กองหลังของเวนเกอร์
เพิ่งมาสังเกตว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเรื่องราวของทีมอาร์เซน่อลมาฝากกันเท่าไหร่ พอดีได้ไปเจอบทวิพากษ์ในหนังสือพิมพ์เดอะ เทเลกราฟ เกี่ยวกับการซื้อปราการหลังมาร่วมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ ก็เลยขออนุญาตนำมาถ่ายทอดต่อให้ได้อ่านกัน
ในยุคก่อนหน้าที่ "เดอะ กันเนอร์ส" จะได้เวนเกอร์มาคุมทีม จุดเด่นของพวกเขาอยู่ที่แนวรับ แต่หลังจากที่กุนซือชาวฝรั่งเศส ได้เข้ามากุมบังเหียนในถิ่นไฮบิวรี่ เมื่อปี 1996 แล้ว ดูเหมือนว่าเกมรุกที่สวยงามจะกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของทีมดังจากลอนดอนเหนือแทน
นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นโค้ชที่มีสายตาเฉียบคมในการเฟ้นหาดาวรุ่ง (โดยเฉพาะแนวรุก) มาปั้นแล้ว การซื้อนักเตะมาร่วมทีมส่วนใหญ่ของ เวนเกอร์ ก็มักจะประสบความสำเร็จและขายได้กำไรอย่างงามอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้อาร์เซน่อลจะเกาะกลุ่มหัวตารางอย่างสม่ำเสมอ แต่หลายต่อหลายครั้งที่สาวกปืนใหญ่ต้องส่ายหัวกับการเสียประตูง่ายๆ จากความผิดพลาดในแนวรับ จนส่งผลทำให้พวกเขาวืดแชมป์มาแล้วหลายรายการ
ลองมาดูกันว่าตลอดระยะเวลา 14 ปีที่คุมทีมปืนใหญ่มา ใครเป็นกองหลังที่คุ้มค่าและใครบ้างที่ถือเป็นการลงทุนที่น่าผิดหวังสำหรับกุนซือจอมปั้นอย่าง เวนเกอร์
คุ้มค่า
โซล แคมป์เบลล์ - ไม่มีค่าตัว (จากสเปอร์ส, 2001)
หนึ่งในการย้ายทีมที่สร้างความฮือฮามากที่สุดในยุคนั้น ซึ่งถึงขั้นทำให้ แคมป์เบลล์ กลายเป็นคนทรยศในสายตาแฟนบอล "ไก่เดือยทอง" แต่อดีตเซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติอังกฤษ ก็ถือเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้อาร์เซน่อลคว้าแชมป์ลีก 2 สมัย แต่การกลับมาเล่นให้ "ปืนใหญ่" รอบ 2 หลังย้ายจากน็อตต์ส เคาน์ตี้ ในลีก 2 ไม่ได้มีอะไรให้น่าจดจำเท่าที่ควร
โคโล ตูเร่ - 150,000 ปอนด์ (จากเอเอสอีซี มิโมซาส, 2002)
ย้ายมาร่วมทีมปืนใหญ่ในวัย 21 ปี ก่อนจะพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วจนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มได้คงเส้นคงวาที่สุดในชุดที่ไม่แพ้ใครตลอดฤดูกาล 2003-04 (The Invincibles Team) และต้องถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง เพราะอาร์เซน่อลขายตูเร่ ไปให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยราคา 16 ล้านปอนด์
กาแอล กลิชี่ - 250,000 ปอนด์ (จากก็องส์, 2003)
หลังจากที่แอชลี่ย์ โคล ย้ายไปเชลซี กลิชี่ ก็เข้ามาสวมบทแบ็กซ้ายในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมแทน และสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมของเวนเกอร์ได้อย่างสม่ำเสมอ และนอกเหนือจาก เชสก์ ฟาเบรกาส แล้ว กลิชี่ เป็นนักเตะอีกเพียงคนเดียวที่ยังหลงเหลือจากชุดคว้าแชมป์โดยทำสถิติไร้พ่ายในซีซั่น 2003-04
เยนส์ เลห์มันน์ - ไม่เปิดเผยค่าตัว (จากดอร์ทมุนด์, 2003)
อดีตนายทวารทีมชาติเยอรมัน ที่ถูกเลือกมาแทนตำนานอย่างเดวิด ซีแมน ถือว่าทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ เพราะแม้บางครั้งจะมีลูกเหวอๆ ให้เห็นและมักจะมีปัญหานนอกสนาม แต่ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า เลห์มันน์ เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของยุคไร้พ่ายด้วย
บาการี่ ซานญ่า - 6 ล้านปอนด์ (จากโอแซร์, 2007)
อาจจะมีค่าตัวสูงกว่าใครเพื่อน แต่เมื่อเทียบกับผลงานแล้วก็ต้องถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วงเวลาแค่ 3 ปีเศษ ซานญ่า ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ "ปืนใหญ่" มาแล้วถึง 143 นัด และการเติมเกมรุกที่โดดเด่นของเขาก็เคยทำให้มีหลายทีมในยุโรปต้องการคว้าตัวไปร่วมทีม ซึ่งรวมถึงเอซี มิลาน ที่มีข่าวอยู่พักใหญ่
น่าผิดหวัง
อิกอร์ สเตปานอฟส์ - 1 ล้านปอนด์ (จากสกอนโต้ ริก้า, 2000)
เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติลัตเวีย สอบตกอย่างไร้ข้อโต้แย้ง เพราะนอกจากความสูงของเขาแล้ว ไม่มีอะไรที่แฟนบอลอาร์เซน่อลจะคิดถึงข้อดีของเขาเลย และผลงานที่ย่ำแย่ที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นเกมที่ถูก "ปีศาจแดง" ถล่มยับ 6-1 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2001
ริชาร์ด ไรท์ - 6 ล้านปอนด์ (จากอิปสวิช ทาวน์, 2001)
ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังอย่างแท้จริง เพราะอดีตนายทวารดาวรุ่งถูกคาดหมายว่าจะมาแทนซีแมน กลับไม่เหนียวหนึบอย่างที่คิด และสุดท้ายก็อยู่ในถิ่นไฮบิวรี่ได้แค่ปีเดียว ก่อนจะถูกเลหลังต่อให้เอฟเวอร์ตันด้วยค่าตัวแค่ครึ่งหนึ่งของที่อาร์เซน่อลจ่ายให้ทีม "ม้าขาว"
ปาสกาล ซีก็อง - 2.1 ล้านปอนด์ (จากลีลล์, 2002)
อีกหนึ่งกองหลังร่างใหญ่ที่เงอะงะงุ่มง่าม และมักจะถูกคู่แข่งกระชากหนีไปได้บ่อยๆ ทั้งที่เคยได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของลีกเอิง แต่ ซีก็อง กลับต้องมาเสียราคาเมื่อมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก
มานูเอล อัลมาเนีย - ไม่เปิดเผยค่าตัว (จากเซลต้า บีโก้, 2004)
อัลมาเนีย ถือเป็นผู้รักษาประตูที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะแม้ว่าจะมีช็อตซูเปอร์เซฟให้เห็นกันหลายหน แต่บ่อยครั้งเช่นกันที่ความผิดพลาดส่วนตัวทำให้ทีมต้องเสียแต้มอย่างน่าเขกกะโหลก และดูเหมือนว่าอนาคตของเขาเริ่มไม่แน่นอนหลังจากที่ถูกแทนที่โดยลูคัส ฟาเบียนสกี้
มิกาแอล ซิลแวสต์ - ไม่เปิดเผยค่าตัว (จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 2008)
ไม่น่าแปลกใจว่าทำไม "ปีศาจแดง" ถึงยอมยอมหั่นราคาให้เหลือแค่ 750,000 ปอนด์ตามการรายงานของสื่อในเมืองผู้ดี (แต่ไม่มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการ) เพราะกองหลังทีมชาติฝรั่งเศสมักจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เสมอ และยังคงมีลูกเฟอะฟะให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง
ไม่ดีไม่เลว (จนเกินไป)
อเล็กซ์ แมนนิงเกอร์ - 500,000 ปอนด์ (จากกราซ เอเค, 1997)
ถูกดึงมาร่วมทีมในฤดูกาล 1997-98 เมื่อซีแมน มีปัญหาบาดเจ็บ และสามารถช่วยทำให้ทีมไม่เสียประตู 8 นัดติดต่อกัน ทว่า เมื่อซีแมนหายเจ็บกลับมา อดีตนายทวารทีมชาติออสเตรีย ก็ต้องตกไปเป็นมือ 2 ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายไปเล่นในอิตาลี ซึ่งโดยมากก็เป็นแค่ตัวสำรองเหมือนเดิม
วิลเลี่ยม กัลลาส - ส่วนหนึ่งในสัญญาแลกตัวกับแอชลี่ย์ โคล (บวกค่าตัว 5 ล้านปอนด์ จากเชลซี, 2006)
กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสรายนี้เคยสวมปลอกแขนกัปตันทีมอาร์เซน่อลมาแล้ว อีกทั้งยังเคยได้สวมเสื้อหมายเลข 10 ของเดนนิส เบิร์กแคมป์ด้วย แต่ กัลลาส ก็มีความผิดพลาดส่วนตัวให้เห็นบ่อยครั้งและไม่อาจจะประสานงานกับโคโล ตูเร่ ได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น
ฟิลิปป์ เซนเดอรอส - 2.5 ล้านปอนด์ (จากเซอร์เวตต์, 2003)
เซนเตอร์ฮาล์ฟชาวสวิส มีทั้งกองเชียร์และกองชังในหมู่แฟนปืนใหญ่ แต่ฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมให้ทีมชาติในศึกยูโร 2008 ก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นกองหลังชั้นดีคนหนึ่ง ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้ฟูแล่มแบบไม่มีค่าตัวหลังจากที่หายเจ็บเอ็นร้อยหวาย
มาร์ท พูม - ไม่เปิดเผยค่าตัว (จากซันเดอร์แลนด์, 2006)
นายทวารชาวเอสโตเนีย ย้ายมาเล่นให้ทีมแบบยืมตัวก่อน ก่อนที่อาร์เซน่อลจะตกลงซื้อขาดในเดือนม.ค. 2006 แต่กลับได้ลงเฝ้าเสาในเกมลีกให้ทีมของเวนเกอร์ แค่นัดเดียวเท่านั้น
แมทธิว อัพสัน - 2 ล้านปอนด์ (จากลูตัน ทาวน์, 1997)
แม้ว่า อัพสัน จะลงเล่นให้ปืนใหญ่แค่ 47 นัด แต่ เวนเกอร์ ก็สามารถขายต่อให้กับเบอร์มิงแฮมได้ในราคา 1 ล้านปอนด์ พร้อมกับเงื่อนไขที่ว่าค่าตัวจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนนัดที่ อัพสัน ลงสนามให้กับต้นสังกัดใหม่
ข้อมูลจาก : MSN ฟุตบอล