ความคิดเห็นที่ 1 (1)ในภาพหน้าปกจากซ้ายไปขวา คือ โคจิ นากาตะ กองกลางดาวรุ่ง...บิสมาร์ค เพลย์เมคเกอร์ชาวบราซิล และมิตซึโอะ โองาซาวาระ มิดฟิลด์ดาวรุ่งผู้ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าจากการแข่งขันชิงแชมป์นาบิสโก้คัพ (ผู้ชนะของเจลีกสเตจที่หนึ่งกับสเตจที่สองมาพบกันแบบเหย้า-เยือน เพื่อหาแชมป์ประจำปี) กำลังประคองถาดแชมป์เจลีกอย่างมีความสุข จากคุณ : 123 (MoMo says) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:11:21

ความคิดเห็นที่ 2 (2)แนวรุกของโยโกฮาม่า เอฟ-มารินอสไม่สามารถทำอะไรแนวรับของแอนท์เลอร์สที่มีไดจิโร่ ทาคาคุว่า ผู้รักษาประตูมือสองทีมชาติญี่ปุ่นชุดเอเชี่ยนคัพ 2000 และมียูทากะ อาคิตะ (หมายเลข 3) เซนเตอร์ทีมชาติผู้มากประสบการณ์ได้เลย จากคุณ : 123 (MoMo says) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:12:25

ความคิดเห็นที่ 3 (3)เกมนี้ถือเป็นการชิงเหลี่ยมในแดนกลางระหว่างชุนสุเกะ นาคามุระกับมิตซึโอะ โองาซาวาระ...สองจอมทัพดาวรุ่งของแต่ละทีม นาคามุระมีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมากในการแข่งขั้นสเตจแรก ซึ่งทำให้นาคามุระได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าจากการประกาศของเจลีกไปเลย ส่วนโองาซาวาระ ผมไม่แน่ใจว่าสร้างชื่อมาจากทีมชาติชุดรองแชมป์โลกยู19ที่ไนจีเรียหรือเปล่า แต่เกมนี้จอมทัพจากอิบารากิกลบรัศมีจอมทัพจากคานางาว่าเสียจนมิดแสงเลยครับ จากคุณ : 123 (MoMo says) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:13:58

ความคิดเห็นที่ 4 (4-5)หน้าถัดมาก็จะเป็นการวิจารณ์รูปเกมโดยทั่วไปว่าทั้งสองทีมมีหมากในเกมรับและรุกอย่างไร เกมแรกที่มิตซึซาว่าบ้านของมารินอส (ตอนนั้นสนามโยโกฮาม่า อินเตอร์เนชั่นแนล บ้านหลังปัจจุบันของมารินอสยังไม่สมบูรณ์ดี) แอนท์เลอร์สบุกไปยันเสมอมาได้ 0-0 แต่ทว่าในนัดที่สอง ความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยของโยชิคัตซึ คาวางูจิ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติ ที่รับลูกครอสง่ายๆปลิ้นเข้าประตู กับการถูกยิงเสาแรกอีกสองลูก ทำให้มารินอสต้องพ่ายไป 0-3 อย่างน่าเจ็บใจ คนเขียนวิจารณ์ คือ โคอิจิ ฮาชิราทานิ อดีตกองหน้าทีมชาติยุค80s กับซาโตชิ ทซึนามิ กองหลังทีมชาติปลายยุค80sต้น90s จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:16:33

ความคิดเห็นที่ 5 (6)ภาพแผนผังการวิ่งเข้าทำ แสดงให้เห็นถึงจังหวะการได้ประตูที่สองของแอนท์เลอร์ส ซึ่งอากิระ นาราฮาชิ แบ็คขวาสอดขึ้นมาซัดมุมแคบผ่านมือคาวางูจิเข้าไป จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:17:24

ความคิดเห็นที่ 6 (7) ในขณะที่มารินอสเองก็มีโอกาส แต่หาโอกาสเจาะแผงหลังของแอนท์เลอร์สไม่ได้สักที ลูกนี้คุนิโอะ นางายาม่ามีโอกาสได้เปิดบอลเข้ามา แต่ก็ถูกนาโอกิ โซมะสกัดไว้ได้อีก จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:18:20

ความคิดเห็นที่ 7 (8) แอนท์เลอร์สเริ่มเกมด้วยระบบ 4-4-2 มีทาคาคุว่าเฝ้าเสา แผงหลังมีโซมะ ฟาเบียโน่ อาคิตะ และนาราฮาชิ(แผงหลังนี่มันทีมชาติญี่ปุ่นชุดฟรองค์98 ชัดๆ) กองกลางรับมีโคจิ นากาตะยืนคู่กับคุมาทานิ โดยมีบิสมาร์คกับโองาซาวาระทำเกมรุกคู่กัน ส่วนคู่หน้าเป็นหน้าที่ของยานางิซาว่ากับทาคายูกิ ซูซูกิ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 18:23:07 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:19:01

ความคิดเห็นที่ 8 (9) ขณะที่มารินอสผู้มาเยือน เล่นในระบบ 3-5-2 มีคาวางูจิยืนเฝ้าเสา กองหลังสามตัวหน้ากระดานมีฮาโตะ มัตซึดะและโอมุระ (สองตัวหลังนี่ทีมชาติเหมือนกัน) มีเอ็นโดะกับอูเอโนะยืนเป็นกลางรับ ปีกซ้ายและขวา เป็นหน้าที่ของอัตซึฮิโระ มิอุระและเรียวสุเกะ คิจิม่า กลางรุกมีนาคามุระคอยบัญชาการเกม ส่วนคู่หน้าเป็นหน้าที่ของเอ็ดมิลสันกับยูซังชุล (ตอนนั้น โชจิ โจเป็นตัวสำรอง เพราะไม่ฟิตและเพิ่งกลับมาจากค้าแข้งในสเปนกับรีล บายาโดลิด) จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:19:40

ความคิดเห็นที่ 9 (10) หน้านี้จะบอกสถิติของแต่ละคนว่าลงสนาม 5 นัดก่อนหน้าในฤดูกาลปกติมากี่นาที ลงเฉพาะในซันโตรี่คัพกี่นาที ยิงไปก็ลูก ตรงกรอบกี่ลูก ออกกี่ลูก ยิงไปติดบล็อกเค้ากี่ลูก จ่ายบอลให้เพื่อนเข้าทำได้กี่ลูก จ่ายให้เพื่อนกี่ครั้ง คิดเป็นเปอร์เซ็นที่จ่ายสำเร็จเท่าไหร่ มีลูกครอสจากด้านข้างบ้างไหม เลี้ยงบอลเป็นยังไง เลี้ยงผ่านคิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เข้าสกัดกี่ครั้ง สกัดสำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์ บล็อกลูกยิงฝั่งตรงข้ามกี่ครั้ง เคลียร์ลูกให้พ้นจากอันตรายกี่ครั้ง แย่งบอลหรือตัดบอลมาได้กี่ครั้ง ฟาวล์กี่ครั้ง ล้ำหน้ากี่ครั้ง ได้ใบเหลืองใบแดงกี่ใบบ้าง...สาบานได้ว่าเราเคยเห็นสถิติแบบนี้ในฟุตบอลไทย? ทั้งชีวิตผมเห็นละเอียดแบบนี้ในบุนเดสลีก้ากับเจลีกนี่แหละ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:20:45

ความคิดเห็นที่ 10 (11)หน้านี้โฟกัสไปที่ชุนสุเกะ นาคามุระคนเดียวเลยครับ ตารางด้านขวา เน้นเรื่องการจ่ายบอลอย่างเดียว ลูกครอสที่เป็นจุดเด่นของชุนสุเกะวันนี้ไม่เข้าเป้าเลย จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:21:32

ความคิดเห็นที่ 11 (12)ขณะเดียวกัน มีการทำสถิติของผู้เล่นทรงคุณค่าอย่างมิตซึโอะ โองาซาวาระว่า ได้รับ-ส่งบอลให้เพื่อนกี่ครั้งบ้าง จ่ายบอลแบบจังหวะเดียว สองจังหวะ หรือแต่งสามจังหวะคิดเป็นกี่ครั้งบ้าง ตลอด 90 นาทีได้บอลช่วงไหนบ่อยที่สุด และมีสถิติในลีกปกติ 5 นัดหลังมาประกอบด้วย จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:22:12

ความคิดเห็นที่ 12 (13)สังเกตว่าโองาซาวาระมักจะจ่ายบอลไปข้างหน้า โดยมียานางิซาว่าลงมาล้วงบอลอยู่บ่อยๆ ไม่ค่อยจ่ายไปด้านหลังสักเท่าไหร่ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:23:06

ความคิดเห็นที่ 13 (14)แผนภูมิวงกลมด้านบน บอกจังหวะการจ่ายบอลครับ เขียว คือ จ่ายบอลแบบไดเรคพาส ครั้งเดียวไม่มีจับ ส้ม คือ ใช้จังหวะจับหนึ่งครั้งก่อนจ่าย และฟ้า คือ แต่งบอลสักสองจังหวะและค่อยจ่าย จะเห็นว่าโองาซาวาระใช้จังหวะเล่นบอลไม่มากครับ แผนภูมิด้านล่างบอกจังหวะและช่วงเวลาการได้บอลของโองาซาวาระ ซีกขวาคือครึ่งแรก ซีกซ้ายคือครึ่งหลัง จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:23:57

ความคิดเห็นที่ 14 (15) โองาซาวาระไม่ได้เด่นแค่การจ่ายบอลนะครับ แต่การเล่นเกมรับก็ทำได้ดีด้วยเช่นกัน จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:24:39

ความคิดเห็นที่ 15 (16) อันนี้ คือ คะแนนความสามารถของมารินอสครับ จะเห็นได้ว่าคาวางูจิได้คะแนนแค่ 3 เต็ม 10 จากความผิดพลาดที่ผมได้กล่าวไป ขณะที่กองกลางของมารินอสก็ขึ้นเกมไม่ได้เลยครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:25:19

ความคิดเห็นที่ 16 (17)แน่นอนว่าช่วงท้ายฤดูกาลย่อมมีการประกาศรางวัลต่างๆซึ่งต้องบอกก่อนนะครับว่าที่นำมาลงนี่เป็นการประเมินของนิตยสารซัคก้า มะกาจิน ซึ่งอาจไม่ตรงกับรางวัลที่ทางเจลีกประกาศออกมาครับ ตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่าประจำปี 2000 ของนิตยสาร ได้แก่ ฮิโรอากิ โมริชิม่า จอมทัพของเซเรโซ่ โอซาก้า ซึ่งในสเตจที่หนึ่ง “โมริชี่” เกือบจะพาทีมคว้าแชมป์ได้แล้ว ถ้าไม่โดนคาวาซากิ ฟรอนเทล ทีมท้ายตารางยิงประตูชัยในช่วงต่อเวลา ปีนั้น โมริชิม่าเด่นมากเคียงคู่กับกองหน้าประจำทีมอย่างอากิโนริ นิชิซาว่า เช่นเดียวกับโนห์จุงยูน และยูนจองฮวาน สองคู่หูแนวรุกเลือดโสมของทีม จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:26:07

ความคิดเห็นที่ 17 (18)จากสถิติที่ผ่านมา ทางนิตยสารไม่เคยโหวตให้คนญี่ปุ่นเองได้รางวัลเลยครับ ไล่มาตั้งแต่ปี1993 ถึงปี 1999 ผู้เล่นที่ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า ได้แก่ ซานโตส(แอนท์เลอร์ส) เจอรัลด์ ฟาเนนเบิร์ก(จูบิโล่) โรแบร์โต้ ทอร์เรส(แกรมปัส) จอร์จินโญ่(แอนท์เลอร์ส) คาร์ลอส ดุงก้า(จูบิโล่ ได้สองสมัย)  และฮวางซุนฮอง(เซเรโซ่) จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:26:51

ความคิดเห็นที่ 18 (19)ทีมยอดเยี่ยมประจำปีจากการจัดอันดับของนิตยสารในระบบ 3-4-3 ผู้รักษาประตู ได้แก่ ไดจิโร่ ทาคาคุว่า(แอนท์เลอร์ส) กองหลังจากซ้ายไปขวา ได้แก่ โตชิฮิโร่ ฮัตโตริ(จูบิโล่) ฮองมุงโบ(เรย์โซล) และยูทากะ อาคิตะ(แอนท์เลอร์ส) กองกลางตัวรับ คือ โทโมคาซู เมียวจิน(เรย์โซล) ปีกซ้ายและขวา ได้แก่ โทชิยะ ฟุจิตะ(จูบิโล่) กับโนห์จุงยูน(เซเรโซ่) กองกลางตัวรุก ได้แก่ ฮิโรอากิ โมริชิม่า เจ้าของรางวัลเอ็มวีพี ขณะที่กองหน้าจากซ้ายไปขวา ได้แก่ ดราแกน สตอยโควิช(แกรมปัส) อากิโนริ นิชิซาว่า(เซเรโซ่) และวากเนอร์ ปาไรร่า คาร์โดโซ่ “อมารัล” (เอฟซี โตเกียว) ซึ่งจากการตัดสินของนิตยสารก็ถือว่าเป็นธรรมดีครับ เพราะทางผู้จัดฯคงดูจากผลงานโดยรวมสองสเตจจริงๆ เพราะอย่างกรณีของนาคามุระ นี่เด่นเฉพาะสเตจที่หนึ่งเท่านั้น ส่วนดาวซัลโวอย่างมาซาชิ นาคายาม่าก็เพิ่งมายิงกระจุยตอนสเตจที่สอง ดังนั้น ทีมประจำปีของนิตยสารถือว่ายอมรับได้ครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:28:09

ความคิดเห็นที่ 19 (20) รางวัลดาวซัลโว ตกเป็นของมาซาชิ “กอน” นาคายาม่า จากจูบิโล่ อิวาตะที่ซัลโวไปทั้งสิ้น 20 ประตู โดยในสเตจที่หนึ่ง นาคายาม่ายิงได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น แต่ในสเตจที่สอง นาคายาม่าระเบิดฟอร์มซัด 16 ประตูจาก 15 นัดที่ลงสนาม แซงหน้าดาวยิงคนอื่นที่คั่วตำแหน่งมาตั้งนานอย่างฮิเดอากิ คิตาจิม่าของเรย์โซล หรือยูซัลชุลของมารินอสอย่างหน้าตาเฉย ปัจจุบัน นาคายาม่าเป็นเจ้าของดาวยิงสูงสุดในเจลีกด้วยจำนวน 156-157 ประตูไม่แน่ใจ เป็นเจ้าของสถิติยิงแฮตทริคในระดับทีมชาติเร็วที่สุดในโลก โดยใช้เวลา 3 นาที 15 วินาทีกระหน่ำยิงกับเกมที่พบบรูไน อีกทั้งยังเป็นเจ้าของสถิติยิงแฮตทริคในลีกติดต่อกัน 4 นัดรวด โดยเจ้าตัวรัวไป 16 ตุงเมื่อปี 1998 ซึ่งปีนั้นนาคายาม่าลงเล่นในลีกแค่ 27 นัดแต่ซัดไปถึง 36 ประตู...สุดยอดจริงๆครับ โดยนาคายาม่าเป็นนักเตะชาวญี่ปุ่นคนที่สาม (ในขณะนั้น) ที่ได้รับรางวัลนี้ต่อจาก มาซาฮิโร่ ฟูกุดะของอุราวะ เรดส์ในปี 1995 และคาซูโยชิ มิอุระของแวร์ดี้ในปี1996 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:29:24

ความคิดเห็นที่ 20 (21)ในส่วนของนักเตะที่จ่ายบอลให้เพื่อนยิงประตูได้มากที่สุด ตำแหน่งนี้ตกเป็นของ ดราแกน สตอยโควิช กองหน้าชาวเซอร์เบียของนาโกย่า แกรมปัสที่ทำทางให้เพื่อนกระหน่ำไป 16 ประตู นัดที่แกรมปัสชนะเอฟซีโตเกียว คุณพี่เหมาทำทางให้เพื่อนทั้งสี่ลูกเลย ตำแหน่งนี้ “พิกซี่” ได้รับเป็นสมัยที่5 แล้ว (และด้วยความประทับใจในมันสมองและเทคนิคชั้นสูง ทำให้ผมตั้งชื่อลูกสาวสุดที่รักของผมว่า “น้องพิกซี่” เพราะแรงบัลดาลใจจากสตอยโควิชนี่เอง)ตำแหน่งนี้ก็มักตกเป็นของกองหน้าต่างชาติ อาทิ อัลซินโด้ ซาโตริ...ซินโญ่...บิสมาร์ค...ฮูลิโอ บัลดิเวียโซ่ ฯลฯ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:30:08

ความคิดเห็นที่ 21 (22-24)ตำแหน่งโค้ชยอดเยี่ยม ทางนิตยสารมอบให้ฮิโรชิ โซเอจิม่าของเซเรโซ่ โอซาก้าที่รับไม้ต่อจากเรเน่ เดอซาเยียร์ในการทำทีม “ยันมาร์ ดีเซล” จากทีมระดับท้ายตารางให้สามารถขึ้นมาลุ้นแชมป์ได้เป็นครั้งแรก ในตำแหน่งนี้ มีสอบผ่านเพียงสองคนครับ คือ โซเอจิม่ากับอากิระ นิชิโนะของเรย์โซล ซึ่งปัจจุบัน โซเอจิม่าหายไปกับสายลม ปล่อยให้นิชิโนะประสบความสำเร็จในยุทธภูมิเจลีกอยู่คนเดียว สำหรับตำแหน่งโค้ชยอดเยี่ยมตั้งแต่ปี 1993 ถึงปี 1999 ได้แก่ ยาสุทาโร่ มัตซึกิ(แวร์ดี้) สจ๊วต บักซ์เตอร์(ซานเฟรช) อาร์แซน เวนเกอร์(แกรมปัส) เจาคาร์ลอส (แอนท์เลอร์ส) ฮาเวียร์ อัสอัลกอร์ต้า(มารินอส) ออสซี่ อาร์ดิเลส และสตีฟ เพอร์รี่แมน(เอสพัลส์) ตามลำดับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 54 02:31:34 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:31:06

ความคิดเห็นที่ 22 (25-26)และรางวัลที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ผมเชื่อว่าแฟนบอลหลายคนอยากรู้เหมือนกันว่ามาตรฐานกรรมการของเจลีกเป็นอย่างไร และหวยก็มาลงที่เลสลี่ มอธทรัม เชิ้ตดำชาวสกอตที่ได้คะแนนประเมินสูงกว่าใคร ตามมาติดๆเป็นอันดับสอง ซึ่งเป็นลำดับสุดท้ายที่สอบผ่าน คือ มาซาโยชิ โอคาดะ เชิ้ตดำชาวญี่ปุ่นที่เคยได้รับเกียรติไปตัดสินในฟรองค์98 มีเพียงสองคนเท่านั้นที่สองผ่าน หรือได้ 6 จากคะแนนเต็ม 10 ส่วนกรรมการท่านอื่น...เอากรรมการต่างชาติที่เคยตัดสินในฟุตบอลโลก1998มาก่อนนะครับ เริ่มจากซาอิด เบลโกล่าจากโมรอคโคที่ได้รับเกียรติตัดสินในนัดชิงฟรองค์98 ได้เพียง 5.73 ลิมกีชุน(คนนี้น่าจะโควต้าเอเอฟซี)ได้เพียง 5.67 หลูจุนจากจีนได้เพียง 5.5 การ์เซียอรันดาได้น้อยสุดในบรรดากรรมการต่างชาติโดยได้เพียง 5.25 คะแนน ส่วนกรรมการชาวญี่ปุ่น โทรุ คามิคาว่าที่มาตัดสินที่บ้านเราบ่อยๆได้เพียง 5.4 คะแนน และโทชิมิตซึ โยชิดะ กรรมการที่กลับคำตัดสินในเกมทำให้อุซเบกิสถานตกรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก2006ในเกมกับบาห์เรน ได้ 5.61 คะแนน คะแนนความสามารถของกรรมการเจลีกเป็นอย่างไรบ้างครับ? กรรมการฝีมือดีมีแต่จะเกษียณตัวเองเร็วขึ้น กรรมการหน้าใหม่ก็เข้ามาแทนที่อย่างไม่สมบูรณ์นัก กรรมการชาวเซิร์บฝีมือดีอย่างเซลโก้ เปโตรวิชนี่เจลีกเสียดายมากครับ เคยได้รับรางวัลสามปีซ้อน แต่ถ้าอายุเกิน ก็ไม่ได้ครับ เต็มที่ก็ต่ออายุได้ปีต่อปีเท่านั้น จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:32:35

ความคิดเห็นที่ 23 (27)มาถึงจำนวนแฟนบอลที่เข้าชมแต่ละนัดครับ เป็นการเปรียบเทียบกับปีที่แล้วว่าเพิ่มขึ้นมาน้อยเพียงไร อืม...คุณกำลังหาอูราวะเรดส์อยู่ใช่ไหมครับ? ปี2000อูราวะเรดส์ลงไปเล่นในเจ2 ชั่วคราวครับ เพราะปีที่แล้วได้ตำแหน่งรองบ๊วย แต่ถึงเล่นเจ2 แฟนบอลหมื่นกว่าเหยียบสองหมื่นนะครับ การที่อูราวะเรดส์ลงไปเล่นในเจ2 ทำให้คาชิม่า แอนท์เลอร์สมีจำนวนแฟนบอลมากที่สุดในปีนั้น ตามติดมาด้วยมารินอส แกรมปัส อวิสป้า และเซเรโซ่ ส่วนสามทีมสุดท้ายที่มียอดแฟนบอลน้อยรั้งท้าย ได้แก่ ฟรอนเทล เกียวโตซังกะ และเจฟ ยูไนเต็ดครับ (สมัยก่อน เจฟ ยูไนเต็ดจำนวนแฟนบอลรั้งท้ายแทบทุกปีครับ) จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:33:47

ความคิดเห็นที่ 24 (28)ตารางนี้ คือ ลำดับของกองหน้าที่ทำแฮตทริคได้ในแต่ละปีครับ ปี 2000 มีกองหน้า 10 คนได้รับการจารึกชื่ออันทรงเกียรตินี้ โดยมีคนญี่ปุ่นถึง 6 คน ได้แก่ ฮิซาชิ คุโรซากิ(วิสเซล) ฮิโรมิ โคจิม่า(กัมบะ) โทโมยูกิ ฮิราเซะ(แอนท์เลอร์ส) โทชิยะ ฟุจิตะ(จูบิโล่-คนนี้ซัดลูกโทษทั้งสามลูกเลยครับ) คาซูโยชิ มิอุระ(เกียวโตซังกะ) และมาซาชิ นาคายาม่า(จูบิโล่) ส่วนต่างชาติ 3 คนที่เข้ามาสอดแทรกนั้นได้แก่ มาร์เซลโล่ “บารอน” โปลันซิค(เจฟ) ลิวอร์เนียร์ รุสเชล “ตูโต้” กับวากเนอร์ ปาไรร่า คาร์โดโซ่ "อมารัล"(จากเอฟซี โตเกียวทั้งคู่) และดาวิด บิสคอนติ (อวิสป้า) แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 18:25:15 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:34:38

ความคิดเห็นที่ 25 (29)สถิติการยิงประตูตามจำนวนครับ นับถึงปี 2000 มีการยิงไปทั้งสิ้น 6500 ประตู ปัจจุบันนี้ทะลุหมื่นประตูไปตั้งนานแล้วครับ ไทยลีกเรายิงไปกี่ประตูแล้วครับ?อยากรู้ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:36:01

ความคิดเห็นที่ 26 (30-31)สรุปตารางคะแนนค่อนข้างละเอียดครับ ตารางบอกให้เห็นว่าใน 30นัดนั้น แต่ละทีมลงเล่นไปทั้งสิ้นกี่นาที ชนะกี่ครั้ง เป็นการชนะในเวลา 90 นาทีกี่ครั้ง(ได้สามคะแนน) ชนะในช่วงต่อเวลากี่ครั้ง(ได้สองคะแนน) เสมอเท่าไหร่ แพ้เท่าไหร่ แพ้ช่วงต่อเวลาพิเศษกี่ครั้ง ยิงได้เท่าไหร่ ได้จุดโทษกี่ครั้ง ได้ประตูจากลูกโทษนั้นกี่ครั้ง เสียกี่ประตู เสียจุดโทษกี่ครั้งและเสียประตูจากลูกโทษนั้นเท่าไหร่ ได้ยิงกี่ครั้ง ถูกยิงกี่ครั้ง ได้ฟรีคิกซ์กี่ลูก ได้ลูกเตะมุมกี่ลูก ถ้านับคะแนนเหมือนลีกทั่วไป ไม่ได้แบ่งเป็นสเตจ แชมป์จะตกเป็นของคาชิว่า เรย์โซลที่ทำผลงานรวมทั้งสองสเตจได้ดีกว่าทีมอื่น ส่วนทีมที่ผมเชียร์อย่างจูบิโล่ อิวาตะยิงได้เยอะที่สุดในลีกครับ แต่พลาดในเกมสำคัญๆ จึงได้เพียงที่สี่ อ้อ...จูบิโล่ อิวาตะเป็นทีมแรกครับที่สามารถคว้าแชมป์ทั้งสองสเตจได้ในปี 2002 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:37:01

ความคิดเห็นที่ 27 ส่วนที่สองครับ แก้ไขเมื่อ 16 เม.ย. 54 02:38:31 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:38:08

ความคิดเห็นที่ 28 รูปไม่ขึ้น... จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:39:08

ความคิดเห็นที่ 29 (32) อันนี้ก็เป็นข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการฟุตบอลญี่ปุ่นครับ ข่าวที่ลงตอนนั้น คือ การเปลี่ยนแปลงภายในทีมแวร์ดี้ คาวาซากิซึ่งได้เปลี่ยนชื่อทีมเป็น “1969 โตเกียว แวร์ดี้” มีการย้ายฐานจากคาวาซากิมาอยู่โตเกียว (ว่ากันว่าแฟนบอลของแวร์ดี้มีจำนวนลดน้อยลง หลังจากที่คาซูจากทีมไป) พร้อมทั้งดึงสตาฟกลุ่มเดิมมาทำทีม โดยมียาสุทาโร่ มัตซึกิ ที่เคยพาแวร์ดี้ได้แชมป์เจลีกสองสมัยแรก รับหน้าที่โค้ช จอร์จ โยชินาริรับตำแหน่งโค้ชทีมสำรอง และซาโตชิ ทซึนามิ อดีตกองหลังรับหน้าที่โค้ชทีมเยาวชน การเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นแห่งจุดจบของแวร์ดี้ เพราะหนังสือพิมพ์โยมิอุริไม่ได้มีเงินถุงเงินถังเหมือนสมัยก่อน (เหมือนบีอีซีเทโรสมัยนี้เลยแฮะ) แนวการทำทีมของสตาฟชุดนี้ คือ ให้ความสำคัญกับดาวเตะตัวเก๋าที่เคยอยู่กับทีม ตอนหลังจากนั้นไม่นานมีการดึงมาซากิโยะ มาเอโซโนะที่หมดสภาพไปแล้วกลับมาแวร์ดี้ด้วย ปี 2001 แวร์ดี้เกือบตกชั้น ยังโชคดีที่ “อ้ายสัตว์ป่า” เอ็ดมุนโด้ อดีตกองหน้าทีมชาติบราซิลเข้ามาช่วยยิงกอบกู้สถานการณ์ของทีมไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้ (แต่สุดท้าย แวร์ดี้ก็ตกต่ำจนตกชั้น จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังกลับขึ้นมาไม่ได้) แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 18:26:16 จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:39:57

ความคิดเห็นที่ 30 (33)ข่าวต่อมา คือ การเตรียมทีมภายหลังต้องตกชั้นไปยังเจ2ของคาวาซากิ ฟรอนเทล ปีนั้น ฟรอนเทลเปลี่ยนโค้ชไปสามคน ซึ่งหนึ่งปีก่อนหน้านี้ คาวาซากิ ฟรอนเทลเก่งมากนะครับ เลื่อนชั้นขึ้นมาพร้อมกองหน้าจากบราซิลที่มีความอันตรายมากอย่างตูโต้ แต่พอลุเข้าปี 2000 ดันปล่อยกองหน้าตัวเก่งออกไปให้เอฟซี โตเกียวซะงั้น ส่วนกองหน้าดาวรุ่งของทีมอย่างคาซูกิ กานาฮะยังกระดูกอ่อน ช่วยทีมได้ไม่มากนัก ฟรอนเทลจึงต้องตกชั้นไปแต่ไก่โห่ด้วยตำแหน่งบ๊วย อย่างไรก็ตาม ฟรอนเทลนี่ได้รองแชมป์ลีกคัพในปีนั้นนะครับ แพ้แอนท์เลอร์สรอบชิงนิดเดียวเอง จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:40:51

ความคิดเห็นที่ 31 (34-35)หน้าต่อมา คือ การนำเสนอข่าวคราวความเคลื่อนไหวและการเตรียมความพร้อมของทีมฟุตบอลที่เข้าร่วมแข่งขันศึกอินเตอร์ไฮ หรือการแข่งขันฟุตบอลระดับมัธยมปลายชิงแชมป์ประเทศ ซึ่งเล่มนี้นำเสนอความเคลื่อนไหวของโรงเรียน Shimizu Commercial High ที่มีไดโกะ โคบายาชิ(ซ้าย)เป็นแกนกลางของทีม ทีมนี้ปั้นดาวเตะทีมชาติญี่ปุ่นหลายคนเลยครับ เดี๋ยวช่วงท้ายจะมีสรุปครับว่าใครเป็นศิษย์เก่าในการแข่งขันอินเตอร์ไฮบ้าง หน้าถัดมา คุณคงเห็นนะครับว่าการซ้อมและเตรียมความพร้อมของทีมระดับโรงเรียนเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วมีความสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:41:44

ความคิดเห็นที่ 32 (34-35)หน้าต่อมา จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:42:42

ความคิดเห็นที่ 33 (36)หน้าถัดมา เป็นการนำเสนอการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพสำหรับผู้หญิง หรือ L-League ครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:43:32

ความคิดเห็นที่ 34 (37)หน้าถัดมา เป็นการสัมภาษณ์นักฟุตบอลและให้ผู้อ่านทางบ้านร่วมสนุกชิงรางวัลครับ เล่มนี้เป็นการพูดคุยกับโนบุยูกิ โคจิม่า นายทวารแมวเก้าชีวิตจากอวิสป้า ฟูกูโอกะ ใครสนใจร่วมสนุก มีลุ้นรับเสื้อยืดพร้อมลายเซ็นด้วยนะเอา จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:44:18

ความคิดเห็นที่ 35 (38)เอาล่ะครับ เวลาที่ทุกคนรอคอยมาถึงแล้ว เราจะเข้าสู่การรีวิวทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันศึกอินเตอร์ไฮครั้งที่79แล้ว แต่ผมจะยกมาเป็นบางกลุ่มตัวอย่างเท่านั้นครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:44:58

ความคิดเห็นที่ 36 (39)ประเดิมด้วยแชมป์เก่าคราวที่แล้วอย่างโรงเรียน Funabashi Municipal “Ichiritsu” High ที่มีเคนตะ นางาอิ (ขวา-คนนี้ไม่มีข้อมูลครับ ไม่รู้ว่าต่อมหาวิทยาลัยแล้วทำงานไปแล้วหรือยัง) และโซตะ นาคาซาว่า (ซ้าย-ใช้เวลานานครับกว่าจะได้เป็นแบ็คขวาตัวจริงในกัมบะ โอซาก้า ถ้าดูศึกสโมสรโลกที่กัมบะ โอซาก้าเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดจะเห็นเจ้าหมอนี่ด้วยครับ) สองคนนี้เป็นสมาชิกที่หลงเหลืออยู่มาถึงปีนี้ครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:45:48

ความคิดเห็นที่ 37 (40)นาโอยะ คิคุจิจาก Shimizu Commercial Highเป็นกองกลางตัวรับที่มีฝีเท้าดีมากครับ พอเรียนจบได้ย้ายมาร่วมทีมจูบิโล่ อิวาตะ และยังติดทีมชาติชุดโอลิมปิคที่เอเธนส์ด้วย แต่หลังจากนั้น คิคุจิดันไปติดตารางจากคดีพรากผู้เยาว์นักเรียนหญิงครับ ถูกจูบิโล่บอกเลิกสัญญา ต้องระหกระเหินเร่ร่อนไปเยอรมนี ก่อนที่จะกลับมาญี่ปุ่นอีกครั้ง ปีที่แล้วได้รับโอกาสถูกเรียกกลับมาติดธงอีกครั้ง ก็ขอให้คิคุจิกลับมาไวๆละกันครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:46:38

ความคิดเห็นที่ 38 (41)มาร์คุส “ตูลิโอ” ลิวจิ มูร์ซานี่ ทานากะเป็นอีกคนที่แจ้งเกิดกับเวทีนี้ครับ เวทีนี้มีตัวบราซิลมาเล่นให้บางโรงเรียนเหมือนกัน ตอนนั้นตูลิโอได้รับข้อเสนอนักเตะอาชีพจากซานเฟรซ ฮิโรชิม่าเรียบร้อยแล้ว แต่หนทางของตูลิโอสุดแสนจะยากลำบากครับ แจ้งเกิดไม่สำเร็จ ต้องย้ายไปร่วมทีมมอนเตดิโอ ยามางาตะในเจ2 และสุดท้ายมาแจ้งเกิดกับอูราวะ เรดส์ได้เป็นผลสำเร็จ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:47:34

ความคิดเห็นที่ 39 (42)อีกหนึ่งคนที่มีฟอร์มการเล่นโดดเด่นในศึกอินเตอร์ไฮครั้งนี้ คือ โยชิโตะ โอคุโบะ ซึ่งปัจจุบันเป็นกองหน้าของวิสเซล โกเบและทีมชาติญี่ปุ่นครับ โอคุโบะและผองเพื่อนจากโรงเรียน Kunimi High จากจังหวัดนางาซากิที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากทรงผมหัวเกรียน (ว่ากันว่านักเตะจากโรงเรียนคุนิมินี่ มีระเบียบวินัยสูงมากและฝึกหนักมาก) สามารถคว้าแชมป์อินเตอร์ไฮครั้งนี้มาครองได้ เรามาดูกันครับว่าทีมนี้มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไรบ้าง จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:48:22

ความคิดเห็นที่ 40 คุนิมิของแท้...ต้องเกรียน จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:49:24

ความคิดเห็นที่ 41 (43-44-45)โรงเรียนคุนิมิผ่านรอบคัดเลือกมาแบบว่า...ถล่มคู่ต่อสู่กระจายครับ จากการคัดเลือกในเขตจังหวัดนางาซากิ รอบแรกได้บาย รอบสองถล่มคู่ต่อสู้ไป 12-0 เรียกว่าซัดมาเรื่อยๆ ขนาดนัดชิงยังถล่มคู่ชิงไป 8-0...ก็ไม่แปลกครับที่จะผูกขาดความยิ่งใหญ่ในเขตนี้ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:50:31

ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อดูจากรายชื่อนักฟุตบอลแล้ว ที่เห็นว่ามีรูปวงกลม สามเหลี่ยม...พวกนี้นี่อดีตทีมชาติชุดเยาวชนทั้งนั้นครับ นักเตะทีมชาติได้ดิบได้ดีเพราะคุนิมินี่เยอะมาก อย่างกรณีของโซตะ ฮิรายาม่า เจ้าหนูมหัศจรรย์ก็ซัดคู่ชิงอินเตอร์ไฮเสียเละเทะในสมัยนั้นครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:51:23

ความคิดเห็นที่ 43 (46)หน้าต่อมา คือ การย้อนอดีตนักเตะทีมชาติแต่ละคนว่า เมื่อย้อนกลับไปสมัยตอนที่ตนเองลงเล่นในศึกอินเตอร์ไฮ พวกเขามีผลงานและหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง ประเดิมด้วยชุนสุเกะ นาคามุระ จอมทัพจากมารินอส กับฮิโรชิ นานามิ เจ้าของตำแหน่งเด็กยกน้ำ (ไม่ใช่แบบกองหน้าผ้าเย็นนะครับ แต่เป็นตัวตัดเกม เชื่อมเกมที่ปิดทองหลังพระครับ) ในทีมจากจูบิโล่ครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:52:21

ความคิดเห็นที่ 44 (47)หน้าต่อมา คือ ตัวแกนหลักในทีมชาติชุดฟุตบอลโลก 2002 จากซ้ายไปขวา ได้แก่ ฮิเดโตชิ นากาตะ จอมทัพห้องเครื่องแห่งโรม่า เห็นละอ่อนอย่างนั้น มีทีมในเจลีกกว่า 13 ทีมรอยื่นสัญญาตั้งแต่สมัยมัธยมนะครับ... คนกลาง คือ เซอิโกะ นาราซากิ นายประตูมือสองจากแกรมปัสที่ได้เสียบแทนคาวางูจิที่ฟอร์มดรอปไปก่อนฟุตบอลโลก2002 (นาราซากิเป็นเจ้าของรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าของเจลีกเมื่อปี2010เป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ แต่คุณเชื่อไหม...ปี 1995สมัยที่นาราซากิเล่นให้โยโกฮาม่า ฟลูเกลส์ ปีนั้นนาราซากิโดนทะลลวงเฉพาะในลีกไป 101 หรือ 111 ประตูนี่แหละ) และสุดท้าย คือ เรียวโซ่ โมริโอกะ สวีปเปอร์จากเอสพัลส์ที่ได้รับความไว้วางใจในแท็คติคแบบกองหลังแถวเรียงสามของฟิลลิป ทรุสซิเยร์ ช่วงนั้น “พ่อมดขาว”นิยมแผนการเล่นแบบแผงหลังหน้ากระดานเรียงสามมากครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:55:14

ความคิดเห็นที่ 45 (48)หน้าถัดมา คือ นาโอกิ มัตซึดะ เซนเตอร์ทีมชาติจากโยโกฮาม่า มารินอส จริงๆประกาศเลิกเล่นไปแล้วนะครับเมื่อปีที่แล้ว แต่ต่อมากลับลำมาเล่นกับทีมในระดับท้องถิ่นเฉยเลย ส่วนด้านขวา คือ โยชิคัตซึ คาวางูจิ สมัยที่เรียนอยู่กับ Shimizu Commercial High ครับ ตอนนี้ยังเล่นอยู่กับจูบิโล่ อิวาตะ ลังจากหายเจ็บกลับมาติดทีมชาติลุยแอฟริกาใต้อย่างงงๆ (โอคาดะต้องการนักเตะที่มีความอาวุโสในทีม และคาวางูจิก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าคณะนักฟุตบอลครับ) จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:56:13

ความคิดเห็นที่ 46 (49)โค้ชตุ๊กยังจำชายในภาพนี้ได้ไหมครับ กองหน้าตัวสำรองที่ลงมาทำลายความหวังของแฟนบอลชาวไทยที่จะได้เห็นทีมปรีโอลิมปิคของตนเองได้ไปโอลิมปิคที่ซิดนีย์...เขาคือ โทโมยูกิ ฮิราเซะ กองหน้าดาวรุ่งจากคาชิม่า แอนท์เลอร์สครับ นัดนั้นฮิราเซะคือตัวโจกเกอร์ที่ทำให้ญี่ปุ่นเอาชนะไทยไปได้ 3-1 ที่โตเกียว น่าเสียดายที่ฮิราเซะยืนระยะได้ไม่นาน หลังจากนั้น ร่อนเร่พเนจรไปหลายทีมมาก กระทั่ง ฮิราเซะประกาศเลิกเล่นกับเวกัลตะ เซนไดไปเมื่อปีที่แล้วเองครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:56:59

ความคิดเห็นที่ 47 (50)ตรงกันข้ามกับกองกลางตัวรุกและเพื่อนร่วมทีมชุดซิดนีย์2000 อย่างมาซาชิ โมโตยาม่าที่ยังเป็นแกนหลักของคาชิม่า แอนท์เลอร์ส โมโตยาม่าเป็นกลางรุกที่เซนส์บอลและเทคนิคดีมากครับ ในอดีตเคยมีข่าวว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเชิญมาทดสอบฝีเท้าด้วยนะครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 02:58:00

ความคิดเห็นที่ 48 การรีวิวนิตยสารฟุตบอลญี่ปุ่นตอนที่ 1 ขอจบลงเพียงเท่านี้ก่อละกันครับ จริงๆนี่ยังไม่ถึงครึ่งเล่มด้วยซ้ำ แต่ต้องพอก่อน ราวๆวันอาทิตย์เดี๋ยวผมจะกลับมานั่งรีไซส์ภาพให้หมดก่อน ทิ้งทวนด้วยภาพแห่งความทรงจำ... ที่คอยย้ำเตือนไม่ให้ลืม... ว่าเธอไปเอาใครมาทำร้ายจิตใจชั้น เอ...ทำไมทีมนี้ต้องมีผู้จัดการทีมสองคนล่ะเนี่ย... ล้อเล่นนะครับ ท่านกัปตันมาร์เวลล์ (แคปคอม) จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:09:29

ความคิดเห็นที่ 49 สมัยนั่งดูเจลีกทางช่อง 9 มีกองหน้าที่ตามดูคือ ฟุกุดะ ของเรดส์ เนี่ยหละครับ หลังจากนั้นผมก็ตามดูโมริชิมะ ของเซเรโซ แทน ตอนเล่นเกม J-League Tsukuro2 ของเครื่องแซทเทิร์น มีตัว J-Leaguer ที่ต้องเอามาใส่ทีมให้ได้อยู่หลายตัว แต่หลักๆ เลยก็มี อิฮาระ นากาตะ โมริชิมะ แล้วก็ นากายามะ พูดถึงพวกนักเตะกระดูกยุง คนนึงเลยที่เด่นๆ คือ โอคุโระ ของ 8 เป็นนักเตะในคาถาของเวนเกอร์เลย ฟอร์มดีด้วย ติดทีมโอลิมปิกส์ชุดเดียวกับนากาตะ เสียแต่เจ็บง่าย และบ่อยมาก ตอนคัดบอลโลกก็ไปเดี้ยงตอนเพลย์ออฟ จนกอนซังติดไปแทน เรียกว่าเป็นนักเตะฝีเท้าดี แต่ไม่มีวาสนาคนนึงเลยครับ เหมือนฮิราเสะ เผลอๆ จะแย่กว่าด้วยซ้ำไป จากคุณ : Ace striker เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:18:23

ความคิดเห็นที่ 50 ขอชื่นชมจขกท.ครับ กูรูฟุตบอลญี่ปุ่น ณ เมืองไทยได้เกิดขึ้นแล้ว :) ตอนเด็กๆเคยไปญี่ปุ่นจำได้ว่าเจอหนังสือเหมือนเป็น season preview ของเจลีก อ่านไม่ออกหรอ แต่รูปเล่มสวย ข้อมูลสถิติปึ้ก ตอนนั้นอยากได้มากแต่พ่อแม่ไม่ซื้อให้ เริ่มติดตามช่วงเจลีกตั้งไข่เหมือนกัน ที่มีพวกลินิเกอร์, จอจินโญ่, สตอยคอฟ, สตอยโควิชไปเล่นให้ ดู HL ที่ช่อง 9 เอามาฉาย ทีมที่ผมเชียร์ยุคนั้นก็มีพวกซาวาโนโบริ, อิโตะ, อเล็กซ์, โตนินโญ่ พวกนั้น ได้อ่านที่คุณ MoMo says โพสต์ในทู้นี้และทู้ก่อนหน้าแล้วก็ทำให้นึกถึงเพื่อนผมคนนึงที่ไปเรียนอยู่ญี่ปุ่นเกือบ 10 ปี แต่ดันไม่รู้อะไรเดี่ยวกับเจลีกเลย เพราะมันดูแต่แมนฯยูฯ -___-" เสียข้าวสุกญี่ปุ่นจริงๆ ของดีมีอยู่ใกล้ตัว ดันดูแต่แมนฯยูฯซะงั้น เหมือนกับอีกหลายๆคนที่ได้โอกาสไปเรียนที่ฮอลแลนด์, เยอรมัน, ฝรั่งเศส แต่ดันไม่เคยเข้าสนามไปดูเลย ดูแต่บอลอังกฤษหน้าจอ จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:28:59

ความคิดเห็นที่ 51 ขอบคุณมากเลยครับ สมัยนั้นชอบ ฟุคุดะ ของเร้ดส์ไดมอนด์เหมือนกันครับ ชอบเพราะการ์ตูน J-Dream  กับเล่นเกมส์ j-League Excite stage ทั้ง 3 ภาคอยู่เลย จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:33:57

ความคิดเห็นที่ 52 เห็นด้วยกับคุณนักมายากลแห่งรัสเซียครับ กูรูฟุตบอลญี่ปุ่น ณ เมืองไทยจริงๆ ตามมาจากกระทู้ก่อนด้วยครับ ทู้นี้ขออ่านเป็นความรู้อย่างเดียวละกันครับ เพราะไม่ทราบอะไรเกี่ยวกับเจลีคเลย>< แต่ชอบทีมชาติญี่ปุ่นมาก ขอบคุณคุณMoMo saysสำหรับข้อมูลคุณภาพครับ ^^  จากคุณ : "ตื่นมาก็คิดถึง" เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:38:54

ความคิดเห็นที่ 53 ตัวผู้เ่ล่นเวลาเ่ล่นเกม เจลีก นี่ผมมี Best11 ส่วนตัวไว้เสมอครับ                                    โคจิมะ (เบลมาเระ) จอร์จินโญ่ (แอทเลอส์)    อิฮาระ (มารินอส)   บุกวัลด์ (เรดส์) เอนโดะ (จูบิโล) ยาโนะ (ตัวออริจินัลในเกม) นากาตะ (เบลมาเระ) โมริยาสึ (ซานเฟรช) โมริชิมะ (เซเรโซ)                              คาวาโมโตะ (ออริจินัล) (ตัวผมสร้างเอง) มาชุดนี้ตลอดครับ เป็นดรีมทีมส่วนตัวด้วย แต่ก็แพ้พี่ที่เล่นด้วยกันตลอดเวลาเซฟเกมมาแข่งกัน จากคุณ : Ace striker เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:42:07

ความคิดเห็นที่ 54 คารวะเลยครับ ได้เจอกูรูฟุตบอลญี่ปุ่น (น่าจะกูรูฟุตบอลเอเชียด้วย) เพราะ ผมมีนักฟุตบอลญี่ปุ่นเป็นไอดอลหลายคนเลยครับ ตั้งแต่นากาตะเลยล่ะ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเชิงลึกขนาดนี้ อยากให้นำเสนอกระทู้เยี่ยมๆเช่นนี้อีกเรื่อยๆครับ อ้อ โหวต+กิ๊ฟ เรียบร้อยครับ จากคุณ : LL cool P เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 03:50:15

ความคิดเห็นที่ 55 เมื่อก่อนเคยมีอนิเมะอยู่เรื่องนึงฉายทาง IBC หรือ UBC เนี่ยแหละ รู้สึกว่าพระเอกจะเป็นนักเตะเยาวชนของเอสพัลส์ หรือไงเนี่ยแหละครับ เรื่องถ้าจำไม่ผิดจะโฟกัสไปที่เอสพัลส์กับจูบิโล่เป็นหลัก มีใครพอจะนึกออกบ้างว่าชื่อเรื่องอะไร? จากคุณ : นักมายากลแห่งรัสเซีย เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 04:03:31

ความคิดเห็นที่ 56 นี่แหล่ะ คู่ควรกับคำว่า "กระทู้แนะนำห้องศุภชลาศัย" อย่างแท้จริง เยี่ยมมากครับ จากคุณ : จอมโจรกัสเนอร์ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 04:35:50

ความคิดเห็นที่ 57 เยี่ยมมากครับ...เพิ่งเคยเห็นสถิตหลังเกมที่ละเอียดยิบขนาดนี้เหมือนกัน...ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมญี่ปุ่นถึงเจริญได้ขนาดนี้... จากคุณ : littleFin เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 05:07:21

ความคิดเห็นที่ 58 ดีนะครับ มี formation มี pattern ให้ดูด้วย จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 05:13:39

ความคิดเห็นที่ 59 ไทยเราต้องใช้เวลากี่ปี จึงจะตามทันฟุตบอลญี่ปุ่นเมื่อสิบปีที่แล้วได้ จากคุณ : Ni-MH เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 06:13:09

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณ คุณ Momo มากครับ เป็นกระทู้ที่ยอดเยี่ยมมาก เวลาคนเราชอบอะไร สนใจอะไรนี่ มันหลงหัวปักหัวปำจริงๆครับ ผมไม่คิดว่าจะมีใครรักฟุตบอลเจลีก ได้ขนาดนี้เลย เห็นแล้วตื่นเต้นจิงๆ ประเทศ ของเรา มันมีอะไรที่เหนือความคาดหมาย และเป็นไปได้จิงๆ ยอดเยี่ยมครับ จากคุณ : cantonot's kitroom (Astro Boy Blue) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 06:18:32

ความคิดเห็นที่ 61 สุดยอดดด อ่านแล้วคิดถึง ฮิราเซะ กะ โมโตยามะ     ในwinning j-leauge เป็นนักเตะคู่บุญ ข้าพเจ้า จากคุณ : 1 (huthut) เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 07:24:53

ความคิดเห็นที่ 62 ยอดเยี่ยมจริงๆครับ นับถือเจ้าของกระทู้จริงๆ ญี่ปุ่นนี่เขาตามข่าวฟุตบอล ม.ปลายละเอียดขนาดนี้ตั้งเเต่สมัยนั้นเเล้วเรอะ จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 08:41:53

ความคิดเห็นที่ 63 นิตยสารกว่า 10 ปีที่แล้วของเขา ยังเหนือชั้นกว่าปัจจุบันของเราอยู่โขเลย วิเคราะห์เจาะลึก  รายละเอียด ข้อมูลแน่นสุดๆ หันมาดูนิตยสารบ้านเรา  เหมือนเป็นที่ระบายอารมณ์ส่วนตัวของคอลัมนิสต์ซะมากกว่า จากคุณ : Fenix_Strike เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 08:51:44

ความคิดเห็นที่ 64 หนังสือบ้านเค้านี่วิจารณ์ แบบวิเคราห์ให้ข้อมูลคนซื้อแบบสุดๆ ทำให้คนอ่านหรือแม้แต่สโมสรต่างๆที่ซื้อไปได้ข้อมูลนำไปปรับปรุงทีมปรับปรุงนักเตะ บ้านเราเป็นที่ระบายอารมณ์ไม่พอ แถมลงข่าวเท็จอวยกันเองกับสมาคม ให้อ่านฟรียังเสียเวลาเลย จากคุณ : lek2you เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 09:32:19

ความคิดเห็นที่ 65 ผมก็เชียร์ทีมชาติญี่ปุ่นเหมือนกันครับ เชียร์มาตั้งแต่เสื้อลายไฟปี 98 มีนานามิเป็นไอดอล ถนัดซ้ายเหมือนกันด้วย ถ้าไม่นับนากาตะจะเห็นว่ามิดฟิลด์ที่เป็นจอมทัพหลักของทีมจะถนัดซ้ายกันหมดเลย ไม่ว่าจะนานามิ นากามูระ หรือในยุคนี้อย่างฮอนดะที่แม้จะถูกดันไปยืนเป็นกองหน้าแล้วแต่ผมก็ยังเห็นเป็นจอมทัพอยู่ดี แต่อย่างโอโนะนี่ผมมองเป็นตัวสำคัญในทีมคนนึง แต่ไม่ได้มองว่าเป็นหัวใจของทีมเลย นักเตะที่ผมเคยเชียร์ให้ยึดตัวจริงถาวรในทีมชาติยุคพวกเขาแต่ก็ไม่สำเร็จคือทาคายูกิ ซูซูกิกับจุนอิจิ อินาโมโตะ โดยคนหลังนี่เกมที่ดีที่สุดของเขาน่าจะเป็นเกมเจอกับเบลเยี่ยมในฟุตบอลโลกที 2002 ละมั้ง ถ้าให้พูดถึงเกมนั้นจะว่าเป็นการดวลกันระหว่างอินาโมโตะกับมาร์ค วิลม๊อตก็ไม่ผิดนัก 2 คนนี้โดดเด่นจริงๆ จากคุณ : vagakung เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 10:21:52

ความคิดเห็นที่ 66 ถ้านิตยสาร/หนังสือพิมพ์ฟุตบอลไทยทำแบบญี่ปุ่น จะขายออกหรือเปล่า ? จากคุณ : Fenix_Strike เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 11:33:25

ความคิดเห็นที่ 67 หนังสือบ้านเค้านี่วิจารณ์ แบบวิเคราห์ให้ข้อมูลคนซื้อแบบสุดๆ ทำให้คนอ่านหรือแม้แต่สโมสรต่างๆที่ซื้อไปได้ข้อมูลนำไปปรับปรุงทีมปรับปรุงนักเตะ บ้านเราเป็นที่ระบายอารมณ์ไม่พอ แถมลงข่าวเท็จอวยกันเองกับสมาคม ให้อ่านฟรียังเสียเวลาเลย -เเถมยิ่งกว้านั้น ยังมีพวกเขียนเรื่องตัวเองไปเที่ยวนั้นนี่ กินอาหารร้านโน้นนี้มาลงอีกต่างหาก เฮ้อ จากคุณ : ไล่ฮก เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 13:03:24

ความคิดเห็นที่ 68 สงสัยญี่ปุ่นเป็นเมืองพุทธที่จริยธรรมสูงส่ง..  ไม่มีการลงอัตราต่อรองเพื่อส่งเสริมการพนัน.. จากคุณ : ก็แค่ผู้ชายที่เชื่อในความฝัน เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 14:38:50

ความคิดเห็นที่ 69 สุดยอดมากครับ จากคุณ : Archdemon เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 21:01:36

ความคิดเห็นที่ 70 บอลโลก ก็เชียร์ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เล่นดีทั้งสองทีม แต่ดู ญี่ปุ่นจะมีเทคนิค และความสามารถเฉพาะตัวดีกว่าเกาหลี เกาหลีจะได้เรื่องความฟิต ความแข็งแกร่ง มากกว่า สองทีมนี้ สู้กับพวกทีมระดับ top 10 ของโลกสบายๆ ตอนนี้ Last Updated 13 Apr 2011 ญี่ปุ่นอันดับ 13 เกาหลีอันดับ 31 ห่างกันพอสมควร (พี่ไทยอันดับ 120) จากคุณ : pink panty เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 21:26:09

ความคิดเห็นที่ 71 คห.46 ผมไม่แน่ใจว่า ทีมไทยที่พบญี่ปุ่นในนัดนั้น คนคุมทีใช้ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน หรือเปล่านะครับ เพราะโค๊ชตุ๊กน่าจะโดนปลดไปก่อนหน้านั้น แล้วเอาโค๊ชอีกคนขึ้นคุมทีมเองหรือเปล่านะครับ เพราะผมจำได้ว่า โค๊ซตุ๊ก คุมปรีโอลิมปิคทีมแรกของไทยที่ไม่ได้โกงอายุ แต่ได้คุมแค่ 2 นัด เหย้าเยือนกับ "อินเดีย" เท่านั้น กองหน้ายังใช้ บำรุง กะ สุธี เป็นตัวจริง พอเปลี่ยนโค๊ช (แบบไม่มีสาเหตุในหนังสือพิมพ์) กองหน้า ก็กลายเป็น จตุพงษ์ ทองสุข กับ อิศเรศ ปาลา ส่วน สุธี ไปเป็นสำรอง บำรุง หายไปเลยยยย..... แต่จำได้ว่านักเตะที่แจ้งเกิดในชุดนั้น ก็คือ นิรุตต์ สุระเสียง... จากคุณ : สุมาโจจี้ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 21:52:56

ความคิดเห็นที่ 72 นักเตะที่เก่งของญี่ปุ่นเค้ามีสถิติวัด ไม่ได้เหมือนเมืองไทยที่เอาความรู้สึกวัด จากคุณ : Certain_Shade_of_Green เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 54 23:32:43

ความคิดเห็นที่ 73 เป็นกระทู้ฟุตบอลจริงๆ เน้นๆ จากคุณ : pisutkasin เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 54 10:29:55

ความคิดเห็นที่ 74 เห็นแล้วเศร้า ขนาด 10 กว่าปีก่อน ญี่ปุ่นยังทำได้ดีขนาดนี้ ไม่ทราบว่า พวกสมาคม H่A ทั้งหลาย เสียเงินไปดูงานต่างประเทศแล้วได้อะไรมาบ้างมิทราบ สิ่งที่ผมเห็นหลัก ๆ ก็คือ 1. ญี่ปุ่นให้ความสำคัญตั้งแต่เยาวชน ซึ่งเรายังทำได้ไม่ดีเลย 2. ข้อมูลจากวิเคราะห์อย่างเป็นมืออาชีพ อย่างที่หลายคนว่าไว้ว่านิตยสารบอลไทยเป็นได้แค่ที่ระบายอารมณ์ ไม่ได้วิเคราะห์เอาข้อมูลพวกนี้มาให้เห็น จากคุณ : Mun Thow เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 54 14:49:49

ความคิดเห็นที่ 75 บอกได้ว่า "คิดถึง" เจลีกนี่โตมาพร้อมๆ กับผมเลย ตอนปี 199X ที่เริ่มก่อตั้งเจลีก จำได้ตอนแรกมี 12 ทีมและค่อยๆ เพิ่ม จนได้มีโอกาสเล่น j leauge manager เกมส์นึง ค่อนข้างน่าเบื่อเพราะช้าพอควร แต่ทนเล่นจนได้แชมป์ต่างๆ ฝังใจจนต้องหารอมมาเล่น ตัวหลักๆ นี่ต้อง คาวากูจิ อิฮาร่า นิชิคาว่า(เจฟยูไนเตด)  คาโต้(แกรมปัส) โมริชิม่า มาเอโซโนะ โอคาโน่(เรดไดมอน) โคกุระ(แกรมปัส) ยุคนั้นยังมีกีโด้ บุควัลด์ ดุงก้า สกิลลาชี่ มาซซาโร่ ซารีนาส หรือจอร์จินโย่กับ ซามไปโย่ที่เป็นขุนพลชุดแชมป์โลกของบราซิล เลโอนาโด้ ที่ปัจจุบันเป็นกุนซืออินเตอร์ หรือ สตอยโควิชของแกรมปัส มีแพรตทริก เอ็มโบม่าด้วย หมอนี่เก่งที่สุดในบรรดากองหน้าเท่าที่เคยดูเจลีกเลย ยังมีกาเรก้าที่เคยร่วมทีม นาโปลีกับมาราโดน่าด้วย มีอีกเยอะ ต้องบอกว่าเจลีกดูดนักเตะเก่งๆ มาไว้เยอะมากๆรวมถึงโค้ชมือทองอย่างเวนเกอร์ก็เคยผ่านเจลีกมาก่อน สำหรับท่านที่ ยังมีเกมส์เจลีกเมเนเจอร์อยู่มาแบ่งกันเล่นบ้างก็ได้นะครับ ผมจำนักเตะได้หมดว่าตัวไหนเก่งไม่เก่งยังไง จากคุณ : PYK-S เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 54 16:40:14

ความคิดเห็นที่ 76 ครั้งหนึ่งสมัยที่ยังนั่งดูบอลข่าวลีกญี่ปุ่นได้... ผมตามดูข่าวของ อุราวะ เรด ประจำครับ ... เพราะติดใจ ชินจิ โอโนะ มาก.. แต่หมอนี่รู้สึก ชะตาชีวิตจะคล้าย ๆ โจ โคล.. น่าสงสารนิด ๆ แฮะ จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 54 20:49:03

ความคิดเห็นที่ 77 คุณกิ่งครับ อย่างน้อย ชินจิ โอโนะก็ประสบความสำเร็จกับเฟเยนูดนะครับ ได้แชมป์ยูฟ่าคัพ โดยส่วนตัวผมว่า โจ โคล อาภัพกว่าเยอะ จากคุณ : Ace striker เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 11:24:57

ความคิดเห็นที่ 78 ขอบคุณมากครับสำหรับโหวตและกิฟท์ ผมเพิ่งกลับมาจากอ่างศิลา เดี๋ยวจะลงเพิ่มในส่วนของทีมชาติและคอลัมน์บอลต่างประเทศที่มีอยู่ในเล่มนั้นครับ อยากให้ลองดูแล้วพิเคราะห์หาความแตกต่างระหว่างนิตยสารบ้านเรากับบ้านเค้าดู Rep.49 - นักเตะคนนั้นที่คุณหมายถึง ผมคิดว่าน่าจะเป็นทาคาฟูมิ โอกูร่า (Takafumi Ogura) ครับ ลองหาชื่อคันจิของโอกูร่าแล้วหาคลิปในยูทูบเลยครับ ลีลาใช้ได้ทีเดียว ขนาดแฟนบอลยังคอมเมนต์เลยว่าฝีเท้าโอกูร่าดีมาก และอินาโมโตะอาจไม่ใช่คนแรกที่ไปเล่นในอังกฤษด้วยครับ Rep.68 - จริงๆที่ญี่ปุ่นมีการเล่นโตโต้นะครับ แต่ไม่เน้นเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนบ้านเรา คือ มีแค่ตางราง อัตราต่อรอง เท่านั้นเอง ไม่มีสถิติหรือการวิเคราะห์แบบลึกมาๆแบบบ้านเรา Rep.71- ชุดปรีโอลิมปิคชุดนั้นอยู่ในความทรงจำที่เลือนลางมากครับ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นช่วงที่มีข่าวว่าโค้ชตุ๊กเป็นเฮดโค้ช แล้วขอให้ปีเตอร์วิธมาเป็นผู้ช่วยหรือเปล่า ใครพอจะจำเหตุการณ์ช่วงนี้ได้บ้างครับ อ้อ...ช่วงนั้นมีข่าวลือว่าเวอร์ดี้ คาวาซากิสนใจในตัวนิรุตต์ด้วยนะครับ ตอนนั้นนิรุตติ์เด่นจริงๆครับ จากคุณ : MoMo says เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 18:11:52

ความคิดเห็นที่ 79 จขกท.นี่เป็นกูรูฟุตบอลญี่ปุ่นของแท้เลยครับ สงสัยตอนเล่นวินนิ่งสมัยก่อนคงเล่นแต่วินนิ่ง J.League เป็นแน่แท้!! ส่วนเรื่องของ คห.71 น่าจะคล้ายกับที่คุณ MoMo ตอบ คือประมาณให้ปีเตอร์ วิธ เป็นคล้ายๆกลับที่ปรึกษา แต่ในทางปฏิบัติก็คงปีเตอร์ ที่ควบคุมทุกอย่าง นิรุตต์ นั้นเด่นมาตั้งแต่ชุด U-19 ในตำแหน่งของสวีปเปอร์ในชุดนั้น แล้วก็เล่นได้ดีมาเรื่อยจนขึ้นชุดใหญ่ในตำแหน่งแบ็กขวา แล้วพอแกเจ็บยาว ผลงานแกก็เลยดร็อปลง จากคุณ : ToyZHardy เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 22:13:02