 |
Kenny Dalglish และ Fernando Torres มาจากคนละยุคและคนละประเทศแต่จากการพบกันครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีอะไรที่เหมือนกันมากกว่าที่พวกเขาตระหนัก ในบทความนี้ใช้คำว่า The Kid แทนตอเรส และใช้ The King แทนเคนนี่
ไม่มีการเปรียบเทียบ The Kid กล่าวอย่างชัดเจน เขาไม่ต้องการที่จะเทียบกับ the King. “ในตอนนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ตอเรสกล่าว “บอกตามตรง ผมค่อนข้างเขินที่ต้องมาที่นี่ ดังนั้นได้โปรดอย่าเปรียบเทียบ”
แล้ว “King Kenny” ล่ะ? คุณรู้สึกอย่างไรที่ครึ่งหนึ่งของชีวิตคุณ มีผู้คนเรียกคุณว่าตำนานและบูชาคุณเหมือนเป็นเทพเจ้าลูกหนัง แล้วคุณทำอะไรเมื่อต้องมาเจอกับคนที่ถูกเชื่อว่าจะเป็นผู้สืบทอดต่อจากคุณ
“คุณเป็นตำนานได้ก็แค่ในความคิดของคนบางคน” เคนนี่กล่าว “ตราบใดที่คุณไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นตำนานมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด อย่างเฟอนานโดที่ผู้คนชอบเอามาเปรียบเทียบ แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือเป็นตัวของตัวเอง”
พูดง่ายแต่ทำยาก มันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะต้องเปรียบเทียบเมื่อคุณนั่งอยู่กับบุคคลสองคนที่มีความพิเศษ ซึ่งมีความเหมือนกัน
ไม่ใช่แค่ทั้งคู่เป็นกองหน้าหรือเกิดราศีมีน, ทั้งคู่เป็นเจ้าของค่าตัวที่เป็นสถิติของลิเวอร์พูล, ทั้งคู่มีความสามารถที่จะทำให้เหล่าเดอะค๊อปเปลี่ยนเป็นกลุ่มคนที่บ้าคลั่งได้
มันมีสายสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง ผู้เล่นเข้ามาและจากไป แต่สโมสรและความสืบเนื่องจะยังดำเนินต่อไป ตอเรสเล่นกับคาราเกอร์, ซึ่งเล่นกับฟาวเล่อร์, ซึ่งเล่นกับจอห์น บาร์น, ซึ่งเล่นกับเอียน รัช, ซึ่งเล่นกับดัลกลิช, ซึ่งเล่นกับเอมลีน ฮิวจส์, .....สืบไปจนถึงมัลคอม แม็ควีนผู้ซึ่งเป็นคนยิงประตูแรกให้กับสโมสรลิเวอร์พูลในปี 1892.
ในแง่นี้ทั้งตอเรสและดัลกลิชคือผู้ถือคบเพลิงนำทางสโมสรที่สืบเนื่องกันมา ทั้งคู่รู้ถึงภาระความรับผิดชอบ “พวกเราคือผู้ที่ทำความฝันให้เป็นจริง” ดัลกลิชกล่าว “ความฝันที่แฟนบอลไม่มีวันทำได้เพราะพวกเขาไม่สามารถลงสนาม ดังนั้นพวกเขาจึงมีชีวิตด้วยความฝันที่ผ่านการเล่นของพวกเรา”
จากคุณ |
:
mikroski
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ม.ค. 54 23:48:42
|
|
|
|
 |