ความคิดเห็นที่ 1 555  ออกตัวแรงอย่างนั้น จะกลับตัวทันหรอ   สีข้างแหกหมดแล้ว ถ้าจะพูดเรื่องธุรกิจ แล้วทำไมต้องจำเพาะเจาะจง มาแถลงหลังจากบังยีตกเก้าอี้ล่ะคร้าบบบบ จากคุณ : llwu เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 18:43:23

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยทั้งสองประเด็นครับ คือประเด็นไทยลีกบูมส่วนนึงก็มาจากสยามกีฬา และเมืองทอง อันนี้เราควรยอมรับและให้เครดิตเค้า อีกประเด้นคือหาทางลงจากหลังเสือ...อันนี้ผมคิดว่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริง ไทยลีกถ้าดูลึกๆจะพบว่าเลยจุดสูงสุดไปแล้ว เหมือนต้นไม้ที่โตรวดเร็วเกินไป แต่รากฐานไม่แน่น ผมยังคิดเลยว่า เมื่อระวิไม่ทำ วรวีย์ไม่อยู่ แล้วกระแสไทยลีกเริ่มซา พวกเค้าทั้งสองคงออกมาซ้ำแน่ๆ .......... สรุปคือ มาตอนน้ำกำลังขึ้น และชิงจากไปตอนที่กำลังลง......จากไปอย่างฮี่โร่....เหนือเมฆจริงๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 54 18:46:31 จากคุณ : Shark_Bangsai เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 18:45:15

ความคิดเห็นที่ 3 ก็ถูกส่วนหนึ่ง แต่ไม่ทั้งหมด ในแง่ ผู้ได้รับผลประโยชน์ บ.สยามสปอร์ตก็เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดไปแล้ว เขาลงทุน เขาเสี่ยง เขาก็ได้เยอะ จุดนี้ผมมองว่า เขาคงไม่กล้าปล่อยสิทธิ์ประโยชน์ไปฟรีๆแบบคุณระวิพูดไว้หรอกครับ แต่ถ้าเขากล้าปล่อยจริง ก็คงช็อกไปเลย มองในแง่นักธุรกิจ เขาทิ้งเงินไปมหาศาล ถ้าทำแบบนั้น จากคุณ : dwarfgiant เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 18:46:53

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนแรกผมก็ชมสยามกีฬานะ เพราะบอลไทย แกสนับสนุนเยอะ แต่มีเสียความรู้สึก เพราะ หลังๆ มันเกินไปนะ ใช้สื่อตัวเองโจมตีฝ่ายตรงข้าม มันน่าเกลียดอะ จากคุณ : โชริแมน เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 18:50:45

ความคิดเห็นที่ 5 เขาไม่ได้ทำฟรี ทำเพราะเห็นประโยชน์ทางธุรกิจ ถ้าทำฟรีจะขอชื่นชมด้วย จากคุณ : ยิงเสียบสามเหลี่ยม เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 19:01:18

ความคิดเห็นที่ 6 บอกตรงๆผมว่าทีมชลบุรีมากกว่าที่ทำให้ไทยลีคบูม ต่อให้ทีมชลล้มไปกี่ครั้งผมว่าแฟนบอลก็ยังหนุนหลังอยู่ตลอด คนที่ไม่ได้เป็นแฟนชล ก็ยังชื่นชมด้วยความจริงใจ จากคุณ : คนภาคค่ำ เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 19:22:23

ความคิดเห็นที่ 7 ไม่ใช่เพราะชลบุรีหรอ ผมว่าสยามสปอร์ตมันก็ส่วนหนึ่งเท่านั้น โอเคที่เห็นด้วยว่าเจ้านี้นำเสนอข่าวบอลไทยได้ลึกได้กว้างกว่าเจ้าอื่น แต่การใช้สื่อตัวเองเป็นเครื่องมือเป็นกระบอกเสียงให้กับทีมในเครือตัวเองนั้นมันต้องมีผลกระทบ มันเหมือนดาบสองคมนั่นเอง สยามสปอร์ตจะคิดไหมว่าถ้าไทยลีกซบเซาลง ก็คงเพราะตัวเองด้วยส่วนหนึ่งกับทีมชาติด้วยก็ส่วนหนึ่งเพราะเค้าข้างแต่พวกเดียวกันเอง โดยลืมจรรยาบรรณของสื่อสารมวลชนที่ดีไป ปล. รู้เลยว่าทำไมองค์กรสิทธิด้านข่าวมองเราว่าเสรีภาพในการเสนอข่าวลดระดับลงมาก ดูวงการฟุตบอลเป็นตัวอย่างก็เห็นรู้แล้วครับ ยังไม่รวมเรื่องสังคมการเมืองอีก ผมว่ายาวๆเลยแหละครับทีนี้ จากคุณ : เรียวมาโต เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 19:38:44

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยบางส่วนครับ ผมเคยพูดไปแล้วว่าจริงๆการที่ไทยลีคมาได้ขนาดนี้ก็ต้องให้เครดิตสยามกีฬาเหมือนกัน จะว่าไปสมัยก่อนเขาก็เป็นเจ้าเดียวเนี่ยแหละที่เล่นข่าวไทยลีคอย่างจริงๆจังๆ มองกันจริงๆผมก็ว่าน่าชื่นชมอยู่เหมือนกันเพราะสมัยก่อนไทยลีคมูลค่ามันไม่มากขนาดนี้ แทนที่จะเสียพื้นที่ข่าวให้บอลไทยสู้เอาไปเพิ่มคอลัมน์บอลนอกจะดีกว่า แม้ว่าจะพูดไม่ได้ว่าที่ลีคบูมเป็นเพราะสยามกีฬา 100% แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขามีส่วน (ซึ่งต่างจากกรณีเรยีที่แทบจะไม่มีส่วนอะไรเลยแต่ดันอ้่างเป็นความชอบตนซะงั้น) แต่ส่วนตัวผมว่าสยามกีฬาไม่จำเป็นต้องทำเพื่อสังคมหรืออะไรหรอกครับ ไหนๆก็ลงมาจับธุรกิจบอลไทยแล้วก็ทำในแง่ของธุรกิจให้เต็มตัวไปเลยก็ได้ อย่างเช่นกรณีลิขสิทธิ์การถ่ายทอด มันจะเป็นไปได้ไงที่สยามกีฬาจะกล้าทิ้งลิขสิทธิ์มูลค่ามหาศาลขนาดนั้น? โอเคมันอาจจะยังไม่โตพอที่จะเรียกได้ว่าทำกำไร แต่ผมมองแนวโน้มแล้วอนาคตยังไงบอลไทยก็ไม่ตายเหมือนสิงคโปร์แน่ๆครับ ต่อให้ทีมใหญ่ล้มลงไปแต่ก็มีหลายทีมพร้อมจะโผล่ขึ้นมา ฟองสบู่อาจจะแตกค่าตัวนักเตะอาจจะลดลง แต่มันจุดติดมาถึงขั้นนี้แล้วจะถึงกลับต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่เลยผมว่าเป็นไปได้ยาก!! อย่างน้อยทีมที่เขาลงทุนลงแรงไปแล้วก็คงไม่อยากให้ลีคตายก่อนจะได้กำไรคืน นอกเสียจากว่ามันจะล้มเพราะการบริหารงานที่ห่วยแตกของผู้รับผิดชอบเท่านั้นแหละ ดังนั้นจึงคิดว่าถ้าคุณระวิจริงใจที่จะทำตลาดฟุตบอลจริงเขาก็ไม่น่าจะทิ้งดีลมูลค่ามหาศาลนี้ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรเท่านั้น เป็นไปได้มั้ยว่าถ้าเรยีไม่ใช่นายกสมาคมมันจะเกิดปัญหาอะไรกับสัญญาของเขาที่ทำเอาไว้? เพราะมองในแง่ธุรกิจถึงแม้ยุคนี้สมัยนี้คุณจะสนับสนุนนายกคนนี้ แต่ถ้านายกคนใหม่เข้ามาคุณก็หันไปถือหางเขาก็สิ้นเรื่องแล้ว เหมือนกรณีของบ้านเมืองถ้านักธุรกิจคนไหนไม่รู้จักไหลตามกระแสก็มีมัวแต่ยึดติดกับรัฐบาลพรรคใดพรรคหนึ่งก็มีแต่ตายกับตาย ดังนั้นสาเหตุที่คุณระวิทิ้งดีลไทยลีคผมคิดได้อย่างเดียวคือมันต้องมีเบื้องหลังอะไรที่ไม่ชอบมาพากลแน่ ประมาณว่าถ้าไม่มีเรยีคอยคุ้มกะลาหัวไว้มันต้องมีเรื่องบางอย่างแดงออกมา เขาถึงโดดออกมาป้องกันออกนอกหน้าแบบนี้ จากคุณ : ohms เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 19:50:08

ความคิดเห็นที่ 9 แยกแยะให้ออก ว่าอันไหนที่ควรให้เครดิต    อันไหนที่เขาทำเพื่อวีวี่ ส่วนที่ต้องชมก็ชม  ส่วนที่น่าด่า ก็ต้องด่ากันหน่อย ธุรกิจฟุตบอลไทย เพิ่งผ่านมาไม่กี่ปี  บอกเลยจุดสุดยอดแล้วเหรอ ? ผมกลับมองว่า นับวันมันยิ่งบูมขึ้นเรื่อยๆ นะ อาจจะจริงที่โตเร็วไป ทำให้ฐานรากไม่แข็งแรง  แต่มันก็อยู่ที่วิธีการจัดการด้วย ถ้ารดน้ำ พรวนดิน ยึดไม้ค้ำเอนดีๆ มันก็ยังสามารถยืนต้นเติบโตต่อไปได้ ไม่ใช่แค่คนที่คอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มาโดนพายุกระหน่ำ แล้วต้องฟาดงวงฟาดงาถอนไม้ค้ำเอนออก ทำอย่างนั้น มันยิ่งเป็นการซ้ำเติมต้นไม้นี้เข้าไปอีก  นี่หรือคนที่มีใจร่วมลงมือลงแรงกันมาแต่แรก  เมื่อทำแบบนี้ก็อย่าได้มาพูดหาเครดิตอะไรอีก แต่ว่าอย่าคิดว่าถอนไม้ค้ำออกอันเดียวแล้วมันจะล้มทั้งต้น  ไม้ค้ำอันอื่นแม้ว่าจะดูเล็กกว่า แต่ก็ยังมีหลายอัน และที่ว่างที่ถอนออกไป เดี๋ยวก็มีคนยื่นมือเข้ามาหาที่ค้ำเข้ามาแทน โดยเฉพาะถ้าบิ๊กเน ทำแล้วประสบผลสำเร็จกับด้านการเมืองบวกเข้าไปด้วย เดี๋ยวก็มีคนเอาอย่าง และที่สำคัญดินที่พยุงต้นไม้นี้ไว้ ก็คือแฟนบอลจำนวนมหาศาล ที่ยังพร้อมจะอุ้มชู สนับสนุนฟุตบอลไทยต่อไป ตอนนี้อยากจะบอกว่า  อยากถอนก็ถอนไปเถอะ  เมื่อรักกันมากขนาดนั้น  อย่าดีแต่พูดก็แล้วกัน  ธุรกิจกำลังทำเงิน จากคุณ : Free Kick เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 19:58:30

ความคิดเห็นที่ 10 ลองมองให้ดีว่ามัน บูม หรือ มัน บ้า  มันกลายเป็นธุรกิจกีฬา การเมืองเต็มตัวตั้งแต่ทีมพิเรน  สยอง เข้ามาเนี้ย  พัฒนาแค่แหกตาเอาคนดูเข้าไปเยอะ ๆ ถามว่าในเชิงกีฬาเราพัฒนาหรือเปล่า ดรีมทีมไทยลีกไปร่วงรอบแรกลาว  ถ้วยใหญ่AFC แชมป์เปี้ยนลีก ถามว่าทำถึงที่กสิกรไทย หรือ BEC เทโร  ทำใว้ไม๊   เห็นแต่แค่ไปโดนทีมจากอินโดบ้าง สิงค์โปบ้างเตะตกรอบคัดเลือกทุกปี  มีแต่คนดูที่คิดว่าบอลมันพัฒนาทั้งที่จริงถอยหลังลงคลองไม่รู้กี่สิบชาติ จากคุณ : ห้องพักที่ 4 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 20:03:56

ความคิดเห็นที่ 11 # # # # ผมเห็นด้วยกับ จขกท. หลายประเด็นครับ ในแง่ธุรกิจ ผมว่า คุณระวิ กับ VV ก็ไม่ได้เป็นเพื่อนแท้กันหรอก ต่างก็หวังผลประโยชน์จากอีกฝ่าย และการถือโอกาสถอนตัวในช่วงนี้ ก็ตรงกับที่ใจผมคิดเหมือนกัน ว่าไทยลีกโตผิดธรรมชาติ จึงไม่มั่นคง ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง โดยที่ตัวคอนโทรลไม่ได้ ก็ชิงจังหวะถอนตัวก่อนดีกว่า อย่างน้อยก็ยังเหลืออำนาจสื่ออยู่ในมือ ถ้าคนใหม่ เข้ามาทำแล้วยังดีอยู่ จากอำนาจสื่อ และอำนาจเงินที่มี จะกลับเข้ามาเทคใหม่ก็ยังไม่สาย และไม่ยาก เหอๆ  สไตส์คล้ายผมเลย ที่เวลาทำธรุกิจในห้างใหม่ๆ ปล่อยให้คนหนุ่มไฟแรง อยากทำ หรืออยากได้พื้นที่ตรงไหน ก็ทำไปเหอะ ผมไม่สนใจล่ะ  แต่ผ่านไปปี สองปี ถ้าห้างนี้ดีจริง เดี่ยวพวกเจ้าใหญ่ๆ ก็มาครับ ใช้รีเรชั่น อำนาจเงิน ชื่อแบนด์ของตัว เจ้าเล็กก็จ๋อย ถ้ามั่นใจว่าตัวเองแข็ง ทุนเจ๋ง ลงทุนที่หลังแม้ต้องใช้ทุนมากหน่อย แต่มันได้ชัวส์ -นะ- -จะ- -บอก- -ให้- # # # # จากคุณ : ป่วนกระโทก เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 20:31:23

ความคิดเห็นที่ 12 มันคือธุรกิจ และผลประโยชน์ ตัวเองได้เงิน ผู้มีอำนาจได้ฐานที่แกร่ง วิน วิน ทั้งสองผู้ตัว แต่ลึกๆ คห ข้างบนตอบได้กระจ่างแล้ว จากคุณ : aekamon_sharky เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 20:41:42

ความคิดเห็นที่ 13 หน้าจะมีอะไรที่แอบซ่อนอยู่ก็ได้ จากคุณ : KangChonBuRiFC_B1 เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 20:48:12

ความคิดเห็นที่ 14 คือจริงๆแล้ว เราค่อยๆพัฒนาแบบไม่ก้าวกระโดด มันอยู่รอดแน่ครับ แต่ดูสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้สิ .... ถ้าผู้บริหารเป็นอย่างนี้ ไม่รอดแน่นอน แต่ถ้าไอ้วีวีออกไป ได้คนที่เป็นมืออาชีพมาทำแทน ผมเชื่อว่าลีกไทยรอดครับ จากคุณ : หน่วยต่อสู้อากาศยาน เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 54 23:34:20

ความคิดเห็นที่ 15 เหอะๆๆ ช่องสยามกีฬาทีวี  ออกแต่ข่าวของเมืองทอง เทปรีรันก็เมืองทอง อะไรๆก็เมืองทอง แถมมีการเหน็บทีมคู่แข่ง ถามว่า  คุณอ้างว่า  มีลิขสิทธ์  จัดการผลประโยชน์ทั้งระบบ แต่คุณกลับใช้สื่อเสนอแต่ผลงานของตัวเอง  ทีมตัวเอง แสดงว่า  คุณไม่เป็นกลางนะ จากคุณ : นางสเตนเลส เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 00:39:23