Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
TIA Column : ลิเวอร์พูล 3 - 0 นิวคาสเซิล ...แบบนี้แหละ ที่เรียกได้ว่า "ที่นี่แอนฟิลด์"... ติดต่อทีมงาน

"It's there to remind our lads who they're playing for, and to remind the opposition who they're playing against."

ปู่แชงค์พูดถึงป้าย This is Anfield ที่ถูกติดไว้บนผนังทางเดินจากห้องแต่งตัวออกสู่สนาม และมันคือหนึ่งในปรัชญาการต่อสู้ของนักเตะลิเวอร์พูล

"มันอยู่ที่นั่นเพื่อเตือนนักเตะของเราว่าพวกเขากำลังเล่นเพื่อใคร..." นักเตะที่คู่ควรกับการสวมเสื้อสีแดงเพลิงทุกคนต้องมีความภาคภูมิใจในตัวเองที่ได้เล่นเพื่อสโมสรแห่งนี้ และต้องมีความรับผิดชอบต่อสโมสรและแฟนบอล "...และเพื่อเตือนคู่แข่งว่าพวกเขากำลังต่อสู้อยู่กับใคร" นักเตะลิเวอร์พูลต้องทำให้คู่ต่อสู้เกรงขาม หวั่นเกรงเมื่อลงสนามแข่งกับเรา

ป้าย This is Anfield เคยทำให้เราภาคภูมิใจเสมอ ในยุค 80 พวกเขาอาจคิดถึงแต่ชัยชนะเท่านั้น และแม้เราจะตกต่ำลง สถิติในแอนฟิลด์ก็ยังคงชนะหรือเสมอมากกว่าแพ้อยู่ดี แต่ไม่รู้จะเรียกว่า "โชคดี" หรือ "โชคร้าย" กันแน่ ที่เรามีโอกาสได้เห็น ได้สัมผัส ช่วงเวลาที่ป้าย This is Anfield ไร้ความหมาย เหมือนมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ทั้งๆที่นักเตะของเราต่างเดินผ่านทุกครั้งที่ลงเล่นในสนามแอนฟิลด์ ถ้ามันหล่นใส่หัว ก็อาจจะสะดุ้งรู้ตัวบ้าง โดยเฉพาะตกใส่ผู้จัดการทีม

ใช่ค่ะ ผู้จัดการทีมเมื่อครึ่งฤดูกาลของเรา ทำให้เราต้องมองบรรยากาศในสนามทุกครั้งที่เล่นเกมในบ้านว่า "ที่นี่แอนฟิลด์จริงๆหรือ?" ...มันเกิดขึ้นกระทั่งการงดเข้าสนามของแฟนบอลในนัดชนะโบลตัน 2-1 ที่ต้องยิงประตูชัยในนาทีสุดท้าย นัดนั้น มีแฟนบอลในแอนฟิลด์เพียงแค่ 35,000 คน การที่แฟนบอลทีมทีมหนึ่งหายไปเกือบ 10,000 คน มันเป็นเรื่องที่ต้องหันมามองบ้างแล้ว ยิ่งกับทีมอย่างลิเวอร์พูลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทีมที่หาตั๋วยากที่สุดทีมหนึ่งในลีก มันเป็นความผิดปกติแล้ว

เห็นแล้ว ใจหายเป็นที่สุด มันไม่ใช่เพราะแฟนบอลจะไม่ Support ทีม แต่เพราะมันทนไม่ไหวแล้วที่จะเห็นการเล่นแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นในแอนฟิลด์ต่างหาก ...เกมรับ(ห่วยๆ) บอลที่(ดูเหมือน)ไร้ใจ กุนซือทาถูที่ตำหนิแฟนบอลโดยไม่ชะโงกหน้ามองเงาหัวตัวเอง

จนที่สุด (พล่ามมานาน) เราได้ชายผู้เป็นตำนานกลับมา กลับมาทำให้เราได้สัมผัสอีกครั้งว่า

This is Anfield ที่แท้จริง มันเป็นยังไง

2 นัดล่าสุดกับ 8 ประตู ...น้ำตาจะไหล ไม่ใช่แค่ผลการแข่งขัน แต่เป็นวิธีการเล่นด้วย นัดนี้กับนิวคาสเซิล แทบไม่ได้ต่างกับนัดก่อนกับเบอร์มิ่งแฮมเลย เราไล่เพรสซิ่งไม่หยุด ไล่ตั้งแต่แดนหน้า เข้าสองตลอด เวลารุกก็ขึ้นกันเป็นแผง อย่างลูกแรก ต้องชมฟลานาแกนที่เปิดบอลได้เยี่ยม คิง เคนนี่ก็ยังชมหลังเกม แม้เขาอาจจะเกือบเสียคนในการเจอกับกูเตียร์เรซ แต่คิง เคนนี่ก็ปกป้องเขาด้วยการโยกจีเจกลับมารับมือแทน คลายความกดกันให้ดาวรุ่งวัย 18 ปีได้เป็นอย่างดี

แต่ก็ยอมรับนะคะว่าช่วงที่โดนกดหนักๆช่วงเสียลูกเตะมุมติดๆกัน มันก็เสียวไส้อยู่ ดีที่หลังเราไม่พลาด แถมยังเก็บแถวสองได้ในหลายๆจังหวะ ถ้าจำไม่ผิด ลูกสองที่ได้ก็มาจากการสวนกลับ แล้วซัวเรซใช้ทักษะบวกความขยันจนเรียกจุดโทษได้ แล้วมีหรือที่เดิร์ก เค้าท์จะพลาด ส่วนลูกที่สามก็เป็นการประสานงานที่ดีเยี่ยมของเดิร์ก เค้าท์กับซัวเรซอีกครั้ง และคราวนี้ซัวเรซกดเต็มแรงสวนตัวผู้รักษาประตูนิวคาสเซิลเข้าไป

วิธีการเล่นของทีมชัดเจนขึ้นมาก ที่สำคัญ คิง เคนนี่ทำสถิติ "ไร้พ่ายในแอนฟิลด์" เสียด้วย เป็นไร้พ่ายที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเสมอเพียงแค่นัดแรกในแอนฟิลด์ของ คิง เคนนี่ และนัดกับวีแกนเท่านั้น อ่อ บวกนัดเสมอบราก้า ตกรอบยูโรป้าอีกนัด แค่ 3 นัดใน 2 เดือนแรกเท่านั้น คิง เคนนี่กำลังทำให้ป้าย This is Anfield ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้พวกเรามั่นใจว่า จากนี้ไป ยามเล่นในบ้าน เราจะทำให้คู่ต่อสู้หวั่นเกรงได้ และเราจะคิดถึงแต่ชัยชนะเท่านั้น ที่เหลือคือการปรับปรุงฟอร์มนอกบ้านให้เหมือนเล่นในบ้านให้ได้ เราก็จะพร้อมสู้เพื่อกลับไปสู่ตำแหน่ง Top 4 อย่างแน่นอน

แต่วันนี้ นาทีนี้ มีความสุขจริงๆ ใครจะเชื่อว่า จาก อันดับ 13 ขึ้นมาถึง อันดับ 5 (ขอนับเฉพาะช่วงที่เคนนี่กลับมา) ในสถานการณ์ที่มีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บเกือบครึ่งทีม และเสียศูนย์หน้าอันดับหนึ่งของทีมไป ไม่มีอะไรที่จะเรียกร้องจาก คิง เคนนี่ มากไปกว่านี้อีกแล้ว

เพราะความสุขที่เขานำกลับมาที่แอนฟิลด์มันมากมายเหลือเกิน ที่สำคัญ เขาทำให้ ประโยคที่ว่า "This is Anfield" มีความหมาย มีคุณค่า และน่าภาคภูมิใจอีกครั้ง

อีก 3 นัดนะคะ ในเวลานี้ ทุกอย่างอยู่ในมือเราแล้ว หลายคนอาจไม่อยากไปเล่นยูโรป้า ส่วนตัว เราก็ไม่ค่อยอยากค่ะ เพราะใจมันคิดถึงแต่แชมเปี้ยนลีก แต่เราอยากชนะ การได้ไปเล่นหรือไม่ได้เล่นยูโรป้า ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือ ถ้าจบอันดับ 5 ได้ มันหมายถึงชัยชนะของทีมต่อเป้าหมายที่ตั้งไว้ รสชาติของชัยชนะต่างหากที่เราอยากสัมผัส

แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 11:54:23

แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 11:44:50

แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 10:56:15

 
 

จากคุณ : howk_ky
เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 10:33:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com