 |
ยังฮีโร่!ซัดช่วยสิงโตบุกเฉือนเดนส์2-1 10/02/2011 4:17:33
"สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ ยกพลไปอุ่นเครื่องกับ ทีมชาติเดนมาร์ก เกือบแย่โดนเจ้าถิ่นทำประตูออกนำไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ ดาร์เร็น เบนท์ จะซัดประตูตีเสมอได้ทันควัน และเป็น แอชลี่ย์ ยัง ที่ลงมาเป็นตัวสำรองซัดประตูชัยในช่วงครึ่งหลัง ช่วยให้อังกฤษบุกมาคว้าชัยได้อย่างหวุดหวิด
ฟุตบอลกระชับมิตร วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 เดนมาร์ก 1 - อังกฤษ 2 สนาม : พาร์เคน สเตเดี้ยม
เกมนี้ กุนซือมอร์เท่น โอลเซ่นส่งขุนพลที่หากินในเมืองผู้ดีลงบู๊ห้ารายอันได้แก่โธมัส โซเรนเซ่น ,ดาเนี่ยล แอ็คเกอร์, คริสเตียน โพลเซ่น, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น และนิคลาส เบนด์เนอร์
ส่วนสิงโตคำรามที่มีสตาร์ดังถอนตัวไปหลายรายปรับทัพมากถึงเก้าหน่อ จากนัดล่าสุดที่พ่ายฝรั่งเศสคาเวมบลีย์เมื่อเดือนพ.ย.เหลือแค่ธีโอ วัลค็อตต์กับเจมส์ มิลเนอร์เท่านั้น
นอกจากแฟร้งค์ แลมพาร์ดจะได้รับภาระเป็นกัปตันทีมหนแรกแล้ว แจ็ค วิลเชียร์กองกลางวัย 19 ปีก็ได้เล่นเป็นตัวจริงเกมแรกเช่นกันโดยเวย์น รูนีย์ได้จับคู่เป็นกองหน้ากับดาร์เรน เบนท์ตามคาด สำหรับแอชลีย์ โคลกลายเป็นแบ็คซ้ายที่ได้รับใช้ชาติมากที่สุด 87 นัด
นาทีที่ 7 เจ้าถิ่นขึ้นนำอย่างรวดเร็วจากลูกเปิดทางกราบขวาของ คริสเตียน เอริคเซ่น บอลมาถึง แดเนียล แอ็กเกอร์ ลอยตัวขึ้นโขกตรงกลางประตูส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย เดนมาร์ก ออกนำ 1-0
แต่ทีมเยือนตามตีเสมอทันควันในนาทีที่ 9 ด้วยจังหวะล่อหลอกของ ธีโอ วัลค็อตต์ ที่โยกจน ไซม่อน โพลเซ่น หลงก่อนผ่านบอลมาหน้าประตูให้ ดาร์เร็น เบนท์ แปง่ายๆเข้าไป อังกฤษตามมาเป็น 1-1
เจ้าบ้านมีโอกาสทำประตูขึ้นนำอีกครั้งในนาทีที่ 33 คริสเตียน เอริคเซ่น มีโอกาสได้สับด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษ โจ ฮาร์ท พยายามบินสุดตัวเพื่อป้องกันยังดีที่บอลชนเสาเสียก่อน
นาทีที่ 41 วัลค็อตต์ จ่ายบอลให้ แลมพาร์ด ยิงด้วยลูกไขว้เข้าประตูไปแต่ผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน เวลาที่เหลือไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้หมดครึ่งแรก เดนมาร์ก เสมอกับ อังกฤษ 1-1 ต้องมาตามต่อในช่วงครึ่งหลัง
ครึ่งหลังอังกฤษถอดรูนีย์ , วิลเชียร์ และแลมพาร์ดออกส่งแกเร็ธ แบร์รี่ , สก็อตต์ พาร์เกอร์ และแอชลีย์ ยังลงเล่นโดยที่แอชลีย์ โคลได้เป็นกัปตัน ขณะที่เจ้าถิ่นใช้งานดาเนี่ยล วาสส์กับซิงมง เคียร์
ผ่านมาหกนาที ทีมเยือนน่าจะขึ้นนำจากลูกโยนทางกราบขวาของยังที่เข้าหัวของเบนท์ในระยะเผาขน แต่โซเรนเซ่นผวาปัดได้อย่างเฉียดฉิว
จากนั้นในนาทีที่ 60 ทั้งคู่ก็เปลี่ยนผู้เล่นอีกโดยทีมโคนมส่งไมเคิ่ล ซิลแบร์บาวเออร์ลงไปแทนลาร์ส ยาค็อบเซ่น ขณะที่ทรี ไลอ้อนส์ใช้งานแกรี่ เคฮิลล์แทนไมเคิ่ล ดอว์สัน
ตลอดครึ่งหลัง อังกฤษเดินเกมรุกได้ดีกว่า ทว่านาทีที่ 64 เกือบเสียท่าให้เจ้าบ้านเมื่อเอริคเซ่นหลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วตอกส้นคืน ให้รอมเมห์ดาลตามมาแปเน้นๆถูกฮาร์ททิ้งตัวตะปบได้สำเร็จ
นาทีที่ 68 อังกฤษถอดวัลค็อตต์ออกให้สจ๊วร์ต ดาวนิ่งลงไปแทน และนาทีเดียวกันนี้เกล็น จอห์นสันก็บุกขึ้นสูงมาแย่งบอลได้ก่อนจะไหลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ยังแปเข้า เสาแรกพาสิงโตคำรามนำ 2-1
พอตกเป็นรอง เดนมาร์คก็เปลี่ยนตัวทันทีโดยมีนิคลาส พีเดอร์เซ่นได้เสียบแทนไมเคิ่ล โครห์น เดห์ลี แต่ทีมเมืองผู้ดีเน้นครองบอลเอาไว้จวบจนหมดเวลาจึงกำชัยกลับบ้านไปด้วยสกอร์ 2-1
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เดนมาร์ก : โธมัส โซเรนเซ่น, แดเนียล แอ็กเกอร์, มาติส แซนก้า ลอเยนเซ่น, ซิมอน โพลเซ่น, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, คริสเตียน โพลเซ่น, วิลเลี่ยม ควิสต์, ไมเคิ่ล โครห์น เดห์ลี, เดนนิส รอมเมดาห์ล, นิคลาส เบนท์เนอร์, คริสเตียน เอริคเซ่น สำรอง : อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, แมดส์ จันเกอร์, แคสเปอร์ โลเรนต์เซ่น, ไมเคิ่ล ซิเบอร์บัว, ไซม่อน เชียร์, นิคลาส พีเดอร์เซ่น, โธมัส เอเนโวลด์เซ่น, ลาสส์ โชเน่, มาร์ติน วินการ์ด, แดเนียล วาสส์ อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, จอห์น เทอร์รี่, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, แอชลี่ย์ โคล, เกล็น จอห์นสัน, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, แจ็ค วิลเชียร์, เจมส์ มิลเนอร์, ธีโอ วัลค็อตต์, ดาร์เร็น เบนท์, เวย์น รูนี่ย์ สำรอง : โรเบิร์ต กรีน, โจลีออน เลสคอตต์, สกอตต์ พาร์คเกอร์, เจอร์เมน เดโฟ, คาร์ลตัน โคล, สจ๊วต ดาวนิ่ง, เดวิด สต็อคเดล, แอชลี่ย์ ยัง, แกรี่ เคฮิลล์, คาล์ย วอลเกอร์ ผู้ตัดสิน : โยนัส อีริคส์สัน (สวีเดน)
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110210_035.html
ฝรั่งเศส 1 - บราซิล 0 ฮอลแลนด์ 3 - ออสเตรีย 1
จากคุณ |
:
s_manavvan
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ก.พ. 54 05:44:06
|
|
|
|
 |