ความคิดเห็นที่ 1 ชีวิตในวัยเยาว์ และพ่อของไรอัน        ไรอัน กิ๊กส์เป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกของฟุตบอลอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เส้นทางสู่ความเป็นตำนานของไรอันกลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่ทุกคนที่เข้าใจ จริงอยู่ที่เราอาจจะบอกได้ว่าไรอันเป็นเด็กท้องถิ่นของแมนเชสเตอร์ และอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 6 ขวบ แต่ก่อนหน้านั้น “บ้าน” ของกิ๊กซี่คือเวลส์ ไรอันอาศัยอยู่ในย่านที่แสนลำบากแห่งหนึ่งในคาร์ดิฟ ซึ่งเป็นที่ๆสอนให้เขาได้รู้จักความยากลำบาก และต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในครอบครัวที่แตกร้าว        กิ๊กส์จะไม่มีทางลืมชีวิตในวัยเยาว์ที่เติบโตมาในเวลส์เลย จะไม่ลืมว่าสิ่งนั้นได้หล่อหลอมความเป็นตัวตนของเขา และกิ๊กส์มักจะพูดเสมอว่าเขาภูมิใจในความเป็นเวลช์ และเขาไม่เคยคิดว่าตนเป็นคนอังกฤษเลยแม้แต่นิดเดียว แม้จะเคยเล่นให้กับทีมเด็กนักเรียนอังกฤษก็ตาม        ไรอันเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง เป็นนักเตะผู้ซึ่งมีแรงกระตุ้นให้ทำตามความต้องการอยู่เสมอ เขาต้องการเป็นนักเตะที่ดีที่สุด ซึ่งแรงผลักดันทั้งหมดทั้งปวงมีส่วนสำคัญมาจากชีวิตในวัยเยาว์ของกิ๊กส์ ที่กิ๊กส์ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับบุคคลที่กิ๊กส์ทั้งรักทั้งเกลียด-แดนนี่ วิลสัน พ่อของเขา และมาจากสายสัมพันธ์ที่เขามีต่อแม่ผู้ให้กำเนิด และเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บอสใหญ่ของยูไนเต็ด ผู้ที่เปรียบเสมือน พ่อคนที่สองของกิ๊กส์ ผู้มีบทบาทสำคัญอย่างมากในช่วงชีวิตการค้าแข้งช่วงแรกของกิ๊กส์ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:03:26

ความคิดเห็นที่ 2 ไรอัน กิ๊กส์ เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 1973 โดยตอนนั้นได้รับการตั้งชื่อว่า ไรอัน โจเซป วิลสัน เป็นบุตรของนักรักบี้ชาวเวลส์เชื้อสายเชียร่า เลโอนชื่อดัง แดนนี่ วิลสัน และหญิงผู้ดูแลเด็กในเนอสเซอรี่ ลิน เซอรี่ กิ๊กส์ ทั้งคู่พบกันในขณะที่ยังเรียนอยู่ในโรงเรียน และให้กำเนิดไรอันในขณะที่อายุได้เพียง 17 ปีเท่านั้น          จะเห็นได้ว่า ในสูติบัตร ชื่อสกุลของกิ๊กส์ตั้งตามผู้เป็นแม่ และช่องที่จะต้องใส่ชื่อพ่อกลับว่างทิ้งเอาไว้           ความสัมพันธ์ของแดนนี่ และลินนั้นไม่สวยหรูมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว ในตอนนั้นทั้งคู่ประสบปัญหาเงินของขัดสน และพวกเขาเด็กเกินไปที่จะรับภาระการเลี้ยงลูก นอกจากนี้ทั้งคู่ยังมีความต้องการต่างกันด้วย ลินนั้นต้องการความมั่นคง ส่วนแดนนี่นั้นเป็นพวกกร้านโลก ชอบความสำราญ และเจ้าชู้เป็นที่หนึ่ง             เป็นชีวิตคู่ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูไม่เข้ากันตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว พวกเขาไม่ได้แต่งงานกัน และชีวิตของทั้งคู่ก็แสนลำบาก ลินต้องรับงาน 2 ที่ และต้องฝากให้พ่อแม่ของหล่อนช่วยเลี้ยงดูไรอัน แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 54 17:31:47 จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:04:48

ความคิดเห็นที่ 3 ความรัก และความอบอุ่นของตายายที่มอบให้กับไรอัน ได้เข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดไป ที่เขาไม่ค่อยจะได้รับจากผู้เป็นพ่อ สถานการณ์ของคู่สามีภรรยาไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น มิหนำซ้ำกลับจะแย่ลงหลังจากทั้งคู่ให้กำเนิดลูกคนที่สอง โรห์ดริ หลังจากให้กำเนิดไรอันได้ 3 ปี ไรอันเคยยอมรับว่า ปัญหาภายในบ้านของเขาไม่ได้มีเพียงการทะเลาะมีปากเสียงของคู่สามีภรรยาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำร้ายร่างกาย แดนนี่เคยโดนจับหลังจากที่ทำรายร่างกายลินอย่างหนัก และถูกลินตะเพิดออกจากบ้านไป              ไรอันเคยกล่าวไว้ว่า เมื่อเขาโตขึ้นๆ และได้มาลองทบทวนการกระทำของพ่อเขาที่เคยทำต่อแม่ ความรักของเขาที่มีต่อพ่อก็น้อยลงๆขึ้นทุกวัน  ไรอันบอกได้เลยว่า เขาเป็น “ลูกของแม่” และไรอันก็ตีตัวออกห่างแดนนี่ผู้เป็นพ่อ และแทบจะไม่เคยคุยกับพ่อของเขาอีกเลยเมื่อโตขึ้น คุณตาของไรอันครับ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:07:08

ความคิดเห็นที่ 4 ไรอันเคยเขียนลงในอัตถชีวประวัติของตัวเขาเองว่า “ผมคงต้องบอกว่า ผมเคยนับถือและเคารพพ่อของผม แต่ความนับถือนั้นก็ได้หมดไป เมื่อผมได้ย้ายไปอยู่แมนเชสเตอร์ ที่นั่นผมได้ระลึกว่าพ่อได้มอบชีวิตที่ขมขื่นขนาดไหนให้กับแม่ของผม เขาเป็นคนปลิ้นปล้อน และเป็นเสือผู้หญิง” และกิ๊กส์ยังกล่าวด้วยว่า แดนนี่ “เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี” ให้กับตัวกิ๊กส์เอง              กิ๊กส์ได้ตัดสินใจมาใช้นามสกุลของแม่เมื่ออายุ 16 ปี เพื่อ “ให้โลกได้รับรู้ว่าผมเป็นลูกของแม่” และจากความขมขื่นในวัยเด็กของกิ๊กส์นี้อาจบอกได้ว่าเป็นสาเหตุให้กิ๊กส์ เป็นคนที่เก็บตัวมากขึ้น แต่ในด้านดี มันช่วยให้ไรอันมุ่งมันที่จะไม่ทำตัวอย่างพ่อเขา ผู้ซึ่งกิ๊กส์คิดว่า “ทำลายพรสวรรค์ที่มีในการเล่นรักบี้ให้สูญเปล่า” กิ๊กส์เคยกล่าวไว้ว่า “เขาทำลายอนาคตตัวเองแท้ๆ มีคนเคยบอกผมว่า พ่อผมเป็นนักรักบี้ที่ดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาเลย” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:09:55

ความคิดเห็นที่ 5 จุดพลิกผันของชีวิตของไรอันเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุได้เพียง 6 ขวบเท่านั้น เมื่อแดนนี่ได้รับข้อเสนอจากทีมรักบี้ทีมหนึ่งในลีกอังกฤษ สวินตัน ทีมในแถบซัลฟอร์ด ทางตอนเหนือของแมนเชสเตอร์ เป็นการก้าวกระโดดในชีวิตการเล่นของแดนนี่ จากเดิมที่เขาได้เล่นกับกับทีมระดับสหภาพแรงงานเท่านั้น และเป็นโอกาสทำเงินด้วย นั่นทำให้ไรอันได้ย้ายเข้าไปอยู่ในแมนเชสเตอร์ แม้ว่าในตอนแรกเขาจะรู้สึกคัดค้านก็ตาม เพราะไม่อยากห่างจากตากับยายของเขาไปไกล       เมื่อย้ายเข้าไปในแมนเชสเตอร์ แดนนี่ทำเงินได้อย่างมากมายให้กับครอบครัว และทำผลงานให้กับสวินตันได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อไม่นานมานี้ แฟนรักบี้ของสวินตันเคยเข้าไปโพสติดตลกในเว็บทางการของสโมสรว่า ¨สโมสรแมนฯยูไนเต็ดจะต้องบริจาคเงินสร้างสนามให้กับเรา! เพราะถ้าเราไม่เซ็นสัญญากับแดนนี่ วิลสันในปี 1979 โลกแห่งฟุตบอล และแมนฯยูไนเต็ดก็จะไม่ปรากฏตำนานที่ชื่อว่าไรอัน กิ๊กส์อยู่ และตอนนี้ไรอันก็คงต้องค้าแข้งกับทีมรักบี้ในสหภาพแรงงานอยู่!!¨ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:11:35

ความคิดเห็นที่ 6 ไรอัน กิ๊กส์ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับแมนเชสเตอร์ได้ง่ายเหมือนกับพ่อของเขา  ด้วยความที่สืบเชื้อสายเชียร่า เลโอนของพ่อมา กิ๊กส์ไม่ต้องกังวลเท่าไหร่เมื่อยามอยู่คาร์ดิฟ เพราะคนที่นั่นก็มักจะเป็นเลือดผสมอยู่แล้ว แต่เมื่อต้องมาอยู่ในทางตอนเหนือของแมนเชสเตอร์นี้ เขาต้องเผชิญกับการถูกล้อ และถูกเหยียดผิว “พ่อผมเป็นนักรักบี้ชื่อดัง และทุกคนรู้จักเขาก็หมด ผมก็เลยต้องรับอานิสสงค์จากความเป็นแอฟริกาของเขา ผมโดนเพื่อนล้อและเหยียดผิว แต่ผมก็ไม่ได้ตอบโต้นะ ผมทนเก็บเอาไว้”          วิธีการตอบโต้ของกิ๊กส์นั้นไม่เหมือนกับเด็กทั่วๆไป เขาตอบโต้ผู้ที่ล้อเขาด้วย ความอัจฉริยะทางด้านกีฬา เขาเก่งทางด้านฟุตบอลและรักบี้ เขาเล่นรักบี้ได้ดีจนทุกคนต้องทึ่ง เขาเคยไต่เต้าขึ้นไปเล่นให้กับมณฑลแลงคาเชียร์มาแล้วครั้งหนึ่ง จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:12:21

ความคิดเห็นที่ 7 กิ๊กส์ฝังรากลึกความเป็นปีศาจแดงมาตั้งแต่วัยเยาว์ มีครั้งหนึ่งที่เขาเคยไปทดสอบฟุตบอลกับทีมเรือใบสีฟ้า แมนฯซิตี้ กิ๊กส์ สวมเสื้อสีแดงของคู่แข่งร่วมเมืองในการลงซ้อมกับทีมเยาวชนของซิตี้!! เขาไปทดสอบฝีเท้าที่นั่นเพียงเกมเดียวเท่านั้น และมันก็พอเกินพอสำหรับไรอัน!! หัวใจของเขาได้ลอยข้ามเมืองไปยังถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดแล้ว กิ๊กส์ยังมีความฝันที่จะเป็นนักเตะของปีศาจแดงให้จงได้ และผู้ที่ช่วยให้ความฝันนั้นของไรอันเป็นจริง คือ แฮรี่ วู้ด ผู้ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับของสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดในตอนนั้น แฮรี่เป็นผู้แนะนำให้เซอร์ อเล็กซ์จับตาดูเจ้าเด็กหนุ่มชาวเวลส์คนนี้ กิ๊กส์ได้ไปทดสอบฝีเท้ากับปีศาจแดงเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ แต่ว่ากันว่าเฟอร์กี้ได้ประทับใจกับฝีเท้าของไรอันตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว และได้ตัดสินใจไว้แล้วล่วงหน้า ว่าจะเซ็นสัญญากับไรอันแน่นอน เพราะก่อนหน้านั้นไรอันได้ลงเล่นให้กับทีมนักเรียนของซัลฟอร์ด พบกับทีมอายุต่ำกว่า 15 ปีของยูไนเต็ด ผลปรากฏว่ากิ๊กส์สามารถทำแฮทริกได้ ซึ่งผลงานไปเข้าตาเฟอร์กี้ที่ชมเกมผ่านกระจกอยู่บนออฟฟิสพอดี            เซอร์ อเล็กซ์เคยพูดถึงการเล่นของกิ๊กส์นัดนั้นว่า “ผมยังจำตอนที่ผมเห็นไรอันเป็นครั้งแรกอยู่เลย เขาโลดแล่นอยู่บนสนามเดอะ คลิฟ ( ชื่อสนามซ้อมในตอนนั้น) ลีลาของเขานั้นพลิ้วไหวเหลือเกิน จนผมคิดไปว่าเท้าของเขาไม่ได้แตะพื้นอยู่” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:13:43

ความคิดเห็นที่ 8 และแล้วความฝันของกิ๊กส์ก็กลายเป็นความจริงในวันเกิดครบรอบ 14 ปี เมื่อกิ๊กส์กลับมาถึงบ้านพร้อมกับสังเกตเห็นรถเมอร์ซิเดส เบนซ์สีทองจอดอยู่หน้าบ้าน กิ๊กส์รีบวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความตื่นเต้นดีใจ และเขาได้พบว่า อเล็กซ์ เฟอร์กูสันได้นั่งอยู่บนเก้าอี้นวม พร้อมทั้งจิบชาจีนที่ดีที่สุดเท่าที่ลินพอจะหาได้ เซอร์อเล็กซ์ไม่อ้อมค้อม เสนอสัญญา 2 ปีให้กับกิ๊กส์ให้มาเป็นนักเรียนฝึกหัดในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เด็กชายผู้ที่พบกับความยากลำบากในวัยเยาว์ บัดนี้โลกทั้งใบแทบที่จะสยบลงใต้ฝีเท้าของเขาแล้ว เด็กหนุ่มผู้กำลังจากก้าวขึ้นไปเป็นตำนาน!!! จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:14:24

ความคิดเห็นที่ 9 ชีวิตในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และบทบาทของเซอร์อเล็กซ์ในชีวิตของกิ๊กส์         เซอร์ อเล็กซ์ รู้ดีว่าเขาได้ครอบครองเพชรเม็ดงามอยู่ในมือ แต่เขาก็ต้านทานความอยากที่จะส่งไรอัน กิ๊กส์ลงเล่นอย่างเต็มที่ ถ้ายังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสม เขาทะนุถนอมกิ๊กส์ราวกับไข่ในหิน และเลือกกิ๊กส์ลงในแมตช์ที่เหมาะสม เหมือนกับที่ได้ทำกับนักเตะวัยรุ่นคนแล้วคนเล่าที่ผ่านมาในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เขาปกป้องกิ๊กส์ให้พ้นจากเขี้ยวเล็บของสื่อต่างๆ ซึ่งเซอร์ อเล็กซ์ไม่เคยไว้ใจ เขาจะไม่ให้กิ๊กส์ให้สัมภาษณ์หลังจากเล่นได้อย่างประทับใจ ไม่ให้สัมภาษณ์ลงคอลัมน์ หรือโฆษณา จนกว่าจะถึงเวลาที่ท่านเซอร์มองว่าเหมาะสมแล้วเท่านั้น “ผมไม่เคยบอกให้นักเตะดาวรุ่งให้พวกเขาไปปีนเขาในวันพรุ่งนี้ ผมว่ามันยังเร็วเกินไปสำหรับพวกเขา แต่ผมจะบอกพวกเขาว่า พวกเขาจะเป็นนักเตะกำลังหลักในเวลา 5 ปี แต่สิ่งที่จะต้องทำให้มั่นใจคือ ต้องให้พวกเขาเติมเต็มพรสวรรค่พวกเขามีอยู่ และนี่เป็นวิธีที่เราดูแลนักเตะดาวรุ่ง” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:16:20

ความคิดเห็นที่ 10 พอล ปาร์เกอร์ อดีตแบ็กขวาของยูไนเต็ดกล่าวเอาไว้ว่า “บอสได้นำไรอันมาดูแล หลังจากที่ต้องพบกับวัยเด็กที่ปวดร้าว และคิดว่าไรอันเป็นลูกคนหนึ่งของเขา และไรอันยังได้สนิทกับพอล อินซ์ ซึ่งได้ปกป้องไรอันเสมอ นอกจากนี้กิ๊กซี่ยังชอบออกไปเที่ยวกับลี ชาร์ป แต่ถึงยังไงเขาก็ยังเป็นตัวของตัวเอง และเป็นผู้ใหญ่พอที่ตัดสินใจด้วยตัวเองนะ”       “เซอร์ อเล็กซ์ช่วยผมไว้อย่างมากมาย อย่างที่รู้ๆกัน ครอบครัวผมแตกแยก และเขาก็รู้ถึงปัญหานี้ และคอยดูแลผมตลอดมา ถ้าจะมีใครผมจะพึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวนอกสนามก็ต้องเป็นบอสนี่หละ” กิ๊กส์กล่าวถึงผู้จัดการทีม “เขารู้ชื่อพ่อชื่อแม่ของทุกคน และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมอยากเล่นให้กับแมนฯยูไนเต็ด และอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน”        “มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมคึกคะนอง ไปเที่ยวกับเพื่อนๆตามประสาเด็กผู้ชาย แต่ด้วยความที่ผมเติบโตมาท่ามกลางความสนใจของสาธารณะ ผมก็แอบโดนสะกดรอยตาม หรือไม่ก็โดนถ่ายรูป มีพวกผู้หญิงที่ชอบขายข่าวเพื่อเงินอยู่”กิ๊กส์กล่าวถึงช่วงที่เขาหลงระเริงไปกับแสงเสียง “และแล้วผมก็คิดได้ ผมก็เลยทำตัวให้เป็นที่สะดุดตาน้อยกว่านั้นหน่อย” จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:17:14

ความคิดเห็นที่ 11 ไรอันพูดถึงสิ่งที่เขาต้องทำในฐานะเด็กฝึกหัดของสโมสรว่า “ผมต้องทำความสะอาดห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของเด็กฝึกหัด ทั้งห้องเละเทะไปหมด ผมต้องเก็บโคน ลูกบอล หรือผ้าที่ใช้แล้ว มีครั้งหนึ่งผมเคยใส่ลมในลูกบอลมากเกินไป ชไมเคิ่ลถึงกับต้องมาตามหาตัวเลยว่าใครเป็นคนปั๊มลูกบอลลูกนี้!!”        “พวกเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ต้องทำงานพวกนี้อีกเลย ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน จริงๆแล้วควรจะต้องทำนะ เพราะสิ่งนี้มันสอนระเบียบวินัย และการรู้จักที่ต่ำที่สูงให้กับคุณ”         “พวกเด็กวัยรุ่นสมัยนี้อย่างโรนัลโด้ รูนี่ย์ ถ้าฆ่าคนเขาก็คงไม่เอาผิดอะไรหรอก” กิ๊กส์แอบประชด “มีหลายต่อหลายสิ่งที่เด็กสมัยนั้นไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ”        “ฟุตบอลได้เปลี่ยนไปแล้ว ครั้งหนึ่งมันน่าตลกมากเลย รูนี่ย์บอกว่า “ผมอยากเป็นกัปตัน” เฮอะ!! ฝันไปเถอะไอ้หมู เป็นสิ่งที่เด็กในยุคผมไม่มีทางแม้แต่จะฝัน”        “สโมสรต่างๆต่างสมัยนี้ก็ลงทุนด้วยเงินจำนวนมากเพื่อจะรั้งนักเตะอายุ 16 ปีไว้กับทีม”        “ตอนผมเข้ามาในยูไนเต็ดใหม่ๆผมไม่เคยคิดเรื่องเงินเลย ผมแค่อยากเล่นให้สโมสรแห่งนี้เท่านั้น จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:18:35

ความคิดเห็นที่ 12 ประเดิมสนามให้กับแมนฯยูไนเต็ด         วันที่ 2 มีนาคม 1991 ในช่วงเวลาค่ำคืนที่แสนเหน็บหนาว ยูไนเต็ด มีคิวลงเตะกับเอฟเวอร์ตันที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกมนี้ไม่เป็นที่น่าจดจำเท่าไหร่ เพราะยูไนเต็ดถูกนำไปแล้ว 0-2 แต่มีสิ่งหนึ่งที่คนทั่วโลกจะต้องจดจำตลอดไป คือการประเดิมสนามเป็นนัดแรกของไรอัน กิ๊กส์ในทีมชุดใหญ่ “เด็กหนุ่มผมดำ ตัวผอม ท่าทางเก้งก้าง” ลงมาแทนเดนนิส เออร์วิ่นที่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่จะลงสนามนั้นเซอร์อเล็กซ์กล่าวกับลูกทีมคนนี้ว่า “โชคดีนะไรอัน ลงไปสั่งสอนพวกมันซะ!! (Give’em hell)”         ไรอันใช้เวลาไม่กี่นาทีในการทำความคุ้นเคยกับสนาม และเพียงแค่สัมผัสแรกของเขาเท่านั้น ก็ทำให้ทุกคนต้องคิดว่า เจ้าหนูคนนี้ไม่ธรรมดาเลย เขามีการควบคุมบอลที่นิ่มนวล และรวดเร็ว สามารถหลอกล่อกองหลังด้วยทริก และเอาชนะกองหลังไปด้วยความเร็วอย่างง่ายดาย อีกทั้งเขายังมีความแข็งแกร่ง สามารถเบียดแข่งกับกองหลังของท็อฟฟี่เมนส์ได้อย่างสูสี นั่นก็เป็นผลมาจากการฝึกกล้ามเนื้อที่เซอร์อเล็กซ์มอบหมายให้โค้ชดูแลเรื่องนี้เป็นอย่างดี           ผู้รักษาประตูของเอฟเวอร์ตันในวันนั้นคือ เนวิลล์ เซาธ์ทอลกล่าวกับบีบีซีในปี 2009 ว่า “ผมได้ยินชื่อเสียงของเจ้าเด็กคนนี้มาก่อนเกม และเมื่อผมเห็นเขาครั้งแรก ผมก็คิดว่า ทำไมถึงผอมเก้งก้างขนาดนั้นนะ แล้วผมหยอยๆนั่นอะไรกันเนี่ย” “แต่เขามีสปีดที่เร็วมากๆ เลี้ยงบอลได้เชื่องเท้าสุดๆ มีการทรงตัวที่ดี และมีวิสัยทัศน์ต่อเกมที่สุดยอดเลยสำหรับเด็กอายุแค่นี้ คุณสามารถเห็นจอร์จ เบสในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ได้เลย”          แม้ว่าไรอันจะไม่สามารถทำประตูหรือพลิกเกมให้กับ ยูไนเต็ดได้ แต่ทุกคนก็เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไมเซอร์ อเล็กซ์ถึงนิยมชมชอบเด็กหนุ่มคนนี้นัก (ต่อ part ต่อไป) จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:19:57

ความคิดเห็นที่ 13 ตั้งใจไว้ว่าจะทำเป็น 3 parts เพื่อไม่ให้กระทู้ยาวเกินไป อย่าลืมมาตามอ่านนะครับ เร็วๆนี้แหละ ขอขอบคุณ http://www.dailymail.co.uk/home/moslive/article-1041816/The-Life-Ryan-Giggs.html#ixzz1FbTgSG6w และขอบคุณ GIGGSY: The Biography of Ryan Giggs มากๆครับ ที่เป็นแหล่งข้อมูลในการแปล ต่อไปนี้จะโพสรูปที่เหลืออยู่ครับ รูปนี้เข้าขั้นอนาจาร ลืมเซ็นเซอร์หัวนมครับ หวังว่าคงไม่โดนไฟแดงนะ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:23:52

ความคิดเห็นที่ 14 ... จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:26:02

ความคิดเห็นที่ 15 ... จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:26:23

ความคิดเห็นที่ 16 กิ๊กส์เปรี้ยวเชียว จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:26:54

ความคิดเห็นที่ 17 หมดละครับ กิ๊กส์แก้ผ้า เผยให้เห็นถึงน้องชาย!!!!! จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:28:05

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากๆครับ กิ๊ก เป็นยิ่งกว่าแรงบันดาลใจ เป็นคนทำให้ผมชอบแมน ยู จนถึง ทุกวันนี้ กิ๊กเป็น ยิ่งกว่าตำนานที่เดินได้ กิ๊กเป็น อาจเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง ที่เล่นฟุตบอล แต่กิ๊ก มีพลังที่จะทำให้ ผู้คนหลงไหลไปกลับเขาได้ จากคุณ : มนุษย์เงินดาวน์ เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:37:12

ความคิดเห็นที่ 19 #6 ตอนนั้นขนยังไม่ขึ้นเลยสินะ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 17:45:21

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากครับ อ่านเพลินมาก ๆ  จากคุณ : ชายน้อยมองเหม่อนั่งเอ๋อริมถนน เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 18:15:52

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ครับ จากคุณ : หน้าม้ารับจ้าง เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 18:18:52

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากครับ รออ่านตอนต่อไป เป็นแบบอย่างของนักฟุตบอลมืออาชีพที่ไม่ค่อยมีให้เห็นในยุคนี้แล้ว จากคุณ : monboy01 เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 18:38:56

ความคิดเห็นที่ 23 รออ่านครับ ขอบคุณมากๆ จากคุณ : scozember เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:06:07

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นรูปใน คคห. 2 นึกว่า เดวิด ซีแมน จากคุณ : ผู้ชาย Size L เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:25:28

ความคิดเห็นที่ 25 มาลงชื่อไว้ก่อนค่อยตามมาอ่าน จากคุณ : Bierhoff เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:27:28

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณสำหรับบทความดีดีนะครับ จากคุณ : เปลืองเวลา เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:27:36

ความคิดเห็นที่ 27 อ่านแล้วยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่า สิ่งที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต่างจากผู้จัดการทีมคนอื่นๆยังไง และกิ๊กส์คือหลักฐานพยานคำกล่าวนั้น... จากคุณ : Sir Genii เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:50:27

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุญาต จขกท. ครับ ผมจะนำข้อมูลทั้งสามพาร์ทไปตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ได้ไหม เป็นงานที่ต้องส่งอาจารย์นะครับ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:56:10

ความคิดเห็นที่ 29 ตามสบายเลยครับคุณ Orange Knight เพียงแค่มีคน ได้รู้เรื่องพวกนี้มากขึ้นผมก็ดีใจแล้วครับ จากคุณ : สุกิต MK เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:58:23

ความคิดเห็นที่ 30 ยังกะถ่ายมิวสิค จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 20:58:50

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ค่ะ ขออนุญาตแชให้เพื่อนๆ อ่านนะคะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 22:08:43

ความคิดเห็นที่ 32 งั้น Part ที่เหลือขอเร็วๆหน่อยนะครับ ^^ จากคุณ : OrangE_KnighT เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 22:17:08

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณมากๆครับ เห็นชื่อ จขกท. ก็เดาได้เลยว่ากระทู้คุณภาพ...ภาพ...ภาพ ถึงแม้ผมจะเป็นแฟนยูไนเต็ดและไรอัน กิกส์ แต่หลายๆเรื่องเล็กๆน้อยกลับไม่รู้เลยนะครับเนี่ย จากคุณ : สุดยอดปลาน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 54 22:50:00

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณ จขกท มากๆครับผม จากคุณ : amadewlo เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 00:01:51

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณครับ ^^ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 00:33:54

ความคิดเห็นที่ 36 Give ของเดือนนี้ มีไว้ให้ท่าน สุกิต MK คนเดียวเลยครับ ทั้งกระทู้น้าซาร์ กระทู้นี้ และอีก 2 กระทู้ของ Giggs ที่ยังไม่หมด แต่ Give ของผมจะหมดซะก่อนนี่สิ 555 จากคุณ : Martreff เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 01:00:15

ความคิดเห็นที่ 37 รอติดตามครับ ชอบมากที่เมื่อก่อนนักเตะเยาวชนควรจะต้องพบกับความยากลำบากมาก่อน เพื่อให้เกิดความเคารพยำเกรง และความผูกพันต่อสโมสร ควรจะนำระบบดังกล่าวกลับมาใช้สมัยนี้ สมัยที่เงินครองอำนาจ มีอิทธิพลต่อนักเตะมากกว่าความรัก ความผูกพัน และความจงรักภักดีต่อสโมสร จากคุณ : A E Y A U D D A เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 01:41:01

ความคิดเห็นที่ 38 กิ๊กซ์เคยให้สัมภาษณ์ว่า ชีวิตนี้ เขาจะไม่ขอแลกเส้นทางการชีวิตนักฟุตบอลของเขากับใครเด็ดขาด มันเป็นสิ่งยืนยันว่าเขาไม่เคยเสียใจต่อการตัดสินใจใดๆ ไม่ว่าการเลือกเวลซ์มากกว่าอังกฤษ การเลือกยืนหยัดและประกาศให้โลกรู้ว่าเขาคือลูกของแม่ และการได้ลงเล่นกว่า 20 ปีให้แมนยู จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 05:00:08

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณจขกท.ที่แปลบทความดีๆมาให้อ่านนะคะ กิ้กส์ คือที่มาของชื่อเมลล์อันแรกในชีวิตของเราเลยล่ะค่ะ ^^ จากคุณ : AnGio^LeTTo เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 07:11:00

ความคิดเห็นที่ 40 แอบน้ำตาซึมเล็กน้อย ขอบคุณมาก ๆ ครับ สำหรับกระทู้ดี ๆ จากคุณ : second เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 09:25:49

ความคิดเห็นที่ 41 ขบคุณครับ ขอเก็บเข้าคลังกระทู้ จากคุณ : MAD Magazine เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 10:14:32

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณมากมาย จากคุณ : GiggsScholes เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 12:48:43

ความคิดเห็นที่ 43 กิ๊กส์คือแฟนตาซีของฟุตบอลครับ จากคุณ : เจ้าชายเท้าเปล่า เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 54 23:47:04