อาถรรพ์หรือจะสู้ฝีมือ (มู)
17/03/2011 10:15:21 น.
ถึงตรงนี้เราได้ 8 อรหันต์ทองคำ ทะลุเข้ามาเล่นในรอบคอวเตอร์ไฟนอล ของศึกยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แล้วนะครับ ส่วนตัวแล้วผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าพูลดังจากเมืองผู้ดีเขา เค้าเรียงลำดับทีมเต็งต่างๆไว้อย่างไรบ้าง
ทว่า หากตามความคิดผมและคนทั่วๆไป มันคงออกมาตามนี้มั้งครับ เต็ง 1 ไม่แคล้วเป็น "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่สอนเชิง อาร์เซน่อล มาอย่างราบคาบ ส่วนเต็งสองนั้นน่าจะเป็น เรอัล มาดริด ที่เพิ่งเปิดบ้านบอมบ์ โอลิมปิก ลียง ไปอย่างหายห่วง 3-0 เมื่อกลางสัปดาห์ สำหรับเต็งสามน่าจะสูสีกันระหว่างสองตัวแทนจากอังกฤษ อย่าง เชลซี และ แมนฯยูไนเต็ด ส่วนเต็งบ๊วยคงเป็น ชาลเก้04 ที่ใครก็อยากจับสลากเจอกับทีมดังจากบุนเดสลีการายนี้ด้วยกันทั้งน้าน..
ก่อนจะไปถึงตรงนั้น อยากคุ้ยแคะถึงเกมที่เพิ่งจบลงไปไม่นานนักอย่างคู่ของราชันชุดขาวกับลียง ซักหน่อย ผมเคยคุยกันก่อนเกมเริ่มกับคุณ "โมนาลิซ่า" ผู้เชี่ยวชาญด้านแวดวงลูกหนังเมืองน้ำหอมถึงทรรศนะของเกมคู่นี้ ทางคุณ โมนา แจงว่า ลียงมีประสบการณ์น่าจะพอสู้กับเรอัลได้ ซึ่งผมก็เห็นด้วย กระนั้นสิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่าปีก่อน เรอัล ไม่มี แต่ซีซั่นนี้มันถูกเติมเต็มด้วยการบัญชาของ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์จอมกวนชาวโปรตุกีส
เรากำลังพูดถึงเกมรับ และ การเล่นตามแท็คติกของโค้ช ปีนี้ เรอัล เสียประตูน้อยมากๆ ในลีกเล่นไป 28 นัด เสียแค่ 20 ประตู แม้ว่าจะมากกว่า บาร์เซโลน่า ทีมนำอยู่ 6 ประตู แต่มันเป็นจำนวนที่น่าพอใจอย่างยิ่งสำหรับเกมป้องกัน ซึ่ง มูรินโญ่ สร้างขึ้นมาใหม่ ขณะเดียวกันมิดฟิลด์ตัวกลางอย่าง ชาบี อลอนโซ่ กับ ซามี่ เคดิร่า ช่วยตัดเกมได้ดี หรือในบางนัดที่ใช้งาน ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ก็ถือว่าแบ่งเบาภาระให้แนวรับได้ไม่น้อยเหมือนกัน
ราชันฯชุดนี้เล่นเพรสซิ่งดี แย่งบอลเก่ง เกมกับ ลียง ในศึกยูซีแอล รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง ที่เบร์นาเบว เห็นกันชัดๆแล้วว่า พวกเขาครองเกมได้ดีกว่า สร้างโอกาสยิงประตูได้มากกว่าเท่าตัว และเหนือกว่าทุกจุด ที่สำคัญบีบให้ทีมที่มีเกมรุกฉกาจอย่าง โอแอล มีโอกาสยิงเข้ากรอบเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้นตลอด 90 นาทีของเกมนัดสอง นั่นคือประสิทธิภาพที่ มูรินโญ่ ต้องการเห็นลูกทีมแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา ความเข้าขารู้ใจกันของ เมซุต โอซิล, อังเคล ดิ มาเรีย, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาริม เบนเซม่า เริ่มจะกลมกล่อมมากขึ้นเรื่อยๆ ดูไปแล้ว กาก้า แม้จะหายเจ็บกลับมา ก็คงหาที่ลงลำบาก ในเมื่อทีมชุดนี้เริ่ม "ลงตัว" เข้าไปทุกทีๆ
ลียง ต้องยอมก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้โดยดุษฏี แม้แต่ โคล้ด ปูแอล กุนซือของโอแอล ยังเปิดใจหลังเกมว่า ทีมของเขาต้องเผชิญหน้ากับทีมที่เก่งมากๆพร้อมกับติงทีมว่าเล่นกันผิดพลาดบ่อย อันมาจากความกังวลภายในใจ และ ยอมรับว่า เรอัล สมควรเป็นผู้ชนะแล้ว อาถรรพ์ที่ว่า เรอัล มาดริด มักจะจอดไม่ต้องแจวเมื่อมาถึงรอบนี้ได้รับการขจัดปัดเป่าโดยจอมขมังเวทย์รายใหม่อย่าง มูรินโญ่ ซึ่งพา ราชันชุดขาว ก้าวเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายศึกยูซีแอล ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
ย้อนกลับไปดูความเจ็บช้ำหกปีซ้อนของเรอัล ที่ผ่านมานั้น พวกเขาตกรอบด้วยน้ำมือของ ยูเวนตุส, อาร์เซน่อล, บาเยิร์น มิวนิค, โรม่า, ลิเวอร์พูล และ ลียง เพลานี้ ลียง โดนพวกเขาสางแค้นได้แล้ว ส่วนทีมที่เหลืออย่าง บาเยิร์น มิวนิค กับ อาร์เซน่อล ก็ร่วงไปแล้ว ขณะที่ทีมอื่นๆไม่ได้ร่วมทำสงครามแข้งในถ้วยนี้ บางทีนี่อาจเป็นการเปิดศักราชใหม่ที่ดีของเรอัล มาดริด ก็ได้ จากที่ไม่เคยชนะ โอลิมปิก ลียง ได้เลยใน 7 นัดที่พบกัน
ทุกอย่างย่อมต้องมีครั้งแรกเสมอ.."ถูกมั๊ยครับ"
นอกจากนั้นยังทำให้ ราชันชุดขาว มีสถิติเล่นในบ้านพบกับทีมจากฝรั่งเศส ยอดเยี่ยมทีเดียว ชนะ 8 เสมอ 3 และ แพ้ 1 นัด ในทางกลับกัน ลียง มีสถิติในการมาเยือนทีมจากแดนกระทิงดุที่ย่ำแย่ทีเดียว ชนะแค่นัดเดียว เสมอ 3 แต่แพ้ไปถึง 5 นัด ขณะเดียวกัน ลียง ไม่เคยผ่านเข้ารอบต่อไปในฟุตบอลสโมสรยุโรปได้เลย จากทั้งหมด 7 ครั้งที่พวกเขาถูกคู่แข่งบุกมายันเสมอที่บ้านตัวเองได้ก่อนในนัดแรก ตรงกันข้ามกับ เรอัล สามารถผ่านเข้ารอบต่อไปได้ทั้งหมด 9 ครั้งที่บุกไปเก็บผลเสมอ 1-1 ได้ถึงถิ่นคู่แข่งก่อนในเกมแรก เรียกว่าทุกอย่างดูเป็นใจให้กับ เรอัล มาดริด ไปหมด หากถามใจ มูรินโญ่ ว่าอยากเจอใครในรอบต่อไปล่ะ บาร์เซโลน่า เหรอ?
เปิดศึก "เอล กลาซิโก้" ในยุโรปให้ระบือลือลั่นมันไปเลยดีมั๊ย?
เฮียมู ไม่ตอบตรงๆ แต่อ้อมแอ้มว่า ไม่อยากจะเจอกับ อินเตอร์ มิลาน ทีมเก่าที่เขาเคยเนรมิตให้เป็นแชมป์ยูซีแอล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว รวมไปถึง เชลซี อู่ข่าวอู่น้ำเดิมด้วย ประมาณว่าถ้าเจอแล้วมันทำใจลำบากกับการจะลงมือพิฆาตทีมซึ่งเขาเคยคลุกคลีและปลุกปั้นมากับมือ ลืมบอกไปนิด การจับสลากของศึกยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่มีเงื่อนไขอะไรมาบังคับทั้งสิ้น 8 ทีมพระกาฬที่ผ่านเข้ารอบมานั้น สามารถพบเจอกันได้หมด ไม่ว่าจะมาจากชาติเดียวกันหรือเปล่า ไม่สำคัญ เจอกันได้ทั้งสิ้น
ปีนี้มาตรฐานของทีมจากพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ยังยอดเยี่ยมกระเทียมดองเหมือนเดิม เข้ามาถึงสามทีม ทั้ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ เชลซี สองรายหลังเป็นหน่าเก่าที่คุ้นเคยกันดี แต่กับ สเปอร์ส นี่สิ เฟรซชี่ จริงๆ เข้ามาครั้งแรกและเข้ามาได้ไกลเกินคาดเสียด้วย ส่วน สเปน มีสองยักษ์ใหญ่อย่าง บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด ขณะที่อิตาลี มีตัวแทนหนึ่งเดียวคือ อินเตอร์ มิลาน แชมป์เก่าที่น็อคเอ๊าท์ บาเยิร์น มิวนิค มาอย่างสนุกในรอบที่แล้ว
นอกนั้นก็เป็น ชาลเก้04 ตัวแทนจากเยอรมัน และ ชัคต้าร์ โดเน็ตส์ค ยอดทีมจากยูเครน ซึ่งเปรียบเสมือนแบกความหวังของฟุตบอลแถบยุโรปตะวันออกไปกลายๆ ต้องลุ้นกันครับว่าใครจะเจอกับใคร ทีมรักของคุณๆ จะจับติ้วได้ดีแค่ไหน วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม นี้ ณ สำนักงานใหญ่ยูเอฟ่า ที่เมืองนียง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเวทีในการจับสลากนั้น ช่วงหัวค่ำบ้านเราก็ได้รู้กันแล้วครับ เพราะพิธีการจะเริ่มเวลา 18.00 น. (6 โมงเย็นตามเวลาประเทศไทย)
ทางเลือกที่พวกคุณจะลุ้นผลการจับสลากครั้งนี้ ลองเปิดรายการ Sport Center ทาง ESPN ดู ส่วนใหญ่มีถ่ายทอดสดให้ชมกันเป็นประจำอยู่แล้ว หรือลุ้นผลทางเว็บไซด์ uefa.com ขณะที่อีกทางนั้นชมช่องสตาร์ ซอคเก้อร์ ทีวี (ดีทีวี 51) มีรายการสดจับสลากศึกยูซีแอล มีทรรศนะคอลัมนิสต์หลายๆท่าน รวมถึงสัมภาษณ์สดคนดังหลังรู้ผลการจับสลากแล้ว น่าสนใจทีเดียว ตามกันได้ครับเวลาประมาณ 5 โมงครึ่งจนถึง 1 ทุ่ม วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม
siamsport.com