 |
สิงห์ไล่เจ๊าสโต๊ค1-1, ไก่จิกวีแกนไม่เข้า 0-0
02/04/2011 23:33:49
"สิงห์บลู" เชลซี สุดฝืดยกพลบุกเสมอ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค 1-1 เก็บได้เพียงแต้มเดียว โดยยังอยู่อันดับ3 ตามหลังจ่าฝูง แมนฯยูฯ 11 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า1นัด ขณะที่ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ทำอะไร วีแกน ไม่ได้เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ ที่ 2 เมษายน ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ สโต๊ค ซิตี้ 1 - 1 เชลซี
สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม
เกมระหว่าง "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ที่มีลุ้นจบ 10 อันดับแรก กับ เชลซี ที่มีลุ้นแชมป์อยู่ห่าง โดยทีมเยือนต้องชนะเท่านั้น เพื่อทำแต้มไล่จี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ให้ได้อย่างต่อเนื่อง
เกมนี้เจ้าบ้าน ยังไม่มี ยอห์น คาริว และ โธมัส โซเรนเซ่น ที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน โดยส่ง อัสเมียร์ เบโกวิช ลงเฝ้าเสาต่อเนื่อง ส่วนกองหน้าใช้ โจนาธาน วอลเตอร์ จับคู่กับ เคนวีน โจนส์
ด้านทีมเยือน คาร์โล อันเชล็อตติ จับ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นตัวสำรองแล้วใช้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงไป็นกองหน้าคู่กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า พร้อมทั้งส่ง โชเซ่ โบซิงวา กลับมาลงเป็นแบ็กขวาตัวจริง
เริ่มเกมแค่นาทีที่ 8 เจ้าบ้านขึ้นนำไปอย่างรวดเร็วเมื่อ โจนาธาน วอลเตอร์ พาบอลหนี ดาวิด ลุยซ์ ตรงกลางสนามทางด้านซ้าย ก่อนจะควบบอลหลุดเดี่ยวเข้าไป ล็อกหลบ ไมเคิ่ล เอสเซียง ก่อนจะยิงผ่านตัว ปีเตอร์ เช็ก เข้าไปให้ สโต๊ค ขึ้นนำ 1-0
นาทีถัดมาหลังจากโดนนำ เชลซี ก็ตอบโต้ทันทีและได้ลุ้นจากการโหม่งโล่งๆของ แอชลี่ย โคล แต่ก็ยังโดน อัสเมียร์ เบโกวิช พุ่งปัดออกหลังไปได้เหลือเชื่อ
นาทีที่ 21 เชลซี ได้โอกาสตีเสมออีกครั้งจากจังหวะ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลองซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ บอลตรง อัสเมียร์ เบโกวิช แต่รับหลุดมือไปเข้าทาง นิโกล่าส์ อเนลก้า แต่กองหน้าเฟร้นช์ ไม่พร้อมเลยโดนกองหลังเข้ามาสกัดได้ทัน
นาทีที่ 15 เชลซี ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ได้ซัดในกรอบเขตโทษ แต่ยังโดน ไรอัน ชอว์ครอสส์ พุ่งเข้ามาบล็อกไว้ได้ทัน
ทีมเยือน เชลซี ยังพยายามบุกเพื่อตีเสนออย่างต่อเนื่อง และก็มาทำสำเร็จในนาที่ 33 จากจังหวะที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า ได้บอลทางซ้ายก่อนจะโยนเข้ามาหน้าประตูใน ดิดิเย่ร์ ดร็อบา พุ่งเข้าไปล้มตัวโหม่งเข้าไปให้ เชลซี ตีเสมอเป็น 1-1
ช่วงท้ายครึ่งแรกยังคงเป็น เชลซี ที่เดินหน้าหาประตูขั้นนำอย่างต่อเนื่อง แต่แนวรับของ สโต๊ค ก็ยังเหนียวแน่นยันเอาไว้ได้หมด
เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่ถึงนาที เชลซี เดินเกมรุกทันทีและได้ลุ้นก่อนจากการยิงของ นิโกล่าส์ อเนลก้า แต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป
เจ้าบ้านก็ไม่ปล่อยให้โดนบุกแต่ฝ่ายเดียว นาทีถัดมาคราวนี้เป็น เจอร์เมน เพนแนนท์ ได้ยิงในกรอบเขตโทษจากการจ่ายบอลของกลางจากทางฝั่งซ้ายของ แม็ทธิว เอเธอริงตัน แต่ ปีเตอร์ เช็ก ล้มตัว ใช้เท้าสกัดออกไปได้
นาทีที่ 49 คราวนี้เป็น เชลซี ที่น่าจะได้ประตูนำอย่างที่สุดเมื่อ รามิเรส จ่ายบอลให้ ดร็อกบา ทางขวาของเขตโทษก่อนจะยิงเร็วทันทีบอลผ่านมือ เบโกวิช ไปแล้วแต่ชนเสาเหลี่ยมนอกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
เกมผ่านถึงนาทีที่ 60 เชลซี ส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ยังยิงประตูไม่ได้เลยนับตั้งแต่ย้ายมาจาก ลิเวอร์พูล ลงมาเล่นแทน นิโกล่าส์ อเนลก้า และยังส่ง ซาโลมง กาลู ลงเล่นแทน รามิเรส
และ ตอร์เรส ก็มีโอกาสทันทีเมื่อได้กึ่งยิงกึ่งผ่านมาหน้าประตูแต่บอลไปติดกองหลังกลับมาเข้ามือ อัสเมียร์ เบโกวิช ซะอีก
นาทีที่ 66 เจ้าบ้านน่าได้ประตูนำเช่นกัน เมื่อได้ลูกฟรีคิก เกล็น วีแลน เขี่ยให้ มาร์ค วิลสัน ซัดเต็มข้อบุกฟุ่งแรงชนคานอย่างจังก่อนจะโดนกองหลัง เชลซี เคลียร์ทิ้งออกหลัง ได้แค่ลูกเตะมุม
และจากลูกเตะมุมในจังหวะนี้ รอรี่ ดีแล็ป โยนบอลเข้ามากลางให้ โรเบิร์ต ฮูธ โหม่งเต็มๆแต่ ปีเตอร์ เช็ก ซุปเปอร์เซฟ ปัดชนคานออกมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อทำให้ทั้ง เชลซั ยังไม่ตกเป็นรองเจ้าบ้าน
อีก 4 นาทีถัดมายังเป็นเจ้าบ้านที่ได้โอกาสลุ้นประตูนำเมื่อ เคนวีน โจนส์ พาบอลพลิกหลบ จอห์น เทอร์รี่ และ ดาวิด ลุยซ์ เข้ากรอบเขตโทษ แต่จังหวะยังไม่ดีบอลพุ่งเฉียดเสาออกไป
ก่อนหมดเวลา 10 นาที เป็น ดร็อกบา ที่ได้กลับตัวยิง แต่บอลพุ่งไปชนคานเต็มแรง ก่อนจังหวะต่อมาจะเป็น ไมเคิ่ล เอสเซียง ที่ได้ซัดเต็มข้อจากนอกเขตโทษ แต่ อัสเมียร์ เบโกวิช ก็พุ่งเซฟเอาไว้ได้เช่นกัน
ท้ายเกมทั้งสองทีมยังผลัดกันรุกและรับอย่างสนุกแต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมด้วยกันทั้งคู่ ส่วนใหญ่จะยิงออกหลังกันไปเอง จบเกม สโต๊ค ซิตี้ เสมอกับ เชลซี ไป 1-1
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สโต๊ค : อัสเมียร์ เบโกวิช, มาร์ค วิลสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ, แดนนี่ ฮิกกิ้นบ็อตธอม, เจอร์เมน เพนแนนท์, รอรี่ ดีแล็ป, เกล็น วีแลน, แม็ทธิว เอเธอริงตัน, เคนวีน โจนส์, โจนาธาน วอลเตอร์ส
สำรอง : คาร์โล แนช, แดนนี่ คอลลินส์, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์, แดนนี่ พิวจ์, ซาลิฟ ดิเยา, ดีน ไวท์เฮด, แอนดี้ วิลกินสัน
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, รามิเรส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, นิโกล่าส์ อเนลก้า
สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เฟร์นานโด ตอร์เรส, จอห์น โอบี มิเกล, ยูริ ชีร์คอฟ, เปาโล แฟร์เรยร่า,ซาโลมง กาลู
ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ วอลตัน
วีแกน 0-0 สเปอร์ส
สนาม : ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม
เกมคู่สำคัญอีกคู่ "ไก่เดือยทอง" บุกเยือน ดีดับเบิลยู สเตเดี้ยม โดยยังลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ส่ง ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เจอร์เมน เดโฟ และโรมัน พาฟลิวเชนโก้ ประสานเกมรุกเต็มอัตราศึก ส่วนเจ้าถิ่นมี อูโก้ โรดาเยก้า ยืนค้ำ
เริ่มเกมมาเป็น วีแกน ทักทายก่อนเลยเมื่อ ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย ปีกตัวเก่งกระชากเลี้ยงตัดจากซ้ายเข้าในแล้วล็อกเข้าซ้ายข้างถนัดอีกครั้งก่อนส่องไกลระยะ 25 หลาหลุดเสาสองแบบได้ลุ้น
สเปอร์ส เริ่มตั้งเกมได้ นาที 23 พวกเขามีโอกาสลุ้นเมื่อเล่นเกมสวนกลับเร็วสุดท้ายเป็น เจอร์เมน จีนาส ตะบันด้วยขวาจากหน้าเขตโทษเร็ว อาลี อัล ฮับซี่ รับหลุดมือแต่ยังตามไปคว้าไว้ได้หวุดหวิด
ทีมเยือนมีโอกาสอีกครั้งเมื่อครบครึ่งชั่วโมงของเกมจากจังหวะที่ เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ โยนบอลโค้งเข้าไปหน้าประตู โรมัน พาฟลิวเชนโก้ พยายามโถมเข้าโขกจ่อๆ แต่กดไม่ตรงกรอบ
ทีมเยือนมาอีกระลอกก่อนจบครึ่งแรก 6 นาที เป็น ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ลองส่องไกลระยะกว่า 20 หลาหน้าเขตโทษ แต่ อาลี อัล ฮับซี่ ยืนตำแหน่งดีรับไว้ได้ หมดครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังนาทีเดียวเกือบเป็น วีแกน ที่ออกนำก่อนเมื่อ ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย พลิ้วเข้าเขตโทษก่อนหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลเข้ามือ เอเรลโญ่ โกเมส ที่ยืนดักทางถูกเซฟเอาไว้ได้ทัน
เป็นเจ้าถิ่นที่บุกเข้าใส่เป็นระลอกในครึ่งหลัง นาที 57 พวกเขามีโอกาสอีกเที่ยวหนนี้เป็น ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ลากเข้ามายิงในเขตโทษอีกครั้งแต่ เอเรลโญ่ โกเมส บินโชว์ซูเปอร์เซฟปัดออกหลังไปได้ทัน
สเปอร์ส มีโอกาสบ้างนาที 73 เมื่อ ลูก้า โมดริช รับบอลยาวจากเพื่อนร่วมทีมในจังหวะสวนกลับเร็วก่อนกระชากมายิงไกลหน้าเขตโทษ 30 หลา แต่บอลติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่นเฉี่ยวเสาออกหลัง
ท้ายเกมเป็นทีมเยือนที่เดินหน้าบุกหนัก นาที 89 เวดราน ชอร์ลูก้า โยนบอลเข้าเขตโทษปีเตอร์ เคร้าช์ โถมเข้าโหม่งแต่บอลเบา และตรงเข้ามือ อับ ฮับซี่ จบเกมเสมอกัน 0-0 สเปอร์ส ยังอยู่อันดับ 5 เหมือนเดิม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
วีแกน : อาลี อัล ฮับซี่ , เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, อันโตลิน อัลการาซ, แกรี่ คัลด์เวลล์, เมย์เนอร์ ฟิเกรัว , เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เบน วัตสัน, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ , ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, วิคเตอร์ โมเซส, อูโก้ โรดาเยก้า
สำรอง : ไมเคิ่ล พอลลิตต์ (ผู้รักษาประตู), สตีฟ กูโอรี่, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้, ฆอร์ดี้ โกเมซ, คอเนอร์ แซมมอน, โมฮาเหม็ด ดิยาเม่, รอนนี่ สตัม
สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส , เวดราน ชอร์ลูก้า, เซบาสเตียง บาสซง, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ , ซานโดร, ลูก้า โมดริช , เจอร์เมน จีนาส, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เจอร์เมน เดโฟ, โรมัน พาฟลิวเชนโก้
สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่ (ผู้รักษาประตู), ทอม ฮัดเดิลสตัน, อารอน เลนน่อน, สตีเว่น พีน่าร์ , ปีเตอร์ เคร้าช์, นิโก้ ครานชาร์, แดนนี่ โรส
ผู้ตัดสิน : อังเดร มาร์ริเนอร์
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110402_302.html
จากคุณ |
:
น้ำองุ่น
|
เขียนเมื่อ |
:
3 เม.ย. 54 05:37:32
|
|
|
|
 |