สัญญาณดีๆ จากชัยชนะของชลบุรีที่มีต่อเมืองทองในนัดชิงถ้วย ก. ปี 2554
|
 |
1. รูปแบบของเกมส์การเล่นของทั้งสองทีม ที่พัฒนาจากเมื่อก่อนอย่าง
เห็นได้ชัด ซึ่งการจ่ายบอลเสียเองเหมือนเมื่อก่อนจะไม่มีแล้ว หรือมีแต่ก็
น้อยลงมาก ซึ่งการเสียการครอบครองบอล ของฟุตบอลไทยสมัยก่อนจะ
อยู่ในรูปแบบ ผู้เล่นก่อให้เกิดความผิดพลาดเอง เช่น จ่ายให้เพื่อนสั้นไป
จ่ายให้เพื่อนยาวไป หรือถ้าคิดอะไรไม่ออกก็โยนโด่งให้เพื่อน
ไปแย่ง50-50 เอาเอง รวมถึงการจ่ายบอลให้เพื่อนเล่นยาก คิดแต่ส่งบอล
ให้พ้นๆตัว ไม่มีการคิดล่วงหน้า หนึ่งสเตป หรือ 2สเตป เหมือนที่ชลบุรีและ
เมืองทองแสดงให้เห็นเมื่อวานนี้ ซึงนั่นทำให้บอลฟุตบอลไทยสมัยก่อนดูน่าเบื่อ และชวนหงุดหงิดใจ เป็นที่สุด
แต่เมื่อวานนี้ การเสียบอลลักษณะนี้ มีให้เห็นน้อยลง สิ่งที่ชลบุรีและเมืองทองแสดงให้เห็นเมื่อนัดชิงถ้วย ก. ที่ผ่านมา ก็คือ การเปลี่ยนสิทธิ์การ
ครอบครองบอล ส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะมาจากการสกัดกั้น และการแย่งโดยการเพรสซิ่ง บีบพื้นที่จากเท้าคู่ต่อสู้
จะรอให้ทีมคู่ต่อสู้ต่อบอลเสียเองเพื่อที่เราจะได้ครอบครองบอล นั้นเท่ากับรอความพ่ายแห้อย่างเดียวแน่นอน
นั่นแสดงให้เห็นว่าถ้าทีมคุณไม่ไปแย่งบอลมาจากเท้าผู้ต่อสู้โอกาสที่จะได้ครอบครองบอลของทีมคุณจะมีน้อยมาก
เพราะการต่อบอลของทีมคู่ต่อสู้จากเท้าสู่เท้ามีความแม่นยำ และโอกาสที่จะทำบอลเสียเองมีน้อยมาก
นั่นเพราะความเข้าใจในเกมส์การเล่นของผู้เล่นในปัจจุบัน ที่ดีขึ้น ต่างคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ซึ่งเครดิตทั้งหมดต้องขอมอบให้กับ ผู้ฝึกสอนและนักฟุตบอลทุกคนในปัจจุบัน
2. ชลบุรี ทีมที่ใช้นักเตะไทยเป็นแกน10คน บวกผู้เล่นที่มาจาก J3
อย่างอูชิดะ แค่คนเดียว เอาชนะทีมที่ใช้ผู้เล่นต่างชาติที่ถือว่ามีดีกรีและ
คุณภาพที่สุดลงครบโควต้า 5 คนในเมืองไทยอย่างทีมเมืองทอง ได้อย่างขาดลอย
นั่นแสดงให้เห็นว่าแนวทาง และวิสัยทัศน์ของชลบุรี ที่ส่งเสริมผู้เล่นวัยรุ่นที่
เป็นนักเตะไทย เป็นสิ่งที่น่าปลาบปลื้มใจ และสัมผัสได้จริงๆ และน่าส่งเสริม
วิสัยทัศน์เหล่านี้ไปยังทุกทีมในเมืองไทย มันจะดีแค่ไหนถ้า วันหนึ่งข้างหน้า
เรามีโอกาสที่จะเห็นผู้เล่นที่มีอายุ 16 -17 ปี และเป็นสตาร์เล่นของทีม
ลงวาดลวดลาย ในไทยลีค พร้อมด้วยพรสวรรค์ อันเอกอุ และน่าตื่นตาตื่นใจ เป็นที่โจษจันไปทั่วเอเชีย หรือ ทั่วโลก ก็อาจเป็นไปได้
3.ระบบการบริหารจัดการทีมของชลบุรีที่เป็นระบบ ไม่มีการแทรกแซงจากกลุ่มนายทุน
หรือพูดง่ายๆก็คือ สิ่งที่ชลบุรีแสดงให้เห็นนั้นดูมีคลาสและเป็นมืออาชีพค่อนข้างที่จะเด่นชัด
ซึ่งในอดีตนั้นผู้จัดการทีมในเมืองไทย ไม่ได้หมายถึงผู้ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จอย่าง อเล็ก เฟอกูสัน หรือคิงเคนนี่ เป็นอยู่
ที่เขาสามารถ เลือกซื้อตัวผู้เล่น ที่อยากได้ ขึ้นบัญชีขายตัวผู้เล่นที่ไม่เข้าระบบ วางแผนการควบคุมการซ้อม และวางแผนในการแข่งขันแต่ละMatch
หากแต่เป็นคนที่จ่ายตังค์ให้เงินเดือนนักเตะ หรือไม่ก็เป็นนอมินีให้นายทุน เพื่อที่จะจัดทีมตามความต้องการของตัวนายทุนเอง
ทั้งๆที่ตัวนายทุนไม่มีความรู้ความเข้าใจในการคุมทีมฟุตบอลอย่างแท้จริง
เสมือนหนึ่งว่านี่กุกำลังคุมทีมของกุเองเล่นในเกมส์ FM สนองตัณหาตัวเองไปวันๆ ใครจะทำไม
ซึ่งนั่นทำให้ผู้ฝึกสอน ที่ควรที่มีหน้าที่จริงๆเป็น ผู้จัดการทีม
มีแค่ชื่อตำแหน่งเป็นแค่ หัวหน้าโค้ช แทนที่จะมีคำนำหน้าว่า ผู้จัดการทีม
เกิดความรู้สึกว่าโดนแทรกแซงการทำงาน อันนำไปสู่การขัดแย้งกับนายทุน และ ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนผู้ฝึกสอนอยู่เรื่อยๆ (ก็เงินของกุ ทีมของกุ ไม่ทำตามใจกุเมิงก็อยู่ไม่ได้)
เหมือนการนับเลข ที่มักวนมาเริ่มต้นที่1 เสมอ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่เรา จะนับถึงร้อยถึงพันซักทีล่ะ
แต่สิ่งที่ชลบุรีกำลังทำ ให้เป็นต้นแบบต่อไปจากวันนี้นั่นก็คือการปลดแอกทั้งหลายทั้งปวง และเป็นการนำทีมเข้าสู่การเป็นทีมอาชีพมากกว่าทีมใดๆ
ในเมืองไทย ด้วยการแต่งตั้งผู้จัดการทีมของจริง ผู้จัดการทีมที่มีหน้าที่ควบ
คุมหางเสือทุกอย่างของทีมจริงๆ ตั้งแต่การเลือกทิศทางการพัฒนาของทีม
ตั้งแต่ทีมเยาวชน การเลือกซื้อตัวผู้เล่น การวางแผนฝึกซ้อมและแข่งขัน
เหมือนที่อารยประเทศเค้าทำกัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ดีในวงการ
ฟุตบอลเมืองไทยที่สามารถสัมผัสได้
ก็ได้แต่หวังว่าทุกทีมในเมืองไทยจะนำ การบริหารจัดการของชลบุรี
ไปเป็นแบบอย่าง
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อเป็นการปู รากฐานให้กับทีมชาติไทยต่อไปในอนาคต
เพื่อที่เราจะได้มีทีมชาติที่มีความแข็งแกร่ง และคนไทยได้ได้มีความอิ่มเอิบใจทุกครั้งที่เชียร์ทีมชาติไทยในแต่ละ Match ที่ลงแข่งขัน
ไม่ใช่เหมือนทุกวันนี้ที่มีแต่ความหดหู่ใจที่ได้ดูได้เชียทุกครั้ง ที่ทีมชาติของตัวเองลงเล่น
ทั้งสามข้อที่กล่าวมานี้เป็นแค่ความเห็นส่วนบุคคลนะครับ อาจจะไม่ถูกใจใครบ้างก็ขออภัยในโอกาสนี้ครับ
ปล. ผมเองก็เป็นแฟนเมืองทอง ครับแต่นี่เป็นความรู้สึกจริงๆ จากแฟนเมืองทองคนหนึ่งที่มีต่อฟุตบอลไทยในปัจจุบันครับ
| จากคุณ |
:
Move_77 
|
| เขียนเมื่อ |
:
31 ม.ค. 54 11:20:42
|
|
|
| 
