ความคิดเห็นที่ 1 ประวัติความเป็นมาของเมือง Liverpool เมืองและท่าเรือของเมืองลิเวอร์พูล เป็นหลักฐานที่ยอดเยี่ยมที่แสดงให้เห็นถึงร่อยรอยการพัฒนาการค้าขายในศตวรรษที่18และ19 และแสดงถึงการเติบโตของสหราชอาณาจักร ลิเวอร์พูลเป็นเมืองตัวอย่างของการค้าขายที่ยอดเยี่ยมที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาการค้าโลกและการเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมทั่วดินแดน Britishในยุคแรก ทั้งยังเป็นเมืองหลักที่เป็นศูนย์กลางในการคิดค้นเทคโนโลยี และขั้นตอนการก่อสร้างท่าจอดเรือ และการจัดการท่าเรือในศตวรรษที่18 และ19 หกพื้นที่ศูนย์กลางในประวัติศาสตร์ และเมืองท่าเรือของลิเวอร์พูล เป็นหลักฐานในการพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าหลักของโลกในศตวรรษที่ 18-19 ด้วยที่ตั้งของท่าเรือ เรือเดินทะเลขนาดใหญ่ออกจากลิเวอร์พูลในปี 1840 จากวันนั้นเมืองนี้ก็ได้กลายมาเป็นฐานในการเชื่อมต่อระหว่างยุโรปและอเมริกา และยังเป็นท่าเรือหลักในการอพยพผู้คน ท่าเรือนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการค้าทาสจนถึงยุคเลิกทาศในปี 1807 และสำหรับการอพยพจากยุโรปเหนือไปยังอเมริกา คนกว่าพันคนจากทั่วยุโรปล้อมเข้ามาที่ท่าเรือนี้เพื่อย้ายถิ่นฐานไปยังโลกใหม่ ลิเวอร์พูลเป็นเมืองบุกเบิกในการพัฒนาเทคโนโลยีท่าจอดเรือแบบสมัยใหม่, ระบบขนส่ง และการจัดการท่าเรือ มีจำนวนตัวเลขของการค้าขายเป็นจำนวนที่สูง มีสิ่งก่อสร้างทั้งของรัฐและเอกชนรวมไปถึง St George's Plateau บรรยากาศของเบื้องหน้าทะเลของเมืองลิเวอร์พูลครั้งหนึ่งเคยต่างจากในปัจจุบัน ริมแม่น้ำที่ที่เป็นที่นิยมของโลก ปัจจุบันนี้ได้ตั้งรับคลื่นที่พัดพามาจาก ปากแม่น้ำ Mersey เกิด เป็นสระน้ำขึ้นใหม่จนกลายเป็นที่มาของชื่อเมือง แม่น้ำ Mersey ไหลสู่ทะเลไอริช และความสัมพันธ์ทางภูมิศาสตร์นี้ทำให้เกิดการขนส่งทางทะเลครั้งแรกในยุคของ King John ผู้ก่อตั้ง กฏการเช่าสัมปทาน เมืองลิเวอร์พูลใน ปี 1207 The Pool เป็นท่าจอดเรือที่นิยมที่สุดสำหรับใช้จอดเรือ คณะกรรมการการปกครองเมืองด้วยตัวเอง ได้เสนอต่อรัฐสภา แนะนำให้ก่อตั้งท่าเรือการค้าแรกของโลกในปี 1715 ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:16:57

ความคิดเห็นที่ 2 ประวัติ(ต่อ) การพัฒนาการค้าทางทะเลครั้งนี้ได้ทำให้เป็นผู้นำการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่น sail-makers, blacksmiths, riggers และ basket-makers. ความเจริญของเมืองลิเวอร์พูลเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นในศตวรรษที่ 19 การเติบโตของประชากรจาก 78,000 ในปี 1801 เพิ่มมาเป็น 685,000 ในปี 1901 เมืองปกครองตัวเองลิเวอร์พูลได้เปลี่ยนสถานะมาเป็นเมืองในปี1888 และในต้นศตวรรษที่ 20 ได้ถูกขนานนามว่าเป็น สหราชอาณาจักรที่สอง ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่งลิเวอร์พูลประสบภัยเศรษฐกิจตกต่ำ คณะกรรมการของเมืองยังคงซ่อมแซมการก่อสร้างถนน East Lancashire และอุโมง Mersey Queensway อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในตอนนั้นได้เป็นอุโมงใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลก ลิเวอร์พูลถูกระเบิดหนักกว่าเมืองอื่นๆในยุโรปในสงครามโลกครั้งที่สอง และถูกทำลายไปเกือบหมด ในช่วงสงครามขบวนทหารกว่าพันขบวนเข้ามายังลิเวอร์พูล และเมืองก็ถูกตั้งให้เป็นกองบัญชาการสงคราม Atlanticในปี1941 หลังยุคสงครามได้มีสิ่งก่อสร้างใหม่เข้ามาแทนที่ในปี 1950  ลิเวอร์พูลจากที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองท่าสำคัญอันดับที่สองของสหราชอาณาจักร เป็นแหล่งสำคัญในการนำเข้าและส่งออกสินค้า  เป็นแหล่งการขนส่งโดยสารที่สำคัญ แต่ในตอนปลายศตวรรษที่ 20 กลายเป็นช่วงเวลาแห่งการว่างงานและการพยายามฟื้นฟูเมืองอันรุ่งเรือง ระบบท่าเรือที่ถูกพัฒนาอีกครั้ง ท่าเรือ The Albert and Wapping ก็ได้คืนชีพและดึงดูดนักท่องเที่ยว และเป็นศูนย์กลางการค้าปลีก และการก่อตั้งทางเข้าออกท่าเรือใหม่ที่ Canning ทำให้เกิด เทศกาล The Tall Ships and Mersey River ในปี 1980 และ 1990 เป็นสิ่งที่ไม่ควรลืมเลือน เฉกเช่นเดียวกับที่ลิเวอร์พูลเป็นหัวใจของการพัฒนาเครื่องดนตรีในปี 1960. จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:18:05

ความคิดเห็นที่ 3 เมืองลิเวอร์พูลกับการก้าวเป็นมรดกโลก ลิเวอร์พูลเป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ โดยได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกใน ค.ศ. 2004 ในประเภท Maritime Mercantile City World Heritage Siteโดยผ่านเกณฑ์ถึง 3 ข้อ ได้แก่ เกณฑ์ในข้อ (ii) ลิเวอร์พูลเป็นศูนย์กลางการสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ และยังเป็นเมืองที่มีการสร้างท่าเรือรวมถึงการจัดการการท่าได้เป็นอย่างดีในศตวรรษที่ 18-19 เป็นเหตุทำให้ระบบเศรษฐกิจของเครือจักรภพอังกฤษมีความเจริญมากยิ่งขึ้น เกณฑ์ในข้อ (iii) เมืองลิเวอร์พูลและการท่าเรือเป็นหลักฐานที่แสดงถึงวัฒนธรรมการค้าขายที่สำคัญของเครือจักรภพอังกฤษในศตวรรษที่ 18-19 และเป็นส่วนร่วมสำคัญในการสร้างจักรวรรดิอังกฤษ และยังเป็นศูนย์กลางสำคัญในการค้าทาสแต่ได้ถูกยกเลิกไปในปี ค.ศ 1807 เกณฑ์ในข้อ (iv) ลิเวอร์พูลเป็นตัวอย่างของเมืองท่าอันโดดเด่น ในด้านการค้าขาย ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการค้าที่มีผลไปทั่วโลก และการเชื่อมต่อวัฒนธรรมของอังกฤษไปสู่วัฒนธรรมอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนี้แล้ว ในปี ค.ศ. 2008 ลิเวอร์พูลได้รับการโหวตให้เป็น European Capital of Culture อีกด้วย จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:19:14

ความคิดเห็นที่ 4 ลักษณะภูมิศาสตร์ของเมือง Liverpool เมือง Liverpool ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษทางตอนเหนือ มีพิกัด ภูมิศาสตร์คือ 53°24′0″N, 3°0′0″W และเมืองลิเวอร์พลู เป็นเมืองท่าที่อยู่ติดกับปากแม่น้ำ เมอร์ซี่ย์ Liverpool นั้นเป็นเมืองท่าสำคัญที่เป็นประตูออกไปสู่โลก โดยเฉพาะฝั่งอเมริกา สโลแกนของเมืองก็คือ Gateway to the world จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:19:50

ความคิดเห็นที่ 5 สิ่งที่น่าสนใจในด้านต่างๆของเมือง Liverpool นอกจากความเป็นเมืองมรดกโลก ได้แก่ สโมสรฟุตบอล ซึ่ง สโมสรฟุตบอล ของเมืองนี้ จะมี อยู่ 2 สโมสร คือ Liverpool FC และ Everton ประวัติคร่าวๆของสโมสร Liverpool FC คือ สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (อังกฤษ: Liverpool Football Club) เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษลิเวอร์พูลครองแชมป์ดิวิชั่น 1 ถึง 18 ครั้ง ครองแชมป์ยูโรเปียนคัพ 5 ครั้ง ก่อตั้งใน วันที่ 15 มีนาคม ปี พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14 มีฉายาในภาษาไทยว่า "หงส์แดง" พร้อมด้วยคำขวัญ "You'll Never Walk Alone ประวัติคร่าวๆของสโมสร Everton คือ สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เป็นสโมสรฟุตบอลหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1878 เป็นสโมสรที่มีประวัติอันยาวนานมากที่สุดสโมสรหนึ่งในอังกฤษ ลงเล่นลีกสูงสุดถึง 103 ฤดูกาล (จาก 107 ฤดูกาล) และเคยชนะด้วยคะแนนมากที่สุดในลีกสูงสุดของประเทศเอฟเวอร์ตันเป็นคู่ปรับร่วมเมืองของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล สนามประจำทีมเอฟเวอร์ตันชื่อ กูดิสัน พาร์ค ซึ่งห่างจากสนามของลิเวอร์พูลเพียงแค่สวนสาธารณะกั้น แฟนบอลชาวไทยตั้งฉายาให้ว่า ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ปัจจุบันอยู่ภายใต้การทำทีมของเดวิด มอยส์ จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:21:06

ความคิดเห็นที่ 6 นอกจากสโมสรฟุตบอลที่ขึ้นชื่อลือชาแล้ว เมือง ลิเวอร์พลู ยังเต็มเปี่ยมไปด้วย ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม อันมากมายหลายหลาก เป็นรองแค่เมืองลอนดอนเท่านั้นเอง และ ในหมวดหมู่ของศิลปะนั้น จะไม่กล่าวถึง ศิลปินผู้ที่ทำให้เมืองนี้โด่งดังไปทั่วโลกคงไม่ได้ นั่นคือ The Beatles (4เต่าทอง) นั่นเอง สำหรับประวัติของ วงดนตรีวงนี้คือ   เป็นวงร็อกแอนด์โรลจากเมืองลิเวอร์พูลในยุค 1960 เป็นหนึ่งในกลุ่มนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดและมีบทบาทอันโดดเด่นอย่างมากในประวัติศาสตร์ดนตรีป๊อป สมาชิกของวงนับจากปี ค.ศ. 1962 ประกอบด้วย จอห์น เลนนอน (ริทึมกีตาร์, ร้องนำ), พอล แม็คคาร์ตนีย์ (เบสกีตาร์, ร้องนำ),จอร์จ แฮรริสัน (ลีดกีตาร์, ร้องนำ) และ ริงโก สตารร์ (กลอง, ร้องนำ) แม้ในตอนเริ่มต้นแนวดนตรีจะเป็นแบบสกิฟเฟิลและร็อกแอนด์โรล แต่ในเวลาต่อมาแนวเพลงก็หลากหลาย นับแต่โฟล์คร็อกไปจนถึงไซเคเดลิคป๊อป บางครั้งก็ผสมแนวดนตรีคลาสสิกหรือเครื่องดนตรีแบบอื่นๆ ที่แปลกแหวกแนว เดอะบีตเทิลส์ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในช่วงปี 1963-1969 เป็นวงที่ถือสถิติเพลงอันดับ 1 มากที่สุดทั้งในอังกฤษและอเมริกา (ในอังกฤษ 17 ซิงเกิ้ลในอเมริกา 20 ซิงเกิ้ล) ส่วนอัลบั้ม วงเดอะบีตเทิลส์ ถือเป็นวงดนตรีที่ขายดีที่สุดในโลก คือขายไปมากกว่า 480,000,000 ก๊อบปี้ แล้ว ราว 166 ล้าน เป็นยอดขายเฉพาะในอเมริกา ในยุคต้นของพวกเขา มีเพลงดังอย่าง She Loves You, Twist And Shout, I Want To Hold Your Hand, Please Please Me ในยุคที่ 2 ในชุด Help, Rubber Soul หรือ Revolver และผลงานอยู่ในช่วงพีคสุดอย่าง Sgt.Pepper Lonely Heart Club Band, Magical Mystery Tour และ White Album ก่อนที่จะจบลงด้วย 2 อัลบั้มสุดท้ายอย่าง Let It Be และ Abbey Road บุคคลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เป็นเหมือนจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายหรือสารเคมีที่ทำให้ผลงานอันยอดเยี่ยมที่กล่าวมานี้สมบูรณ์แบบเป็นอมตะ ต้องยกให้กับโปรดิวเซอร์ของวงอย่าง จอร์จ มาร์ติน ผู้ที่อยู่เคียงข้างเหล่าสี่เต่าทองตั้งแต่เริ่มเรียนรู้วิธีการเขียนเพลงและการทำงานให้ห้องบันทึกเสียง จนสมาชิกในวงกลายเป็นนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ของโลกกันหมด แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 05:22:45 จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:22:09

ความคิดเห็นที่ 7 นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ Merseyside Maritime Museum ในบริเวณ Albert Dock ยังมีการแสดงประวัติของเมือง ประวัติการเดินเรือที่สำคัญ เช่น ไททานิค เป็นต้น บริเวณ Albert Dock นี้ยังเป็นท่าเรือด้านการค้าที่เรียกว่า enclosed wet dock แห่งแรกของโลกด้วย สัญลักษณ์ของเมือง คือตึกที่มีชื่อว่า Royal Liver Building ซึ่ง ยอดตึกนี้มีนกสองตัว หันหน้าไปคนละทาง ตัวหนึงหันหน้าออกไปทางท่าเรือ คอยดูว่ามีเรือจะเข้าเทียบท่าหรือไม่ ส่วนนกอีกตัวหนึ่งหันหน้าเข้าเมือง คอยดูว่า...ผับเปิดหรือยัง รูปท่าเรือ albert dock อยู่ใน คห.0 ครับ ส่วนรูปตึก Royal Liver อยู่ใน คห.1 จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:25:29

ความคิดเห็นที่ 8 ซ้าซะงั้น - - แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 05:26:06 จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:25:43

ความคิดเห็นที่ 9 การถูกกล่าวถึงในด้านร้ายๆของเมือง Liverpool เมืองลิเวอร์พลูในปัจจุบัน ได้ถูกกล่าวหาในแง่ร้ายอย่างมาก ว่าเป็นเมืองที่มี อาชญากรรม มากที่สุด ในประเทศอังกฤษ  นอกจากนี้ ชีวิตความเป็นอยู่ในเมืองนี้ เรียกว่าแทบหาความปลอดภัยได้ยาก เพราะ แม้แต่ บ้านของคนดัง อย่าง Steven Gerrard นักฟุตบอลชื่อดัง ของ สโมสร Liverpool FC ยังโดนโจรขึ้นบ้านมาแล้วนับครั้งไม่ได้ นอกจากนี้ ด้วยความที่เมืองนี้ความเป็นอยู่แออัด ทำให้สภาพบ้านเมืองสกปรกขึ้นอย่างมากมาย เคยมีการชี้วัด ความสะอาดของเมืองนี้ พบว่า สกปรกมาก และยังมีการพบหนูบ้าน เยอะมาก เพราะแหล่งอาหารอันอุดมสมบูรณ์(กองขยะ) มีอยู่อย่างมากมาย เคยพบหนูบ้านตัวใหญ่สุดขนาดเท่าๆกับ สุนัขพันธ์ พุดเดิ้ล เลยทีเดียว ทำให้มีการตั้งข้อสงสัยกันว่า Liverpool เหมาะสมกับเป็นเมืองมรดกโลกหรือไม่ จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:26:51

ความคิดเห็นที่ 10 การจัดการกับแหล่งมรดกโลกของเทศบาลเมืองและรัฐบาล ปัจจุบัน เทศบาลเมืองได้ร่วมมือกับรัฐบาล พัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น  The Yellow Duckmarine Tour เป็นรถ & เรือ เที่ยวรอบเมือง แล้วก็วิ่งลงน้ำ มีผู้บรรยายความเป็นมาของสถานที่ต่างๆให้ฟัง จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:27:35

ความคิดเห็นที่ 11 บทส่งท้าย      เมืองลิเวอร์พลูนั้นเป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า ความเจริญ บางครั้งก็แทรกมาด้วยความเสื่อมโทรม แม้ Liverpool จะมีความสวยงาม และ มีความเจริญจากการค้าขายมากเพียงใด แต่การตามมาของปัญหาชุมชน และ ผู้คนที่เนืองแน่น ทำให้เมืองที่เคยมีความสวยงามก็เสื่อมโทรมได้เช่นเดียวกัน หวังว่ารายงานฉบับนี้จะทำให้ผู้ทำให้ผู้ที่ได้อ่านนอกจากรู้จักเมืองลิเวอร์พลูมากขึ้น นอกจากความเป็นต้นกำเนิดทีม ฟุตบอล ที่มีชื่อเสียงแล้ว เมืองนี้ยังมีความสำคัญทางการค้าขายที่นำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และความเจริญ มาสู่ยุโรปทางเหนือ แม้ จะแอบแฝงไปด้วยความโหดร้าย เช่นการค้าทาส แต่นั่นก็เป็นจุดที่ชี้ให้เห็นว่า เมืองแห่งนี้มีความสำคัญมากมายเพียงใด เพราะ ถ้าพูดจริงๆการค้าทาส ถือเป็นจุดสำคัญของการเริ่มต้น อุตสาหกรรม เลยทีเดียว                                                                                                                                     ขอบคุณครับ จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:28:44

ความคิดเห็นที่ 12 หวังว่าคงชอบกันนะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภับและชี้แจงกันด้วยนะจ้ะ ก่อนไป ขอ บลัฟ เล็กน้อย Liverpool เป็นเมืองท่าที่สำคัญของอังกฤษ แต่ เรือ Premier (Premiership) ไม่เคยเทียบท่าที่ลิเวอร์พูล จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:31:12

ความคิดเห็นที่ 13 Liverpool เป็นเมืองท่าที่สำคัญของอังกฤษ แต่ เรือ Premier (Premiership) ไม่เคยเทียบท่าที่ลิเวอร์พูล ............................................................................... ไม่ต้องรอเรือมาเทียบท่าครับ  เดี๋ยวนก Liverbird บินไปคาบถ้วยแชมป์มาเอง เร็วๆนี้ครับท่าน... จากคุณ : โสดสบายตัว เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:41:27

ความคิดเห็นที่ 14 อ้อ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ  อ่านเพลินเลย   แต่สะดุดนิดนึง "ยอดตึกนี้มีนกสองตัว หันหน้าไปคนละทาง ตัวหนึงหันหน้าออกไปทางท่าเรือ คอยดูว่ามีเรือจะเข้าเทียบท่าหรือไม่ ส่วนนกอีกตัวหนึ่งหันหน้าเข้าเมือง คอยดูว่า...ผับเปิดหรือยัง" ถ้าผับเปิด จะเหลือนกยอดตึกแค่ตัวเดียวใช่ใหมครับ  5555 จากคุณ : โสดสบายตัว เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:44:31

ความคิดเห็นที่ 15 #13 คิดถึงแก๊งตะกวดขึ้นมาทันที จากคุณ : Umiki เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:44:59

ความคิดเห็นที่ 16 จขกท.เป็นคนเดียวกันกับเชฟหมีผู้โด่งดังป่ะครับ555+ ปล.แซวเล่นน่ะครับ จากคุณ : Razent-Sacrifa เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 05:49:18

ความคิดเห็นที่ 17 13,14 แหม่ จะรอนกลิเวอ์เบิร์ด บินมา ฉกถ้วยที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นะครับ ^ ^ แต่ระวังจะโดนสามง่ามผีจิ้มร่วงนะฮ้าฟฟฟฟฟฟ 16 - - ไม่นะ ผมเป็นแค่หมี ปาก Dog มิกล้าเทียบกับ เชฟผู้นั้น ฮ่าๆๆ แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 06:21:38 แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 06:21:38 จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 06:18:48

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณแฟนผีดีๆที่นำมาให้อ่านครับ ส่วนเรือ Premier (Premiership) ไม่เคยเทียบท่าที่ลิเวอร์พูล นั่นไม่เป็นไรครับเพราะซักวันหงส์จะบินไปที่เรือเอง (ปีนี้คงต้องยอมรับสภาพหุๆๆ) จากคุณ : Think For Myself เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 07:04:37

ความคิดเห็นที่ 19 คห 13  มีความผิดอะไรหรือถึงถูกแจ้งลบ จากคุณ : ขี้เหร่ใจซื่อ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 07:18:24

ความคิดเห็นที่ 20 รถเป็ดเหลืองนั่น ดูครั้งแรกผมนึกว่ารถขยะบ้านเรา -*- จากคุณ : erkDaZe เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 07:35:05

ความคิดเห็นที่ 21 หึหึหึ ... จากคุณ : นนร่างเทพ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 07:56:24

ความคิดเห็นที่ 22 แฟนทอฟฟี่แวะมาขอบคุณด้วยคนครับ ^^ รถเป็ดโทรมได้ใจจริงๆ -*- แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 07:59:07 จากคุณ : bluedracula เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 07:58:39

ความคิดเห็นที่ 23 ใฝ่ฝันอยากไปเยือนซักครั้ง ขอบคุณเ้จ้าของกระทู้มากครับ จากคุณ : tonytui เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 08:03:04

ความคิดเห็นที่ 24 อยากไปมั้งๆๆ จากคุณ : Na-RoK-KuM-7 เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 08:08:02

ความคิดเห็นที่ 25 รูปประกอบสวยจังเลยค่ะ ประวัติเมืองน่าเที่ยวมากกก รถเป็ดโทรมไปหน่อย แต่ก็น่ารักดี จากคุณ : นางมารสวยมีฤทธิ์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 08:17:40

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับกระทู้ครับ จากคุณ : Snyag เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 08:18:36

ความคิดเห็นที่ 27 5555    เข้ามาขำรถเป็ดเหลือง ชีชัดไปเลยว่าเป็ดแน่ๆ  55555 จากคุณ : Pickmon เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 08:48:01

ความคิดเห็นที่ 28 ขอให้ประสบความสำเร็จในสิ่งทีทำนะครับ จากคุณ : เท่ง หงส์แดง เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:03:54

ความคิดเห็นที่ 29 ชอบครับ... จากคุณ : littleFin เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:52:04

ความคิดเห็นที่ 30 Albert Dock ตอนกลางคืนสวยจัง จากคุณ : TheKop78 เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 09:52:28

ความคิดเห็นที่ 31 เมืองท่า มักจะมีสิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ ให้ได้เห็นเสมอ เพราะมันเป็นเหมือนที่พัก(ชั่วคราว)ของคนที่เดินทางไกลมาจากที่อื่น มีดนตรี อาหาร เสื้อผ้า โน่นนี่ จากดินแดนไกลมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน แต่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียครับ คงเพราะสภาพหลายๆ อย่าง เช่น กลาสีที่อยู่บนเรือนานๆ คงเหงา พอขึ้นท่าได้ ก็จะมีสถานบริการมารองรับ แ่หะๆ อย่างฮัมบรูก หรือซังค์ เปาลี ก็แนวๆ นี้ครับ มีที่เที่ยวตอนกลางคืนเยอะ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:09:04

ความคิดเห็นที่ 32 ขยายความเพิ่มเติมเรื่องนก2ตัวนั้นนะครับ นกตัวแรกที่หันหน้าออกทะเล เค้าแซวกันว่าเป็นนกตัวเมีย แทนสัญลักษณ์ของแม่บ้านเหล่ากลาสีเรือที่หันหน้าออกทะเลเพื่อดูว่าเหล่าสามีของพวกหล่อนล่องเรือกลับมากันหรือยัง ส่วนนกตัวที่หันเข้าเมือง เป็นนกตัวผู้ แทนสัญลักษณ์เหล่ากะลาสี เข้าฝั่งมากัปจ้องแต่ผับจะเปิดเมื่อไร จะได้ไปเมากัน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:14:49

ความคิดเห็นที่ 33 เป็ดเหลืองน่ารักมาก แต่เห็นตอนแรกนึกว่ารถเก็บขยะ+ทำความสะอาดจากเทศบาลซะอีก จากคุณ : boiledmilk เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:17:27

ความคิดเห็นที่ 34 ใครจะไปจะมาเมืองนี้บอกด้วยละกันนะครับ แฟนหงส์ จะพาไปส่งที่สนาม ส่วนแฟนท็อฟฟี่ มีกินดื่ม เฮ น้ำจับเลี้ยงเก๊กฮวย พร้อมเสริฟ ทุกวันนี้เห็นด้วยกับข้อ 9 ที่สุดละครับ ส่วนนอกนั้นแล้ว ผมมีความเห็นว่า เมืองนี้ถ้าเทียบกับบ้านเราก็คือประมาณ สมุทรปราการ เป็นเมืองท่าอุตสาหกรรมหลัก(อดีต) ส่วนอากาศ อาหาร อารมณ์คนไม่ต้องพูดถึงเลยครับ อากาศแย่ตลอดปี ฝนตกทุกฤดูกาล อาหารอังกฤษ กินฟองน้ำใส่น้ำส้ม อร่อยพอๆกัน อารมณ์คนเมืองนี้ จัดได้ว่าถ่อย เถื่อน จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:42:20

ความคิดเห็นที่ 35 Urgghh...ทำไมต้อง Yellow Duck   - -/ จากคุณ : Allegro Viva'ce เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:42:59

ความคิดเห็นที่ 36 20,22,27,33 ผมว่าไอ้รถนี่ ถ้ามาล่องที่เจ้าพระยาบ้านเรา - - มันเป็นเรือเก็บผักตบชัวร์ครับ ผมว่า ตลกดี 32 โอ้ว ขอบคุณมากครับ สำหรับส่วนเสริม ^ ^ จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 10:43:23

ความคิดเห็นที่ 37 รูปสวยจังเลยค่ะ ขอให้คุณ พ่อหมีมีดราม่า ประสบความสำเร็จนะคะ จากคุณ : จากใจแฟนหงส์คนนี้ ~* (สาวหน้าใส) เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:13:16

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณครับ..สำหรับข้อมูลและภาพสวยๆ จขกท.ก็ยังอดแสดงความเป็นเด็กผีไม่ได้นะ..ยังมีกัดนิดๆ แต่ก็น่ารักดี...ยอมรับครับ จากคุณ : papamint เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:15:32

ความคิดเห็นที่ 39 กระทู้ มีสาระดีครับ ผมว่า ลิเวอร์พูล คือ การท่าเรือหรือเปล่าครับ ถ้าเทียบกับไทย 5555+ ปล โจรเยอะขนาดนั้นเลยหรอครับ จากคุณ : chee-win4 เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 11:45:29

ความคิดเห็นที่ 40 อยากจะไปนั่งเรือเป็ดเหลืองสักครั้งหนึ่งในชีวิตจริงๆ สุดยอดมากได้ชมทิวทัศน์ทั้งบนบกและบนน้ำ บ้านเราน่าเอามาทำบ้างนะ ขับวนเที่ยวฝั่งพระนครรอบวัดพระแก้วแล้วลงน้ำข้ามไปวัดอรุณต่อ สุโค่ยย จากคุณ : captain_G เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:24:33

ความคิดเห็นที่ 41 Yellow Duck Marine น่าจะเป็นการล้อคำว่า Yellow Submarine มากกว่านะครับ เป็นเพลงที่ดังมากๆของ The Beatles นะ ในสนามบินลิเวอร์พูล ยังมีเจ้าเรือดำน้ำสีเหลืองเลย จากคุณ : Sweet Chin Music เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:46:14

ความคิดเห็นที่ 42 อันนี้เป็น Yellow Submarine ที่สนามบินในเมืองลิเวอร์พูลครับ จากคุณ : Sweet Chin Music เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:49:02

ความคิดเห็นที่ 43 (อาจจะมีใครพอทราบแล้ว) . . . ถังขยะเมืองลิเวอร์พูล คิดว่าเป็นสีอะไร ? จากคุณ : ynwa เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 13:52:49

ความคิดเห็นที่ 44 ผมเคยดูพวกพรีเซนเทชั่นของมหาลัยในลิเวอร์พูลที่มาเชิญชวน นักศึกษาชาวไทยไปเรียนต่อ ยอมรับเลยว่าเมืองสวยมากๆ เค้าเรียกเมืองของเค้าว่าเป็น "ศูนย์กลางวัฒนธรรมของยุโรป" ขอบคุณ จขกท. นะครับที่เอามาให้อ่านกัน จากคุณ : สุดยอดปลาน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:19:57

ความคิดเห็นที่ 45 มีทั้งเป็ดเหลือง ทั้งเป็ดแดง น่ารักจริงๆ 5555 จากคุณ : นนร่างเทพ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:21:22

ความคิดเห็นที่ 46 น่าท่องเที่ยวมากแต่แอบกลัวหนูตัวเท่าพุดเดิ้ล  >___<" จากคุณ : บ่าบี๋ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 14:26:03

ความคิดเห็นที่ 47 สุดยอดครับ ขอบคุณมากครับ ขอให้ประสบความสำเร็จอย่างสูงในรายงานชิ้นนี้ครับ จากคุณ : มังกรหลับ เทวะ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 15:38:44

ความคิดเห็นที่ 48 คห 44 อันนั้นคือโชว์รูม ต้องมาดูของในโกดังเอง แล้วจะรู้ว่าไม่ใช่ ึคห 43  สีม่วงครับ ไว้เดี่ยวจะไปถ่ายรูปให้ดูว่าถังขยะสีม่วงมีที่มาจากอะไร จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:12:33

ความคิดเห็นที่ 49 คห 44 อันนั้นคือโชว์รูม ต้องมาดูของในโกดังเอง แล้วจะรู้ว่าไม่ใช่ ึคห 43  สีม่วงครับ ไว้เดี่ยวจะไปถ่ายรูปให้ดูว่าถังขยะสีม่วงมีที่มาจากอะไร จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:13:06

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณทุกท่านสำหรับ คำอวยพรที่ให้รายงานชิ้นนี้ประสบความสำเร็จครับ และ ข้อมูลเสริมจากผู้รู้คนอื่นๆที่เอาข้อมูลมาแบ่งปันกันนะครับ ขอบคุณจริงๆ ^ ^ 39 เท่าที่ผมได้อ่านข้อมูลเท่าที่ผ่านตามาขณะรายงานนะครับ - - คนเมืองนี้สักครั้งนึงในชีวิต ต้องโดนโจรขึ้นบ้าน สัก 5 ครั้ง ใน ช่วงชีวิต (เยอะไหมครับ โดนยกเค้าครั้งนึงยังแทบร้อง โดนสัก 5 ครั้ง นี่มีเบื่อกันไปแทนเศร้าเลยทีเดียว) จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:14:24

ความคิดเห็นที่ 51 คห 50 รถของแชร์เมทผมโดนขโมยไปสองครั้ง      จักรยานผมโดนขโมยไป 1      เดินถนนโดนพวกฝรั่งเชี่ยๆ เรียกว่า ไอ้เหลืองบ้าง ไอ้ตี๋บ้าง ไอ้ชิ้งบ้าง      คนพูดจาไม่รู้เรื่อง ขี้เมา เ่ล่นการพนันอย่างเดียว ความสุขมีแค่จากฟุตบอล สรุปเมืองนี้ไม่น่าอยู่ในความคิดผมครับ จากคุณ : พัฒน์ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:20:54

ความคิดเห็นที่ 52 51 แหม่ ทำใจครับ  - - ซวยยับจริงๆ ยังดีนะครับที่คุณยังไม่โดนขโมยชีวิตไปด้วย อีกสาเหตุที่เค้าบอกว่าเมืองนี้เสื่อมโทรม(อาจารย์ที่สอนวิชานี้ท่านคาดการณ์ไว้ได้น่าคิดตามมากเลยนะครับ) เป็นเพราะ การหลั่งไหลของผู้คนและวัฒนธรรมต่างถิ่นครับ ชาวอังกฤษแท้ๆที่พูดสำเนียงอังกฤษในเมืองนี้มีน้อยมาก โดยมากจะโดนเรียกว่า สเกาเซอร์ อย่างที่เราทราบๆรู้ๆกันนะครับ พวกสเกาเซอร์เนี่ยที่เกิดจากสำเนียงที่คน ไอริช อพยพเข้ามามากในช่วงที่การค้ารุ่งเรืองครับ ทีนี้เมือมีคนเข้ามาเพียงแค่เพื่อตักตวงจากเมืองนี้ ทำให้ความผูกพันธ์และรักเมืองจริงๆ มีน้อยมากครับ ที่เค้ามีความสุขกับฟุตบอล เพราะ ว่าสิ่งที่สโมสรลิเวอร์พลู ทำไว้ในอดีตอันไกลโพ้น - - (แอบแขวะอีกแหนะตรู) คือ สิ่งเชิดหน้าชูตาเพียงอย่างเดียว ที่ทำให้พวกเค้าดูดีขึ้นมาได้ครับ เพราะกว่าจะเป็นมรดกโลก ก็ต้องปี 2004 แหนะ....อย่างที่บอกครับเมืองยิ่งเจริญเร็ว สิ่งที่ตามมากับเงาคือความเสื่อมโทรมและผู้คน ชุมชน แน่นอนครับ ปล.เพิ่งสังเกตุได้เป็นกระทู้แนะนำด้วย  O o โอ้ว หนที่สองในชีวิต ตื่นเต้น แก้ไขเมื่อ 22 ก.พ. 54 16:32:52 จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:31:52

ความคิดเห็นที่ 53 กลายเป็นทู้กัดลิเวอร์ไปแล้ว T_T จากคุณ : Robbie_God เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:51:21

ความคิดเห็นที่ 54 53 แซวกันเล่นนะครับ กระทู้นี้ อยากให้มาขำๆกันมากกว่า แฮะๆ ไม่ได้มีเจตนามากัด(หรอวะ ได้ข่าวว่าแก เหน็บไป 2 ล่ะ ไอ้ จขกท - -) จากคุณ : พ่อหมีมีดราม่า เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 16:58:35

ความคิดเห็นที่ 55 รถเหลืองนี่ เหนือคำบรรยายจริง จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 17:28:59

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ  ได้ความรู้ดี ^^ เห็นด้วยกับประโยคนี้มากๆ >>> "ความเจริญ บางครั้งก็แทรกมาด้วยความเสื่อมโทรม" ไม่ใช่ใช้ได้แค่กับเมืองนี้  แต่ใช้ได้กับทุกๆสังคมในปัจจุบันเลย จากคุณ : beensolong เขียนเมื่อ : 22 ก.พ. 54 23:59:53

ความคิดเห็นที่ 57 ถังขยะสีม่วง มาจาก สีแดงของลิเวอร์พูล ผสมกับ สีน้ำเงินของเอฟเวอร์ตัน อะครับ จากคุณ : Sweet Chin Music เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 00:01:50

ความคิดเห็นที่ 58 #12 มุขนี้ฝรั่งก็เล่นกัน ท่าจะฮิตจริงๆ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 54 02:16:24

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็ยังอยากไปอยู่ดี จากคุณ : โย่ _เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 09:43:04

ความคิดเห็นที่ 60 โดนทุบกระจกรถแตกก็ที่เมืองนี้แหละ รถเป็ดเหลืองจะว่าโทรมได้ยังไง ก็รถมันมีอายุตั้งสี่ห้าสิบปี ของเหลือใช้จากทหาร ใต้ท้องมีใบพัดครับ และน้ำที่ลงบางครั้งก็กร่อย สนิมขึ้นง่าย ทั่วโลกมีตั้งหลายเมืองที่ใช้รถรุ่นเดียวนี้เพื่อใช้พาทัวร์เที่ยวเมือง วิ่งได้ทั้งบนบกและลงน้ำ ต้องไปค้นภาพประกอบก่อน จำไม่ได้ว่าไว้ฮาร์ดดิสก์ตัวไหน จากคุณ : M11 3FF เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 04:07:28

ความคิดเห็นที่ 61 กระทู้ดีมีสาระ แถมภาพสวย ขอบคุณมากๆ ครับ ที่นำมาให้อ่านกัน แต่ติด คห. 5 อยู่หน่อยเดียว "เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษ" จำได้ลางๆ ว่า 4-5 ปีที่แล้ว มันเคยขียนว่า "เป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในฟุตบอลอังกฤษ" คำว่า เป็นหนึ่ง กับ หนึ่งใน นี่รู้สึกจะไม่มีนะครับ แต่เวลาก็ผ่านเลยไปแล้ว เมื่อไหร่จะได้แชมป์กับเขาซะทีเนี่ย ... - - จากคุณ : มุขไม่ฮาพาเพื่อนเครียด เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 09:39:15

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณมากค่ะ สำหรับกระทู้ดีๆ แม้ จขกท. จะแอบกัดบ้างก็ตาม ไม่เป็นไรค่ะ ^ ^ เสียดายจัง อยากแจกกิ๊ฟแต่หมดไปตั้งแต่กลางเดือนซะแล้ว แอบรู้สึกว่าเมืองนี้ดูน่ากลัวเลยอ่ะ เรื่องที่ว่ามีอาชญากรรมเยอะ มันน่าจะมาจากปัญหาการว่างงาน เศรษฐกิจซบเซา แล้วก็ความหลากหลายของคนที่อยู่อาศัยด้วยนะคะ แต่คงไม่ถึงกับฉกกระเป๋ากันดื้อๆแบบในอิตาลีล่ะมั้งคะ (อันนี้เคยได้ยินมาว่า ในโรม น่ากลัวมาก เดินๆอยู่โดนฉกเลย) แต่ถึงอย่างนั้น แฟนหงส์อย่างเราก็อยากจะไปซักครั้งในชีวิต อยากไปเชียร์บอลในแอนฟิลด์ ไปสัมผัสบรรยากาศ ไปดูพิพิธภัณฑ์ของสโมสร จากคุณ : howk_ky เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 22:12:32

ความคิดเห็นที่ 63 เพิ่งมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองลิเวอร์พูล เห็นด้วยเลยครับว่าเมืองนี้คนค่อนข้างไม่ดี   พวกฝรั่งเกเรๆมีเยอะ เห็นเราเป็นเอเชียก็ชอบเข้ามาแกล้งมาแซว ไปดูบอลเสร็จแล้วก็กลับน่ะครับ ให้อยู่ยาวๆคงไม่ไหว จากคุณ : stopquitceasepause เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 54 23:49:21