Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TIA Column : ...ให้ความหวังกันทำไม... ติดต่อทีมงาน

อยากให้เพื่อนๆลองจิตนาการถึงความรู้สึกของการแพ้ 2-1 แบบ โดนยิงนำไปก่อน แต่เราไล่ยิงคืนไม่ทัน กับ การแพ้แบบเมื่อคืนนี้ คือ ยิงเค้าก่อน แล้วมาโดนเอาคืน 2 ลูก และหนึ่งในนั้นก็เป็นการทำเข้าประตูตัวเองซะด้วย ...รู้สึกยังไงค่ะ แบบไหนที่เจ็บกว่ากัน...

จริงๆ ก็เคยมาแล้วนะ แบบนี้เลย กับสเปอร์ด้วย

ฤดูกาล 2008-2009 ลิเวอร์พูลไปเยือนสเปอร์ โดยพกสถิติ ยังไม่แพ้ใครในลีกไปด้วย และทุกสิ่งทุกอย่างมันดูดี เดิร์ก เค้าท์ ทำประตูให้เราขึ้นนำเร็วมาก และเราก็อัดสเปอร์ไม่ยั้ง แต่ไม่ได้ประตูซักที จนครึ่งหลัง คาร์ร่าสกัดบอลเข้าประตูตัวเอง แล้วเราก็ช๊อตไป สุดท้าย พาฟลูเชงโก้ยิงให้สเปอร์ชนะเราช่วงใกล้หมดเวลา

ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยชัดๆ อาจจะไม่เหมือนไปซะทุกอย่าง เช่น เมื่อคืน เราเล่นสู้นัดที่แพ้ในฤดูกาล 2008-2009 ไม่ได้เลย แต่ในแง่ของสิ่งที่เกิดขึ้น มันช่างเหมือนกันอย่างประหลาด คราวนี้ เป็นมาร์ติน สเคอเทล ที่เป็นทั้งพระเอกและผู้รับเคราะห์ในคราวเดียว เชื่อว่าใครๆก็คงหัวเสีย แน่นอน เราเองก็หัวเสีย และสเคอเทลก็ด้วย แต่มันจะเป็นบทเรียนของเขาอย่างแน่นอน

แต่ที่สำคัญคือ ความรู้สึกในหัวใจต่างหาก ที่ทำให้การพ่ายแพ้แบบนี้มันเจ็บปวด และออกจะขมขื่นเล็กๆ ...บางครั้ง เราแพ้ เพราะเล่นไม่ดี มันเป็นตรรกะที่เป็นเหตุเป็นผล และสอดคล้องกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ถ้าคุณมีตา และยอมรับความจริง มันก็ไม่เจ็บซักเท่าไหร่หรอก แต่วันไหนที่เราแพ้ แต่เล่นได้มีความหวัง (ขอใช้คำนี้เถอะ เพราะในความคิดของเรา เกมเมื่อคืนก็ไม่ใช่เกมที่เล่นดีนักหนา) ยิงประตูได้ แถมยังเกือบได้ลูกที่ 2 ในอีกหลายๆจังหวะ แต่ไม่เฉียบขาดเอง กระนั้น หากยิงเพิ่มไม่ได้ การรักษาสกอร์ 0-1 ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะทำไม่ได้ มันไม่ได้เกินความสามารถของเราเลย แต่เราก็ทำไมได้

ไม่ใช่เพียงแค่นั้น สเปอร์เกือบยิงประตูเราได้แล้วในหลายจังหวะ ที่เรน่าออกไปตัดบอลพลาด ครั้งแรกติดคาราเกอร์ที่เส้นประตู ครั้งที่ 2 เมยเรเรสโหม่งบออกมาเส้นประตู และอีกหลายลูกที่มาชุลมุนอยู่ในเขตโทษ และที่สิ่งที่ยิ่งทำให้รู้สึกอย่างเต็มหัวใจว่า เราน่าจะชนะได้ ก็คือ การที่สเปอร์ได้จุดโทษ แต่พวกเขากลับยิงพลาด

มันเพราะพวกเราย่ามใจงั้นหรือ ว่าสเปอร์ทำขนาดนี้แล้ว แต่ยังไม่ได้ประตูซักที พวกเขาคงไม่มีวาสนาจะได้แล้วกระมัง เรายอมรับว่าในฐานะกองเชียร์ มันก็อดคิดไม่ได้ แต่ในฐานะนักเตะ ไม่มีสิทธิ์เลยที่คุณจะคิดแบบนี้ ตราบใดที่ยังไม่ได้ยินเสียงนกหวีด อะไรก็เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าจำนัดชนะฟูแล่ม 1-0 ที่คราเว่น คอทเท็จ ในฤดูกาล 2008-2009 ได้ เราก็คล้ายสเปอร์นัดนี้แหละ บุกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ประตู จนทดเจ็บ เบนายูนถึงมายิงประตูชัยให้เรา ...คงอีกนาน กว่าจะได้สัมผัสคาแรกเตอร์แบบนั้นอีก ถึงจะไม่ได้แชมป์ แต่มันภูมิใจเหลือจะกล่าวจริงๆกับสิ่งที่ทีมเป็น สิ่งที่ทีมทำ

กลับมาพูดถึงรูปเกมกันบ้าง ถ้าสังเกตการขึ้นเกมของสเปอร์ ต้องบอกว่า แกเร็ธ เบล ไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่เลย ซึ่งต้องชมจีเจด้วย เขาบล๊อกเบลซะอยู่ น้อยครั้งที่จะหลุดเข้ามา แต่เป็นโมดริด ที่ลุยเข้ามาแทน และเปิดยัดเข้ามา จนสเคอเทลสกัดบอลพลาดเข้าประตูไป สาบานว่า กับนัดก่อนๆ ที่เคยโทษจีเจเสียมากมาย นัดนี้มันโทษไม่ลงจริงๆ เพราะมันรู้สึกว่าเขาก็เต็มที่แล้ว แต่อีกข้างหนึ่งนี่สิ จะมีซักลูกมั้ยที่คอนเชสกี้จะหยุดเลนน่อนได้ ไม่เว้นกระทั่งลูกเสียประตู เขาก็ต้องรับไปเต็มๆ อ่อ ไม่สิ แบ่งให้โซโต้ไปหน่อยก็ได้

กองกลางเราอาจจะเก็บบอลไม่ดีนัก วันนี้ แต่ว่าขอบอกเลยนะว่า ถ้าไม่มีลูคัสแล้วล่ะก็ ลิเวอร์พูลจะแย่ยิ่งกว่านี้มากมายนัก หลายครั้งที่เมยเรเรสหลุด หรือทำเสียบอล ลูคัสจะเป็นคนที่ตามไปแย่งคืนกลับมาทุกที ส่วนตัวเมยเรเรสเอง วันนี้เปิดบอลไม่เข้าเป้าเอาเสียเลย และเล่นช้ามาก ไม่รู้ว่าเป็นแทคติกหรือเปล่า แต่ไม่ไหวนะ แบบนี้ ไม่ชอบเลย ให้ตายสิ

สำหรับปีก 2 ข้าง ไม่พูดถึงไม่ได้ มักซี่ทิ้งโอกาสทองไปหลายครั้ง มันน่าหงุดหงิดที่เป็นแบบนี้ จังหวะหลุดไป มันต้องยิงไว้ก่อนแล้ว แต่พ่อเจ้าประคุณก็ยังล๊อกไปล๊อกมาจนไม่ได้ยิง ส่วนเค้าท์ก็เปิดบอลไม่ดีอีกแล้ว หลายจังหวะที่เขามีโอกาสเปิดบอลจากริมเส้น แต่มันไม่เข้าเป้าเท่าไหร่เลย แล้วเมื่อไหร่จะได้เห็นลูกตักบอลแบบที่โยนให้ตอร์เรสยิงประตูในนัดชนะเชลซีอีกล่ะ ถ้าเขาทำแบบนั้นได้บ่อยๆ มันจะทำให้ตอร์เรสมีทางเลือกมากขึ้น และต่อให้กลับมาเล่นหน้าตัวเดียว แต่ถ้ามีคนที่จะสามารถแอดซิสให้เขาได้จากหลายๆทาง มันก็ไม่ยากเลยสำหรับกองหน้าแบบเขาที่จะยิงประตู แม้นัดนี้จะดูฝืดๆฝืนๆชอบกลก็ตาม นึกๆไปก็เสียดายลูกจ่ายของลูคัสที่ตอร์เรสหลุดไปแล้วไม่ได้ยิงเหมือนกัน เฮ้อ...

ยอมรับค่ะว่า จบเกมแล้ว หมดจริงๆ หมดกำลังใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเหนื่อยแทนนักเตะทุกคนเลย และคงไม่โกรธใครในทีมซักคนเดียวกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ พื้นที่แชมเปี้ยนลีกส์ก็ห่างไกลออกไปทุกที มันก็อยากจะเลิกหวังนะ แต่ตราบใดที่แต้มยังไม่ขาด มันก็ยังคงหวังอยู่นั่นเอง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่ายากแสนยากก็ตาม

สุดท้าย ผลการจับฉลาก FA CUP รอบ 3 ออกมา ก็ยังกระหน่ำซ้ำเติมกันอีก เพราะเราจะต้องไปเยือนแมนยู เคยหวังว่าปีนี้ไม่ได้อะไร ไปทุ่มเอา FA CUP ก็ไม่น่าจะเกินความสามารถจนเกินไป ให้มีอะไรติดไม้ติดมือบ้าง แต่จับฉลากออกมาแบบนี้ มันเซ็งเลย

ไอ้ความกลัวน่ะ มันหมดไปแล้ว ไม่กลัวหรอก แต่กำลังใจนี่สิ มันดันเหือดหายไปด้วย แต่คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน ฉะกันไปเลย เพราะที่สุดแล้ว สิ่งหนึ่งที่มั่นใจเหลือเกินก็คือ ต่อให้ลิเวอร์พูลจะอยู่ในภาวะใด ก็ไม่เคยมีคำว่า "ยอมแพ้" อยู่ในหัวใจแน่ๆ และในเมื่อใจไม่แพ้เสียอย่าง ก็ให้รู้ไปว่าจะสู้ไม่ได้

และกับที่ผ่านมา ก็ให้รู้ไปว่ามันจะทนไม่ได้

...ถึงจะรู้สึกไม่อยากหวังแค่ไหนกับทีมรักของเรา
...ถึงจะรู้สึกกลัวกับการผิดหวังมากแค่ไหน
...ถึงจะรู้สึกเจ็บแค่ไหนกับการผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เราก็ยังคงยินดีที่จะหวังต่อไปอยู่อย่างนี้
...และต่อให้ทีมไม่ให้ความหวังอีกแล้ว เราก็คงยังแอบหวังต่อไปไม่รู้จักจบสิ้น

ไม่รู้เหมือนกันว่าดีหรือไม่ดีกันแน่ แต่ที่รู้ๆคือ การได้รักลิเวอร์พูลเป็นสิ่งพิเศษในชีวิตที่เราจะไม่ยอมให้อะไรมาทำลายเป็นอันขาด


ปล. ขออนุญาตป๋าอาร์ทเอารูปนี้มาประกอบนะคะ แขนใครก็ไม่รู้ล่ะ อิอิ

 
 

จากคุณ : howk_ky
เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 10:48:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com