ความคิดเห็นที่ 1 คือ งงครับ เพราะ ตำแหน่งคือposition ส่วนformationมันคือแผนการเล่น - -" ส่วนเราท์วิ่งเนี่ย เป็นของปีกหรือเป็นของตัววิ่งเอ่ย????? จากคุณ : ~Kanet "The KiLLer" J~ เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 03:08:50

ความคิดเห็นที่ 2 เอาเรื่อง Route ไปก่อนละกันนะครับ Curl route หรือเรียกอีกอย่างว่า button hook โดยมีลักษณะคือ ปีกนอกจะวิ่งไปข้างหน้าทำทีว่าจะใช้ Fly pattern เพื่อให้ CB วิ่งตาม แต่พอถึงจุดหนึ่งจะหยุดและหมุนตัวกลับมารับลูก ใช้ได้ผลดีในการหลอก CB ที่จะป้องกัน Fly pattern และมีความคล่องตัวน้อยกว่าปีกนอก โอกาสรับลูก : สูง ระยะที่ได้ : ปานกลาง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : ปานกลาง เหมาะสำหรับ : ปีกนอกที่มีความคล่องตัวกว่าตัวคุมปีก จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:13:22

ความคิดเห็นที่ 3 Drag route  มีลักษณะคือการวิ่งไปข้างหน้าเล็กน้อยและหักเลี้ยว 90 องศา เพื่อวิ่งไปอีกฟากของสนามโดยวิ่งขนานไปกับแนวตั้งลูก การวิ่งลักษณะนี้ ส่วนมากจะเป็นการวิ่งของพวกปีกในเป็น Option เลือกในกรณีที่ปีกนอกโดนประกบติด มีลักษณะค่อนข้างปลอดภัยและหนีการประกบได้ง่ายแต่จะได้หลาไม่มาก โอกาสรับลูก : สูงมาก ระยะที่ได้ : น้อย ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : น้อย เหมาะสำหรับ : ใช้ร่วมกับ Fly route และมีปีกในหรือ TE ที่รับบอลดี จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:15:01

ความคิดเห็นที่ 4 Corner route มีลักษณะของการวิ่งตรงไปข้างหน้าและหักเลี้ยว 45 องศาไปทางเส้นนอกสนาม การวิ่งแบบนี้มีข้อดีคือการยากที่จะ Intercept เพราะเป็นการวิ่งออก ด้านนอก และเป็น route ที่ปีกนอกนิยมใช้เมื่อบุกเข้าถึงระยะเกือบถึง End Zone เส้นทางแบบนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างได้ว่า Fade มีโอกาสรับลูกน้อย ที่รับได้ส่วนมากจะเป็นท่าพิสดารใน Endzone ทั้งนั้น โอกาสรับลูก : น้อย ระยะที่ได้ : ปานกลางถึงสูง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : น้อยมาก เหมาะสำหรับ : ใช้เมื่อถึงระยะใกล้ End Zone แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 22:38:01 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:18:06

ความคิดเห็นที่ 5 Fly route มีลักษณะการวิ่งแบบง่ายๆก็คือวิ่งตรงจากตำแหน่งเริ่มต้น ตรงไปยัง End Zone ปีกนอกที่มั่นใจว่าตัวเองมีความเร็วจัดมักจะเลือกใช้การวิ่งแบบนี้เพื่อหนีตัวประกบและรับบอลจากนั้นก็วิ่งถึง End Zone ได้เลย นอกจากนั้นแล้วการใช้เส้นทางแบบนี้ยังช่วยให้ปีกนอกดึงทั้งตัวคุมปีกและตัวเซฟตี้ออกไปประกบ เพื่อเปิดพื้นที่ตรงกลางให้ปีกตัวอื่นมีพื้นที่ในการรับบอลเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โอกาสรับลูก : น้อยมาก ระยะที่ได้ : สูง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : ปานกลางถึงสูง เหมาะสำหรับ : Hail Mary pass หรือ สำหรับปีกนอกความเร็วจัด แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 22:38:54 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:20:03

ความคิดเห็นที่ 6 ็Hitch route เส้นทางวิ่งลักษณะนี้จะใช้ในการรับในการส่งลูกแบบฉับพลัน โดยมีลักษณะการวิ่งคือจะเริ่มต้นวิ่งไปข้างหน้าหรือด้านไหนก็ได้นิดนึงแล้วหยุดอย่างรวดเร็วเพื่อรับลูกส่งเร็วก่อนที่ตัวป้องกันจะสามารถมีปฏิกิริยาได้ทัน การรับลูกแบบนี้จะเป็นลักษณะของการรับลูกแล้วทำระยะต่อ ผู้เล่นอื่นๆเช่น Lineman หรือ TE มีหน้าที่วิ่งไปเปิดทางให้ปีกรับเสร็จแล้วทำระยะต่อ โอกาสรับลูก : ปานกลาง ระยะที่ได้ : ขึ้นอยู่กับทีมเปิดทาง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : ปานกลาง เหมาะสำหรับ : ขว้างสั้นๆเน้นแม่นไม่เน้นระยะ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 22:36:59 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:22:25

ความคิดเห็นที่ 7 Out route มีลักษณะการวิ่งออกจากจุดแนวตั้งลูกตรงไปยัง End Zone เมื่อถึงระยะหนึ่งก็จะหัก 90 องศาออกไปยังเส้นข้างสนาม การวิ่งลักษณะนี้ข้อดีคือทำให้ปีกนอกหลีกเลี่ยงการประกบสองจากตัวคุมปีกและเซฟตี้ การวิ่งแบบนี้มักใช้ก่อนจบครึ่งแต่ละครึ่งเพราะเมื่อปีกรับบอลแล้วสามารถวิ่งออกนอกเพื่อหยุดเวลาได้ แต่ควอเตอร์แบ็คต้องขว้างได้อย่างแม่นยำ เพราะถ้าพลาดหมายถึงลูกจะออกจากข้างสนาม โอกาสรับลูก : ปานกลาง ระยะที่ได้ : ปานกลาง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : ปานกลางถึงสูง เหมาะสำหรับ : รับบอลแล้ววิ่งออกสนามเพื่อหยุดเวลา จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:24:22

ความคิดเห็นที่ 8 Post route มีลักษณะการวิ่งตรงออกจากแนวตั้งลูกไปซัก 10-20 หลาแล้วตัดทะแยงมุมเข้าข้างในประมาณ 45 องศา การวิ่งแบบนี้จะใช้เมื่อ DB ตั้งรับลึกแต่ไม่ได้เป็นแบบ Cover 3 การวิ่งลักษณะแบบนี้จะใช้ได้ผลดีเมื่อปีกมีลักษณะที่สามารถรับบอลในพื้นที่แออัดได้ สามารถกระโดดตะปบบอลได้สูงกว่า DB โอกาสรับลูก : น้อย ระยะที่ได้ : ปานกลางถึงสูง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : ปานกลางถึงสูง เหมาะสำหรับ : ปีกนอกตัวสูงรับลูกในพื้นที่หนาแน่นดี จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:28:10

ความคิดเห็นที่ 9 Slant route มีลักษณะการวิ่ง หักเลี้ยว 45 องศาเข้าข้างในไปยังพื้นที่ระหว่าง Defensive Line และ Linebacker เหมาะสำหรับการขว้างเร็ว การขว้างแบบนี้ QB จะต้องขว้างเร็วและแม่นเพราะจะเสี่ยงโดน Intercept ง่ายมาก โอกาสรับลูก : ปานกลาง ระยะที่ได้ : น้อย ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : สูงมาก เหมาะสำหรับ : ปีกในที่เร็วและ QB ที่ขว้างเร็วและแม่น จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:30:16

ความคิดเห็นที่ 10 Flat route เป็นลักษณะวิ่งจากตัววิ่ง (RB) โดยการหันหน้าวิ่งจากจุดตัวเองแล้วมุ่งไปยังเส้นข้าง และรับลูกจากนั้นก็วิ่งต่อไปด้านหน้า เส้นทางแบบนี้มีประโยชน์เมื่อ DB หันไปประกบปีกหมด ตัววิ่งก็สามารถวิ่งออกไปทำหน้าที่เป็นตัวรับบอลได้ โดยมักใช้ร่วมกับ Fly route โดยให้ปีกนอกวิ่งเคลียร์ทางดึง CB และ Sefty ไปกับปีกเพื่อเปิดทางให้ตัววิ่งรับบอลจากระยะสั้นและวิ่งต่อทำระยะได้ โอกาสรับลูก : สูง ระยะที่ได้ : น้อยถึงปานกลาง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : น้อย เหมาะสำหรับ : ตัววิ่งที่รับลูกดีและใช้ร่วมกับ Fly route จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:31:58

ความคิดเห็นที่ 11 Wheel route การวิ่งลักษณะนี้นิยมใช้กับปีกในและตัววิ่ง โดยมีลักณะการวิ่งออกไปยังเส้นข้างก่อนและหันหน้าวิ่งตรงไปยัง End Zone การวิ่งแบบนี้จะใช้ได้ผลสูงสุดเมื่อใช้ร่วมกับการหลอกของ QB เพราะตัวคุมปีกมักจะคิดว่าตัวรับบอลจะรับบอลเมื่อหักเลี้ยวตรงครั้งแรก เมื่อ QB pumb fake ก่อนหนึ่งครั้ง CB จะชะงัก ขณะเดียวกันตัวรับบอลก็จะวิ่งไปข้างหน้าต่อ ซึ่งจะสามารถสลัดตัวคุมปีกและไปรับบอลในพื้นที่เปิดได้ โอกาสรับลูก : ปานกลาง ระยะที่ได้ : ปานกลางหรือสูง ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept : ปานกลาง เหมาะสำหรับ : การเล่นประสานกันที่รู้ใจระหว่าง QB และตัวรับลูก แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 22:34:25 จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:34:14

ความคิดเห็นที่ 12 รู้งูๆปลาๆเท่านี้แหละครับ ผิดถูกอย่างไรวานท่านอื่นช่วยเพิ่มเติมด้วยครับ จากคุณ : ขุนนางหนุ่มสีน้ำเงิน เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 14:34:52

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล จากคุณ : ตีนผีก็มีหัวใจ เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 20:41:14 A:58.11.27.135 X: TicketID:306942

ความคิดเห็นที่ 14 ชอบตรงการวิเคราะห์ โอกาสรับสูง ระยะที่ได้ ความเสี่ยงที่จะโดน Intercept มากเลยครับ เหมือนได้มีอะไรให้คิดตามมากกว่ารู้เส้นทางวิ่งเฉยๆ จากคุณ : YunieHappi (YunieHappi) เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 21:12:00

ความคิดเห็นที่ 15 เล่นโหมดฝึกหัดใน Madden เยอะๆครับ รู้แจ้งเห็นแจ่มแน่ๆ ลองเลือกแผนแบบต่างๆมาฝึก ก็จะเห็นรูปแบบของทิศทางการวิ่งของปีกไปเอง...                                                                                                                  > Shine on you crazy diamond < แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 54 22:05:59 จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 11 มี.ค. 54 22:05:40