ความคิดเห็นที่ 1 stableford เป็นวิธีคิดคะแนน แต่ 36 system เป็นวิธีคิดแต้มต่อครับ เช่น การแข่งขันคิดคะแนนแบบ stroke play หักแต้มต่อ คือใช้คะแนน gross 18 หลุม หักด้วยแต้มต่อ ซึ่งแต้มต่ออาจจะมาด้วยวิธีการต่าง ๆ กันเช่น ผู้เล่นแจ้งแต้มต่อ คิดแต้มต่อแบบ 36 system หรือ double peoria หรือ callaway หรือวิธีอื่น ๆ ส่วน การคิดคะแนนแบบ stableford จะเป็นการคิดคะแนนเป็นหลุม ๆ แล้วรวมทั้ง 18 หลุม ว่าได้คะแนนเท่าไหร่ เช่น หลุมที่ได้ดับเบิ้ลหรือแย่กว่าไม่มีคะแนน หลุมที่ได้โบกี้ ได้ 1 คะแนน  หลุมที่ได้พาร์ได้ 2 คะแนน หลุมที่ได้เบอร์ดี้ได้ 3 คะแนน อีเกิ้ลได้ 4 คะแนน อัลบาทรอสได้ 5 คะแนน แต่ก่อนที่จะมาคิดคะแนนอาจจะต้องหาแต้มต่อได้ใช้วิธีต่างๆ แล้วแต่จะใช้วิธีไหนเหมือนกันครับ โดยแต้มต่อที่ได้จะเป็นจำนวนหลุมที่ต่อ เช่นแต้มต่อ 18  ก็จะได้ต่อ 1 stroke ทุกหลุม เช่นหลุมที่ได้ พาร์ก็จะคิดคะแนนเป็น เบอร์ดี้ ถ้าแต้มต่อเกิน 18 ส่วนที่เกิน 18 ก็จะเป็นจำนวนหลุมที่ได้ต่อ 2 stroke เช่น แต้มต่อ 23  จะได้ต่อ 1 stroke ทุกหลุม และอีก 5 หลุมจะได้เพิ่มอีก 1 เป็น 2 โดยดูตาม HCP index ของหลุมน้อยที่สุดก่อน ปกติก็จะเป็นหลุมที่ HCP index 1-5 ครับ งงหรือเปล่าเนี่ย แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 54 15:36:53 แก้ไขเมื่อ 24 ก.พ. 54 15:36:01 จากคุณ : TourLead เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 15:34:31

ความคิดเห็นที่ 2 หาแต้มต่อก่อน นำมาหักกับที่ตีจริง ได้ผลแล้วค่อยคิดคะแนนตามระบบของStable ford ใช่มั้ยครับ จากคุณ : ปูมะพร้าว เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 16:46:56

ความคิดเห็นที่ 3 เมื่อวันก่อนตี 1 เบอร์ดี้ 4 โบกี้ 13 พาร์ เค้าคิดสกอร์ออกมาได้ 37 ยังงงอยู่เลยครับเพราะ modified stableford birdie ได้สี่คะแนน ช่วยคิดหน่อยสิครับ TourLead คุณปูมะพร้าว เดี๋ยวนี้คนจัดนิยมใช้การแข่งขันที่คิดคะแนนแบบ stableford แต่มีการแยกไฟลท์ด้วยการใช้ 36 System การคิดคะแนนแบบ stableford ก็แทบจะเป็นการแข่งแบบคิดกรอสสกอร์เพียงแต่ว่ายังพอให้โอกาสคนที่ตีไม่ดีเป็นบางหลุม (ออก 6, 7, 8, 9, 10 ก็จะได้คะแนน = 0 เท่ากัน ถ้าเป็นการคิดคะแนนจาก h/c 36 system คนที่ออก 7 จะแพ้ คนที่ออก 6) ผมว่าพูดมากไปเดี๋ยวคุณปูมะพร้าวจะงงไปกันใหญ่ จากคุณ : GumpzZ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 21:47:00

ความคิดเห็นที่ 4 ผิดแน่นอนพี่ GumpzZ ยังไงก็ต้อง 38 ขึ้นไป 38 ก็แทบเป็นไปไม่ได้อยู้่แล้ว เพราะหลุมต่อ 4 หลุมต้องเป็นหลุมโบกี้หมดถึงจะ 38 แต้ม นอกจากโปรแกรมเค้าคิดเป็น stableford ธรรมดา เบอร์ดี้ 3 แต้ม ถึงจะได้ 37 อะครับ หรืดไม่เค้าก็คิด hcp ด้วยวิธีอื่น แล้วhcp ไม่ใช่ 4 เพราะเดี๋ยวนี้ ชอบคิด double Peoria ก่อนแล้วค่อยคิดstableford จะได้ปั้นคะแนนกันไม่ค่อยได้เต็มที่ คุณปูมะพร้าว ไม่ใช่แบบนั้นครับ แต่วันนี้เวลาหมดเดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อครับ จากคุณ : TL (TourLead) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 22:23:53

ความคิดเห็นที่ 5 37 แต้มถูกแล้วนี่ครับ ต่อ4 หลุม แสดงว่าหลุมต่อพาร์หมด 13 พาร์ = 26 แต้ม บวกอีก 4แต้ม จากหลุมต่อ =30 4 โบกี้   =  4 แต้ม 1 เบอร์ดี  = 3 แต้ม ทั้งหมด = 37 point จากคุณ : shocky เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 54 22:50:05

ความคิดเห็นที่ 6 อ๋อ มีคิดแต้มต่ออีกด้วยนี่เอง ขอบคุณครับคุณหนุ่ม จากคุณ : GumpzZ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 06:22:49

ความคิดเห็นที่ 7 พี่GumpzZบอกว่าเป็น modified stableford birdie ได้สี่คะแนนคะแนนครับ ไม่ใช่ สามคะแนน 37 เลยไม่ถถูกต้องครับ คุณshocky วิธีคิดแบบคุณshocky ไม่ถูกต้องซะทีเดียวแต่ก็พอใช้ได้ นอกจากกรณีที่มีคะแนนเกิน ดับเบิ้ล คิดแบบนี้คะแนนจะผิดครับ จากคุณ : TourLead เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 06:26:22

ความคิดเห็นที่ 8 อ๋อ ผมคิดคะแนนตามที่คุณ กัมป์ ให้ข้อมูลมาอ่ะครับ ถ้ามีคะแนนเกิน double มันก็เป็น ศูนย์คะแนนครับ อีกเรื่องที่ งงคือ modified stableford คิดคะแนนยังไงครับ ไม่รู้จริงๆ รบกวนคุณ tourlead ช่วยอธิบายเป็นความรู้นิดนึงครับ ของstable fordคิด par = 2    birdie= 3   bogie =1 double= 0 แต่ถ้าหลุมใหน เป็นหลุมต่อ ก็บวกอีก 1 แต้ม เช่นหลุมต่อตี par จากที่จะได้ 2 แต้ม ก็กลายเป็นเท่ากับ birdie = 3แต้ม ถูกต้องนะครับ แล้วของ modified stable ford คิดต่างกันมั๊ยครับ อีกอย่างผมงง ในกรณีที่ birdie ของ modified ได้ 4แต้มเลยเหรอครับถ้าไม่ใช่หลุมต่อ แล้วถ้าเป็นหลุมต่อจะได้กี่แต้มครับ จากคุณ : shocky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 09:19:31

ความคิดเห็นที่ 9 ในกรณีของคุณGumpzZ คำนวณ HCP อย่างนี้ใช่มั้ยครับ 1   Birdie = -2 13 Par    = -2*13=-26(อยากทำได้แบบนี้บ้างจังครับ) 4   Bogey= -1*4 = -4 รวม = -32: HCP = 4 นำมาคิดคะแนนแบบStable ford ถ้าหลุมต่อเป็นหลุมที่ได้Bogeyทั้งหมดคะแนนจะออกมาเป็น 1  Birdie = 3 แต้ม 13 Par   = 13*2=26 แต้ม 4 Bogey (เป็นหลุมต่อ=Par) =4*2=8 แต้ม รวม 37 แต้ม แต่ถ้าเป็น Modified Stable ford ที่คิดหลุมBirdie = 4แต้ม คะแนนรวมจะ=38 แต้ม ถูกต้องมั้ยครับ จากคุณ : ปูมะพร้าว เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:28:47

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้ผมก็ยังสงสัยเหมือนกันครับ ตอนนี้ประเด็นมันอยู่ที่ว่าหลุมที่เป็นเบอร์ดี้มันคิดคะแนนยังไง แต่เท่าที่ผมเคยเล่น stableford มา birdie มันแค่ 3แต้มไงครับ ยกเว้นถ้าเป็น birdie หลุมต่อ ก็กลายเป็น egle =4แต้ม จากคุณ : shocky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:40:33

ความคิดเห็นที่ 11 Modified stableford ตามที่พี่ GumpzZ บอกก็คือเพิ่มคะแนนเบอร์ดี้ หรือดีกว่าอีก 1 แต้มครับ คือ เบอร์ดี้ปกติคือ 3 แต้ม modified ก็เป็น 4 แต้ม อีเกิ้ลปกติคือ 4 แต้ม modified ก็เป็น 5 แต้ม จริง ๆ ก็คือให้มันเป็นลักษณะของ "เบอร์ดี้เกมส์" ครับ เหมือนวัตถุประสงค์คล้าย ๆ 36system ก็คือ เบอร์ดี้เยอะก็มีโอกาสชนะเยอะครับ แต่บางครั้งอาจจะแตกต่างไปบ้างแล้วแต่คนจัดหรือคนตั้งกติกาครับ คุณปูมะพร้าวใน คห.9 เข้าใจถูกแล้วครับ แต่วิธีคิดแบบนี้เหมือนกับที่คุณ shocky คิด ซึ่งจะผิดในกรณีที่มีคะแนนที่เป็นมากกว่าดับเบิ้ล เพราะเราไปเหมารวมว่า แต้มต่อหรือหลุมต่อที่ได้ เป็น 1 คะแนน  พอมีแต้มต่อ 4 เลยไปเหมารวมว่าจะได้ 4 แต้มจากหลุมต่อ เช่น สมมุติว่าเราได้แต้มต่อ 4 คือได้ต่อ 4 หลุม  และมีอยู่หลุมหนึ่งที่เราไปตี เกิน 3 ที และให้บังเอิญว่าดูตาม HCP index ของหลุมนี้อยู่ใน 1-4 ทำให้หลุมนี้เป็นหลุมต่อ ก็ปรับคะแนนเหลือ เกิน 2 ที ดับเบิ้ล เลยทำให้หลุมนี้เราไม่มีคะแนน ถึงแม้จะเป็นหลุมต่อ ถ้าคิดแบบคุณ shocky หลุมนี้จะมีคะแนนเพิ่ม 1 คะแนน แต่จริง ๆ แล้วที่ถูกต้องจะไม่มีคะแนนครับ วิธีการคิดคะแนนที่ถูกต้องคิดที่ละหลุมแล้วค่อยรวมทั้ง 18 หลุมครับ แต่ถ้าไม่มีเกินดับเบิ้ลก็คิดได้ครับ งงหรือเปล่าครับ จากคุณ : TourLead เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 10:59:43

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่งงครับ คุณTourLead ต้องดู HCP Scale ของแต่ละหลุม เพื่อกำหนดหลุมที่เป็นหลุมแต้มต่อและต้องดูผลงานจริงเพื่อกำหนดคะแนนตามระบบใช่มั้ยครับ จากคุณ : ปูมะพร้าว เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 11:20:13

ความคิดเห็นที่ 13 อ๋อไม่หรอกครับ อย่างที่บอกคือ ผมคิดคะแนนจากข้อมูลที่คุณกัมป์ตีออกมา ซึ่งไม่มีหลุมใหนเกิน double ส่วนหลุมต่อจะไปอยู่ตรงใหน ผมก็ไม่รู้เลยคำนวนให้คร่าวๆ ครับ ซึ่งมันก็จะไปเพิ่มหรือลด อยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้วครับ เช่นหลุมต่อไปอยู่ตรงเบอร์ดีพอดี ตรงเบอร์ดี้ ก็จะกลายเป็น 4แต้ม แล้วตรงพาร์ที่ผมคิดจาก 30จากหลุมต่อ4หลุม มันก็จะเหลือ 29 ครับจากหลุมต่อแค่3หลุม   สำหรับสกอร์ถ้าเป็นในแบบอื่น เช่น สกอร์ที่มีหลุมใหนที่เกิน double ก็เป็นอย่างที่คุณ tourlead บอกก็ถูกต้องแล้วครับ คะแนนมันจะกลายเป็น 0 ครับไม่มีแต้ม ถ้ายิ่งเป็นหลุมต่อก็ซวยครับ อิอิ ซึ่งก็คงใช้วิธีอย่างที่ผมคิดคะแนนคุณกัมป์ไม่ได้ จากคุณ : shocky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 11:20:17

ความคิดเห็นที่ 14 อ้อ อีกอันนึงอันนี้มันเป็นกติกาจริงๆหรือว่าตั้งเฉพาะการแข่งขันแล้วแต่ผู้จัดรึเปล่าครับ ที่ว่า เบอร์ดี้หรือดีกว่าได้เพิ่มอีก1 แต้ม เพราะทุกครั้งที่ผมเล่น stableford เนี่ย เบอร์ดีเนี่ยได้แค่ 3 แต้มไงครับ ถ้าเป็นหลุมต่อก็กลายเป็น4 แต้ม แล้วอย่างนี้ถ้าได้เบอร์ดี ที่หลุมต่อจะได้เท่ากับ 5แต้มรึเปล่าครับ จากคุณ : shocky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 11:28:53

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าขึ้นชื่อว่า modified ก็มีเป็นตัวอย่างเกือบทุก ๆ ระบบครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับผู้จัดกับผู้กำหนดกติกาว่าจะปรับเปลี่ยนไปเป็นแบบไหนครับ แต่ต้องอธิบายหรือติดวิธีการให้ชัดเจนเพื่อป้องกันปัญหาผู้เล่นไม่เข้าใจและประท้วงครับ ถูกต้องครับคุณปูมะพร้าวหลุมต่อต้องไล่ไปตาม HCP ของหลุมครับ ใช่ครับคุณ shocky ถ้าหลุมต่อเป็นเบอร์ดี้ ก็ได้ 5 แต้มครับ บางครั้งถึงได้เห็นคะแนน stableford เกือบ 50 แต้มบ่อย ๆ โดยพวกมือดีหน่อยก็ตีให้ได้พาร์หรือเบอร์ดี้ในหลุมที่ HCP ต่ำ ๆ แล้วไปตีโบกี้ในหลุม HCP สูง ๆ เพื่อให้ได้หลุมต่อหลาย ๆ หลุม ทำให้เสีย 1 แต้มในหลุมโบกี้ แต่ได้ 2 แต้มคืนจากหลุมต่อ ได้กำไรเพิ่ม 1 แต้มครับ ดีกว่าได้พาร์แต่ไม่ได้หลุมต่อ จากคุณ : TourLead เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:04:12

ความคิดเห็นที่ 16 ชัดเจนเปลี่ยน ขอบคุณกูรูทุกท่านครับ จากคุณ : ปูมะพร้าว เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:23:24

ความคิดเห็นที่ 17 ok ครับ เข้าใจแจ่มแจ้งครับ ขอบคุณมากครับ คุณ tourlead จากคุณ : shocky เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 12:27:38

ความคิดเห็นที่ 18 มันซับซ้อนเหมือนกันนะครับเนี่ย เก็บเข้าคลังกระทู้เลยดีกว่า จากคุณ : GumpzZ เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 54 22:35:50