แบนนครปฐม 2 ปี จากสารบบบอลไทยทุกระดับ รุนแรงเกินไปหรือสมเหตุสมผลแล้ว ... ชวนคอบอลไทยร่วมโหลตดังๆ
|
 |
| รุนแรงเกินไป / ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด (29 คน) |
|
| | | ไม่รุนแรง / สมเหตุสมผล / เหมาะสมแล้ว (214 คน) |
|
| |
| | | | | รุนแรงเกินไป / ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกจุด (29 คน) | | | | ไม่รุนแรง / สมเหตุสมผล / เหมาะสมแล้ว (214 คน) | | |
จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 243 คน |
อ่วม! นครปฐมโดนแบน 2 ปี ปรับอีก 1.6 แสน เปาอ้นยันเป่าบริสุทธิ์
ทีพีแอลและคณะกรรมการฯสรุปบทลงโทษ นครปฐม เอฟซี ตัดสิทธิลงแข่ง 2 ปี ปรับอีก 1.6 แสน บิ๊กย้อย เห็นใจผู้ตัดสิน เตรียมมอบรางวัลแก่เชิ้ตดำ ส่วน พล.ต.ต.อำนวย เข้มใครทำผิดกฎหมายดำเนินคดีสถานเดียว ด้าน ดร.วิชิต กร้าวหากใครไม่พร้อมตัดสิทธิห้ามแข่งเช่นกัน ขณะที่ เปาอ้น ไม่ขอวิจารณ์บทลงโทษ รับทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลฯ ได้มีการประชุมหาบทสรุปลงโทษทีม นครปฐม เอฟซี จากเหตุการณ์ความวุ่นวายในศึกเพลย์ออฟหาทีมขึ้นไทยลีก นัดที่พบกับ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี วันเสาร์ที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ท วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณามารยาทและข้อประท้วง เป็นประธานร่วมกับ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบ.ไทยพรีเมียร์ลีก พร้อมด้วย พล.ต.ต อำนวย นิ่มมะโน ในฐานะคณะกรรมการพิจารณาโทษฯ, ดร.กษม ชนะวงศ์ ผช.เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ, คณะผู้ตัดสินและแมตช์คอมฯในนัดดังกล่าว รวมไปถึงตัวแทนของทีม นครปฐม เอฟซี และ ศรีสะเกษฯ เอฟซี เข้าร่วมประชุมพิจารณาหาบทลงโทษ
สรุปโทษตัดสิทธิ์หมูป่า 2 ปีปรับ 1.6 แสน
โดยหลังจากที่ประชุมหารือกว่า 2 ชั่วโมง ทาง พล.ต.ท วรพงษ์ ชิวปรีชา ในฐานะประธาน ได้มีบทสรุปออกมาว่า จะลงโทษทีม นครปฐม เอฟซี สถานหนักโดยการตัดสิทธิ์ไม่ให้ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันรายการต่างๆของ สมาคมฯเป็นระยะเวลา 2 ปีพร้อมทั้งปรับเงินอีก 160,000 บาท โดยแบ่งเป็นโทษปรับเจ้าหน้าที่ทีมนครปฐม 100,000 บาท, ปรับแฟนบอลนครปฐม 50,000 บาท และปรับ ธนากร ขำโขมะ นักเตะทีมนครปฐม ฐานพูดด่าผู้ตัดสิน 10,000 บาท นอกจากนั้นจะยังลงโทษ ธนากร ขำโขมะ ห้ามแข่งอีก 1 นัด
สำหรับบทลงโทษแบนห้ามแข่ง 2 ปีของทีมนครปฐมนั้น จะเป็นการตัดสิทธิเฉพาะทีมนครปฐม เอฟซี ไม่ได้รวมไปถึงบรรดานักเตะในทีมนครปฐม ดังนั้นนักเตะในทีมหมูป่าเขี้ยวตัน สามารถย้ายสังกัดและลงทำการแข่งขันได้เช่นเดิม
นอกจากนั้นทางคณะกรรมการพิจารณาโทษและ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ยังได้คาดโทษทีมนครปฐม เอฟซี อีกว่า หากพ้นโทษแบน 2 ปี กลับมาแล้วยังทำผิดซ้ำซาก จะทำการถอนชื่อทีม นครปฐม เอฟซี ออกจากระบบของสมาคมฟุตบอลฯ แต่อย่างไรก็ตาม ทีมนครปฐม เอฟซี จะยังสามารถอุทธรณ์บทลงโทษได้ โดยต้องยื่นอุทธรณ์กับทางสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ แต่จะหมดสิทธิอุทธรณ์โทษกับคณะกรรมการพิจารณาโทษแล้ว
ไทยลีก หรือ ดิวิชั่น 1 จะเหลือแค่ 17 ทีม
จากบทลงโทษห้ามส่งทีมเข้าแข่งขันเป็นเวลา 2 ปีของนครปฐม เอฟซี ส่งผลให้หากทีมนครปฐม ได้สิทธิขึ้นไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้า ทางบ.ไทยพรีเมียร์ลีก จะตัดสิทธิของนครปฐมออก ทำให้ไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหน้าเหลือเพียง 17 ทีม แต่หากทีมนครปฐมต้องอยู่ในดิวิชั่น 1 ต่อไป ทางบ.ไทยพรีเมียร์ลีก ก็จะตัดสิทธิทีมนครปฐม และปรับให้ศึกดิวิชั่น 1 ฤดูกาลหน้าเหลือเพียง 17 ทีมเช่นเดียวกัน
สำหรับโทษแบนของนครปฐม เอฟซี นั้น หากครบกำหนด 2 ปี เมื่อไหร่ ทางบ.ไทยพรีเมียร์ลีกได้ประกาศว่า ทีมนครปฐม จะต้องกลับมาลงเล่นในระดับดิวิชั่น 1 เช่นเดิม
บิ๊กย้อย เห็นใจเชิ้ตดำ เตรียมร่างกฎใหม่ลงโทษแรงขึ้น
โดยทาง บิ๊กย้อย พล.ต.ท วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตนรู้สึกเห็นใจบรรดาผู้ตัดสินที่ต้องทำหน้าที่ด้วยความเสี่ยง ดังนั้นต่อไปนี้เราอาจจะมีการมอบรางวัลให้กับผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ดีเด่น เพื่อเป็นกำลังใจให้กับคณะผู้ตัดสินต่อไป"
พร้อมกันนั้น บิ๊กย้อย ยังได้เปิดเผยว่า จะทำการยกร่างกฎระเบียบบทลงโทษใหม่ทั้งหมด เพื่อให้ครอบคลุมและมีมาตราการที่รุนแรงขึ้น ซึ่งในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงของการประชุมพิจาณา คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ทุกอย่างคงเสร็จเรียบร้อย
อำนวย เข้มคนผิดต้องถูกดำเนินการทางกฎหมาย
ขณะที่ พล.ต.ต อำนวย นิ่มมะโน ได้กล่าวว่า ในส่วนกรณีของบุคคลที่ทำผิดกฎหมาย เช่นคนที่พกปืนเข้าสนามบอลและคนที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ทางตำรวจจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดและตรงไปตรงมา ซึ่งตอนนี้ได้มีผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวแล้วส่วนหนึ่ง ซึ่งทางตำรวจจะทำการสอบสวนและดำเนินคดีต่อไป
นอกนากนั้น พล.ต.ต อำนวย นิ่มมโน ยังได้กล่าวอีกว่า ต่อไปนี้ทางตำรวจจะเข้ามาดูแลและควบคุมในเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้มาก ขึ้น ดังนั้นหากใครจะนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรืออาวุธเข้าสนามจะโดนลงโทษทันที พร้อมกันนั้นหากทางเจ้าภาพหรือบ.ไทยพรีเมียร์ลีกต้องการจะใช้กำลังตำรวจเข้า มาดูแลก็ขอให้ทำหนังสือมาได้เลย ทางตำรวจยินดีเข้าไปช่วยเหลือทุกอย่าง
ดร.วิชิต เตรียมปรับปรุงมาตรการป้องกัน กร้าวเสียงแข็งทีมใดไม่พร้อมตัดสิทธิทันที
ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ได้เผยว่า จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ตนเองเตรียมจะเพิ่มบทลงโทษให้รุนแรงขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยให้หลายคนคลายกังวลในเรื่องนี้ไปได้ ซึ่งต่อไปนี้ตนจะดูแลให้ดีที่สุด และเตรียมจะปรับปรุงมาตรการให้ดีขึ้น นอกจากนั้นในฤดุกาลหน้า หากทีมใดไม่พร้อมที่จะทำการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารหรือสนามแข่งขัน ทางบ.ไทยพรีเมียร์ลีกจะทำการตัดสิทธิทันทีเช่นกัน
ทีพีแอล เตรียมมอบเงิน 1 แสนปลอบขวัญเชิ้ตดำ
ส่วนในเรื่องการปลอบขวัญผู้ตัดสินชุดนี้ ทางบ.ไทยพรีเมียร์ลีก เตรียมที่จะมอบเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อเป็นการปลอบใจ ส่วนค่าเสียหายของทีมศรีสะเกษฯและแฟนบอล ขอให้ผู้เสียหายนำหลักฐานไปแจ้งความเพื่อเรียกร้องทางแพ่งกับศาลต่อไป
เปาอ้น ไม่วิจารณ์ แต่ยืนยันตัดสินบริสุทธิ์
ขณะที่ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวที่ถูกทำร้ายร่างกายได้กล่าวเปิดใจว่า ตนไม่ขอวิจารณ์บทลงโทษที่ทางผู้ใหญ่ตัดสิน ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่จะเห็นชอบ แต่ตนอยากจะบอกว่าการทำหน้าที่ของตนในทุกเกม ตนลงทำหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเอนเอียงไปข้างใดแน่นอน
ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีผู้ตัดสินรับเงินใต้โต๊ะ ตนขอบอกว่าหากใครมีหลักฐานก็ให้นำมาแจ้งกับสมาคมฯได้เลย เพราะจะได้จัดการกับคำผิดให้ตรงตัว มิเช่นนั้นผู้ตัดสินที่บริสุทธิ์จะต้องกลายเป็นแพะอย่างเช่นทุกวันนี้
ขอนำเงินปลอบขวัญไปบริจาค
พร้อมกันนั้น เปาอ้น ยังได้กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องเงินบริจาค 1 แสนบาทที่ทางทีพีแอลจะช่วยเหลือนั้น ในส่วนของตนแล้วตนจะนำเงินที่ได้ไปบริจาคและทำบุญทั้งหมด โดยจะไม่ขอเก็บไว้แม้แต่บาทเดียว
วอนผู้ใหญ่ช่วยดูแลความปลอดภัยเชิ้ตดำ
สุดท้าย อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ได้กล่าวว่า ต่อไปนี้ตนอยากจะให้ทางสมาคมฯและผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลความปลอดภัยให้ แก่บรรดาผู้สินมากกว่านี้ โดยจะต้องมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลในเรื่องของการรับส่งคณะผู้ ตัดสินให้ดีกว่านี้ นอกจากนั้นทางเจ้าของสนามจะต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มข้นขึ้น
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์นี้ ตนก็ไม่รู้สึกกลัวที่จะทำหน้าที่ต่อไป แต่รู้สึกน้อยใจที่บรรดาผู้ตัดสินถูกมองว่าทำหน้าที่ลำเอียงมากกว่า เพราะตนเชื่อว่ามีผู้ตัดสินอีกมากที่ต้องเป็นผู้เสียหายทั้งที่ตนเองทำ หน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ตัวแทนนครปฐมรีบกลับทันที
โดยหลังจากการเสร็จสิ้นการประชุม ตัวแทนของทีมนครปฐมที่มาวันนี้ซึ่งได้แก่ ณรงค์ ห้วยหงส์ทอง ผจก.ทั่วไป และ ฉัตรชัย อยู่ญาติมาก ฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้รีบขอตัวกลับทันที ซึ่งแหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า หลังทราบบทลงโทษ ตัวแทนทีมนครปฐมแสดงอาการผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ได้กล่าวประท้วงกับบทลงโทษนี้แต่อย่างใด
ศรีสะเกษพอใจบทลงโทษ
ส่วนทางด้าน เฮียหวดสมบัติ เกียรติสุรนนท์ ผจก.ทั่วไป และ สรศาสตร์ ศรีธัญรัตน์ ผจก.ทีมศรีสะเกษฯ ได้เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวหลังจากได้ฟังบทลงโทษทีมนครปฐมแล้ว ตนก็รู้สึกพอใจกับบทสรุปที่ออกมา แต่ในตอนนี้ยังไม่ขอพูดอะไรมาก เพราะยังต้องทุ่มสมาธิให้กับเกมเพลย์ออฟนัดสุดท้ายกับทีมแอร์ฟอร์ซฯในวัน ศุกร์นี้
http://www.thaileagueonline.com/news-4212-อ่วม!%20นครปฐมโดนแบน%202%20ปี%20ปรับอีก%201.6%20แสน%20เปาอ้นยันเป่าบริสุทธิ์.html
--------------------------------------------------------------------
เมื่อนำเหตุการณ์อัปยศครั้งนี้มาประมวลผล แบบเป็นกลางสุดๆในฐานะแฟนบอลไทยที่รักบอลไทย
และเมื่อเปรียบเทียบการลงโทษครั้งนี้ เทียบกับการลงโทษ การท่าเรือไทย ในครั้งแรกและครั้งสอง ,
บางกอกกล๊าส , ชลบุรี , ชัยนาท , สมุทรปราการ , ลพบุรี , สงขลา (ไมเยอะจังหว่ะ) และ กุยบุรี fc
บทลงโทษนี้ รุนแรงเกินไปเกินจะรับได้ หรือ สมเหตุสมผลแล้ว (ถ้าคิดว่าลงโทษน้อยเกินไป ขอให้โหวตไปอยู่ในข้อนี้ด้วยละกัน)
แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 53 22:25:06
| จากคุณ |
:
yassemo 
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 ธ.ค. 53 22:04:00
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่ 1
