 |
Tomkins: สำหรับ Luis Suarez แค่นี้ยังโหดไม่พอ!!! ++
ที่มา: TomkinsTimes บทความโดย: Paul Tomkins แปล: Amanda_Kop
มันเหมาะจริงๆ ที่มันควรจะต้องเป็นบ้านหลังเดิมของผู้จัดการทีม Fulham คนก่อน (ต่อมากลายเป็นผู้จัดการทีม Liverpool ที่ย่ำแย่) ที่จะทำให้ Luis Suarez สรุปทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับแนวทางการทำทีมของ Roy Hodgson ว่ามันผิดพลาดไปหมดระหว่างเดือน ส.ค.2010 ถึงเดือน ม.ค.2011 อย่างนี้ ขณะที่ Hodgson ไม่ได้เป็นเจ้าของกองหน้ามหัศจรรย์ทีมชาติอุรุกวัย เขาก็ยังคงมีนักเตะอื่นๆ อีกหลายคนที่ สามารถเล่นในเกมส์รุก ได้อย่างมากมายอยู่ วลีนี้มันเป็นวลีที่ถูกนำมาใช้ครั้งแล้วครั้งเล่าในยุคของ Rafa Benítez ที่มีนักเตะอย่าง Luis Garcia, Yossi Benayoun, Dirk Kuyt และนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด Steven Gerrard ที่สามารถครอบครองพื้นที่ซึ่งยากแก่การประกบตัว และเล่นเชื่อมเกมส์ร่วมกับแดนมิดฟิลด์
มันมีทางเลือกที่แตกต่างกันออกไปในการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ แต่ดูเหมือนว่าการเล่นแบบมีกองหน้าสองคนยืนเท่ากันในแดนหน้านั้นมันเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว โดยเฉพาะกับทีมระดับทอป Roy Hodgson ยังคงดึงดันที่จะทำอย่างนั้นด้วยการใช้ Torres และ Ngog ในแดนหน้า แล้วใช้แบ็กโฟว์วางบอลยาว มันทำให้สูญเสียศักยภาพทางเทคนิค ผู้เล่นที่เล่นในตำแหน่งพื้นที่ด้านกว้างมีพื้นที่เล่นได้สบายๆ แต่พวกเขาก็มีการเคลื่อนที่นอกเหนือจากนั้นน้อยมาก เพราะมันไม่มีการสับเปลี่ยนตำแหน่งกัน ไม่มีการสอดประสานกัน ไม่มีการบุกจากฟูลแบ็ค ปล่อยกองหลังอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่ต้องประหลาดใจเลยว่าทำไมทีมหงส์แดงจึงทำประตูได้น้อยมาก มันเป็นครึ่งฤดูกาลที่ขาดสีสันและน่าเบื่อมากมาย
(ในขณะที่เราเล่นกับทีม Fulham นี่เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่มีผู้คนบอกกับผมว่า Hodgson ได้รับการปฏิบัติจากแฟนบอล Liverpool แย่มาก และเราอาจมีผลการแข่งขันที่พัฒนาขึ้นแบบเดียวกันนี้หากว่าเขายังอยู่กับทีมต่อไป อื่นๆ อีกมากมาย มีช่วงเวลาไหนบ้างมั๊ยที่เขาทำผลงานได้ดีกับทีมใหญ่สักทีม และไม่ได้เป็นการทำทีมเล็กที่ความคาดหวังต่ำ ช่วยบอกผมที เขาทำผลงานได้ดีกับทีม West Brom แต่มันไม่ได้ทำให้เขาหนีพ้นจากความผิดพลาดร้ายแรงที่ทำที่สนามแอนฟิลด์หรอกนะ) ทันทีที่ Kenny Dalglish และ Steve Clarke ก้าวเข้ามา แนวทางของ Hodgson ถูกกำจัดทิ้งไป ฟอร์มการเล่นของทีมพัฒนาขึ้น หลังจากมีสองนัดในช่วงแรกที่ผลการแข่งขันไม่ดี นับจากนั้นผลการแข่งขันพัฒนาขึ้นมาก ผลต่างประตูได้เสีย -3 กลายมาเป็น +18 อย่างรวดเร็ว ทีม Liverpool ก้าวจากการเป็นทีมในโซนหล่นชั้นกลายมาเก็บแต้มได้มากกว่าทีมไหนๆ
ในเกมส์แรก Gerrard กลับมาเล่นเป็นหน้าต่ำ แม้ว่าเขาจะถูกไล่ออกจากสนามไปหลังจากเล่นไป 30 นาทีในสนาม Old Trafford ต่อมาเป็น Raul Meireles ที่ได้เล่นในตำแหน่งนั้นและเขาก็โผล่เข้าไปอยู่ในทุกพื้นที่ ทำประตูได้หลายประตูเหมือนกัน ทั้งสองทางเลือกที่ว่ามามันเป็นทางเลือกของ Hodgson ได้เช่นกันแต่เขาไม่หันไปใช้งาน หลังจากทำได้แค่ 6 ประตูจาก 21 เกมส์ภายใต้การคุมทีมของ Hodgson แม้แต่กองหน้าอย่าง Torres ก็กลับไปมีฟอร์มเดิมคือทำประตูไม่ค่อยได้ ยิงได้แค่เพียง 3 ประตูจาก 5 เกมส์ มันแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการใครสักคนที่เปิดป้อนบอลมาให้ มากกว่าการที่จะมีกองหน้าอีกคนมาเล่นเคียงข้างเขา เล่นทับตำแหน่งกัน (กรณีนี้มันอาจจะเป็นจริงที่ Chelsea ก็ได้ เพราะไม่มีใครเลยระหว่างเขากับ Drogba ที่จะทำประตูได้ในการเล่นร่วมกัน ตอนนี้เขามีค่าตัวมหาศาลและมีทีมใหม่ให้ต้องปรับตัวเข้าหา)
แม้ว่าบรรดานักเตะซีเนียร์มากมายมีอันต้องบาดเจ็บไป (Gerrard, Carroll, Kelly, Agger, Aurelio และอีกหลายคน) แนวทางการเล่นของทีมอยู่บนพื้นฐานของการผ่านบอลที่ชาญฉลาดและการเคลื่อนที่ของนักเตะที่แสนฉลาดอย่าง Maxi, Meireles และ Kuyt ทั้งหมดที่กล่าวมาก็ต่างอยู่กับสโมสรทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล แต่กลับทำผลงานไม่ค่อยน่าประทับใจมากนัก ผมมั่นใจว่า Hodgson ต้องการกองหน้าคนใหม่อีกคน แต่เขาจะเลือกนักเตะอย่าง Suarez หรือไม่? มันไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นใครที่ทำระหว่าง Dalglish, Clarke และ Comolli เพราะทีม Liverpool ไม่จำเป็นต้องมองย้อนอดีต จริงอยู่ที่ว่าผู้บริหารผู้จัดการทีมคนใหม่มีส่วนช่วยให้ห้องแต่งตัวกลับมาสมัครสมานสามัคคีกัน แต่ขณะเดียวกันก็อาจหยุดไม่ให้ทีม Liverpool เล่นกันเป็นทีมอย่างนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการหนีตกชั้นหรือเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกยำถึง 6-0 เหมือนในเกมส์กับ Manchester City (เหมือนที่ Roy Hodgson เคยกล่าวไว้ในเกมส์ที่สองของฤดูกาล)
แล้วฟอร์มการเล่นของ Suarez เป็นอย่างไรบ้างล่ะ? หลายเกมส์ของเขาแสดงให้เห็นว่าเขามีการเคลื่อนไหวระดับเทพ เทคนิคสูงส่ง มีความมุ่งมั่นและทำประตูได้ด้วย บางครั้งเขาแสดงให้เห็นการคิดถึงเพื่อนร่วมทีมคนอื่นจนเกินไป แม้ว่ามันก็คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าเขาไม่กลัวหรอกที่จะไม่ต้องคิดถึงคนอื่น แค่เดินหน้าบุกด้วยตัวเขาเอง (หากว่าเขามีจุดบกพร่อง บางทีมันอาจจะเป็นการจบสกอร์ของเขานั่นแหละ แต่โดยทั่วไปแล้วเขาสร้างสรรค์โอกาสเหล่านั้นขึ้นมาจากที่มันไม่มีอะไรเลย ในช่วงที่ต้องเจอกับโอกาสการทำประตูที่ดี เขาดูเหมือนจะเลือกทางเลือกที่ถูกต้องเสมอ)
ก่อนหน้าสองเกมส์ล่าสุดที่เขาทำประตูได้ ผมพยายามศึกษาว่าเขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับการได้ประตูไปกี่ครั้ง ด้วยการทำอย่างนี้ ผมไม่ได้จำกัดเฉพาะการทำประตูหรือการแอสซิสต์ แต่มันหมายถึงการจับบอลที่สำคัญที่นำไปสู่การสร้างสรรค์เพื่อทำประตูด้วย เขาทำประตูได้ในเกมส์เปิดตัวลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมส์กับ Stoke แต่ตอนนั้นเขายังไม่ฟิตในการเล่นเต็มเกมส์ หลังจากที่ห่างหายการเล่นเกมส์ในฮอลแลนด์ไปเกินกว่าหนึ่งเดือน สองสามเกมส์ต่อมาเขาเล่นแบบค่อนข้างประคองตัว มันยังไม่ใช่การเดินหน้าเต็มสูบของเขาจนกระทั่งถึงกลายเดือน ก.พ. เพราะเขาไม่อาจลงเล่นเกมส์ Europa League เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงแค่เพียง 10 เกมส์เท่านั้นและเป็นตัวสำรองลงสนามมาอีกเพียงครั้งเดียว
แต่มันเป็นเกมส์กับทีม Manchester United ตอนต้นเดือน มี.ค. ที่เขาก้าวขึ้นมาอย่างแท้จริง การเลี้ยงบอลลัดเลาะอย่างรวดเร็วทำได้ดีเหมือนกับที่ Torres เคยทำได้ในช่วงที่เขาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุด Suarez เป็นคนเปิดบอลใส่พานทองฝังเพชรให้ Kuyt ทำประตู และช่วยให้พวกเราเดินหน้าต่อหลังการจากไปของกองหน้าหมายเลข 9 คนนั้น เขาเป็นคนสุดท้ายที่สัมผัสบอลก่อนที่ Kuyt จะทำประตูในอีกสองประตูต่อมาด้วยการครอสบอล และต่อมาเป็นการยิงที่ Van der Sar ไม่สามารถรับเข้าซองได้ ในเกมส์กับ Sunderland เขาทำประตูได้จากมุมที่แทบไม่น่าเชื่อเลย หลังจากพลิกบอลอย่างชาญฉลาดในกรอบเขตโทษ ในเกมส์กับทีม West Ham เขาใส่พานทองให้กับ Glen Johnson แตะเข้าประตูไป
4 ประตูในเกมส์กับ Birmingham มันเป็นเพราะความมุ่งมั่นทุ่มเทของเขา ประตูแรกมาจากการยิงที่ถูกบล็อก (หลังจากนั้นจึงเป็นประตู) ประตูที่สองมาจากการพาบอลเลี้ยงอย่างสุดยอดของเขาทำให้เขาสลัดหลุดไปยังประตู หลังจากนั้นเป็น Kuyt มาอยู่ในจุดที่พอเหมาะหลังลูกยิงของ Suarez ถูกเซฟ ประตูที่ 3 มาจากการพลิกตัวตัดหลังแบ็กขวาแสดงให้เห็นว่าเขาอันตรายไม่ว่าจาการเล่นฝั่งสนามด้านใดก็ตาม แล้วเขาก็ครอสบอลให้ Maxi ยิงเข้าประตูไป นอกจากนี้เขายังเป็นคนปั้นให้ Maxi ทำแฮทริกได้ด้วย แม้ว่ามิดฟิลด์ทีมชาติอาร์เจนตินาจะต้องซ้ำดาบสองก็ตาม
เช่นเดียวกับประตูในเกมส์กับ Newcastle ก็เป็น Suarez ที่นำมาสู่การได้จุดโทษ เป็นอีกครั้งที่เขายืนประชิดกับกองหลัง แล้วพลิกตัวอย่างรวดเร็วเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แม้การล้มของเขาอาจดูเหมือนมารยาบ้าง แต่เขาเรียกฟาล์วได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และเมื่อคืนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการเป็นผู้ทำประตูชั้นเลิศ เขาปั้นให้ Maxi ทำประตูแรก หลังจากพาบอลทะลุไปทางฝั่งซ้ายของสนามแล้วเปิดบอลไปกลางประตู แม้ว่านักเตะ Fulham จะสกัดบอลมาเข้าทาง Maxi ก็ตาม (นอกจากนี้เขายังน่าจะได้จุดโทษ ทุกคนคิดว่าเป็นจุดโทษ ยกเว้นคนเดียวคือ Lee Mason ที่หากมันเป็นจุดโทษจะต้องนำมาสู่การให้ใบแดงกับ Hangeland และหากดูจากการที่ Mason ไล่ Degen ออกจากสนามไปในฤดูกาลที่แล้ว เจอกับจังหวะนี้เข้าไปคุณต้องขำเลยทีเดียว)
การออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 10 เกมส์ ทำได้ 4 ประตู ทำแอสซิสต์แบบตรงๆ ได้ 3 ครั้ง และช่วยให้ทีมได้จุดโทษหนึ่งครั้ง มีส่วนเกี่ยวข้องกับประตูของทีม Liverpool ถึงเกือบ 12 ประตู อะไรอีกล่ะที่ต้องการ การทำแอสซิสต์ของเขาทั้งหมดมันเป็นการใส่พานทองฝังเพชรให้แบบใครยิงพลาดก็บ้าแล้ว บวกรวมกับการทำงานหนักไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมแฟนบอลของทีม Ajax ถึงให้ความสำคัญและยกย่อง Suarez มากกว่า Wesley Sneijder ในฐานะแฟนบอลของ Liverpool แล้ว ในฤดูกาลนี้พวกเราได้ประสบกับหลายสิ่งอย่างที่พวกเราอยากจะลืมเลือนไป แต่ ณ ตอนนี้พวกเรามีหลายสิ่งอย่างให้จดจำเช่นกัน และเป็นสิ่งที่ทำให้เราเฝ้าตั้งตารอ และด้วยการมีนักเตะที่ชื่อ Luis Suarez แค่นี้ยังไม่พอแน่นอน
Based entirely on the article Luis Suarez the Hole Story by Paul Tomkins
___________________________ ++ ข่าวหรือบทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของ hongmarnz ผู้ต้องการเผยแพร่ข่าวหรือบทความต้องให้เครดิตผู้แปลข่าวหรือบทความหรือ hongmarnz ++ http://www.hongmarnz.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=52152
จากคุณ |
:
Baolinyan
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ค. 54 11:12:27
|
|
|
|
 |