ก็ช่วยให้ทีมได้บอลกลับมาครองหลายครั้ง

เขาอาจไม่จ่ายบอลยาวแม่นยำอย่างอลอนโซ่ แต่การจ่ายอบลของเขา ก็มีประโยชน์มากทีเดียว จ่ายสั้นๆไปข้างหน้า(แล้วโว๊ยยยย) ให้กับคนที่อยู่ในตำแหน่งได้เปรียบ รู้จักผ่อนสั้น ผ่อนยาว ทำให้ทีมได้บุกอย่างมีประสิทธิภาพ

โอ้ว...พระเจ้า สุดยอดดดด (อวยมันมากไปเปล่านี่ 555+)

เอาเป็นว่า ในฐานะแฟนบอลลิเวอร์พูลที่ถือคติ "สนับสนุนนักเตะและผู้จัดการทีมทุกคนของทีมอย่างไม่มีเงื่อนไข" ต้องบอกเลยว่า มันปลาบปลื้มใจกับฟอร์มการเล่นของลูคัสมากจริงๆ

คนถัดมาที่ต้องอวย คือ ตอร์เรส ...จริงๆก็ไม่มีอะไรมาก ตอร์เรสก็คือตอร์เรสวันยังค่ำ เขาเป็นศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง เขาต้องประสบกับอาการบาดเจ็บมานาน ซ้ำยังถูกวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรตั้งแต่บอลโลก และยังความกดดันที่เขาต้องแบกรับจากการเป็นตัวความหวังของทีม แต่เขาก็รับมือกับมันได้ดี และเขากำลังกลับมาแล้ว

สำหรับคนอื่นๆ ต้องบอกว่า แม้แต่คาร์ร่าก็สลัดอาการเหวอออกไปได้ บัญชาเกมส์ในแผงหลังได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่มีอะไรจะติได้เลย ส่วนตัวรุกที่เหลือ เจอร์ราร์ดอาจจะเงียบไปหน่อย เพราะวันนี้มันวันของน้องลูคัส 555+ ส่วนไมเรยเรสกับมักซี่ ก็ขยันไล่บอลไม่หยุด และทำเกมกันได้ดีทีเดียว และเดิร์ก เค้าท์ กลับมาได้ถูกที่ ถูกเวลาสุดๆ ก็แค่ความขยันของมักซี่ ไมเรยเรส และเค้าท์รวมกัน กองกลางเชลซีก็แทบจะไปไม่เป็นกันแล้ว

และย่อหน้านี้ ต้องยกให้ผู้จัดการทีมของเรา "รอย ฮอดจ์สัน" ดูเหมือนแนวทางการเล่นของทีมที่ชัดเจนขึ้น และรูปเกมที่ดูดีขึ้นจะทำให้ผู้จัดการทีมของเราเลิกพฤติกรรมนั่งกุมขมับ ลูบคาง และแคะขี้มูกเสียดี ดีใจค่ะ ก่อนหน้านี้ เวลาเห็น Boss นั่งกุมขมับหมดอาลัยตายอยาก เราเป็นต้องหงุดหงิดทุกที เพราะคุณเป็นผู้จัดการทีมของเรา เป็น Boss ของเรา ทีมของเราอยู่ในมือคุณ คุณต้องทำให้เราศรัทธาในวิธีการของคุณ แนวทางของคุณ แสดงให้เห็นว่า คุณกำลังสู้เพื่อทีม ไม่ใช่หมดอาลัยกับสภาพของทีมสิ หากว่าแม้แต่ Boss ยังหมดอาลัย แล้วพวกเรา กองเชียร์จะหวังอะไรได้อีก หวังว่าภาพแบบนั้นจะตายจากเราไปแล้วนะคะ ...กับนัดนี้ เราเห็นแต่ภาพออกไปตะโกนสั่งการ กระตุ้นลูกทีม มันทำให้เรามีกำลังใจและรู้สึกได้ว่า คุณสู้เพื่อทีมไปพร้อมๆกับนักเตะในสนามและเหล่า The kop บนสแตน

ทำให้ The kop รักน่ะ ไม่ยากหรอกนะคะ Boss แค่คุณทำให้พวกเราทุกคนรับรู้ได้ว่า คุณได้พยายามทำทุกอย่างถึงที่สุดเพื่อทีมของเรา มุ่งมั่น ตั้งใจ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสมให้แก่สโมสร แล้ววันหนึ่ง The kop ในแอนฟิลด์จะร้องเรียกชื่อคุณด้วยความรักและศรัทธา เมื่อนั้น คุณจะมีเกราะป้องกันตัวเองที่เหนียวแน่นอย่างที่นึกไม่ถึงทีเดียว

สุดท้ายนี้ ขอบคุณนักเตะ ผู้จัดการทีม สต๊าฟโค้ช และ The kop ทั่วทั้งโลกที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาจนถึงวันนี้ อยากบอกว่า ในวันที่ท้อแท้ ทุกข์ใจ เรารู้สึกร่วมกัน ปลอบใจกัน ให้กำลังใจกันเสมอมา และมีความหวังด้วยกันจนได้ยิ้ม มีความสุข ชื่นอกชื่นใจกับทีมรักในวันนี้ แม้จะไม่ใช่การชูถ้วยแชมป์ เป็นเพียงแค่เกมพรีเมียร์ลีกอีก 1 นัด แต่ก็ทำให้เรามีความหวังต่อไป มีกำลังใจที่จะรักษาศรัทธาที่มีต่อทีมให้ยั่งยืนต่อไป

ก็จนกว่าจะจำไม่ได้ว่ามีสโมสรชื่อ "ลิเวอร์พูล" อยู่บนโลกใบนี้ เพราะหากยังคงจดจำคำว่า "ลิเวอร์พูล" ได้ ศรัทธาที่มีให้ทีมจะไม่มีวันจางหายไปจากหัวใจได้เลย

YNWA.

แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 53 10:50:56

 
 

จากคุณ : howk_ky
เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 53 20:36:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com