บาร์ซ่าถล่ม 5 - 0,ราชันบุกยิง 1 - 0 ศึกโกปาฯ 27/01/2011 6:10:37 สยามกีฬา ทีมเจ้าบุญทุ่ม บาร์เซโลน่า ยังโหด ไม่ปราณีใครเช่นเดิม เปิดรังคัมป์ นู ถล่มแหลก อัลเมเรีย เละเทะแบบจำทางกลับบ้านไม่ถูก 5-0 ลิโอเนล เมสซี่ เหมาเบิ้ล ขณะที่ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด บุกเฉือนหวิว เซบีย่า ถึงถิ่น 1-0 คาริม เบนเซม่า ฮีโร่ยิงประตูชัย ในเกมโกปา เดล เรย์ สเปน รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนที่ผ่านมา ฟุตบอลโกปา เดล เรย์ สเปน รอบรองชนะเลิศ นัดแรก บาร์เซโลน่า (ลา ลีกา) 5-0 อัลเมเรีย (ลา ลีกา) สนาม: เอสตาดิโอ คัมป์ นู, บาร์เซโลน่า "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ไม่แพ้ใครในลาลีกา มา 18 นัดติดต่อกันแล้ว อีกทั้ง 29 เกมหลังสุดจากทุกรายการ แพ้เพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น ต้องขาด การ์เลส ปูโยล ปราการหลังกัปตันทีม ที่เจ็บหัวเข่าซ้าย เลยต้องขยับเอา เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายชาวฝรั่งเศส เข้ามายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟกับ เคราร์ด ปิเก้ ตำแหน่งแบ็กขวาไม่มี ดาเนียล อัลเวส ที่เจ็บกล้ามเนื้อขาขวา ทำให้ต้องใช้งาน อาเดรียโน่ คอร์เรอา ลงมาเล่นแทน สามประสานแดนหน้าจัดจ้านเหลือเกินลงได้ครบทั้ง เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ ดาบิด บีย่า ทางด้าน อัลเมเรีย ไม่มี มิเกล อังเคล เนียโต้, ฆวานิโต้ และ ฆวนม่า ออร์ติซ ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ได้ โมแดสต์ เอ็มบามี่ กองกลางพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามอีกครั้ง แนวรุกมี อัลเบิร์ต กรูซาต ตัวริมเส้นความเร็วสูงลงกระชากลากเลื้อยร่วมกับ ปาโบล ปิอัตติ โดยมี เอน็อค กอยตอม ยืนหอกตัวเป้า เปิดเกมครึ่งแรกได้แค่ 5 นาที บาร์ซ่า ลุยเข้าหาทันทีมีลุ้นจากการหลุดเข้าไปส่องด้วยซ้ายของ ลิโอเนล เมสซี่ แต่บอลไม่เข้ากรอบ อย่างไรก็ตาม 4 นาทีต่อมา เจ้าบ้านขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี่ แผลงฤทธิ์กดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลพุ่งเข้ากรอบ เอสเตบัน ซัวเรซ นายทวารอัลเมเรียรับไม่ดีบอลปลิ้นเข้าประตูไปให้ บาร์เซโลน่า นำเร็ว 1-0 สกอร์ไหลเป็นสายน้ำ บาร์ซ่า มาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ เปิดให้กับ ดาบิด บีย่า หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนซัดเข้าไปไม่พลาดให้เจ้าบ้านนำ 2-0 เข้าไปแล้ว อัลเมเรีย ขึ้นเกมรุกมาบ้าง อัลเบิร์ต กรูซาต เปิดให้กับ เอน็อค กอยตอม ตะบันด้วยขวาหลุดกรอบไปในนาทีที่ 14 ถัดมานาทีเดียวกลายเป็นเจ้าบ้านได้ประตูที่สามฉีกหนีออกไปอีกจากจังหวะที่ อันเดรส อิเนียสต้า ได้บอลทางซ้ายของสนามแล้วผ่านยาวออกมาทางด้านขวาให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ ที่เติมขึ้นมาพาบอลไปยิงโค้งด้วยซ้ายเสียบเสาไกลเข้าไปให้ บาร์ซ่า นำขาด 3-0 และเป็นประตูที่สองของ เมสซี่ ในเกมนี้แล้ว เกมตกเป็นของเจ้าบุญทุ่มฝ่ายเดียวเลยได้ลุ้นถึงสองจังหวะติดๆ กัน มาสเคราโน่ ซัดด้วยขวาหลุดกรอบไป อีกจังหวะนั้น อิเนียสต้า จ่ายบอลให้กับ เปโดร ซัดด้วยซ้ายไม่ผ่านมือของ เอสเตบัน ซัวเรซ นายทวารอัลเมเรีย เมื่อผ่านมา 26 นาที ครึ่งชั่วโมงของเกม เจ้าบ้านมาได้ประตูที่สี่จนได้ จากจังหวะที่ ชาบี เอร์นานเดซ เปิดมุมจากฝั่งขวามาให้กับ เปโดร โรดริเกซ โผนขึ้นโขกได้เหนือตัวประกบ ก่อนสะบัดโหม่งเข้าไปเสียบใต้คานอย่างสุดสวยช่วยให้ บาร์ซ่า นำกระจาย 4-0 มาถึงนาทีที่ 34 เมสซี่ ลากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดด้วยซ้ายบอลเฉี่ยวกรอบออกไป โดยในจังหวะนี้ เมสซี่ มีอาการเจ็บน่องขวาด้วย ต้องปฐมพยาบาลด้วยการฉีดสเปรย์ให้ชาแล้วถึงเล่นต่อไปได้ ก่อนหมดครึ่งแรกแค่ 5 นาที อัลเมเรีย ได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ อัลเบิร์ต กรูซาต ได้ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้ากรอบ ทว่า โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ นายทวารเจ้าบ้านป้องกันได้ บาร์ซ่า ขึ้นเกมมาอีกครั้งได้ลุ้นในนาทีที่ 43 จากจังหวะที่ เมสซี่ พลิ้วหลุดเข้ามาซัดด้วยซ้ายติดเซฟ เอสเตบัน ซัวเรซ นายทวารทีมเยือน หมดครึ่งแรก บาร์เซโลน่า นำหายห่วง 4-0 กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้แค่ 7 นาที บาร์ซ่า น่าได้ประตูที่ห้า เมื่อ เมสซี่ เปิดบอลให้กับ แม็กซ์เวลล์ ซัดด้วยซ้ายบอลไปกระแทกคานออกมาอย่างน่าเสียดาย เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 62 อันเดรส อิเนียสต้า ไหลบอลให้กับ มาสเคราโน่ ซัดด้วยขวาติดเซฟของ เอสเตบัน ซัวเรซ นายทวารของอัลเมเรีย สี่นาทีต่อมา บาร์ซ่า เปลี่ยนเอา อิบราฮิม อเฟลลาย ลงมาเล่นแทน ดาบิด บีย่า รูปเกมยังเป็น บาร์ซ่า ที่ดาหน้าบุก อเฟลลาย กองกลางชาวดัตซ์ที่เพิ่งลงมาจ่ายให้กับ เปโดร ซัดด้วยขวาไม่ผ่านการป้องกันของ เอสเตบัน ซัวเรซ นายทวารอัลเมเรีย ในนาที 68 บาร์ซ่า เปลี่ยนเอา ชาบี เอร์นานเดซ ออกแล้วส่ง เซย์ดู เกอิต้า ลงเล่นแทน และแล้ว เซย์ดู เกอิต้า ก็กลายเป็นซูเปอร์ซับ ลงมาบวกประตูเพิ่มให้กับทีมได้อีกในนาทีที่89 เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านต้อน อัลเมเรีย ไปขาดลอย 5-0 เก็บความได้เปรียบมหาศาล ก่อนออกไปเยือน อัลเมเรีย ในนัดสอง วันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ ศกนี้ รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม บาร์เซโลน่า: โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ - อาเดรียโน่ คอร์เรอา, เคราร์ด ปีเก้, เอริก อบิดัล, แม็กซ์เวลล์ - ชาบี เอร์นานเดซ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อันเดรส อิเนียสต้า - เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า สำรอง: บิคตอร์ บัลเดส (ผู้รักษาประตู) - กาเบรียล มิลิโต้, มาร์ติน มอนโตย่า, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซย์ดู เกอิต้า, โบยาน เกร์กิช, อิบราฮิม อเฟลลาย อัลเมเรีย: เอสเตบัน ซัวเรซ - มิเชล มาเชโด้, การ์ลอส การ์เซีย, เอร์นาน เปเยราโน่, บัลตาชาร์ ริโก้ ซิเฟร - โมแดสต์ เอ็มบามี่, มิเกล อังเคล โกโรน่า, ฟาเบียน วาร์กัส - อัลเบิร์ต กรูซาต, ปาโบล ปิอัตติ - เอน็อค กอยตอม สำรอง: ดีเอโก้ อัลเวส (ผู้รักษาประตู) - ไมเคิ่ล ยาค็อบเซ่น, เอร์นาน เบร์นาร์เดโญ่, โฆเซ่ ออร์ติซ, โฮเซ่ อูญัว, คาลู อูเช่, โจนาธาน ซุนดี ซอนโก้ ผู้ตัดสิน: อันโตนิโอ มิเกล มาเตว ลาออซ เซบีย่า (ลา ลีกา) 0 - 1 เรอัล มาดริด (ลา ลีกา) สนาม: เอสตาดิโอ ราม่อน ซานเชซ ปิซฆวน, เซบีย่า เซบีย่า ทีมอันดับ 7 ของลา ลีกา สเปน ซึ่งเป็นแชมป์เก่าของถ้วยโกปา เดล เรย์ อยู่ด้วยนั้น ต้องปราศจาก ติเบริโอ กวาเรนเต้ กองกลางชาวอิตาเลี่ยน และ อิวิก้า ดรากูติโนวิช กองหลังที่บาดเจ็บ แต่ได้ตัว อเล็กซิส รูอาโน่ กองหลังตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาคุมแนวรับ ในแนวรุกวาง หลุยส์ ฟาเบียโน่ ที่กลับมาฟอร์มจัดจ้านอีกครั้งลงล่าตาข่ายร่วมกับ เฟรเดริก กานูเต้ ทาง "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ต้องขาด กอนซาโล่ อิกวาอิน กองหน้าทีมชาติอาร์เจนติน่า ซึ่งอยู่ระหว่างการพักฝื้นจากการผ่าตัดหลังต้องพักอย่างน้อย 4 เดือน รวมไปถึง เปเป้ ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกส ทว่าได้ ซามี่ เคดิร่า กองกลางตัวรับทีมชาติเยอรมัน หายเจ็บกลับมาคุมเกมตรงกลางสนาม สามประสานแดนหน้าให้ เมซุต โอซิล ผนึกกำลังกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คอยสนับสนุน คาริม เบนเซม่า หัวหอกตัวเป้าในการเข้าทำสกอร์ โดย อังเคล ดิ มาเรีย ปีกจอมพลิ้วทีมชาติอาร์เจนติน่า มีชื่อแค่สำรองเท่านั้น ออกสตาร์ทครึ่งแรก 16 นาที เซบีย่า จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา เซร์คิโอ ซานเชซ แบ็คขวาออกและส่ง มาร์ติน คาเซเรส ดาวเตะชาวอุรุกวัย ลงมายืนแทน นาทีเดียวกันนั้นเอง เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะเล่นสั้นทางกราบขวา คาริม เบนเซม่า เปิดออกข้างให้กับ โอซิล ที่ชิ่งขึ้นหน้าคืนมาให้กับ เบนเซม่า พาบอลทะลุเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนหักบอลเข้าในแล้วปั่นด้วยซ้ายบอลเสียบเสาไกลเข้าไปสวยงามสุดๆ ประตูนี้เรียกได้ว่าเป็น "เบนเซม่า โชว์" ได้เลยทีเดียว กระเถิบมาถึงนาทีที่ 29 เซบีย่า ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เฆซุส นาบาส ลากขึ้นมาทางปีกขวาตบเข้ากลาง กองหลังมาดริดเคลียร์ไม่ดีเข้าทาง เฟรเดริก กานูเต้วิ่งมาตะบันเต็มเกือกบอลพุ่งแฉลบคาร์วัลโญ่ ออกหลังไปนิดเดียว เจ้าถิ่นมีลุ้นมากขึ้น ค็อฟฟี่ โรมาริช ยิงฟรีคิกทางกราบซ้ายบอลพุ่งมาเสาแรก แต่วง่า กาซียาส นายทวารเรอัล มาดริด ปัดบอลทิ้งไปได้ ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก เซบีย่า น่าได้ประตูตีเสมอย่างยิ่ง เมื่อ เฟรเดริก กานูเต้ จ่ายบอลเร็วให้กับ ฟาเบียโน่ หลุดเข้าไปแตะหลบ กาซียาส ก่อนแปเข้าสู่ปากประตู ราอูล อัลบิโอล กองหลังราชันชุดขาววิ่งตามมาเคลียร์ แต่สกัดไม่ขาด บอลไหลข้ามเส้นไปแล้วทั้งใบ แต่ อัลบิโอล ยังสกัดบอลทิ้งออกมา และผู้เล่นมาดริดช่วยกันเตะทิ้งออกหลัง ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกเตะมุมเท่านั้น ท่ามกลางการประท้วงของเหล่าผู้เล่นเซบีย่า หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด บุกมานำก่อน 1-0 มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้แค่ 2 นาที เรอัล มาดริด ได้ลุ้นจากฟรีคิก โรนัลโด้ ปั่นไปติดกำแพงของเซบีย่า กระดอนมาเข้าทาง ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า อัดซ้ำด้วยขวาบอลไม่เข้ากรอบ เขยิบมานาทีที่ 52 เซบีย่า เปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกครั้งให้ เรนาโต้ ฟลอเรนซิโอ เล่นแทน ค็อฟฟี่ โรมาริช ในแดนกลาง จากนั้นนาทีที่ 56 ราชันชุดขาว เปลี่ยนเอา มาร์เซโล่ วิเอยร่า แบ็คจอมบุกชาวบราซิล ลงมาเล่นแทน ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า สามนาทีต่อมา ชุดขาว ได้ลุ้นอีกครั้งจากการยิงไกลร่วม 40 หลาของ ชาบี อลอนโซ่ แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป ผ่านมา 68 นาที เรอัล มาดริด เปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนที่สองให้ อังเคล ดิ มาเรีย ปีกตัวจี๊ดลงสนามแล้วถอด คาริม เบนเซม่า คนพังประตูให้ทีมขึ้นนำออกมาพัก เกมสนุกทีเดียว นาทีที่ 73 เรอัล มาดริด น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ เมซุต โอซิล ล็อคหลบแบ็คของเซบีย่า ก่อนจะเปิดด้วยซ้ายจากสุดเส้นหลังข้ามมาเสาสองให้กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ โหม่งบอลจะเข้าอยู่แล้ว แต่ว่า อันเดรส ปาล็อป ยังไวปัดข้ามคานออกไปได้ จากลูกเตะมุมทางขวา อังเคล ดิ มาเรีย เปิดเข้ามากลาง ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็น เซร์คิโอ รามอส ตีลังกายิงด้วยขวาบอลข้ามคานไปนิดเดียวเท่านั้นเอง นาที 75 เซบีย่า แลกหมัดแล้วเปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนสุดท้ายให้ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ลงมาเล่นแทน หลุยส์ ฟาเบียโน่ ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 79 ชุดขาว น่าได้ประตูที่สอง เมื่อ โอซิล เปิดบอลให้กับ โรนัลโด้ แตะหลบ อันเดรส ปาล็อป นายทวารเซบีย่า ไปแล้ว แต่โดน อเล็กซิส รูอาโน่ กองหลังเจ้าบ้านตามาเบียดไว้เลยไหลบอลให้กับ โอซิล ยิงไปโดน รูอาโน่ ล้มตัวขวางไว้ได้บอลออกหลังไป จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ เซบีย่า ได้ก่อน 1-0 ต้องไปลุ้นกันต่อในนัดสองที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว บ้านของเรอัล มาดริด บ้าง รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม เซบีย่า: อันเดรส ปาล็อป - เซร์คิโอ ซานเชซ, ฌูเลียง เอสกูเด้, อเล็กซิส รูอาโน่, เฟร์นานโด นาบาร์โร่ - เฆซุส นาบาส, ค็อฟฟี่ โรมาริช, ดิดิเย่ร์ โซโกร่า, ดีเอโก้ เปร็อตติ - หลุยส์ ฟาเบียโน่, เฟรเดริก กานูเต้ สำรอง: ฆาบี บาราส (ผู้รักษาประตู) - เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, มาร์ติน คาเซเรส, เรนาโต้ ฟลอเรนซิโอ, ดีเอโก้ กาเปล, อเลฆานโดร อัลฟาโร่, อัลบาโร่ เนเกรโด้ เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, ราอูล อัลบิโอล, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, อัลบาโร่ อาร์เบลัว - ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า, ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า - เมซุต โอซิล, คาริม เบนเซม่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สำรอง: อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู) - เอเซเกล การาย, มาร์เซโล่ วิเอยร่า, กาก้า, เอสเตบัน กราเนโร่, อังเคล ดิ มาเรีย, เมฆิอัส ผู้ตัดสิน: อัลเบร์โต้ อุนเดียโน่ มาเยนโก้
จากคุณ |
:
สำลีสีชมพู
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ม.ค. 54 12:50:06
|
|
|
|