ความคิดเห็นที่ 1 ให้ UCL 2005 ที่อิสตัลบูลเลยครับ ทุกวันนี้ยังรู้สึกว่าตัวเองโชคดีเลยที่ได้ดูจนจบไม่ปิดทีวีซะตั้งแต่ครึ่งแรกตอน 3-0 อารมย์มันแบบว่า มิลาน ตอนนั้นมันสุดๆมาก หลังมี Nesta Stam Maldini Cafu โครต Back four กองกลางมีทั้ง guttuso kaka pirlo seedorf หน้ามี Shevchenko กับ Crespo คือมันปึกทุกตำแหน่งจริงๆ หลังแน่น กลางเยี่ยม หน้าคม ดูแล้วแบบว่าไม่รู้ว่าจะกลับมาได้ไง ทั้งตัวผู้เล่น รวมถึงสกอร์ที่ิทิ้งขาด ห่่างกันขนาดนั้น มันเหมือนหนังชีวิตเลย ที่ Liverool สู้มาแบบเรื่อยๆ ยิง 3 ลูกใน 6 นาที จนมาถึงชนะจุดโทษ ได้แบบนี้ ปาฏิหาริย์สุดๆ ยิ่งช่วงต่อเวลามีหลายลูกมากที่ โครตหวาดเสียวเลย Dudek เป็นฮีโร่สุดๆ ทำให้ผมเชื่อเลยว่า คนที่เขียนบทเก่งที่สุดในโลกนี้คือ " พระเจ้า" ถ้าก่อนเกมถามว่า ถ้า liverpool โดนก่อน 3-0 ในครึ่งแรก จะพลิกกลับมาชนะได้มั้ย ผมว่าถ้าไม่ใช่แฟนที่มี DNA liverpool จริงๆ ร้อยทั้งร้อย ก็น่าจะตอบว่าเป็นไปไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 54 04:55:46 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 54 04:54:20 จากคุณ : chivu เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 04:52:43

ความคิดเห็นที่ 2 ผมแฟนผี แต่ผมให้เบอร์สองครับ อีกสองอันมันไม่ดรามา แต่เป็นสยองขวัญ-ช็อคมากกว่า จากคุณ : fannel เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 05:32:35

ความคิดเห็นที่ 3 1999 เหลือ 2-3 นาที บาเยิร์นจะเป็นแชมป์ 2005 เหลือ 45 นาที มิลานจะเป็นแชมป์ 2008 เหลือแค่เสี้ยววินาที เพียงเทอรี่ไม่ลื่น เชลซีจะเป็นแชมป์ โหวต 2008 ดราม่าปนคอมเมดี้เล็กๆ จากคุณ : Fallin slowly เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 05:39:55

ความคิดเห็นที่ 4 ยังไงก็อยากให้เบอร์ 2 ที่สุดครับกับความดราม่า เป็นเหมือนบทละครที่สุดยอดเรื่องนึง ที่คนที่ด้อยกว่าแทบทุกอย่าง สามารถพลิกกลับมาเอาชนะได้ในที่สุด ด้วยเงื่อนไขสุดหิน ของ man utd 99 ออกแนวหักมุมแบบช็อคสุดๆ แต่อย่างน้อยคือ ยังตามอยู่แค่ 0-1 คือ ยังพอให้ทีมยังมีลุ้นทำประตูตีเสมอได้ตลอดจนถึงวินาทีสุดท้าย ถึงรูปเกมส์จะด้อยกว่าก็ตาม หรือในปี 2008 ดวลจุดโทษกัน ก็พลิ็กล็อคช็อคสุดๆเหมือนกัน แต่ลูกโทษมันก็ 50-50 มีโอกาสพลิกได้ตลอดเช่นกัน เป็นแค่เสี้ยววินาทีจริงๆ แต่ liverpool 2005 นี้แบบว่า liverpool เป็นรองแบบสุดๆตั้งแต่ก่อนเิริ่มเกมส์ด้วยซ้ำ ทั้งผลงานใน league และตัวผู้เล่นที่ด้อยกว่า milan แถมครึ่งแรกโดนไป 3-0 แบบนี้ คนดูหลายคนแทบไม่อยากดูต่อด้วยซ้ำ เพราะมันเหมือนจบไปเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้จะลุ้นยังไง หินๆสุดๆ   แต่พระเจ้าก็เล่นตลกหรือไงไม่รู้ หรือมิลานไปประมาทเองก็ตาม แต่ลิเวอร์พูลสามารถตีเสมอเป็น 3-3 ได้ในครึ่งหลัง โดยใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้น ทำให้เกมส์มันมันสุดๆ    ผมว่าถ้าไม่ใช่คนที่เชียร์ลิเวอร์พูลหรือเป็นแฟนมิลาน ใครดูนัดนั้นน่าจะเอาใจช่วย liverpool สุดๆ ยิ่งกว่าละครชีวิตซะอีก ที่พระเอกไม่ได้เก่งแต่ต้น ในช่วงต่อเวลาก็ลุ้นๆสุด ใจหายวาบๆหลายรอบกับ Shevchenko เลย ประทับใจสุดๆก็จังหวะที่ dudek save ลูกยิงของเชว่าได้ 2 คร้งติดๆนี่แหละ อารมย์ร่วมของคนดูมันมีตลอดทั้งเกมส์     จนสุดท้าย พระเอกก็เป็นฝ่านชนะไปอย่างปาฏิหาริย์สุดๆครับ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 54 06:01:27 จากคุณ : chivu เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 06:00:35

ความคิดเห็นที่ 5 ...ข้อ 1  อารมณ์ประมาณ "เอ้ยยย " ข้อ 2 อารมณ์ ประมาณ  " เอ้ยยยยยยย" ข้อ 3 อารมณ์ประมาณ "ทำตัวเอง แท้ ๆ เซลซี" จากคุณ : แสบสันต์ หมายเลข 8 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 07:26:50

ความคิดเห็นที่ 6 กำ หายหมด แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 54 07:54:59 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 54 07:54:44 จากคุณ : ผมรู้..คุณรักผม เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 07:53:48

ความคิดเห็นที่ 7 ได้ดูแค่ 1 กับ 3  คับ ยกให้สุดยอดทั้ง 2 ครั้งเลย  เพราะอันที่ 1  ได้เห็นทริปเปิ้ลแชมป์กับตา (เป็นบุญจริง ๆ) อันที่ 2  ได้เห็นดับเบิ้ลแชมป์ชุดใหญ่  (EPL+UCL) อีก เสียดายปีถัดไปเกือบได้เห็นอีกหน (แพ้บาซ่า 0-2) ทั้งสองครั้ง ผมว่าสุด ๆ แล้ว ยกป้ายทดเจ็บ 3 นาที แค่ตีเสมอไม่แพ้ได้ก็บุญแล้ว นี่ดันมีไคลแมกซ์ซ้อนไคลแมกซ์อีกหน ชนะไปเลย อีกหน ชะตาอยู่ในมือผีแค่ 30% อยู่ในมือเชลซีอีก 70% ไม่นึกว่าจะลื่นล้มได้ เรียกว่าแต่ละหนนี่ ปาฏิหารย์ จริง ๆ ส่วนอันที่ 2 ที่อิสตันบูล ผมเฉย ๆ ไม่ได้ดู แต่คิดว่า 3-0 แต่มีเวลาครึ่งหลังอีก 45 นาทีให้แก้เกม แก้ตัว  บวกกับมีถมไปที่ตามหลังแบบนี้แล้วพลิกกลับมาชนะใน 90 นาที ไม่ได้คิดว่ามิลานประมาท แต่คิดว่าเป็นนิสัยของพวกไอ้เลี่ยนมากกว่า ที่ชอบโชว์ออฟ เวลาที่ทีมได้เปรียบ  เห็นตอนนัดชิงยูโร ที่อิตาลีแพ้ฝรั่งเศส 1-2 ทั้งที่นำก่อนจนเกือบหมดเวลา แต่ดันออกลูกแอ๊คโชว์เหนือไม่ยอมฝังให้สนิท (โดยเฉพาะ ต๊อตติ + เดลปิเอโร่ ยิงลูกหลุดเดี่ยวไม่เข้า 2 หน) เลยโดนฝรั่งเศสตีเสมอนาทีสุดท้ายก่อนเจอโกลเด้นโกล์ไปตอนต่อเวลา จากคุณ : 9ปล่อยไก่ (nmcm) เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:11:30

ความคิดเห็นที่ 8 อันที่ 1 ผมเฉย ๆ แมนยูก็แค่ยิงช่วงทดเวลา ความสามารถทีมที่เก่งในสามโลกอย่างผี ยิงตอนไหนก็ได้ เพราะคุณภาพนักเตะ ผู้จัดการ มันสุดยอด ต่อให่เหลือ 2 วินาที ก็ยิงกลับมาชนะ เรื่องนี้ใครใครก็รู้กัน... อันที่ 3 เป็นจังหวะเสี้ยววินาทีที่ผิดพลาด...ไม่ได้มีบทละครอะไรที่สืบต่อเนื่องให้อารมณ์มากมาย ส่วนดราม่าผมให้หงส์ เพราะด้วยรูปทีม...ความสามารถ ทักษะ หรือราคาต่อรองต่าง ๆ หงส์ไม่อยู่ในสารบบ สื่อมองพร้อมตกรอบได้ตลอดเวลา ทุกเวลาเลยดีกว่า จนนัดชิง...ก็ยังเป็นรอง รองแบบรองตรีนเลย...ลิเวอร์พูล โดนนำ 3 ลก มีแต่พระเจ้าเท่านั้น ที่รู้ว่าจะกลับมาได้ จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:20:50

ความคิดเห็นที่ 9 2. ครับ ดราม่ามาตั้งแต่รอบแรกๆ จนนัดชิงเพื่อนบอก ปิดทีวีนอนเหอะ  แต่ผมก็ยังนั่งดูแบบเซ็งๆ เช้ามา บอกเพื่อน มันยังไม่เชื่อเลย จากคุณ : nanonian เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:26:52

ความคิดเห็นที่ 10 ผมว่า 3 ครับ   ถ้าให้เลือก 3 ช้อย ด้านบนนี่ คงไม่เลือกไม่ถูกเหมือนกัน 1. เหลือทดเวลา ตาม 1 ลูก 2. ตาม 3 ลูก เหลือ 45 นาที 3.ถ้าโดนยิงลูกโทษเข้า จบเห่ เลือกยากจริงๆ แต่แฟนผี ขอ ข้อ 3 แล้วกันครับ จากคุณ : สาManUtd เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:43:21

ความคิดเห็นที่ 11 2 เลยครับ มันสอนให้รู้ว่า เกมส์ยังไม่จบอะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น อย่าปิดจนกว่าจะจบ แต่พูดตรงๆนัดเจออาเซ พอเป่าลูกโทษผมก็ปิดเลย มาดูอีกทีเสมอซะได้ จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:43:34

ความคิดเห็นที่ 12 ผมให้ข้อ 1. นะ แบบว่าแทบปิดทีวีไปนอนแล้ว แต่คิดว่าคงนอนไม่หลับแน่ๆ เลยทนดูต่อจนจบ แล้วแบบว่า เฮ้ยยยยย เป็นไปได้ไง อารมณ์พลิกมากๆ ส่วนข้อ 2. นี่ออกแนวปาฏิหารย์มากกว่า (ขอโทษแฟนหงส์ด้วยนะครับ :p) จำได้ว่านั่งดูกับพี่ชาย พี่ชายถอดใจแล้วครับ กำลังเอาแก้วเบียร์ไปล้าง ต้องรีบวิ่งมาดูในนาทีสุดท้าย จนชูถ้วยแชมป์เลย 55+ ข้อ 3. คนที่ดราม่าที่สุดน่าจะเป็นเทอร์รี่นะ กรั่กๆ จากคุณ : มะอึกคุง เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:49:46

ความคิดเห็นที่ 13 เลือก 2 ครับ คืนนั้นคิดว่า ถ้าโดนสัก5 เม็ดก็ช่างมัน อุส่าตื่นขึ้นมาดูแล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้ว มันเป้นความรู้สึกที่เกินจะบรรยาย สำหรับเด็กหงส์ในคืนนั้นจริงๆ เพราะทีมที่นำ 3-0 ไม่ใช่ โบลตัน หรือฟูแล่ม (ถ้าเป็น 2 ทีมข้างต้น ผมว่า โอกาสจะตามาตีเสมอยังยากเลยถ้าถามตรงๆนะ) ข้อ 1.  ผมจำคุฟฟู ได้ในนัดนั้นเลย ถ้าจำไม่ผิดแกร้องไห้ใหญ่ แต่ผมว่า ยิงแซง 2 ลูกท้ายเกมส์ ผีทำบ่อยครับ แต่ยอมรับหัวใจจริงๆ (คืนนั้นผมก็ดู และตื่นมาเชียร์ผี) ข้อ 3 .... ผมว่าเฉยสุดๆครับผม จากคุณ : Hernf@ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:50:14

ความคิดเห็นที่ 14 ผมแฟนผีครับ ได้ดูทุกนัดครับ ถ้าให้เลือกชอบ ผมเลือก 1 กับ 3 แต่ดราม่า ผมยกให้ 2 คืนนั้น ขนาดเพื่อนผมเด็กหงส์ยังหนีไปนอนตั้งกะตอนครึ่งแรก พอ2-3 ผมก็ถีบปลุกให้มันมาดู (แต่ใจลึก ๆก็ไม่อยากให้ตามเสมอ) อิอิอิ มันดราม่าหลายช็อตด้วย ตีไข่แตก ตีเสมอ เซฟลูกยิงท้ายเกมส์ของเชว่า และการเซฟจุดโทษ ที่ทำให้แฟนหงส์หลายคน ลืมอดีตของ"ดูเด็ค"ในช็อต ลูกลอดตูดแล้วโดนฟอร์ลันขโมยซีนไป นัดนั้นผมยอมคาระวะใจนักเตะหงส์และแฟนหงส์จากใจจริงเลยครับ จากคุณ : EAAY เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 08:56:29

ความคิดเห็นที่ 15 1. ช๊อค 2. ดรามา 3. คอมเมดี้ (แฟนผี) // สยองขวัญ (แฟนสิง) ครบ จากคุณ : erkDaZe เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:02:17

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วแต่ว่าคุณเป็นแฟนทีมไหน ส่วนเรา ปี 1999 น่ะสุดยอดที่สุดในแง่อารมณ์ ความรู้สึก   จากคุณ : Perfect Day : P-Blur เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:17:29

ความคิดเห็นที่ 17 ปี 99 อย่างไม่ต้องสงสัย ในช่วงทดเวลาเจ็บนาทีสุดท้าย เชื่อว่าแฟนผีทุกคนต้องมีลางสังหรณ์เหมือนผมว่าลูกเตะมุมของเบ็คจะเป็นประตูได้ แล้วก็จริงๆ ยิงลูก 2 ปุ๊บ เป่านกหวีดปั๊บ แฟนเสือใต้ช็อคไปตามๆกัน จากคุณ : jengchai เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:20:58

ความคิดเห็นที่ 18 3 ครับ เพิ่งทันได้ดูบอล จากคุณ : ไม่ได้กลัวแต่เกรงใจ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:21:41

ความคิดเห็นที่ 19 1.ผมว่าสุดๆแล้วครับ  ยิง 2 ลูกช่วง 2 นาทีสุดท้ายที่ทดเวลา   แม้ตอนนั้นผมจะคิดว่าผียังไม่แพ้ แต่ก็คิดแค่ว่าคงตีเสมอได้   ไม่คิดว่าจะพลิกกลับมาชนะเลยครับ ดราม่าสุดๆเพราะผมจำได้มีน้ำตาจากคุ๊ฟฟูด้วย 2.ผมว่าแค่มิลานประมาทแล้วก็ช็อค หลังจากโดนไล่มาทีละลูก แต่อย่าลืมว่ามีเวลา   45 นาที เต็มของครึ่งหลัง ผมว่าเวลาเหลือเฟือครับ    (ถามแฟนไก่ดูซิครับเจอผีหลอกบ่อยๆ) 3.ผมว่าธรรมดาครับ ยิงลูกโทษนะกดดันทุกคน แต่ที่ดีใจคือพระเจ้ายังไม่ใจร้ายกับโด้   คิดดูซิครับ ถ้าผีไม่ได้แชมป์เพราะวันนี้นโด้พลาดลูกโทษ ทั้งๆที่เล่นดีมาตลอด   ฤดูกาล  ความรู้สึกจะเป็นยังไง จากคุณ : red 4ever เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:23:08

ความคิดเห็นที่ 20 ผมเลือกข้อ 2 ครับ หลังจากครึ่งแรกก็คิดว่าจะนอนเหมือนกัน แต่เป็นไงเป็นกันคงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว แต่ผลออกมาตรงกันข้ามสุด ๆ นอนไม่หลับเลยคืนนั้น ไปทำงานแบบงัวเงียมาก ๆ แต่ก็ดีใจ ส่วนข้อ 1 ผมว่าบาเยิร์นทำตัวเองมากกว่า ครึ่งหลังเริ่มลงไปรับกันแล้ว ยังคุยกะเพื่อนอยู่เลยว่า เดี๋ยวแมนยูก็ชนะแน่   ส่วนข้อ 3 เชลซีพลาดแท้ ๆ จากคุณ : Katch_Katch เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:42:50

ความคิดเห็นที่ 21 1 ผมว่าน่าจะเรียกว่า "หักมุม" เป็นการหักมุมสุดช๊อคกันเลยทีเดียว แต่ดราม่ามันต้อง 2 ครับผม มันดราม่าจริงๆ ถ้าดูจากองค์ประกอบทุกอย่าง ทั้งตัวผู้เล่นที่ด้อยกว่ามาก หมดครึ่งแรกตาม 3-0 ชื่อชั้นรึอะไรก็เป็นรอง คือมันไม่ใช่สเปอร์นำยูไนเต็ดแล้วโดนยูไนเต็ดคัมแบ๊คอะไรแบบนั้น แต่นี่มันคือ "มิลาน" แล้วใยุคนั้น มิลานคือเจ้ายุโรปที่แบบว่าสุดๆแล้ว แล้วบอลนัดชิง ความรู้สึกมันต่างกันมากๆกับเกมลีกทั่วๆไป มันกดดัน ครึ่งหลัง มิลาน ก็แค่ลงมาเล่นตามแทคติครอสอยแชมป์สมัยต่อไปเท่านั้นเอง แต่ที่ดราม่ามันอยู่ที่ ตอนพักครึ่งในห้องพัก ราฟาทำยังไงให้เรากลับมาได้ มันสุดยอดตรงนี้!!! แล้วพอตีเสมอได้ หวุดหวิด จวนเจียน จะโดนยิงตลอด แต่เราก็ไม่เสียประตูเพิ่ม จนถึงช่วงยิงลูกโทษตัดสิน แล้วเราก็เป็นแชมป์!!! มันดราม่ามากๆ ที่สุดแล้ว..... แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 54 09:47:39 แก้ไขเมื่อ 06 พ.ค. 54 09:46:44 จากคุณ : แกงไก่หมูทอด เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:45:44

ความคิดเห็นที่ 22 ดราม่า ต้อง 2 ครับ จากคุณ : pippojuve เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 09:57:15

ความคิดเห็นที่ 23 ดราม่าที่ดี ต้องทำให้คนติดตามมีอารมณ์ร่วมไปได้ครับ ผมไม่ใช่แฟนหงส์ แต่เปิดดูเพราะทำงาน+รอบชิงซะด้วย ดูๆไว้หน่อยไม่เสียหาย ครึ่งแรกมิลานเล่นซะผมหมั่นไส้เลยครับ ทีมอะไรมันจะทำได้ดีซะทุกอย่างไปขนาดนี้ เมพโคตร ไหนๆก็ไหนๆดูหงส์โดนระเบิดถังต่อดีกว่า ปรากฎว่าหนังจบกลายเป็นดราม่าหักมุม แล้วผมไปเชียร์หงส์ตั้งแต่เมือไหร่ก็ไม่รู้ 555 จากคุณ : รักเธออยู่แต่ก็รู้ว่าไม่ได้ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 10:02:53

ความคิดเห็นที่ 24 #19 2.ผมว่าแค่มิลานประมาทแล้วก็ช็อค หลังจากโดนไล่มาทีละลูก แต่อย่าลืมว่ามีเวลา  45 นาที เต็มของครึ่งหลัง ผมว่าเวลาเหลือเฟือครับ   (ถามแฟนไก่ดูซิครับเจอผีหลอกบ่อยๆ) -------------------------------------------------------- แมนยูมีเวลาเกือบทั้งเกม เพื่อยิงคืนที่ตามอยู่แค่ลูกเดียวเองนะ เผอิญว่ายิงได้สองประตูตอนช่วงทดเจ็บแค่นั้นเอง ผมให้ 2 ละกัน เพราะตามอยู่หลายลูก ไหนจะต่อเวลาอีก ยิงโทษอีก ลุ้นสุดๆแล้ว จากคุณ : MegaStupid เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 10:03:41

ความคิดเห็นที่ 25 ได้ดูทั้ง3นัด   1.  ตื่นมาดูนาทีที่90แล้วเห็นแมนยูโดน1-0  ในใจก็คิดว่าไม่รอดแน่ แต่ก็แบ่งใจไว้ว่าเดี๋ยวก็ตีเสมอได้  แต่โดนผีหลอกซะงั้น มันเป็นอารมณ์แบบเซอร์ไพรส์เล็กๆ ที่ไม่คิดว่าจะชนะเลย แค่คิดว่าอาจตีเสมอได้ 2. แน่นอนแฟนหงส์ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอ บางท่านอาจรอนัดนี้เป็นสิบปีแล้ว ความคาดหวังมันสูงมากว่าอย่างน้อยน่าจะยันๆสู้ให้มันสูสีที่สุด   ที่ไหนได้  นาทีที่2 น้ามัลซัดให้มิลานขึ้นนำซะงั้น   แถมดูตัวผู้เล่นแล้วราฟาไม่ได้ส่งตัวรุกลงมามากมาย  พอบุกไปก็โดนสวนมาจนโดน3เม็ด   สารภาพว่าแทบจะหมดหวังแต่ก็ไม่อยากปิดทีวีนอน เพราะเราเชียร์มาถึงนัดนี้แล้ว  แถมฤดูกาลนั้นก็มีเรื่องบ้าๆเกิดขึ้นในหลายแมทช์ โดยเฉพาะกับโอลิมเปียกอส  ก็เลยมีหวังเล็กๆว่าถ้าได้คืนมาซัก1 อาจมี2-3ตามมา  จึงเริ่มต้นเชียร์อีกครั้ง     สาเหตุที่มันดราม่าเพราะหงส์ชุดนั้นไม่ได้เล่นเกมรุกบุกแหลกอะไร แต่จะบอกว่า2ลูกแรกที่ได้มา จะเรียกว่าลูกผีจับยัดก็ไม่ผิดอะไร  ยิ่งลูกที่ซมิเซฮร์ยิงเข้าไป  ดราม่าจนกระทั่งอลองโซ่กล้ายิงจุดโทษพลาด แต่ยังตามซ้ำทัน เชฟเชนโก้ยิง2หลาติดมือดูเด็ก  จุดโทษไม่ต้องพูดถึง ในวินาทีนั้นเดอะค้อปทั่วโลกพอใจแล้วที่มาถึงจุดนี้ 3. เหมือนดูหนังหักมุมตอนท้ายๆเรื่อง ที่คิดว่าลูกจะตาย แต่สุดท้ายพ่อดันตายเอง (สปอย) จากคุณ : nGeab_12 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 10:10:04

ความคิดเห็นที่ 26 1.ชัตเตอร์ -- หลอน 2.ดอกส้มสีทอง  -- เรยาสุดๆ 3.ห้าแพร่ง ..ตอนพี่ช่า -- ทั้งหลอนทั้งฮา จากคุณ : blackcamera เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 10:10:42

ความคิดเห็นที่ 27 1 เดียวเท่านั้น จากคุณ : Deerhunter เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 10:12:27

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่ได้ดู 2 ค่ะ  เพราะตอนนั้นต้องอยู่เวรพอดี ถ้าต้องเลือก 1 กับ 3 ให้ 3 ค่ะ  เพราะระยะเวลาลุ้นมันน้าน...นาน (ในความรู้สึก) บีบหัวใจเกิ๊น.....  >___________< จากคุณ : ชะนีน้อยไม่เข้าใจโลก เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 10:13:04

ความคิดเห็นที่ 29 ได้ดูนัดชิง มาตลอด สุดยอด ทั้ง 3 นัด เลย แต่ปี 2005 ดูทรง จากครึ่งแรกแล้ว ไม่มีใครเชื่อหรอก ว่าจะกลับมาได้ แม้แต่ แฟนหงส์ก็ตาม ลูกเดียว ตอนนั้น ผมยังคิดเลยว่า ทีมเราจะยิงได้ไหม ส่วนแมนตซ์ จืดชืด ที่สุด ยกให้ ปอรืโต้ ปี 2004 เลย ม้ามืด 2 ทีมเจอกันไม่พอ ดันเล่นสะ ห่างชั้นกันอีก จากคุณ : น้ำตาจากสวรรค์ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 10:13:11

ความคิดเห็นที่ 30 ข้อแรกแถวบ้านผมจะเรียกว่าโกงความตายอะนะ ข้อสองนี่แหละครับดราม่าโคตรๆโดนนำ3ลูกกลับมาตีเสมอจนยิงจุดโทษชนะ ข้อสามบอกตรงๆว่าแมตช์นั้นดูแล้วจะหลับ จากคุณ : mooler เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 11:12:25

ความคิดเห็นที่ 31 โหวตให้ 1 เพราะวันนั้นผมตื่นมาเปิดทีวีมานั่งดูครึ่งหลัง แต่เห็นนักเตะบาเยิร์นเข่าอ่อนแล้วก็อดสงสารไม่ได้ จากคุณ : PEDestrain เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 11:25:49

ความคิดเห็นที่ 32 ผมให้ 1 ดราม่าสุดครับ กับเวลาที่น้อยนิด แค่เสมอยังยาก นี่แซงกลับชนะ ส่วน 2 นี่ผีทำบ่อยครับ ตาม 3 ลูกเนี่ยยิงกลับสบายในครึ่งหลัง ไม่ใช่แค่ยิงเสมอนะครับยิงแซงด้วย ส่วน 3 อันนี้มันสูสีกับ 1 ครับ ถึงยังไงลูกจุดโทษก็มีโอกาสเข้ามากกว่าไม่เข้า แต่มันดราม่าตรงเทอร์รี่ลื่นเนี่ยแหละครับ สุดท้ายแมนยูเป็นแชมป์ จากคุณ : beckkeng_7 เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 12:08:01

ความคิดเห็นที่ 33 31# คนนั้นคือ ทานาร์ท ใช่มั้ยครับ ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ... จากคุณ : Hernf@ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 12:10:27

ความคิดเห็นที่ 34 เพราะเป็นเด็กหงษ์ เลยจิ่มอันที่ 2 ... อิอิ แต่ของ ManU นี้ก็ดราม่าจริงๆ  อุตสาแช่งดันไม่ตายสะอีก ... จากคุณ : zzaz_z เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 12:16:48

ความคิดเห็นที่ 35 เลือกข้อสองครับ ขนาดไม่ได้เป็นแฟนหงส์ดูยังน้ำตาซึมเลย ดราม่าสุดๆ จากคุณ : AMD_Kamilia เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 12:29:29

ความคิดเห็นที่ 36 2 มันดราม่า ตรงไหน ก็แค่ตามหลังบานเบอะ กับเวลาที่เหลืออยู่อีกเยอะ แถม  มีลูกจุดโทษ ด้วย มัน ต้อง 1 ดิ จะลงหลุมอยู่แล้วเห็นๆ ถึงตามอยู่ดอกเดียว แต่เวลา ไม่เหลือ แล้วเฟ้ย โกงความตายเห็นๆ ไม่รู้นะ ทัศนะส่วนตัว จากคุณ : ชายเหวง เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 12:33:41

ความคิดเห็นที่ 37 เป็นแฟนผี แต่ยกให้ แมตซ์ ลิเวอร์พูล - มิลาน ขนาดนั่งดูอยู่เอง ยังแทบไม่เชื่อว่าหงส์จะกลับมาได้ นัดนั้นต้องซูฮกหัวใจนักสู้ของหงส์แดงจริง ๆ ครับ จากคุณ : assasin เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 12:42:11

ความคิดเห็นที่ 38 นัดไหนดราม่าที่สุด  คุณคิดว่าเรื่องไหนจะเรียกน้ำตาได้มากที่สุดล่ะ สำหรับผม ถ้าเอาเรื่องนี้ไปทำเป็นหนัง น่าจะดราม่ามากกว่า เกมล้มโต๊ะ ซะอีกนะ จากคุณ : llwu เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 13:34:58

ความคิดเห็นที่ 39 แฟนหงส์นะ...แต่ให้แมนยู บาเยิร์น โกง  โกงชัดๆ   สองลูกสองนาที สุดท้าย.... ยังจำ ช๊อต...กองหลังผิวสี..ชื่ออะไรจำไม่ได้แร่ะ....คุกเข่าร้องไห้ เอามือทุบหญ้าด้านหน้า.....สะเทือนใจค๊อดๆๆๆ จากคุณ : kitazawa เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 13:44:45

ความคิดเห็นที่ 40 ไม่ทันดู 2แมตช์แรก    ทันดู2008 ... นัดนั้น เชียร์เชลซีเติมที่  เซ็งมาก  แต่ขอโหวต2ถึงจะดูแต่ไฮไลค์ แต่เรียกน้ำตาได้จริงๆ ดราม่ากว่านี้ไม่มีอีกแล้วหละ จากคุณ : -เด็กหงส์หลงอลอนโซ่- เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 13:57:57

ความคิดเห็นที่ 41 กระทุ้นี้โหวตดระหว่างแฟน ยุไนเต็ด กับ ลิเวอร์พุล อันไหนเยอะกว่ากัน จากคุณ : danya เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 14:34:40

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้าไม่ผิดตอน UCL 2005 ช่อง 3 ยังต้องเอากลับมารีรันใหม่อีกครั้งในวันถัดไป เพราะหลายคนปิดทีวีไปซะตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว เป็นอะไรที่กล่าวถึงกันมากว่า ทำได้ไงวะ จำได้เลยว่าวันนั้นทั้งโรงเรียนหลายคนมาก อดนอน และพูดแต่เรื่องนี้กันทั้งวันเลย อาจารย์บางคนก็ยังไม่ได้นอนด้วยซ้ำ แหะๆ แถมปีนั้นเป็นปีแรกที่ผมได้ดู UCL แบบเต็มๆครั้งแรก เลยยิ่งประทับใจและฝังลึกมากกับ ปาฏิหาริย์ที่อิสตัลบูลของ Liverpool ผมไม่ได้เป็นแฟนลิเวอร์พูล แต่นัดนั้นมันตรึงใจสุดๆ จากคุณ : chivu เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 14:49:08

ความคิดเห็นที่ 43 คงต้องยกให้แมทช์ปี 2005 นั่นแหละครับ เพราะองค์ประกอบมันครบมาตั้งแต่แรก ลิเวอร์พูลไม่ได้เข้าชิงถ้วยใหญ่มาตั้งแต่โศกนาฏกรรมที่เฮย์เซล และครั้งนั้นคือถ้วยใหญ่ที่สุดครั้งแรกที่หงส์จะมีโอกาสสัมผัส กองเชียร์ของหงส์แดงแห่กันไปมากกว่ามิลาน ทั้งที่เป็นนัดชิงชนะเลิศทั้งสนามวันนั้นอาจเป็นสีแดง แต่เสียงเชียร์หงส์แดงกลบมิด มิลานดันผ่านำไปก่อนตั้ง 3 ลูก ใครก็คิดว่าหงส์ได้แต่เล่นให้จบไปแล้ว แต่พักครึ่ง แฟนหงส์กลับร้องเพลงเรียกขวัญกำลังใจ เหมือนกับว่าถ้าไม่ใช่แมทช์นี้ก็จะไม่มีอีกแล้ว กลับมาหงส์ยิง 3 ลูกใน 6 นาที แฟนบอลทีมไหนไม่ช็อคซิเนม่าก็คงเพี้ยนมากแล้ว ก่อนจะจบต่อเวลา เชว่ากำลังจะยิงฝังหงส์ กลายเป็นแอนตี้ไคลแมกซ์ แต่ดูเด็คก็ดันเซฟปาฏิหารย์ จะมีอะไรเหลือเชื่อไปกว่านี้ ก่อนท้ายที่สุดก็กดเอาชนะที่จุดโทษได้... องค์ประกอบของความเป็นดราม่าในทางการละครก็คือ การต้องต่อสู้กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แล้วชนะ พระเอกที่ไปต่อกรกับผู้ร้าย แล้วผู้ร้ายเหนือกว่าทุกวิถีทาง แต่พระเอกก็หาทางเอาชนะได้อย่างเหลือเชื่อหรือยากลำบาก ซึ่งแมทช์ปี 2005 มีครบหมดทุกอย่าง ............................................................................. แมทช์ที่ 1 คือมันเป็นความคาดหวังแบบปกติมากกว่า เหมือนเราเชียร์บอลปกติ ทีมตามไล่ตีเสมอได้แล้วก็ยิงนำช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ซึ่งแมนฯยูก็ทำอยู่เป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ครั้งนั้น ใครเป็นแฟนแมนฯยูก็คงจะคาดหวังเยอะหน่อย เพราะจะได้เป็นแชมป์บิ๊กเอียร์อีกครั้ง แต่องค์ประกอบมันไม่ดราม่าเท่าของหงส์ เพราะแมนฯยูยุคนั้นก็ยิ่งใหญ่อยู่แล้ว ใครก็คาดว่าโอกาสเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ก็มีสูงมาก ซึ่งแฟนทีมอื่นที่อาจไม่ได้ดู ตื่นมาแล้วอ่านข่าวแมนฯยูชนะยิงช่วงทดเวลา ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เพราะก็เคยเห็นจนชินตาเป็นปกติ แต่ใครที่ไม่ได้ดูเลยแล้วตื่นขึ้นมาอ่านข่าวแมทช์ปี 2005 ยังไงเสียก็ต้องร้องอุทานว่า "พระเจ้า มันทำได้ยังไง" ใครตาม 3-0 ก็คงไม่คิดว่าจะกลับมาได้ ยิ่งคนที่ปิดทีวีนอนไปตอนจบครึ่งแรก ตื่นมาคงยิ่งช็อคเข้าไปอีก เพราะนอกจากไม่คิดว่าจะกลับมาได้แล้ว ยังต้องเสียดายเพราะพลาดแมทช์พิเศษแบบนี้ไป เพราะ 3-0 กับทีมอย่างมิลาน ใครจะคิดว่าจะกลับมาได้ แมนฯยูตามแค่ 1-0 กับทีมอย่างบาเยิร์น แล้วยิงทดเจ็บประจำ มันไม่ค่อยจะมีอะไรเท่าไหร่ เพราะก็อย่างที่บอก แมนฯยูก็ทำได้อยู่เรื่อยๆอยู่แล้ว ถ้าจะดราม่าก็คงเป็นแค่เฉพาะที่แฟนแมนฯยูมากกว่า ที่ดราม่าจากความคาดหวังของตัวเอง แต่แมทช์ปี 2005 ของหงส์เนี่ย ไม่ว่าแฟนทีมไหนก็ต้องร้องโอ้วกันหมดล่ะครับ นอกจากแฟนบอลที่เกลียดหงส์ชนิดเข้าไส้จริงๆเท่านั้นแหละ... จากคุณ : CatCakeMaru เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 15:28:43

ความคิดเห็นที่ 44 ไม่ได้เป็นแฟนลิเวอร์พูล แต่ผมคิดว่า UCL2005 เป็นอะไรที่สุดยอดที่สุดเเล้ว จากคุณ : NadeKo เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 16:02:08

ความคิดเห็นที่ 45 ไม่ได้ดู นัดของลิเวอร์พูล แต่คิดว่านี่คงดราม่าสุดละ กลับมาได้เนี่ย แต่ 1 นี่ ตอนนั้นเพิ่งเริ่มเชียร์แมนยู แต่ก็คุ้มค่ากับการดูจริงๆ จากคุณ : Desolator เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 20:58:26

ความคิดเห็นที่ 46 ดราม่านี่มัน ต้อง ลุ้นตั้งแต่ต้นจนจบ เกิดเหตุการณ์มากมายหลายอย่าง แต่กับหักมุม นี่มันมาเอาตอนก่อนจบของเรื่อง ให้งงและอึ้งกันในตอนท้ายๆเรื่อง ก็เลือกเอาละกันนะครับ   ถ้าตามหัวข้อกระทู้ผมก็ต้องเลือก 2 เพราะ ดราม่าที่สุด แต่ถ้าถามว่าอันไหนมหัศจรรย์ที่สุด ก็เหลื่อมมากๆสำหรับ ข้อ 1 กับ 2 เพราะการยิงสองลูกเพื่อเป็นแชมป์ในช่วงทดเจ็บกับนัดชิงถ้วยที่ใหญ่ที่สุดของปี มันเป็นไปได้ยากมาก จากคุณ : ชิววี่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 21:27:51

ความคิดเห็นที่ 47 2 ดราม่าครับ แต่ 1 นี้มันโรคจิตชัดๆ จากคุณ : เทียนหลง เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 21:52:56

ความคิดเห็นที่ 48 คงต้องแยกความหมายของดราม่า กับ ระทึก ให้ออก... จากคุณ : archparty เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 22:30:36

ความคิดเห็นที่ 49 รายการ UCL แมกกาซีน เคยจัดลำดับนะ 1.หง 2005  2.ผี 1999 จากคุณ : ผมรู้..คุณรักผม เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 22:33:32

ความคิดเห็นที่ 50 ถ้าดูทั้งเกมส์ เกมส์ 2005 ดราม่าสุดๆ ตั้งแต่ ยิง 3 ลูกตีเสมอโดยที่ฟอร์มครึ่งแรกเหมือนเด็กเล่นกับผู้ใหญ่ พอช่วงต่อเวลาเจอเชฟเชนโก้ยิง 1 หลาติดมือดูเด็กอีก หัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลยครับ จากคุณ : น้องเบนนี่ เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 22:35:13