Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TIA Column : Drama กว่านี้มีอีกมั้ย ติดต่อทีมงาน

บางทีเกมระหว่างลิเวอร์พูลกับอาร์เซน่อลอาจจะเกิดขึ้นแบบนี้เสมอๆ ไม่ใช่ด้วยความเป็นปฏิปักษ์กันอย่างรุนแรงแบบลิเวอร์พูลกับแมนยู แต่หลายครั้งเหลือเกินที่เกมระหว่างหงส์แดงกับปืนใหญ่เป็นเกมชี้ชะตาอะไรบางอย่าง หรือส่งผลต่อทีมทั้งสองทีม รวมทั้งทีมที่สามที่อาจมีผลประโยชน์ร่วมด้วยจากผลแพ้ ชนะ หรือเสมอของทีมใดทีมหนึ่ง

ฤดูกาล 2007-2008 ลิเวอร์พูลต้องเล่นกับอาร์เซน่อล 3 นักซ้อน ในแชมเปี้ยนลีกและพรีเมียร์ลีก ซึ่งนัดสุดท้ายที่พบกันซึ่งเป็นรายการแชมเปี้ยนลีกที่แอนฟิลด์นั่นเอง ที่เกิดเกมดราม่าไม่แพ้เกมนี้ จากผลนัดแรกที่เสมอกัน 1-1 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม กลับมาที่แอนฟิลด์ อาร์เซน่อลยิงนำได้ไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม แต่แล้วลิเวอร์พูลก็มาทำได้ 2 ประตู จนได้ เวลาอีกเพียงแต่ 6 นาที เท่านั้นลิเวอร์พูลจะได้ผ่านเข้ารอบ แต่วัลคอตฉกบอลที่เจอร์ราร์ดหวดวืด ลากจากหน้าปากประตูอาร์เซน่อลไปจนเกือบสุดเส้นหลังในเขตโทษลิเวอร์พูล แล้วปาดให้อเดบายอร์ยิงผ่านเรน่าเข้าไป ...สาบานว่าไม่มีวันที่เราจะลืมช๊อตนั้นได้เลยจริงๆ จากที่กำลังจะเข้ารอบ เปลี่ยนเป็นกำลังจะตกรอบแทน ไม่อยากเชื่อ แต่มันไม่เป็นแบบนั้น เพราะเพียงแค่นาทีเดียวถัดจากนั้น หลังลิเวอร์พูลเขี่ยลูกเล่นใหม่ที่กลางสนาม บาเบลลากเข้าเขตโทษและโดนตูเร่ทำฟาล์ว ...ลิเวอร์พูลได้จุดโทษ มีหรือที่เจอร์ราร์ดจะยอมพลาด หลังจากเล่นไม่ดีมาทั้งเกม

บรรยายอารมณ์ไม่ถูกจริงๆ รู้แต่ว่า จบเกมแล้วหลับไม่ลง

ฤดูกาล 2008-2009 ลิเวอร์พูลกำลังไล่ตามแมนยูเพื่อลุ้นแชมป์ โอกาสนั้นริบหรี่เหลือเกิน เพราะถูกนำอยู่แถมยังแข่งมากกว่าอีก 1 นัด อาร์เซน่อลมาเยือนแอนฟิลด์ และหากลิเวอร์พูลต้องการมีลุ้นต่อไปต้องชนะให้ได้ เกมนั้นลิเวอร์พูลทำทุกอย่างในเกมรุกดีหมด แต่เกมรับพลาด 4 ครั้งเป็น 4 ประตู ซึ่งเป็นโอกาสยิงตรงกรอบที่อาร์เซน่อลทำได้ในเกมนั้น และเป็นอาร์ชาวินคนเดียว เกมนั้นจบลงที่ผลเสมอ 4-4 โดยที่ลิเวอร์พูลไล่ยิงประตูตีเสมอได้ในนาทีสุดท้าย จบเกม The kop ร้องเพลง YNWA ลั่นแอนฟิลด์ ...ขอบคุณในความทุ่มเทของนักเตะ แม้จะเจ็บปวด แต่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ

สาธยายมาตั้งนาน คิดกันมั้ยคะว่า เกมนี้มันคล้ายๆแบบนั้นเลย มันดราม่าและมีผลต่อทั้งสองทีม ซึ่งจะว่าไปแล้ว ไม่ใช่ผลดีของเลย ลิเวอร์พูลอาจชวดบอลยุโรปและต้องทนดูแมนยูเป็นแชมป์สมัยที่ 19 ในขณะที่อาร์เซน่อลชวดโอกาสกดดันแมนยูเพื่อลุ้นแชมป์ ...แฟนหงส์หลายคนอาจจะอยากยอมแพ้ อาจรู้สึกทนไม่ได้ที่จะเห็นแมนยูได้แชมป์ลีกแซงหน้า แต่ถามจริง ...คุณทนได้หรือที่จะต้องแพ้ โดยที่ถูกตราหน้าว่า "ไร้ศักดิ์ศรี"

เราคนหนึ่งล่ะ ที่ทนไม่ได้ ...เราภาคภูมิใจในความเป็นลิเวอร์พูลเสมอมา และมีศรัทธาว่า ทีมรักของเราไม่มีวันทำสิ่งที่ไร้ศักดิ์ศรีเช่นนั้น อีกประการหนึ่ง ขอพูดตามตรง (แฟนปืนอย่าโกรธกันนะคะ) เราไม่เชื่อน้ำยาอาร์เซน่อลจริงๆว่าจะแซงแมนยูได้ ไม่เชื่อ ไม่ศรัทธามาตั้งแต่ปืนใหญ่เสมอนิวคาสเซิล 4-4 ทั้งๆที่นำก่อนตั้ง 4-0 ไม่เชื่อจริงๆ ส่วนที่มีคนยังคงยกจังหวะเจอร์ราร์ดจ่ายพลาดให้ดร๊อกบาฉกไปยิงประตูทำให้เชลซีเป็นแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วว่ากัปตันของเราตั้งใจ อยากให้ไปหาดูนัดที่หงส์แพ้กุหลาบไฟ 3-1 ในฤดูกาลนี้ซึ่งเป็นนัดสุดท้ายของรอย ฮอดจ์สันดูก่อนค่อยตัดสิน อาจไม่เกี่ยวกัน แต่อยากให้รู้ว่า ถ้าจะตั้งใจพลาด พลาดจุดโทษนัดนั้นชัดเจนกว่ากันเยอะ และถ้าเจอร์ราร์ดตั้งใจพลาดจุดโทษจริงๆ คงไม่ต้องบอกกระมังว่าทำไมถึงตั้งใจ

คิดว่าพล่ามถึงเรื่องในอดีตนานเกินไปเสียแล้ว กลับมาพูดถึงเกมนี้บ้างดีกว่า นัดนี้ เคนนี่ส่งชุดเดิมที่เอาชนะแมนซิลงโดยไม่เปลี่ยนซักตำแหน่ง แถมเปิดเกมมาดูดีเสียด้วย แต่เล่นไปก็เหมือนค่อยๆถอยร่นลงไปตั้งรับลึกขึ้นๆจนหวั่นใจจริงๆว่าจะโดนเข้าซักลูก แถมยังไม่พ้น 20 นาที ออเรลิโอ้ก็เจ็บยังกับนัดพยาบาลที่แอนฟิลด์ไว้ ที่สุดแล้ว แจ็ค โรบินสัน เด็กอคาเดมี่อายุ 17 ปีต้องลงมาแทน สรุป แบ็คสองข้างอายุรวมกัน 35 ปี ดาวรุ่งทั้งคู่ ไม่เสียวยังไงไหว แถมมิดฟิลด์คู่กลางเราก็กลายเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคู่ แทบจะไม่ได้เปิดบอลดีๆกับเขาเลย ต้องวิ่งหัวซุกหัวซุนไล่ตัดบอล แถมยังตัดไม่ขาดซะอีก ตัดจากเท้าเอบูเอ้ บอลก็ไปเข้าเท้าเชสก์ ตัดจากเท้าเชสก์ บอลไปเข้าเท้าวิลเชียร์ และพอตัดกลับมาครองบอลได้ ก็เปิดเสียจ่ายเสียกันซะอีก แต่แปลก สถิตยิงตรงกรอบในครึ่งแรก อาร์เซน่อล 2 ครั้ง ลิเวอร์พูล 1 ครั้ง ครองบอลต่างกันฟ้ากับเหว ก็พอทนน่า

ครึ่งหลัง เกมลิเวอร์พูลดูดีขึ้น เริ่มเก็บจังหวะสองได้มากขึ้น ต่อบอลกันดีขึ้น แต่แคร์โคลล์เกิดมาเจ็บจากจังหวะแย่งบอลในกรอบเขตโทษ เหมือนหลักไม่ดีข้อเท้าพลิกน่ากลัวมาก เห็นภาพช้านึกว่าต้องปิดเทอมเสียแล้ว แต่หลังจากออกไปปฐมพยาบาลก็โขยกเขยกกลับมาได้ แม้จะดูฝืนๆก็ตาม

นาทีที่ 50 กว่าๆนี่สิ คาร์ราเกอร์กับฟลานาแกนล่อกันเองซะแล้ว จังหวะขึ้นโหม่งที่เทคตัวคนละจังหวะ ทำให้คาร์ร่าเจอหัวหลานรักเสยคางไปเต็มๆ เล่นเอาลงไปนอนแน่นิ่งทีเดียว ตกใจกันไปทั้งสนาม เกมหยุดไปนาน เจ้าหน้าที่แพทย์สนามกรูลงไปบล๊อคหัวคาร์ร่าไว้ก่อนป้องกันการกระทบกระเทือน ดูแล้วน่ากลัวจริงๆ เคนนี่ต้องถูกบังคับเปลี่ยนตัวเป็นคนที่สอง เอาคีร์เกียกรอสลงมาแทน เล่นไปซักพัก แคร์โคลล์ดูท่าจะไม่ไหว เราต้องถูกบังคับเปลี่ยนเป็นคนที่สาม เอาเชลวี่ลงมาแทนแคร์โรลล์ และโยกเดิร์ก เค้าท์ไปค้ำเป็นกองหน้าคู่ซัวเรซ

เล่นกันจนหมดเวลาปกติก็ยังทำอะไรกันไปได้ รูปเกมก็คล้ายๆครึ่งแรก ที่ปืนใหญ่ขึงพรืดอยู่หน้าประตูหงส์แดง เราได้สวนเป็นพักๆ แต่จังหวะจบสกอร์ยังไม่ดีพอ หรือบางทีก็ไปไม่ถึงจังหวะจบสกอร์ด้วยซ้ำ ทดเวลา 8 นาที กำลังจะหมด เชสก์ลากเขตเขตโทษ สเปียริ่งตามไปสกัดบอลจากด้านหลัง ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที แล้ว RVP ก็ยิงเข้าไป สำหรับแฟนหงส์แดงน่ะคงเฉยๆ แม้จะเซ็งที่ต้องเสียประตูท้ายเกม แต่จากที่โดนขึงพรืดมาตั้งนานก็ยอมรับว่ามันต้องโดนเข้าบ้างแน่ๆ แต่มันไม่จบแค่นั้นน่ะสิ นาทีถัดมา ลูคัสโดนทำฟาล์วหน้าเขตโทษ แถมโดนใบเหลืองอีกโทษฐานไปล้มในเขต ได้แค่ฟรีคิกนอกเขต นาทีนั้นในใจคิดว่านี่โอกาสสุดท้ายแล้ว เพราะมันเลยเวาทดเจ็บไปแล้วด้วย ซัวเรซตั้งใจปั้นให้ข้ามกำแพง แต่ยังติด ลูคัสตามไปเก็บ แล้วเอบูเอ้เกิดนึกอะไรก็ไม่ทราบได้ไปผลักลูคัสล้มลงในเขตโทษ จากที่กำลังจะเป่านกหวีดหมดเวลา กรรมการต้องเป่าเป็นจุดโทษให้ลิเวอร์พูลแทน

โหยยยย ไม่ยากจะสารภาพ แต่ไหนๆก็ไหนๆล่ะ สารภาพตรงนี้เลยก็ได้ ...ลูคัส โคตรรักเอ็งเลยว่ะ

และแล้วเดิร์ก เค้าท์ก็ยิงจุดโทษตีเสมอให้ลิเวอร์พูลจนได้

อันที่จริงก็น่าเห็นใจอาร์เซน่อลนะ แต่พอดูสถิตท้ายเกม เรากลับรู้สึกภาคภูมิใจในทีมตัวเองมากกว่า เพราะครึ่งหลัง อาร์เซน่อลยิงเข้ากรอบ 6 ครั้ง ของเรา 5 ครั้ง แม้จะเห็นได้ชัดว่า การครองบอลต่างกันมาก และพื้นที่ของการเล่นเทมาที่แดนเรามากเหลือเกิน แต่จังหวะ โอกาสที่จะได้ประตูแทบไม่ต่างกันมากมายเลย แถมเรายังมีแบ็ค 2 ข้างที่อายุรวมกันมากกว่าคาร์ราเกอร์แค่ปีเดียว คู่กลางเป็นลูคัสกับสเปียริ่งที่สู้ไม่ถอย กัดไม่ปล่อยทุกจังหวะ แถมยังถูกบังคับเปลี่ยนตัวเพราะนักเตะบาดเจ็บทั้งสามคน ทำได้ขนาดนี้ เกินกว่าจะตำหนิใครได้แล้วจริงๆ

แน่นอนว่าทีมยังขาดอีกมาก ยังมีข้อบกพร่องอีกเยอะ แต่อย่าได้คิดถึงสิ่งที่เรายังทำไม่ได้ อย่าได้คิดถึงสิ่งที่เราไม่มี (เช่น ปีกพริ้วๆ หรือกองกลางที่ทำเกมได้ดีกว่านี้) เพราะในเวลานี้ เรามีนักเตะอยู่เท่านี้ที่ดีที่สุดเท่าที่เคนนี่จะจัดทีมได้ ดังนั้นจงภูมิใจในหัวใจสู้ของทีม ภูมิใจในดราม่าของเกมนี้ 555+

สุดท้ายนี้ อดยิ้มไม่ได้จริงๆกับบรรดาดาวรุ่งของสโมสรที่ได้เห็นฟอร์มการเล่น ไล่ตั้งแต่ มาร์ติน เคลลี่, เจย์ สเปียริ่ง, จอนโจ เชลวี่ (คนนี้ซื้อมา), จอห์น ฟลานาแกน และแจ็ค โรบินสัน

อคาเดมี่ของลิเวอร์พูลกำลังผลิดอกออกผลแล้ว

แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 15:30:00

แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 15:26:38

แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 11:17:06

แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 11:08:39

แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 54 11:06:44

 
 

จากคุณ : howk_ky
เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 54 10:40:06




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com