 |
พอหมดยุคสโม๊คกิ้งโจ บอร์ดลิเวอร์พูตัดสินใจเลือกนักเตะที่ยิ่งใหญ่ทั้งฝีเท้าและความสำเร็จสูงสุดเท่าที่หงส์แดงเคยมีมาอย่าง เคนนี่ ดัลกริชหรือชื่อเต็ม Kenneth Mathieson "Kenny" Dalglish ให้มาดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูลต่อไป ซึ่งถือเป็น Ep แรกของเดอะคิงในฐานะผู้จัดการทีมหงส์แดงซึ่งขณะนั้นอยู่ในยุคตะแคงฟ้า
ดัลกริชเป็นชาวสก๊อตแลนด์ที่เกิดในปี 1951 ปัจจุบันเขาจึงมีอายุ 59 ปี(ทำไมหน้าตายังดูหนุ่มนักวะ โกงอายุเปล่าเนี่ย555) ตลอดชีวิตเขาเล่นฟุตบอลให้กับเพียง 2 สโมสรเท่านั้นคือกลาสโกว์เซลติค ตั้งแต่ยุคเด็กฝึกหัด และขึ้นเล่นชุดใหญ่ตอนอายุ 18 ปี ซึ่ง 8 ปีให้หลังเขาโบกมือลาไปหาความท้าทายใหม่กับลิเวอร์พูล ยอดทีมของอังกฤษในยุคนั้น
ดัลกริชในวัย 26 ปี เดินหน้ามาถึงถิ่นแอนฟิลด์ พร้อมกับรับมอบเสื้อหมายเลข 7 ต่อจากเควิน คีแกน ยอดศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษที่ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับฮัมบูรก์ ซึ่งในปีที่เขาย้ายทีมนั้นคือปี 1977 เขาถูกเพรส์ลี่ย์ซื้อตัวมาด้วยเงินถึง 440,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในสหราชอาณาจักรขณะนั้น แต่ต้องยอมรับว่าดัลกริชคือนักเตะที่คุ้มทุกปอนด์ทุกเพนนี่ที่หงส์แดงจ่ายไปเลยทีเดียว
ขณะที่เคนนี่อยู่กับลิเวอร์พูลนั้น เขาร่วมกับนักเตะยิ่งใหญ่อีกหลายคนอย่างเรย์ คลีแมนซ์ มาร์ค ลอว์เลนสัน เอียน รัช สติฟ ไฮเวย์ และที่สำคัญการรวมตัวของ 3 เสือสก๊อตแลนด์ อย่างยอดกองหลัง อลัน แฮนเซ่น กองกลางโหดหิน แกรม ซูเนสท์ และคิงเคนนี่ เคนนี่ ดัลกริช พาทีมลิเวอร์พูลไปยิ่งใหญ่ในฐานะนักเตะ
นอกจากองค์ประกอบชั้นยอดของทีม ที่ทำให้คิงเคนนี่พาทีมครองเกาะอังกฤษและยุโรปแล้ว ยังต้องยอมรับว่าการเล่นบอลแบบใช้สมองมากกว่าแรง เช่น การจ่ายบอลอันชาญฉลาดหลายๆ ครั้ง หรือไม่ว่าจะเป็นการยิงประตูที่สวยงามจำนวนมาก ซึ่งประตูที่คนน่าจะจำได้ดีที่สุดประตูหนึ่งคือ การยิงเอฟซี บรูซ ยอดทีมจากเบลเยี่ยมในนัดชิงยูโรเปี้ยนคัพปี 78(เหนือสุด เคยดูจาก DVD) อันเป็นปีแรกที่เขาย้ายมาอยู่หงส์แดง ถือเป็นการกำเนิดราชันแห่งแอนฟิลด์เลยทีเดียว
นัดดังกล่าวเป้นนัดชิงยูโรเปี้ยนคัพ ที่ลิเวอร์พูเพิ่งได้แชมป์ปีก่อนมาเป็นครั้งแรก แม้จะเจอกับ เอฟซี บรูซที่ดูชื่อชั้นน่าจะเล็กกว่า แต่ก็ไม่ใช่เกมส์ง่าย เกมส์เสมอกันอยู่อย่างอึดอัด จนกระทั่งแกรม ซูเนสท์แทงทะลุช่องเซ็นเตอร์ของคู่แข่งไปให้เคนนี่ ที่รอจังหวะก่อนจะตวัดบอลอย่างเหนือชั้นข้ามตัวแจนเซ่น ประตูของบรูซ พาทีมชนะ 1 - 0 และป้องกันแชมป์ยูโรเปียนคัพได้ทันทีที่ย้ายมา
ตลอดชีวิตที่ดัลกริชค้าแข่งกับลิเวอร์พูล เขาประสพความสำเร็จมากมายจนเรียกได้ว่า คว้ามาแล้วเกือบทุกรางวัล ประกอบกับผลงานส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมด้วยลีลาเหนือชั้น ทำให้เขาถูกยกย่องจากแฟนๆเดอะค๊อปทั่วโลกให้เป็น เดอะคิง KING KENNY
คิงเคนนี่เล่นให้ลิเวอร์พูลทั้งหมด 12 ปี คือตั้งแต่ปี 1978 ถึงปี 1990 รวมทั้งสิ้น 355 นัด 118 ประตู ถือว่าไม่น้อยสำหรับกองหน้าตัวต่ำหรือมิดฟิลด์ตัวรุก เมื่อรวมกับ 204 นัด 112 ประตูที่เซลติคแล้ว ตลอดชีวิตค้าแข้งของยอดนักเตะคนนี้จึงเล่นไปถึง 559 นัด ยิงไปมากถึง 230 ประตู นอกจากนั้งยังมีการเล่นในนามทีมชาติสก๊อตแลนด์อีก 102 นัด 30 ประตูด้วย นับเป็น 20 ปีบนสังเวียนแข้ง กับ 2 สโมสร แต่มากด้วยความสำเร็จอย่างแท้จริง
เกียรติประวัติ สมัยเป็นนักเตะ
หมายเหตุ*** (เลขปีที่เขียนคือปีที่จบฤดูกาล เพราะเยอะ จนขี้เกียจพิมพ์ เช่น 1979 คือฤดูกาล 1978-1979)
กับทีม Celtic
สก๊อตติช ดีวิชั่น 1 (4) 1972, 1973, 1974, 1977 รองแชมป์ (1) 1976
Scottish Cup หรือ FA คัพ สก๊อตแลนด์ (4) 1972, 1974, 1975, 1977 รองแชมป์ (1) 1973
Scottish League Cup (1) 1975 รองแชมป์ (5) 1972, 1973, 1974, 1976, 1977
กับทีม Liverpool
ดีวิชั่น 1 (ลีคสูงสุดสมัยนั้น) (6) 1979(ฤดูกาล 78-79 เป็นฤดูกาลแรกที่ย้ายมา), 1980, 1982, 1983, 1984, 1986 รองแชมป์ (3) 1978, 1985, 1987
FA Cup (1) 1986
League Cup (4) 1981, 1982, 1983, 1984 รองแชมป์ (2) 1978, 1987
Charity Shield (5) 1980, 1981, 1983, (Shared): 1978, 1987 รองแชมป์ (2) 1984, 1985
European Cup(หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก ปัจจุบัน) (3) 1978, 1981, 1984 (เทียบเท่าระดับตำนานของโลก อย่างฟร๊านซ์ เบ็คเค่นบาวน์หรือโยฮันครัฟ เลยทีเดียว แต่ทั้งสองคนประสพความสำเร็จกับทีมชาติด้วยเลยโด่งดังกว่า) รองแชมป์ 1 (1) 1985
European Super Cup (1) 1978 รองแชมป์ (1) 1979
ขอบคุณข้อมูลของวิกิพีเดีย
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 54 09:27:13
แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 54 03:28:45
จากคุณ |
:
oxyjack
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ม.ค. 54 01:40:03
|
|
|
|
 |