 |
ผีชนสิงห์ชี้ชะตาแชมป์!รูนวัดคมแข้งตอร์ 08/05/2011 6:20:00
ศึกนี้ผู้ชนะอาจมีคำว่าแชปม์ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝากความหวังในแดนหน้าไว้กับ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงร่างตันลุ้นระเบิดฟอร์มซาตานหลอนตาข่ายทีมเยือน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ดีกรีแชมป์เก่าที่กลับมาสู่เส้นทางลุ้นเจ้าแห่งแดนลูกหนังเกาะอังเกฤษอีกครั้งอาจไว้ใจ "เสือตอร์" เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงคำรามสั่นประตูเจ้าถิ่นลุ้นบุกเก็บชัยเพื่อแซงขึ้นตำแหน่งจ่าฝูงโค้งสุดท้าย
ปรีวิว ฟตุบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม 2554 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เชลซี สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ ปีศาจแดง เพิ่งฉลองใหญ่กับการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปี โดยครั้งนี้จะเตะกันที่เวมบลีย์ด้วย หลังถล่ม ชาลเก้ 04 ในนัดสอง 4-1 รวมแล้วยิงกระจุย 6-1 ทั้งที่พักตัวหลักแบบยกชุดในเกมเมื่อวันพุธ
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในลีกกลับทำตัวเองให้ต้องมาลุ้นเหนื่อย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยนำ อาร์เซน่อล 7 แต้ม แต่ล่าสุดรองจ่าฝูงเวลานี้กลับเป็น เชลซี ที่ไล่มาเหลือ 3 คะแนนแล้ว แถมประตูได้เสียเวลานี้ยังเท่ากันพอดี นั่นก็หมายความว่า หาก สิงห์บลูส์ ชนะ จะขึ้นนำจ่าฝูงทันที พร้อมกับเหลือเกมเตะอีกสองนัดสุดท้าย
เฟอร์กี้ รอบคอบเต็มที่ เมื่อพักตัวหลักเกือบยกชุดในเกมกับ ชาลเก้ เมื่อวันพุธ ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าตัวเก่ง เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าเล็กน้อย จนไม่ได้ซ้อมเมื่อวันอังคาร และไม่มีชื่อในเกมวันพุธด้วย อย่างไรก็ตาม ดูแล้วน่าจะเป็นการเก็บตัวเอาไว้ในเกมวันอาทิตย์นี้มากกว่า
เนมานย่า วิดิช กัปตันทีม, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, พาร์ค ชี-ซอง และ ไรอัน กิ๊กส์ จะกลับคืนตัวจริงทั้งหมด มีเพียง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ที่เพิ่งหายป่วยกลับมาเป็นตัวสำรองนัดที่แล้ว แต่คาดว่าไม่พร้อมลงตัวจริง และ ปาทริซ เอวร่า ที่เจ็บต้นขาหลังลงสำรองในเกมวันพุธ ก็พร้อมลงสนาม
แดนกลางจะได้ พอล สโคลส์ กองกลางตัวเก๋า พ้นโทษแบนรายการในประเทศ 3 นัด กลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง แต่เชื่อว่ามิดฟิลด์ผมทองได้ลงตัวจริงในเกมยุโรปไปแล้ว น่าจะถูกพักเป็นแค่ตัวสำรองมากกว่า เท่ากับว่าเกมนี้จะขาดแค่ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ที่พักยาวคนเดียว
ระบบการเล่น 4-4-2 เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ลงเฝ้าเสาต่อเนื่อง แผงหลังใช้ จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า แดนกลางมี นานี่ กับ พาร์ค ชี-ซอง เดินเกมริมเส้น คู่กลางวาง ไมเคิ่ล คาร์ริค กับ ไรอัน กิ๊กส์ และคู่หน้า เวย์น รูนี่ย์ ยืนคู่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
ทางฝั่ง คาร์โล อันเชลอตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม กลับมามีลุ้นแชมป์อย่างเหลือเชื่อ หลังจากก่อนหน้านี้เคยตามห่างสุดถึง 12 แต้มด้วยซ้ำในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนเฉือนชนะ สเปอร์ส 2-1 และ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแพ้ อาร์เซน่อล 0-1 ทำให้เกมวันอาทิตย์นี้มีความหมายขึ้นมาทันที
สภาพทีม คาร์เล็ตโต้ พร้อมใช้งานลูกทีมแบบสมบูรณ์สุดๆ เพราะไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่มหรือติดโทษแบนในเกมนี้เลย มีเพียง โชเซ่ โบซิงวา ที่เจ็บอยู่ก่อนแล้ว และ ยูริ ชีร์คอฟ ที่ต้องรอทดสอบความฟิต แต่ก็จะไม่ส่งผลต่อการจัด 11 คนแรกทั้งคู่
ปัญหาที่ต้องคิดหนักยังอยู่ที่แดนหน้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา จะเป็นตัวยืนอย่างแน่นอน ส่วนอีกคนโอกาสของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ยังคง 50-50 มีการคาดการณ์ไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่าอดีตศูนย์หน้าลิเวอร์พูลจะได้เล่น บ้างก็ว่าโอกาสจะเป็นของ ซาโลมง กาลู
ระบบการเล่นยังยึด 4-4-2 ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แนวรับใช้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า แดนหน้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เล่นกับ เฟร์นานโด ตอร์เรส หรือ ซาโลมง กาลู
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - จอห์น โอเช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า - พาร์ค ชี-ซอง, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, นานี่ - เวย์น รูนี่ย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - ไมเคิ่ล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเคล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า - ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, เฟร์นานโด ตอร์เรส (ซาโลมง กาลู)
ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
วงในเผยป๋าอาจเสี่ยงใช้เอวร่า
เดลี่ เมล์ สื่อดังของอังกฤษ เปิดเผยว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังวิตกกังวลอย่างหนักกับอาการบาดเจ็บของ ปาทริซ เอวร่า แบ็กซ้ายทีมชาติฝรั่งเศส หากส่งลงสนามในเกมสำคัญกับเชลซี วันอาทิตย์นี้
เอวร่าถือเป็นหนึ่งในสี่กองหลังที่สำคัญที่สุดของทีมในตำแหน่งแบ็กซ้าย และแม้จะถูกพักเป็นตัวสำรองในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ที่ถล่มชาลเก้ 4-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่นักเตะก็ถูกส่งลงสนามในครึ่งหลัง ก่อนจะมีปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขา แต่ก็กัดฟันเล่นจนครบ 90 นาที
แม้เบื้องต้นอาการบาดเจ็บจะไม่รุนแรงนัก และเฟอร์กี้ก็เผยว่า เอวร่าน่าจะฟิตสมบูรณ์ดี แต่ก็มีการล้วงลึกจากแหล่งข่าววงในของเดลี่ เมล์ ว่าปัญหาบาดเจ็บนี้อาจลามปามไปถึงเกมรอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาร์เซโลน่า วันที่ 28 พ.ค. นี้
พักเฟล็ทช์ให้พร้อมสำหรับชิงชปล.
เฟอร์กูสัน เผยว่า จะไม่ส่ง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ลงเล่นในเกมวันอาทิตย์นี้ เพราะต้องการให้นักเตะฟิตสมบูรณ์ที่สุด เอาไว้เป็นตัวเลือกในเกมรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาร์เซโลน่า วันเสาร์ที่ 28 พ.ค. นี้
"เขาจะไม่ลงเล่นในวันอาทิตย์นี้ แต่การซ้อมของเขาจะช่วยเพิ่มความเฉียบคมให้กับเขาก่อนเกมสำคัญที่รออยู่ข้างหน้า จนกว่าจะถึงตอนนั้น เขายังมีเวลาอีกเกือบ 3 สัปดาห์ นั่นคือเป้าหมายของเขาและหวังอย่างยิ่งว่าหากเขาผ่านไปได้ มันก็จะเป็นข่าวที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ เขาคือนักเตะที่เหมาะกับการลงเล่นในเกมใหญ่"
กดดันเปาเว็บบ์หวั่นตัดสินห่วย
เฟอร์กูสันเล่นสงครามจิตวิทยาออกโรงกดดัน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ผู้ตัดสิน โดยเผยว่า เขารู้สึกหวั่นใจอย่างมากกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่มักจะส่งผลร้ายต่อทีมของเขาหลายต่อหลายครั้ง
กุนซือวัย 69 ปี กล่าวว่า "แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่เราหวั่นกลัวมากที่สุด ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ คือผู้ตัดสินที่ดีที่สุดของประเทศ แต่เราก็หวังว่าโชคจะเข้าข้างเราบ้าง"
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่ส่งผลใหญ่หลวงเกิดขึ้นในเกมพรีเมียร์ลีก 2 นัดหลังสุดที่พบกัน ครั้งแรกคือเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ฤดูกาลที่แล้ว ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ทำประตูที่สองให้ทีมคว้าชัยจากจังหวะล้ำหน้า และนัดล่าสุดที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อเดือนมีนาคม เฟอร์กี้เชื่อว่า ดาวิด ลุยซ์ สมควรโดนไล่ออก ก่อนที่กองหลังแซมบ้าจะเป็นคนยิงประตูตีเสมอ
ขู่สิงห์บลูส์มาเยือนผีไม่ง่าย
ขณะเดียวกัน นายใหญ่ชาวสกอตต์ยังมั่นใจว่า สิงโตน้ำเงินครามจะต้องเจองานสุดหินในการบุกมาเยือนถิ่นปีศาจแดงแน่ แม้จะโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงหลังก็ตาม
"ทุกทีมที่มาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต้องรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเผชิญกับงานหนัก และทุกทีมที่มาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็มักจะวางหมากมาไม่แตกต่างกันนัก สิ่งสำคัญคือเราจะรับมือกับเกมและโชว์ฟอร์มให้ดีได้อย่างไร ฟอร์มในบ้านของเรานั้นดีมาก เราทำแต้มหลุดมือไปเพียง 2 คะแนน ตลอดฤดูกาลนี้ ดังนั้น สถิติของเรานับว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของยุโรป"
"ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว, 4 สัปดาห์ที่แล้ว, 4 เดือนที่แล้ว หรือ 4 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันเราก็อยู่ ณ จุดนี้ เรามีแต้มนำอยู่ 3 คะแนน และด้วยจำนวนประตูได้เสียที่เท่ากับเชลซี เราจะได้เล่นกับพวกเขาในบ้าน ขณะที่เหลือโปรแกรมอีก 3 นัด ซึ่งเป็น 2 เกมเหย้า และ 1 เกมเยือน นั่นคือสิ่งที่เป็นและไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้"
ไม่คิดฝันนำผีซิวแชมป์สมัย19
นอกจากนี้ เฟอร์กี้ยอมรับว่า ไม่เคยคิดฝันว่าจะสามารถนำทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19 แซงหน้าลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในลีกเมืองผู้ดีได้สำเร็จ หลังจากเข้ามาคุมทีมแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 1986
"ไม่แน่นอนว่าผมไม่เคยคิดฝันเลยในช่วงเวลานั้น เป้าหมายคือการขึ้นมาทาบรัศมีของลิเวอร์พูล และความสำเร็จของเราเอง นั่นคือเป้าหมายที่แท้จริง นั่นคือเหตุผลที่ผมมาที่นี่ คือการคว้าแชมป์ เมื่อเราทำสำเร็จในครั้งแรก สโมสรก็เริ่มยิ่งใหญ่อย่างต่อเนื่อง ผมไม่คาดคิดว่าจะอยู่ที่นี่ได้นานขนาดนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษที่ผมได้อยู่ที่นี่ และคุณคงคิดไม่ถึงในเรื่องจำนวนถ้วยแชมป์ที่เราคว้ามาครองได้แน่ เป้าหมายต่อจากนี้คือการเป็นอันดับที่ 1"
"โดยส่วนตัวแล้ว มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย มันเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ของสโมสรมากกว่า และนั่นคือเรื่องสำคัญ มันเหมือนกับศึกยูโรเปี้ยน คัพ มันมีประวัติศาสตร์ของทีมเรอัล มาดริด และ เอซี มิลาน รวมถึงทีมอื่นๆ อย่าง ลิเวอร์พูล, อาแจ็กซ์ และ บาเยิร์น มิวนิค และชัดเจนว่าเราก็อยู่ในกลุ่มเหล่านั้นด้วยเช่นกัน"
ริโอเชื่อชนะในชปล.ทำผีมั่นใจ
ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังคนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อการคว้าชัยเหนือเชลซีในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก 2 นัดซ้อน เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลจิตวิทยาทางใจต่อนักเตะทีมสิงโตน้ำเงินครามให้รู้ตัวว่าการบุกมาเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ใช่เรื่องง่าย
แม้การพบกันช่วงหลังๆ เชลซีมักทำได้ดีกว่า รวมถึงปีก่อนก็บุกไปชนะที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ในช่วงท้ายซีซั่น แต่ริโอเชื่อว่าชัยชนะทั้งเกมเหย้า-เยือนในถ้วยยุโรป ต้องทำให้เชลซีคิดหนักเหมือนกัน
"เชลซีรู้ว่าเราเอาชนะพวกเขาได้ เรารู้ว่าเราเองก็เล่นดีในเกม 2 นัด โดยเฉพาะที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ มันจะมีผลทางใจต่อนักเตะเชลซี ว่าเราเพิ่งชนะเขามาหรือเปล่า อันนี้ผมก็ไม่รู้ แต่เราจะลงไปเล่นอย่างมั่นใจ"
"เกมนี้จะเป็นตัวกำหนดได้ว่าแชมป์จะเทไปทางไหน แต่ว่ามันยังไม่จบสิ้นหรอก คุณต้องเคารพความจริงที่ว่า หลังจากนี้มันยังมีเกมสำคัญๆ รออยู่อีก 2 นัด และในกรณีของเราเป็นการเจอกับทีมที่ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดด้วย"
งดคุยแลมพ์สชั่วคราวช่วงลุ้นแชมป์
เฟอร์ดินานด์ยังเผยว่า เขามีพันธสัญญาปากเปล่ากับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ของเชลซี เพื่อนซี้ที่คบหากันมานาน ตั้งแต่อยู่เวสต์แฮมช่วงวัยรุ่นว่า ในช่วงท้ายซีซั่น ที่ต้นสังกัดของทั้งคู่กำลังขับเคี่ยวแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกันอย่างดุเดือดนั้น พวกเขาของดคุยกันเป็นการชั่วคราว
ริโอ กับ แลมพาร์ด เติมโตมาจากการเป็นนักเตะเด็กสร้างของเวสต์แฮม ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามทาง และวันอาทิตย์นี้จะได้โอกาสดวลแข้งกันในเกมลีกที่จะตัดสินว่าทีมของใครจะได้แชมป์ โดย ริโอ กล่าวว่า "ในช่วงนี้ของฤดูกาล ผมกับแฟร้งค์จะไม่คุยกัน มันเป็นสัญญาปากเปล่าของเราทั้งคู่ ในระหว่างซีซั่นเราจะส่งข้อความหากันอย่างนั้นอย่างนี้ แต่พอถึงเวลาสำคัญ ถ้าเราทั้งคู่ต้องสู้แย่งแชมป์กัน มันจะไม่การสนทนาใดๆ"
ไม่สนสถิติขอคว้าแชมป์ลีกเป็นพอ
อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษยังไม่สนกับสถิติการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นสมัยที่ 19 ของทีมด้วย โดยหวังแค่ว่าปีศาจแดงจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้แค่นั้นเป็นพอ เพราะมีนักเตะหน้าใหม่หลายคนที่ยังไม่เคยสัมผัสบรรยากาศการคว้าแชมป์ลีก
"ตั้งแต่ต้นฤดูกาลแล้วที่ทุกคนจะยกให้เรา หรือเชลซีเป็นทีมเต็ง อาร์เซน่อลเองก็ทำได้ดี แต่พวกเขาก็แผ่วลงไป หลังผ่านเกมวันอาทิตย์ไปแล้วก็จะยังเหลือเกมอีก 2 นัด ผมจึงไม่คิดว่านี่จะเป็นเกมตัดสินแชมป์ แต่มันอาจบอกได้ว่าแชมป์จะไปอยู่กับทีมไหน"
"ความคิดที่ว่านี่จะเป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 19 ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญใดๆ สำหรับนักเตะ เราแค่อยากคว้าแชมป์ลีกก็แค่นั้น ในทีมมีนักเตะบางคนที่ยังไม่ได้แชมป์ลีกมาก่อน และมีบางคนที่ได้มาบ้างแล้วอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ กับ พอล สโคลส์ เราแต่ละคนอาจอยู่ในช่วงที่แตกต่างกันไป แต่ความหิวกระหายความสำเร็จเหมือนกัน เราเข้าใจว่ามันมีความหมายต่อแฟนบอล แต่ถ้าเราเอาเรื่องสถิติมาคิด มันอาจไม่ได้ช่วยอะไรเราเลยก็ได้"
http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110508_021.html
จากคุณ |
:
s_manavvan
|
เขียนเมื่อ |
:
8 พ.ค. 54 06:40:51
|
|
|
|
 |