ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนที่เราจะไปพบกับนักเตะดาวรุ่งประจำฤดูกาล 2010 - 11 ผมขออนุญาตพาทุกท่านย้อนกลับไปดูว่านักเตะดาวรุ่งประจำฤดูกาล 2009 - 10 ที่ผมเลือกไว้เมื่อปีก่อน มีใครกันบ้าง และเมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี พวกเขามีผลงานและชะตากรรมแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ... ใครที่ต้องการย้อนกลับไปอ่านกระทู้ในปีที่แล้ว ตามนี้เลยครับ ... http://topicstock.pantip.com/supachalasai/topicstock/2010/04/S9179755/S9179755.html GK : David de Gea : Atletico de Madrid พาต้นสังกัดคว้าดับเบิ้ลแชมป์บอลถ้วย ทั้งแชมป์ ยูโรปา ลีก และ ซูเปอร์คัพ บวกกับอีกหนึ่งรองแชมป์โคปปา เดล เรย์ และได้ติดเป็น 30 คนสุดท้ายที่ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ โค้ชทีมชาติสเปนเลือกมา ก่อนที่จะถูกตัดตัวออกจากทีมลุยบอลโลก จากประสบการณ์ที่ยังเป็นรองรุ่นพี่อีก 3 คน ในฤดูกาลนี้แม้ผลงานของต้นสังกัดจะกระท่อนกระแท่น แต่เจ้าตัวก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนตกเป็นเป้าหมายในการคว้าตัวของยักษ์ใหญ่ในยุโรปนับสิบทีม แน่นอนหนึ่งในนั้นคือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมจากอังกฤษที่กำลังมองหาผู้รักษาประตูมือหนึ่งคนใหม่ แต่ขอโทษครับ แค่ 20 ล้านยูโร รับแค่ถุงมือของ เด เคอา ไปดูเล่นก่อนละกัน !!... DR : Rafael da Silva : Manchester United ขึ้นมายึดตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงของทีมได้อย่างไม่มีคู่แข่ง หลังจากที่ แกรี่ เนวิลล์ แบ็ครุ่นพี่ประกาศอำลาสนาม พร้อมกันนั้น ก็สามารถทะลุขึ้นมาติดทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ในทีมของ มาโน เมเนเซส โค้ชคนใหม่ได้เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ในเกมที่บราซิลพบกับอเมริกา และหากยังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีเช่นนี้ได้ต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด คงไม่จำเป็นต้องมองหาแบ็คขวามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมอีกนับ 10 ปี จริงๆ นะเออ ... DL : Holger Badstuber : Bayern Munich จบฤดูกาลก่อนด้วยดับเบิ้ลแชมป์กับต้นสังกัด ทั้งแชมป์บุนเดสลีกา และ เดเอฟเบ โพคาล รวมทั้งรองแชมป์ UCL และเป็น 1 ใน 23 ขุนพลอินทรีเหล็กชุดลุยบอลโลกที่แอฟริกาใต้เมื่อกลางปีที่แล้ว ในปีนี้ถูก หลุยส์ ฟาน กัล ขยับเข้ามายืนเป็นกองหลังตัวกลางในหลายๆ นัด ที่ทีมขาดเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงไป ผลงานส่วนตัวยังไม่คงเส้นคงวา แต่ก็สามารถยืนเป็นตัวหลักในเกมรับให้กับทีมได้แล้ว รวมทั้งมีชื่อในทีมชาติของ โยอัคคิม เลิฟ ตลอดในช่วงที่ผ่านมาด้วย และสามารถทำประตูแรกในนามทีมชาติของตัวเองไปได้แล้ว ในเกมที่เยอรมันไล่ถล่มอาเซอร์ไบจานไป 6 - 1 เมื่อกันยายนปีก่อน แต่ไม่รู้ว่าประตูต่อไปต้องรออีกกี่ปี ฮา~ ... DC : Leonardo Bonucci : Bari to Juventus ย้ายจากเจ้าของร่วมอย่าง บารี่ และ เจนัว มาอยู่กับ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัวที่อธิบายยุ่งยาก ด้วยความหวังว่าจะเข้ามาเป็นกำลังหลักในแนวรับให้กับทีม ร่วมกับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ คู่หูแนวรับทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ แต่ผลงานกลับไม่โดดเด่นดั่งเช่นตอนรับใช้ต้นสังกัดเดิม เล่นดีกับแย่คละเคล้ากันไป แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังตัวจริงให้กับทีมชาติของ เซซาเร่ ปรันเดลลี่ ไปแล้ว แฟนๆ ได้แต่หวังว่าฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมครั้งเมื่ออยู่กับ บารี่ จะกลับมาสถิตย์อยู่กับเจ้าตัวอีกครั้ง สาธุ~ ...   DC : Simon Kjaer : Palermo to VfL Wolfsburg หลังจากทำผลงานโดดเด่นให้กับต้นสังกัดเดิมอย่าง ปาแลร์โม่ รวมทั้งยังได้เป็น 1 ใน 23 ขุนพลโคนมชุดลุยฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ ซิมง เคียร์ ก็ได้ออกไปค้นหาความท้าทายใหม่ที่ โวล์ฟบวร์ก ในเยอรมัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ผลงานส่วนตัวของเขารวมทั้งต้นสังกัดใหม่ กลับพากันดิ่งเหวอย่างฉุดไม่อยู่ โวล์ฟบวร์ก ภายใต้การคุมทีมของ สตีฟ แม็คคลาเรน ต้องดิ้นรนเพื่อการอยู่รอด จนในที่สุด แม็คคลาเรน ต้องจากทีมไปอย่างบอบช้ำ และ เฟลิกส์ มากัธ ที่ถูกปลดจาก ชาลเก้ 04 ก็กลับมาคุมทัพอดีตต้นสังกัดที่เขาเคยพาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนอีกครั้ง ก็ได้แต่หวังว่าภายใต้การคุมทีมของจอมขมังเวทย์อย่าง มากัธ จะทำให้ฝีเท้าเก่งของ เคียร์ กลับมาอีกเหมือนดังตอนที่เล่นให้กับ ปาแลร์โม่ ... มาดูคลิปไฮไลท์การเซฟของ เด เคอา กันครับ ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:10:16

ความคิดเห็นที่ 2 DMC : Maxime Gonalons : Olympique Lyonnais ยอมรับตามตรงว่าในฤดูกาลนี้ ไม่ทราบข่าวคราวของ โกนาลงส์ เลยครับ ไม่ได้ติดตามฟอร์มของเขาและต้นสังกัดอย่าง ลียง เลย ก็เลยไม่รู้จะมาอัพเดทยังไง เหอะๆๆ แต่ดูจากสถิติ เขาก็ยังได้ลงเล่นให้กับ ลียง อย่างสม่ำเสมออยู่ แต่ฟอร์มโดยรวมน่าจะโดนรุ่นน้องหลายๆ คนแซงไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่น ยันน์ เอ็มวิล่า ดาวรุ่งจาก แรนส์ ที่ทะลุขึ้นไปติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ได้แล้ว ... AMR : Sergio Canales : Racing Santander to Real Madrid กานาเลส Says : ถ้าผมรู้ว่า โอซิล จะย้ายมา ผมคงไม่มา T_T ... AMC : Toni Kroos : Bayer Leverkusen to Bayern Munich จากฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับ เลเวอร์คูเซ่น ในปีที่ผ่านมา และได้เป็น 1 ใน 23 นักเตะทีมชาติเยอรมันชุดอันดับที่ 3 ในฟุตบอลโลกเมื่อกลางปีก่อน โครส ก็ถูก บาเยิร์น มิวนิค ต้นสังกัดที่แท้จริงดึงตัวกลับมาเล่นในสโมสรอีกครั้ง แต่ผลงานส่วนตัวของเขากลับดร็อปลงจากในฤดูกาลก่อนพอสมควร ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ บาเยิร์น มีผลงานที่น่าผิดหวังในปีนี้ และ หลุยส์ ฟาน กัล ผู้พาทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ในปีก่อน ก็ถูกปลดออกจากทีม แม้ภายใต้การคุมทีมของโค้ชชั่วคราวอย่าง อันเดรียส์ ยองเคอร์ จะมีเวลาไม่มากพอให้ โครส พิสูจน์ฝีเท้าที่แท้จริงอีกครั้ง แต่ในฤดูกาลหน้า จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ผู้พา เลเวอร์คูเซ่น ติดลมบนอยู่ ณ ขณะนี้ น่าจะดึงศักยภาพของเขาให้กลับมาสุดยอดได้อีกอย่างแน่นอน เพราะอะไร? ก็อย่าลืมสิว่าที่ โครส ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ เลเวอร์คูเซ่น ในฤดูกาลก่อน เขามีโค้ชชื่อว่าอะไร ... AML : Diego Perotti : Sevilla อีกหนึ่งคนที่ปีนี้ไม่เห็นฟอร์มการเล่น รวมทั้งไม่ทราบข่าวคราวของเขาเลย หลังจากที่ปีก่อนพุ่งขึ้นมายึดพื้นที่ทางกราบซ้ายของต้นสังกัดรวมทั้งเขี่ย ดีเอโก้ กาเปล อดีตตัวจริงออกไปให้พ้นทาง แต่ในฤดูกาลนี้ ฟอร์มของ เซบีญ่า หล่นหายไปในช่วงต้นฤดูกาล ซึ่งก็ไม่ทราบว่าฟอร์มของเจ้าตัวจะย่ำแย่ตามไปด้วยรึเปล่า แต่หนทางยังอีกยาวไกล ยังมีเวลาให้ เปร็อตติ สร้างความตื่นตะลึง รวมทั้งพาคู่แข่งทัวร์สนามอีกเยอะ รึไม่จริง? ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:11:32

ความคิดเห็นที่ 3 FW : Pedro Rodriguez : Barcelona จากดาวรุ่งพุ่งแรง ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ทำสถิติยิงประตูได้ในทุกรายการ (6 รายการ) ที่บาร์เซโลน่ากวาดแชมป์มาในช่วง 2 ฤดูกาล กลับกลายมาเป็นนักเตะเกมรุกตัวหลักของสโมสร ที่มีสถิติการถล่มประตูเป็นรองเพียง เมสซี่ และ บีย่า เพียง 2 คนเท่านั้น ทั้งการทำประตู ทั้งการถวายพานให้เพื่อนผลิตสกอร์ เขาพัฒนามันให้ดียิ่งขึ้นในฤดูกาลนี้ และแน่นอน เปโดร ก็เป็น 1 ใน 23 ขุนพลกระทิงดุที่ผงาดคว้าแชมป์โลกเมื่อกลางปีก่อนเช่นกัน ถึงตรงนี้คงไม่มีใครสงสัยในฝีเท้าของเด็กหนุ่มคนนี้อีกแล้ว คุณว่าไหม !?... FW : Thomas Muller : Bayern Munich สิ่งที่แฟนบอล บาเยิร์น มิวนิค พอจะชื่นชม หลุยส์ ฟาน กัล อดีตโค้ชที่เพิ่งลาจากทีมไป นอกจากดับเบิ้ลแชมป์ในฤดูกาลที่แล้ว ก็เห็นจะเป็นการที่เขาให้โอกาส โธมัส มุลเลอร์ ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่นั่นเอง จากกองหน้าดาวรุ่งที่แฟนบอลสงสัยในฝีเท้า เขาใช้เวลาเพียง 1 ปี ก้าวขึ้นมาคว้าตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลโลก ควบกับรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมในทัวร์นาเมนต์เดียวกัน เขาทำได้อย่างไร หากใครได้เห็นเขาเล่น ก็คงไม่มีข้อสงสัยตรงนี้แน่นอน และขอโทษ โคลเซ่ กำลังลุ้นทำลายสถิติการถล่มประตูสูงสุดในทีมชาติเยอรมันของ แกร์ด มุลเลอร์ เหรอครับ ระวังหลังไว้บ้าง เพราะอีก มุลเลอร์ ก็กำลังคิดที่จะทำลายสถิติของคุณเหมือนกัน ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:12:10

ความคิดเห็นที่ 4 GK : 53 Wojciech Szczesny : Arsenal : Premier League Profile : Full name : Wojciech Tomasz Szczesny Date of birth : 18 April 1990 (age 21) Place of birth : Warsaw, Poland Height : 1.95 m เขาว่ากันว่า ลูกไม้มักจะหล่นไม่ไกลต้น และ วอจเซียค เซคเซสนี่ ก็อาจจะพิสูจน์ให้หลายๆ คนเห็นว่าคำกล่าวนี้เป็นจริง เมื่อลูกชายของอดีตผู้รักษาประตูทีมชาติโปแลนด์อย่าง มาเซียช เซคเซสนี่ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่แฟนบอล อาร์เซน่อล ฝากความหวังไว้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับนายด่านคนอื่นของทีม รวมทั้งเขายังก้าวขึ้นมาติดทีมชาติชุดใหญ่ได้สำเร็จด้วยวัยเพียง 19 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009 ... เซคเซสนี่ เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลด้วยการเป็นนักเตะเยาวชนของ ลีเกีย วอร์ซอว์ ยอดทีมในประเทศบ้านเกิด จากการค้นพบของ Krzysztof Phelanski (ด้วยความเคารพ ยากที่จะสะกดชื่อคนโปแลนด์เป็นภาษาไทยจริงๆ - ผู้เขียน) โค้ชผู้รักษาประตูของสโมสรในขณะนั้น และเขาก็ได้รับโอกาสเริ่มซ้อมกับทีมชุดใหญ่ตั้งแต่วัยเพียง 15 ปีเท่านั้น จนกระทั่งปี 2006 เขาก็ได้ย้ายมาอยู่กับอคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ยักษ์ใหญ่แห่งเกาะอังกฤษ และร่วมเล่นกับทีมเยาวชนปืนใหญ่ 2 ปีก่อนที่จะขึ้นสู่ทีมสำรอง และกระทั่งในเดือนพฤษภาคม 2009 เขาก็มีชื่อในทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก ในเกมพรีเมียร์ลีกที่ อาร์เซน่อล พบกับ สโต๊ค โดยมีรายชื่อเป็นผู้รักษาประตูสำรอง ... ฤดูกาล 2009 - 10 เขาก็ถูกโปรโมตขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล โดยได้รับหมายเลขเสื้อ 53 และในวันที่ 22 กันยายน 2009 เซคเซสนี่ ได้รับโอกาสลงสนามเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล เป็นนัดแรก ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่ต้นสังกัดพบกับ เวสต์บรอมวิช และเขาก็ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 2 - 0 โดยสามารถรักษาคลีนชีตเอาไว้ได้สำเร็จด้วย ในเดือนพฤศจิกายน ปีเดียวกัน อาร์เซน่อล ตัดสินใจปล่อยตัวเขาให้กับ เบรนท์ฟอร์ด ทีมในลีกวัน ยืมตัวไปใช้งาน ที่นั่นเขาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อลงสนาม 28 นัด สามารถรักษาคลีนชีทได้ถึง 10 นัด รวมทั้งการเซฟลูกโทษในเกมที่พบกับ วีคอมบ์ หรือการเซฟแหลกจนคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมที่พบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด จนถึงในฤดูกาลนี้เขาได้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง และด้วยฝีไม้ลายมือการเซฟประตู ก็ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นความหวังของทีม จากความไว้วางใจของทั้งโค้ชและแฟนบอลมากกว่า มือ 1 ของทีมอย่าง มานูเอล อัลมูเนีย หรือรุ่นพี่ในทีมชาติอย่าง ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ด้วยซ้ำไป เหลือเพียงแค่เวลาและประสบการณ์เท่านั้นที่จะทำให้เขายึดมือ 1 ของทีมมาเป็นของตัวเอง ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:13:14

ความคิดเห็นที่ 5 DR : 27 Mario Gaspar : Villarreal CF : La Liga BBVA Profile : Full name : Mario Gaspar Perez Martinez Date of birth : 24 November 1990 (age 20) Place of birth : Novelda, Spain Height : 1.78 m มาริโอ กาสปาร์ เปเรซ มาร์ติเนซ หรือที่แฟนบอล บียาร์รีล เรียกสั้นๆ ว่า มาริโอ เกิดเมื่อ 24 พฤศจิกายน 1990 ที่เมืองโนเวลด้า ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสเปน เขาเริ่มเล่นฟุตบอลในฐานะนักเตะเยาวชนของสโมสร บียาร์รีล และค่อยๆ ไต่เต้าจากทีมเยาวชนสู่ทีม บียาร์รีล ซี ข้ามมาที่ทีม บียาร์รีล บี และขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2009 ในขณะที่มีอายุ 18 ปี โดยในปีแรกที่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เขาได้รับโอกาสในการลงเล่นเกม ลา ลีกา นัดแรก เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2009 ในเกมที่ บียาร์รีล พ่ายให้กับ แอตเลติโก มาดริด ไปอย่างเข้มข้น 2 - 3 โดยถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรองแทนที่ของ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ในนาทีที่ 65 ... ความเร็ว ความคล่องตัว คือจุดเด่นของ มาริโอ กาสปาร์ หลายนัดที่เขาได้รับคำสั่งจาก ฆวน การ์ลอส การ์ริโด้ โค้ชของทีมให้เติมเกมบุก เพื่อช่วยงานของ ซานติ กาซอร์ล่า โจมตีคู่แข่งทางริมเส้น และหลายต่อหลายประตูที่ บียาร์รีล ทำได้ในฤดูกาลนี้ก็มาจากการเติมเกมของเขาเช่นกัน ในฤดูกาลนี้เขาได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้น หลังจากที่แบ็คขวาตัวจริงอย่าง อังเคล โลเปซ ประสบกับปัญหาบาดเจ็บ และเขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยล่าสุดเขาลงเล่นให้กับทีมไปแล้ว 19 นัดในฤดูกาลนี้ โดยทำได้ 1 ประตู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเมื่อ อังเคล โลเปซ หายจากอาการบาดเจ็บกลับมาแล้ว จะสามารถแย่งตำแหน่งคืนไปจาก มาริโอ กาสปาร์ ได้หรือไม่ หลังจากที่รุ่นน้องคนนี้ทำผลงานได้เข้าตาของทั้งโค้ชและแฟนบอลจริงๆ ... ส่วนในระดับชาติ มาริโอ กาสปาร์ ติดทีมชาติสเปน ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี ตั้งแต่ปี 2008 โดยลงเล่นไปทั้งหมด 13 นัด ทำได้ 2 ประตู ก่อนที่จะขยับขึ้นมาสู่ทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ในปีนี้ และลงเล่นให้กับทีมไปแล้ว 2 นัด ซึ่งถ้าหากเขายังสามารถรักษาฟอร์มเก่งเช่นนี้เอาไว้ได้ ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ โค้ชทีมชาติชุดใหญ่ สำหรับการนำมาเป็นอะไหล่ของ เซร์คิโอ รามอส และ อันโดนี่ อิราโอล่า ในอนาคตก็เป็นได้ ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:14:09

ความคิดเห็นที่ 6 DL : 18 Fabio Coentrao : Sport Lisboa e Benfica : Primeira Liga Portuguese Profile : Full name : Fabio Alexandre Silva Coentrao Date of birth : 11 March 1988 (age 23) Place of birth : Vila do Conde, Portugal Height : 1.79 m แม้จะไม่ใช่ชาติที่มีประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ในเกมฟุตบอลเท่าไรนัก แม้จะไม่เคยประสบความสำเร็จในรายการเมเจอร์ใดๆ มาก่อนก็ตาม แต่นับต่อจากนี้ หลายทีมต่างก็ต้องให้ความระมัดระวังแก่ทีมชาติโปรตุเกสยุคใหม่ ที่นำทัพโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เจา มูตินโญ่ นานี่ ฮูโก้ อัลเมย์ด้า และแน่นอน นักเตะที่ผมกำลังจะกล่าวถึง แบ็คซ้ายที่สามารถทะลุทะลวงเกมรับของคู่แข่งได้อย่างราบคาบ เขาคือ ฟาบิโอ โกเอนเตรา แบ็คซ้ายที่เล่นเกมรุกได้สะเด่ากว่าเกมรับตำแหน่งที่ตัวเองรับผิดชอบด้วยซ้ำ ... โกเอนเตรา เกิดที่ Vila do Conde เมืองเล็กๆ ติดทะเลทางตอนเหนือของประเทศโปรตุเกส เขาเข้าสู่ทีมเยาวชนของ Rio Ave ทีมในบ้านเกิดเมื่อตอนอายุ 16 ปี ก่อนที่จะได้ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรในปีต่อมา และเขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้ตั้งแต่ตอนนั้น ฤดูกาล 2006 - 07 โกเอนเตรา ลงเล่นให้ Rio Ave ทั้งสิ้น 27 นัด ทำได้ 4 ประตู และเริ่มได้รับการจับตามองจากยอดทีมในประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สปอร์ติ้ง ลิสบอน หรือ เบนฟิก้า ... หนังสือฟุตบอล World Soccer Magazine จัดให้เขาอยู่ใน 50 นักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองในปี 2007 โดยกล่าวว่าเขามีสไตล์การเล่นที่แทบจะถอดแบบออกมาจาก อาร์เยน ร็อบเบน กันเลยทีเดียว ... และในที่สุด โกเอนเตรา ก็เลือกที่จะย้ายมาค้าแข้งกับ เบนฟิก้า ในเดือนกรกฎาคม 2007 แต่เขาได้ลงสนามให้กับต้นสังกัดใหม่เพียง 4 นัด ก่อนจะถูกส่งตัวไปให้กับ C.D. Nacional ทีมร่วมลีกยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาล และเขาก็ยังคงทำผลงานได้ดี ลงเล่น 16 นัด ทำได้อีก 4 ประตู โดยเฉพาะในวันที่ 3 พฤษภาคม 2008 เขาทำ 2 ประตู ในเกมที่ C.D. Nacional ถล่ม ปอร์โต้ เละเทะถึง 3 - 0 ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลยทีเดียว จากนั้นเขาก็ถูกส่งตัวไปให้กับ รีล ซาราโกซ่า ในสเปน และทีมเก่าอย่าง Rio Ave ยืมตัวอีกครั้ง จนกระทั่งเริ่มต้นฤดูกาล 2009 - 10 เขาก็ได้ย้ายกลับมาเล่นให้กับต้นสังกัดที่แท้จริงอย่าง เบนฟิก้า ในที่สุด ... ในฤดูกาลแรกที่กลับมาเล่นให้กับ เบนฟิก้า เขาก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นส่วนสำคัญที่พาต้นสังกัดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งแชมป์ลีก และ โปรตุกีส ลีก คัพ นอกจากนั้นเขาก็ยังได้รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำเดือน ตุลาคม 2009 มีนาคมและเมษายน 2010 อีก 3 ครั้งด้วยกัน และที่สำคัญยังได้รับการโหวตให้ได้รางวัล Portuguese League Breakthrough Player of the Year (ในที่นี้ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอันดับที่ 2 ของลีกนะครับ - ผู้เขียน) อีกรางวัลด้วย ... จากผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้ โกเอนเตรา ได้รับความไว้วางใจจาก คาร์ลอส เคยรอซ โค้ชทีมชาติโปรตุเกสในขณะนั้น เรียกติดทีมชาติไปลุยศึกฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ด้วยเช่นกัน และเขาก็สร้างสีสัน ความตื่นตะลึงให้กับแฟนบอล จากสไตล์การเล่นที่เร้าใจ การเติมเกมรุกที่ทำให้คู่แข่งกระเจิดกระเจิง เรียกได้ว่าเป็นทัวร์นาเมนต์แจ้งเกิดของเขาอย่างแท้จริง จนถึงปัจจุบันเขาติดทีมชาติไปแล้ว 12 นัด และน่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ส่วนในระดับสโมสร เขาก็พา เบนฟิก้า ป้องกันแชมป์โปรตุกีส ลีก คัพ ได้อีกสมัย ส่วนในถ้วยยูโรปา ลีก ก็กำลังจะผ่านเข้าสู่รอบชิงฯ เพื่อไปล้างแค้นกับ ปอร์โต้ คู่รักคู่แค้นตลอดกาล น่าติดตามว่า โกเอนเตรา และเพื่อนพ้องจะสามารถสยบ ปอร์โต้ ลง เพื่อคว้าดับเบิ้ลแชมป์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันได้หรือไม่ อีกไม่นานเกินรอเราได้ทราบคำตอบแน่นอน ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:15:21

ความคิดเห็นที่ 7 DC : 15 Mats Hummels : Borussia Dortmund : Bundesliga Profile : Full name : Mats Julian Hummels Date of birth : 16 December 1988 (age 22) Place of birth : Bergisch Gladbach, West Germany Height : 1.91 m เมื่อเราลองกวาดตามองไปที่ตารางคะแนนทั่วลีกยุโรป โดยเฉพาะ 5 ลีกยักษ์ใหญ่อย่าง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ / กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี / บุนเดสลีกา เยอรมัน / ลา ลีกา สเปน และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส เราอาจจะสะดุดตาที่คะแนนอันท่วมท้นของ บาร์เซโลน่า หรือเราอาจจะสะดุดตาที่เกมรุกสุดอันตรายของ รีล มาดริด และ บาร์เซโลน่า แต่ถ้าเรามองไปที่เกมรับอันแข็งแกร่ง โดยเฉพาะประตูที่แต่ละทีมเสียไป แน่นอนที่เราจะต้องสะดุดตากับเกมรับของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สโมสรที่เสียประตูน้อยที่สุดเมื่อวัดกันจากทุกสโมสรในลีกสูงสุดของ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป (เสียไป 19 ประตูเท่ากับ บาร์เซโลน่า - ผู้เขียน) และหากจะพูดถึงหัวใจในเกมรับของ ดอร์ทมุนด์ เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะไม่พูดถึง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ กองหลังตัวแกร่งอดีตเด็กปั้นของ บาเยิร์น มิวนิค ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นกองหลังตัวหลักของทั้งต้นสังกัดและทีมชาติเยอรมัน ... ฮุมเมิ่ลส์ เป็นเด็กปั้นของ บาเยิร์น มิวนิค เริ่มเข้าสู่ทีมเยาวชนของเสือใต้ในปี 1995 ด้วยวัยเพียง 7 ปี เขาฝึกซ้อมและพัฒนาฝีเท้ากับทีมเยาวชนเป็นเวลา 10 ปี ก่อนที่จะถูกดันขึ้นสู่ทีมสำรองของ บาเยิร์น ในฤดูกาล 2005 และในวันที่ 19 ธันวาคม 2006 ฮุมเมิ่ลส์ ก็ได้เซ็นสัญญาในอาชีพนักเตะฉบับแรกกับต้นสังกัด อันจะทำให้เขาอยู่กับทีมไปจนกระทั่งกลางปี 2010 ส่วนเกมบุนเดสลีกานัดแรกของเขาเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2007 ในเกมนัดปิดฤดูกาลที่ บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านไล่ถล่มผู้มาเยือนอย่าง ไมนซ์ 05 ไป 5 - 2 ... แต่การที่จะเบียดขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ บาเยิร์น มิวนิค ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นในเดือนมกราคม 2008 เขาจึงถูกส่งตัวไปให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมร่วมลีกยืมตัว และในถิ่นเวสต์ฟาเล่นนี่เอง (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น ซิกนัล อิดูน่า ปาร์ค - ผู้เขียน) ที่ทำให้เขาพัฒนาฝีเท้าและความแข็งแกร่งจนทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวจริงของทีม และเมื่อฤดูกาล 2008 - 09 เริ่มขึ้น เจอร์เก้น คล็อปป์ อดีตกุนซือของ ไมนซ์ 05 ย้ายเข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโค้ชของทีม รวมทั้งดึงตัว เนเว่น ซูโบติช กองหลังดาวรุ่งตัวแกร่งมาจาก ไมนซ์ 05 อีกคน ทั้งเขาและ ซูโบติช ช่วยให้เกมรับของ ดอร์ทมุนด์ เหนียวแน่นและยากที่คู่แข่งจะเจาะผ่านเข้าไปทำประตูได้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูกาลปัจจบุัน ที่ ดอร์ทมุนด์ เป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับทุกสโมสรในลีกสูงสุดของ 5 ลีกใหญ่ในยุโรป นั่นก็เพียงพอที่จะเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าเขาสำคัญเพียงใด จนทำให้ ดอร์ทมุนด์ ตัดสินใจเซ็นสัญญาดึงเขามาร่วมทีมอย่างถาวรเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ... ทั้งความแข็งแกร่ง การอ่านเกม การยืนตำแหน่ง รวมไปถึงการเติมขึ้นไปลุ้นทำประตูเมื่อทีมได้ลูกเซตเพลย์ ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นความหวังของทั้ง ดอร์ทมุนด์ และทีมชาติเยอรมัน ในทีมชาติ ฮุมเมิ่ลส์ เริ่มเข้าสู่ทีมอายุไม่เกิน 21 ปี ตั้งแต่เมื่อปี 2007 ด้วยวัยเพียง 19 ปี และในปี 2009 ที่มีทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ที่สวีเดน เขาก็เป็น 1 ในขุนพลชุดเด็กนรกของเยอรมัน ที่ผงาดคว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ (ทีมชุดนี้ของเด็กเยอรมันประกอบไปด้วย ฮุมเมิ่ลส์ นอยเออร์ เบ็ค บัวเต็ง เคดิร่า โอซิล เป็นต้น - ผู้เขียน) โดยในรอบชิงฯ ที่ ฮุมเมิ่ลส์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในฐานะกองกลางตัวรับ สามารถถล่มเอาชนะเด็กอังกฤษไปได้อย่างสบายเท้าถึง 4 - 0 (เกมนี้ผมได้ชมถ่ายทอดสดด้วย สุดยอดจริงๆ เด็กเยอรมันชุดนี้ - ผู้เขียน) ส่วนในทีมชาติชุดใหญ่ ฮุมเมิ่ลส์ ได้ลงเล่นเป็นเกมแรกเมื่อ 13 พฤษภาคม 2010 ในเกมอุ่นเครื่องที่ เยอรมัน ชนะ มอลตา 3 - 0 และนับจากนี้แฟนๆ ของ ดอร์ทมุนด์ และทีมชาติเยอรมัน น่าจะอุ่นใจได้ว่าเกมรับของพวกเขาจะยังคงแข็งแกร่งและเหนียวแน่นต่อไป เมื่อมีชายชื่อ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ คอยปกป้องอยู่นั่นเอง ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:16:34

ความคิดเห็นที่ 8 DC : 4 Neven Subotic : Borussia Dortmund : Bundesliga Profile : Full name : Neven Subotic Date of birth : 10 December 1988 (age 22) Place of birth : Banja Luka, SFR Yugoslavia Height : 1.93 m คุณคิดว่าแผงหลังของทีมชาติหนึ่งที่ประกอบไปด้วย เนมันย่า วิดิช ประกอบด้วย บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และประกอบด้วย อเล็กซานเดอร์ โคลาลอฟ นั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหน แล้วทำไมเด็กอายุ 22 คนหนึ่ง ถึงสามารถขึ้นไปยืนร่วมกับรุ่นพี่ที่แข็งแกร่งในแนวรับได้อย่างกลมกลืนและมั่นคง นี่ยังไม่นับรวมกับการจับคู่กับ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ ทำให้แผงหลังของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แข็งแกร่งอย่างที่เห็นกันอยู่ในขณะนี้ ใช่ครับ ผมกำลังจะกล่าวถึง เนเว่น ซูโบติช ปราการหลังทีมชาติเซอร์เบีย ที่ครั้งหนึ่งเคยติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาในชุดเล็กมาแล้ว ... พูดถึงชีวิตในวัยเด็กของ ซูโบติช แม้เขาจะเกิดที่ บอสเนีย เซิร์บ แต่พอถึงวัย 5 ขวบ เขาได้ย้ายตามครอบครัวมาอยู่ที่เยอรมัน ที่เมือง Schomberg และได้เริ่มหัดเล่นฟุตบอลเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 7 ชวบ กับทีม TSV Schwarzenberg พออายุได้ 10 ปี ครอบครัวของเขาก็ได้ย้ายไปตั้งรกรากที่สหรัฐอเมริกา ซูโบติช เข้าสู่ทีมเยาวชนของ South Florida Bulls ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย University of South Florida ในปี 2004 ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเขาก็ได้ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา ชุดอายุไม่เกิน 17 ปี และได้ลงทำศึกฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ที่เปรู เมื่อปี 2005 ด้วย (ในรายการที่ คาร์ลอส เวล่า และ นูริ ซาฮิน สร้างชื่อให้แฟนบอลทั่วโลกได้รู้จัก แต่ขอโทษ รายการนี้ แอนเดอร์สัน กองกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือนักเตะยอดเยี่ยมของรายการนะครับ - ผู้เขียน) แม้อเมริกาจะหยุดเส้นทางลงที่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเมื่อพ่ายให้กับ ฮอลแลนด์ 0 - 2 แต่เกมนั้นเขาก็ได้ลงเล่นครบ 90 นาที และในปีถัดมา ซูโบติช ก็ได้ขยับขึ้นมาสู่ชุดอายุไม่เกิน 20 ของอเมริกา ซึ่งก็เป็นช่วงที่เขาได้ย้ายกลับมาอยู่ที่เยอรมัน เพื่อเล่นฟุตบอลให้กับทีมเยาวชนของ ไมนซ์ 05 ในระดับดิวิชั่น 4 ของเยอรมัน ... ในช่วงปลายฤดูกาล 2006 - 07 ซูโบติช ได้ลงเล่นเกมบุนเดสลีกาเป็นครั้งแรก ในเกมที่ ไมนซ์ 05 พบกับ บาเยิร์น มิวนิค แต่น่าเสียดายที่ในฤดูกาลนั้น ต้นสังกัดของเขาต้องหล่นชั้นลงไปเล่นในบุนเดสลีกา 2 แต่นั่นก็ทำให้เขาได้รับโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และเขาก็เป็นส่วนสำคัญให้ ไมนซ์ 05 ทำสถิติเสียประตูน้อยที่สุดในลีก แม้ทีมของเขาจะจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ชวดการเลื่อนชั้นไปอย่างน่าเสียดาย แต่จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเขาก็มาถึงในฤดูร้อนปี 2008 เมื่อ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชของ ไมนซ์ 05 ตัดสินใจย้ายมาคุมทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แน่นอน คล็อปป์ ได้ตัดสินใจดึงตัว ซูโบติช มาร่วมงานกันอีกครั้ง โดยเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 5 ปี ... และเพียงปีแรกที่เขาย้ายมาเล่นให้กับ ดอร์ทมุนด์ ซูโบติช ก็ช่วยให้เกมรับของเสือเหลืองเหนียวแน่นและแข็งแกร่ง จนจบฤดูกาลด้วยการเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดอันดับที่ 2 ของลีก โดยเสียไป 37 ประตู เป็นรองเพียงเพื่อนร่วมเมืองอย่าง ชาลเก้ 04 ที่เสียไป 35 ประตู เพียงทีมเดียว นอกจากงานหลักในเกมรับแล้ว ซูโบติช ก็ยังช่วยเติมขึ้นมาทำประตูให้กับทีมได้อีกถึง 6 ประตูด้วยกัน จากการลงสนาม 33 นัดในลีก เรียกว่าเขาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ดอร์ทมุนด์ ไต่อันดับขึ้นมาจากท้ายตารางจนจบที่อันดับที่ 6 ของตารางเมื่อฤดูกาลสิ้นสุดลง ส่วนในฤดูกาลปัจจุบัน ทั้งเขาและพาร์ทเนอร์ในแนวรับอย่าง ฮุมเมิ่ลส์ ก็ช่วยให้ ดอร์ทมุนด์ เป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในบุนเดสลีกา ยิ่งทำให้เขาเป็นที่จับตามองจากยักษ์ใหญ่ในยุโรป โดยเฉพาะหลายทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่อยากได้ตัวเขาไปร่วมทีม แต่คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดึงตัวเขาออกมาจากถ้ำเสือ เพราะขนาด เชลซี เคยยื่นข้อเสนอ 17.5 ล้านปอนด์ ให้ ดอร์ทมุนด์ พิจารณาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ ดอร์ทมุนด์ ก็ตอบปฏิเสธไปอย่างทันควัน ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:17:53

ความคิดเห็นที่ 9 DMC : 19 Jack Wilshere : Arsenal : Premier League Profile : Full name : Jack Andrew Garry Wilshere Date of birth : 1 January 1992 (age 19) Place of birth : Stevenage, England Height : 1.73 m สิ่งที่ อาร์เซน เวนเกอร์ กลัวในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ บาร์เซโลน่า จะทุ่มเงินคว้าตัว เชส ฟราเบรกัส กัปตันทีมกลับไปเล่นในสเปน หากแต่เป็นถ้า บาร์เซโลน่า เปลี่ยนเป้าหมายจาก ฟราเบรกัส มาเป็น แจ็ค วิลเชียร์ สุดยอดกองกลางดาวรุ่งที่ฟอร์มแรงที่สุดของอังกฤษในปัจจุบันต่างหาก หลังจากที่หนุ่มน้อยคนนี้โชว์ผลงานกลบรัศมีนักเตะแชมป์โลกอย่าง ชาบี และ อิเนียสต้า ซะมิดด้ามในเกม UCL รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกที่ทั้ง 2 ทีมพบกัน ... ช่วงแรกที่ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ แฟนบอลหลายคนอาจสงสัยว่าตกลงแล้ว เจ้าหนูแจ็ค จะเอาดีจากตำแหน่งใดในแดนกลางกันแน่ เพราะจะรับก็ดี จะรุกก็เยี่ยม ตัดเกมก็ได้ สร้างสรรค์เกมก็ไม่น้อยหน้าใคร จน ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชของทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบันที่ได้อานิสงค์จากฟอร์มการเล่นของเขา ออกมากล่าวยกย่องว่า แจ็ค วิลเชียร์ นี่แหละคือ โคล้ด มาเกเลเล่ คนต่อไป ... วิลเชียร์ เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ ลูตัน ทาวน์ แต่ก็เป็นแมวมองของ อาร์เซน่อล ที่ไปคว้าตัวมาร่วมทีมอคาเดมี่ ตั้งแต่ปี 2001 ด้วยวัยเพียง 9 ปี และด้วยฝีเท้าของเขา ก็ทำให้เขาได้รับการโปรโมตไปสู่ทีมสำรองของ อาร์เซน่อล ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2008 ขณะอายุ 16 ปี เขาได้ลงเล่นให้กับทีมสำรองเป็นนัดแรก ในเกมที่พบกับ เรดดิ้ง และสามารถทำประตูแรกให้กับทีมได้ทันที ... ฤดูกาล 2008 - 09 วิลเชียร์ ในวัย 17 ปี สามารถสอดแทรกขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จ เกมแรกในพรีเมียร์ลีกของเขา คือนัดที่ อาร์เซน่อล บุกไปเยือน แบล็คเบิร์น เมื่อเดือนกันยายน 2008 หลังจากที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปเล่นแทน ฟาน เพอร์ซี่ ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสนามในลีกให้กับสโมสร ด้วยวัย 16 ปี 256 วัน ส่วนประตูแรกของเขาที่ทำให้กับทีมชุดใหญ่ เป็นเกมคาร์ลิ่ง คัพ ที่ต้นสังกัดยำใหญ่ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 6 - 0 ... ฤดูกาล 2009 - 10 วิลเชียร์ ถูกปล่อยตัวให้กับ โบลตัน ทีมร่วมลีกยืมตัวไปใช้งาน และที่นั่น เขาก็ยังคงทำผลงานได้เป็นอย่างดี และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ โบลตัน อยู่รอดในพรีเมียร์ลีกต่อไป ... มาในฤดูกาลปัจจุบัน วิลเชียร์ กลับมาลงเล่นให้กับ อาร์เซน่อล และสามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมมาได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นเกินวัย ทำให้ ฟาบิโอ คาเปลโล่ โค้ชทีมชาติอังกฤษต้องเรียกเขามาใช้งาน โดยเขาได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ ในเกมที่อังกฤษพบกับ ฮังการี เมื่อ 11 สิงหาคม 2010 ถือเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 10 ที่ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ และเมื่อเขายิ่งเล่นยิ่งเก่ง ยิ่งทำให้ตกเป็นเป้าหมายของยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป จากนี้ต้องติดตามดูว่าเขาจะสร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลได้อีกมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะด้วยผลงานในสนาม หรือค่าตัวในการย้ายสโมสร ... และล่าสุด วิลเชียร์ ก็ได้รับการโหวตจากเพื่อนร่วมอาชีพให้ได้รับรางวัล PFA Young Player of the Year หรือนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ PFA ถือเป็นนักเตะของ อาร์เซน่อล คนที่ 5 ที่ได้รับรางวัลนี้ ต่อจาก โทนี่ อดัมส์ พอล เมอร์สัน นิโกล่า อเนลก้า และล่าสุดคือ เชส ฟราเบรกัส ในปี 2007 - 08 ด้วย รวมทั้งเขายังติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำปีของ PFA ด้วยเช่นกัน ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:18:55

ความคิดเห็นที่ 10 AMR : 31 Mario Gotze : Borussia Dortmund : Bundesliga Profile : Full name : Mario Gotze Date of birth : 3 June 1992 (age 18) Place of birth : Memmingen, Germany Height : 1.76 m หากเราย้อนเวลากลับไปเกือบ 20 ปีก่อน ทีมชาติเยอรมัน เคยมีนักเตะคนนึงที่มีฝีเท้าระดับแนวหน้าของยุโรป ทั้งเทคนิค ความคล่องตัว จินตนาการในการเล่น การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม รวมทั้งลูกนิ่งลูกเซตเพลย์ ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นรวมอยู่ในตัวของนักเตะที่มีฉายาว่า 'Super Mario' ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึง มาริโอ บาสเลอร์ ... กลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากทีมชาติเยอรมันขาดสีสันในแนวรุกทางริมเส้นไปนาน แต่ตอนนี้ ผมเชื่อว่า Super Mario คนใหม่ กำลังจะก้าวเข้ามาสร้างความเร้าใจให้กับแฟนบอลอินทรีเหล็กอีกครั้ง ใช่ครับ และชายที่ผมกำลังจะกล่าวถึงเขามีนามว่า มาริโอ เกิทเซ่ ... เกิทเซ่ เกิดที่ Memmingen เมืองที่อยู่ในแคว้นบาวาเรียน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 6 ขวบ กับสโมสร SC Ronsberg ก่อนที่จะย้ายไปเข้าทีมเยาวชนของ FC Eintracht Hombruch ในปีถัดมา และพออายุได้ 9 ขวบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็ได้ดึงเขามาเข้าทีมเยาวชนของสโมสร หลังจากที่เห็นถึงความสามารถของเด็กน้อยคนนี้ เกิทเซ่ ใช้เวลาร่วมกับทีมเยาวชนของ ดอร์ทมุนด์ ทั้งสิ้น 8 ปี จนกระทั่งวันที่ 21 พฤศจิกายน 2009 โอกาสของเขาก็มาถึง เมื่อเขาได้ลงเล่นในบุนเดสลีกาเป็นนัดแรก ในเกมที่ต้นสังกัดพบกับ ไมนซ์ 05 หลังจากถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทน ยาคุบ บลาซซีคลอฟสกี้ ในนาทีที่ 88 ของเกม และเกมนั้นจบลงด้วยผลเสมอกันไป 0 - 0 ... หลังจากที่ได้รับโอกาสในการลงสนามกับทีมชุดใหญ่อย่างประปรายในฤดูกาลก่อน มาถึงฤดูกาลนี้ เกิทเซ่ ก็สามารถช่วงชิงตำแหน่งในแผงมิดฟิลด์ของ ดอร์ทมุนด์ มาครอบครองได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก หรือถูกโยกมาเล่นทางริมเส้นฝั่งขวา เขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งความเร็ว เทคนิค รวมไปถึงการสร้างสรรค์เกม พรสวรรค์ที่มีอยู่ในตัวเขา ทำให้ใครหลายคนคิดถึง มาริโอ บาสเลอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มัทธีอัส ซามเมอร์ อดีตลิเบอโร่ผู้ยิ่งใหญ่ของทีมชาติเยอรมัน ออกมาหล่นความเห็นถึง เกิทเซ่ ว่า 'one of the best talents that we've ever had' เท่านี้ก็พอจะทำให้ใครหลายคนต้องหันมาจับตามองเด็กหนุ่มคนนี้กันบ้างแล้ว ... ส่วนในระดับทีมชาตินั้น เกิทเซ่ ติดทีมชาติเยอรมันตั้งแต่ ชุดอายุไม่เกิน 15 ปี 16 ปี 17 ปี และโดดมาสู่ทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปีของเยอรมันในปี 2010 ด้วยวัยเพียง 17 ปีเท่านั้น แต่ด้วยฝีเท้าที่น่าตื่นตะลึงจึงทำให้เขามีเวลาเล่นให้กับทีม 21 ปีของเยอรมันเพียง 2 นัด ก่อนที่จะถูก โยอัคคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมชาติเรียกตัวเข้าสู่ทีม และเขาได้ลงเล่นเกมแรกให้กับทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ ในนัดที่พบกับ สวีเดน เมื่อ 17 พฤศจิกายน 2010 (ใช้เวลาไม่ถึง 1 ปี นับจากที่ได้ลงเดบิวเกมบุนเดสลีกา สู่แมตช์ระดับชาติ ร้อนแรงจริงๆ นะ เกิทเซ่ - ผู้เขียน) โดยเขาเป็นตัวสำรองลงสนามแทนเพื่อนร่วมสโมสรอย่าง เควิน โกรทครอยท์ซ ในนาทีที่ 78 ของเกม และจนถึงปัจจุบัน เกิทเซ่ ก็ได้ลงเล่นให้กับเยอรมันไปแล้วทั้งสิ้น 4 นัด ทั้งที่เขายังอายุไม่เต็ม 19 ปีเลยด้วยซ้ำ เขาจึงยังมีเวลาอีกเหลือเฟือที่จะสร้างตำนานให้กับตัวของเขาเองและต้นสังกัด รวมทั้งทีมชาติต่อไป ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:20:00

ความคิดเห็นที่ 11 AMC : 23 Shinji Kagawa : Borussia Dortmund : Bundesliga Profile : Full name : Shinji Kagawa Date of birth : 17 March 1989 (age 22) Place of birth : Kobe, Japan Height : 1.73 m ถ้าเราจะพูดถึงการย้ายทีมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไป แมนฯ ยูไนเต็ด และจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ไป รีล มาดริด ว่าเป็นการก้าวเดินไปทีละสเต็ป ย้ายจากทีมระดับกลางไประดับใหญ่ และจากระดับใหญ่ไปสู่ทีมระดับใหญ่มากแล้ว การย้ายทีมของ ชินจิ คากาวะ ก็คงเรียกได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดที่น่าตื่นตะลึงทีเดียว เพราะหากเราย้อนหลังไปสัก 2 ฤดูกาลก่อน เขายังคงวิ่งเตะฟุตบอลอยู่ในลีกระดับรอง (J2) ของประเทศญี่ปุ่นอยู่เลย แต่ในปัจจุบัน เขาคือเพลย์เมคเกอร์คนสำคัญที่สุดของทีมชาติญี่ปุ่น และเป็นดาวรุ่งคนสำคัญที่กำลังจะพา โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เถลิงแชมป์บุนเดสลีกาเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีเลยทีเดียว ... คากาวะ เด็กหนุ่มจากโกเบ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเรียนอยู่ระดับประถม เขาเข้าร่วมทีม Kobe NK ก่อนที่จะย้ายเข้าสู่ทีมเยาวชนของ FC Miyagi Barcelona ด้วยวัย 12 ปี ในปี 2001 เขาอยู่ที่นั่น 5 ปี จนกระทั่งในปี 2006 เมื่อเขามีอายุ 17 ปี เขาก็ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพฉบับแรกกับ เซเรโซ่ โอซาก้า ซึ่งทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลคนแรกของเจลีก ที่ได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพทั้งที่ยังเรียนอยู่ แต่น่าเสียดายที่ในปีนั้น ต้นสังกัดของเขาจำต้องหล่นชั้นลงไปเล่นใน J2 หลังจากจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 17 จาก 18 ทีม คากาวะลงเล่นให้กับ เซเรโซ่ โอซาก้า ใน J2 ทั้งสิ้น 3 ฤดูกาลก่อนที่จะเป็นส่วนสำคัญที่พาทีมกลับขึ้นมาสู่ เจลีก ได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในปี 2009 เขาลงเล่นไป 44 นัด สามารถทำได้ถึง 27 ประตูเลยทีเดียว นอกจากจะได้ตำแหน่งดาวซัลโวของลีกในปีนั้นแล้ว เขาก็ยังพาต้นสังกัดกลับสู่ลีกสูงสุดได้อีกครั้งในฐานะรองแชมป์ ... ปี 2010 คากาวะ ก็ยังคงรักษาฟอร์มอันโดดเด่นของตัวเองเอาไว้ได้อย่างต่อเนื่อง 11 นัดแรกในเจลีก เขาสามารถทำได้ถึง 7 ประตู และจากผลงานอันยอดเยี่ยมและร้อนแรง ทำให้ไปเตะตาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ โค้ชของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่ขออนุญาตเบิกงบของสโมสรจำนวน 350,000 ยูโร ดึงตัวเขามาร่วมทีม หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม ดอร์ทมุนด์ ถึงกล้าเสี่ยงทุ่มเงินดึงนักเตะจากเอเชียที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในเกมฟุตบอลยุโรปมาใช้งาน แต่เขาก็พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความสามารถที่เขามีอยู่ได้อย่างไร้ข้อกังขา โดยเฉพาะในเกมดาร์บี้แมตช์ Revierderby ระหว่าง ดอร์ทมุนด์ กับ ชาลเก้ 04 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2010 คากาวะ ระเบิดฟอร์มทำคนเดียว 2 ประตู ก่อนพาเสือเหลืองบุกไปอัดราชันสีน้ำเงินถึง เฟลตินส์ อารีน่า 3 - 1 พร้อมเสียงเชียร์กระหึ่มไปทั่วสนาม เท่านี้ก็เพียงพอจะตอบคำถามได้แล้วว่าทำไม ดอร์ทมุนด์ ถึงกล้าเสี่ยงกับเด็กหนุ่มคนนี้ ... ในระดับชาติ คากาวะ ติดทีมชาติญี่ปุ่น ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2006 และเขาได้เป็นสมาชิกของทีมชาติชุดเล็ก เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่แคนาดา ก่อนที่ญี่ปุ่นจะจบเส้นทางในรอบ 16 ทีมสุดท้ายจากการดวลจุดโทษแพ้เด็กสาธารณรัฐเชก หลังจากนั้น คากาวะ ก็ขยับขึ้นมาสู่ทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปี เขาลงสนามไป 5 นัด และทำได้ 1 ประตู แต่ไม่ทันไร ทีมชาติชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ ทาเคชิ โอกาดะ ก็ได้เรียกใช้บริการของเขาเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2008 ในขณะที่เจ้าตัวยังมีอายุเพียง 19 ปีเท่านั้น กลางปี 2010 เขาก็ติดทีมชาติญี่ปุ่นไปลุยฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ด้วยเช่นกัน ... จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2011 เขาก็เป็นกำลังสำคัญที่พาทีมชาติญี่ปุ่นผงาดคว้าแชมป์ เอเอฟซี เอเชี่ยน คัพ ที่กาตาร์ โดยเฉพาะเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เกมบิ๊กแมตช์ที่ญี่ปุ่นต้องโคจรมาพบกับเจ้าภาพกาตาร์ เขาทำ 2 ประตูสำคัญช่วยให้ญี่ปุ่นพลิกกลับมาเอาชนะกาตาร์ไปอย่างสุดมันส์ 3 - 2 และก้าวไปสู่ตำแหน่งแชมป์ในเวลาต่อมา แต่น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บในเกมนั้น จนทำให้ต้องพักยาวมาจนถึงปัจจุบัน ไม่สามารถช่วย ดอร์ทมุนด์ ต้นสังกัดไล่ล่าแชมป์บุนเดสลีกาได้ในครึ่งฤดูกาลหลัง นี่อาจจะเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ ดอร์ทมุนด์ ยังไม่สามารถฉีกหนีผู้ตามและคว้าแชมป์ได้ในเวลานี้ ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:21:08

ความคิดเห็นที่ 12 AML : 26 Eden Hazard : Lille OSC : Ligue 1 Profile : Full name : Eden Hazard Date of birth : 7 January 1991 (age 20) Place of birth : La Louviere, Belgium Height : 1.70 m ทำไม เอแด็น อาซาร์ ถึงโดดเด่นที่สุดในฐานะนักเตะดาวรุ่งที่ยึดพื้นที่ทำมาหากินทางกราบซ้ายของสนาม เอาอย่างงี้ คุณลองจินตนาการตามสิ่งที่ผมกำลังจะบอก ด้วยวัย 18 ปี เขาได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมลีก เอิง (โทรฟี่ อูแอนแอฟเป) ต่อมาในวัย 19 ปี เขาได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมลีก เอิง อีกสมัย โดยถือเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ นับตั้งแต่มีการแจกรางวัลในปี 1994 และในวัย 20 ปี เขากำลังเป็นตัวเต็งที่จะได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีก เอิง รวมทั้งกำลังจะพาต้นสังกัดอย่าง ลีลล์ หักปากกาเซียน รวมทั้งหักหน้ายอดทีมอย่าง ลียง หรือ มาร์กเซย ขึ้นเถลิงแชมป์ลีก เอิง แค่นี้เพียงพอหรือยังที่จะทำให้เขาเป็นที่กล่าวขวัญถึงไปทั่วทั้งยุโรป ... อาซาร์ เกิดมาในครอบครัวนักฟุตบอล คุณพ่อเธียร์รี่ และคุณแม่การีน อาซาร์ ก็เป็นนักฟุตบอลทีมชาติเบลเยี่ยมมาก่อน รวมทั้งน้องชายอีก 3 คนของเขาต่างก็เล่นฟุตบอลด้วยเช่นกัน เขาเติบโตมากับทีมเยาวชนของ Royal Stade Brainois และ Tubize ก่อนที่จะมาหาความท้าทายที่ฝรั่งเศสกับทีมเยาวชนของ ลีลล์ ในปี 2005 และใช้เวลาเพียง 2 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้สำเร็จ ในฤดูกาล 2007 - 08 และเขาได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่เป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2007 ที่ ลีลล์ พบกับ น็องซี่ โดยในปีเดียวกันเขาได้สลับไปเล่นให้กับทีมสำรองของ ลีลล์ ในรายการ Championnat de France amateur หรือ CFA ซึ่งกล่าวคือ ลีกลำดับที่ 4 หรือลีกสำรองที่หลายทีมส่งผู้เล่นดาวรุ่งลงมาประชันฝีเท้ากัน อาซาร์ ลงสนามไป 11 นัด ทำได้ 1 ประตู พา ลีลล์ จบด้วยอันดับที่ 5 ของกลุ่ม ... ฤดูกาลถัดมา อาซาร์ เริ่มฉายแววความเก่งกาจของเขาออกมาให้แฟนบอลได้เห็น เมื่อได้รับโอกาสจาก รูดี้ การ์เซีย โค้ชคนใหม่ของทีมให้ลงสนามในทีมชุดใหญ่มากขึ้น ทั้งฤดูกาลเขาลงเล่นให้กับทีมไป 35 นัด ทำไป 6 ประตู พร้อมรับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีก ซึ่งถือเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ส่วนในฤดูกาล 2009 - 10 เขาเริ่มเป็นที่จับตามองของยักษ์ใหญ่ในยุโรป ไม่ว่าจะเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล จากอังกฤษ 2 ยักษ์ใหญ๋ในสเปนอย่าง รีล มาดริด และ บาร์เซโลน่า รวมถึง บาเยิร์น มิวนิค จากเยอรมัน ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขาก็ยังคงยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยน เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีก เอิง สมัยที่ 2 ติดต่อกัน รวมทั้งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกด้วย ... จนกระทั่งในฤดูกาลปัจจุบัน อาซาร์ ในวัย 20 ปี ก็ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พาต้นสังกัดขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของลีกได้ตั้งแต่กลางฤดูกาลจวบจนปัจจุบัน ซึ่งอาจจะทำให้ ลีลล์ ซึ่งห่างหายจากการเป็นแชมป์ลีกสูงสุดไปกว่า 57 ปี สมหวังในปีนี้ก็เป็นได้ นอกจากนี้เขาก็ยังได้ลุ้นรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของลีก เอิงเช่นกัน และหากเขาพา ลีลล์ คว้าแชมป์ได้สำเร็จ โอกาสที่เขาจะได้รับรางวัลนี้ก็ไม่น่าจะหลุดมืออย่างแน่นอน ... ส่วนในทีมชาติ อาซาร์ ติดทีมชุด 17 ปี และ 19 ปี มาตั้งแต่ปี 2007 และขึ้นมาเล่นในทีมชาติชุดใหญ่เมื่อปี 2008 ด้วยวัยเพียง 17 ปีกับ 316 วันเท่านั้น ถือเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับที่ 8 ในประวัติศาสตร์ของทีมชาติเบลเยี่ยม และถึงตอนนี้เขาติดทีมชาติไปแล้วถึง 19 นัดด้วยกัน แม้จะยังทำประตูไม่ได้ แต่เขาก็จ่ายให้เพื่อนทำประตูไปแล้วถึง 7 ลูกทีเดียว ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:22:23

ความคิดเห็นที่ 13 FW : 7 Alexis Sanchez : Udinese Calcio : Calcio Serie A Profile : Full name : Alexis Alejandro Sanchez Date of birth : 19 December 1988 (age 22) Place of birth : Tocopilla, Chile Height : 1.68 m จากเด็กน้อยที่ข้ามน้ำข้ามทะเลและข้ามทวีปมาหาความท้าทายในเกมฟุตบอลที่ยุโรป จากเด็กน้อยที่มีค่าตัวเพียง 3 ล้านยูเอสดอลลาร์ในการย้ายทีมเมื่อ 5 ปีก่อน แต่ปัจจุบันค่าตัวที่ต้นสังกัดของเขาตั้งเอาไว้ พุ่งสูงถึง 30 ล้านยูโร จากเด็กน้อยที่แทบไม่มีใครรู้จักมาก่อน แต่ปัจจุบัน เขาคือดาวรุ่งที่มีฝีเท้าร้อนแรงที่สุดในเวที กัลโช่ เซเรีย อา เขาคือ อเล็กซิส ซานเชซ ... อเล็กซิส หรือที่แฟนบอลชาวชิลีเรียกเขาว่า 'Nino Maravilla' เกิดที่เมืองโทโคปิลญ่า ในชิลี เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับทีมเยาวชนของ Cobreloa ในปี 2003 ก่อนที่จะขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในอีก 2 ปีต่อมา ด้วยวัย 17 ปี โดยเขาถือเป็นนักฟุตบอลที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในรายการ โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส หรือเกมชิงแชมป์สโมสรของทวีปอเมริกาใต้ด้วย (ผมยังหาสถิติเป็นตัวเลขไม่ได้ว่าเขาลงเล่นด้วยวัยกี่ปีกับอีกกี่วัน - ผู้เขียน) ในฤดูกาลถัดมา เขาทำไป 6 ประตูจาก 12 นัดที่ลงสนามให้กับต้นสังกัด จนทำให้ จิโอวานนี่ กัลลิโอเน่ โค้ชของ อูดิเนเซ่ ในขณะนั้น ตัดสินใจดึงเข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัวเพียง 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เขาก็ยังไม่ได้ลงสนามให้กับต้นสังกัดใหม่ เพราะ อูดิเนเซ่ ปล่อยให้ โคโล-โคโล่ ยอดทีมในชิลี ยืมตัวไปใช้งานก่อน และเขาก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ โคโล-โคโล่ กวาดแชมป์ทั้ง Apertura และ Clausura ได้สำเร็จในฤดูกาลดังกล่าว ... หลังจากหมดสัญญายืมตัวจาก โคโล-โคโล่ อเล็กซิส ก็ยังคงถูกส่งไปให้ ริเวอร์เพลท ยักษ์ใหญ่ ในลีกอาร์เจนติน่า ยืมตัวใช้งานต่ออีก 1 ฤดูกาล และเขาก็พาต้นสังกัดคว้าแชมป์ Clausura ได้อีกเช่นกัน ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น อเล็กซิส ถูกเรียกตัวจากทีมชาติชิลี ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่แคนาดา (ในรายการที่ กุน อเกวโร่ และ อังเคล ดิ มาเรีย สร้างชื่อให้แฟนบอลทั่วโลกได้รู้จัก - ผู้เขียน) เขาและเพื่อนพ้องอย่าง เมาริซิโอ อิสล่า และ อาร์ตูโร่ วิดาล ช่วยกันพาชิลี ชุดที่หลายคนให้ความเห็นว่าเป็นชุดแห่งอนาคต ตะลุยฝ่าเข้าไปคว้าอันดับที่ 3 ของรายการไปครองได้อย่างน่าชื่นชม แม้จะมีเหตุการณ์วุ่นวายในเกมรอบรองฯ ที่พบกับ อาร์เจนติน่า ก็ตาม ... ข้ามมาในฤดูกาล 2008 - 09 อเล็กซิส ได้กลับมาสู่ อูดิเนเซ่ ต้นสังกัดที่แท้จริงของเขาอีกครั้ง และเขาก็เริ่มเป็นที่จับตามองของแฟนบอลมากขึ้นในฤดูกาล 2009 - 10 เมื่อลงสนามช่วยทีมไปถึง 36 นัด และทำได้ 6 ประตู โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นในรายการ โคปปา อิตาเลีย ที่พาทีมเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะพ่ายให้กับ โรม่า ด้วยสกอร์รวม 1 - 2 ... ในฟุตบอลโลก 2010 อเล็กซิส ก็เป็น 1 ใน 23 นักเตะทีมชาติชิลีที่ได้ไปโชว์เพลงแข้งที่ประเทศแอฟริกาใต้เช่นกัน และเขาก็โชว์ฟอร์มอันโดดเด่น พาชิลีผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ แม้ว่า ชิลี จะพ่ายให้กับ บราซิล ไป 0 - 3 แต่ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ อเล็กซิส ก็ถูกจับตามองจากโค้ชและแมวมองของหลายทีมในยุโรปแล้ว ในทีมชาติชุดใหญ่ อเล็กซิส ติดทีมชาติไปแล้วถึง 36 นัด และทำไปถึง 12 ประตู โดยเขายังเป็นเจ้าของสถิตินักเตะอายุน้อยที่สุดที่ติดทีมชาติ ด้วยวัยเพียง 17 ปี 4 เดือน กับ 8 วัน ในเกมที่ ชิลี เอาชนะ นิวซีแลนด์ 1 - 0 เมื่อ 27 เมษายน 2006 ... จนถึงในฤดูกาลปัจจุบัน อเล็กซิส ยังคงต่อยอดฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเขาได้อย่างไม่มีแผ่ว แม้ช่วงต้นฤดูกาล อูดิเนเซ่ จะเปิดตัวไม่สวยและจมอยู่ท้ายตาราง แต่พอ อเล็กซิส และ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ดาวซัลโวของลีกเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเริ่มเข้าฟอร์ม อูดิเนเซ่ ก็ค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมาเรื่อยๆ จนเข้ามาอยู่ในพื้นที่ลุ้นไปเล่น UCL ในฤดูกาลหน้า โดยเฉพาะในเกมที่พวกเขาบุกไปถล่มเอาชนะ ปาแลร์โม่ ถึงเรนโซ่ บาร์เรร่า 7 - 0 อเล็กซิส เหมาคนเดียว 4 ประตู ส่วนอีก 3 ประตูมาจากฝีเท้าของ ดิ นาตาเล่ ยิ่งทำให้ยักษ์ใหญ่ทั้งในอิตาลี และในยุโรป หวังที่จะคว้าตัวเขามาครอบครอง แม้ช่วงต้นฤดูกาล กาลาตาซาราย จะยื่นข้อเสนอ 20 ล้านยูโร เพื่อเป็นค่าตัวของเขามาให้ อูดิเนเซ่ พิจารณา แต่ จามเปาโล ปอซโซ่ ประธานสโมสรของ อูดิเนเซ่ กลับปฏิเสธไปอย่างไม่แยแส พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า 30 ล้านค่อยมาเจรจากันใหม่ ซึ่งหากดูจากฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลนี้แล้ว คำกล่าวของท่านประธานก็ดูไม่เกินเลยไปจริงๆ ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:23:39

ความคิดเห็นที่ 14 FW : 14 Javier Hernandez : Manchester United : Premier League Profile : Full name : Javier Hernandez Balcazar Date of birth : 1 June 1988 (age 22) Place of birth : Guadalajara, Mexico Height : 1.75 m หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศคว้าตัวกองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเม็กซิโก ที่มีนามว่า ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ ชิชาริโต้ แฟนปีศาจแดงหลายคนอาจเป็นห่วงและเกิดอาการวิตกกังวลว่า หนุ่มน้อยจากแดนจังโก้คนนี้ จะทำให้ภาพหลอนที่เคยเกิดขึ้นในช่วง 4 - 5 ปีมานี้ เกิดซ้ำให้เห็นอีกครั้งหรือไม่ เพราะทั้ง มานูโช่ หรือ มาเม่ บิราม ดิยุฟ ต่างก็ทำให้แฟนๆ ของปีศาจแดง ผิดหวังและส่งเสียงไปถึงทีมแมวมองของสโมสรกันอย่างอื้ออึงมาแล้ว แต่ทุกอย่างไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเจ้าถั่วน้อยกลับสำแดงพิษสงออกมาให้ทั้งแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทั่วทั้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เห็นถึงศักยภาพในการถล่มประตูของเขาได้เป็นอย่างดี ... ชิชาริโต้ เป็นลูกชายของอดีตกองหน้าทีมชาติเม็กซิโก อย่าง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กูเตียร์เรซ หรือ 'ชิชาโร่' เขาเริ่มเล่นฟุตบอลเมื่ออายุ 7 ขวบ และอีก 2 ปีต่อมา เขาก็ได้เข้าสู่ทีมเยาวชนของ C.D. Guadalajara จนได้เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในวัย 15 ปี เมื่อปี 2003 ในช่วงแรกที่เขาลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ กัวดาลาฮาร่า ชิชาริโต้ อาจจะยังไม่ได้รับโอกาสที่ดีในการลงสนาม 2 ฤดูกาลแรก เขาลงเล่นให้กับทีมไป 20 นัด และทำได้เพียงประตูเดียว แต่พอมาถึงฤดูกาล 2008 - 09 ชิชาริโต้ เริ่มได้รับโอกาสในการลงสนามมากขึ้น ในปีนั้นเขาลงเล่นไป 32 นัด และทำไปทั้งสิ่้น 7 ประตู จนในฤดูกาล 2009 - 10 เขาก็เริ่มโชว์ผลงานในการถล่มประตู จนทำให้แมวมองจากหลายสโมสรในยุโรปเริ่มจับตามองหนุ่มน้อยคนนี้ เฉพาะแค่เกมลีก 28 นัด แต่เขาถล่มไปถึง 21 ประตู ... ในระหว่างนั้น ทีมแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำโดย จิม ลอร์เลอร์ ก็ได้เดินทางไปที่เม็กซิโก เพื่อทำการพิสูจน์ฝีเท้าของเขา โดยใช้เวลา 3 สัปดาห์ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2010 เกาะติดผลงานของเขาอย่างเหนียวแน่น และได้ติดต่อกลับมายังสโมสรเพื่อบอกว่าเจ้าหนูคนนี้คือของจริง จะต้องทำอย่างไรก็ได้เพื่อคว้าตัวมาร่วมทีมให้ได้ ก่อนที่ค่าตัวของเขาจะพุ่งขึ้นหลายเท่าหลังจากจบทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกในกลางปี 2010 จนกระทั่งวันที่ 8 เมษายน 2010 ชิชาริโต้ ก็ได้ตกลงสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อย และเขาก็ได้เข้าไปร่วมชมเกม UCL ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ บาเยิร์น มิวนิค ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในอีกไม่กี่วันต่อมาด้วย ... 27 พฤษภาคม 2010 คือวันที่เวิร์คเพอร์มิตของ ชิชาริโต้ ผ่านการตรวจสอบ และทำให้เขาสามารถเข้ามาค้าแข้งในอังกฤษได้อย่างถูกต้อง และเขาจะเป็นนักเตะคนใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2010 โดยย้ายจาก กัวดาลาฮาร่า มาด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์ และเขาก็ถือเป็นนักเตะเม็กซิโกคนแรกของสโมสรด้วย ในช่วงกลางปี 2010 ศึกฟุตบอลโลกระเบิดขึ้นที่แอฟริกาใต้ ชิชาริโต้ ก็เป็นหนึ่งในนักเตะทีมชาติเม็กซิโก ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันด้วย และที่นั่นเองที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลก เริ่มรู้จักเขามากยิ่งขึ้น เขาทำไป 2 ประตู จากการลงสนาม 4 นัด โดยเหยื่อที่โดนเขาล่าตาข่ายได้ก็คือ ฝรั่งเศส และ อาร์เจนติน่า และช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายก่อนที่จะพ่ายความแข็งแกร่งของ อาร์เจนติน่า ตกรอบไป ... หลังจบศึกฟุตบอลโลก ชิชาริโต้ ก็ได้มาผจญภัยในลีกระดับแนวหน้าของโลกอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเพียงนัดแรกที่เขาลงเล่นให้กับต้นสังกัดใหม่อย่างเป็นทางการ เขาก็สามารถทำประตูได้ทันที ในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พบกับ เชลซี ในศึกคอมมิวนิตี้ ชิลส์ และช่วยให้ทีมเอาชนะและคว้าแชมป์ไปได้ด้วยสกอร์ 3 - 1 หลังจากนั้น ชิชาริโต้ ก็ก้าวเข้ามาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีม ไม่ว่าจะลงเล่นเป็นตัวจริง หรือถูกเปลี่ยนลงสนามมาเป็นตัวทีเด็ด จากการลงสนามทั้งสิ้น 42 นัด เขาสามารถทำได้ถึง 19 ประตู และไม่น่าจะหยุดเพียงเท่านี้ เพื่อเป้าหมายในการพาทีมเถลิงแชมป์ลีกเป็นครั้งที่ 19 ของสโมสร จากนี้และต่อไป ผลงานและฝีเท้าของเขาจะถูกจับจ้องจากสายตาของแฟนบอลทั่วโลกอย่างแน่นอน ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:24:51

ความคิดเห็นที่ 15 MANAGER : Andre Villas Boas :  F.C. Porto : Primeira Liga Portuguese Profile : Full name : Luis Andre de Pina Cabral de Villas-Boas Date of birth : 17 October 1977 (age 33) Place of birth : Porto, Portugal Height : 1.82 m หากแต่ โชเซ่ มูรินโญ่ จะกล้าขนานนามตัวเองว่าเป็น 'The Special One' แล้วล่ะก็ คนที่เหมาะสมกับฉายา 'The Special Two' ที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น อ็องเดร วิลลาส-โบอาส หัวหน้าโค้ชสุดมหัศจรรย์ของ ปอร์โต้ คนปัจจุบันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นที่มา ความสามารถ หรือแม้กระทั่งวาทะที่มีต่อสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องในวงการฟุตบอลทั้งหมด แม้เจ้าตัวจะไม่ค่อยรู้สึกยินดีนักที่ต้องถูกเปรียบเทียบกับ มูรินโญ่ ก็ตามที 'ผมรู้ว่าการเปรียบเทียบนี้ จะติดตามผมไปตลอดชีวิต แต่ผมไม่ใช่ตัวโคลนนิ่งของเขา ผมมีบุคลิกที่แตกต่างจากของ มูรินโญ่ โดยสิ้นเชิง และ มูรินโญ่ ก็จะสั่งสมความสำเร็จที่ผมจะไม่มีวันทำได้เท่าต่อไปด้วย' (คัดลอกประโยคนี้จากส่วนหนึ่งในคอลัมน์ World Soccer ของคุณมาเฟียรี่ ในหนังสือพิมพ์ สตาร์ ซอคเกอร์ ฉบับวันที่ 6 เมษายน 2554 หน้า 19 - ผู้เขียน) ... หลายคนคงแปลกใจว่าทำไมคนหนุ่มที่มีอายุเพียง 33 ปี อย่างเขา ถึงได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลปัจจุบันถึงเพียงนี้ แต่ถ้าลองไล่ประวัติของเขาดู จะไม่แปลกใจเลยถ้ารู้ว่าอาจารย์ของเขามีนามว่า เซอร์ บ๊อบบี้ ร็อบสัน และ โชเซ่ มูรินโญ่ ... ทั้ง วิลลาส-โบอาส และ มูรินโญ่ พบกันครั้งแรกเมื่อครั้งที่ มูรินโญ่ ยังเป็นผู้ช่วยของ ร็อบสัน ที่ปอร์โต้ ขณะที่เขามีอายุเพียง 16 ปี ด้วยความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งยังเชี่ยวชาญทางด้านภาษาอังกฤษ ทำให้ วิลลาส-โบอาส ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นทีมงานของปู่บ๊อบ ในการสังเกตการณ์ทีมคู่แข่ง และเมื่อเขาอายุได้ 17 ปี เขาก็สอบผ่านการอบรมโค้ชระดับ C licence ของยูฟ่า ที่ประเทศสก็อตแลนด์เป็นที่เรียบร้อย และได้มีโอกาสลองคุมทีม British Virgin Islands เป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะถูกเรียกตัวจาก มูรินโญ่ ให้เข้ามาเป็นผู้ช่วยในปี 2003 ระหว่างที่ มูรินโญ่ คุมทีม ปอร์โต้ นั่นเอง ... เส้นทางของเขาเหมือนกับลอกเลียนแบบมาจาก มูรินโญ่ ไม่มีผิดเพี้ยน เขาเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ มูรินโญ่ ทั้งที่ ปอร์โต้ เชลซี ไล่เรียงมาถึง อินเตอร์ มิลาน ก็เหมือนกับที่ มูรินโญ่ ติดสอยห้อยตาม ปู่บ๊อบ และ หลุยส์ ฟาน กัล ไปประสบความสำเร็จที่ ปอร์โต้ และ บาร์เซโลน่า ... มูรินโญ่ เคยสร้างชื่อให้ตัวเองกับผลงานพาต้นสังกัดผงาดคว้าทริปเปี้ลแชมป์ ในฤดูกาล 2002 - 03 เมื่อครั้งที่ยังคุม ปอร์โต้ และ วิลลาส-โบอาส ก็กำลังจะพา ปอร์โต้ เดินไปสู่จุดนั้นอีกครั้ง หลังจากที่เขานำทีมคว้าแชมป์ลีกไปได้ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งที่ยังเหลือเกมการแข่งขันอีกถึง 5 นัด ซึ่งเขาถือเป็นโค้ชที่อายุน้อยที่สุดอันดับที่ 3 ที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ แต่ที่สุดยอดไปกว่านั้น ในขณะที่เกมลีกยังเหลืออีก 2 นัดก่อนจบฤดูกาล ปอร์โต้ ยังคงไม่พบกับความปราชัยเลยแม้แต่นัดเดียว แบ่งเป็นชนะ 26 นัด และเสมอไป 2 นัดด้วยกัน ทำแต้มฉีกหนีผู้ตามอย่าง เบนฟิก้า ไปถึง 21 คะแนน ขอโทษครับ สถิติเช่นนี้แม้แต่ มูรินโญ่ ก็ไม่เคยทำได้มาก่อน ... รวมทั้งเกมฟุตบอลถ้วยอย่าง โปรตุกีส คัพ เขาก็พาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปได้แล้ว หลังจากผ่านคู่แค้นอย่าง เบนฟิก้า ไปได้ด้วยกฏอเวย์โกล์ ในรอบรองชนะเลิศ และจะต้องพบกับ วิคตอเรีย กิมาไรซ์ ในรอบชิงฯ วันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ส่วนถ้วย ยูโรปา ลีก ปอร์โต้ ก็ก้าวเท้าเข้าสู่รอบชิงฯ ไปแล้วกว่าค่อนตัว หลังจากที่ถล่มเอาชนะ บียาร์รีล คู่แข่งจากสเปน ไปได้ถึง 5 - 1 ในเกมรอบรองฯ นัดแรก ซึ่งก็มีโอกาสที่พวกเขาจะต้องพบกับ เบนฟิก้า อีกครั้ง หลังจากที่ เบนฟิก้า ก็เอาชนะ บราก้า ไปได้ในรอบรองฯ นัดแรก อีกคู่เช่นกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง รับรองได้เลยว่าฟุตบอลยูโรปา ลีก รอบชิงฯ ในปีนี้ ระอุสุดขีดแน่นอน ... หากใครจะกล่าวว่านี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เด็กหนุ่มจากปอร์โต้คนนี้สามารถทำได้แล้ว แต่ผมกลับคิดแค่ว่า นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่เขาได้สรรค์สร้างมันขึ้นมาเท่านั้นเอง และก้าวต่อจากนี้ไป ทุกอย่าง ทุกความสำเร็จที่รอเขาอยู่ มันจะเป็นประวัติศาสตร์และเป็นตำนานที่ถูกกล่าวขวัญกันอีกนับร้อยปีอย่างแน่นอน ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:30:18

ความคิดเห็นที่ 16 และเมื่อได้รายชื่อครบทั้ง 11 คน 11 ตำแหน่ง รวมทั้งโค้ชแล้ว ก็จะสามารถจัดทีมสุดยอดดาวรุ่งได้ดังนี้ ... - - - - - - - - - - - - - - - - - -  Szczesny - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Gaspar - - - - - Subotic - - - - - Hummels - - - - - Coentrao - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Wilshere - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Gotze - - - - - - - Kagawa - - - - - - - Hazard - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - Hernandez - - - - - - Alexis - - - - - - - - - - - - - - ก่อนอื่นต้องบอกว่า บทความชิ้นนี้ผมเริ่มเขียนครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน และเขียนไล่เรียงมาจนเสร็จตอนหัวค่ำของวันที่ 2 พฤษภาคม จึงอาจจะทำให้ข้อมูลหลายๆ ส่วนผิดเพี้ยนกันไปบ้าง อย่างเช่น ประตูเสียของ ดอร์ทมุนด์ กับ บาร์เซโลน่า อันนี้แก้ไปมาหลายรอบมาก การคว้าแชมป์ของ ดอร์ทมุนด์ ที่ในส่วนของ คากาวะ กล่าวว่ายังไม่ได้แชมป์ หรืออันดับของ ลีลล์ กับ มาร์กเซย ที่ผลัดกันขึ้นจ่าฝูงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือต้องยอมรับว่าไม่สามารถที่จะนำข้อมูลทั้งหมดมาเขียนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก เนื่องด้วยหน้าที่การงานที่ทำอยู่ รวมทั้งอุปสรรคในการหาข้อมูล แต่พอข้อมูลของ มาริโอ กาสปาร์ ซึ่งเป็นตำแหน่งสุดท้ายที่ผมพิมพ์เสร็จสิ้น บอกตามตรงว่าเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยทีเดียว : ) ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:30:57

ความคิดเห็นที่ 17 พอมาถึงส่วนนี้ แน่นอนว่ามีนักเตะหลายๆ คนที่แฟนบอลท่านอื่นอาจสงสัยว่าหายไปไหน เพราะฉะนั้นจึงขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงให้ทราบเลยละกันครับ ... แกเร็ธ เบล ไปไหน ... อย่างที่แฟนบอลหลายท่านทักท้วงมาตั้งแต่ปีก่อน ว่าทำไมไม่มีชื่อของ แกเร็ธ เบล ในตำแหน่งตัวรุกริมเส้นด้านซ้าย มาถึงปีนี้ก็ยังไม่มีชื่อของเขาอีกเช่นเดิม ก็ต้องขออธิบายว่า สำหรับผม ไม่ได้มีอคติอะไรกับ เบล อย่างแน่นอน แต่ผมคิดว่า เขาเกินคำว่าดาวรุ่งไปแล้ว แม้อายุจะยังอยู่ในเกณฑ์การคัดเลือกก็ตาม แต่เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของ สเปอร์ส หลายฤดูกาลแล้ว รวมทั้งจากฟอร์มการเล่นในปีนี้ ตามความคิดของผมนะครับ ผมว่า เบล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ เพียงไม่กี่นัดเท่านั้น และโดยหลักก็มาจากฟอร์มการเล่นใน UCL ด้วย ซึ่งเมื่อเทียบกับ อาซาร์ ที่รักษาระดับผลงานของตัวเองเอาไว้ได้ตลอดทั้งฤดูกาล ผมจึงเลือก อาซาร์ ในตำแหน่งนี้แทนครับ ... รวมทั้ง นูริ ซาอิน ก็เข้าข่ายนี้เช่นกัน อายุยังอยู่ในเกณฑ์ แต่เขาก็ขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ มาหลายฤดูกาลแล้ว ผมจึงไม่ได้เลือกมาติดทีมชุดนี้ อ่อ เมซุต โอซิล ก็ด้วยนะครับ เล่นชุดใหญ่มานานเกินคำว่าดาวรุ่งไปแล้ว ... โกเอนเตรา มาได้ไง ... คนนี้ ตำแหน่งนี้ ในปีนี้ ขออนุญาตเป็นข้อยกเว้นละกันครับ เพราะหาแล้วหาอีก มองแล้วมองอีก ไม่มีแบ็คซ้ายดาวรุ่งคนไหนโดดเด่นขึ้นมาเลยจริงๆ จนสุดท้ายต้องยอมเลือก โกเอนเตรา วัย 23 ปีหมาดๆ มาติดทีมชุดนี้ ปีหน้าจะพยายามหาให้อายุไม่เกิน 22 ปีครบทั้ง 11 ตำแหน่งครับ ... เสียดายที่ฟอร์มตก ... นักเตะที่ผมคิดว่าน่าจะมาอยู่ในทีมชุดปีนี้ได้ แต่กลับหล่นหายไปมีหลายคนเลยทีเดียว คือผมก็เริ่มๆ มองไว้ตั้งแต่เปิดฤดูกาลแล้วล่ะครับว่าจะเอาใครมาติดทีมบ้าง แต่อย่างที่บอก พวกเขาเหล่านี้ไม่สามารถยืนระยะรักษาฟอร์มการเล่นของตัวเองเอาไว้ได้ทั้งฤดูกาล จนสุดท้ายแล้ว ผมต้องยอมตัดออกจากทีมไป นักเตะที่ว่ามาก็มี ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ มิดฟิลด์ตัวรุกของ ปาแลร์โม่ / อันเดรีย ชูร์เร่ และ เลวิส โฮลท์บี้ 2 ดาวรุ่งจาก ไมนซ์ 05 และ เซซ่าร์ อัสปิลิกัวต้า แบ็คขวาของ มาร์กเซย ที่บาดเจ็บจนต้องพักทั้งฤดูกาล นอกจากนั้นก็มีอีกหลายคนที่ฟอร์มดี แต่ว่าเพิ่งจะมารีดฟอร์มได้ในช่วงท้ายฤดูกาลก็เลยไม่ติดทีมชุดนี้เช่นกัน ดังเช่น อาเบล เอร์นานเดซ กองหน้าของ ปาแลร์โม่ หรือ เอดูอาร์โด้ ซัลวิโอ กองหน้าจาก เบนฟิก้า ... ปีนี้ไม่มี แต่ปีหน้าอาจจะมาแน่ ... มีอีกหลายคนที่ยังไม่ติดทีมในปีนี้ แต่ให้จับตามองไว้ ปีหน้ามีโอกาสที่ผมจะเลือกมาติดทีมสุดยอดดาวรุ่งฤดูกาล 2011 - 12 อย่างเช่น ลูคัส เปียซอน กองหน้าคนใหม่ของ เชลซี หรือ เนย์มาร์ และ เปาโล กานโซ่ ที่หากเลือกย้ายมาค้าแข้งในยุโรป ก็น่าติดตามฟอร์มมากทีเดียว รวมทั้งนักเตะดาวรุ่งในอังกฤษหลายๆ คนก็น่าสนใจไม่น้อย ทั้ง คอร์นอร์ วิคแฮม กองหน้าของ อิปสวิช ที่หลายทีมในพรีเมียร์ลีกกำลังล่าลายเซ็นของเขาอยู่ หรืออย่าง อเล็กซ์ แชมเบอร์เลน ปีกนรกแตกจาก เซาธ์แฮมป์ตัน คนนี้ก็น่าสนใจ หากได้ย้ายมาอยู่กับยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีก หรือข้ามไปที่กัลโช่ เซเรีย อา ดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดของอิตาลีก็คงหนีไม่พ้น ลอเรนโซ่ คริเซติก มิดฟิลด์ของ อินเตอร์ มิลาน หรือในบุนเดสลีกา เยอรมัน เวทีที่พร้อมให้โอกาสดาวรุ่งขึ้นมาพิสูจน์ฝีเท้าเหมือนอย่างเด็กๆ ของเสือเหลืองในปีนี้ ... ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม แล้วพบกันใหม่ในฤดูกาลหน้า สวัสดีครับ : ) ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:31:54

ความคิดเห็นที่ 18 เข้ามาเก็บข้อมูล เด็กดอร์ทมุนด์ติดเยอะอยากให้อยู่กับดอร์ทมุนด์ต่อไปในฤดูกาลหน้า เฮียบอยว่าดอร์ทมุนด์จะเก็บเด็กชุดนี้ไว้กับทีมได้กี่คนอ่ะ จากคุณ : Su Di Noi เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:38:45

ความคิดเห็นที่ 19 โหวตครับ !!! จากคุณ : ชิววี่ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:40:39

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ จากคุณ : NINEINLOVE เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:41:21

ความคิดเห็นที่ 21 เลือกได้ถูกใจจริงๆครับ ยิ่ง DC คู่ของดอร์ทมุนด์ นี่ยังไงก็ต้องติด ส่วน DR นี่ผมว่าน่าจะเป็นเจ้า อัตซึโตะ ยูชิดะ ของ ชาลเก้ 04 นะรับผลงานดีต่อเนื่อง แต่อายุเกินไปปีนึง พอๆกับโคเอนทรา ไม่รู้จะพอได้ไหม จากคุณ : followpum เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:41:52

ความคิดเห็นที่ 22 แบ็คซ้ายขอส่ง Georgi Schennikov ของ CSKA เข้าประกวดครับ จากคุณ : Paladay เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:53:22

ความคิดเห็นที่ 23 สุดยอดครับ ให้กิ๊ฟ+โหวตครับ สงสัยจขกท.คงจะเป็นพวกชอบเล่น FM แล้วซื้อพวกดาวรุ่งมาปั้นเหมือนผมแน่ๆเลย (ที่ว่ามาในนี้ผมเคยซื้อมาลองเล่นแล้วเกือบทุกคน โดยเฉพาะพวกนักเตะเยอรมันที่ว่ามา เจ๋งมาก) จากคุณ : A E Y A U D D A เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:55:22

ความคิดเห็นที่ 24 กำลังจะบ่นว่า  นูริ ซาอิน ไม่ติดได้ไง อ่านคำอธิบายก็โอเคครับ โหวต.... จากคุณ : NoNameLFC เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:15:43

ความคิดเห็นที่ 25 กำลังจะแซวเรื่อง Fabio Alexandre Silva Coentrao อายุเกินเลย 555 แจ๋วครับ กระทู้นี้ หวังว่าปีหน้าจะมีเด็กม้า เด็กหมี มาติดเยอะ ๆ แบบดอร์ทมุน ปีนี้บ้างนะ จากคุณ : yongzaa เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:18:21

ความคิดเห็นที่ 26 ก่อนนอนขออนุญาตตอบข้อความของเพื่อนๆ ที่เข้ามาคอมเมนต์ก่อนนะครับ ... น้องแตง Su Di Noi : ถ้า คล็อปป์ ยังคงอยู่กับทีม เขาไม่น่าจะยอมปล่อยเด็กๆ ในสังกัดให้กระจัดกระจายออกไปแน่ เพราะ ดอร์ทมุนด์ เองก็ไม่ได้มีความจำเป็นด้านการเงิน ที่จะต้องขายนักเตะกินเลย นอกเสียจาก ยักษ์ใหญ่หรือทีมเงินหนาอย่าง รีล มาดริด เชลซี แมนฯ ซิตี้ จะทุ่มบ้าเลือดเพื่อคว้าตัวเด็กเสือเหลืองไปครอง ... คุณชิววี่ : ขอบคุณครับ !!... คุณ NINEINLOVE : ยินดีครับ ขอบคุณเช่นกันครับ ... คุณ followpum : จริงๆ ในตำแหน่งแบ็คขวาและซ้ายปีนี้ เป็นตำแหน่งที่ผมเลือกยากมากๆ ไม่มีดาวรุ่งคนไหนที่โดดเด่นขึ้นมาเลย อูชิดะ ผมเองก็เล็งไว้เหมือนกัน เสียดายที่อายุเกิน ส่วน โกเอนเตรา อย่างที่บอกครับ หาแบ็คซ้ายคนอื่นไม่ได้แล้วจริงๆ เลยจำยอมต้องเลือกเขาแม้อายุจะเกินเกณฑ์ที่ตัวเองตั้งไว้ก็ตาม ... คุณ Paladay : โอ้ คนนี้ผมไม่รู้จักเลยครับ แต่ขอบคุณครับ นักเตะทุกคนที่เพื่อนๆ ในบอร์ดแนะนำมา ผมจดบันทึกไว้ติดตามฟอร์มแน่นอน : ) ... คุณ A E Y A U D D A : ขอบคุณมากครับ แต่เกม CM FM ผมไม่ได้เล่นตั้งแต่ CM3 แล้วอ่ะครับ FM นี่ไม่เคยเล่นเลย แหะๆ ... คุณ NoNameLFC : ครับ ซาฮิน อายุยังอยู่ในเกณฑ์ แต่ขึ้นชั้นมาเล่นชุดใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ 4 - 5 ปีแล้ว ก็เลยไม่ขอเลือกมาอยู่ในทีมครับ เปิดพื้นที่ให้เด็กที่เพิ่งพุ่งพรวดขึ้นมาจริงๆ ดีกว่า ... คุณย้ง yongzaa : ตอนแรกกะจะใช้โควต้าเด็กเส้นเจ้าของบทความ เลือก โซเรนเซ่น มาแล้ว (หาแบ็คขวาไม่ได้ หักดิบเลือกเด็กทีมตัวเองซะเลย) แต่ไม่เอาดีกว่า เอาตามฟอร์มจริงๆ ดีแล้ว 555 ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:24:53

ความคิดเห็นที่ 27 แบ๊คซ้าย ขอเสนอชื่อ คอนสแตนติน เราช์ ของฮันโนเวอร์ ที่กำลังบี้กับพี่เสืออยู่ตอนนี้ครับ จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:25:42

ความคิดเห็นที่ 28 เสียดายคนนี้ เพราะปีนี้คู่แข่งหินเหลือเกิน แต่ปีหน้าคงเบียดกับคนอื่นสนุกแน่คือ Christian Eriksen ของ Ajax แต่ปีนี้ยังไงก็ต้องยอม 4 คนที่เลือกมา เพราะแต่ละคนเข้าตาจริงๆ จากคุณ : Paladay เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:38:35

ความคิดเห็นที่ 29 เอาไปจัดทีมใน Fm เลย จากคุณ : VanHelsing เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:47:15

ความคิดเห็นที่ 30 คนอื่นๆที่น่าสนใจก็มี กองกลาง Douglas Costa ของ Shakhtar Donetsk  / คู่แฝด Bender ของ BVB กับ Leverkusen กองหน้า Schurrle ของ Mainz จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:51:49

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆนะครับ เสียดายฟอร์มโบจังตอนอยู่บารี่มากมาย รู้สึกช่วงนี้ฟอร์มจะตกลงไปพอสมควร รีบๆเร่งฟอร์มกลับมาไวๆนะโบจัง ปล.ผมมีเรื่องอยากจะถามเรื่องฟอร์มการเล่นของว่าที่นักเตะใหม่ของยูเวนตุสอ่ะครับ นามว่า Andreas Beck พอดีผมไม่ได้ติดตามฟอร์มการเล่นของเค้าเลย ซึ่งมีข่าวว่ายูเว่อาจจะเซ็นสัญญาเป็นนักเตะคนแรกในตลาดซื้อ - ขายในซีซั่นหน้า อยากจะสอบถามเฮียบอยครับว่าฟอร์มการเล่นของเค้าเป็นยังไงบ้างครับ ปล2.ข่าวเกี่ยวกับ Beck อยู่ด้านล่างนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับผม แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 00:55:30 จากคุณ : Petong-InDy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:52:19

ความคิดเห็นที่ 32 Beck: จะตัดสินใจในเร็วๆนี้ Andreas Beck จะย้ายมา Juventus? นี่อาจคนแรกในตลาดซื้อ - ขายในซีซั่นหน้า เพื่อยืนยันถึงความเป็นไปได้ของแบ๊กขวาชาว German ของทีม Hoffenheim ที่จะย้ายทีม Ernst Tanner กล่าวว่า Beck ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของเขาในเร็วๆนี้ เมื่อเราพูดถึงเด็กคนนี้ เราไม่ต้องการให้มีความกดดันเกิดขึ้นกับเขาในการตัดสินใจ อย่างไรก็ตามเขามีสัญญากับทีมถึงปี 2012 เราเพียงแค่ต้องการความชัดเจน สำหรับ Andreas Beck ในวัย 24 ปีเติบโตขึ้นที่ Stuttgart และปัจจุบันเป็นกัปตันทีมของ Hoffenheim โดยเขามีค่าตัวอยู่ราวๆ 12 - 15 ล้านยูโร แต่ Hoffenheim ก็มีโอกาสเสียเขาฟรีๆในเดือนมกราคมปีหน้า ดังนั้นราคมก็อาจจะลดลง ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอลดราคาเหลือซัก 7-8 ล้านละกันนะ Hoffenheim จากคุณ : Petong-InDy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:54:13

ความคิดเห็นที่ 33 กองหน้าน่าสนใจอีกคน น่าจะมี Daniel Sturridge  มาโบลตันยิงกระจายเหมือนกัน จากคุณ : หอยทากติดเทอร์โบ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:14:52

ความคิดเห็นที่ 34 Kagawa !!!! จากคุณ : tottui เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:38:26

ความคิดเห็นที่ 35 แบ็คซ้ายขวาถ้าหาไม่ได้จริงๆผมว่าจัดเป็นระบบแบบหลัง 3 แล้วไปเพิ่มกองกลางจะเวิร์คกว่าไหมครับ       gk  cb cb cb      dmc       mc amr amc aml    st    st แค่ลองแสดงเสนอความคิดเห็นดูนะครับ แต่ที่คุณเลือกมา ตรงใจผมหลายตัวเลย จากคุณ : mr.yoshiki เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:53:04

ความคิดเห็นที่ 36 ซ้ำครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 01:54:00 จากคุณ : mr.yoshiki เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:53:47

ความคิดเห็นที่ 37 แบ๊คซ้ายที่เด่นๆก็มาร์แซล ชเมลเซอร์ของดอร์ทมุนด์ไงครับ คนนี้ฟอร์มสม่ำเสมอที่สุดในดอร์ทมุนด์แล้วมั๊ง อีกคนที่อยากแนะนำเลยคือ คอนสแตนติน เร้าช์ของฮันโนเวอร์  ที่ฮันโนเวอร์มาเบียดแย่งพื้นที่แชมเปี้ยน ลีกส์ กับบาเยิร์นไ้ด้ เร้าช์มีส่วนสำคัญมากเลย จากคุณ : มิโรสลาฟ ดุ๊กดิ๊ก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:14:42

ความคิดเห็นที่ 38 Álvaro Domínguez Javi Martínez แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 02:58:03 จากคุณ : Torres เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:55:36

ความคิดเห็นที่ 39 โหวตครับ ข้อมุลแน่นมาก ขอบคุณที่พิมพ์ให้อ่านครับ จากคุณ : หนุ่มงามแห่งทางช้างเผือก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 03:25:17

ความคิดเห็นที่ 40 โอ้ แต่ละชื่อเรานึกว่า 24-25 ปีกันหมดแล้วนะเนี่ย ได้ยินรู้จักมาตั้งแต่ยังเด็กจริงๆ จากคุณ : Skyline_CII เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 03:29:26

ความคิดเห็นที่ 41 22 นี่ยังดาวรุ่งอยู่หรอครับ ผมคิดว่า under 20 สะอีกที่เรียกว่าดาวรุ่ง ฮ่าๆ จากคุณ : DreliaEriZz เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 06:44:03

ความคิดเห็นที่ 42 ผมขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะครับ เจ้าของกระทู้ จริงๆ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย เท่าที่ผมดูมานะ ถ้าเจ้าของกระทู้ใช้เกณที่ว่า มาร์เซโล่ ของ รีลมาดริด ยังเข้าข่ายอยู่นะครับ เพิ่ง22 จะ23ในวันที่ 12 พฤษภานี้ แต่ผมว่ามาร์เซโล่ เล่นในลีกมาตรฐานสูงกว่า เจอเกมยากๆมากกว่า ฟอร์มเจ้าตัวก็ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แถมได้พิสูจน์ตัวเองในเกมยากๆหลายเกม น่าจะให้มาร์เซโล่ได้มากกว่า อัีนนี้ความคิดผมนะ หรือ erik pieters  แบ็กซ้าย ของ Psv ที่ติดทีมชาติฮอลแลนด์หลังจบฟุตบอลโลกเป็นประจำไปแล้ว คนนี้ก็ฟอร์มดีมาตลอด น่าจะเลือกเข้ามาได้ กว่าคนเกิน22ไปแล้วอย่าง โคเอนเทรา (แต่ถ้าเอาพึ่งจะมาอยู่ทีมฤดูกาลนี้สดๆร้อนๆ สองคนนี้คงไม่เข้าข่ายเจ้าของกระทู้ละมั้ง) ส่วนแบ็กขวา ฟาน เดอ วีล ไม่รู้เจ้าของกระทู้ ลืม ฟาน เดอ วีล แบ็กขวา ทีมชาติฮอลแลนด์ที่เข้าชิงบอลโลกที่อยู่ Ajax ไปรึป่าว ผมเองก็ยอมรับว่าไม่ค่อยได้ติดตามฟอร์มเจ้าตัวเหมือนกันเพราะว่า ลีกฮอลแลนด์ไม่ค่อยมีข้อมูลคะแนนการเล่นอะไรพวกนี้เท่าไร  แต่การที่อาแจ็กอยู่ที่สอง มีเค้าเป็นตัวหลักคั่วแชมป์อยู่ก็แสดงว่าคงไม่เข้เหร่นักกับผลงานเจ้าัตัว แต่อาจไม่เข้าเกณ ข้อ2ของเจ้าของกระทู้ก็ได้เพราะ อยู่กับอาแจ็กซ์มาพอสมควรแม้อายุยังน้อยก็ตาม แต่ผมว่า ฟาน เดอ วีล เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หรือ gassama ของ ลียง นั้นก็อายุยังน้อยมากเช่นกัน กองกลางตัวกลาง ผมขอเสนอชื่อ ever banega ของ บาเลนเซีย แทน คากาวะ เหตุผลก็คือ คากาวะ เจ็บไปนานจนเกินไป ถ้าเอาจากตัวเลือกที่ต้องสม่ำเสมอจริงๆ ผมว่าน่าจะให้ banega มากกว่า บาเลนเซียรั้งอันดับสามได้ตอนนี้Banega สำคัญมากเลยนะผมว่า เพราะ ถ้าให้ คากาวะได้ นี่ เบนเซม่าก็เข้าข่ายน่าจะได้เหมือนกัน(ช่วงหลังยิงกระจายแล้วก็เจ็บ รวมยิงไป12ประตู) เพราะพึ่งย้ายมาเหมือนกัน ผมชอบคากาวะมากเลยนะ(เพราะผมเชียร์ทีมชาติญี่ปุ่น) แต่เจ้าตัวไม่ได้เล่นตั้งแต่ช่วงปีใหม่แล้ว ซึ่งเวลา3-4เดือนที่หายไปมันนานจนเกินไปสำหรับ1ฤดูกาล ที่จะบอกว่าสม่ำเสมอได้ (3-4เดือนนี่มันเกือบครึ่งฤดูกาลเลย) สุดท้ายที่ผู้รักษาประตู ผมขอเสนอชื่อ โทมัส คราฟท์ ของบาร์เยิน ครับ ไม่รู้ชื่อนี้ตกสำรวจเจ้าของกระทู้หรือไม่ อีกคนก็คือ Nikolay Mihaylov ของ Twente ซึ่งคั่วแชมป์พรีเมียร์ดัช อยู่ตอนนี้ คนอื่นที่ผมดูแล้ว น่าจะเข้าข่าย แต่ไม่รู้เจ้าของกระทู้ ได้ตรวจสอบบ้างมั้ย(ถือว่าผมช่วยออกความเห็นนะ คนไหนตกสำรวจเจ้าของกระทู้ก็ตามดูผลงานเอาละกัน บางคนผมก็รู้ว่าเป็นตัวจริงตัวหลัก อายุไม่เกิน แต่ไม่ค่อยได้ตามผลงานเหมือนกัน) ก็มี Ranocchia(inter),Coutinho(inter) Renato Argusto(Bayer Leverkusen) Ki sueng yueng นักเตะเกาหลี ของ Celtic Mamadou Sakho (Paris saint -Germain)กองหลังวัย20ปีเทพในเกมManagerทั้งหลาย และพาปารีส อยู่อันดับต้นตารางของ ลีกฝรั่งเศส M'Vila ที่เจ้าของกระทู้พูดถึง Tim Matavz(FC groningen)กองหน้าจอมถล่มประตูจากลีกฮอลแลนด์ Georginio Wijnaldum(Feyenood)นี่ก็ยิงไป14ประตู จากลีกฮอลแลนด์ส่งเข้าประกวด(รีลมาดริด,เชลซี มิลาน ลิเวอร์พูล สนใจหมอนี่อยู่) Douglas (Twente) Andre Ayew(Marseille)ผมว่าดูจากสถิติหมอนี่ก็โอเคอยู่นะ หลายคน ที่จัดว่าไม่เข้าข่าย ก็น่าจะมี บุสเกต์ ของบาร์เซโลน่า ปาโต้ มิลาน กุน แอตมาดริด เพราะว่าเจ้าของกระทู้น่าจะจัดพวกนี้เกินดาวรุ่งไปแล้วใช่มั้ย เข้าข่ายระดับยุโรปหรือระดับโลกอยู่แล้ว จริงๆผมว่าจะช่วยหามากกว่านี้ แต่ไม่ไหว ง่วงแล้วฮะ ผมมาแชร์ความเห็นช่วยๆกันนะฮะ ตอนแรกว่าจะไปนอนเห็นกระทู้นี้เลยนั่งช่วยหาตั้งแต่ตี2 ฮ่าๆ ขอบคุณมากผมได้รู้สถิตินักเตะดาวรุ่งหลายคนเลย ถ้าไม่เห็นกระทู้นี้ผมไม่นั่งหานะนี่! ไว้คุยกันฮะเจ้าของกระทู้ JOkerVirus จากคุณ : JOkerVirus เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 06:44:03

ความคิดเห็นที่ 43 ดอร์ทมุน ติดเยอะดีครับ แอบดีใจ เพราะ ดอร์ทมุน ชุดนี้ พลังขับเคลื่อน คือนักเตะหนุ่มๆในทีมนี่เอง จากคุณ : พริบพรรณดาว เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 07:40:42

ความคิดเห็นที่ 44 ตำแหน่งแบ๊คขวา หากวัดจากความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่น ผมยกให้ เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล ของ อาแจ๊กซ์ เบียดเข้ามาในใจมากกว่าครับ แต่อาจจะเนื่องด้วยที่ว่าลีกฮอลแลนด์ไม่ค่อยได้รับความนิยมในบ้านเรา ก็ยกประโยชน์ให้จำเลยไปครับ อิอิอิ อีก 4 รายที่น่าเสียดาย ไม่ติดโผในครั้งนี้ในความคิดของผม คือ ยานน์ เอ็มวีล่า ของ แรนส์, ดาวิด  ออสปิน่าประตูชิลีจาก นีซ (แต่ปีหน้าอายุคงเกินแลว ฮา...) ตำำแหน่งกลางรุก ฮาเวียร์ ปาสตอเร่ จาก ปาแลร์โม่  กองหน้า เนย์มาร์ จากซานโต๊ส ดีที่ว่า  เอเดน  ฮาซาร์ด กับ ชิชาริโต้ติดมา ไม่งั้นมีเคือง เหอๆๆ จากคุณ : บาทาหยอกเย้าวายุ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 08:20:36

ความคิดเห็นที่ 45 ถูกใจผู้จัดการทีม อิอิ จากคุณ : howk_ky เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 08:46:10

ความคิดเห็นที่ 46 ปีหน้าเดาว่าน่าจะมี Thiago ของบาร์ซ่า ป.ล. กระทู้เยี่ยมมากครับ จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 08:55:32

ความคิดเห็นที่ 47 ขออนุญาตลัดคิวตอบ (ตอบแบบรวมๆ เลยละกันครับ) โดยเฉพาะ คุณ JOkerVirus ที่อยู่ตั้งแต่ตี 2 จนถึง 6 โมงเช้า เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน : ) ... มาร์เซโล่ บาเนก้า เบนเซม่า พวกนี้ผมยกให้อยู่กลุ่มเกินคำว่าดาวรุ่งไปแล้ว แม้อายุจะยังไม่เกิน 22 ก็ตามที เพราะเราเห็นเขาขึ้นสู่ชุดใหญ่ของสโมสรมา 2 - 3 ปีแล้ว ... ส่วน ฟาน เดอ วีล ไม่ได้ลืมหรือตกสำรวจครับ แต่ว่าเขาอายุ 23 แล้วก็เลยไม่ได้เลือกมาด้วย เพราะถ้าอายุยังไม่เกิน 22 คนนี้คือคนแรกที่ผมจะเลือกมาเลยล่ะครับ (จนทำให้ตำแหน่งแบ็คขวาเป็นตำแหน่งสุดท้ายที่ผมพิมพ์) ... คราฟท์ ตอนแรกก็จะเอามาอยู่ในทีมเช่นกันครับ แต่ว่าฟอร์มโดยรวมผมยกให้ เซคเซสนี่ ยังเหนือกว่าครับ ... ราน็อคเคีย กับ คูตินโญ่ ผมว่าฟอร์มไม่ดีเอาซะเลยนะครับ ... ส่วนคนอื่นๆ ที่น่าจะติดอยู่ในทีม แต่บางคนมันทับตำแหน่งกับคนที่ยังไงก็ต้องติดอ่ะครับ ก็เลยไม่ได้เลือกมา อย่างตำแหน่งกลางรับ ผมไม่ต้องมองใครอื่นเลย ในเมื่อ วิลเชียร์ เล่นได้เยี่ยมขนาดนี้ หรือกองหน้าก็เช่นกัน ผมว่าทั้ง อเล็กซิส และ ชิชาริโต้ คือที่สุดในปีนี้แล้ว ก็เลยไม่ได้เลือกคนอื่นมาครับ (อังเดร อายิว ตอนแรกก็ชั่งใจอยู่เหมือนกันครับ) ... ขอบคุณที่เข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันครับทุกๆ ท่าน : ) ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 09:20:43

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากครับ ใจผม อยากให้ห้องนี้ มีกระทู้อย่างนี้มากๆ อยากให้เยาวชนเข้ามาอ่านกันเยอะๆ กระทู้เกรียนก็จะลดลงไปเอง ขอบคุณครับ จากคุณ : papamint เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 09:30:47

ความคิดเห็นที่ 49 คุณ 123 ปลาฉลามขึ้นบก คุณมิโรสลาฟ ดุ๊กดิ๊ก ขออนุญาตตอบแพ็คคู่แฟนบอลเยอรมันครับ : ) ... คอนสแตนติน เราช์ คนนี้ไม่เคยเห็นฟอร์มเลยครับ แต่คุ้นๆ เคยได้ยินชื่อเหมือนกัน จะติดตามดูฟอร์มเขาครับ ... มาร์แซล ชเมลเซอร์ อายุ 23 แล้วครับ เลยไม่ได้จัดอยู่ในทีม ส่วน สเวน เบนเดอร์ ผลงานดี แต่ยังเบียดคนอื่นไม่ไหวอ่ะครับ ก็เลยไม่ได้เลือกเช่นกัน จริงๆ นักเตะ ดอร์ทมุนด์ ผมเล็งไว้ทุกรายเลยนะครับ แต่สุดท้ายเลือกมาได้ 4 คน ... ชูร์เร่ อย่างที่ผมบอกข้างต้นครับ ฟอร์มเขาแผ่วไปเยอะ เลยไม่ได้เลือกมาเช่นกัน ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 09:35:52

ความคิดเห็นที่ 50 จากตัวเลือกคุณบอยก็ สมควรติดทุกตำแหน่งล่ะครับ  เลยช่วยเลือกตัวสำรองครับผมม   จากคุณ : 123 ปลาฉลามขึ้นบก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 09:44:46

ความคิดเห็นที่ 51 คุณ Paladay : อีริคเซ่น ตอนแรกผมก็มองไว้เหมือนกันครับ แต่ว่าฟอร์มของ คากาวะ แรงกว่าจริงๆ ก็เลยไม่ได้เลือก อีริคเซ่น มาไว้ในทีม ปีหน้าดูฟอร์มกันใหม่ ... น้องตอง Petong-InDy : ฟอร์มของ เบ็ค พี่ว่าถามแฟนบอลเยอรมันจะดีกว่า จากเท่าที่พี่เคยเห็นฟอร์มมา ก็เป็นแบ็คขวาที่ฟอร์มดีเลยนะ (ดีกว่าที่เรามีอยู่ 55555) ... คุณหอยทากติดเทอร์โบ : สเตอร์ริดจ์ ก็ฟอร์มเยี่ยมครับ แต่ถ้าเทียบกับ ชิชาริโต้ ก็เลยไม่ได้เลือกมาครับ ... คุณ mr.yoshiki : อืมม์ น่าสนใจครับ ผมไปยึดติดกับระบบ 4 - 4 - 2 มากเกินไป ปีหน้าจะลองปรับระบบให้เข้ากับนักเตะที่เลือกมาครับ ขอบคุณครับที่เสนอแนวทางนะครับ : ) ... คุณ Torres : อัลบาโร่ ผมว่าแกยังเล่นไม่ค่อยดีอ่ะครับ จะเล่นดีก็ตอนที่เล่นกับ เปเรีย (ต้องช่วยทีมตอน เปเรีย ทำเน่า) แต่พอจับคู่กับ โกดิน แกออกทะเลตลอดเลย ... ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านและแลกเปลี่ยนข้อมูลครับ เดี๋ยวมาใหม่ ค่ำๆ เลย ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 10:03:08

ความคิดเห็นที่ 52 ขอเสนอ Ryo Miyaichi ของ Feyenoord(Arsenal) จากคุณ : More Original Me เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 10:06:28

ความคิดเห็นที่ 53 โหวตให้ครับ จากคุณ : thekingkongto เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 10:22:27

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณครับ :D จากคุณ : dadmom เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 11:31:31

ความคิดเห็นที่ 55 โหย ข้อมูลอย่างปึ้กอ่ะ แต่ไมไม่มีเด็กเลี่ยนเลยเหรอ มีแต่เด็กๆเยอรมันเต็มทีมเลย T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 12:01:33

ความคิดเห็นที่ 56 Dortmund WIN!!!! เด็กก็เทพ โค้ชก็เกรียน ทีมนี้มันเจ๋งจริง ๆ จากคุณ : .พูดอีกก็ถูกอีก. เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 12:49:34

ความคิดเห็นที่ 57 อ้าวแล้ว เบเบ้ ผมหละ ไม่ติดเหรอ จากคุณ : นัวร์ เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 13:13:51

ความคิดเห็นที่ 58 ข้อมูลแน่นมาก ขอบคุณครับ จากคุณ : หัวใจข้างซ้าย พวงมาลัยข้างขวา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 13:34:12

ความคิดเห็นที่ 59 สุดยอดครับ จขกท ขอบคุณมากๆที่เขียนมาให้อ่าน ป.ล. เสียดายโบยานจัง ปีนี้โดนเปโดรบดบังรัศมีซะมิดเลย จากคุณ : mazaki_kiku เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 14:24:26

ความคิดเห็นที่ 60 สุดยอดมากเลยครับ ไม่รู้จักหลายคนเลย 5555 จากคุณ : แต้วแว้ว เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 16:10:06

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับกระทู้ดีๆ ชื่นชมครับ ติดตามมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จากคุณ : ethan hunt เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 16:20:53

ความคิดเห็นที่ 62 ไม่โหวตไม่ได้ครับ กระทู้นี้ (เก็บข้อมูลไปเล่น FM 555) จากคุณ : Journey's Aleandro เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 16:59:42

ความคิดเห็นที่ 63 ซ้ำครับขอโทษที นึกว่าเมื่อคืนโพสต์ไม่ติด อิอิ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 18:46:08 แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 18:45:36 จากคุณ : JOkerVirus เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 18:43:10

ความคิดเห็นที่ 64 ทิอาโก้ ของบาร์ซ่าป๋มหายไปไหนอ่า ถ้าใครติดตามจะเห็นว่าเจ้าหนูนี่เล่นโอเคเลยนะ ส่วนเปโดรเหมือนจะเกินดวงรุ่งไปแล้วไงไม่รู้อะ จากคุณ : MarcH_BBF เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 20:26:13

ความคิดเห็นที่ 65 ผมว่าถ้าเอาโคเอนเทราเข้าวินแบ็คซ้าย นากาโตโมะ ก็เป็นคู่แข่งที่สูสีกันเลยฮะ เพราะแจ้งเกิดในปีนี้จริงๆ ^.^ Taye Taiwo นี่ก็น่าจะเข้าตามเกณฑ์ สำหรับแบ็คซ้ายดาวรุ่ง แต่ผมไม่ได้ตามฟอร์มพี่แก เลยไม่กล้าออกตัวแนะนำ จึงขอเอ่ยถึงก็พอ (เผื่อจะมีคนตามฟอร์มหมอนี่ แล้วให้ข้อมูลสนับสนุนได้ ส่วนเด็กๆของเสือเหลือง ใครจะกล้าแย้ง ฟอร์มแต่ละคน สุดยอดดดดด จากคุณ : อัศวินถั่วงอก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 21:57:06

ความคิดเห็นที่ 66 คุณบาทาหยอกเย้าวายุ : ฟาน เดอ วีล อย่างที่ผมบอกข้างต้น อายุเกิน 22 แล้วเลยไม่ได้เลือกมาครับ ส่วน ปาสตอเร่ ก็ฟอร์มตกไปนาน เพิ่งจะเค้นฟอร์มกลับมาได้ช่วงเดือนที่ผ่านมา ก็เลยไม่ได้เลือกเหมือนกัน ส่วน เนย์มาร์ ยังไม่ได้ย้ายมาเล่นในยุโรป ผมขอไม่เลือกมาจัดทีม เพราะยากต่อการติดตามฟอร์มครับ ไว้ปีหน้าถ้าเขาย้ายมา น่าสนใจทีเดียวครับ ... คุณ More Original Me : เจ้าหนูเรียวยังละอ่อนเหลือเกินครับ แต่ผมก็จับตามองไม่ห่าง ถ้ากลับมา อาร์เซน่อล เมื่อไร อาจจะได้เห็นฟอร์มมากขึ้นก็ได้ แล้วมาว่ากันใหม่ ... ท่านประธาน ha-meow : เด็กน้อยอัซซูรินี่ ในปีนี้เงียบเหงาอ่ะครับ เลยไม่มีติดมาสักคน แต่เด็กเยอรมันของเขาดีจริงๆ ต้องยอม ... คุณ MarcH_BBF : ติอาโก้ ยังขึ้นมาเป็นตัวจริงของ บาร์เซโลน่า ไม่ได้เลยอ่ะครับ เลยยังไม่ได้เลือกมาด้วย ปีหน้าเขาน่าจะได้ลงเล่นมากขึ้น แล้วค่อยว่ากันอีกที ... คุณอัศวินถั่วงอก : อ่า ไต ตาอิโว่ อายุ 26 แล้วนะครับ ไม่ใช่ดาวรุ่งแล้วล่ะครับ ส่วน นากาโตโมะ ก็อายุ 24 แล้วนะครับผม : ) ... ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ สำหรับการแวะเข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็น ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 22:12:20

ความคิดเห็นที่ 67 เด็กเลี่ยนตอนนี้ เฮ้ออออออ   อีกอย่างก็โอกาสเล่นตัวจริงน้อยด้วยอ้ะ จากคุณ : เขามะกอก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 22:12:54

ความคิดเห็นที่ 68 อ่า จริงๆด้วย Taiwo 26 แล้วนิ ผมไปจำอายุแกสลับกับใครหว่า 555+ เขินๆๆ ยกนิ้วให้ จขกท.ครับ จากคุณ : อัศวินถั่วงอก เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 23:04:08

ความคิดเห็นที่ 69 เนย์มา  ฟอร์มกับทีมชาติใช้ได้เลยนะ    อีกคน ลูคาคู  ก็แจ่ม จากคุณ : ElMinZeed เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 23:10:52

ความคิดเห็นที่ 70 ชอบอ่านอะไรๆที่เกี่ยวกับดาวรุ่งครับ จากคุณ : คปท61 เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 23:22:34

ความคิดเห็นที่ 71 พูดถึงคำว่าดาวรุ่งนี่ ชื่อดอร์ทมุนลอยมาเลยล่ะค่ะ แล้วก็ติดเข้ามาหลายคนจริงๆ อ่านเพลินมากๆ ขอบคุณนะคะ จากคุณ : theren เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 02:23:18

ความคิดเห็นที่ 72 #69 เนย์ม่า เล่นให้ซานโต้ส เลยไม่เข้าข่ายดาวรุ่งลีคยุโรปครับ จากคุณ : อัศวินถั่วงอก เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 08:04:22

ความคิดเห็นที่ 73 Sime  Vrsaljko  DR18ปี  จากcroatia จากคุณ : Lovely_Maki เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 12:01:40

ความคิดเห็นที่ 74 ลูคาคู ที่เป็น นิว ดรอกบา นี่ฝากติดตามฟอร์มด้วยนะ ได้ยินชื่อมานานละ จากคุณ : yongzaa เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 12:12:01

ความคิดเห็นที่ 75 โห จขกท ดูบอลกี่ลีกครับเนี่ย! จากคุณ : rebornz132 เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:28:36

ความคิดเห็นที่ 76 ข้อมูลโคตรรรรรรแน่น จขกท สุดยอดมากครับ ปล เดี๋ยวจะไปไล่ตามซื้อมาใช้ให้หมดเลย (ในFM) จขกท น่าจะเป็นแฟนFMเหมือนผมกระมัง? จากคุณ : หัตถาครองพิภพ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 16:33:32

ความคิดเห็นที่ 77 สำหรับเรา ขอยกให้คนนี้ เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำปี 2011 จากคุณ : เมีย แรมซีย์ ปืนใหญ่ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 21:05:28

ความคิดเห็นที่ 78 เห็นด้วยกับจขกท.เรื่องเบล คือเค้าก็เก่งนะ แต่ฟอร์มไม่คงเส้นคงวาเลย หลายนัดที่หายไปจากเกม เจ็บก็บ่อย ได้PFAแบบงงมากว่าได้ๆยังไง เล่นดีไม่ถึงสิบนัดมั้ง ที่เล่นดีส่วนมากก็เป็นเกมUCLซะมากกว่า ช่วงหลังๆนี่เริ่มเงียบ โมดริชยังดูเด่นกว่าอีก ส่วนตัวอยากให้วิลเชียร์ได้มากกว่า แล้วให้ชิชาริโต้ได้ดาวรุ่งไป จากคุณ : KikLaruku เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 23:33:19

ความคิดเห็นที่ 79 คุณบอยๆ ช่วยนึกหน่อย แบค ขวา ชาวเยรมัน ที่เมื่อปี 2ปีก่อน เตะบอลชิงยู2 ที่เจออิตาลี แล้วเติมขึ้นมายิง ส่งอัซซูรินี่กลับบ้าน หัวทองๆ(มันก็ทองกันทั้งทีม) เติมตลอด ชื่ออะไรเอ่ย จำได้มั้ยครับ จากคุณ : alek149 เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 13:17:10

ความคิดเห็นที่ 80 คุณ alek149 : อันเดรียส เบ็ค แบ็คกัปตันที่ฮอฟเฟ่นไฮม์ ที่กำลังมีข่าวกับทีมเราตอนนี้ไงครับ : ) ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 14:36:36

ความคิดเห็นที่ 81 ถ้านักเตะอิตาลีในเซเรีย อาที่ผมเห็นฟอร์มถึงขอบสนาม ส่วนตัวผมชอบ Poli ห้องเครื่องของ Sampdoria และ Paloschi กองหน้าตัวจี๊ดของ Genoa สุดแล้วครับเสียดายที่ว่าต้นสังกัดทำผลงานได้แย่มากโดยเฉพาะ ลาซามพ์ (จะตกชั้นแล้วหลังจากขาย คาซซ่า และ ปาซโซ่ะ) ส่วน ปัลอสสกี้ก็เพิ่งย้ายจาก ปาร์ม่า  มาแล้วได้ลงเล่นบ่อยที่ เจนัวร์ ยังมี Astori เซนเตอร์ของทีมชาวเกาะ Cagliari (เมืองผมเองครับ) ที่เล่นดีจนถูกเรียกไปติดทีมชาติแต่ก็สังเวยใบแดงไปในนัดแรกที่ติดซะงั้น อีกคนที่กลับมาเล่นเด่นก็คือ Giovinco ซึ่งผมบอกได้ว่าปาร์ม่าไม่ตกชั้นเพราะเจ้าเปี๊ยกน้อยนี้ละ (ไม่อยากนับการกลับมาเกิดของ สากบราซิลอยาก Amauri) ถ้าไม่ใช่นักเตะอิตาเลี่ยน ผมก็ชี้ไปที่ Federik Sorensen ของยูเว่ครับ เสียดายที่ว่าเค้าไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวหลัก แต่ส่วนตัวเขาเล่นดีกว่า  Marco Motta แน่นอน Gaston Fernandez ของ Bolonga ก็เล่นดีมากครับล่าสุด มีหลายทีมอยากได้ลายเซ็นเจ้าหนูคนนี้ไป จากคุณ : สยบโลกไว้ด้วยเท้าขวา เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 15:51:43

ความคิดเห็นที่ 82 ช่วงนี้ผมติดตามเด็กเยอรมันอยู่ ดูฟอร์มของ Christopher Schindler, Felix Kroos, André Schürrle แล้วอนาคตเยอรมันไปไกลแน่ จากคุณ : Jump.Jr เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 17:07:22

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณมากครับ ข้อมูลแน่นมาก จากคุณ : my7 เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 22:05:05

ความคิดเห็นที่ 84 ใช้ใน FM2011 เกือบทั้งหมด - -" ขอบคุณสำหรับริวิวจ้า อ่านได้สนุกมากๆ จากคุณ : Jingjork เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 03:53:03

ความคิดเห็นที่ 85 ไม่มีอะไรจะเอ่ย นอกจากการชื่นชมคุณบอยครับ ขอบคุณที่สร้างบทความนี้ขึ้นมา สุดยอดมาก จากคุณ : il giallorossi เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 11:57:11

ความคิดเห็นที่ 86 เข้ามากรี๊ด Shinji Kagawa ขอบคุณ จขกท. สำหรับข้อมูลครับ จากคุณ : Na-RoK-KuM-7 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 22:33:59

ความคิดเห็นที่ 87 แต่ละตัวนี่ ผมพิสูจน์มาแล้วในเกมส์ FM จากคุณ : Aek-Oldschool เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 13:46:45

ความคิดเห็นที่ 88 โรเมโร่ ลูคาคุ ครับ จากคุณ : Bach_Ho เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 07:36:19

ความคิดเห็นที่ 89 ข้อมูลของโคเอนทรา  รู้สึกว่าทีมที่เข้าชิงกับปอร์โต้จะเป็นบราก้าครับ คุณบอย เบนฟิก้าโดนอเวย์โกลล์ตกรอบ จากคุณ : ตัวนากหมายเลข11 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 13:19:38

ความคิดเห็นที่ 90 คุณตัวนากหมายเลข11 : ใช่ครับ สุดท้ายเป็น บราก้า ที่ได้เข้าชิงฯ กับ ปอร์โต้ แต่ว่าตอนที่ผมพิมพ์บทความในส่วนของ โกเอนเตรา นั้น (ประมาณวันที่ 1 พ.ค.) เกม ยูโรปา ลีก รอบรองฯ นัดที่ 2 ยังไม่ได้ลงเล่นกันไงครับ (เล่นกันวันที่ 5 พ.ค.) ผมก็คาดเดาความน่าจะเป็นใส่ลงในบทความเท่านั้นเอง : ) ... ขอบคุณทุกท่านอีกครั้ง สำหรับการเข้ามาอ่าน เข้ามาแสดงความคิดเห็น และมอบ give ให้นะครับ ขอบคุณจากใจจริงครับ ... จากคุณ : pinturicchio boy เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:12:42

ความคิดเห็นที่ 91 ขอส่ง Chris Smalling ลงประกวดในตำแหน่ง DC ครับ จากคุณ : Archdemon เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 01:16:25

ความคิดเห็นที่ 92 โหวตให้ครับข้อมูลแน่นจริงๆครับ อยากให้แมวมองลิเวอร์มาอ่านกระทู้นี้จัง 55 จากคุณ : nicaxe1 เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 10:02:06