///จากใจแฟนกุหลาบ ถึงแฟนไก่เดือยทอง อย่าเสียใจมากนักเลย ให้มันผ่านไป ผมเคยเจ็บปวดมากกว่านี้///

สวัสดีครับ แฟนๆ น้องไก่ และแฟนบอลทีมอื่นๆทุกท่าน

หลังเกมเอฟเอคัพ เมื่อคืนนี้ ผ่านไปจนจบครึ่งแรก ความรู้สึกผมที่เกิดขึ้นคือ ใจหาย ไม่อยากจะเชื่อ ว่า ทีมอย่างท็อตแน่ม ซึ่งฤดูกาลนี้ฟอร์มดีเป็นอันมาก จนหลายคนบอกว่าขึ้นมาเป็นแถวหน้าลุ้นแชมป์ได้แล้ว เล่นในเกมยุโรปถ้วยใหญ่ UCL ก็สามารถเข้ารอบตามทีมใหญ่ๆได้ จะพ่ายแพ้ต่อ "เจ้าสัวน้อย" แบบขาดลอยถึง 4-0 และเอาคืนไม่ได้เลยซักลูกเดียว

จะว่าไปแล้ว เกมที่ คราเว่น ค็อทเทจ มักจะเป็นเกมที่หืดจับสำหรับแทบทุกทีมอยู่แล้วแม้กระทั่งกับทีมแนวหน้าอย่างยูไนเต็ด,เชลซี,ปืน หรือหงส์

แต่มันก็ไม่น่าแพ้มากมายขนาดนี้...

ลางร้ายมันเริ่มต้นที่ลูกจุดโทษ นาทีที่ 11 ซึ่งจากภาพช้า ผมก็เห็นว่าฟาวล์ชัดเจน และเจ้าสัวก็ส่งเพชรฆาตสังหารจุดโทษอย่างแดนนี เมอร์ฟี อดีตผู้เล่นหงส์ซึ่งยากที่จะพลาดลูกจุดโทษมาสังหาร ซึ่งก็ไม่พลาดจริงๆ เจ้าสัวนำทันที 1-0

การถูกนำแค่ 1-0 ไม่ใช่สถานการณ์เลวร้าย มันแค่ลูกเดียว แต่สเปอร์ก็มาพลาดอีกหลังจากนั้นไม่นานเลย คราวนี้หนักกว่าเก่า เพราะโดนทั้งจุดโทษครั้งที่ 2 และใบแดงอีก 1 ใบ เมอร์ฟีรับหน้าที่สังหารอีกครั้งและส่งเจ้าสัวเข้าใกล้การเข้ารอบ
ต่อไปมากขึ้น... 2-0 และสเปอร์ เหลือผู้เล่น 10 คน แม้จ่าแฮรี่จะพยายามแก้เกมโดยส่งกัลลาสลงมาเพื่อเสริมเกมรับ แต่ก็ยังช่วยอะไรไม่ได้มาก...แล้วลูกที่ 3 ก็ตามมาในนาทีที่ 24

ครึ่งแรกผ่านไปได้แค่ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้น น้องไก่โดนไปแล้วถึง 3 ลูก

แต่ก็เอาน่ะ! ทีมอื่นที่เคยโดนยิงก่อน 3 ลูก แล้วครึ่งหลังยิงไล่ตีเสมอเป็น 3-3 หรือแม้กระทั่งพลิกชนะ 4-3 ก็เคยมีให้เห็น (แม้จะน้อยครั้งก็ช่างเถอะ) ใครจะไปรู้ สเปอร์อาจทำได้แบบนั้นในครึ่งหลังก็ได้

แต่ความคิดอย่างนั้น มันดับวูบลงทันทีเมื่อมาเจอลูกที่ 4 ในเวลาทดเจ็บเสียด้วย ก่อนจะหมดเวลาครึ่งแรก แล้วสเปอร์ก็แบกภาระหนักอึ้งถึง 4 ลูกที่ต้องตามทวงคืน

แต่ในครึ่งหลัง ตลอดเวลาที่เหลือ ก็ไม่มีแม้สักลูกที่จะได้คืนมาปลอบใจพลพรรคไก่เดือยทองและแฟนๆที่ตามไปเชียร์ที่คราเว่น ค็อทเทจ และแฟนๆที่ตามลุ้นหน้าจอทีวี

ยังดี ที่เจ้าสัวน้อย ไม่เพิ่มสกอร์ให้ช้ำใจไปมากกว่านี้

อยากจะบอกแฟนสเปอร์ ว่า ฟุตบอล มันก็เป็นเช่นนี้ ก็เหมือนกีฬาอื่นๆ ที่มีแพ้ มีชนะ แต่บางครั้งมันก็ออกจะโหดร้าย

ทีมที่ฟอร์มมาดีๆ แล้วมาแพ้ถึง 4-0 แบบนี้ก็น่าช้ำใจครับ

แต่อยากบอกเพิ่มเติม เพื่อให้กำลังใจกัน ว่า ช่างมันเถิดครับ

มันไม่ใช่วันของเรา

ผมเชื่อว่า วันแห่งชัยชนะ ยังรอคอยให้เราชื่นชมปลื้มปีติ อีกมาก ตราบใดที่ฟุตบอลยังมีแข่งกันอยู่ บนโลกใบนี้

4-0 เป็นสกอร์ที่น่าช้ำใจ

แต่...ผมเคยโดนมากกว่านี้อีกครับ

ในพรีเมียร์ลีก ผมเชียร์ กุหลาบไฟ แบล๊คเบิร์น โรเวอร์ (แต่ถ้ารวมทั้งเกาะอังกฤษ ผมเชียร์เจ้าป่า เป็นทีมอันดับหนึ่ง)

27 พ.ย. ปีที่แล้ว กุหลาบของผม ต้องบุกไปเยือนทีมที่แกร่งทั้งแผงอย่างยูไนเต็ต ซึ่งก่อนเกมการแข่งขัน ผมก็ยังหวังอยู่ลึกๆ ว่า ขอสักแต้มหนึ่งเถอะ ในอดีต แบล๊คเบิร์น ก็เคยบุกไปชนะปีศาจแดงถึงโอลด์แทรฟฟอร์ดมาแล้ว

แต่วันนั้น ต่างจากวันชื่นคืนสุขสันต์ในอดีต อย่างสิ้นเชิง...

แค่เริ่มเกมไป 2 นาที เบอร์บาตอฟ ก็ซัดประตูนำร่องเบิกฤกษ์แห่งชัยชนะอย่างรวดเร็ว 1-0

แมนยูครองเกมดีมากๆ แล้วลูกที่สอง อาตี๋ปาร์คก็แท็กทีมกับหมูรูนเข้าตาข่ายหลังจากประตูแรกประมาณ 20 นาทีเห็นจะได้

แล้วเบอร์บาตอฟ ก็ซัดลูกที่ 3 หลังจากลูกที่สองผ่านไปแค่สองนาที

กุหลาบไฟ โงหัวไม่ขึ้นเลย จบครึ่งแรก ตามเจ้าบ้าน 0-3

มาถึงครึ่งหลัง "เฮียเบิร์บจิต้า" ของชาวปีศาจแดง ก็ทำแฮททริกสำเร็จ แค่นาทีที่ 47! เขี่ยลูกเริ่มครึ่งหลังได้แป๊บเดียว

นักเตะกุหลาบไฟยังไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัวดีเลย

แล้ว นานี ก็ยิงลูกที่ 5

แล้ว เบอร์บาตอฟ เจ้าเก่า ก็ยังไม่หนำใจ ซัดลูกที่ 6 ซึ่งเป็นลูกที่ 4 ของตัวเองในเกมนั้น

"ย.โย่ง" เอกชัย นพจินดา "คัมภีร์ฟุตบอล" ผู้ล่วงลับ เคยบอกว่า ลูกที่ 4 ถัดจากแฮททริกนั้น เรียกว่า " ไฮดรอลิก "
(ถ้าคนเดียว ยิง 5 ลูกขึ้นไปจะเรียกว่า "ออโตเมติก")

และแล้ว ช่างเหมาะเหม็งเหลือเกิน...นาทีที่ 70 ยูไนเต็ด ก็ได้ลูกที่ 7 นำห่างสุดกู่ 7-0

กุหลาบไฟ ได้ 1 ลูกปลอบใจ จากคริสโตเฟอร์ แซมบ้า ในช่วงท้ายๆเกม

จบเกม แบล๊คเบิร์น พ่ายแพ้กลับอีวู้ดปาร์ค อย่างเละเทะที่สุด บอบช้ำสุดๆ

ไม่เหลือลาย หรือแวว ของอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัยเลย

แต่...หลังจากวันนั้น พวกเขา ก็กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง!

และผมเชื่อว่า สเปอร์ ก็จะกลับมาแข็งแกร่งเช่นกัน

ฉะนั้น ความเจ็บช้ำที่ผ่านมา จงปล่อยให้มันผ่านพ้นไป

อย่าให้มันเกาะกินใจของคุณให้เศร้าหมองหดหู่

ยิ้มเถิดครับ วันแห่งชัยชนะ รอเราอยู่ข้างหน้า

จาก แฟนกุหลาบ ที่เคยโดนยำ เคยชอกช้ำ มากกว่าคุณมาแล้วครับ

แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 10:51:29

แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 10:50:08

แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 54 10:27:28

จากคุณ	: พฤษภเสารี
เขียนเมื่อ	: 31 ม.ค. 54 10:23:37