ความคิดเห็นที่ 1 จากเราชาวราชัน...   *[][]*       บ้านหลังนี้ทำขึ้นมาเพื่อให้แฟนราชันชุดขาวรีล มาดริดได้เข้ามาพูดคุยกัน  เน้นไปในทางสรรสาระ เฮฮา ลั้ลลากันตามอัธยาศัย และสามารถบินปาดได้ตามสบายเลยค่ะ....ท่านที่เป็นแฟนทีมอื่นเราก็ยินดีต้อนรับค่ะ *[][]*       เพื่อนๆ สามารถหาข่าว คลิป ภาพมาร่วมแชร์ มาแปะกันได้ตามสบายเลยค่ะ(ออกแนวขี้เกียจนะ) เพราะความสามารถในการหาข่าวของดิชั้นค่อนไปในทางน้อยนิดและไม่ค่อยจะมีเวลา ^_^ *[][]*       บ้านหลังนี้จะพยายามเปิดทุกวัน (ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพทางเนตของดิชั้นด้วย) หากดิชั้นมาตั้งไม่ได้จนล่วงเลยเวลาเก้าโมงเช้า  เพื่อนๆสามารถตั้งแทนได้เลย  แต่หากวันนั้นไม่สามารถตั้งได้ก็ไม่เป็นไรค่ะ *[][]*       บ้านหลังนี้จะไม่มีดราม่า ไม่มีการทะเลาะกันอย่างเด็ดขาด สำหรับกับทีมคู่แข่งหรือทีมใด การเกทับ บลัฟกัน ทำได้แต่พองาม  แต่ไม่ทำจะดีซะกว่า  ถ้าจะแรงเชิญนอกกระทู้..... เพราะเท่าที่เป็นอยู่ชาวบ้านเค้าก็หมั่นไส้ทีมราชันจะแย่อยู่แว้ว Haaa!!++ ....   *[][]*       เชียร์สดคืนวันที่มีโปรแกรมแข่ง  มาเชียร์กันได้ในท้ายกระทู้ประจำวันเลยนะคะ ..... และหากต้องการสมัครสมาชิก    คุณสามารถขอลงชื่อเข้าวัง (วน) ราชันชุดขาว Real Madrid  ได้ที่นี่เลยคร้า ..... http://www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S10182650/S10182650.html จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:11:53

ความคิดเห็นที่ 2 NEXT  MATCH   Match        Athletic Bilbao - Real Madrid         Date        Saturday 09/04/2011           Time        24:00  น. แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 54 07:15:35 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:14:51

ความคิดเห็นที่ 3  ข่าวเด่นประจำวันนี้   รูนฮีโร่ซัดชัย!ผีบุกหลอนสิงห์ถึงถิ่น1-0 "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มเยี่ยมบุกไปคว้าชัยเหนือเชลซีได้ถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ 1-0 เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงร่างตันซัดประตูชัย ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กุมความได้เปรียบด้วยประตูอเวย์โกล ก่อนจะกลับไปเล่นนัดที่สองที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด วันที่ 12 เมษายน 2554 ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ8ทีมสุดท้ายนัดแรก วันพุธที่ 6 เมษายน 2554 เชลซี (อังกฤษ) 0 - แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 1         สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์         เกมบิ๊กแม็ตช์ของสองยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก เชลซีจัดให้เฟร์นานโด ตอร์เรสเป็นคู่หัวหอกกับดิดิเยร์ ดร็อกบาโดยที่นิโกล่าส์ อเนลก้านั่งอยู่ข้างสนาม พร้อมกันนี้ก็มีพลิกโผส่งยูริ ซีร์คอฟเป็นตัวจริงในแผงกลาง ขณะที่ดาวิด ลุยซ์ติดคัพไททำให้บรานิสลาฟ อิวาโนวิชได้เล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนโชเซ่ โบซิงวารับบทแบ็คขวา         ด้านแมนฯ ยูไนเต็ดวางหมากสู้ด้วยการใช้งานเวย์น รูนีย์กับฮาเวียร์ เอร์นานเดซล่าตาข่าย และได้ริโอ เฟอร์ดินานด์กองหลังตัวเก่งฟิตลงสนามเป็นตัวจริงหลังเจ็บไปนานสองเดือน         เชลซีซึ่งมีสถิติดีกว่าแมนฯ ยูไนเต็ดเดินหน้าเข้าหาทีมเยือนก่อนด้วยความมั่นใจ และแค่นาทีที่ 2 ก็เกือบได้ไชโยจากการสาดบอลทางกราบขวาโดยมีตอร์เรสพุ่งโหม่งระยะหกหลาที่เสาแรก แต่เฟอร์ดินานด์ยกขาสกัดทิ้งได้ก่อนที่บอลจะเข้าหัวหอกกระทิง         นาทีต่อมา ไมเคิ่ล เอสเซียงปราดเข้ายันใส่ข้อเท้ารูนีย์จนหัวหอกผีแดงล้มเจ็บออกอาการไม่สู้ดี แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้หลังนอนโอดโอยอยู่พักหนึ่ง         ถึงนาทีที่ 6 ตอร์เรสเลื้อยขึ้นกราบขวาน่ากลัวแล้วหาช่องกดเรียดเองจากริมเขตโทษถูกเอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์รับได้ที่เสาแรก         ถัดจากนั้น ปีศาจแดงก็เริ่มทำเกมได้บ้าง แต่ผ่านมาถึงนาทีที่ 18 เจ้าบ้านโต้เร็วขึ้นทางขวาแล้วดร็อกบากระชากบอลเข้าเขตโทษไปกระทุ้งเต็มๆจาก 15 หลาทำเอาฟาน เดอร์ ซาร์ต้องปัดให้พ้นคาน         กระนั้นก็ดี นาทีที่ 24 เป็นแมนฯ ยูไนเต็ดที่สอยตาข่ายได้ก่อนเมื่อไมเคิ่ล คาร์ริควางบอลยาวข้ามฟากออกกราบซ้ายให้ไรอัน กิ๊กส์แตะหนีโบซิงวาหลุดเข้าเขตโทษได้ก่อนที่จอมเก๋าชาวเวลส์จะป้ายย้อนจากเส้นหลังให้รูนีย์แปเน้นๆระยะ 12 หลาชนโคนเสาไกลกระดอนเข้าประตูเป็นสกอร์นำ 1-0 ของอาคันตุกะ         เข้าอีหรอบนี้ เชลซีจึงเร่งเกมเต็มสูบ และนาทีที่ 30 ซีร์คอฟก็ลุยขึ้นทางซ้ายพร้อมทั้งตักบอลเข้าเขตโทษให้ตอร์เรสพักอกวอลเลย์ แต่แป๊กหัวเกือกเลยโดนแนวรับผีแดงเคลียร์ทิ้งได้         นาทีที่ 35 ซีร์คอฟกระโดดเตะบอลสูงในจังหวะที่เอร์นานเดซขึ้นโขกเลยได้ใบเหลืองข้อหาเข้าบอลอันตราย         ท้ายครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ดเดินหน้ากดดันเชลซีได้ดี แต่เกือบพลาดท่าเสียประตูคืนในนาทีที่ 45 เมื่อเจ้าบ้านลุยขึ้นทางซ้ายโดยดร็อกบาตักบอลเข้าเขตโทษให้ตอร์เรสสับไกระยะหกหลาไปที่เสาสอง แต่บอลชนเสา แฟร้งค์ แลมพาร์ดจึงเข้าซ้ำเผาขนถูกปาทริซ เอวร่าหวดทิ้งได้ก่อนพ้นเส้นประตู ครบ 45 นาทีแรกผีแดงจึงนำไปก่อน 1-0 ในเกมที่สุดมันส์         เริ่มครึ่งหลัง เชลซีโจมตีใส่ทีมเยือนทันที และเพียงไม่กี่นาทีราฟาเอล ดาซิลวาก็เข้าปั๊มแย่งบอลกับดร็อกบาแล้วเจ็บเข่าทำให้เกมยุติครู่หนึ่งเพื่อให้แพทย์ผีแดงลงสนามก่อนที่แบ็คขวาเมืองกาแฟจะลุกขึ้นมาได้         อย่างไรก็ดี นาทีที่ 53 ราฟาเอลก็ล้มเจ็บจนได้ จึงต้องหามลงเปลออกไปโดยมีนานี่ถูกส่งลงมาแทนแล้วถอยอันโตนิโอ วาเลนเซียลงไปเป็นแบ็คขวา         สิงห์บลูส์คุมเกมไว้ได้ฝ่ายเดียวแล้ว ทว่านาทีที่ 57 ก็ถูกแมนฯ ยูไนเต็ดโต้โดยรูนีย์ไหลบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษให้เอร์นานเดซสับไกจาก 15 หลาถูกแอชลีย์ โคลเข้าบล็อคแล้วบอลกลิ้งมาให้รูนีย์วอลเลย์ไม่เหลือ แต่เป็นจังหวะที่กองหน้าเม็กซิกันล้ำหน้าก่อนแล้ว         ถัดมาในนาทีที่ 62 รามิเรซแหย่ขาดักไม่ให้เอวร่าควบบอลหนีจึงได้ใบเหลืองอีกราย         ผีแดงพยายามดึงเกมช้าเอาไว้ไม่ให้เจ้าถิ่นเร่งเครื่อง และในนาทีที่ 68 เอสเซียงก็สไลด์ใส่คาร์ริคตัดเกมโต้แถวกลางสนามเลยโดนจดชื่อ         นาทีที่ 71 เชลซีส่งอเนลก้ากับฟลอร็องต์ มาลูด้าลงไปแทนดร็อกบากับซีร์คอฟหวังทวงประตูคืนให้ได้         ถัดมาพักเดียว วิดิชไปทำฟาวล์คู่แข่งเลยได้ใบเหลืองกระทั่งนาทีที่ 75 โบซิงวาก็ตักบอลจากริมสนามให้ตอร์เรสโขก ทว่าฟาน เดอร์ ซาร์บินสุดเหยียดปัดหลุดกรอบได้ด้วยปลายนิ้ว         ช่วงท้าย ทีมมหาเศรษฐียังบุกใส่อาคันตุกะได้น่ากลัวก่อนที่ผีแดงจะเปลี่ยนเอร์นานเดซออกให้ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟลงบู๊ในนาทีที่ 79 ขณะที่เจ้าบ้านใช้งานจอห์น โอบี มิเกลแทนโบซิงวา         จากนั้นฟาน เดอร์ ซาร์ก็ได้ใบเหลืองข้อหาถ่วงเวลา กระทั่งครบ 90 นาทีเจ้าถิ่นก็ทำได้แค่เสียว จึงพ่ายคารัง 0-1 ก่อนจะบุกไปเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ดนัดสอง         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม           เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก ,โชเซ่ โบซิงวา ,  บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , แอชลีย์ โคล , จอห์น เทอร์รี่ ,ไมเคิ่ล เอสเซียง , รามิเรซ , ยูริ ซีร์คอฟ ,  แฟร้งค์ แลมพาร์ด , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , เฟร์นานโด ตอร์เรส         สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์ , เปาโล แฟร์ไรร่า , จอห์น โอบี มิเกล , ยอสซี่ เบนายูน , ฟลอร็องต์ มาลูด้า , ซาโลมง กาลู , นิโกล่าส์ อเนลก้า         แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ , ปาทริซ เอวร่า , ริโอ เฟอร์ดินานด์ , เนมานย่า วิดิช , ราฟาเอล ดา ซิลวา ,พาร์ค ชี ซอง , ไมเคิ่ล คาร์ริค , ไรอัน กิ๊กส์ ,  อันโตนิโอ วาเลนเซีย , เวย์น รูนีย์ , ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ         สำรอง : โธมัซ คุสแซ็กส์ , คริส สมอลลิ่ง , จอนนี่ อีแวนส์ , พอล สโคลส์ , ดาร์รอน กิ๊บสัน , นานี่ , ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ         ผู้ตัดสิน : อัลเบร์โต้ อุนเดียโน่ มาเยนโก้ (สเปน)   บาร์เซโลน่า จ่าฝูงลีกกระทิง ยังโชว์ฟอร์มสมกับเป็นเต็งแชมป์ หลังเปิดสนามคัมป์ นูไล่ถล่ม ชัคเตอร์ โดเนทส์ค ทีมเยือนม้ามืดจากยูเครน ไปสบายๆ 5-1 การันตีการเข้ารอบรองชนะเลิศแทบจะแน่นอน โดยนัดที่สองบาร์ซ่าจะออกไปเยือนในวันที่ 12 เมษายนนี้ ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ8ทีมสุดท้ายนัดแรก วันพุธที่ 6 เมษายน 2554 บาร์เซโลน่า (สเปน) 5 - ชัคเตอร์ โดเนทส์ค (ยูเครน) 1         สนาม : คัมป์ นู           บาร์เซโลน่า ในฐานะเต็งหนึ่งแชมป์ยุโรปฤดูกาลนี้ เปิดบ้านพบ ชัคเตอร์ โดเนทส์ค ม้ามืดจากยูเครนที่ขาด ดมิโทร ชีกรินสกี้ กองหลังไม่ผ่านความฟิตชวดลงพบทีมเก่าอย่างน่าเสียดาย         เริ่มเกมไม่ถึงนาที ทีมเยือนมีเสียวทักทายก่อน เฮนริค เอ็มคิตาร์ยัน เติมขึ้นมาหวดลุ้นในเขตโทษตรงตัว บิคตอร์ บัลเดส รับไว้ได้ แต่แล้วบาร์ซ่าใช้โอกาสยิงครั้งแรกเป็นสกอร์นำทันที ลิโอเนล เมสซี่ จ่ายบอลแฉลบแนวรับกลายเป็นดีเข้าทาง อันเดรส อิเนียสต้า จับหนึ่งจังหวะก่อนกดเผาขนผ่าน อังเดร เปียตอฟ เสียบโคนเสาแรกง่ายๆ 1-0         ผ่านช่วงสิบนาทีแรก บาร์ซ่าน่าโดนตีเสมอ 2 หนซ้อน ชอตแรก ดั๊กลาส คอสต้า วางทะลุให้ หลุยซ์ อาเดรียโน่ หลุดเหน่งๆ กดถากเสาซ้ายมือน่าผิดหวัง ถัดมาเป็น ดาเนียล อัลเวส คืนหลังพลาดเดือดร้อน บิคตอร์ บัลเดส ต้องออกมาสไลด์บอลนอกเขตโทษ แต่ยังปลิ้นเข้าทางปืน วิลเลี่ยน ยิงสวนเกือบฮุบใต้คานอย่างน่าเสียวไส้         นาที 20 เจ้าบ้านพลาดโอกาสทองบ้าง มิโคล่า อิสเชนโก้ เสียบอลเข้าทาง ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลหลุดเข้ากรอบประตู พยายามชิพเหนือชั้นกะข้ามหัวนายทวาร แต่น้ำหนักเบาเกิน อังเดร เปียตอฟ เลยยกแขนรับไว้ได้ไม่มีปัญหา         จากนั้นกลายเป็นทีมบุญทุ่มเดินหน้าลุยแหลกจนออกนำ 2-0 ได้สำเร็จในนาที 34 ต้องชม อิเนียสต้า หวดโด่งตัดแนวรับทั้งแผงให้ อัลเวส ฉีกหลุดกับดักล้ำหน้าฉกบอลได้ก่อน เปียตอฟ แล้วล็อกยิงเข้าตุงตาข่ายโล่งๆ และหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้         เปิดครึ่งหลังมาถึงนาที 54 บาร์ซ่าทิ้งห่างไปอีก จากลูกสูตรเตะมุมสั้น ชาบี เอร์นานเดซ วางเรียดมากลางประตูให้ เคราร์ด ปิเก้ หวดตามน้ำแฉลบตุงตาข่ายนิ่มๆ ขยับสกอร์ 3-0 แล้ว         ทว่าชัคเตอร์ ยังไม่ยอมถอดใจไล่ตีตื้นเป็น 1-3 จากลูกเปิดฟรีคิกเยื้องมาทางขวา ดาริโย เซอร์น่า สาดโค้งเข้าหน้าประตูให้ ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้ กระดกเปลี่ยนทางบอลเสียบโคนเสาไกลนิ่มๆ         อย่างไรก็ดี ทีมเยือนมีความหวังแค่นาทีเดียวก็ถูกทิ้งช่องว่างเท่าเดิม เมสซี่ ได้บอลดึงแนวรับเทเข้ามาประกบ ก่อนตาไวจิ้มออกซ้ายให้ เซย์ดู เกอิต้า กดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษเสียบตาข่ายไม่เหลือ 4-1         ถัดมา อิเนียสต้า โดนใบเหลืองทำให้โดนแบนในนัดสองที่บ้านชัคเตอร์ แต่หลังจากนั้น บาร์ซ่าเกือบได้ลูกที่ห้าอีกต่างหาก คราวนี้ เมสซี่ สบช่องส่องไกลด้วยซ้ายไปติดเซฟ เปียตอฟ เหินปัดพ้นอันตรายหวุดหวิด มาถึงนาทีที่ 62 อันเดรส อิเนียสต้า กองกลางตัวเก่งของบาร์ซ่า มารับใบเหลืองไป ทำให้เกมนัดสอง เจ้าตัวจะติดโทษแบนชวดบู๊ หลังจากได้ใบเหลืองครบตามโควตาพอดี         นาทีที่ 86 บาร์ซ่า มาได้ประตูเพิ่มอีก เซย์ดู เกอิต้า เปิดบอลเข้ามา ชาบี เอร์นานเดซ วิ่งเข้ามาแปง่ายๆเข้าไป เจ้าบุญทุ่มนำห่าง 5-1         ช่วงที่เหลือ เจ้าถิ่นเน้นครองบอลเหนียวแน่น และก็ทำอะไรกันเพิ่มอีกไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลน่า ถล่มตามเป้าหมาย 5-1 กุมข้อได้เปรียบมหาศาลก่อนออกไปเยือนในนัดสอง วันอังคารที่ 12 เมษายนนี้         รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม         บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อาเดรียโน่ คอร์เรอา - ชาบี เอร์นานเดซ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เซย์ดู เกอิต้า - ลิโอเนล เมสซี่, ดาบิด บีย่า, อันเดรส อิเนียสต้า         สำรอง : รูเบน มินโญ่, โบยาน เกร์กิช, เปโดร โรดริเกซ, กาเบรียล มิลิโต้, แม็กซ์เวลล์, อิบราฮิม อเฟลลาย, ติอาโก้ อัลกันตาร่า         ชัคเตอร์ โดเนทส์ค : อังเดร เปียตอฟ - ดาริโย เซอร์น่า, ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้, มิโคล่า อิสเชนโก้, ราซวาน รัต - โทมัส ฮุบช์มัน, เฮนริค เอ็มคิตาร์ยัน - ดั๊กลาส คอสต้า, ชาดสัน, วิลเลี่ยน - หลุยซ์ อาเดรียโน่         สำรอง : รุสตัม คุดชามอฟ, แฟร์นานดินโญ่, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, วาซิล โคบิน, ทาราส สเตปาเนนโก้, อเล็กซ์ เตเซยร่า, โอเล็กซานเดอร์ ชีชอฟ         ผู้ตัดสิน : เคร็ก ธอมสัน (สกอตแลนด์) http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110407_041.html แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 54 07:26:33 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:25:48

ความคิดเห็นที่ 4 คนดีศรีสังคม ! ริคกี้ บอก เปรต ไม่น่าได้แดง ! ริคาร์โด คาร์วัลโญ่ ปราการหลังตัวเก๋าของ เรอัล มาดริด ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับจังหวะที่ ปีเตอร์ เคราช์ ได้รับใบเหลืองใบที่สองตั้งแต่นาทีที่ 15 ทำให้ต้นสังกัดของ เคราช์ อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ บุกมาพ่าย เรอัล มาดริด 4 - 0 ในเกมการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลก แรก " ผมไม่รู้ว่าการที่ ปีเตอร์ เคราช์ โดนไล่ออกจากเกมนั้นมันโอเคหรือเปล่านะ " อดีตปราการหลัง เชลซี แสดงทรรศนะ " การฟาวล์ครั้งแรกผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาต้องได้รับใบเหลือง แต่ครั้งที่สอง... ผมไม่รู้สิ บางทีเขาแค่อาจดวงไม่ดี และไม่ค่อยแฟร์กับเพื่อนร่วมทีมเขานะ " Credit:Tribalfootball.com จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:30:14

ความคิดเห็นที่ 5  ฟ้าขาว,บราซิลหนาว!บอสเก้ลั่นสเปนออกล่าแชมป์โคปา บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือหนวดหินทีมชาติสเปนชุดแชมป์โลกยอมรับอยากพาทีมกระทิงดุลงชิงชัยในศึกโคปา อเมริกา 2011 ซัมเมอร์หลังได้รับเชิญจากสมาพันธ์ฟุตบอลอเมริกาใต้ ญี่ปุ่นประกาศแจ้งขอถอนตัวออกจากชิงแชมป์แห่งชาติอเมริกาใต้เนื่องจากประสบเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิส่งผลต่อเจ-ลีกต้องปิดช้ากว่ากำหนดนั่นเอง ทำให้ คอนเมบอล ส่งจดหมายเทียบเชิญสมาคมฟุตบอลสเปน(RFEF) เสียบแทน "ผมคิดว่ามีความเป็นไปได้เลยล่ะ ที่ สเปน จะตอบรับเข้าร่วมโคปา อเมริกาในปีนี้" เดล บอสเก้เผย ขณะเดียวกันมีรายงานเพิ่มเติมระบุ ชูลิโอ กรอนโดนา ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนตินาเจ้าภาพจัดการแข่งขันได้เปิดเจรจาเบื้องต้นกับ อังเคล มาเรีย บีญ่า หัวเรือใหญ่ของ RFEF http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=413721 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:45:45

ความคิดเห็นที่ 6 เบลหวังไก่พลิกสถานการณ์เข้ารอบรอง   แกเร็ธ เบล มิดฟิลด์ของท็อทแนม ฮ็อทสเปอร์ หวังว่าทีมของเขาจะสามารถคว่ำเรอัล มาดริด และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ แม้รู้ดีว่าโอกาสมีริบหรี่ ประตูของเอ็มมานูเอล อาเดบายอร์, อังเคล ดิ มาเรีย และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้ราชันชุดขาวเก็บชัยชนะ ในบ้านได้อย่างงดงาม ทำให้ทีมไก่เดือยทองต้องเจอกับงานยากในการยิงห้าประตูในนัดที่สอง แต่เบลยังเชื่อว่าทีมดังจากเกาะอังกฤษจะยังสามารถพลิกสถานการณ์ได้ "เราต้องทำให้ดีที่สุด เราต้องหยุดผู้เล่นของเขาและยิงประตูให้ได้ที่ไวท์ ฮาร์ท เลน" "ทุกคนรู้ดีว่ามันเป็นงานที่ยาก แต่ผมเชื่อว่ามันยังเป็นไปได้" "เราคงไม่อยู่เฉยๆ ให้พวกเขามายำเราอีกครั้งในนัดที่สอง ผมหวังว่าจะชนะและชัยชนะนั้นจะมากพอ" "อะไรก็เกิดขึ้นได้ เราต้องพร้อมรับมือพวกเขา" ข่าว : goal.com จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:48:03

ความคิดเห็นที่ 7 เคร้าซ์เศร้าขอโทษเพื่อนทำไก่หมดสภาพ ปีเตอร์ เคร้าซ์ศูนย์หน้าร่างโย่งของสเปอร์สได้ขอโทษเพื่อนร่วมทีมที่เขาดันไปถูกใบแดงไล่ออกตั้งแต่ช่วงต้นเกม จนเป็นเหตุให้ถูกเรอัล มาดริดยำเละเทะ เปิดเผยโดยไมเคิ่ล ดอว์สัน ในขณะนั้น “ราชันชุดขาว” นำอยู่ 1-0 จากประตูของเอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ก่อนที่ต่อมาเคร้าซ์จะไปถูกสองใบเหลืองจากจังหวะเข้าบอลแบบไม่จำเป็นใส่มาร์เซโล่และแซร์คิโอ้ รามอสทั้งๆที่เกมยังไม่ผ่าน 20 นาทีแรกด้วยซ้ำ “เคร้าซ์กล้าหาญมาก” ดอว์สันกล่าว “เขาขอโทษเพื่อนร่วมทีมทุกคน แต่เราเองก็ลงสนามไปพร้อมทุ่มเต็มที่ เพียงแต่มันไม่เป็นไปตามแผนเท่านั้น” “ผมไม่เห็นจังหวะที่เขาโดนใบเหลืองที่สองนะ ผมเลยไม่รู้ว่ามันรุนแรงไปหรือเปล่า” “แต่การที่มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเกมในการแข่งกับทีมระดับเรอัล มาดริดน่ะมันน่าผิดหวังจริงๆ” http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=413443   จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:50:35

ความคิดเห็นที่ 8 น้ามูช็อคงูโดนถลกหนังคาบ้าน-ชี้ต้องไม่ยอมแพ้ โจเซ่ มูรินโญ่เฮดโค้ชเดอะ สเปเชี่ยล วันของเรอัล มาดริดเผยสุดช็อคกับผลการแข่งขันของอดีตต้นสังกัดเก่าอินเตอร์ มิลานหลังถูกชาลเก้บุกถล่มยับคาถิ่น 5-2 เมื่อคืนที่ผ่านมา การแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกเมื่อคืนที่ผ่านมาจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างยับเยินของอินเตอร์หลังถูกชาลเก้ 04 จากเยอรมันบุกมาถลกหนังคาบ้าน 5-2 แถมคริสเตียน คิวูมาถูกใบเหลืองใบที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไปในนาทีที่ 61 อีกด้วย ด้วยผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้อดีตนายใหญ่ระดับตำนานของ"งูใหญ่"อย่างมูรินโญ่ถึงกับช็อคทว่าก็ยังชี้ว่าอดีตต้นกังกัดเก่าต้องอย่ายอมแพ้และสู้ต่อไปกับความหัวงที่เหลืออยู่น้อยนิด "คุณไม่สามารถรู้ได้เลยในโลกของฟุตบอล ถ้าเราตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เราก็ยังคงมีแชมป์สคูเด็ตโต้และโคปา อิตาเลียให้ลุ้นอยู่" "ผมผิดหวังมากๆเช่นเดียวกับแฟนอินเตอร์ทุกคนแต่นี่คือฟุตบอลและคุณสามารถรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" "มันเหมือนเป็นมิชชั่น อิมพอสซิเบิ้ลที่เกลเซ่นเคียร์เช่นแต่คุณไม่มีทางรู้ได้หรอก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะชนะอยู่เสมอ" http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=413348 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:52:52

ความคิดเห็นที่ 9 โกงความตาย....แล้วก็ตาย เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขียนคอลัมน์มาที่ก่อนเขียนมีความรู้สึกหนึ่งไหลเวียนอยู่ภายในกาย และขณะที่กำลังเริ่มเขียนนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังไม่จางหายครับ ไม่ใช่ความสะใจ มิใช่ความคลั่งไคล้ หาใช่ความปิติยินดีจนเอ่อล้น ความรู้สึกนั้นคือความประหลาดใจครับ ต้องบอกอย่างนั้น ผมประหลาดใจกับ 7 ครั้งที่บอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายที่จูเซปเป้ เมี้ยซซ่าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง 5 ตุงเป็นของชาลเก้ 04 อาคันตุกะจากเยอรมนี มันเป็นไปได้ และมันเป็นไปแล้วครับ พูดแล้วก็ชวนให้นึกย้อนไปถึง 3 สัปดาห์ก่อนซึ่งอินเตอร์ มิลานโกงความตายบุกเฉือนบาเยิร์น มิวนิคสุดมันส์ 3-2 เป็นใบเบิกทางสู่รอบควอเตอร์ไฟน่อลสร้างความตกตะลึงแก่แฟนบอลได้ไม่แพ้กัน ผลพวงจากเกมนั้นช่วยให้ทั้งความมั่นใจและโมเมนตัมในการป้องกันโทรฟี่บิ๊กเอียร์พลิกกระดานกลับมาเป็นใจให้ทัพงูใหญ่แห่งเมืองแฟชั่นราวกับเมล็ดพันธุ์ 'วิคตอรี่ ดีเอ็นเอ' ที่โจเซ่ มูรินโญ่หว่านเอาไว้เริ่มผลิดอกออกผลอีกครา และยิ่งภายหลังผลจับสลากชนทีมดังจากเกลเซ่นเคียร์เช่นที่บ่อนรับพนันหลายสำนักต่างยกให้เป็นทีมเต็ง 7 หรือไม่ก็ 8 โน่นเลย สาวกเนรัซซูรี่หลายรายจึงพากันลูบปากหวานหมู แต่ก็ไม่แปลกที่คิดอย่างนั้นครับเพราะภายในรั้วเฟลตินส์ อารีน่ากำลังระส่ำระสายหลังเพิ่งเปลี่ยนตัวเทรนเนอร์ใหม่ ฟอร์มการเล่นก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ ผมเองก็คิดว่าเปอร์เซนต์ที่ราชันสีน้ำเงินจะจับเครื่องบินกลับย่านถ่านหินด้วยรอยยิ้มช่างมีน้อยนิดเหลือเกิน หวังเพียงแค่กดประตูทีมเยือนได้บ้างก็บุญโขแล้ว ประจวบเหมาะกับวรรคทิ้งท้ายในบทความที่แล้วของผม 'คนที่จะเป็นคำตอบว่าการปลดมากัธครั้งนี้ถูกหรือผิดจังหวะคงมีแต่้ราล์ฟ รังนิกเท่านั้น...' พอดีเลยครับ การทำนายทายทักความเป็นไปตลอดจนผลการแข่งขันของชาลเก้ ณ ห้วงเวลานี้เป็นเรื่องยาก บุนเดสลีกานัดไฟร์เดย์ไนท์ที่บุกอัดเอฟเซ ซังต์. เพาลี 2-0 ก่อนถูกเสียงนกหวีดของเดนิซ อายเตคินทำหมันก่อนเกมจบเพียงไม่กี่นาทีเนื่องจากเกิดปัญหากองเชียร์เจ้าถิ่นออกลูกเกเรประทุษร้ายผู้ช่วยผู้ตัดสินด้วยภาชนะใส่เบียร์ที่ทำมาจากพลาสติกแข็งนั้นรูปเกมโดยรวมหาได้เหนือกว่าแต่ถูกตัดสินที่รายละเอียดในเชิงอารมณ์และคุณภาพของเจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟานผู้ป้อน 2 แอสซิสต์+เรียก 2 ใบแดงจากผู้เล่นเจ้าถิ่น ถึงกระนั้นต้องบอกว่า 'ทรงบอล' ที่ราล์ฟ รังนิกเข้ามาปรับเปลี่ยนแม้ผังการยืนไม่ผิดเพี้ยนไปจากยุคเฟลิกซ์ มากัธเริ่มสำแดงให้เห็นว่าเขาคือเจ้าพ่อพาส แอนด์ มูฟประจำเมืองเบียร์ตัวจริงเสียงจริงไม่เสียทีที่ยึดถืออาร์แซน เวนเกอร์เป็นไอดอลโดยก่อนหน้านี้เขาบันดาลให้เทเอสเก 1899 ฮอฟเฟ่นไฮม์เป็นหนึ่งในทีมที่เล่นด้วยทีมเวิร์คอันน่าดึงดูดใจที่สุดทีมหนึ่งในบุนเดสลีกา ภาพที่เราเห็นจนชินตาในยุคจอมขมังเวทย์เรืองอำนาจในอัล์ฟ ชาลเก้คือ 'เสียยาก, สวนเจ็บ, ลูกสแตนดาร์ดโหด แต่ไม่ตอบโจทย์ความสวยงาม' ทั้งหมดทั้งมวลเกิดจากพื้นฐานเกมรับอันแข็งแกร่ง สกอร์ประเภทเฉือน 1-0 หรือ 2-1 ถูกบรรจุลงในผลการแข่งบุนเดสลีกาฤดูกาลที่แล้วหลายต่อหลายสัปดาห์จนกระทั่งสุดป้ายที่รองแชมป์ ทว่าหลังจากมีการเปลี่ยนถ่ายแนวรับเกือบยกแผง 'ความแกว่ง' ในเกมลีกาซีซั่นถัดมาจึงถามหาอย่างช่วยไม่้ได้ แต่แนวทางของรังนิกต่างกันคือ 'เสียแล้วไล่ จ่ายแล้ววิ่ง ยิงแล้วซ้ำ' อันเป็นปรัชญาพื้นฐานของศาสตร์ลูกหนังเชิงรุก เข้าทางเทรนเนอร์วัย 52 พอดีครับ ในเมื่อแนวรับชาลเก้ชุดนี้เชื่อใจไม่ได้ก็เน้นเกมรุกเสียเลย และทรัพยากรในแนวรุกก็เหมาะกับการผสมผสานระหว่างภาคพื้นดินและกลางอากาศอีกด้วย จริงอยู่ของแบบนี้ต้องใช้เวลาแต่เซนส์บอลของนักเตะอย่างราอูล กอนซาเลซ, โฆเซ่ มานูเอล ฆูีราโด้ และเจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟานพร้อมสนองต่อระบบการเล่นพาส แอนด์ มูฟเป็นทุนเดิม กอปรกับหน้าปฏิทินในรอบสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นโปรแกรมทีมชาติเข้ามาคั่นส่งผลให้รังนิกมีเวลาซักซ้อมการเล่นและเตรียมทีมก่อนลุยงานหนักช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล วกกลับเข้ามาพูดถึงเกมอภิมหาพลิกล็อค ประตูจากลูกยิงสะท้อนกลับความเร็วสูงของเดยัน สแตนโควิชสร้างบรรยากาศคึกคักหลังเกมเพิ่งเริ่มเพียงไม่กี่อึดใจ ตรงนี้เลโอนาร์โด้ทำการบ้านได้เยี่ยมครับ ซีซั่นนี้ชาลเก้มักเสียประตูจาก direct pass หรือการวางบอลยาวทางลึกจนชินแต่ก็แก้ไม่ตกเสียที บอลยาวจากเอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ตก ณ จุดที่มานูเอล นอยเออร์จำเป็นต้องโผกายออกมาเล่นด้วยศีรษะแต่บอลเจ้ากรรมดันไปเข้าทางปืนสแตนโควิชที่คุมทางบอลได้เทพเหลือหลาย พอถูกนำไปก่อนและเทรนเนอร์มีชื่อว่าราล์ฟ รังนิกก็แทบไม่ต้องคิดอะไรมาก ชาลเก้ดัน defensive line ขึ้นสูง บีบพื้นที่ตรงกลางให้แคบลง ชวนเจ้าบ้านทะเลาะบริเวณกึ่งกลางสนาม ปรับมาใช้การดักล้ำหน้าเต็มรูปแบบจนดีเอโก้ มิลิโต้ออกอาการเซ็ง อีกทั้งการเซ็ตเกมรุกก็ได้น้ำได้เนื้อ บอลเท้าสู่เท้าแม่นยำ พ่วงด้วยอาวุธร้ายเช่นการครอสจากกราบขวาของเจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟานกับอัตสึโตะ อูชิดะสองแข้งต่างเผ่าพันธุ์ซึ่งเป็นคู่ปีก-ฟูลแบ็คที่ประสานงานกันดีมาหลายเดือนแล้ว สู้ได้ครับ ต้องบอกว่าชาลเก้สามารถเปิดเกมรุกสู้กับแชมป์เก่าได้อย่างไม่เป็นรอง ผลัดกันชิงจังหวะจนพักเบรค 45 นาทีแรกด้วยสกอร์ 2-2 แต่อะไรที่ทำให้ชาลเก้บวกเพิ่มถึง 3 ประตูในครึ่งเวลาหลังขณะที่อินเตอร์ฯช็อตไปดื้อ ๆ ซะอย่างนั้น ? อันดับแรกเกมรับของทัพราชันสีน้ำเงินรั่วได้รั่วดีแก้ไม่หายในระยะเวลาอันสั้นแน่นอน การเล่นรักษาผลแข่งขันเป็นทางเลือกที่ส่อหายนะ เมื่อเกมรับยวบยาบจึงเน้นเกมรุกวัดไปเลยโดยมีซูเปอร์เซฟของนอยเออร์ที่ปฏิเสธประตูของซามูเอล เอโต้ในช่วงต้นครึ่งหลังอยู่เบื้องหลังชัยชนะครั้งนี้ และก่อนราอูลรับบอลจากเพื่อนพลิกหลุดไปจิ้มประตูที่ 70 ในชีวิตที่โลดแล่นใน UCL ส่งราชันสีน้ำเงินโขยกพลิกนำไม่กี่อึดใจนั้นคริสเตียน คิวูเพิ่งได้รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์ฟาร์ฟานและคนที่ประกบราอูลคือเขานั่นเอง การมาร์คกิ้งจึงหละหลวมกว่าปกติเพราะพะวงกลัวจะเสียเสียใบเหลืองที่สอง+จุดโทษ พอโดนลูกนี้เหมือนแข้งอินเตอร์ฯไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น เสียอเวย์โกล์ถึง 3 ประตู ลนลานคุมสปีดเกมไม่อยู่ ออกบอลผิดพลาดบ่อยครั้ง ขณะชาลเก้ที่คุมสถานการณ์ได้ดีกว่าเป็นฝ่ายทะลวงเพิ่มจนจบที่ 2 ประตูต่อ 5 จุดที่ทำให้งูใหญ่หมดทางเลื้อยกลับสู่เกมคือประตู 2-4 ที่อันเดรีย ราน็อคเคียปราการหลังดาวรุ่งสกัดเข้าประตูตัวเองอย่างไร้ทางเลือกตลอดจนใบเหลืองแดงของคริสเตียน คิวู นับเป็นเกมที่สองติดต่อกันที่ดาวเตะทีมชาติโรมาเนียต้องออกไปถอดเฮดการ์ดเปิดฝักบัวอาบน้ำก่อนเพื่อน ช่วงเวลาหลังจากนั้นแข้งงูใหญ่เหมือนถอดใจจนเดินเล่นกันบนฟลอหญ้า ประเด็นสำคัญอีกประการผมมองว่าชาลเก้ได้แต่ละประตูในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะ โดนยิงก่อนแต่ก็ใช้เวลาไม่นานในการตีเสมอทั้งสองครั้ง และพอพวกเขาได้โอกาสเป็นฝ่ายขึ้นนำหนแรกก็ไม่ปล่อยให้ทัพเนรัซซูรี่มีพื้นที่เล่นพร้อมใช้เคาท์เตอร์แอตแท็คทำงานได้อย่างน่าดูชม การที่ทัพของเลโอนาร์โด้ปราศจากลูซิโอเนื่องจากติดโทษแบนเป็นส่วนประกอบของความปราชัยแน่นอนครับเพราะเป็นหัวใจสำคัญในแผงรับงูใหญ่ ผิดกับฝั่งราชันสีน้ำเงินที่อดใช้บริการคริสโตฟ เม็ตเซลเดอร์ปราการหลังเต่าเรียกพ่อซึ่งจมูกหักจากเกมลีกนัดล่าสุด กลายเป็นดีเสียอีกที่โฌแอล มาทิปได้รับบทเซ็นเตอร์แบ็คเพราะมีความเร็วและรู้ทางซามูเอล เอโต้เพื่อนร่วมทีมชาติ ส่วนคีเรียกอส ปาปาโดปูลอสวัย 19 ซึ่งเล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวรับและเซ็นเตอร์แบ็คนั้นกระดูกอ่อนเกินกว่าจะดวลกับคู่หัวหอกอินเตอร์ฯจึงถูกส่งลงตรงแผงกลาง และนี่คือกึ๋นที่ีราล์ฟ รังนิกโชว์ให้เห็นในไลน์-อัพ 11 คนแรก ปรัชญาที่ราล์ฟ รังนิกนำมาใช้กับชาลเก้เด่นชัดขึ้นกว่าเกมปะทะซังต์. เพาลี การมีเกมรุกที่อันตรายเป็นสิ่งที่กุนซือทั่วโลกปรารถนา แต่การที่จะรักษาความคงเส้นคงวาและประสบความสำเร็จได้ต้องมีสิ่งที่เรียกว่า 'สมดุลย์' ซึ่งต้องตบแต่งกันต่อไปภายใต้การปฏิวัติปรัชญาฟุตบอลของรังนิกหรือ Rangnickution (Rangnick+Revolution) ขณะที่อินเตอร์ มิลานหลังจากโกงความตายมาในรอบ 16 ทีมสุดท้ายคงยุติเส้นทางป้องกันแชมป์แต่เพียงเท่านี้ ประวัติศาสตร์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกไม่เคยบอกว่าทีมที่เสีย away goal ไปก่อนถึง 5 ลูกบวกกับมี aggregate ตามหลังถึง 3 ประตูจะสร้างปาฏิหาริย์โลกตะลึงได้ คงต้องทุ่มเทในศึกกัลโช่ เซเรีย อากับโคปป้า อิตาเลียจนหยดสุดท้าย ก่อนเยือนบาเยิร์น มิวนิคตามหลังเพียงประตูเดียวแต่ครั้งนี้ตามหลังถึงสาม ขออนุญาตกาชื่อทิ้งตรงนี้เลยก็แล้วกันแม้อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกลูกหนัง โกงความตาย สุดท้ายก็ตายจนได้ครับ... http://www.soccersuck.com/soccer/viewtopic.php?t=413270 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 07:57:46

ความคิดเห็นที่ 10 เก็บตกจากเกมเมื่อวาน  RM: Ten Goals in Fifteen Matches Against Spurs Real Madrid saw Emmanuel Adebayor at his best on Tuesday night with the striker scoring the first two goals against Tottenham to bring his career total against Spurs to ten. What bodes even better for the Whites is that four of those ten goals have been scored at White Hart Lane. ....MEGF จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 08:03:20

ความคิดเห็นที่ 11 ดีคร้า  น้องแลต พูดถึงเอลกลาสิโก้   หลายๆรอบ  แล้วมันเครียดดดดดด+++ คร้า  หุหุหุ    คิดเสียว่ามาดริดเราเป็นรอง  สู้แบบไม่มีอะไรจะเสียละกาน ไม่กดดันเนอะๆ  คิดบวกๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 54 08:27:55 แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 54 08:06:37 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 08:06:16

ความคิดเห็นที่ 12 หวัดดีค่าคุณอิมมี่ เมื่อวานเชียงใหม่ ฝนตก ลมแรง แต่ไม่น้ำนองน้ำท่วม เสาร์นี้มีให้ลุ้นอีกแล้ว เตะเที่ยงคืนค่อยยังชั่ว :) จากคุณ : Chocolatta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 08:07:04

ความคิดเห็นที่ 13 ยังไม่ทันไรเลย Marca นับให้แล้วเนี่ยว่า มาดริด กับ บาร์ซ่า จะเจอกันอีกตั้ง 4 นัด ไม่ชนะบ้างให้มันรู้ไปดิ๊ จากคุณ : Chocolatta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 08:10:17

ความคิดเห็นที่ 14 หง่าสส์.... วันนี้คงไม่มีเวลาโพสข่าว+หาข่าวลงนะคะ  มีประชุมอีกตะหาก    ฝากอัพเดทข่าวต่อด้วยนะคร้า  อิอิ จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 08:25:53

ความคิดเห็นที่ 15 บายอร์อ้อนน้ามูอยากอยู่ราชันถาวร เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ดาวยิงตัวเก่งทีมเรอัล มาดริดมั่นใจสองประตูที่ทำได้ในนัดถล่ม สเปอร์ส 5-1 จะเป็นใบเบิกทางได้สัญญาถาวร หอกทีมชาติโตโกย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นในรังซานติอาโก้ เบร์นาบิวเมื่อเดือนมกราคมโดยตามเงื่อนไขระบุสามารถซื้อขาดเมื่อจบฤดูกาล "ตอนนี้ผมยังไม่รู้อนาคตเลยนะ แต่แน่นอนผมอยากอยู่ที่นี่อย่างถาวร " "ผมยังตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมอย่างหนัก ผมยังเหลือเวลาอีกสองเดือนจากนั้นค่อยมาดูกัน" *** 4-0 อ่ะ SS เขียนว่า 5-1 แหม ไม่ใช่บาร์ซ่ากับชัคเตอร์น้า*** จากคุณ : Chocolatta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 09:12:27

ความคิดเห็นที่ 16 หวัดดี ค่า คุณ อิมมี่ และคุณ Chocolatta หลังจากคืนนั้น  ก็เป็นคืนที่ เป็นคืนที่หลับฝันดี คืนหนึ่ง (ทั้งที่ความจริง ก็อยากเห็นหน้า กัปตัน ใจแทบขาด) แต่ตอนเจอนี้หวัดรุมรัปทาน กินยา แล้วหลับได้ทั้งวัน แอบดีใจกับฟอร์ม ของบ้ายอ ที่โดนพวกเราเจิม ก่อนเล่น คราวหน้า  ต้องเจิมอีก  อิอิ จากคุณ : @@@ ONLY YOU & ME @@@ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 09:33:11

ความคิดเห็นที่ 17 หวัดดีค่ะ หายไวๆ นะค้า :) วันเสาร์อย่าลืมเชียร์นัดเจอกับบิลเบา ประมาณ 24.00 น. จ้า จากคุณ : Chocolatta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 09:36:35

ความคิดเห็นที่ 18 เฮ้อ ผิดเพียบใช้ใทรศัพย์ พิพพ์ ขอประทานอภัยค่ะ จากคุณ : @@@ ONLY YOU & ME @@@ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 09:36:51

ความคิดเห็นที่ 19 โกเมสตำหนิหลังไก่เล่นแย่โดนเรอัลถล่มยับ07/04/2011 3:02:10        เอเรลโญ่ โกเมส นายทวาร "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตำหนิแนวรับที่เล่นแย่ ในเกมแพ้ เรอัล มาดริด 0-4 ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พร้อมยันไม่มีใครโทษ ปีเตอร์ เคร้าช์ ที่โดนไล่ออกตั้งแต่ต้นเกม        เอเรลโญ่ โกเมส ผู้รักษาประตูชาวบราซิเลียนของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาตำหนิแนวรับของทีมที่เล่นเหมือนนักเตะไร้ประสบการณ์ ในเกมที่โดน เรอัล มาดริด ไล่ยำเละ 0-4 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา        นายทวารวัย 30 ปี ให้ความเห็นว่า "เราต้องคิดเรื่องการเล่นให้มากกว่านี้ คุณไม่ควรเข้าสกัดเหมือนนักเตะไร้ประสบการณ์ตั้งแต่ช่วงต้นเกม คุณต้องระมัดระวัง คุณต้องพยายามครองบอลให้ได้ ผู้ตัดสินในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก แตกต่างจากเกม พรีเมียร์ลีก ไม่ใช่ฟาวล์ทุกครั้งที่เข้าสกัด"        ขณะเดียวกัน โกเมส ยืนยันว่า ไม่มีใครตำหนิ ปีเตอร์ เคร้าช์ หัวหอกร่างโย่ง ที่โดนใบแดงตั้งแต่ต้นเกม "ในช่วงพักครึ่ง ปีเตอร์ เคร้าช์ ขอโทษทุกๆ คน แน่นอน เราไม่ได้ตำหนิเขา เราต้องแข็งแกร่งร่วมกัน ใบแดงตั้งแต่ต้นเกมเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก"        "การเล่น 10 คนแล้วต้องสู้กับ เรอัล มาดริด เป็นเรื่องที่ยากลำบากสำหรับเราจริงๆ เราทำงานหนักเพื่อยิงประตูคืน แต่มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย สุดท้ายทุกคนเกือบเป็นตะคริว เราวิ่งกันมากเหลือเกิน นั่นเป็นแนวทางที่เราต้องทำเสมอ"        อดีตนายทวาร พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น กระตุ้นเพื่อนร่วมทีม ให้พลิกสถานกรณ์ให้ได้ในแมตช์ 2 ที่สนาม ไวท์ ฮาร์ท เลน "เรามีโอกาส คุณต้องเชื่อมั่น แต่มันก็เป็นเรื่องยากสำหรับเรา เราต้องเล่นด้วยความภาคภูมิใจ คุณต้องสู้จนกระทั่งจบเกม"        "แน่นอน มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเราหรือแฟนบอล พวกเขาต้องลุกขึ้นสู้ เพราะเราจำเป็นต้องจบอันดับ 1 ใน 4 เกม พรีเมียร์ลีก หลังจากนั้นในช่วงสุดสัปดาห์ เราค่อยคิดถึงเกมกับ เรอัล มาดริด" โกเมส ร่ายยาว จากคุณ : Chocolatta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 09:39:16

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ ถึงแม้ ลาลีก้า ของทีมเราความหวังลิบๆ แต่ก็จะคอยเชียร์ จนนาทีสุดท้าย อ่ะเน้อ ดูท่าทาง ทีมแมดริด ดวงเหมาะกะบารซ่า เนอะ ได้ลุ้นจนหัวใจวายไปข้างนึง อิอิ ขออย่างเดียว อย่าเหมือนปลายปีที่แล้วละกัน สาธุ จากคุณ : @@@ ONLY YOU & ME @@@ เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 09:43:53

ความคิดเห็นที่ 21 EL CLASICO ในฝัน แม้จะชอบการเล่นของบาร์เซโลน่า แต่กับฟุตบอลสเปนผมดันเลือกเชียร์ เรอัล มาดริด มาตั้งแต่ยุค ฮริสโต้ สตอยช์คอฟ และ โรมาริโอ   อะแฮ่ม.. ไม่ต้องงงครับ ยุคบิ๊กตอยช์กับเฮียโรมาริโอน่ะถูกแล้ว เพียงแต่ผมหมายถึงยุคที่ทีมเลือดหมูน้ำเงินเขามี 2 คนนี้เป็นขาใหญ่ในสนามพาบาร์ซ่ากวาดความสำเร็จเป็นว่าเล่นนั่นแหละ   บาร์เซโลน่า ยามนั้นเก่งที่สุดในสเปน คล้ายๆ กับยุคปัจจุบันนี่เลย ไล่ตีไล่ต่อยเขาไปทั่ว ยิงนัดละ 3-4 ลูกนี่เรื่องปกติ ถล่ม 5 เม็ดก็บ่อย หรือยำใหญ่ 8-1 ก็เคย สตอยช์คอฟเข้ามาก่อน ส่วนโรมาริโอมาทีหลัง แต่อยู่ในทีมชุดที่รัว เรอัล มาดริด พรุน 5-0 ในฤดูกาล 1993-94 เหมือนกัน   ผมตัดสินใจเลือกเชียร์ทีมชุดขาวในซีซั่นนั้นที่บทสรุปคือได้แต่นั่งทำตาปริบๆ ดูบาร์ซ่าเถลิงแชมป์ลา ลีกาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน   เชียร์ด้วยความสงสาร รำคาญพวกไร้เทียมทานว่างั้น   อันที่จริง เดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า ของ อาร์เซนิโอ อิเกลเซียส ยุคนั้นก็น่าเอาใจช่วยไม่น้อยเหมือนกันนะครับ มี 3 นักเตะแซมบ้าเป็นตัวชูโรงทั้ง เบเบโต้, เมาโร ซิลวา, โดนาโต้ ข้างหลังก็มี มิโรสลาฟ ดูคิช คุมเกมรับ แต่ก็เป็นเพราะการพลาดจุดโทษของ ดูคิช ในเกมปิดซีซั่นแท้ๆ ที่ทำให้ทีมอาซูลกราน่าปาดแซงป้องกันแชมป์ได้อีกสมัยในนัดสุดท้าย   คิดไปคิดมาในระยะยาวผมเลือก เรอัล มาดริด น่าจะปลอดภัยกว่า ด้วยความที่ขนาดและเกียรติประวัติของสโมสรมันผิดกัน นาทีนั้นซูเปอร์เดปอร์ยังไม่เคยสัมผัสกับแชมป์ลา ลีกาเลยนะครับ กว่าจะมาสมหวังได้ก็ในยุค ฆาเบียร์ อีร์รูเรต้า เมื่อปี 2000 ส่วนพวกชุดขาวนั่นเอาทั้งนิ้วมือนิ้วเท้ามาช่วยกันนับก็ยังไม่พอ   ถึงวันนี้ผมก็ยังคิดว่าตัวเองเลือกไม่ผิด ฤดูกาลรุ่งขึ้น ไมเคิ่ล เลาดรู้ป ย้ายข้ามห้วยมาจากคัมป์ นู, เฟร์นานโด เรดอนโด้ ถูกดึงมาจากเตเนริเฟ่ สมทบกับ หลุยส์ เอ็นริเก้, อีวาน ซาโมราโน่, โฆเซ่ อามาบิสก้า และดาวรุ่งดวงใหม่ที่ชื่อ ราอูล กอนซาเลซ เขย่าเลือดลมผมรุนแรง ภายใต้การดูแลของ ฮอร์เก้ วัลดาโน่ เรอัล มาดริดชำระแค้นอริตลอดกาลคืนทันควันแถมยังด้วยสกอร์เดียวกัน 5-0 ในเบร์นาเบว   ผลัดกันชนะ 5-0 ในห้วงเวลาห่างกันแค่ปีเดียว เป็นความคลาสสิกที่ฝังแน่นไม่มีวันลืม เปรียบไปก็เหมือนเราเห็นทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ เอาคืน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ด้วยการถล่ม 5-0 ในเอล กลาซิโก้เดือนหน้านั่นแหละ   ในวันนี้ แม้บางอารมณ์จะไถ่ถามหัวใจดวงน้อยๆ และบอบบางของตัวเองหลังเห็นความมหัศจรรย์ของเมสซี่, อิเนียสต้า และ ชาบี เอร์นานเดซ ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า 'ทำไมไม่เลือกเชียร์บาร์เซโลน่าไปตั้งแต่วันนั้นวะ' ก็ตาม แต่มองอีกมุมความเป็นกาลาคติกอสของเรอัล มาดริด มันก็คือเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนเช่นกัน   บาร์เซโลน่ามีเอกลักษณ์แบบหนึ่ง เป็นวิมานฝันในทิศทางของโรงเรียนลูกหนัง ลา มาเซีย อันเลื่องชื่อ   เรอัล มาดริดก็มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนเช่นกัน ภาพพจน์ตรงนี้โดดเด่นมากในยุคประธาน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ทั้ง 2 สมัย ประเดิมด้วย หลุยส์ ฟิโก้ แล้วเรื่องเล่าขานที่กลายเป็นจริงก็ตามมาเป็นพรวน ซีดาน, โรนัลโด้, เบ็คแฮม, กาก้า, คริสเตียโน่...   กวาดตามองทั่วยุโรป ถ้าไม่ใช่ เรอัล มาดริด ก็ไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่จะสร้างกาลาคติกอสขึ้นมาเป็นของตัวเองได้ ไม่แม้กระทั่ง เอซี มิลาน, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และบาร์เซโลน่า   แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เรียก เรอัล มาดริด ว่าเป็นทีมมีเอกลักษณ์ได้อย่างไร ความจรุงใจเต็มเปี่ยม เป็นคนละรสชาติกับยามลิ้มชิมบาร์ซ่า แต่เชื่อเถิดครับว่าอร่อยสุดๆ เหมือนกัน   จุดยืนที่ชัดเจนของมหาอำนาจลูกหนังเมืองกระทิงทั้งสองทีมนี้แบ่ง ลา ลีกา ออกเป็น 3 ซีกชัดๆ ซีกแรกคือซีกบาร์เซโลน่าที่ใช้เด็กปั้นของตัวเอง ซีกที่สองคือซีกเรอัล มาดริดที่เป็นสัญลักษณ์ของทุนนิยมทุ่มเงินบ้าเลือดซื้อทุกคนที่อยากได้มาครอบครอง และซีกสุดท้ายคือทีมอื่นทุกทีมที่เหลือ เป็นซีกที่ไปกองอยู่รวมกันในอีกโลกหนึ่ง   เพราะฉะนั้น ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง ตัวอย่างที่ไม่ดีใช่จะมีในตัวเรอัล มาดริดเสมอไปเสียหน่อย ไอ้ที่ซื้อ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ด้วยมูลค่ารวม 66 ล้านยูโรแล้วขายทิ้งแค่ 24 ล้าน ขาดทุนยับเยิน 40 ล้านภายในปีเดียวไม่ใช่วีรกรรมที่น่าหัวเราะเยาะของบาร์เซโลน่าหรือไง   เรอัล มาดริด กำลังจะลงสนามในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด (และก็ไม่ควรผิดพลาดด้วย) มูรินโญ่น่าจะพาราชันลบอาถรรพ์รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เสียที แชมป์ 9 สมัยอย่างพวกเขาตกรอบนี้มา 6 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว   ถ้าความปราชัยยับย่อยที่คัมป์ นู เมื่อเดือนพฤศจิกายนยังคงฝังหลอนๆ แฟนบอลเรอัล มาดริดอย่างผมก็ได้แต่เฝ้ารอวันที่จะเอาคืนแบบทบต้นทบดอก   อย่าลืมว่ายังเหลือ เอล กลาซิโก้ ที่ชัวร์ๆ อีกอย่างน้อย 2 นัดในฤดูกาลนี้ หนึ่งคือเกมลีกที่เบร์นาเบว อีกหนึ่งคือนัดชิงสแปนิช คัพที่เมสตาย่า   ผลจะเป็นอย่างไรไม่อาจรู้และไม่อยากคาดเดา เพราะมีแววเจ็บปวดซ้ำสอง-ซ้ำสาม   แต่ในฤดูกาลที่ไม่มีลิเวอร์พูลเข้าร่วมสังฆกรรมกับเขาด้วย ผมวาดฝันขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่องครับ เป็นความฝันในแชมเปี้ยนส์ ลีก   ระยะทางอาจยังอีกไกล แต่ฝันไว้ก่อนก็ไม่เสียหลาย   อยากเห็น เอล กลาซิโก้ ที่เวมบลีย์ มันคงไม่มีสนามกลางที่ไหนเหมาะสมสำหรับคู่นี้มากไปกว่าเมกกะลูกหนังอีกแล้ว   ผมคงรู้สึกของผมไปเองว่าถ้าวันนั้นเกิดขึ้นจริงๆ มันน่าจะเป็นวันของมูรินโญ่ไม่ใช่กวาร์ดิโอล่า เป็นวันที่ท้องฟ้าลอนดอนเป็นสีขาวไม่ใช่เลือดหมู-น้ำเงิน ตังกุย จากคุณ : Chocolatta เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 10:59:08

ความคิดเห็นที่ 22 .. แก้ไขเมื่อ 07 เม.ย. 54 20:50:23 จากคุณ : herose เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 20:49:39

ความคิดเห็นที่ 23 HQ Photo RM 4 -0 Tottenham http://www.imagebam.com/gallery/sfcn60cfcow6nfz6xj4h8duc46uwyn8k จากคุณ : herose เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 20:51:11

ความคิดเห็นที่ 24 ค่ำนี้ฝนตกตลอดๆๆๆๆๆ วันนี้ยุ่งเหยิงวุ่นวายมาก  เบื่อๆๆประชุม  เพิ่งได้เข้าบ้านเนี่ยยย อ่าววว  คุณว่านป่วยเหรอ  หายเร็วๆน้า  พี่ไม่ได้เข้าเฟสเลยวันนี้  ไว้ค่อยคุยกันนะ  แหะๆวันหลังเจิมบ้ายออีกเน้อออ เจิมได้ผลๆ  จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 20:56:41

ความคิดเห็นที่ 25 Ramos  ไหว้สวย     งามอย่างไทยมั่กมากกกกก  จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:08:19

ความคิดเห็นที่ 26 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:22:21

ความคิดเห็นที่ 27 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:24:50

ความคิดเห็นที่ 28 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:26:29

ความคิดเห็นที่ 29 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:31:25

ความคิดเห็นที่ 30 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:33:39

ความคิดเห็นที่ 31   จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:38:43

ความคิดเห็นที่ 32  ไม่เกี่ยวกะเกมคนนี้  แค่อยากแปะ  จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:47:58

ความคิดเห็นที่ 33   ท่านี้น่ารักมากเลยเงาะน้อยเอ้ย  จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:55:39

ความคิดเห็นที่ 34 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 21:58:07

ความคิดเห็นที่ 35   ก้อป๋มมานหล่อออ จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 22:00:24

ความคิดเห็นที่ 36   โด้แอบแบ๊ววว จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 22:01:53

ความคิดเห็นที่ 37   จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 22:03:54

ความคิดเห็นที่ 38  กัปตันขรา ติดท่านี้มาจากอิมอสเร้อ(เอ๊ะ..รึว่านาดาล ผมทัดหูเนี่ย ก๊ากกก จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 22:05:56

ความคิดเห็นที่ 39  ท่าสวยมว๊ากกก ชอบๆๆๆ จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 22:07:15

ความคิดเห็นที่ 40 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 54 07:12:25 จากคุณ : Te q u i e r o_t l e เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 07:09:59