 |
แซมบ้าโชว์!สิงห์กดเรือจม2-0ขึ้นที่3ตาม9แต้ม
21/03/2011 1:08:45
ดาวิด ลุยซ์ และ รามิเรส สองแข้งเลือดบราซิล ช่วยกันกดคนละตุงพา "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านไล่อัด"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เก็บสามแต้มล้ำค่า มี 54 คะแนน แซงเรือใบขึ้นไปอยู่ที่ 3 ตามหลังจ่าฝูงแมนฯยูฯ เหลือ 9 แต้ม แถมแข่งน้อยกว่า1นัด
ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554 เชลซี 2 - 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ที่มีอันดับ 3 เป็นเดิมพัน สิงโตน้ำเงินคราม ทำเซอร์ไพรส์แดนหน้าดร็อปทั้ง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา และ นิโกล่าส์ อเนลก้า เป็นสำรอง แล้วส่ง ซาโลมง กาลู กับ ฟลอร็องต์ มาลูด้า มาป้อนบอลให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ขณะที่แนวรับได้ ดาวิด ลุยซ์ คืนทีม ทำให้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ถ่างไปเป็นแบ็กขวา
ฝั่งทีมเยือน เรือใบสีฟ้า เจอข่าวร้ายก่อนเกม เมื่อ คาร์ลอส เตเวซ บาดเจ็บกระทันหัน ทำให้ เอดิน เชโก้ คืนตัวจริงพร้อมกับ เจมส์ มิลเนอร์ ที่เพิ่งฟิตกลับมา ขณะที่กองหน้าตัวแสบ มาริโอ บาโลเตลลี่ มีชื่อเป็นตัวสำรอง หลังจากขอโทษ มันชินี่ ไปแล้ว
โอกาสแรกของเกมเป็นของ แมนฯ ซิตี้ ก่อนตั้งแต่นาทีที่ 6 เจมส์ มิลเนอร์ แทงบอลต่อให้ ยาย่า ตูเร่ จับแล้วยิงด้วยเท้าขวาทันทีจากระยะ 20 หลา ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัวเซฟออกมาได้
เชลซี ก็ตอบโต้ได้น่ากลัวในนาทีที่ 12 ซาโลมง กาลู ลากตะลุยขึ้นมาแล้วจ่ายให้ รามิเรส เสียหลักล้มแต่บอลยังไปเข้าทาง กาลู แต่งเข้าไปจะล่อเป้าในเขตโทษอยู่แล้ว แต่ดันวิ่งไปชน รามิเรส ที่ล้มขวางอยู่ ทำให้ กาลู เลยอดยิง
เจ้าบ้านครองบอลได้มากกว่าก็จริง แต่เจาะเข้าเขตโทษไม่ได้ ทำให้ต้องยิงไกลสองครั้ง แต่ แอชลี่ย์ โคล กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ส่องข้ามคานออกไปทั้งสองจังหวะ
จังหวะยิงครั้งแรกของ เฟร์นานโด ตอร์เรส เกิดขึ้นในนาทีที่ 34 เมื่อ กาลู กระดกบอลขึ้นหน้าแล้วถ่ายต่อเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้ดาวยิงค่าตัว 50 ล้านปอนด์รอจังหวะซัดด้วยเท้าซ้าย แต่ช้าเกินไป โดน ไนเจล เดอ ย็อง พุ่งสไลด์ออกหลังทันเวลา
รูปเกมโดยรวมถือว่าน่าผิดหวังทั้งสองทีม เพราะต่อบอลกันค่อนข้างช้า และไม่เร่งทำประตูกันทั้งคู่ แม้ เชลซี จะมีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 42 มาลูด้า เปิดบอลจากซ้ายให้ กาลู จับแล้วพลิกตัวยิงเท้าขวากลางประตู แต่บอลไม่แรงพอ ฮาร์ท รับไม่ยาก จบครึ่งแรก เสมอ 0-0 แบบจืดชืด
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น และรูปเกมส่วนใหญ่ยังเป็นเหมือนเดิมคือ เชลซี เป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ และแค่ 5 นาทีแรกของครึ่งหลัง เชลซี ก็ได้ลุ้นประตูก่อนจากจังหวะพาบอลบุกขึ้นมาทางซ้ายของ ตอร์เรส ก่อนจะต่อบอลลไปที่ กาลูทางฝั่งขวาแล้วตบกลับมาให้ มาลูด้า ได้ยิงแต่บอลเบาและตรงตัว โจ ฮาร์ท ซะอีก
นาทีที่ 53 เกมต้องหยุดพักชั่วขณะเมื่อ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมปะทะเข้ากับ ยาย่า ตูเร่ จนเจ็บและต้องเรียกแพทย์เข้ามาปฐมพยาบาลแต่ เทอร์รี่ ก็ยังลุกขึ้นมาเล่นต่อไหว
นาทีที่ 61 เชลซี ได้โอกาสลุ้นอีกครั้งครั้งจากจังหวะที่ แลมพาร์ด โยนบอลเข้ามาหน้าประตูให้ อิวาโนวิช ขึ้นโหม่งโล่งๆคนเดียวจ่อๆแต่บอลพุ่งไปติด แว็งซ็องต์ ก็องปานี ออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
เข้าสู่ 20 นาทีสุดท้าย อันเชล็อตติ ต้องการประตูอย่างมากโดยส่ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ นิโกล่า อเนลก้า ลงมาแทน มาลูด้า และ ตอร์เรส
และแล้วหลังจากนวดมานานเจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 78 จากลูกฟรีคิกที่ ดร็อกบา โยนเข้ามาหน้าประตูเป็น ดาวิด ลุยซ์ ที่สะบัดหัวโหม่งเข้าไปให้เจ้าบ้าน เชล ซี ขึ้นนำ 1-0
หลังจากโดนขึ้นนำ แมนฯ ซิตี้ ส่ง อดัม จอห์นสัน และ มาริโอ บาโลเตลลี่ ลงมาแทน เจมส์ มิลเนอร์ และ ยาย่า ตูเร่ เพื่อหวังประตูตีเสมอ
นาที 92 เจ้าบ้านมาได้ประตูปิดกล่อง 2-0 จาก รามิเรส ที่โชว์ทักษะจับบอลไคว้หลอกก่อนจะพลิกหลุดเข้าไปเลือกมุมซัดเดี่ยวกับ โจ ฮาร์ท เข้าไปตุงตาข่าย
อีกนาทีเดียวผู้เบิกสกอร์แรก ดาวิด ลุยซ์ ถูกกรรมการแจกไปหนึ่งเหลืองเป็นของฝากก่อนจบเกมเนื่องจากตัดบอลฟาวน์
ท้ายเกม เชลซี เป็นฝ่ายครองบอลได้หมดแทบไม่เปิดโอกาสให้ แมนฯ ซิตี้ ทีมเยือนได้ลุ้นตีเสมอเลย จบเกม เชลซี ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญพร้อมขยับขึ้นไปอยู่ที่สามของตารางแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง : รอสส์ เทิร์นบุลล์, โชเซ่ โบซิงวา, เปาโล แฟร์ไรร่า, ยูริ เซียร์คอฟ, จอห์น โอบี มิเกล, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ยาย่า ตูเร่, ไนเจล เดอ ย็อง, แกเร็ธ แบร์รี่, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลบา, เอดิน เชโก้
สำรอง : สจ็วร์ต เทย์เลอร์, เยโรม บัวเต็ง, เดดริค โบยาต้า, ปาทริค วิเอร่า, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, อดัม จอห์นสัน, มาริโอ บาโลเตลลี่
ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110321_016.html
จากคุณ |
:
Hermy
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มี.ค. 54 02:01:09
|
|
|
|
 |