 |
Q - ตอนคุณมาร่วมทีมยูไนเต็ด ทีมที่คุณตามเชียร์ คุณนึกภาพออกมามั้ยคุณจะเล่นให้ทีมมากถึง 600 เกม ? GN - ไม่เลย ตอนที่มาร่วมทีมผมมีความสุขแล้วหากได้เล่นสัก 10 นัด ถ้าคุณบอกว่าผมจะได้เล่น 600 นัดที่นี่ ผมคงบอกว่า - ไม่มีทาง - ผมคิดว่าคงมีไม่กี่คนหรอกที่จะพูดแบบนั้นตอนผมมาร่วมทีมครั้งแรก ผมอยู่ศูนย์เยาวชนมาตั้งแต่อายุ 11 และผมเห็นนักเตะเก่งๆ หลายคน ทั้ง เบน ธอร์นลี่ย์, เดวิด เบ็คแฮม, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, นิคกี้ บัตต์, คริส แคสเปอร์, คีธ กิลเลสพี พวกนี้เก่งๆ กันทั้งนั้น ผมมองไปรอบๆ และคิดกับตัวเองว่า - นี่เราจะเก่งสู้พวกนี้ได้มั้ย - ผมรู้ว่าผมสุ้พวกเขาไม่ได้ แต่เราลุยมาด้วยกัน พวกเรามีความเชื่อมั่น มีความปรารถนาที่จะเล่นให้ ยูไนเต็ด เราอยากทำมันให้ได้ และเราเชื่อฟังโค้ชเป็นอย่างดี เรามีโค้ชเก่งๆ อย่าง อีริค แฮร์ริสัน, น็อบบี้ สไตล์ และ ไบรอัน คิดด์ เราเป็นหนี้พวกเขาเยอะ พวกเขาสั่งสอนเรา เราก็แค่ลงไปเล่น และทำแบบที่พวกเขาบอก เราเชื่อในหลักการที่พวกเขาสั่งสอนเรา จากนั้นก็ผู้จัดการทีม ที่มาอยู่กับทีมได้ 6-7 ปีแล้ว เขามีเป้าหมายในการที่จะดึงนักเตะเยาวชนขึ้นมา เขาให้โอกาสเรา มันเป็นสิ่งที่คุณคงจินตนาการไม่ออกหรอก แต่มันเป็นจริง และพอคุณอยู่ในนั้น คุณคิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นไปตลอดกาล คุณชอบมัน มันสุดยอด มันมีขึ้นมีลง แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่วิเศษ และประสบการณ์ที่ผมได้รับมันช่างน่าเหลือเชื่อ สิ่งที่ดีที่สุดคงเป็นความสัมพันธ์ที่ผมมีกับผู้คนที่นั่น มันคือมตรภาพที่ยิ่งใหญ่จากการที่ผมไปทำงานทุกวัน หลายๆ คนในประเทศนี้ทำงาน และพวกเขาไม่มีความสุข ผมโชคดีที่มีความสุขกับทุกอย่างตลอด 20 ปีมานี้ ผมโชคดีมากที่ได้อยู่ในจุดนั้น
Q - คุณรู้บ้างมั้ยว่า "คลาสส์ ออฟ 92" จะเป็นกลุ่มนักเตะที่ยอดเยี่ยม ? GN - ตอนเราอายุ 16-17 ปีผมก็ไม่คิดหรอก พออายุ 18 ปีมันมีตัวบ่งชี้อยู่ 1-2 อย่าง ไบรอัน ร็อบสัน พูดอย่างเปิดเผยว่า เขาจะแปลกใจมากถ้าหากพวกเราไม่ได้เป็นนักเตะระดับหัวแถว จากนั้นเจ้านายก็ให้เราเล่นนัดแรก ดึงเรามาเล่นทีมชุดใหญ่ พาเราเดินทางไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเล่นฟุตบอลยุโรป อีริค แฮร์ริสัน บอกเราว่า เราได้โอกาสแล้ว และมันทำให้คุณมีความมั่นใจ ความมั่นใจสุดๆ เกิดขึ้นเมื่อคุณได้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และคุณเข้าใจว่าคุณสามารถสู้ในเกมระดับนั้นได้ เพราะคุณต้องฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ตลลอดเวลา แต่ครั้งแรกที่คุณเล่นทีมชุดยู-17 คุณไม่รู้อะไรเลย พอเราอายุ 18 ปี และมีคน 1,500 คนมาดูเราตอนเช้าในทีมเอ และมีทีมชุดใหญ่ดูอยู่ข้างหลัง ความคิดของคุณคือ - มันต้องมีอะไรสักอย่างถูกต้องที่นี่ - ผมว่าเรามีเกมฟุตบอลที่วิเศษ ถ้าหากคุณเอาเอาตัวเลขทั้งหมดมารวมกัน ทั้งจำนวนที่เล่นทีมชาติ จำนวนเกมที่ลงสนาม และ เหรียญรางวัลจากทีมเยาวชนชุดนั้น ผู้คนพูดถึง ร็อบบี้ ซาเวจ แต่เขาเป็นคนหนึ่งที่ควรภูมิใจ ความมุ่งมั่น และ แรงปรารถนา ที่ยั่วโมโหผู้คน แต่มันจากทีมเยาวชนชุดนั้นที่เขายังเล่นฟุตบอลอยู่ในวัย 35-36 ปี คีธ กิลเลสพี ก็ยังเล่นอยู่เหมือนกัน
Q - แล้วมันถึงจุดสิ้นสุดยุคแห่งความรู้สึกนั้นหรือยัง ? GN - ผมไม่รู้เหมือนกัน คุณคิดแค่ว่ายุคใหม่เริ่มต้นแล้ว ข้างล่างของเรามีชั้นอยู่ข้างใต้ ตอน เดนิส เออร์วิน และ รอย คีน ออกไป มันก็มีความรู้สึกว่าถึงจุดสิ้นสุดแห่งยุคแล้ว จากนั้นผม, กิ๊กซี่, สโคลซี่ และ เอ็ดวิน ก็พาทีมไปสู่ชั้นต่อไป ตอนนี้ ข้างล่างของเรามี เนมานย่า วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, จอห์น โอเช และ เวย์น รูนี่ย์ อยู่ พวกเขาจะก้าวขึ้นมา สายพานไม่มีช่องว่าง ผู้จัดการทีมสร้างทีมที่มีหลายๆ ชั้น ด้วยประสบการณ์ตั้งแต่นักเตะอายุ 17 ปี ไปจนถึงนักเตะประสบการณ์อายุ 37 ปี เมื่อคนเก่าถึงเวลาเลิกเล่น คนอื่นก็ก้าวขึ้นมา และพวกเขาจะกลายเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ ตอน รอย ย้ายออกไป คุณคิดว่าเราคงไม่มีทางทดแทนคาแรคเตอร์ และนักเตะแบบนั้นได้ แต่มันเกิดขึ้นในทางที่แตกต่างไป คุณไม่มีทางทดแทนกันแบบตัวต่อตัว แต่คุณชดเชยมันในทางที่แตกต่างไป และมันจะเกิดขึ้นอีกเมื่อ สโคลส์ และ กิ๊กส์ ออกไป ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคุณจะทดแทนนักเตะทั้ง 2 คนนั้นได้ยังไง มันยากมาก พวกเขาเป็นนักเตะพิเศษ ผู้จัดการทีมก็ด้วย แต่สโมสรจะดำเนินต่อไป มันเป็นแบบนี้ตลอดประวัติศาสตร์ของเรา นักเตะคนอื่นจะก้าวขึ้นมารับผิดชอบแทน ผมเชื่อแแบบนั้น มันต้องเป็นแบบนั้น เพราะสโมสรต้องประสบความสำเร็จ
จากคุณ |
:
Snyag
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.พ. 54 21:53:42
|
|
|
|
 |