ความคิดเห็นที่ 1             เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เกิดเมื่อวันที่  29 ตุลาคม 1970 ที่ Vourhout, เนเธอร์แลนด์ เริ่มต้นชีวิตการค้าแข้งกับทีม Foreholte ซึ่งเป็นทีมในเมืองบ้านเกิดของเขา และต่อมาก็เป็นทีม vv Noordwijk หลังจากนั้นฝีไม้ลายมือของเขาก็ไปเตะตาของหลุยส์ ฟาน กัลป์ เทรนเนอร์ของอาแจ็กซ์ในขณะนั้น และได้จับเขาเซ็นสัญญากับทีม ช่วงแรกๆเอ็ดวินต้องเล่นกับทีมสำรอง แต่ต่อมาก็ได้รับการเลื่อนชั้นขึ้นทีมชุดใหญ่ และเป็นกำลังสำคัญของทีมในการความแชมป์ยูฟ่าคัพในฤดูกาล 91-92 และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 95 และได้เป็นรองแชมป์ในปี 96 โดยแพ้การดวลจุดโทษให้กับยูเวนตุส แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 21:11:06 จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:10:52

ความคิดเห็นที่ 2 ในปี 1999 ฟาน เดอ ซาร์ ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม “ม้าลาย” ที่ซึ่งเขาได้ลงเล่นไปทั้งหมด 66 นัดในกัลโช่ เซเรีย อา ก่อนที่จะสูญเสียตำแหน่งมือ 1 ในทีมให้กับจานลุยจิ บุฟฟ่อน                      จอมหนึบชาวดัตช์ กลายเป็นผู้รักษาประตูที่ไม่ใช่ชาวอิตาเลียนคนแรกที่ได้เฝ้าเสาให้ยูเวนตุส ก่อนที่จะกลายมาเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดของเซเรีย อา และแม้ว่าจะได้รับความสนใจจากสโมสรยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายทีม แต่เจ้าตัวกลับเลือกซบฟูแล่มแทน จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:13:03

ความคิดเห็นที่ 3 ในปี 2001 ฟาน เดอ ซาร์ เซ็นสัญญาร่วมทีมฟูแล่มเป็นเวลา 4 ปี ด้วยค่าตัวราว 7 ล้านปอนด์ (ราว 420 ล้านบาทในเวลานั้น) โดยเขาลงเล่นให้ “เจ้าสัวน้อย” ไปทั้งหมด 127 นัดในพรีเมียร์ลีก และฟอร์มการเล่นที่น่าประทับใจของเขาก็ทำให้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจดึงตัวมาร่วมทีมในที่สุด จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:15:38

ความคิดเห็นที่ 4 หลังจากการจากไปของยักษ์เดน ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ตำนานผู้รักษาประตูผู้ยิ่งใหญ่ เซอร์ อเล็กซ์ก็ประสบปัญหาสาหัสในการหาตัวแทนยักษ์ เดนส์ที่สามารถไว้ใจได้ ผู้รักษาประตูคนแล้วคนเล่าที่ผ่านเข้ามาในรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ถึงแม้จะมีบ้างที่จะสามารถโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะทำให้ได้อุ่นใจ เหมือนกับที่ยักษ์เดนส์เคยทำ จนเมื่อปี 2005 ปัญหาทุกอย่างก็คลี่คลาย เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ได้จัดการดึงตัวเอ็ดวิน มาจากฟูแล่มด้วยค่าตัวอันถูกแสนถูกที่ 2 ล้านปอนด์                เซอร์ อเล็กซ์เผยว่าเขาเสียดายที่มาเจอกับฟาน เดอ ซาร์ช้าไป “พวกเราเกือบได้ตัวเค้าเมื่อปี 1999 น่าเสียดายที่เราไม่เร็วพอ นั่นเป็นสิ่งที่เมื่อคุณมองย้อนไป คุณก็จะเสียดายและเสียใจที่คุณไม่ได้ทำ”            เมื่อเดือนมิถุนายนปี 1999 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์กำลังรอขึ้นเครื่องบินจากอัมสเตอร์ดัมไปตูริน เมื่อเขาได้รับโทรศัพท์ จากอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เซอร์อเล็กซ์เสนอโอกาสที่เอ็ดวินจะได้มาสืบทอดปีเตอร์ ชไมเคิ่ลในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด            ก่อนหน้านี้วันนึง เอ็ดวินได้รับโทรศัพท์แบบเดียวกันจากยูเวนตุส ชักชวนให้เขาไปเล่นในเซเรีย อา ฟาน เดอร์ ซาร์ตอบตกลงไปแล้ว และถึงแม้ว่าเขาจะอยากไปร่วมทัพปีศาจแดงมากเหลือเกิน แต่เค้าก็ได้ฝากอนาคตของเค้าไว้กับยูเวนตุสไปแล้ว เซอร์ อเล็กซ์โทรมาช้าไปวันนึง “พวกเราช้าเกินไป มาร์ติน เอ็ดเวิร์ดส์ (ประธานสโมสรในตอนนั้น) ตกลงสัญญากับมาร์ค บอสนิชไปแล้ว นั่นทำให้โอกาสของเราหลุดลอยไป เราทำอะไรไม่ได้เลย” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:19:04

ความคิดเห็นที่ 5 และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 ในค่ำคืนอันหนาวเหน็บในมอสโกว์ หลังจากครบ 120 นาทีของเวลาปกติ และเวลาพิเศษ ก็ถึงช่วงเวลาแห่งการดวลจุดโทษ ชี้ขาด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ยืนอยู่โดดเดี่ยวท่ามกลางสายฝน เตรียมป้องกันประตู ในใจก็คงถูกรบกวนด้วยความทรงจำอันขมขื่น ในการแพ้การดวลจุดโทษมาก่อนหน้านั้นถึง 3 ครั้ง ทั้งกับฮอลแลนด์ในยูโร 96 และ 2000 หรือแม้กระทั่งนัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีกระหว่างอาแจ็กซ์ของเขา กับยูเวนตุส                 “ตอนนั้นผมคิดในตอนที่เทอรี่กำลังจะยิงจุดโทษว่า ผมจะต้องเซฟให้ได้ ไม่อย่างนั้นผมจะแพ้ในแชมป์เปี้ยนส์ลีกนัดชิงด้วยการยิงลูกโทษเป็นครั้งที่ 2” “ผมถามทุกคนเกี่ยวกับการยิงจุดโทษของเขา ทุกคนก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ แต่ก็บอกว่าเขายิงได้ดี แต่ก็ไม่ใช่อะไรที่ถนัดมาก” ไม่กี่นาทีถัดมา ฟาน เดอร์ ซาร์เซฟลูกยิงของนิโกลาส อเนลก้า และยูไนเต็ดคว้าแชมป์ยุโรปเป็นสมัยที่ 3 การเซฟครั้งนี้ของฟาน เดอร์ซาร์กลายเป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำในการค้าแข้งของเขา         “การเซฟลูกนั้นเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจเมื่อไหร่ก็ตามที่มองย้อนกลับไป”        “การเป็นศูนย์หน้านั้นอยู่ในตำแหน่งที่จะเป็นฮีโร่ได้ง่ายกว่า ผู้รักษาประตูนั้นอาจจะได้เซฟลูกสำคัญๆก็จริง แต่ถ้ากองหน้ายิงได้นาทีสุดท้าย พาดหัวข่าวก็ลงข่าวเขากันหมด แต่มันก็แฟร์ดีอะน่ะ พวกเขามีหน้าที่ต้องทำประตู”        “แต่ที่มอสโกว์เป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ ช่วงเวลานั้นจะอยู่กับผมไปอีกเป็นเวลานาน” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:21:21

ความคิดเห็นที่ 6 “ผมดวลจุดโทษแพ้ตอนแชมเปี้ยนส์ ลีกนัดชิงที่อาแจ็กซ์เจอกับยูเวนตุส ผมจึงไม่อยากสัมผัสกับความขมขื่นนั้นอีก” ตอนที่ดวลจุดโทษนั้น ฟาน เดอ ซาร์พยายามรบกวนคนเตะจุดโทษของเชลซี “ผมพยายามอย่างดีที่สุดที่จะเอาชนะให้ได้ ผมใช้ทริกหลายอย่างมาก ซึ่งบางทีมันก็เวิร์ค แต่บางทีมันก็ไม่ ผมทั้งศึกษาไว้แล้วว่าคนๆนั้นปกติจะยิงเข้ามุมไหน ดูทั้งการจัดวางร่างกาย และตอนวิ่งมายิง”             “ถามว่าผมสงสารเทอรี่รึเปล่าน่ะหรือ สงสารสิ แต่ผมก็ลื่นเหมือนกันตอนที่เซฟประตูของแลมพ์พาร์ดนะ ถ้าผมไม่ลื่น ผมคงจะสามารถเซฟลูกนั้นได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร สนามอยู่ในสภาพไม่ดีเท่าไหร่ ช่วงต่อเวลาเอสเซียงก็ยิงตอนที่ผมลื่นล้มพอดี ถ้ามันตรงกรอบก็เรียบร้อยไปแล้ว โชคดีที่มันไม่เข้ากรอบ”                 “การชนะดวลจุดโทษในแชมเปี้ยนส์ ลีกนัดชิงนี่เป็นอะไรที่ดีสุดๆ ขณะเดียวกันหากเราแพ้ขึ้นมาละก็ คงจะยากจริงๆที่จะทำใจยอมรับได้ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:22:51

ความคิดเห็นที่ 7 “นี่มันไม่ใช่ความฝันของเด็กแล้วล่ะ(boys’ dream) นี่มันต้องเรียกว่าความฝันของคนแก่แล้ว(old man’s dream)” เอ็ดวินหัวเราะร่าเมื่อถูกถามว่าการเซฟลูกสำคัญในการดวลจุดโทษแบบนี้เป็นความฝันรึเปล่า “ผมตามหาช่วงเวลาแห่ง Hans van Breukelen (อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติฮอลแลนด์ที่เซฟลูกจุดโทษสำคัญในการดวลจุดโทษให้ทีมพีเอสวีของเขาชนะในนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกปี 1988 และในปีเดียวกันก็ช่วยชาติคว้าแชมป์ยูโรปได้ด้วยการเอาชนะรัสเซีย 2-0 โดยสามารถเซฟจุดโทษในเกมได้ด้วย) มานานมากแล้ว และในตอนนี้ผมทำมันได้สำเร็จแล้ว” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:23:57

ความคิดเห็นที่ 8 ฟังเสียงก็รูู้้แล้วว่าดีใจมาก จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:24:54

ความคิดเห็นที่ 9 เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2009 ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยให้ยูไนเต็ด สร้างสถิติใหม่ให้กับสโมสรและพรีเมียร์ลีกเมื่อไม่เสียประตูติดต่อกันมากที่ สุด 11 เกม 1,032 นาที ในเกมที่ต้อนตือเวสต์บรอมวิช 5-0 (สถิติเก่าเป็นของปีเตอร์ เช็ก ที่ช่วยให้เชลซีไม่เสียประตู 10 เกมติดต่อกัน 1,025 นาทีในฤดูกาล 2004-05)               เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2009 ฟาน เดอ ซาร์ ก็ทำลายสถิติโลกด้วยการทำคลีนชีตนานถึง 1,302 นาที เอาชนะโฆเซ่ มาเรีย บูลูเบชิช ที่ทำไว้ในหนึ่งฤดูกาลของลีกชิลีเมื่อปี 2005 จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:26:26

ความคิดเห็นที่ 10 ฟาน เดอร์ ซาร์รับบอลเข้าอกในเกมกับเวสบรอมวิช เพื่อเก็บกลับบ้านไปเป็นที่ระลึก ในฐานะที่สร้างสถิติไม่เสียประตู 1,032 นาที               “เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดว่าคุณเริ่มคิดว่าคุณไร้เทียมทานและไม่อาจเอาชนะได้ เมื่อนั้นจะเป็นเวลาที่คุณเริ่มจะพ่ายแพ้ ผมตัดสินใจเก็บลูกบอลกลับบ้าน ผู้เล่นหลายคนเก็บฟุตบอลกลับบ้านเมื่อทำแฮตทริก ผมเลยคิดว่าผมน่าที่จะเก็บบอลกลับบ้านด้วย”         “ผมเคยทำสถิติไว้2 อย่างในฮอลแลนด์ อันหนึ่งเป็น ไม่เสียประตู 10 นัด และอีกอันเป็นไม่เสียประตู 9 นัดในแชมเปี้ยนส์ ลีก ผมรู้สึกดีเสมอที่ได้ทำสถิติเหล่านี้”         “ผมว่าการเล่นกับกองหลังของเราเป็นเรื่องที่ง่ายนะ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ลง พวกเขาเล่นได้เยี่ยมเสมอ ทุกคนมีความสามารถที่ส่งเสริมเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ และคนที่ทำให้เกิดความลงตัวนี้ก็คือท่านผู้จัดการทีมนั่นเอง”          เรื่องที่ผมทำสถิติได้ได้รับความสนใจมากเลยนะ แต่ผมไม่เคยชอบการเป็นจุดสนใจหรอกนะ ผมได้อ่านหนังสือโปรแกรมแล้วมันบอกว่า อีกแค่ 63 นาทีสถิติกำลังจะถูกทำลาย และเมื่อตอนครึ่งหลังของเกม ผมก็แอบดูสกอร์บอร์ดแป็บนึงว่าถึงเวลารึยัง แต่ผมรู้ว่ามันไม่ค่อยดีเลยนะ สิ่งสำคัญคือการเอาชนะเกมให้ได้ต่างหาก” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:29:27

ความคิดเห็นที่ 11 อย่างไรก็ตาม ฟาน เดอ ซาร์ ต้องพลาดหวังในการคว้าเหรียญแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเป็นสมัยที่ 3 เมื่อ “ปีศาจแดง” พ่ายให้บาร์เซโลน่า 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2009 ทว่า เขาก็ยังได้รับรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมของยุโรปจากยูฟ่าเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ได้ครั้งแรกกับอาแจ็กซ์เมื่อ 14 ปีก่อน จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:32:30

ความคิดเห็นที่ 12 แม้ว่าจะได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนายทวารที่ดีที่สุดในโลกแต่ ฟาน เดอ ซาร์ ไม่ค่อยมีโชคนักกับทีม “กังหันสีส้ม” หลังตกรอบในการดวลจุดโทษทั้งในศึกยูโร 1996, ฟุตบอลโลก 1998 และยูโร 2000 ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ฮอลแลนด์ ยังตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2002 ด้วย          ในศึกยูโร 2004 ฟาน เดอ ซาร์ ช่วยเซฟจุดโทษให้ทีมเอาชนะสวีเดน 5-4 ในการดวลจุด    โทษตัดสินรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่สุดท้ายฮอลแลนด์ก็ต้องไปพ่ายให้กับโปรตุเกสในรอบตัดเชือก                ก่อนเกมที่จะพบกับไอวอรี่โคสต์ในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลก 2006 ฟาน เดอ ซาร์ ไม่เสียประตู 9 นัดติดต่อกัน และในฐานะกัปตันทีมฮอลแลนด์ เขาทำลายสถิติของแฟรงค์ เดอ บัวร์ ในฐานะผู้เล่นที่ติดทีม “กังหันสีส้ม” มากที่สุดตลอดกาล ในเกมรอบ 2 ที่พบกับโปรตุเกส                ในวันเกิดครบรอบ 37 ปี ฟาน เดอ ซาร์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ เรดิโอ 583 ว่าเขาตั้งใจที่จะเลิกเล่นทีมชาติหลังจบศึกยูโร 2008 และสุดท้ายฮอลแลนด์ก็ตกรอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อพ่ายให้กับรัสเซีย 3-1           อย่างไรก็ตาม นายด่านจอมเก๋า ก็เปลี่ยนใจกลับมาเล่นทีมชาติต่อหลังถูก เบิร์ต ฟาน มาร์ไวลด์ โค้ชคนใหม่ของ “กังหันสีส้ม” กล่อมจนใจอ่อน และในเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก ฮอลแลนด์ ก็เอาชนะ นอร์เวย์ 1-0 เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2008 ซึ่งเป็นการติดทีมชาตินัดที่ 130 และทำให้เขาเป็นเจ้าของสถิติผู้เล่นที่ติดทีมชาติฮอลแลนด์สูงสุดตลอดกาล จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:34:16

ความคิดเห็นที่ 13 “ความทรงจำที่ดีที่สุดของผมในการเล่นให้กับทีมชาติคือตอนฟุตบอลโลก 98 ที่ฝรั่งเศส โดยเฉพาะในนัดที่เจอกับบราซิล ทั้งอัฒจรรย์ครึ่งหนึ่งเป็นสีเหลือง อีกครึ่งเป็นสีส้ม มันเหมือนมีทั้งจุดต่ำสุด และสุดที่สูงสุด เราอาจจะแพ้ตกรอบในเกมนั้น แต่บรรยากาศของฟุตบอลโลกครั้งนั้นมันเยี่ยมจริงๆ”              “สิ่งหนึ่งที่ผมเสียดายในการลงเล่นให้กับทีมชาติคือ ไม่มีโอกาสที่จะได้เซฟลูกสำคัญๆแล้วเราเป็นแชมป์ เหมือนกับที่ผมทำในแชมเปี้ยนส์ ลีกกับยูไนเต็ด อย่างไรก็ตามผมก็พอใจผลงานของฮอลแลนด์นะ”                   หลังจากถูกถามว่าจังหวะที่ปิแอร์ ฟาน ฮอยดองก์ถูกทำฟาล์ว สมควรเป็นจุดโทษรึเปล่า เอ็ดวินก็ตอบว่า “ไม่นะ หลายๆครั้งที่เมื่อเรามองย้อนกลับมา เรามักจะใช้คำว่า “ถ้าหาก” เสมอ  แต่สิ่งที่ผมทำคือพยายามคิดว่าสิ่งที่เราประสบความสำเร็จมาได้มันยิ่งใหญ่เกินพอแล้ว” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:35:51

ความคิดเห็นที่ 14 ข้อมูลน่ารู้            - เอ็ดวินชอบเทนนิสเป็นอย่างที่สองรองจากฟุตบอล และเขาจะเล่นเทนนิสเมื่อตอนซัมเมอร์เท่านั้น       - นักฟุตบอลที่เอ็ดวินชื่นชอบที่สุดคือซีเนอดีน ซีดาน และริโอเฟอร์ดินาน ที่ชอบซีดานเพราะเขาเป็นนักฟุตบอลชั้นเลิศ และยังเป็นมนุษย์ที่ดีคนหนึ่งด้วย และสำหรับเฟอร์ดินาน ก็เพราะความสามารถในการเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น       - นอกจากนี้เอ็ดวินยังให้ความสำคัญของโภชนาการทั้งของตนเอง และครอบครัวด้วย “เมื่อตอนที่ผมอยู่ที่อาแจ็กซ์ ผมได้รับการสั่งสอนเกี่ยวกับการการอย่างมีสุขภาพดี และผมก็นำสิ่งนั้นมาใช้กับลูกๆของผมด้วย ไม่ใช่ว่าผมจะไม่ให้ลูกผมกินแม็คโดนัลด์เลยนะ เพียงแต่จะไม่ให้กินบ่อยก็เท่านั้น สิ่งสำคัญคือการได้กินกันเป็นครอบครัว เรา 4 คน พ่อ แม่ ลูก จะกินอาหารเหมือนๆกัน ทั้งเนื้อ ผัก และสลัด ถึงแม้ว่าลูกๆผมจะไม่ค่อยกินสลัดก็ตามทีเถอะ         นิสัยการกินของเขาได้เปลี่ยนไป “อาหารดัตช์ไม่ได้มีชื่อเสียงหรอกนะ! พวกเราก็มีแค่มันฝรั่ง แครอท ละก็บีทรูธ ตอนเช้าของที่นู่นพวกเรามักจะกินขนมปังโรยด้วยช็อคโกแลต และเกล็ดสีขาวๆ ที่เรียกว่า “squashed mouse” ซึ่งนั่นต่างจากอาหารเช้าแบบอังกฤษอย่างสิ้นเชิง! แต่ละคนนี่เค้ากินเบคอนกับไข่ทุกเช้าเลยรึเปล่านะ ส่วนลูกผมกินซีเรียล” แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 11:43:35 จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:40:54

ความคิดเห็นที่ 15 “คุณจะทำสิ่งที่ดีซัก 20 ครั้งในสนามก็ได้ แต่ถ้าคุณทำพลาดครั้งเดียว ผู้คนก็จะจดจำความผิดพลาดนั้นไปตลอด และเมื่อคุณพลาดแล้ว นั่นก็เริ่มจะยากแล้ว เอาจริงๆนะ เป็นผู้รักษาประตูเนี่ย ไม่ได้ยากเรื่องร่างกายหรอก แต่เรื่องจิตใจเนี่ยเป็นสิ่งที่หินมาก คุณจะต้องตั้งใจจดจ่อตลอดเวลา ผมพยายามจัดแนวรับ และสื่อสารกับกองหลังตลอดทั้งเกม แต่ไม่ได้เป็นแนวเสียงดังแบบปีเตอร์ ชไมเคิ่ลนะ แต่จะเป็นแนวแบบโค้ชมากกว่า เช่น “เฮ้! พันตรีประจักษ์ ขยับเข้ามาหน่อย!เอ้า เฮียเต่าทวิตไปทางซ้าย! หรือ เข้าบอลสิ!”         “ริโอพัฒนาเรื่องการเป็นกองหลังได้ดีขึ้นๆเรื่อยๆ และตอนนี้ก็เป็นกองหลังชั้นเยี่ยมทั้งของเรา และของอังกฤษ ผมรู้สึกได้รับการปกป้องอยู่เมื่ออยู่หลังริโอ และวิดิช” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:42:05

ความคิดเห็นที่ 16 ฟาน เดอ ซาร์จะพบกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเสมอเมื่อยามต้องซ้อมกับ รูนี่ย์ และสโคลส์ “ทีมเรามีพวกยิงไกลแรงๆดีๆอยู่นะ สโคลซี่อัดทุกลูกตรงกรอบหมด เป็นเรื่องที่สนุกมาก สโคลส์ยิงแรงกว่ารูนี่ย์อีก คนผลิตบอลก็ไม่ได้ช่วยผลิตลูกบอลให้โกลล์รับได้ง่ายๆเลย บอลเด้งไปทุกที่เลย”       “ผมเคยคุยกับ คนที่เตรียมลูกบอลสำหรับปีหน้า “นี่คุณจะทำให้มันรับได้ง่ายๆหน่อยมั้ย?” ผมถามเขา “ไม่มีทางหรอก”เขาบอก”ดีไม่ดีมันจะเร็วกว่าบอลปีนี้อีก” ผมบอกกับตัวเองว่าเดี๋ยวนี้แต่ละทีมมีคนที่ยิงอัดบอลได้ดีๆ แม้แต่ลูกที่ยิงพลาดก็อาจจะเป็นลูกอันตรายได้ เดี๋ยวนี้ใครๆก็ยิงประตูฟลุ๊กๆได้แล้ว”       อันตรายอีกอย่างหนึ่งก็คือคู่แข่งที่รีบปรี่เข้ามาชาร์จบอลที่ผู้รักษาประตู “ผมให้เกียรติคู่แข่งเสมอนะ ผมก็หวังว่าจะได้รับความเคารพกลับคืนมาบ้าง ผมไม่เคยเข้าไปรับบอล หรือเข้าชาร์จอย่างห่ามๆนะ การเล่นให้ขาวสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับฟุตบอล” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:44:17

ความคิดเห็นที่ 17 เอ็ดวินเคยสงสัยว่าเวลาที่ผ่านไปทำไมมันถึงได้เร็วเหลือเกิน มันดูเหมือนราวกับว่าเมื่อวาน เขายังทำคลีนชีทในนัดที่อาแจ็กซ์เอาชนะมิลานซิวแชมป์ได้ในปี 1995 “มันผ่านไปภายในพริบตา เมื่อตอนผมอายุ 24 ผมคิดกับตัวเองว่าผมจะเล่นถึงกี่ปีนะ เล่นอีกสัก 10 ปีก็กำลังดี จนถึงตอนที่ผมอายุ 34 พอถึง 34 ปุ๊บผมยังรู้สึกสนุกกับฟุตบอล ร่างกายยังฟิต และผมก็อยากเล่นต่อไป”        “ผมว่าฟุตบอลเป็นงานที่ดีที่สุดในโลกนะ” เอ็ดวินย้ำ “แต่การได้เป็นนักเตะเอาท์ฟิลเหมือนกับที่ไรอัน กิ๊กส์ทำอยู่ ผมว่าเป็นเกียรติประวัติที่ดีกว่าการเป็นผู้รักษาประตูนะ ถึงยังไงผมก็มีความสุข สิ่งสำคัญที่สุดคือการได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีมและผู้จัดการทีม และให้พวกเขามีความสุข” แก้ไขเมื่อ 06 มี.ค. 54 19:55:41 จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:45:39

ความคิดเห็นที่ 18 ริโอ เฟอร์ดินานด์กล่าวถึงเพื่อนร่วมทีมคนนี้ว่า “เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยเล่นด้วย ความนิ่ง และความไว้ใจได้ของเขา มันมากล้นจนแพร่ซึมไปถึงแบ็กโฟว์ทุกคนที่เล่นอยู่ข้างหน้าเขา ผมไม่เคยเจอผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าดีเท่าเขาเลย” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:47:23

ความคิดเห็นที่ 19 เซอร์ เฟอร์กี้ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ผมเคยคิดเสมอว่าชไมเคิ่ลเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ผมว่าเอ็ดวินก้าวขึ้นไปอยู่ระดับเดียวกับเขาแล้วนะ ผมไม่สามารถบอกได้เลยว่าใครเหนือกว่าใคร  ทั้งคู่เป็นผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยม ไม่ใช่แต่กับเรา แต่พวกเขายอดเยี่ยมตลอดทั้งชีวิตการค้าแข้ง ไม่เชื่อก็ลองดูความสำเร็จของพวกเขาสิ ฟาน เดอร์ ซาร์ได้เข้าชิงยูโรเปี้ยน คัพถึง 4 ครั้ง และได้เล่นฟุตบอลโลกอีก 3 ครั้ง ขณะที่ชไมเคิ่ลไม่ต้องพูดถึงเลย ตอนที่เขาเล่นอยู่นั้นเขาได้รับการยกย่องให้เป็นผู้รักษาประตูอันดับ 1 ของโลก”            “ทั้งคู่เป็นผู้รักษาประตูที่มีบุคลิกแตกต่างกัน แต่ก็เป็นคนที่ยิ่งใหญ่ทั้งคู่ ผมดีใจเหลือเกินที่ได้ร่วมงานกับทั้ง 2 คน”           “เอ็ดวินเป็นตัวอย่างที่ดีว่าเราจะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างไร และจะทำยังไงให้เล่นในระดับสูงให้ได้ดีอยู่ตลอด เอ็ดวินมีความกระหายและมีความทะเยอทะยานอยู่เสมอ”           “ยิ่งเอ็ดวินอายุมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผู้รักษาประตูที่ดีขึ้นเท่านั้น จริงอยู่ที่เขามีผู้เล่นดีๆเล่นอยู่ข้างหน้าเขา แต่ถึงคราวเมื่อเขาต้องทำหน้านี้ เขาก็ทำได้ดีไม่มีพลาด” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:49:13

ความคิดเห็นที่ 20 ไรอัน กิ๊กส์ผู้ที่ได้เล่นร่วมกับชไมเคิ่ลในช่วงปีเถลิงแชมป์ยุคทศวรรษที่ 90พูดถึงเอ็ดวินว่า “เอ็ดวินดีเท่าปีเตอร์รึเปล่าน่ะหรือ? พวกเขาเป็นโกลล์ที่ดีทั้งคู่ และคุณก็ไม่สามารถเปรียบเทียบพวกเขาได้หรอก ในตอนนี้เอ็ดวินได้แผ่ซ่านความนิ่งของเขาไปทั่วทั้งทีม เขานิ่งมากเมื่อยามอยู่กับบอล และเมื่อเราจ่ายคืนหลังไปให้เขา โดยทั่วไปแล้ว ความสามารถในการเป็นผู้รักษาประตูของเขาดีมากเลย แน่นอนว่านั่นเป็นสิ่งที่เอ็ดวินได้รับการถ่ายทอดมาตามตำรับโททัล ฟุตบอลของอาแจ็กซ์ เราน่าจะคว้าตัวเค้ามาตั้งแต่ตอนที่ชไมเคิ่ลจากไป” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:50:20

ความคิดเห็นที่ 21 ครอบครัว       เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์แต่งงานกับแอนมารี ฟาน เคสเตเรน เมื่อปี 2006 ทั้งคู่มีลูก 2 คน ลูกชายชื่อโจ และลูกสาวชื่อลิน เอ็ดวินกับแอนมารีรู้จักกันเพราะ แอนมารีทำงานอยู่ร้านขายของชำในละแวกที่ฟาน เดอร์ ซาร์ อาศัยอยู่ เอ็ดวินมาร้านของชำนี้ทุกวัน จนพี่ชายของหล่อนจับไต๋ได้ว่าไม่ได้มาเพื่อซื้อผัก       เดือนกรกฎาคมปี 2009 แอนมารีถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 2 วันก่อนวันคริสต์มาส ด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง ฟาน เดอร์ ซาร์จึงได้รับอนุญาตเป็นพิเศษให้ลาไปดูแลภรรยาที่ป่วย จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:58:00

ความคิดเห็นที่ 22 รักน้าซาร์ เราเจอกันช้าไป จากคุณ : Perfect Day : P-Blur เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:58:01

ความคิดเห็นที่ 23 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์กำลังที่จะแขวนถุงมือหลังจากจบฤดูกาลนี้ เพื่อที่จะได้ใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้น           “ตอนนี้มันยังไม่จบนะ ยังมีอีก 3 เดือนที่เราจะต้องฝ่าฟันไปเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จอื่นๆ จะได้ถ้วยอะไรมันก็ไม่สำคัญหรอก นั่นเป็นสิ่งที่คุณหวังว่าจะทำได้ และผมหวังว่าความหวังนี้จะกลายเป็นรูปเป็นร่างเมื่อคราวจบซีซั่น”                    “มีสิ่งสำคัญ 2 อย่างที่จะต้องคำนึงถึง นั่นก็คือ ครอบครัว และเรื่องที่ว่าคุณยังมีความกระหายที่จะเล่นฟุตบอลอยู่หรือไม่ คุณจะต้องสำรวจตัวเอง ว่าคุณยังมีดีที่จะเล่นให้อยู่ในระดับสูงอยู่หรือไม่ ผมดีใจกับฟอร์มตัวเองนะ แต่คุณไม่สามารถเป็นซูเปอร์แมนได้หรอก เมื่อคุณถึงวัย 40 กว่าแล้ว”           “ผมคุยเรื่องนี้กับเซอร์ อเล็กซ์มาซักพักแล้วล่ะ และเราก็ตกลงกันว่านี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของผม เมื่อตอนที่ผมมาถึงที่นี่ใหม่ๆ ผมดีใจมาก และเซ็นสัญญาเอาไว้ 2 ปี ผมแค่อยากจะคว้าแชมป์ให้ได้ก่อนที่จะรีไทร์ไป โชคดีที่ผมประสบความสำเร็จมากกว่าที่ผมคิดไว้ และก็ได้ยืดอายุการเล่นให้มามากกว่า2 ปี”                   “มันคงจะดีนะถ้าผมจะมีเวลาได้อยู่ที่นี่มากกว่านี้ 2-3 ปี แต่ชีวิตก็เป็นอย่างนี้แหละ ผมดีใจที่ในที่สุดผมก็ได้มาอยู่ ณ ตรงนี้ และได้ใช้เวลาที่แสนดีที่นี่หลายต่อหลายปีด้วยกัน” “การได้อยู่ที่ยูไนเต็ดเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าจะได้มาอยู่ตอนอายุขนาดผมแล้วก็เถอะ นับเป็นความปลื้มปิติอย่างถึงที่สุด” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 21:59:40

ความคิดเห็นที่ 24 “ผมไม่เคยคาดคิดเลยว่าผมจะได้มาอยู่ที่นี่” เอ็ดวินยอมรับ “เมื่อผมเซ็นสัญญากับยูไนเต็ด ผมรู้สึกดีใจมาก” “ผมโชคดีตลอดมาที่ไม่ต้องมีปัญหาบาดเจ็บนานๆ นั่นช่วยให้ผมยืดช่วงเวลาการค้าแข้ง และยังสามารถเล่นอยู่ในระดับสูง ให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก” “และไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันต้องยากขึ้นสำหรับผมแน่ๆทั้งทางร่างกายและจิตใจ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตอนนี้จึงถึงเวลาที่จะต้องรีไทร์แล้ว” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:01:07

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ จากคุณ : Martreff เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:01:22

ความคิดเห็นที่ 26 เซอร์ อเล็กซ์พูดถึงการรีไทร์ของฟาน เดอ ซาร์ “เป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่เราก็รับรู้ดีแล้ว พอถึงวัย 40 ก็อาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้รักษาประตูที่จะรักษามาตรฐานไว้ได้ เหมือนที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดกับปีเตอร์ ชิลตัน”        “ตอนนั้น เมื่อชิลตันถึงวัย 40 จู่ๆฟอร์มของเขาก็เริ่มแย่ และผมว่า เอ็ดวินก็ไม่ต้องการที่จะเป็นแบบนั้น เขาเป็นคนที่เคารพตัวเองมาก และนั่นมันจะเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของเรา”        เซอร์ อเล็กซ์ยอมรับว่าสนใจที่จะดึงฟาน เดอร์ ซาร์มาเป็นโค้ชในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด “แต่เรายังไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลย แต่เอ็ดวินน่าจะสนใจที่จะทำเพราะความเข้าใจเกมของเขาสูงมาก” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:02:25

ความคิดเห็นที่ 27 -*- อ่านแล้วน้ำตาซึมเลยง่า ไม่รู้ว่าจบหรือยังเอ่ย จากคุณ : Juvenis เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:02:33

ความคิดเห็นที่ 28 ช่วงเวลาของฟาน เดอร์ ซาร์ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตรงกับช่วงที่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดประสบความสำเร็จมากที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสร นั่นรวมไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยซ้อน แชมป์ยุโรป 1 ครั้ง รวมถึงการได้เข้าชิงอีก 1 ครั้ง        “อิทธิพลของฟาน เดอร์ ซาร์ในฐานะที่เป็นนักเตะอาชีพเป็นสิ่งหนึ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่จะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป ” เฟอร์กูสันกล่าว        “เอ็ดวินยอดเยี่ยมในทุกๆด้าน ไม่เพียงเฉพาะความสามารถทางด้านฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผลงานในการซ้อม การเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักเตะดาวรุ่ง และการวางตัวของเขาในห้องแต่งตัว เขาเป็นคนที่แสนพิเศษจริงๆ”        “แต่เขาก็พูดถูกนะที่ว่า ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องพยายามเป็นซูเปอร์แมนในวัย 40 ทุกคนก็มีช่วงเวลาการค้าแข้งของตัวเอง”        “และนี่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่แสนเศร้าสำหรับอาชีพของผม เมื่อคุณจะต้องเห็นนักเตะต้องเลิกเล่นเนื่องจากอายุพัดพาเอาสังขารไป” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:04:03

ความคิดเห็นที่ 29 ถึงจะเจอกันช้า แต่ก็ยังดีที่ไม่สาย แต่.... เวลาไม่เคยพอ สำหรับเรา  อยากให้อยู่อย่างนี้ไปนานเท่านาน จากคุณ : Juvenis เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:05:50

ความคิดเห็นที่ 30 ทุกสิ่งผ่านมา ก็ย่อมมีวันผ่านไป เหมือนต้นไม้ที่มีวันบานสะพรั่ง และวันที่ร่วงโรยไปเพื่อรอให้ใบใหม่ผลัดขึ้นมา ถึงแม้น้าซาร์ จะต้องจากไป แต่ทุกสิ่งที่ทำให้เราจะได้รับการจดจำตลอดไป ไม่ว่าใครที่จะผ่านเข้ามา ไม่ว่าความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นมากเท่าไร แต่สิ่งหนึ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป คือ ความเป็น"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด"                               BELIEVE จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:13:16

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณที่ตามอ่านครับ แปลและเรียบเรียงจาก http://risclub.com/livescore/?p=910 http://www.mirrorfootball.co.uk/news/Edwin-van-der-Sar-is-best-Manchester-United-keeper-ever-says-Rio- http://thesoccerroom.com/?p=18207#ixzz1FGuCDUYz http://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/edwin-van-der-sar-put-your-hopes-in-these-hands-for-safe-keeping-1628862.html http://netherlands.worldcupblog.org/1/2008-edwin-van-der-sar-13-years-at-the-top.html http://blog.great-save.com/keeper-news/van-der-sar-announces-retirement/ http://www.fifa.com/worldfootball/clubfootball/news/newsid=997410.html http://en.wikipedia.org/wiki/Edwin_van_der_Sar http://redrants.com/flashback-friday-favorite-edwin-van-der-sar-manchester-united-moments/ http://www.footballfancast.com/2011/01/football-blogs/the-glittering-career-of-edwin-van-der-sar http://thesoccerroom.com/?p=18207 แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 23:35:26 จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:15:03

ความคิดเห็นที่ 32 ครั้งนึงน้าพาลูกเมียมาปั่นจักรยานแถวๆนี้ด้วยครับ จากคุณ : Doraemyung เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:19:36

ความคิดเห็นที่ 33 คุยกับจขกท.ก่อนนะครับ         น้าซาร์เป็นหนึ่งในนักเตะที่ผมชอบที่สุดในทีม ตั้งแต่ช่วงบอลโลก 98 แล้วครับ ผมเชียร์ฮอลแลนด์ จำได้ว่าโดนลอดขาไป 2-3 ลูกเลย 555+ และก็เหมือน ว่าดวงผูกกันนะครับ ได้ย้ายมาอยู่ในทีมที่ผมรักพอดี ที่ผ่านมาได้น้าซาร์ ผมว่าเซฟไป 20 คะแนนเลยครับ ต่อฤดูกาล และยังมีนัดชิง ชปล. อีก เป็นฮีโร่อย่าง แท้จริง         ได้โปรดรับชมเซฟนี้ของน้าซาร์ครับ เป็นลูกที่ ผมชอบที่สุด จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:19:50

ความคิดเห็นที่ 34 อันนี้เป็น compilation ครับ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:20:51

ความคิดเห็นที่ 35 "ยังไม่พร้อมที่จะฟัง ไม่รับรู้ไม่อยากฟัง วันนี้นู๋ยัง เข้มแข็งไม่พอได้ยินน้าลา ยังเห็นน้าเล่นอยู่ นั่งดูด้วยน้ำตา รับรู้ว่าใกล้แล้วสินะ..จะไม่มีเธอ" อ่านไปเศร้าไป ภูมิใจ ดีใจที่มีน้าเข้ามาอยู่ในทีม ต่ออีกซักได้มั๊ยคะ น้าซาร์ อีกปีเดียวนะๆ นู๋ทำใจยังไม่ได้จริงๆ จากคุณ : DimitarChicharitoScholesGiggs เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:22:12

ความคิดเห็นที่ 36 เข้ามาให้กิฟ + โหวตโลด แม้จะเจอกันช้าไป แต่น้าซาร์ก็มา ทำให้เกมรับเหนียวขึ้นมากจริงๆ ปีหน้าจะเลิกแล้วก็อดเสียดายไม่ได้ ขอให้น้าและครอบครัวมีความสุขครับ ส่วนตัวแทนนั้น ผมชอบมาร์เทน สเตเคเลนเบิร์กโกล์รุ่นน้อง ทีมชาติฮฮลแลนด์นี่ล่ะ สูงเหมือนกันนะ (ในวิกิบอกว่าสูง 198) แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 54 22:24:04 จากคุณ : SamuDi Knight เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:22:35

ความคิดเห็นที่ 37 โหวต จากคุณ : From_CNX เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:39:17

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านแล้วจะร้องไห้ครับ T_T เหลืออีกไม่กี่เดือนจริงๆหรอเนี่ย... อยากใ้ห้น้าเล่นต่อก็จริง...แต่ครอบครัวสำคัญกว่าครับ... อวยพรให้น้าโชคดีในวันข้างหน้า..และขอบคุณที่ช่วยให้เราได้แชมป์มากมาย.... หวังว่า น้า จะแขวน ด้วยถ้วยติดมือ อีกซัก 3 ถ้วยไปเลยนะ :p จากคุณ : P_Pond_P เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 22:59:03

ความคิดเห็นที่ 39 น้ำตาไหล....ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ทำเพื่อทีมมาตลอด อีกหนึ่งตำนานของเรา จากคุณ : Anny_love love เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:03:59

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างฮะ น้าจะอยู่ในหัวใจของพวกเราชาวปีศาจแดงตลอดไป จากคุณ : เขียนด้วยหัวใจ (BK_unz) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:13:42

ความคิดเห็นที่ 41 โหวตครับโหวต เป้นกระทู้ที่ควรค่าแก่การแนะนำกว่าบางกระทู้ซะอีก จากคุณ : เปลืองเวลา เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:18:25

ความคิดเห็นที่ 42 โหวตค่ะ ไม่อยากให้น้าซาร์ไปเลย.. แต่เพื่อตัวน้าซาร์และครอบครัว ยอมรับการตัดสินใจค่ะ จากคุณ : รัศมีจันทร์ดารา เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:19:41

ความคิดเห็นที่ 43 ♥น้าที่สุดค่ะ ทุกๆ นัดที่น้าลง ทำให้หนูมั่นใจได้ว่าวันนี้แมนยูต้องชนะหรือไม่ก็คลีนชีท จากคุณ : FAii_MUFC เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:19:58

ความคิดเห็นที่ 44 ♥♥♥ นายทวารชาวดัตช์ จากคุณ : FAii_MUFC เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:23:34

ความคิดเห็นที่ 45 #43,44 ทำไมงานชั้นเธอไม่ไวเหมือนอย่างงี้มั่ง- -" ปล.รักน้าซาร์จุ๊บๆ จากคุณ : รักร้าวที่บางปะกง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:25:00

ความคิดเห็นที่ 46 ว่าจะนอนเร็ว เจอกระทู้นี้เข้าไป นั่งอ่านจนจบเลยครับ ขอบคุณมากครับที่นำมาฝากกัน จากคุณ : Pipatz เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:28:10

ความคิดเห็นที่ 47 ถึงเราจะเจอกันช้าไป แต่สุดท้ายเราก็ยังได้มาเจอกัน จากคุณ : natureza เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:28:31

ความคิดเห็นที่ 48 #45 อย่ามาแซวววว ♥♥บอกให้โลกรู้ว่าหนูรักน้าค่ะ♥♥ =) จากคุณ : FAii_MUFC เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 54 23:32:55

ความคิดเห็นที่ 49 เข้ามาชอบเลขกระทู้ 4444 จากคุณ : B1 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 00:06:09

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณบทความดีๆ (อีกแล้ว) จากคุณ : GiggsScholes เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 00:08:28

ความคิดเห็นที่ 51 แวะมาให้กีบน้าซา หนูร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกน้าซาค่ะ จากคุณ : SOUTHERN GIRL เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 00:27:14

ความคิดเห็นที่ 52 3 TROPHY FOR EDWIN VAN DER SAR & GARY NEVILLE !!! จากคุณ : Home_Nature เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 00:30:40

ความคิดเห็นที่ 53 ว่าที่กระทู้แนะนำ จากคุณ : saksayam เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 01:33:48

ความคิดเห็นที่ 54 น้าซาร์ก็ หนึ่งในตำนานของสโมสรเรียบร้อยแล้ว ไม่อยากให้ไป แต่ก็ต้องยอม ยินดีต้อนรับแฟนๆปีศาจแดงเข้าสู่ยุคมืดของการหาโกล์อีกครั้ง จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 01:41:43

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณ จขกท. มากๆครับที่ทำมาให้อ่านกัน เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ น้าซาร์มาช้าไปนิดแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้มา : ) หลังจากนี้คงต้องมาลุ้นกันว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูคนใหม่ของยูไนเต็ด จากคุณ : สุดยอดปลาน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 01:56:16

ความคิดเห็นที่ 56 ตั้งแต่หมดยุคชไมเคิ่ล ก็มีฟานเดอซาร์นี่แหละครับ ที่พอเห็นเค้าลงสนามแล้วเรารู้สึก "อุ่นใจ" ทุกครั้ง จากคุณ : นายสำรวม เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 02:05:36

ความคิดเห็นที่ 57 ขอแสดงความยินดีกับน้าซาร์ด้วยครับ ที่ทั้งชีวิตประสบความสำเร็จเยอะเหลือเกิน และคงจากฟุตบอลไปอย่างสบายใจ ^^ จากคนคนนึงที่เคยตามด่าสมัยน้าอยู่อาแจ๊กซ์ จนมาไม่ค่อยชอบต่อที่ยูเว่ และเฉยๆที่ฟูแล่ม แต่ชื่นชมในความเก่งกาจเหลือเกินเมื่ออยู่แมนยู ฯ จากคุณ : KapampaBlue เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 02:07:07

ความคิดเห็นที่ 58 เห็นกระทู้นี้แล้วคันมือครับ วาดรูปนี้มาแจมสดุดีน้าครับ และรอเตรียมดูบอลคืนนี้ จากคุณ : Doraemyung เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 02:11:15

ความคิดเห็นที่ 59 #58 รูปสวยมากครับ ชอบๆๆๆ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 02:15:02

ความคิดเห็นที่ 60 “เฮ้! พันตรีประจักษ์ ขยับเข้ามาหน่อย!เอ้า เฮียเต่าทวิตไปทางซ้าย! หรือ เข้าบอลสิ!” ฮาตรงนี้สุดครับ เห้อ ไม่อยากกลับเข้าสู่ยุคตกต่ำของผู้รักษาประตูเหมือนที่เคยประสบมาแล้วเมื่อตอนหมดยุคชไมเคิลเลย ขอป๋าหาตัวแทนให้ได้ก่อนน้าซาร์จะไปได้ไม๊เนี่ย T T จากคุณ : A E Y A U D D A เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 02:15:40

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณคุณ สุกิต MK ครับที่ตั้งกระทู้นี้มา รูปนั้นผมวาดตั้งกะสี่ทุ่ม เพิ่งเสร็จตามเวลาที่โพสต์อ่ะครับ มือหงิกเลย เมาส์ปากกาก็งี่เง่า T_T แก้ไขเมื่อ 02 มี.ค. 54 02:19:05 จากคุณ : Doraemyung เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 02:18:26

ความคิดเห็นที่ 62 แมตรอบชิ ยูฟ่า ปี 2008 นี้จำไม่ลืม บรรยากาศโคตรโกงความตาย จะปิดทีวีอยุแล้ว ฮือๆ  ตอนนั้นน้าหล่อมากกกกกก จากคุณ : AeRocky เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 02:33:36

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ แบบนี้นะคะ จบฤดูกาลไปคงคิดถึงน้าซาร์มากแน่ๆ  ท่าทางแกเป็นผู้ชายที่น่ารักและอบอุ่นนะ  คำว่าครอบครัวมาอันดับหนึ่งเลย ^^ ขอบคุณสำหรับสิ่งดีๆ ที่มีให้ทีมเสมอมานะคะน้าซาร์ จากคุณ : Noey :p เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 05:35:33

ความคิดเห็นที่ 64 หนึ่งในสองผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมตลอดกาลในใจผม อีกคนเป้นชไมเคิล เพราะผมรัก United จากคุณ : Striker no.9 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 09:16:54

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าได้ถ้วยใบใหญ่พร้อมการอำลาทีมจะยิ่งใหญ่มากๆเลย จากคุณ : mydear99 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 09:30:57

ความคิดเห็นที่ 66 พี่รู้ไหมครับ บทความเรื่องน้ายีราฟทำให้ผมเสียน้ำตา จากผลเมื่อคืนผมคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แม้ว่าจะมีบางอย่างทำให้เราไม่สามารถชนะได้ ใช่ แม้ว่าเราแพ้ แต่พวกคุณชนะใจผมไปแล้ว และไม่ได้มีเพียงคุณ ทุกคนที่ได้ชื่อว่า Manchester United ผู้เล่นทุกคน สตาฟทีมทุกคน แฟนบอลที่รักศรัทธาในสโมสรอันอบอุ่น แม้วันที่ย่ำแย่ เราพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันกับคุณ "แม้วันที่ไฟสลัว เราคงไม่กลัว เพราะถ้ามีไฟสลัวหลายๆดวง เราก็จะพบแสงสว่าง!" WE BELIEVE :) จากคุณ : NetJinn7 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 09:42:08

ความคิดเห็นที่ 67 ได้เวลาปวดหัวหาตัวแทนคุณภาพอีกแล้ว คราวก่อนก็ใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 11:22:26

ความคิดเห็นที่ 68 เขียนได้ดีมากครับ ผมนั่งอยู่กับกระทู้นี้ไม่ขยับไปไหนเป็น ชม. เลย ถึงจะเตรียมใจไว้ แต่ก้อดใจหายกับการขาดหายไปของน้าไม่ได้จริงๆ จากคุณ : บะหมี่สีดำ เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 11:33:02

ความคิดเห็นที่ 69 EDWIN VAN DER SAR THE FLYING DUTCHMAN จากคุณ : romio9snsd เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 12:59:42

ความคิดเห็นที่ 70 ภายหลังชัยชนะอันแสนหอมหวานของยูไนเต็ด เมื่อปี 1999 บรรยากาศครึกครื้นของการฉลอง 3 แชมป์ของทั้งเหล่านักเตะและแฟนๆก็ดำเนินไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่แฟนปีศาจแดงอดรู้สึกใจหายไม่ได้คือ การอำลาของยักษ์เดนส์ผู้ยิ่งใหญ่ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล จาก จขกท. _______________________________________ ประวัติศาสตร์จะกลับมาอีกครั้ง ภายหลังชัยชนะอันแสนหอมหวานของยูไนเต็ด เมื่อปี 2011 บรรยากาศครึกครื้นของการฉลอง 3 แชมป์ของทั้งเหล่านักเตะและแฟนๆก็ดำเนินไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่แฟนปีศาจแดงอดรู้สึกใจหายไม่ได้คือ การอำลาของสุดยอดโกลล์ที่ยิ่งใหญ่อีกคนของเรา "Edwin van der Sar" จากคุณ : พ่อมดกระป๋อง เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 14:17:27

ความคิดเห็นที่ 71 อ่านแล้วน้ำตาซึม พูดไม่ออก แต่อยากจะบอกว่า ขอบคุณค่ะน้าซาร์ จากคุณ : fulllove4ever เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 14:43:43

ความคิดเห็นที่ 72 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีดีแบบนี้นะครับ สารภาพว่าผมแอบน้ำตาซึมเลยล่ะ คงเหมือนที่ใครหลายๆคนว่าไว้ น่าเสียดายที่เราเจอกันช้าไปหน่อย เลยได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในระยะเวลาที่ไม่นานนัก แต่แม้กระนั้น ตลอดช่วงเวลาที่่ผ่านมา น้าก็เอาชนะใจแฟนแมนยูไนเต็ดทุกคนได้สำเร็จ และผมเชื่อว่าไม่มีใครไม่รักน้าเลยสักคน จริงๆนะ.... จากคุณ : maezono_no7 เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 15:07:48

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณมาก จขกท. ถึงเวลาก็ต้องไป คนเรา สังขารมันไม่คอยใคร แม้ผมจะเป็นแฟนเชลซีนะ แต่ก็ยินดีด้วยที่แมนยูมียอดโกลล์อย่างฟานเดอซาร์ที่จะเกษียณตัวลงที่นี่ ขออวยพรให้หลังเกษียณมีแต่โชคดีนะครับ และอาจจะได้เจอในฐานะสต้าฟฟ์โค้ชทีมใดทีมหนึ่ง ^^ ปล. ปัญหาคือจะเอาใครมาแทน เรน่าแห่งหงส์แดงเหรอครับ จากคุณ : buddhi เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 15:30:25

ความคิดเห็นที่ 74 อยากให้มันมีปาฏิหารย์ ให้น้าไม่มีวันจากไป จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 16:53:47

ความคิดเห็นที่ 75 อ่านแล้วได้อะไรเยอะแยะจากน้าซาจิงๆครับ นอกจากความเก่งกาจในสนามแล้วยังเป็นตัวอย่างดีๆในการใช้ชีวิตด้วย รวมถึงวิธีคิดของแกก็สุดยอด แฟนผีแดงดีใจและภูมิใจมากครับ ที่ครั้งนึงได้เคยเห็นน้าซาเล่นอยู่ในทีม น้าแกยิ่งใหญ่มากครับ บอกได้เลย ขอบคุณจขกท.มากครับที่นำบทความดีๆมาให้อ่าน จากคุณ : Wazza27 (Wazza27) เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 17:35:33

ความคิดเห็นที่ 76 น้ากลายเป็นตำนานอีกคนของ United ไปแล้วครับ จากคุณ : Kisugi เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 18:48:40

ความคิดเห็นที่ 77 ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลต่างๆ อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ ถึงผมจะไม่ใช่แฟนยูไนเต็ด แต่ชอบฟานเดอซาร์ มาก เนื่องจากทีมที่ผมเชียร์คือฮอลแลนด์ นอกจากนั้นยังชอบความสุภาพเวลาอยู่ในสนามด้วย ความนิ่ง ความเหนียว สุดยอดจริงๆ จากคุณ : MondayCool เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 18:48:59

ความคิดเห็นที่ 78 ยอดเกม ยอดโกล กับ ยอดคน...EDWIN VAN DER SAR จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 18:53:02

ความคิดเห็นที่ 79 ได้เวลา กวิน แล้วสิ ^_^  เห็นว่า ร๊อบสันเห็นแวว จะเอาไปฝึกที่ ยูไนเต็ดไม่ใช่เหรอ หน่วยก้านก็ไม่เลว ไม่แน่ อาจจะเป็นเพชรในตมก็ได้นะ จากคุณ : J-ram เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 19:23:11

ความคิดเห็นที่ 80 ผมแฟนสิงห์ดูคลิปจุดโทษทีไร มัน T^T จากคุณ : แต๋วแหน่ว เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 19:35:29

ความคิดเห็นที่ 81 ถึงผมไม่ได้เชียร์แมนยู แต่ผมชอบน้าเค้านะ ลีลาแกมันสุดๆๆอะ จากคุณ : Honza_Like a ku เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 54 20:14:36

ความคิดเห็นที่ 82 แนะนำ..ถ้ามีเป็นหนังสือ Pocket Book คงแหล่มมากเรย  ^o^   จะรีบอุดหนุนเรยแหละ ^^ จากคุณ : Jesse'Daddy (Jesse'Daddy) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 03:31:18

ความคิดเห็นที่ 83 แจ๋วไปเลย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 05:47:29

ความคิดเห็นที่ 84 ไม่รู้ทำไม  อ่านแล้วน้ำตาซึมคะ น้าซาร์สุดยอดดดดดดด จากคุณ : จบบริบูรณ์ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:31:55

ความคิดเห็นที่ 85 อ่านแล้วน้ำตาซึม 2 สุดยอดผู้รักษาประตูของโลกมาอยู่ในทีมเรา จากคุณ : scozember เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 09:59:15

ความคิดเห็นที่ 86 น้าซาร์ครับ...ขอบคุณมาก อุ่นใจทุกครั้งที่มีน้าอยู่ในเกมส์ ปีนี้ขอ Triple Champ อีกสักที จักขอบคุณอย่างสูง จากคุณ : nongsu เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:00:20

ความคิดเห็นที่ 87 ช่วงระหว่างชไมเคิลกับน้าซาร์ มีใครเป็นโกล์แมนยูมั่งครับ จำไม่ได้ จากคุณ : แฟนสวย เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 12:38:12

ความคิดเห็นที่ 88 ผม อยากให้มา ตั้งแต่แรก ๆ แล้ว ตั้งแต่ ยูเวน แล้ว น่าจะมาแมนยูเลย น่าจะทำให้ทีมดีกว่านี้ ณ ตอนนั้น และน่าจะมีส่วนช่วยทีมได้มาก ๆ เหมือนเช่นตอนนี้ ... จากคุณ : D_YONG เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 13:34:26

ความคิดเห็นที่ 89 แม้จะเจอกันช้าไปนิด แต่ช่วงเวลาที่มีร่วมกันนั้น มันช่างวิเศษจริงๆค่ะ   จากคุณ : ดอกกุหลาบสีพีช เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 17:00:00

ความคิดเห็นที่ 90 T-T ผมรักน้าซาร์ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 18:34:08

ความคิดเห็นที่ 91 สุดยอดเลยนะครับ จากคุณ : dabodabo55 เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 19:28:20

ความคิดเห็นที่ 92 งึดๆ เศร้าอ่ะ เพิ่งจะรู้ตัวเองว่าน้าซาร์เข้ามายึดพื้นที่นักเตะในดวงใจก็จนน้าจะไปแล้ว น้าเป็นโกล์ที่สม่ำเสมอมากคนหนึ่งที่เคยดูบอลมา น้าช่วยชีวิตทีมไว้หลายครั้งมาก แม้กระทั่งจนปัจจุบันนี้ อยากจะบอกว่า น้าเป็นตำนานในใจแฟนแมนยูไปแล้วจริงๆนะฮะ จะจดจำน้าในฐานะตำนานผู้รักษาประตูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากคุณ : GT4Max เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 20:31:27

ความคิดเห็นที่ 93 ผิดที่เรา เจอกัน ช้า ไป .....   T^T จากคุณ : SmapzSociety เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 20:44:42

ความคิดเห็นที่ 94 ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ เหมือนตอนที่รู้ว่าชไมเคิล กำลังจะไปเลยจริงๆ ต้องมารู้สึกแบบนี้อีกครั้ง ยังทำใจไม่ทันเลย แงๆ จากคุณ : Eglewood เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 54 20:57:10

ความคิดเห็นที่ 95 อ่านไป น้ำตาซึมไป จากคุณ : เพราะรัก เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 09:18:56

ความคิดเห็นที่ 96 ใจหายไปเลย หายไปไหนอากาศ ลอยไปกับสายลม ไปสู่ความเหงา ...ใจหายไปเลยเหลือเพียงความว่างเปล่า แล้วรักของเราก็หลุดไป _______________________________________________________________________________________ จากคุณ : jiks2006 เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 12:11:47

ความคิดเห็นที่ 97 สิ่งที่กลัวกำลังจะมาเหมือนตอนชไมเคิลไป แมนยูรั่วอยู่นานมาก  กว่าจะได้น้าซาร์มา จากคุณ : ยิงเสียบสามเหลี่ยม เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 13:21:08

ความคิดเห็นที่ 98 จากคุณ : Plakud04 เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 14:12:23

ความคิดเห็นที่ 99 แม้ผมจะไม่ใช่สาวกแมนยู แต่ผมชอบน้าซาร์มากครับ สุดยอดจริง จากคุณ : beatjung เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 16:06:20

ความคิดเห็นที่ 100 อยากบอกว่า ลูกยิงไกลนี่ กินน้าแกยากมากๆ พักหลังๆมานี่ ลูกยิงไกลแรงๆมา น้าแกจับซะติดหนับเลย จากคุณ : Sir Genii เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 21:22:50

ความคิดเห็นที่ 101 เสียดายที่คลาดกันไปหลายปี ถ้าจำไม่ผิด ซอกเกอร์ฉบับฉลองTreble champตอนนั้นก็พาดหัวว่าแมนยูจะคว้าน้าซาร์แล้ว ขอบคุณที่ทำให้เราอุ่นใจมาหลายปี ขอให้มีความสุขกับครอบครัวเต็มที่อย่างที่หวังค่ะ จากคุณ : ข้าวฟ่าง&ม่านแพร เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 20:02:25

ความคิดเห็นที่ 102 แหล่มเลย น้าซาร์ จากคุณ : WiseChocolate เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 21:08:09

ความคิดเห็นที่ 103 คิดถึงน้าตลอดไปครับผม ไม่ลืมแน่นอน จากคุณ : poundcat เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 22:15:15

ความคิดเห็นที่ 104 เป็นบทความที่ดีมากเลยครับ ส่วนตัวก็ชอบ น้าซาร์มานานล่ะ ฝีมือดี คงเส้นคงวามาก เกลียดตอนแกพาอาแจ๊กซ์ล้มมิลานแค่นั้นแหละ 5555 จากคุณ : amigo เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 22:32:16