ความคิดเห็นที่ 1 อาจสงสัยว่าทำไมไม่ไปตั้งกระทู้ที่เว๊บดังกล่าวซะเลย ผมมีเหตุผลดังนี้ครับ 1) ผมไม่มี log in ของเว๊บดังกล่าว และไม่คิดจะสมัครด้วย เนื่องจากไม่ได้เป็นแฟนบอลของทีมสเปอร์ส (โดยปกติแล้วผมไม่นิยมสมัคร สมาชิกเว๊บบอร์ดที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตัวผม ไม่ว่าทีมใดๆก็ตาม ผมไม่เคยสมัคร ผมถือว่าควรจะเป็นที่ๆกลุ่มคนที่นิยมชมชอบทีมนั้นๆ หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ได้เสวนากันมากกว่า) 2) เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนเว๊บบอร์ดดังกล่าว เกิดขึ้น สืบเนื่องมาจากกระทู้ของผมบน pantip เมื่อไม่กี่วันมานี้ รวมทั้งจากบล็อกของผมบน bloggang ดังนั้นในเมื่อจุดต้นเหตุนั้นมาจากที่นี่ ผมจึงคิดว่าการส่งผ่านข้อความจากที่นี่น่าจะสื่อสารไปถึงเว็บแฟนคลับดังกล่าวได้ 3) เนื้อหาสาระของกระทู้นี้ อาจเป็นประโยชน์ในทางใดทางหนึ่ง แก่ผู้ที่ได้ผ่านเข้ามาอ่าน ในหลายๆแง่มุม ดังนั้น ก่อนที่ผมจะลงรายละเอียด เล่าถึงเรื่องราวต่างๆ ผมขอความกรุณา และความร่วมมือไปถึง ผู้ที่ได้แวะเข้ามาอ่านกระทู้นี้ และสนใจที่จะรับฟัง เรื่องราว และปัญหาที่เกิดขึ้น ให้อ่านและพิจารณาด้วยจิตใจเป็นกลาง และด้วยความใจเย็นนะครับ (เพราะมันอาจจะยาวไปหน่อยครับ) จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:28:07

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องนี้เกิดขึ้นจาก กระทู้ของผมบน pantip ที่ผม post เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 และบน บล๊อกของผมที่ผมเผยแพร่ในวันเวลาไล่เลี่ยกัน content ของทั้งกระทู้ และบล๊อกจึงมีเนื้อหาเหมือนกันทั้งหมด http://www. pantip. com/cafe/supachalasai/topic/S10317192/S10317192.html หรือ copy หมายเลขกระทู้ S10317192 ไป paste ใน URL ก็ได้ ในกรณีที่ link มันไม่ขึ้นนะครับ http://www. bloggang. com/viewblog.php?id=cantonotskitroom&group=5 บล๊อกแก๊งก์ ผมชื่อ cantonotskitroom จึงนำไปสู่คำวิพากษ์วิจาร์ณ และวิเคราะห์ บนเว๊บบอร์ดของแฟนคลับสเปอร์ส ในประเทศไทย www. spursthailand. net/webboard/index.php?topic=14577.0 (ถ้า link ไม่ขึ้น ให้ไปที่ spursthailand ดอท net กระดานสนทนา ห้องรับแขก หัวข้อเรื่อง เพื่อนๆว่าของจริงไหม...  ) จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:29:49

ความคิดเห็นที่ 3 ทีนี้ ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากเนื้อหาในกระทู้ และบล๊อกของผม ทำให้เกิดข้อสงสัยขึ้น ในหมู่แฟนบอลทีมสเปอร์สที่ได้เข้ามาอ่านกระทู้นั้น ซึ่งผมได้อ่านแล้วจะแยกเป็นประเด็นดังนี้ 1) ผมเป็นใคร ทำไมถึงได้เสื้อเหล่านี้มา 2) ทำไมผมถึงไม่ออกมาอธิบายว่าได้เสื้อเหล่านี้มาได้อย่างไรให้ชัดเจน 3) ปัญหาเกี่ยวกับเสื้อต้องสงสัยทั้งสามตัวที่ว่านั้นเป็นอย่างไร จิงๆแล้วผมไม่เคยเข้าไปในเว๊บของ spursthailand มาก่อนเลยในชีวิต แต่ด้วยความบังเอิญ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คือวันที่ 11 มีนาคม 2554 ผมทำการลอง search ใน google ถึง เว๊บไซต์ส่วนตัวของผม แล้วผลลัพธ์จากการโพสท์ มันแสดง link ไปสู่กระทู้ดังกล่าวบน spursthailand ผมจึง click เข้าไปดู จึงได้รับรู้เรื่องราวของผม ที่กำลังถูกวิพากษ์วิจาร์ณกันอย่างสนุกปาก โดยที่ถ้าผมไม่บังเอิญ search หาเกี่ยวกับ website ของผมในวันนั้น ผมก็ไม่สามารถรู้ได้ว่า มีกลุ่มคนสงสัยในตัวผม โดยที่ผมไม่อาจ ออกมาโต้แย้งข้อสงสัย คำติฉิน นินทานั้นได้เลย จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:31:41

ความคิดเห็นที่ 4 ข้อที่ 1 ) ผมเป็นใคร ทำไมถึงได้เสื้อเหล่านี้มา ผมจะเล่าอย่างคร่าวๆนะครับ และถ้ามีโอกาสผมอาจจะเล่าแบบยาวๆบนบล๊อกของผมถ้าจำเป็น ผมอายุ 32 ปี สะสมเสื้อฟุตบอลมาเป็นเวลาเกือบยี่สิบปีตั้งแต่เด็ก โดยมาเริ่มจิงๆจังเมื่อปี 2001 กับเสื้อแข่ง ที่เรียกว่า match worn หรือเสื้อแข่งที่ใช้แข่งจริง จากประสบการ์ณ 10 ปี ในวงการเสื้อแบบ match worn ทำให้ผมได้ผมปะกับนักสะสมมากมายจากทั่วโลก รวมทั้งผู้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่บางทีฟังแล้วเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ว่าคนไทยธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เป็นคนที่มีเส้นสาย ไม่ใช่ลูกคนใหญ่คนโต ไม่ใช่มหาเศรษฐี ไม่ได้ทำงานในวงการกีฬา หรือสื่อที่เกี่ยวกีฬา ฟังดูแล้วไม่น่าจะไปเกี่ยวข้อง หรือรู้จักกับคนกลุ่มหนึ่ง ในแวดวงฟุตบอลระดับโลกได้เลย จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:32:47

ความคิดเห็นที่ 5 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมเห็นว่าในประเทศไทย การสะสมเสื้อฟุตบอลนั้น เป็นที่นิยมกันมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงเสื้อแบบ match worn นั้นก็มีคนไทยสะสมกันมากขึ้น แม้จะไม่เยอะเท่าไหร่ก็ตาม แต่จากการลอง search ดูใน internet ผมก็พบว่า บางคนยังมีความ เข้าใจอย่างผิดๆ หรือไม่ถูกต้องนักเกี่ยวกับเสื้อประเภทนี้ เ ข้าใจกันผิดๆถูกๆ เพราะไม่ได้มีประสบการ์ณตรงไม่ได้เข้าไปคลุกคลีถึง แหล่งต้นตอจิงๆ จึงมีสิทธิจะถูกหลอกเอาง่ายๆ เพราะถ้าวันใดก็ตาม ถ้าเสื้อแบบนี้เป็นที่นิยม และเป็นที่ต้องการมากขึ้นในอนาคต ก็อาจถูกทำปลอมขึ้นมาได้ เพราะเราต้องยอมรับว่า เสื้อฟุตบอลแบบปลอมนั้น บ้านเราทำได้เนียนมาก จนแทบจะเป็นของฝาก ขึ้นชื่อของประเทศเรากันเลยทีเดียว อาจมีคนโดนหลอกเอาได้ง่ายๆ ผมจึงมีความตั้งใจเขียน บล๊อกขึ้นมาเพื่อถ่ายทอดประสบการ์ณในการสะสมเสื้อบอลของผม และตั้งใจเอาเสื้อสวยๆที่ได้มา มาแบ่งปันกันให้ดู และถ่ายทอดความรู้ผ่านทางบล๊อกของผม แต่ก็ไม่คิดว่าจะเจอกับเรื่องแบบนี้เลย จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:35:08

ความคิดเห็นที่ 6 ข้อที่ 2) ทำไมผมถึงไม่ออกมาอธิบายว่าได้เสื้อเหล่านี้มาได้อย่างไรให้ชัดเจน อย่างที่กล่าวไปในข้อที่ 1 เรื่องราวที่ผมต้องการถ่ายทอดลงบนบล๊อกของผมนั้น ผมได้พยายามจัดเตรียมให้เป็นหมวดหมู่ เป็นขั้นเป็นตอน เป็นลำดับ ผมพยายามจะเล่าเรื่อง และถ่ายทอดตามลำดับเป็นขั้นๆไป สำหรับผมแล้ว การเขียนบล๊อก ก็เหมือนการเขียนหนังสือหนึ่งเล่ม การเล่าเรื่องราว ถ่ายทอดประสบการ์ณ ถ้าเราเฉลยกันตั้งแต่ต้นเลยว่าผมเป็นใคร ไปทำอะไรมา บล๊อกของผมก็เน่าเลยสิครับ เรื่องราวก็จะไม่น่าติดตามใช่มั๊ยหละ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:37:15

ความคิดเห็นที่ 7 ปัญหามันจึงเกิดขึ้น เมื่อผมนำเสื้อที่ได้มา มาลงแบ่งกันดู หลายคนที่ไม่รู้จักที่มาที่ไปของผม จึงสงสัยในตัวตนของผม สงสัยว่าเป็นใคร ได้เสื้อเหล่านี้มาจากที่ไหน อย่างไร ซึ่งสำหรับผมนั้น การที่จะมีคนสงสัยในเรื่องแบบนี้ เป็นสิ่งที่ยอมรับได้ ทุกคนมีสิทธิสงสัยในเรื่องที่ข้องใจ แต่ถ้าถามถึงสิทธิในการที่จะตัดสินว่าใครคนใดคนหนึ่งนั้น มีความสามารถอย่างไรขนาดไหน อันนี้ผมต้องย้อนกลับไปถามคนที่ได้ตัดสินผมไปแล้วหละว่า คุณมี "สิทธิ" ที่ว่าแค่ไหน ผมก็คงต้องย้อนกลับไปถามหาคุณสมบัติของผู้ที่จะมาตัดสินผม ควรจะมีความรู้เรื่องอะไรบ้าง ความสามารถของพวกคุณมีขนาดไหน ถึงมาตัดสินผมแบบนี้ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:39:52

ความคิดเห็นที่ 8 จิงๆแล้วเรื่องราวพวกนี้ ผมจะพยายามทยอยนำมาถ่ายทอด ลงบนบล๊อกของผมอยู่แล้ว แต่เกือบทุกครั้งที่ผมนำเสื้อของผมมาลงในกระทู้ หรือบล๊อก จะต้องมีคนมา challange มาตั้งข้อสงสัย เร่งเร้าให้ผมบอกที่มาที่ไป ผมก็ได้แต่เพียงบอกว่า ให้อดทนใจเย็น ให้ไปรออ่านในบล๊อก ผมจะค่อยๆอธิบายเป็นขั้นเป็นตอน แต่ในเมื่อสงสัยกันมาก ผมก็จะอธิบายให้ฟัง แต่เป็นแบบคร่าวๆนะครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:41:21

ความคิดเห็นที่ 9 ทำไมผมถึงไม่บอกว่า ได้เสื้อเหล่านี้มาได้อย่างไร มันแยกประด็นได้ดังนี้ - เหตุผลในความเป็นส่วนตัว ของทั้งผู้ให้ และผู้รับ  ในการได้มาของเสื้อแต่ละตัวของผมนั้น  ผมได้มาทั้งจากตัวนักฟุตบอลโดยตรง (กับมือ)  หรือจากเจ้าหน้าที่ในทีมฟุตบอลซึ่งมีตำแหน่งดูแลชุดแข่งของนักฟุตบอล  หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า kit manager  เพื่อนหรือ ญาติของนักฟุตบอล  เจ้าหน้าที่ทีม ผู้จัดการส่วนตัว เอเยนต์นักฟุตบอล  หรืออาจมาจากการประมูล  หรือมาจากนักสะสมที่นำมาแลกเปลี่ยนหรือขายต่อให้กับผม   ดังนั้นข้อมูลในส่วนที่ว่าได้มาจากใครคนหนึ่งแบบให้ระบุเฉพาะเจาะจงนั้น  บางกรณีคงทำไม่ได้ เนื่องจากผู้ให้ (บางคน)  ได้ร้องขอ ไม่ให้ทำการเปิดเผย    ในกรณีนี้ผมจึงไม่สามารถบอกให้ได้ว่า ได้เสื้อเหล่านี้มาจากคนชื่ออะไร   ผมบอกได้แค่ว่าเป็นฝ่ายดูแลชุดแข่งของทีม เอซี มิลานเท่านั้นนะครับ   ต้องขออภัยด้วย แต่จะให้บอกว่าผ่านจากใครทางไหน แล้ว  มาตกถึงมือผมอย่างไร ผมถือว่าเป็นความลับของธุรกิจผม   ซึ่งจะกล่าวในลำดับต่อไป จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:42:53

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าเป็นการได้รับโดยตรงจากมือนักฟุตบอลเลย ในบางกรณีผมก็สามารถเปิดเผยได้ อย่างเช่นเมื่อปีที่แล้ว ผมไปอิตาลี พบกับนักฟุตบอลหลายคน และหนึ่งในนั้น ได้มอบเสื้อแข่งให้กับผมหลังจากแข่งเสร็จ เค้าถามผมว่าจะถ่ายรูปคู่กันกับเสื้อมั๊ย ผมตอบไปว่า ไม่จำเป็น แค่เซ็นชื่อบนเสื้อให้ก็พอแล้ว (เพราะผมรู้ในใจอยู่แล้วว่าได้มาจากใคร ผมไม่ต้องการเอาหลักฐาน ไปโชว์ใครที่ไหน) จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:43:56

ความคิดเห็นที่ 11 เดี๋ยวจะไม่เชื่อ ผมเอารูปมาลงให้ดู จิงๆผมไม่อยากเอามาลง เพราะมันมีรูปบุคคลที่สาม ซึ่งไม่ควรมาเกี่ยวกับปัญหานี้เลย รูปแรกเป็นรูป ผมถ่ายคู่กับ ฟรานเชสโก้ ตอลโด้ ใน ห้อง เลานจ์รับรองแขกวีไอพี ที่จูเซปเป้ เมอัซซ่า ในเกมการแข่งขัน เซเรียอา เมื่อปีที่แล้ว ผู้ที่จะได้เข้า วีไอพี เลานจ์ นั้นจะต้องมีบัตรเชิญ หรือมีบัตรผ่านเนื่องจากตำแหน่งหน้าที่การงาน จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:46:52

ความคิดเห็นที่ 12 รูปนี้ ผมถ่ายคู่กับ กัปตันทีมอินเตอร์ มิลาน ที่ร้านอาหารในเมืองมิลาน ที่นัดพบกันส่วนตัว หลังเกมเซเรียอาเกมหนึ่ง จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:47:55

ความคิดเห็นที่ 13 ยังมีรูปที่ผมถ่ายรูป กับเพื่อนผม เอเยนต์นักบอล เจ้าหน้าที่ทีม ผู้จัดการส่วนตัวนักเตะ เอเย่นต์นักบอล  อีกเยอะ แต่ผมเลือก เอารูปที่ถ่ายคู่กับนักฟุตบอลดีกว่า ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี ถ้าผมเอารูปของบุคคลอื่นที่ไม่คุ้นหน้าค้นตา ก็จะคิดว่าผมเอารูปที่ไปถ่ายกับใครที่ไหนก็ได้มาอ้าง หรืออาจจะถึงขั้น คิดว่าผมตัดต่อรูปกันก็ได้มั๊งครับ ถ้าจะไม่เชื่อกันจริงๆ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:48:49

ความคิดเห็นที่ 14 - เหตุผลในเชิงธุรกิจ   ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่สำคัญมาก กว่าจะได้มาซึ่ง contact แต่ละคน   มันไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้าข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลไป   ก็เท่ากับเรายื่นดาบให้คนอื่นไปเลย ซึ่งผมมีประสบการ์ณโดนกับผมเต็มๆ มาแล้ว   อีกทั้งในแง่ของ authenticity ในวงการจะเป็นอันรู้กันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติว่า   จะไม่บอกชื่อแหล่งที่มาให้กับใคร   นอกจากคนที่ซื้อเสื้อตัวนั้นๆไป   คนที่ซื้อไปมีสิทธิที่จะได้รู้ว่าเสื้อตัวนั้นๆมาจากไหน   มีความแตกต่างมากน้อยเพียงใด จากเสื้อแบบ replica สำหรับแฟนบอล  (จิงๆ เรื่องประเภทของเสื้อบอลแบบต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ผมเตรียมไว้สำหรับ   บล๊อกของผมในลำดับต่อไปอยู่แล้ว เพราะผมว่าแฟนบอลส่วนมากนั้น   ยังไม่รู้ว่าเสื้อที่ใช้แข่งจิง   กับเสื้อที่ขายให้แฟนบอลนั้นมันไม่เหมือนกัน มันมีจุดต่าง) จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:50:43

ความคิดเห็นที่ 15 - ของๆใครของใครก็หวง     ในแง่ของการสะสมแล้วนั้น ถ้าคุณรู้แหล่งที่จะได้เสื้อเหล่านี้มาโดยตรง   ก็ถือว่าโชคดีมากมายแล้ว   จากเสื้อที่มีจำนวนจำกัดมากๆแล้ว ถ้ายิ่งมีคนรู้มากเท่าไหร่ ตัวหารยิ่งมาก   demand-supply ล้วนๆ   แล้วผมจะบอกให้ละเอียดไปเพื่ออะไรหละครับ   ผมจึงบอกได้แต่เพียงคร่าวๆ ว่ามาจากแถวๆไหน   จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็อีกเรื่อง ก็คอยดูผลงานผมกันต่อไป จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:51:44

ความคิดเห็นที่ 16 ข้อที่ 3) ปัญหาเกี่ยวกับเสื้อต้องสงสัยทั้งสามตัวที่ว่า    เสื้อที่ผมได้มาจากนัดนั้น มีสามตัวคือ เสื้อของ กัลลาส โกเมส และอิบราฮิมโมวิช    ผมจะอธิบายเป็นรายตัวนะครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:52:14

ความคิดเห็นที่ 17 แต่ก่อนหน้าที่จะไปถึงจุดนั้น ผมขอเล่าให้ฟังก่อนว่า ทำไมผมต้องไปเอาเสื้อ 3 ตัวนี้มา ทั้งๆที่ผมไม่ใช่แฟนบอล ของทั้งสองทีม และก็ไม่ได้ชื่นชอบนักฟุตบอลทั้งสามคนด้วย ในเมืองไทย มีแฟนบอลสเปอร์สอยู่หนึ่งคน ที่สะสมเสื้อแข่งของสเปอร์สมาเป็นเวลานาน (จิงๆผมไม่อยากอ้างถึงบุคคลที่สามเท่าไหร่ เพราะพี่เค้าก็คงต้องการความเป็นส่วนตัว และผมก็คิดว่าเค้าคงจะไม่เคยเล่นในเว๊บ spursthailand ด้วย) เค้ามีเสื้อแข่ง (ที่ใช้แข่งจริง) ของตั้งแต่ปี 1981 จนถึงปัจจุบัน และมีครบเกือบทุกตัวที่มาจากนัดชิงบอลถ้วยของสเปอร์ส เท่าที่ผมจำได้จะขาดก็แค่ นัดชิง ยูเอฟ่า คัพ ปี 1984 (ขออภัย ถ้าจำปี คศ.ผิด) กับ นัดชิง เอฟ เอ คัพ กับ แมนฯซิตี้ (น่าจะเป็นปีที่ Ricky Villa ยิงลูกนั้นนะแหละ) จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:53:42

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเป็นคนหนึ่งที่ช่วยเค้าหาเสื้อ แต่โดยส่วนตัวของพี่เค้าแล้ว เค้าก็มีแหล่งของเค้าอยู่เองเหมือนกัน ในวงการสะสมเสื้อสเปอร์ส ก็ถือว่าไม่เป็นรองใครในโลก ถึงขนาดที่ผู้เขียนชาวอังกฤษที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับ ประวัติเสื้อบอลของสเปอร์ส และประวัติของอดีต kitmanager ของสเปอร์ส ยังเคยติดต่อผ่านผมมาเพื่อของข้อมูล และขอสัมภาษณ์มาแล้ว (แต่ผม และพี่เค้า ซึ่งงานหลักก็เยอะกันมากอยู่แล้ว ดันลืมทั้งคู่ เลยเน่าไปทั้งคู่) ผมไม่แน่ใจว่าหนังสือทั้งสองเล่มนี้ เป็นหนังสืออย่างเป็นทางการของสโมสรรึปล่าว ผมจำชื่อหนังสือได้ เพราะผู้เขียนเคยส่ง link ต้นฉบับมาเพื่อให้ผมนำไป forward ให้พี่เค้า ลองไป search ดูเอาเองละกัน แต่ถ้าจำไม่ผิดใน amazon จะมีขายอยู่นะ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:55:30

ความคิดเห็นที่ 19 แล้วยิ่งถ้าใครเคยเข้าไปในเว๊บไซต์ของผมแล้ว คุณจะต้องเคยเห็นเสื้อที่ ดิดิเยร์ โซโกร่า ใส่แข่งในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลคาร์ลิ่งคัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อ 2-3 ปีก่อน เจ้าของเว๊บไซต์ชื่อดังในการขายเสื้อประเภท match worn จากประเทศอังกฤษ ยัง e-mail มาถามรายละเอียดของเสื้อกับผมเลย ว่าเหมือนกับของเค้ามั๊ย เพราะมีคนมาเสนอขายต่อตัวนึง แต่กลัวจะ เป็นเสื้อที่มีปัญหา เค้าเลยขอความช่วยเหลือจากผม โดยไม่เคยถามผมแม้แต่คำเดียวว่า ผมได้เสื้อของ โซโกร่า ตัวนี้มาได้อย่างไร เพราะผมไม่เคยมีประวัติเสียในวงการแม้แต่ครั้งเดียว จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:56:41

ความคิดเห็นที่ 20 อันนี้เป็นตัวอย่างเสื้อสเปอร์ส คัดเอาเฉพาะตัวที่หายากๆ ที่ผ่านผลงานการเสาะหาของผมมาแล้ว แฟนๆสเปอร์ส คงรู้ดีว่าจากเกมไหนกันบ้าง แค่เสื้อแช้มเปี้ยนสลีก 2-3 ตัว ผมจะมามั่วทำไมหละครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 18:59:24

ความคิดเห็นที่ 21 จากการที่ผมมีประสบการ์ณมายาวนาน มากมายในการแสวงหาเสื้อบอล ผมจึงค่อนข้างระมัดระวังในเรื่องของแหล่งที่มาเป็นอย่างมาก ผมจะไม่ค่อยแสวงหาเสื้อจากกลุ่มคนประเภทที่ที่ฝรั่งเค้าจะเรียกกันว่า third party ส่วนมากผมจะรับตรงทั้งหมด เรื่องแหล่งที่มานั้นไม่ใช่ประเด็นที่จะต้องมาสงสัยผมเลย ดังนั้นจากการที่ผมมีสายสัมพันธ์ กับคนใน เอซี มิลาน เมื่อ เอซี มิลาน ต้องเตะกับสเปอร์ส ผมเลยหาเสื้อมาให้เค้าได้ สองตัว โดยที่ผมต้องโดนบังคับซื้อเสื้ออิบราฮิมโมวิช พ่วงมาด้วย ทั้งๆที่ไม่อยากได้เลย     จึงเป็นที่มาของเสื้อทั้งสามตัวนั่นเอง จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:01:14

ความคิดเห็นที่ 22 ทีนี้เรามาดูว่าเสื้อทั้งสามตัวเป็นอย่างไร มีปัญหาต้องสงสัยอย่างไรกันแบบรายตัว 3.1) เสื้อของ วิลเลียม กัลลาส       เสื้อตัวนี้ จากการค้นหาจากรูปการแข่งขัน น่าจะมาจากครึ่งหลัง เพราะครึ่งแรกเสื้อกัลลาส หลังเสื้อจะเปื้อนเขียวเลย (ซึ่งผมไม่สามารถถามกับ บุคคลที่ส่งเสื้อให้ผมมาได้ว่าเสื้อตัวนี้มาจากครึ่งไหน ใช่ของจริงรึปล่าว คำถามประเภท silly question เหล่านี้ อาจมีผลถึงการยุติความสัมพันธ์ได้ ผมเคยถามคำถามประเภทนี้ไปทีนึงเมื่อนานมาแล้ว เค้าตอบกลับมาว่า You know me ! Don't have to ask ! คำถามเหล่านี้ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันเป็น อย่างยิ่ง เพราะรู้ๆกันอยู่ว่าเค้าเป็นใคร) จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:02:42

ความคิดเห็นที่ 23 ในการสะสมเสื้อบอล (สำหรับผม และคนที่สะสมกันมานานแล้ว) สิ่งที่ต้องการทราบตือ    - แหล่งที่มาของเสื้อ ซึ่งในกรณีนี้ผมทราบดีอยู่แล้วว่ามาจากใคร อย่างไร    - ความแตกต่างระหว่าง เสื้อสำหรับนักเตะ กับเสื้อสำหรับแฟนบอล    - รอยเปื้อนหญ้า โคลน ขี้ดิน เหงื้อไคล เลือด หรือ กระทั่งรอยวิค บนหน้าอก ซึ่งกรณีนี้ผมโดนไปเต็มๆกับเสื้อของอิบราฮิมโมวิช ในเรื่องของตำแน่งของตัวอักษรบนหลังชื่อของซลาตัน (ซึ่งจะอธิบายในหัวข้อ 3.3) จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:03:20

ความคิดเห็นที่ 24 ในเรื่องของความแตกต่างระหว่างเสื้อสำหรับนักเตะ กับเสื้อของแฟนบอลนั้น สำหรับเสื้อของสเปอร์สในรายการแช้มเปี้ยนสลีก นั้น มีอยู่หลายจุดทีเดียว (จิงๆแล้วในแวดวง นักสะสม เค้าจะไม่บอกกันหรอกว่ามันต่างกันอย่างไร เพราะสมัยก่อนมีคนหวังดีคอยสอนว่า มันต่างกันตรงนั้นตรงนี้นะ แล้วมันก็โดนทำปลอมจนได้) ผมโทรไปถามพี่ที่เป็นนักสะสมเสื้อสเปอร์สคนดังกล่าวมาแล้วได้ใจความว่า จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:04:31

ความคิดเห็นที่ 25 ผมลงรูปเสื้อ replica version สำหรับขายให้แฟนบอล พร้อมบอกจุดต่างให้ดูก่อนนะครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:06:09

ความคิดเห็นที่ 26 1) เสื้อแบบแช้มเปี้ยนสลีก จะถูกทำขายให้แฟนบอล เฉพาะเสื้อทีมเหย้า    และเป็นแบบแขนสั้นเท่านั้น แบบแขนยาวไม่มีขาย    ดังนั้น เสื้อกัลลาส นั้นแขนยาว ถือว่าผ่าน จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:07:21

ความคิดเห็นที่ 27 2) สำหรับเสื้อแฟนบอล ที่ข้างเสื้อด้านขวา จะมีปุมกระดุมที่เรียกว่า Puma king    ส่วนเสื้อนักเตะจะไม่มี            ดังนั้น เสื้อกัลลาส นั้นไม่มีกระดุมที่ว่า ถือว่าผ่าน จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:08:14

ความคิดเห็นที่ 28 3) ที่ป้ายคอเสื้อ (ศัพท์อย่างเป็นทางการเค้าเรียกกันว่า Neck Label)    สำหรับเสื้อแฟนบอลจะเป็นผ้าบอก size เป็นสีส้ม    แต่สำหรับเสื้อนักเตะแล้ว จะไม่เป็นผ้าสีส้ม    จะใช้การ พิมพ์ลงไปบนเสื้อเลย เพื่อป้องกันการระคายเคือง    ระหว่างสวมใส่    ดังนั้น เสื้อกัลลาส ไม่มีป้ายสีส้มดังกล่าว    และใช้การพิมพ์บอก size เสื้อแทน ถือว่าผ่าน จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:09:27

ความคิดเห็นที่ 29 4) สปอนเซอร์ Investec บนหน้าอก    สำหรับเสื้อแฟนบอลนั้น จะใช้ฟอนท์ตัวบาง และมีขนาดเล็กกว่า เสื้อนักเตะ            ดังนั้น เสื้อกัลลาส นั้นใช้ฟอนท์แบบหนา    และมีขนาดความกว้างมากกว่าเมื่อพิมพ์บนเสื้อ ถือว่าผ่าน จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:10:29

ความคิดเห็นที่ 30 5) จิงๆ แล้ว มันน่าจะมีความแตกต่างมากกว่านั้อีก    ไม่ว่าจะเป็น code หมายเลขแท่นผลิต    อัตราส่วนเปอร์เซนต์ของเนื้อผ้า การตัดเย็บ อีกมากมาย    (ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ ผมจะกล่าวถึงในบล๊อกในลำดับต่อไปละกัน ถ้ามีโอกาส)    ส่วนเรื่องของรอยเปื้อน ก็ไปลองหาเทียบดูกับรูปเอากันนะครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:11:37

ความคิดเห็นที่ 31 3.2) เสื้อของ โกเมส        ใช้หลักการเดียวกันกับเสื้อของกัลลาส คือ        - แหล่งที่มาของเสื้อ ซึ่งในกรณีนี้ผมทราบดีอยู่แล้วว่ามาจากใคร อย่างไร       - ความแตกต่างระหว่าง เสื้อสำหรับนักเตะ กับเสื้อสำหรับแฟนบอล         ซึ่งเหมือนกรณีของกัลลาสเลยนะครับ         ข้อมูลเพิ่มเติมคือเสื้อผู้รักษาประตูเวอร์ชันแช้มปเปี้ยนสลีก ไม่มีทำขายนะครับ       - รอยเปื้อนหญ้า โคลน ขี้ดิน เหงื้อไคล เลือด หรือ กระทั่งรอยวิค บนหน้าอก         อันนี้ ก็เชิญเทียบรูปกันตามความสามารถครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:12:49

ความคิดเห็นที่ 32 แต่ประเด็นมีคนถามมาว่า เสื้อที่เห็นโกเมสใส่ในนัดนั้น แขนนั้นเป็นสองสี คือสีส้มเข้มกับสีส้มอ่อนนั้น มันมาจากเสื้อตัวในที่โกเมสใส่มันเป็นสีส้มอ่อน ไม่ได้เป็นตัวเดียวกันแต่อย่างไร หลังเกม โกเมส แลกเสื้อกับ ติอาโก้ ซิลวา กองหลังเพื่อนร่วมชาติ ผมก็เห็นจากคลิป ลองไปหาคลิปดูว่าเป็นเสื้อข้างในสีนั้นจิงรึปล่าว ส่วนรูปนี้แสดงให้เห็นว่า โกเมสใส่เสื้อแขนยาว และทำการ ร่นแขนเสื้อขึ้นไปบริเวณศอก เท่าที่ผมสัมผัสเสื้อตัวนี้มา เท่าที่จำได้ ตอนที่ผมดูเสื้อตัวนี้ตอนได้มา ผมยังบอกกับแฟนผมอยู่เลย ว่าเดี๋ยวนี้เสื้อโกล์น้ำหนักเบามาก ไม่เหมือนแต่ก่อน แล้วก็ไม่มีฟองน้ำบุป้องกันแขนด้วย แขนเสื้อยังบางมากอีกด้วย     ซึ่งผมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรกับเสื้อของโกเมสนะครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:15:12

ความคิดเห็นที่ 33 3.3) เสื้อของอิบราฮิมโมวิช          ตัวนี้ต้องถือว่าเป็นความผิดพลาดของผมจริงๆ        เพราะผมหยิบเสื้อมาใส่หุ่นเพื่อถ่ายรูปผิดตัว !!!        ผมพึ่งมาสังเกตก็หลังจากที่ได้บังเอิญอ่านข้อความใน spursthailand .net        ผมสงสัยว่าทำไมมันไม่เหมือน จากรูปที่มีแฟนสเปอร์ส        นำมา cap แล้ว post เพื่อมาแย้งเสื้อของผมไว้ใน spursthailand        ผมถึงต้องหยิบมันออกมาดูอีกครั้ง        เพราะตัวผมเองเชื่อมาตลอดว่าไม่มีทางที่จะมีปัญหาได้        เพราะรู้ๆอยู่ว่าเสื้อมาจากใคร จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:16:40

ความคิดเห็นที่ 34 ตามอ่านอยู่ครับ ขออภัยที่ปาด จากคุณ : ชายน้อยมองเหม่อนั่งเอ๋อริมถนน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:17:15

ความคิดเห็นที่ 35 แต่แล้วผมก็เห็นมันจนได้ ผมมีเสื้อของซลาตันอยู่สองตัว จากรายการแช้มเปี้ยนสลีก ปีนี้ ตัวแรกได้มาหลังเกมที่เตะกับ เรอัล มาดริด ซึ่งผมไปดูที่สนามมาด้วย ส่วนอีกตัวนึงคือจากเกมที่เตะกับสเปอร์สนัดแรก มันเป็นผิดพลาดของผมในการหยิบเอาเสื้อมาใส่หุ่นถ่ายรูปผิดตัว จากรูป ผมเอาเสื้อของ อิบราฮิมโมวิชทั้ง 2 ตัวที่ผมมี มาลองเทียบกัน เมื่อวันอาทตย์ที่ผ่านมา แล้วก็พบว่าเป็นไปตามที่มีคนมาแย้งจิงๆ ตัวบนเป็นตัวที่ถูกต้อง ส่วนตัวล่างเป็นตัวที่ผมหยิบผิดมาใส่หุ่นเพื่อที่จะทำการถ่ายรูป ตัวอักษรจึงไม่เหมือน จากภาพที่แฟนสเปอร์สได้มาลงไว้ ผมพลาดจริงๆครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:20:55

ความคิดเห็นที่ 36 ตามอ่านครับ อยากได้เสื้อของอาเซนอลมังอะ วิลเชียร์ เลยคนนี้ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 19:33:55 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 19:32:00 จากคุณ : Honza_Like a ku เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:24:53

ความคิดเห็นที่ 37 ปรกติผมจะเก็บเสื้อใส่ซองพลาสติก ซองละตัว ตัวที่ผมได้มาแล้วยังไม่ได้ทำอะไรก็จะใส่ซอง แล้วกองรวมๆกันไว้ โดยที่ยังไม่แปะสติ๊กเกอร์ฉลาก เพื่อเขียนรายละเอียดกำกับลงบนด้านหน้าของซอง ปีนี้ผมได้เสื้อของ เอซี มิลาน มา 5 ตัวแล้ว ผมก็กองไว้ ผมสัพเพร่าเองที่แกะซองออกมาผิด เพราะตอนจะแกะออกมาเพื่อถ่ายรูป ผมใช้การเดาจากน้ำหนักของเสื้อ เพราะเสื้อของ อิบราฮิมโมวิช ทั้งสองตัว เป็นแขนยาวจะมีน้ำหนักมากกว่า เสื้อมิลานตัวอื่นซึ่งเป็นแขนสั้น ถามว่าทำไมผมจึงไม่แกะออกมาทั้งสองตัวเลย เพราะว่ามันเหม็นบ้านจะแตกหนะสิครับ ผมเลยพลาดเลย ขอโทษครับ อันนี้เป็นรูปกองเสื้อที่ผมได้รับมาเร็วๆนี้ ในเวลาไล่เลี่ยกัน และยังไม่มีเวลาจำแนกหมวดหมู่ เลยยังไม่เช็ค และแปะสติ๊กเกอร์รายละเอียดบนหน้าซอง จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:26:18

ความคิดเห็นที่ 38 ไม่ทราบเรื่องราวว่าเป็นมายังไงแต่ข้อมูลในกระทู้นี้ต้องบอกว่าน่าสนใจมาก ลงชื่อตามอ่านอยู่ครับ จากคุณ : [D]iffind[O] เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:27:13

ความคิดเห็นที่ 39 ความคิดเห็นที่ 34 คุณชายน้อยฯ เจอกันอีกแล้วครับ หวัดดีครับ ความคิดเห็นที่ 36 คุณ Honza ผมเพิ่งได้เสื้อของ Walcott มา เดี๋ยวว่างๆจะเอามาลงให้ดูครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:30:05

ความคิดเห็นที่ 40 ผมก็ไม่เคยสังเกตุเหมือนกันว่าตำแหน่งของตัวอักษรบนเสื้อ สองตัวจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นเสื้อตัวที่ถูกสวมถ่ายใส่หุ่นแล้วถูกถ่ายรูปไว้ และได้ถูกนำมาลงเป็นภาพประกอบจึงเป็นเสื้อผิดตัว ซึ่งผมได้ทำการถ่ายรูปเสื้อทั้งสองตัวดังกล่าวมาให้ดูว่า จิงๆแล้ว ตัวอักษรชื่อของ อิบราฮิมโมวิช นั้นไม่ได้มีปัญหา เรื่องตำแหน่งของตัวหนังสือ ดังที่มีการโต้แย้งกัน ซึ่งนำมาสู่การถกเถียงเกี่ยวกับตัวผมในเวลาต่อมา ส่วนจะเชื่อหรือไม่เชื่อว่าผม หยิบเอาเสื้อมาผิดตัวมาถ่ายรูปหรือไม่นั้น ก็สุดแท้แล้วแต่นะครับ         สิ่งที่ผมจะสามารถนำมายืนยันก็คงมีเพียงภาพถ่ายเสื้อทั้งสองตัวนี้เท่านั้น จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:32:06

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ Astro Boy Blue ว่างๆ ทำรีวิว เกี่ยวกะเสื้อที่มีอยู่ทั้งหมดเลยก็น่าจะดีนะครับ เอาแบบได้มาอย่างไง อะไรแบบนี้ เอาให้มันสุดๆๆไปเลย  ลงรูปที่ถ่ายคู่กะนักบอลดังๆมาโชว์มังนะครับ อยากเห็น อิอิ จากคุณ : Honza_Like a ku เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:33:44

ความคิดเห็นที่ 42 อันนี้ รูปแถม เผื่ใครจะนึกภาพไม่ออก ว่าผมเก็บดูแลรักษาเสื้ออย่างไร เสื้อที่ผมเช็คและลงรายละเอียดไว้ที่บนซองแล้ว ผมจะนำมาเรียงเก็บไว้ใส่ตู้แบบนี้ครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:33:57

ความคิดเห็นที่ 43 ขออนุญาต ปาดนะครับ   เสื้อที่ได้รับมาพวกนี้ โดยทั่วไปมีวิธีทำความสะอาดเฉพาะหรือไม่ครับ หรือ ไม่ทำเลย    * คือสงสัยมานานแล้วอ่ะครับ จากคุณ : กาละมังบิน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:36:11

ความคิดเห็นที่ 44 - ในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างตัวเสื้อนักเตะ   กับเสื้อแฟนบอลนั้น           ผมขออธิบายคร่าวๆดังนี้นะครับ (ใครมีเสื้อ เอซี มิลานฤดูกาลนี้ก็ลองเอามาเทียบดูนะครับ)   1) เสื้อแฟนบอล จะเป็นเสื้อที่ใช้เทคโนโลยี climacool ซึ่งจะมีคำว่า climacool       พิมพ์ไว้ที่ชายเสื้อด้านล่างซ้าย                 ส่วนเสื้อของนักเตะ จะมีสองแบบ คือ TechFit และ แบบ Formotion       ซึ่งก็จะถูกพิมพ์ไว้ที่ชายเสื้อด้านล่างซ้ายแทนที่คำว่า climacool       โดยในเกมที่เตะกับสเปอร์ส ซลาตันใส่เสื้อแบบ Formotion ซึ่งเสื้อแบบ         formotion ไม่มีขายโดยทั่วไป   2) แถบอาดิด๊าส 3 เส้นบนบ่าทำด้วยยาง ส่วนเสื้อแฟนบอลจะใช้วิธีเย็บ   3) บางส่วนของเนื้อผ้าใช้การเชื่อมติดการด้วยกาว และความร้อน       แต่เสื้อแฟนบอลนั้น ทุกชิ้นเชื่อมต่อกันด้วยการเย็บผ้าเข้าด้วยกัน       ผมคิดว่าข้อสงสัยในเสื้อของอิบราฮิมโมวิช คงมีความกระจ่างขึ้นแล้วนะครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:36:44

ความคิดเห็นที่ 45 สงสัยว่าเสื้อที่ไม่ซักนี่เก็บไว้นานๆมันไม่เน่าเหรอครับ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:38:29

ความคิดเห็นที่ 46 เคยอ่านที่ จขกท รีวิว ตอนที่ไปเจอกับ Javier Zanetti อิจฉามากฮะ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ผมชอบที่สุดเลย จากคุณ : กรุณา Log in เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:38:57

ความคิดเห็นที่ 47 ผมก็ได้อธิบายในประเด็นที่หลายคนสงสัยแล้วนะครับ แต่จะทำให้หายข้องใจได้รึปล่าว พวกคุณคงต้องอ่าน และพิจารณากันนะครับ คนเราลองจะปักใจเชื่อ หรือมีอคติแล้ว ผมเข้าใจว่าคงยากกว่าจะทำให้เชื่อผมได้ ผมก็พยายาม เอาข้อมูลมาหักล้างเท่าที่จะนึกออกได้ ถ้าใครยังจะสงสัยผมอีกว่าแต่งเรื่องขึ้นมารึปล่าว ผมก็ได้แต่บอกไว้เลยว่าผมก็ไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะมาแต่งเรื่องหลอกใครด้วย และผมก็ไม่จะเป็นต้องหลอกหรือโกหกใครด้วย มันไม่ได้อะไรขึ้นมา แค่นี้เวลาชีวิตในแต่ละวันก็มีน้อยอยู่แล้ว          ผมจะสรุปประเด็นที่สำคัญที่ต้องการสื่อให้ทุกคนได้ทราบนะครับ          ผมต้องการเขียนบล๊อก ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสะสมเสื้อบอล          และนำเสื้อมาแบ่งปันกันดู ด้วยเจตนาที่ดี และบริสุทธิ          ผมไม่ใช่บุคคลที่ไม่มีที่มาที่ไป ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร คิดร้าย          หรือประสงค์ร้ายแก่บุคคลใด          ผมไม่ใช่อาชญากร ไม่ใช่พวกหลอกลวง ต้มตุ๋น หรือเป็นมิจฉาชีพ          ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องทำเรื่องแบบนั้น           ผมนำเอาเรื่องราว ประสบการ์ณที่ได้พบมา มาถ่ายทอด           แบ่งปันด้วยความปราถนาดี                    ผมหวังว่าทุกคนจะเข้าใจ แล้วคลายสงสัยในทุกประเด็นที่ผมถูกกล่าวหานะครับ          ขอบคุณครับ          น๊อต จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:39:34

ความคิดเห็นที่ 48 ความคิดเห็นที่ 43 คุณกาละมังบิน เสื้อพวกนี้ผมได้มาจะเอามาผึ่งแดดให้แห้ง ไม่ซักครับ เดี๋ยวจะสูญเสียความบริสุทธิ หลังจากนั้นจะเก็บใส่ซองพลาสติก แล้วใส่ซอง silica gel ลงไปด้วย เพื่อกันชื้นครับ แต่จิงๆ วิธีการนี้ยังไม่ถูกซะทีเดียว เพราะเสื้อเค้าไม่ให้พับเก็บครับ รายละเอียดมันจะเสียหาย แต่ผมยังหาวิธีที่จะเก็บเสื้อพวกนี้ รวมทั้งกลิ่นของมันไม่ได้เลยครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:43:15

ความคิดเห็นที่ 49 ......ขออนุญาตปาด.....กระทู้ดีมีสาระครับ............ ...... .... .. .....นานๆทีจะได้ตามอ่านกระทู้แบบนานๆแบบนี้ซะที...... ... .. . .....เด๋วนี้เปิดมาเจอแต่มาม่า...... จากคุณ : ไม่ค่อยหิวซะ (เขียวแอ๊บแบ๊ว) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:46:19

ความคิดเห็นที่ 50 ความคิดเห็นที่ 45 คุณนักมายากลฯ ครับ วันนี้เจอกันหลายรอบเลยนะครับ ตอนนี้อยู่อังกฤษหรืออยู่เมืองไทยอะ? เสื้อพวกนี้ถ้าเก็บไม่ดีมันจะขึ้นราครับ อย่าปล่อยให้ชื้น พยายามทำให้แห้งที่สุด แต่ไม่ซัก อย่างเสื้อกัลลาส อดีตนักเตะสุดรักของท่าน ตอนมาถึงผม ราดำขึ้นเต็มแขนแล้ว ความคิดเห็นที่ 46 คุณ กรุณา log in ขอบคุณครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:47:31

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าคนไหนติดตามผลงานมาตลอดจะรู้ว่าคุณน๊อต (เรียกว่าคุณนะครับ ตอนนี้รู้แล้วว่าผมแก่กว่า 555) เป็นนักสะสมเสื้อตัวยง แน่นอนว่าคนที่เพิ่งเห็นย่อมจับผิดเมื่อมีการนำของมาให้ชมเพราะไม่รู้ถึงที่ผ่านมา ก็ขอเป็นกำลังใจให้ละกันครับ เพราะรู้ว่าการที่มาโพสไม่ได้เพื่ออวดอ้างอะไร เพียงแค่แบ่งปันสิ่งดีๆให้ได้ชมกัน แค่ใครจะรู้ไม๊เท่านั้น จากคุณ : ชายน้อยมองเหม่อนั่งเอ๋อริมถนน เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:50:07

ความคิดเห็นที่ 52 เดี๋ยวผมขออณุญาติออกไปหาอะไรกินก่อนนะครับ อีกประมาณชั่วโมง จะกลับมา เพราะผมยังไม่ได้สางประเด็นสงสัยของแฟนสเปอร์สแต่ละคนในนั้น เป็นรายบุคคลเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:50:56

ความคิดเห็นที่ 53 ผมอยู่อังกฤษครับ อย่าว่างั้นว่างี้เลยนะครับ แต่ผมสงสัยว่าคนประเภทไหนที่เค้าซื้อเสื้อไม่ซักไปอ่ะ (ซื้อไปเค้าก็ไม่ซักอยู่ดี เอาไปใส่กรอบ หรือว่ายังไงครับ?) ถึงผมจะปลื้มนักบอลแค่ไหน แต่ความเห็นส่วนตัวผมจะไม่ซื้อเสื้อที่มีกลิ่นเหงื่อ (ที่เหม็นจนมีแต่กลิ่นเชื้อโรคไปแล้ว) ไปง่ะ พวกซื้อเสื้อชั้นในถอดใหม่ๆไปนี่ผมยังเข้าใจได้ เพราะมันยังไม่เน่า แต่ถ้าเป็นแบบเก็บไว้หลายๆวันแล้วนี่ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ -*- จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 19:53:13

ความคิดเห็นที่ 54 ถึงกับต้องเกบกลิ่นไว้ด้วยเลยหรือครับ โลกของนักสะสมมันช่างน่าทึ่งจริงๆ จากคุณ : ปลาวาฬภูเขา เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:08:43

ความคิดเห็นที่ 55 อ่านเพลินดีจริงๆ อิอิ จากคุณ : โอไซริส เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:08:57

ความคิดเห็นที่ 56 ผมโหวตให้ครับ นอกจากจะเป็นกระทู้ไขข้อข้องใจแล้ว ยังอ่านเพลิน และ มีสาระด้วย จากคุณ : Drunkenangel เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:12:58

ความคิดเห็นที่ 57 บอกคำเดียวว่าอิจฉาครับ ปล. เสื้อแมนยูของ ไรอัน กิ๊กส์ เขาปล่อยกันเท่าไรครับ จะได้เก็บตังรอ แล้วติดต่อผ่านพี่ได้ไหมครับ จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:29:16

ความคิดเห็นที่ 58 #54 ถ้าเราไม่เก็บรายละเอียดทุกอย่าง มันก็เท่ากับว่า เสื้อตัวนั้นเป็นเสื้อธรรมดาๆตัวนึง ที่หาซื้อได้ทั่วไปถามท้องถนน นั้นแหละครับ จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:34:02

ความคิดเห็นที่ 59 ... เพิ่งรู้ว่ามีการสะสมชุดแข่งแบบนี้กันด้วย ... ไม่ซัก เก็บรายละเอียดรอยหญ้า รอยดิน รอยถลอก .. .. แถมใช้เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าแท้ไม่แท้ จากคลิปการแข่งขัน .. ดูน่าสนุกปนกับทึ่ง ครับ   .. เรื่องน่าสนใจมาก .. เดี๋ยวกลับมาอ่านต่อ .. แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 20:39:11 จากคุณ : น้าทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:38:39

ความคิดเห็นที่ 60 ช่วยโหวตครับ ไม่เคยรู้เรื่องวงการนี้เลย อย่างมากก็ฝากคนที่อยู่ ตปท.ซื้อให้ หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว....เฮ้ย แบบนี้ก็มีด้วย  (เก็บรายละเอียดกระทั่งกลิ่น หญ้า คราบต่าง)  -*- จากคุณ : Seethai เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 20:47:58

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านกระทู้นี้แล้วได้ความรู้เพิ่มขึ้นมากเลยค่ะ อยากรู้เหมือนคูหา ๕๗ เหมือนกันค่ะ จากคุณ : โมลี เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:02:35

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาอ่านอย่างเดียวครับ ผมชอบดูบอลก็จริง แต่คงไม่สะสมถึงระดับนี้ -_-' จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:10:57

ความคิดเห็นที่ 63 โหวววววว ขอบคุณ จขกท มากๆครับที่เอามาให้อ่านกัน เป็นความรู้ใหม่สุดๆ ถ้าไม่นับเรื่องการสะสมเสื้อหายากๆนี่ การได้เข้าไปใกล้ชิด จับไม้จับมือกับนอกบอลดังๆ ผมว่าก็สุดยอดแล้วหล่ะครับ สำหรับข้อสงสัยของท่านอื่นๆเรื่องเก็บเสื้อไม่ซักนั้น เป็นผมได้มา ผมก็ไม่ซักนะ เดี๋ยวพวกรอยดิน รอยหญ้ามันจะหายไปหมด กลายเป็นเสื้อธรรมดาไปซะ แต่ถึงขั้นมีราขึ้นด้วยนี่ก็ต้องดูกันอีกที อยากรู้ราคาเสื้อนักเตะ แมนยูไนเต็ดจังครับ ถ้าไม่ได้เป็นความลับสำคัญอะไร จากคุณ : สุดยอดปลาน้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:17:30

ความคิดเห็นที่ 64 รู้สึกคุ้มจริงที่ได้เข้ามาอ่าน ได้ความรู้กลับไปเยอะเลย จากคุณ : Perfect Day : P-Blur เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:18:51

ความคิดเห็นที่ 65 ที่เค้าไม่ซัก เพราะต้องการความ "แท้" ไงครับ  ขอยกตัวอย่างพวกที่สะสม panty ยังไม่ซักเลย -_-" ปล. แค่ยกตัวอย่างง่ะ จากคุณ : Torres เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:31:33

ความคิดเห็นที่ 66 ความรู้ใหม่สำหรับผมเลยนะเนี่ย จากคุณ : โย่ _เชียงใหม่ เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:37:37

ความคิดเห็นที่ 67 ผมเลยสงสัยไงครับว่าเสื้อแบบไม่ซักนี่เค้าเอาไปใส่กรอบหรือเปล่า ใส่กรอบถ้าไม่ซักก็โอเคอยู่ แต่ถ้าเป็นพวกเอามาหยิบ มาดอมดม มาชื่นชม สูดกลิ่นอันนี้ผมว่าก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ -*- จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:40:54

ความคิดเห็นที่ 68 ตอบคุณนักมายากลฯ จิงๆก็ไม่ค่อยมีใครเน้นว่าจะต้องเอาแบบเปื้อนๆเหม็นๆหรอกครับ แต่ผมแค่มีความรู้สึกว่ามัน original ดี บางคนได้ไปก็ซักนะครับ แล้วคงไปเข้ากรอบ ส่วนผมจะไม่ซักครับ ยังหาวิธีเข้ากรอบไม่ได้เลย น่าจะมีความชื้นสะสม อีกอย่าง ร้านเข้ากรอบ คงแอบเอาเสื้อผมไปซักก่อนแน่ๆเลย จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:48:25

ความคิดเห็นที่ 69 อะนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลยแต่ก็อ่านจนจบ 55+ ได้ความรู้ และอ่านได้เพลินมากๆครับ ^^ ฝากคำถามครับ// แสดงว่านักบอลที่แลกเสื้อกันนี่ เค้าไม่ได้เก็บไว้เองเหรอครับ แลกเป็นประเพณีเฉยๆแค่นั้นเหรอ   แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 22:15:45 จากคุณ : palermo เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 21:55:13

ความคิดเห็นที่ 70 อ่านเพลินแถมได้สาระอีกมากมายเลยครับ ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีๆ แบบนี้าแบ่งปันนะครับ จากคุณ : มะจิ๋ว เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:22:16

ความคิดเห็นที่ 71 ตอบคุณ palermo ผมว่าส่วนมากโดยปรกติก็แลกเก็บเองแหละครับ หลายๆคนที่เราอาจได้ยินเรื่องราวตามหนังสือ หรือตามทีวี ฟาน เพอร์ซี มัลดินี่ วิลเชียร์ จอหน์ แทร์รี่ อะไรแบบนี้ ส่วนบางคนเค้ามาขอแลกก็แลกตามธรรมเนียม หลังเกมก็ทิ้งไว้ในห้องแต่งตัวบ้างไรบ้าง หรือไม่ก็ให้เจ้าหน้าที่ทีมเก็บ บางคนก็แลกไปให้เพื่อน ให้ลูก ให้ญาติ บางคนแลกไปทำการกุศล มันมีหลายอย่างครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:23:24

ความคิดเห็นที่ 72 ได้ความรู้ อีกด้านเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : TAXI_DRIVER เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:34:36

ความคิดเห็นที่ 73 ผมฝากไว้สำหรับแฟนคลับสเปอร์ส จากเว๊บบอร์ดนั้น โดยเฉพาะจากกระทู้นั้นนะครับ จริงๆ ผมเตรียมตอบคำถามทุกข้อสงสัย ทุก comment ที่สงสัย บนกระทู้นั้น รวมถึงทุก comment เชิง ดูหมิ่น และไม่ให้เกียรติกัน ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจ หรือแค่พลั้งเผลอ สนุกปาก จนบาง comment ผมรับไม่ได้ อ่านทีไรก็โกรธ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 22:51:29 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 22:46:28 แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 22:45:57 จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:38:22

ความคิดเห็นที่ 74 ตามมาจาก spursthailand.net ครับ.. คิดว่าทางบอร์ดนั้นคงเข้าใจกันแล้วครับ.. ขอบคุณมากครับ.. จากคุณ : mspurs เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:38:28

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน อ่านเพลินดีครับ จากคุณ : qerlic เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:38:29

ความคิดเห็นที่ 76 แวะมาตอบ จขกท.ก่อนครับ เดี๋ยวจะมาอ่านอีกที ขออภัยด้วยครับ ถ้าล่วงเกินอะไรไป เดี๋ยวเอาไปแปะให้ครับ ที่นี่นะครับ   http://www.spursthailand.net/webboard/index.php/topic,14677.0.html แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 54 22:44:55 จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:41:18

ความคิดเห็นที่ 77 ฝากแฟนสเปอร์สที่นั่นอีกนิดนึงนะครับ รวมทั้งทุกคนในโลกออนไลน์ด้วย ผมอยากฝากแค่ว่า การให้เกียรติกัน เคารพซึ่งกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบนกระดานสนทนา หรือบนเว๊บบอร์ด ถ้าเราไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน หรือไม่เคารพซึ่งกันและกัน มันก็จะนำไปสู่ปัญหาที่ไม่คาดคิดได้มากมาย ทีมสเปอร์สที่คุณรัก ทีมที่คุณเชียร์ ได้ไปเตะฟุตบอลยุโรป มีเครื่องหมาย RESPECT อยู่บนแขนเสื้อด้านซ้าย ยูเอฟ่า รณรงค์แคมเปญนี้ ทุกนัดที่เป็นการแข่งขันภายใต้การจัดของยูเอฟ่า ก็เพื่อให้เกิดการให้เกียรติกัน เคารพซึ่งกันและกัน หรือพวกคุณ แฟนทีมสเปอร์สที่นี่ ไม่เคยมอง และนึกถึงสิ่งที่อยู่บนแขนเสื้อด้านซ้ายของทีมที่คุณรักเลย? ขอบคุณครับ น๊อต จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:41:31

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณครับ  ได้ความรู้เยอะเลย ผมเก็บสะสมเสื้อบอลเหมือนกันครับ ของแท้ไม่ถึง 10 ตัว  ของปลอมเกือบ 100 ตัวแล้ว แต่ถ้าเป็นสื้อบอลไทย ซื้อแต่ของแท้นะครับ มีประมาณ 20 กว่าตัว จากคุณ : คปท61 เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:42:34

ความคิดเห็นที่ 79 อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ...รู้สึกทึ่งในงานอดิเรกอันนี้มาก ถ้าว่างๆสอยเสื้อจตุรเทพของแมนยูมาถ่ายรูปแบ่งกันให้ชมบ้างสิครับ จากคุณ : itsball เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:42:54

ความคิดเห็นที่ 80 เรียน จขกท   อย่าเอา โพส เวบอื่น มาลงในนี้เลยครับ ด้วยความเห็นส่วนตัว ไม่เหมาะครับ และสิ่งที่ผมได้อ่านเรื่องราวมา ตั้งแต่ คห.1 ผมเชื่อได้ว่าเป็นความจริงครับ ปล. 1.ผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เวบสเปอร์นะครับ   2.ลิเวอร์พูลคือทีมรักครับ 3.95% อยุ่ห้องกอล์ฟ  ที่เข้ามาอ่านเพราะ กระทู้ มีสาระครับ จากคุณ : TAXI_DRIVER เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:44:33

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณครับ คุณ mspurs ผมคงนอนหลับแล้วครับ หลังจากเครียดมาหลายวัน คุณ ชินจังฯ นี่แฟนสเปอร์สหรอเนี่ย เห็น log in มานาน จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:44:46

ความคิดเห็นที่ 82 คุณ Taxi Driver ผมเอา รูป post ที่ว่า ออกให้แล้วนะครับ ขอบคุณที่แนะนำครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:47:52

ความคิดเห็นที่ 83 ครับ แฟนสเปอร์ครับ ยังไงก็ต้องขออภัย จขกท.อีกทีนะครับ คิดว่าในห้องคงจะกระจ่างกันหมดแล้วครับ ผมเองยังแอบสงสัยด้วยเลยหละครับ แฮะๆ (อายจัง)ยังไงก็ขออภัยอีกครั้งก็แล้วกัน เป็นแฟนสเปอร์มาตั้งหลายสิบปีแล้วครับ(แอบแก่)เป็นสมาชิกพันติ๊บมาร่วมสิบปีแล้วเหมือนกัน จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:48:18

ความคิดเห็นที่ 84 สุดยอดมากเลยพี่เรื่องข้อมูลไปออกแฟนพันธ์แท้สบายเลย อยากจะแนะนำพี่นิดนึงครับ ว่าโลกออนไลท์เค้าไม่เห็นตัวตนกันจริง ๆ รับทราบจากแค่ตัวอักษรและข้อมูลที่เราแชร์ไว้ ดังนั้นถ้าเค้าจะสงสัยและถามผมว่าไม่แปลกเท่าไร แต่สงสัยแล้วค่อนแคะ แดกดัน ผมก็ว่าไม่สมควรครับ อุปมาดังใจเขาใจเราเวลาเราโดนก็โกรธ แต่เวลาเขาทำเขาไม่ยักกะคิดเหมือนเรา นับถือครับ สุดยอดมาก ๆ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 22:52:50

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณมากครับ เพิ่งรู้ว่าเวลาเขาแลกเสื้อกันแล้ว หลังจากนั้นหลายคนไม่ได้เอาไปสะสมไว้เอง จากคุณ : เช้าสายบ่ายเย็น เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 23:18:36

ความคิดเห็นที่ 86 ทางเวปโน้น เขากระจ่างแล้วนะครับ แฟนๆทางโน้นน่ารักครับ ตอนสงสัยก็เรื่องหนึ่ง ยิ่งเจอเรื่องเสื้อของอิบรา มาเป็นแรงบวกด้วยก็เลยออกนอกลู่ไปนิดครับ ก็หวังว่าในที่สุดก็เข้าใจกันดีว่าทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดนะครับ จากคุณ : WOND3RKID เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 23:32:36

ความคิดเห็นที่ 87 กระทู้ดีมาระน่าอ่านมากครับ ขอบคุณที่มาแชร์กัน สรุป เป็นโลกของธุรกิจครับ ที่มาที่ไปเปิดเผยไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของธุรกิจ ปล. โหวตครับผม จากคุณ : buddhi เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 54 23:39:37

ความคิดเห็นที่ 88 หวัดดีครับ ผมอาจจะไม่ไช่คนดังนะครับ และโพสไม่บ่อย แต่ไม่ไช่เกรียนแน่นอนครับ แต่ผมกล้าจะมายืนยันให้พี่เค้าครับ (ผมไม่เคยเจอหรือรู้จักพี่เค้าครับ) แต่ผมรู้อะไรบางอย่างที่ทำให้เชื่อครับ ซึ่งแต่ก่อนผมไม่รู้ พอผมรู้แล้วเหวอเลยครับ ปลใแต่พูดไม่ได้ครับ มีสัญญาเอาไว้ครับผม จากคุณ : hotnot เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 00:09:37

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณสำหรับเรื่องราว และสาระดีดีค่ะ อยากให้คุณ จขกท.เอาเสื้อทีมอื่นๆมาโชว์ด้วยอีกจัง จะรออ่านนะคะ ดิฉันว่าการสะสมเสื้อแบบนี้มันน่าสนใจดีค่ะ ืคือเราไม่ได้สะสมแค่เสื้ออย่างเดียว เสื้อแต่ละตัวมันมีเรื่องราวของมันอยู่ด้วย อยากบอกว่าประทับใจค่ะ ^^ จากคุณ : Take Me Home United Road เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 00:40:06

ความคิดเห็นที่ 90 อ่านแล้วทึ่งเลยครับสะสมเสื้อตัวเป็นหมื่นเป็นแสน ไม่รวย เอ๊ยใจไม่รักทำไม่ได้นะเนี่ย จากคุณ : The Red เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 00:40:30

ความคิดเห็นที่ 91 อ่านกระทู้นี้แล้วได้ความรู้เยอะเลยครับ ขอบคุณคุณ cantonot's kitroom มากๆ ผมเองก็สะสมเสื้อบอลเหมือนกัน อิจฉาที่คุณได้ของดีมามากมายขนาดนี้ แต่ก็เข้าใจว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้คงลำบากน่าดู ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ จากคุณ : sir keano เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 00:44:24

ความคิดเห็นที่ 92 อ่านแล้ว "สะใจ" ดี ขอบคุณ จขกท. โลกมันกว้างครับ บางทีอยู่กันแต่ในอินเตอร์เน็ตก็เผลอคิดว่าโลกของตนกว้างแล้ว แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 54 00:46:21 จากคุณ : Meursault เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 00:45:03

ความคิดเห็นที่ 93 สุดยอดเลยค่ะ TT^TTb!! แจกกิ๊ฟไปเต็มที่ค่ะกระทู้นี้ อ่านแล้วได้ความรู้และไขข้อข้องใจเรื่องเสื้อแข่งหลายๆอย่างเลย ขอบคุณนะคะ :) สารภาพว่าเพราะโลกของเนตทำให้เราเองก็เป็นคนขี้ระแวงค่ะ เราเองได้อยู่ในแวดวงที่มีบรรดาแฟนเกิร์ลมากมายด้วยแล้วก็เจอทุกประเภทเลยค่ะ ตั้งแต่หลอกลวง โพสต์รูปตัดต่อ กุเรื่องว่าได้เจอศิลปินไอดอลอย่างนี้อย่างนั้น แต่กับคุณ Astro Boy Blue เคยได้ติดตามกระทู้ทริปตามเสื้อของ Javier Zanetti แล้วเชื่อทันทีเลยค่ะเพราะจากรูปประกอบและเรื่องราวต่างๆ ส่วนตัวเข้าใจความรู้สึกของนักสะสมสไตล์นี้ค่ะ ซึ่งอาจทำให้หลายคนคิดว่าไม่ไหวนะเรื่องกลิ่นนี่555 แต่เป็นเรา เราก็เก็บหมดนะ = =;; (เคยเจอแฟนเกิร์ลแบบที่แอบเข้าร้านอาหารหลังเขาทานกันเสร็จแล้วเก็บทุกอย่างตั้งแต่ทิชชู่จนถึงตะเกียบที่ไอดอลใช้ด้วยนะ555) ...มันเป็นความรู้สึกที่ได้เข้าใกล้ไอดอลที่เราชื่นชอบมากยิ่งขึ้นล่ะนะคะ ก็นานาจิตตังกันไป~ ชื่นชมคุณ Astro Boy Blue จริงๆค่ะ เป็นกำลังใจให้กับกระทู้อื่นๆด้วยนะคะ ^^ จากคุณ : เอส_satool เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 00:49:29

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณนะค่ะ ได้ความรู้มากค่ะ ยังจำกระทู้ของคุณ Astro Boy Blue ที่ไปทานข้าวกับเฮียZanetti แล้วก็ได้เสื้อของนักเตะเยอะแยะไปหมด น่าอิจฉามาก ^ ^' (มีเสื้อของปิเก้นัดที่หัวแตกตอนบอลโลกไม๊คะ อยากดม แฮ่ๆ แต่จริงๆอยากดมเสื้อของนักเตะสเปนทั้งหลายแหล่ แฮ่มๆ) บ้านอยู่แถวไหนค่ะ อยากตามไปดูเสื้อจัง มีโครงการจะเปิดให้แฟนบอลได้ชมเป็นวิทยาทานบ้างไหมค่ะ ข้อมูลของคุณ Astro Boy Blue แน่นจริงๆ สุดยอดมากๆ เพิ่มเติมอีกนิดให้เกี่ยวกับที่ตั้งกระทู้หน่อย เราไม่เคยเคลือบแคลงสงสัยในตัวคุณ  Astro Boy Blue เลยค่ะ เพราะไม่มีจุดไหนให้สงสัย  ถ้าโกหกนี่ ก็ถือว่าเนียนสุดๆ แต่ด้วยโลกอินเตอร์เน็ตมันทำให้คนขี้ระแวง คิดเยอะคิดหลายขั้นหลายตอน เพราะการหลอกลวงมันก็มีเยอะ แต่เราเห็นถึงความตั้งใจที่คุณ Astro Boy Blue อยากนำความรู้เรื่องการสะสมเสื้อบอลมาแชร์กันนะ ชื่นชมคุณมากๆค่ะ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 54 01:16:41 จากคุณ : ~ FoxiLiciOuz ~ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 01:11:57

ความคิดเห็นที่ 95 ตอนเห็นกระทู้นั้นผมก็สงสัยครับ อย่างเสื้อคนที่ไม่ได้แลก ผมไม่ค่อยสงสัย แต่สงสัยคนที่แลก ว่าแลกไปแล้วไม่เก็บจะมีด้วยหรือ เสื้อโกเมส แลกกับปาโต้ ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ครับ สำหรับผมได้แค่เสื้อบอลมีลายเซนต์นักเตะ ก็พอใจแล้วครับ จากคุณ : 821 (บัตรผ่าน 821) เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 01:49:44

ความคิดเห็นที่ 96 ไปอ่านกระทู้ต้นเรื่องมาแล้ว  ข้ออธิบายในนี้ คงทำให้เรื่องจบได้ด้วยดีนะคะ แต่อ่านราคาแล้วแรงมากอ่ะ เสื้อน้อง M ที่อิชั้นกรี๊ดอยู่ จะตกตัวเท่าไหร่เนี่ย  -___-aaa จากคุณ : ป้าหนอน เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 02:37:45

ความคิดเห็นที่ 97 ขอบคุณครับสำหรับความรู้ ผมก็เพิ่งทราบนะครับว่ามีการสะสมอะไรแบบนี้ด้วย ส่วนตัวก็มีเสื้อแบบนี้อยู่ 1 ตัวครับ แต่ไม่ใช่ของนอกอะไรนะครับ เป็นของนักเตะไทยนี่แหละครับ เป็นของดุสิต เฉลิมแสนครับ เป็นเสื้อชุดที่ไปแข่ง Asian Cup ปี 1996 ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตน่ะครับ อยากจะขอความรู้นิดนึง เรื่องการเก็บรักษาอ่ะครับ ของผมซักแล้วแขวนไว้ในตู้ เอามาดูอีกที ตรงที่เป็นสีขาวมันออกเหลืองๆนิดๆแล้วอ่ะครับ ไม่ทราบควรเก็บยังไงดีอ่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : SLaYe|2 ArcA เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 02:57:06

ความคิดเห็นที่ 98 โลกออนไลน์กว้างใหญ่มากมายนัก เรายังไม่รู้เรื่องราวของคนอื่นๆอีกมากมาย จริง หรือ ปลอม มีปัจจัยหลากหลายเป็นตัวกำหนด เราจึงไม่ควรตัดสิน " ผิด - ถูก " ในสิ่งที่เรายังไปไม่ถึง.... " การเคารพซึ่งกันและกัน " จึงเป็นสิ่งสำคัญ !!!                                                                                                              > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 03:11:36

ความคิดเห็นที่ 99 เราไม่เคยสงสัยเรื่องที่มาหรือเรื่องว่า จขกท.เป็นใครเลยค่ะ แต่สงสัยอยู่แค่เรื่องเดียว คือ บ้าน จขกท. อยู่แถวไหน (ตามที่เคยนัดแนะกับคุณป้าหนอนในกระทู้ป๋า Zanetti อิ่..อิ่..) จากคุณ : Hermy เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 07:57:18

ความคิดเห็นที่ 100 กระทู้ดีมีสาระ  ถ้าอยากได้เสื้อนักเตะดังๆนี้ ตัวละเท่าไรเหรอครับ อย่างผมอยากได้เสื้อเจอราร์ดที่ใส่แข่ง ต้องมีเงินสักเท่าไรครับ จากคุณ : Raycer_X เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 08:16:55

ความคิดเห็นที่ 101 ขอบคุณมากๆครับ รอดูและรออ่านต่อครับ... จากคุณ : McDonut เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 08:20:20

ความคิดเห็นที่ 102 กระทู้นี้ได้ความรู้มากมายเลย แต่แอบอิจฉากระทู้ซาเนตติ ^__^ จากคุณ : poshopboy01 เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 09:57:37

ความคิดเห็นที่ 103 อิจฉา..... จากคุณ : Sifer2002 เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 10:03:58

ความคิดเห็นที่ 104 เห็นอายุแล้วน้าจะห่างกันพอควร... เอาว่าน้าทึ่งน่ะ เหมือนกับน้องอีกคนไม่รู้คนเดียวกันหรือเปล่าที่ไปดูเกมส์อินเตอร์แล้วนั่งในบล๊อควีไอพีปลายปีที่แล้วหรือไรเนี่ยะถ้าว่าความจำไม่ผิดน่ะ ถ้าไม่ใช่ก็นับเป็นคนที่สองที่มีโอกาสดีๆ เข้ามาบอกกับเจ้าของกระทู้ว่า แฟนบอลอิตาลีในนี้มีองค์เยอะเหมือนกันน่ะ บางคนถึงขั้นไปถึงที่ บางคนได้ลายเซ็นต์ใส่ชื่อ บางคนไปถึงขอบสนาม บางคนก็ถึงกับได้ติดรถคนไม่รู้จักข้ามเมืองหลังดูเสร็จก็มาก สิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งบอกอะไรเยอะในเรื่องที่หลายคนไม่คาดคิดและหลายคนคิดไม่ถึง ส่วนเรื่องสเปอร์นี่ ไม่ไปยุ่งน่ะเป็นเรื่องส่วนบุคคลกับความเชื่อ ส่วนตัวก็เก็บเสื้อสะสมของแท้เยอะมากๆ เคยเอารูปมาแปะไว้ก็มาก ได้เสื้อที่เป็น limited edition ก็เอามาแปะให้เฉพาะกระทู้แฟนบอลอิตาลีเขาดู ดูก็เพื่อมาเมนท์กันขำขำ และก็ภูมิใจกันไปว่ามันมีอะไรแปลกๆ แต่ถ้ามีการถามกันว่าเป็นใครอย่างไร บางทีอย่าไปออกตัวเลยน่ะ มันอันตราย บางคนถ้าไม่อ่านเขาก็ยังคงคิดว่าคุณทำงาน "ขายตรง" ตามความคิดเล็กๆ ของเขาแค่นั้น แต่ผลที่จะโดนคือตัวคุณเต็มๆ ถ้าว่าเปิดเผยแหล่งประสานงาน แหล่งที่มาหรือข้อมูลที่ลึกๆ กว่านั้น ไม่ได้อ่านตั้งแต่กระทู้เก่า ไม่รู้อะไรมากเท่าไร แต่น้าก็อยู่อิตาลีตอนนี้ ไอ้เสื้อแบบรัดเข้ารูปอะไรนั่น น้าเห็นขายที่ช๊อบด้านข้างวิหารดาวโม่ที่เป็นช๊อบของทีมมิลานเขาแล้วน่ะ น้องนักมายากลรัสเซียนั่นเขาเป็นแฟนบอลชั้นเทพระดับหนึ่ง เพราะเขาไปดูไปตามเกมส์มาหลายเกมส์แล้ว เดี๋ยวนี้น้าก็รออ่านเขาอยู่แต่ไม่เห็นแกไปอีกแล้ว ส่วนน้าเองก็เคยเอามาเขียนๆ ในนี้ แม้แต้ที่ผ่านมาในรอบปีที่ไปดูมาก็ไม่เขียนอีกแล้วเพราะทำเพื่อเปิดและเปรียบกับบอลไทย แต่พอบอลไทยมันไปของมันได้ก็จบ อ่านและเมนท์น้อยๆ เหมือนเดิมกันไป ล๊อคอินนี้ก็จะเป็นอีกล๊อคอินหนึ่งที่จะตามอ่าน ชอบจำชื่อล๊อคอินมีองค์แบบนี้เป็นทุนอยู่แล้ว เอามาเขียนและบอกเล่าให้มากๆ มันเป็นสิ่งที่เป็นสองแง่สองง่าม แง่และง่ามแรกคือความภูมิใจและอยากบอกเล่าเรื่องราวเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับคนรุ่นใหม่ๆ ที่ทำงานแล้วจะได้สร้างแรงจูงใจในการไปถึงที่ที่เขาก็อยากมีสักครั้งในชีวิตที่อยากไปดูถึงที่ที่ทีมที่ตนเองรัก แง่และง่ามที่สองก็อาจไปโดนใจคนที่เขารู้สึกอะไรแปลกๆ อันนี้เราว่ากันไม่ได้ ไม่นับกับคำถามประหลาดด้วย แต่ส่วนตัวทึ่งและชื่นชม ยิ่งเห็นภาพที่ไปกอดกับเจ้ากับปิตาโน่ของอินเตอร์แล้วนึกถึงน้องอีกคนมากๆ ที่เขาไปก่อนหน้านี้ น้าเป็นแฟนปาร์ม่า ได้ของที่ระลึกจากปาร์ม่าเหมือนกัน เสื้อก็เก็บเหมือนกัน ไม่นับรวม ตราทีมและโล่ห์หรือสัญลักษณ์อะไรมากมายของทีม แต่เสื้อนี่ถึงน้าได้มาจากขอบสนามน้าก็ซักน่ะ มะไหว ทึ่งกับเจ้าของกระทู้มากๆ ซักแล้วหลายตัวน้าเอาเข้าถุงสูญญากาศไว้ไม่งั้นที่เก็บไม่พอ อันนี้แนะนำน่ะ อากาศเข้าไปก็มีปัญหาได้ ถุงสูญญากาศขนาดเล็กมันมีขาย ยิ่งมีกลิ่นและเชื้ออยู่ในเสื้อ น้าเสียดายกลัวมันสันดาบอะไรในทางวิทยาศาสตร์แล้วเป็นแบบน้องนักมายากลรัสเซียเขาบอก ขนาดว่าซักอย่างดียังมีไปตั้งหลายตัวเลย... ชื่นชมและเป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปเรื่อยๆ น่ะครับ จากคุณ : danielle เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 10:31:51

ความคิดเห็นที่ 105 เข้ามาดูความหลงไหลในการสะสมครับ จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 11:13:58

ความคิดเห็นที่ 106 กระทู้ดี มาสาระจริงๆ ค่ะ แอบสงสัยมานาน ว่าเสื้อที่ใช้แข่งจริง จะเก็บรักษายังไง ก็ได้คำตอบจากกระทู้นี้ค่ะ (หาข้อมูลไว้ก่อน เผื่อจะมีวาสนาได้เสื้อ Gerrard มานอนกอดสักตัว อิอิ) จากคุณ : จินนี่ LFC เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 11:19:46

ความคิดเห็นที่ 107 สุดยอดนักสะสมท่านนึงในเมืองไทยจริงๆ จากคุณ : โรแบโต้ง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 54 11:29:51